Welcome to my blog
Group Blog
 
All Blogs
 
Myanmar

ประเทศพม่าเป็นประเทศบ้านเพื่อนบ้านและมีประวัติศาสตร์รวมกันมาอย่างยาวนาน ตอนเป็นเด็กสมัยที่เราเริ่มเรียนวิชาประวัติศาสตร์ในสมัยกรุงศรี และเราก็เริ่มรู้จักประเทศพม่า แต่ไม่ใช่ในฐานะประเทศเพื่อนบ้านแต่เป็นในฐานะศัตรูคู่กันมาแต่บรรพบุรุษ ในความคิดของผม คนไทยยังรู้จักประเทศพม่ากันน้อยมาก สำหรับผมประเทศพม่าน่าสนใจมากที่เดียวทั้งในเรื่องของธุรกิจการลงทุนและในเรื่องของวัฒนธรรม

เนื่องจากลูกค้าที่นี้เป็นลูกค้าที่เป็นตลาดหลักที่ผมดูแลอยู่ผมจึงเดินทางมาที่นี้แทบทุกเดือน เพราะว่าสามารถเดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับได้ การเดินทางไปพม่านั้นเราต้องยืนขอวีซ่าที่สถานฑุตที่พม่าที่ กรุงเทพก่อนซึ่งใช้เวลาปกติสองวัน และ ภายวันเดียวหากเรามีความจำเป็นต้องการเร่งด่วนโดยจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม สำหรับค่า วีซ่าปกติก็ 1,440 บาท ( Business Visa ) ผมไม่แน่ใจว่าวีซ่าท่องเที่ยวเท่าไรแต่ถูกว่าแบบธุรกิจแน่นอนหากต้องการแบบด่วน ( ยืนเช้ารับบ่าย ) ก็จ่ายเพิ่มอีก 660 บาท สำหรับเที่ยวบินของสายการบินไทยจะมีเที่ยวบินไปกลับพม่าวันละสองเที่ยวบินคือ ช่วงเช้า และช่วงเย็น เที่ยวบินที่ผมใช้ประจำก็คือไปเช้า 7.45 ถึงพม่า 9.00 ซึ่งเวลาพม่าจะช้ากว่าบ้านเราอยู่ครึ่ง ชม. และเที่ยวบินกลับก็คือ 19.40 ถึงบ้านเราก็ 21.00

ชีวิตความเป็นอยู่ชองชาวพม่าในความคิดของผมค่อนข้างที่จะถูดริดร่อนสิทธิจากรัฐบาล รั{บาลจะเป็นผู้ควบคุมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเราสินค้า ประเภทสินค้า การนำเข้า การส่งออก ล้วนถูกควบคุมโดยรัฐบาลทหาร สิ่งที่ผมแปลกใจที่สุดมีอยู่สองเรื่องคือ ก๊าซหุงต้ม ซึ่งในบ้านเราเป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกบ้านต้องมีเพื่อใช้ในการประกอบอาหาร หรือแม้กระทั้งในภาคการขนส่งและส่วนหนึ่งประเทศเราก็นำเข้ามาจากพม่านี่เอง แต่เชื่อไหมครับว่าทั้งที่พม่าเป็นผู้ส่งออกก๊าซหุงต้มให้เราแท้ ๆ แต่คนของเค้า ไม่สามารถใช้ก๊าซหุงต้มในชีวิตประจำวันได้ เพราะรัฐบาลที่นี้ไม่อนุญาติ .....
เรื่องที่สองคือราคารถยนต์ที่พม่า แพงมหาโหดเพราะว่ามาตาการซึ่งผมเรียกว่ามาต
ราการขูดรีดทางภาษี โดยกำหนดใว้คราว ๆ ดังนี้คือรถยนต์ตั้งแต่ปี 1985-1995 ราคาอยู่ที่ประมาณ 20,000-40,000 USD @ 35 = 700,000 - 1,400,000 บาท ปี 1996 - 2005 ราคาเฉลี่ยนประมาณ 50,000 - 70,000 USD @35 = 1,750,000 - 2,450,000 บาท ส่วนปี 2006 เป็นต้นมารัฐบาลยังไม่อนุญาติให้นำเข้า แต่ก้พอทีให้เห็นอยู่บางก็แสดงว่าคนเหล่านั้นไม่เป็นพวกพี่เบิ้มของพม่านั่นองครับ หากจะมองให้เห็นภาพก็คือ Toyota Hilux tiger แบบ 4 ประตูที่ลูกค้าผมใช้อยู่ราคาตก 2,000,000 บาท ( สองล้านบาท ) แล้วนี่เป็นรถเก่านะครับ
ไม่ใช่รถใหม่ ดังนั้นหากเรารถยนต์ที่ใช้วิ่งกันอยุ่ที่พม่าจึงเป็นรถที่เราไม่ค่อยจะคุ้นตาสักเท่าไร เพราะส่วนใหญ่เป็นรถตั้งแต่สมัยคุณปู่ ซึ่งเก่ามาก แต่ก็ต้องยอมรับช่างซ่อมที่พม่านี่ก้เก่งเหมือนกันสามารถทำให้ที่มีอายุใช้งานขนาดนั้น ยังวิ่งอยู่ได้ สิ่งหนึ่งที่ตามมาก็คือธุรกิจ Spare part ที่นี่จึงเป็นตลาดที่ใหญ่มาก..ทิวทัศน์รอบ ๆ ย่างกุ้งจะเต็มไปด้วยต้นไม้ จึงทำให้ร่มรื่นมากที่เดียว อีกอย่างหนึ่งคือที่ย่างกุ้งยังไม่มีอาคารสูงมากนัก สิ่งที่ผมเห็นจนชินตาในทุกครั้งที่เดินทางมายังทีนี่คือพระสงฆ์และเนร เนื่องจากที่ในย่างกุ้งจะมีวัดเยอะมาก เรียกว่าทุก 5 นาทีที่นั่งรถผ่านผมจะเจอหนึ่งวัด บางวัดก็มีลักษณะเป็นเหมือนห้องแถวเล็ก ๆ แต่ยืนยันได้ว่าเป็นวัดเนื่องจากจีวรของพระสงฆ์ตากอยู่นั่นเอง ในช่วงเช้า- สาย จึงมีพระสงฆ์เดินออกมา บิณบาตรอยู่หลายรูป (ท่าน ) ( คน ) เท่าที่ผมสังเกตคนที่นี่จะใส่บาตรโดยปัจจัย ( เงิน ) มากกว่าอาหาร ต่างจากบ้านเราที่เรียกว่าตักบาตรโดยเราจะใส่ข้าวและอาหารสำหรับพระสงฆ์มากกว่า...นอกจากพระสงฆ์ในระหว่างที่ผมกำลังสนทนากับลูกค้าผมอยู่ก็จะมีนักบวชเป็นผู้หญิงมีลักษณะคล้ายกับแม่ชีในบ้านเราแต่ที่นี่เค้านุ่งชุดออกสีชุมพู่ มายืนสวดมนต์อยู่หน้าบริษัท ผมได้ถามกับลูกค้าผม ได้ความว่าเค้ามาสวดอวยพรให้เรา ให้กิจการเจริญรุ่งเรื่อง ผมก็เห็นลูกน้องของลูกค้าผมเดินมาหยิบเงินแล้วก็เอาไปให้ จากนั้นนักบวชก็จะรีบเดินหายไปทันที...
ทุกครั้งที่ผมเดินทางมาที่พม่าผมไม่เคยออกไปทานอาหารข้างนอกออฟฟิคลูกค้าผมเลย จริง ๆ แล้วอยากจะไปบางเพราะจะได้ถือโอกาส เที่ยวไปในตัวด้วย แต่ด้วยความใจดี ของลูกค้าผมเค้าก็ลงมือทำอาหาร ซึ่งเป้นอาหารพม่าให้ผมทานกลางวัน

ทุกครั้ง แต่ก็ยอมรับว่าอาหารของเค้าอร่อยมาก เมนูหลัก ๆ ที่ผมได้ทานคือ ต้มไก่ ผัดเผ็ดกุ้ง ผัดผัก....รสชาติอาหารก็คล้ายอาหารภาคกลางบ้านเราคือจะออกหวาน ๆ รสจะไม่จัดมาก แต่ก็อร่อยทีเดียวสำหรับผม

สถานที่ท่องเที่ยวของพม่าถ้าเป็นที่ดัง ๆ หน่อยที่ย่างกุ้งก็คงเป็นวัดชวาดากอง ผมก็มีโอกาสได้ไปเที่ยวอยู่ครั้งหนึ่งเพราะว่าสามารถสรุปงานได้เร็วเวลาจึงเหลือเยอะ กว่าจะถึงว่าขึ้นเครื่อง ครั้งนั้นบังเอิญว่าลูกสาวของลูกค้าผมซึ่งเรียนอยู่ที่สิงคโปเดินทางกลับมายังพม่าพอดี เค้าเลยอาสาเป็นไกด์พาผมไปเที่ยวที่วัดชเวดากอง
นอกจากนั้นยังพาขับรถตะเวนไปยังสถานที่ต่าง ๆ เช่นบ้านของออง ซาน ซุจี ลานอิสนะภาพ ( สภานทีที่ชาวพม่าใช้ประกาสอิสระภาพจากการปกครองของอังกฤษ ) และที่สุดท้ายก็คือวัดชเวดากองนั้นเอง... บังเอิญว่าวันที่ผมไปที่วัดนั้นเป็นวันที่มีผนตก ทำให้บรรยากาศไม่ค่อยจะเป็นใจให้ท่องเที่ยวและถ่ายรูปสักเท่าไร วัดชเวดากองผมเคยได้ยินแต่ชื่อมานานมาก ๆ แล้ว วซึ่งเป้นวัดที่มีเจดีย์ที่สร้างจากทองคำที่ใหญ่มาก ในความคิดผมและเด็กไทยคนอื่น ๆ จะเข้าใจว่าทองคำที่ใช้ในการสร้างเจดีย์แห่งนี้ได้มาจากการปล้นมาจากกรุงศรีอยุธยานั่นเอง แต่ผมก็ลองถามคนพม่า เค้าบอกว่าทองคำเหล่านี้ได้มาจากการบริจาค ( Donate )
จากต่างประเทศเนื่องจากเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาในพม่า ผมก็ไม่แน่ใจว่าข้อมูลอันไหนจริงกันแน่...หากมีใครทราบก็ช่วยบอกผมด้วยเพื่อเก็บใว้เป็นความรู้




จุดที่ผมยืนถ่ายรูปด้านหลังจะเป็นเจดีย์ที่สร้างขึ้นโดยทางคำ ไม่ยังแอบคิดเล่น ๆ เลยว่าถ้าอยู่ที่เมืองเมืองไทยคงโดนแอบลอกทองไปขายกันบางล่ะ เพราะเคยได้ยินข่าวเกียวกับการลอกจากจากองค์พระพุทธรูปที่วัดในจังหวัดอยุธยา...เนื่องจากที่นี้เท่าที่ผมเห็นไม่ได้มีอะไรป้องกันเลย..สามารถแอบเข้าไปได้

จุดนี้เป็นบริเวณหลังเจดีย์ทองคำ เราเดินผ่านมาด้านหลังจะมีเจดีย์ที่ลักษณะที่เห็นอยู่รายรอบ และกว้างมาก ความรู้สึกผมเหมือนเดินอยู่บนสวรรค์ ( ไม่เคยไปหรอกนะครับ จินตการเอา ) คือบรรยากาศแบบว่าสวยมาก ประกอบกับฝนตก และพม่าก็ไม่มีตึกสูงและตัววัดแห่งนี้ก้ถูกสร้างให้ลอยขึ้นมาเหนือพื้นดิน ทำให้เราได้สัมผัสกับกลิ่นของเมฆฝน และเมื่อเราเดินไปในบริเวณนั้นรอบ ทุกแห่งจะคล้าย ๆ กันหมด จนผมเดินจนมาวนที่ทางเดิมโดยที่ไม่รู้ตัว...ผมใช้เวบาที่นี่ประมาณ 1 ชม. ยังเดินไม่ครบไม่รอบเลยครับ เพราะว่ายังมีอีกจุดหนึ่งวึ่งมองออกไปก๋ไกลพอสมควร แต่มีทางเดินเชือมถึงกันได้ แต่ผมมีงานค้างอยู่และที่นี่ก็ไม่สามารถใช้โทรศัพท์ได้เลยอยากกลับไปนั่งทำงานที่สนามบิน ซึ่งวัดแห่งนี้ก็ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินอยู่ราว ๆ ประมาณ 30 นาทีได้ หากใครสนใจจะมาเที่ยวก็มาแบบไปเช้าเย็นกลับได้ครับ แล้วอย่าลืมไปขอวีซ่าที่สถานฑูตเค้าซะก่อนนะครับ ส่วนค่าเครื่องบิน หากบินกับ TG ก็ประมาณ 7000-7500 บาทแล้วแต่ช่วงโปรโมชั่นด้วย ขอให้สนุกกับการเดินทางนะครับ..


Create Date : 17 มีนาคม 2553
Last Update : 17 มีนาคม 2553 12:21:09 น. 0 comments
Counter : 418 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

SHotprofile
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




รู้จักผมก่อน...

ใช่ครับผมเสื้อแดง หรือที่เค้าเรียกกันว่า พวกก่อการร้ายเผาบ้านเผาเมืองกันนั้นแหละ ผมเป็นคนดำเนินชีวิตที่เรียบง่ายไม่ชอบพิธีรีตรองมากผมเป็นคนที่ชอบให้ความสุขกับตัวเองเพราะว่าเป็นเรื่องที่ง่ายที่สุด แต่ต้องไม่ลืมว่าความสุขที่เราได้รับหรือให้กับตัวเองต้องไม่ไปกระทบกับความสุขของคนอื่นหรือไม่แย่งความสุขคนอื่นเค้ามา
Friends' blogs
[Add SHotprofile's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.