WishRich
Group Blog
 
All Blogs
 

วิธีแก้ริมฝีปากดำ ให้กลับมีสีชมพู




ใครที่รู้ตัวว่ามีริมฝีปากดำ
แล้วอยากให้กลายเป็นสีชมพู วันนี้เกร็ดความรู้มีวิธีแก้มาฝากกัน...


ก่อน
ที่จะทำให้ริมฝีปากมีสีชมพู ต้องแก้ที่ต้นเหตุที่ทำให้ริมฝีปากดำ


สาเหตุ
ที่ทำให้ริมฝีปากดำเกิดได้จาก


         
1.
การสูบบุหรี่

         
2.
ใช้ลิปสติกที่ไม่ได้มาตรฐาน
ซึ่งริมฝีปากดำมักเกิดกับคนที่ใช้ลิปสติกราคาถูก หรือลิปสติกประเภทติดทนนาน


วิธีการแก้ไขปัญหาริมฝีปากดำ ก่อนอื่นคือหลีกเลี่ยงปัจจัยข้างต้น
และใช้โลชั่นบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของ
AHA หรือไวท์
เทนนิ่ง นวดคลึงริมฝีปากเป็นประจำทุกวัน เช้า-เย็น


ไม่แนะนำให้ใช้วิธี
การสัก
เพราะอาจทำให้เห็นผลทันทีว่าริมฝีปากเป็นสี
ชมพู แต่ผลข้างเคียงในระยะยาวยังไม่มีใครทราบได้ เลือกใช้วิธีที่ประหยัด
และปลอดภัยจะดีกว่า


ลอง
นำวิธีที่แนะนำไปปฏิบัติกันดูนะคะ








 

Create Date : 17 เมษายน 2553    
Last Update : 17 เมษายน 2553 18:18:11 น.
Counter : 520 Pageviews.  

7 วิธีรับมือความเครียด



ภาพและเสียงเหตุการณ์ความรุนแรง
จากสถานการณ์ทางการเมืองที่กำลังตึงเครียด
ประชาชนและผู้บริโภคข่าวสารทั้งโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์
หรือเว็บไซต์รู้สึกอินไปกับข่าวนั้นๆ จนเกิดความโกรธและความเครียดตามมาได้




แนวทางปฏิบัติ 7
ประการที่สามารถนำไปใช้เพื่อระงับความเครียด ดังนี้




1. ให้นึกเสมอว่าเรื่องของการเมืองย่อมมีความคิดเห็นแตกต่างกันได้
แต่ไม่จำเป็นต้องแตกแยกและเชื่อว่าทุกปัญหาต้องมีทางออก




2. ควรดูข่าวการเมือง
เพื่อให้รู้ความเป็นไปของสถานการณ์เพื่อความเข้าใจและการเตรียมความพร้อมที่
เหมาะสม โดยไม่ต้องเก็บมาใส่ใจ และมีอารมณ์ร่วมแบบโอเวอร์มากจนเกินไป




3. เตือนตนเองว่า คนเราในโลกนี้แตกต่างกัน
ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ แม้แต่ตัวเราเองก็มีข้อบกพร่อง
จะช่วยทำให้เข้าใจถึงสัจธรรมของโลก ทำให้โกรธยากขึ้น ให้อภัยได้ง่ายขึ้น




4. คอยเตือนตนเองว่าความโกรธและความเครียดคือการเผาตัวเอง
ทำลายสุขภาพตัวเอง
พยายามสังเกตอารมณ์ตัวเองให้รู้เท่าทันว่ากำลังเครียดหรือกำลังโกรธ
โดยเฉพาะผู้ที่เข้าร่วมชุมนุมซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดความโกรธได้ง่าย




5. ฝึกชะลออารมณ์โกรธและสลายความเครียด
โดยการเบี่ยงเบนความสนใจ ด้วยการนับ 1-0 หายใจเข้า-ออก ลึกๆ ช้าๆ
พยายามผ่อนคลายกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ทั่วร่างกาย




6. หลีกเลี่ยงสถานที่หรือสถานการณ์ที่ยั่วยุให้เกิดอารมณ์
โกรธ เพราะถ้าหากยังอยู่ในสถานที่นั่นอาจจะทำให้ความโกรธถึงจุดเดือด
และปัญหาความเครียดก็จะตามมาได้




7. ฝึกให้อภัยและปล่อยวาง
นอกจากนั้นทุกคนต้องดูแลสุขภาพกายของตนเองให้ดี
ด้วยการับประทานอาหารและพักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอเพราะคนที่หิวหรือนอนหลับ
พักผ่อนไม่เพียงพอ ก็จะเกิดอารมณ์โกรธ โมโห ใช้ความรุนแรงได้ง่าย
ถ้าแก้ปัญหาด้วยตนเองแล้วยังไม่ได้ผล
ควรขอคำปรึกษาจากคนใกล้ชิดที่มีประสบการณ์ไว้ใจได้




ในบางครั้งถ้า
ปัญหารุนแรงมาก
อาจจำเป็นต้องปรึกษานักจิตวิทยาคลินิกหรือจิตแพทย์ซึ่งจะสามารถให้ความช่วย
เหลือได้ เรื่องของการเมืองย่อมมีความคิดเห็นแตกต่างกันได้
แต่ก็ต้องเชื่อว่าทุกอย่างมีทางออก




สิ่งที่ควรระวังมากที่สุดคือความเครียดจะ
ไปบันดาลโทสะ ทำให้เกิดความรุนแรง
ทุกคนจำเป็นต้องตั้งสติ
ระงับอารมณ์โกรธให้ได้ ขณะเดียวกันก็ควรต้องเอาใจใส่คนรอบข้าง
รวมทั้งเด็กด้วย เช่น การรับชมข่าวสารเหตุการณ์ การดูภาพความรุนแรงๆ ซ้ำๆ
ทั้งภาพและเสียงผ่านสื่อ มีผลกระทบต่อสภาพจิตใจของผู้ชมอย่างแน่นอน




ทุก
ฝ่ายจึงควรให้ความระมัดระวังในเรื่องนี้ ขอให้ทุกคนตั้งสติ เอาใจใส่กัน
ช่วยเหลือกัน
เพื่อให้สังคมไทยสามารถผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้ด้วยความราบรื่นหรือสูญเสียน้อย
ที่สุด เพื่อรักษาสังคมที่ดี ไว้ให้แก่ลูกหลานไทยของเรา





v




 

Create Date : 17 เมษายน 2553    
Last Update : 17 เมษายน 2553 18:16:04 น.
Counter : 349 Pageviews.  

ปัญหาจากรองเท้าคู่ใจ

//uppic.happymass.com/upload/bfaea7dbede3b64dbf8290f4a0e9b4c0.jpg


ลักษณะของรองเท้าคู่ใจที่คุณเลือกใส่
ในชีวิตประจำวันอาจเป็นสาเหตุของภาวะผิดปกติของเท้าได้
ลองสังเกตอาการเบื้องต้นเหล่านี้ดูนะคะ




  • อาการปวดน่องหรือเป็นตะคริว
    อาจมีสาเหตุจากการเดินบ่อยๆ หรืออยู่ในท่าเขย่ง
    จากการสวมรองเท้าส้นสูงเป็นเวลานาน ทำให้กล้ามเนื้อน่อง เอ็นร้อยหวาย(
    Achilles tendon ) ตึงตัว


  • อาการปวดตึงหลังส่วนล่าง
    เป็นผลจากการใส่รองเท้าส้นสูง ที่ทำให้น้ำหนักของร่างกายเทไปข้างหน้า
    ร่างกายจึงต้องปรับให้ลำตัวแอ่นไปด้านหลัง
    เพื่อให้ร่างกายตั้งตรงและทรงตัวได้


  • ภาวะเท้าโก่งหรือหลังเท้านูน
    มีผลการสำรวจพบว่า การใส่รองเท้าส้นสูง ซึ่งเท้าต้องเขย่งเป็นเวลานาน
    ส่งผลให้เท้าโก่งจากการดึงรั้งของพังฝืดใต้ฝ่าเท้า(Plantar Fascia)


  • ภาวะเท้าแบน
    ตามทฤษฎีธรรมชาติกับความเจริญในเมือง (Nature VS Civilization Theory)
    ของนายแพทย์ฟิลลิป วาสิลี แพทย์เฉพาะทางด้านเท้า ชาวออสเตรเลีย
    ได้อธิบายไว้ว่า
    เป็นการเปลี่ยนแปลงของเท้าให้บิดเข้าด้านในและอุ้งเท้าแบนลง
    เมื่อต้องสัมผัสกับพื้นรองเท้าที่แข็งแบน
    ซึ่งส่งผลให้มีคนทั่วโลกกว่าร้อยละ 70 เกิดภาวะนี้
    โดยสังเกตจากอาการปวดเข่า เกิดปุ่มโปนข้างหัวแม่เท้า และปัญหารองช้ำ
    (Plantar fasciitis) หรืออาการปวดบริเวณอุ้งเท้าจนถึงส้นเท้า
    โดยเฉพาะก้าวแรกหลังจากตื่นนอนตอนเช้า หรือนั่งนาน ๆ แล้วลุกขึ้นยืน




เทคนิคดูแลเท้า



  • ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า
    รองเท้าที่ดีควรสูงไม่เกิน 1 นิ้ว
    และลักษณะส้นไม่ควรเป็นส้นเข็มหรือเล็กเกินไปเพราะนอกจากจะทำให้การทรงตัว
    เสียสมดุลแล้วยังทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายอีกด้วย


  • ควรเลือกรองเท้าที่
    ยาวกว่าเท้าประมาณ 1 เซนติเมตร และไม่บีบนิ้วเท้าเกินไป
    เพราะโดยปกติขณะเราเดิน เท้าจะเคลื่อนไปด้านหน้าประมาณ 7 มิลลิเมตร
    ดังนั้นคนที่ใส่รองเท้าพอดีเกินไปจึงเกิดปัญหากับเล็บและนิ้วเท้าเป็นเหตุ
    ให้เล็บเสีย นิ้วเท้างุ้มงอ และเบียดกันได้


  • เลือกรองเท้าที่มีพื้น
    สัมผัสนุ่ม หรือเสริมพื้นรองเท้าเพื่อช่วยลดแรงกระแทก
    เสริมแผ่นรองส้นหรือกันส้นเพื่อลดการเสียดสี
    ป้องกันผิวหนังด้านและเกิดตาปลา


  • ควรเลือกซื้อรองเท้า
    ช่วงบ่ายซึ่งเป็นช่วงที่เท้าขยายเต็มที่และควรลองสวมรองเท้าทั้งสองข้าง


  • รองเท้าที่ดีต้องกระชับ
    ไม่คับหรือหลวมเกินไป
    ส้นเท้าอาจเลื่อนขึ้นลงได้เล็กน้อยขณะเดินแต่ไม่ควรหลุดจากเท้า
    และเปลี่ยนความเชื่อที่ว่ารองเท้าคับจะยืดออกเมื่อใช้ไปสักพักเพราะกว่า
    รองเท้าจะยืดออกเท้าของคุณอาจบาดเจ็บก่อนได้


  • เมื่อมีอาการเจ็บหรือ
    ปวด ควรรีบหาสาเหตุ เพราะบางครั้งรองเท้าอาจหมดสภาพ
    หรือไม่เหมาะสมกับโครงสร้างเท้า และคุณอาจผ่อนคลายเท้าโดยการแช่น้ำอุ่น
    ร่วมกับการบริหารกล้ามเนื้อขาและเท้าอย่างง่าย โดยกระดกปลายเท้าขึ้นให้สุด
    จนรู้สึกตึงที่น่อง ค้างไว้ 10 วินาที  ทำซ้ำ10 ครั้ง
    จะช่วยลดอาการปวดเมื่อยเท้าได้







 

Create Date : 17 เมษายน 2553    
Last Update : 17 เมษายน 2553 18:11:57 น.
Counter : 321 Pageviews.  

วาซาบิช่วยป้องกันฟันผุ

//uppic.happymass.com/upload/6a77fde1fe1301df50a955ef5500b776.jpg

หลายคนคงจะเคยลองลิ้มชิมรสกับอาหาร
ญี่ปุ่นกันบ้างแล้ว และหลายคนก็คงจะได้ลองสัมผัสกับความฉุนของเจ้า "วาซาบิ"
ที่ถือว่าเป็นเครื่องปรุงอย่างหนึ่งของอาหารญี่ปุ่นกันแล้ว
บางคนอาจจะหลงใหลในรสฉุนดังกล่าว บางคนอาจจะร้องยี้ แต่รู้หรือไม่คะว่า
ใน
วาซาบิที่คุณเขี่ยให้ห่างเวลาทานอาหารญี่ปุ่นนั้น มีประโยชน์มากมาย
ที่นอกจากจะช่วยทำให้โล่งจมูกและอาจช่วยป้องกันโรคมะเร็งแล้ว
ยังอาจจะช่วยป้องกันฟันผุได้ด้วย

นาย
ฮิเดกิ มาซูดะ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของบริษัท โอกาวะ ผู้ผลิตเครื่องปรุงรส
ของญี่ปุ่น
กล่าวว่า สาร
ประกอบทางเคมีในวาซาบิ นอกจากทำให้วาซาบิ มีรสชาด และกลิ่นรุนแรงแล้ว
ยังสามารถยับยั้งการเจริญเติบโต ของเชื้อจุลินทรีย์ ที่เป็น
ต้นเหตุของฟันผุ
โดยวาซาบิประกอบด้วย ไอโซทิโอไซยาเนตส์
ซึ่งนักวิจัยพบว่า สามารถยับยั้งการผลิตเอนไซม์ ที่มีส่วนสำคัญ
ในการก่อตัวของหินปูน ก่อนหน้านี้

วาซาบิ
เคยมีชื่อเสียงในเรื่องของการป้องกันเลือดจับตัวเป็นก้อน ลดความเสี่ยง
ต่อการเป็นมะเร็ง และป้องกันโรคหอบหืด




 

Create Date : 17 เมษายน 2553    
Last Update : 17 เมษายน 2553 18:08:43 น.
Counter : 343 Pageviews.  

สูตรลดน้ำหนักจากทั่วโลก

//uppic.happymass.com/upload/1d1c5c21d53dad51aa40b4eebefb2348.jpg


เริ่ม
เข้าหน้าร้อน สาวๆ หลายคนคงกำลังวางแผน ไดเอต ด้วยการอดอาหารตั้งแต่ตอนนี้
เพราะจะได้ใส่ชุดบิกินี อวดหุ่นสวยกลางชายหาดได้อย่างมั่นใจ
แต่รับรองได้ไม่เกินสองสัปดาห์คุณจะรู้สึกหดหู่ หิวโหย
และจะกระโจนเข้ากินอาหารทุกอย่างที่ขวางหน้าในปริมาณที่มากกว่าเดิมอีก
ลองมาปฏิวัติชีวิตการกินอยู่ ด้วยสูตรลดน้ำหนักจากทั่วโลกนี้ดูจะได้ผลกว่า



ฝรั่งเศส
เคย
สงสัยไหมว่า ทำไมผู้หญิงฝรั่งเศสไม่อ้วน
นั่นเป็นเพราะพวกเธอกินอาหารวันละสามมื้อ จากงานวิจัยศึกษาพบว่า
คนที่กินมื้อเช้าจะผอมกว่าคนที่งดมื้อเช้า
อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้สาวฝรั่งเศสมักจะผอม ก็คือ
มีการเคลื่อนไหวร่างกายมากกว่า อย่างเช่นการเดิน
ไม่ใช่ใช้เวลาออกกำลังในห้องยิมมากกว่าดร.วิลล์ โคลเวอร์ ผู้เขียน
‘ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับไขมัน :
เคล็ดลับอาหารฝรั่งเศสสู่การลดน้ำหนักอย่างถาวร (The Fat Fallacy : The
French Diet Secrets to Permanet Weight Loss)’ ได้อธิบายไว้ว่า
การกินและดื่มไม่ใช่สิ่งที่ควรจะทำ ขณะที่คุณกำลังทำอย่างอื่นอยู่
เพราะขณะที่คุณจดจ่อกับงาน หรือโทรทัศน์
คุณมักจะกินมากเกินโดยไม่รู้ตัวและเสิร์ฟอาหารปริมาณน้อย
แต่อุดมด้วยคุณภาพของอาหารในแต่ละจาน




มาเลเซีย
ใส่ขมิ้นลงในอาหาร
โดยเครื่องเทศชนิดนี้เป็นส่วนประกอบสำคัญของแกงกะหรี่
พบได้ในป่าแถบมาเลเซีย สารสำคัญในขมิ้นคือเคอร์คูมิน จะช่วยสลายไขมันได้ดี
การศึกษาล่าสุดของมหาวิทยาลัยทัพต์รายงานว่า
สารชนิดนี้มีฤทธิ์ยับยั้งการเติบโตของเนื้อเยื่อ และเพิ่มการเผาผลาญไขมัน



ญี่ปุ่น
การกินซุปหรือน้ำแกงโดยเฉพาะที่ทำจาก
ผักก่อนอาหารจานหลัก จะทำให้อิ่มท้องได้ส่วนหนึ่ง และจะกินอาหารน้อยลง
อาหารของคนญี่ปุ่นแต่ละมื้อจะพยายามให้มีครบทั้งห้าสี   คือ แดง ฟ้าอมเขียว
เหลือง ขาว และดำ    โดยมีส่วนประกอบอย่างพริกใหญ่สีแดง บวบ    บร็อกโคลี
หอมหัวใหญ่ ถั่วดำ หรือมะกอกดำ



แอฟริกาใต้
ดื่มชาแดงหรือรอยบอส
ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมมากในแอฟริกาใต้
รสชาติจะเข้มข้นกว่าชาเขียว มีความหวานในตัวตามธรรมชาติ
ทำให้ไม่ต้องเติมน้ำตาล



1. ปรุงอาหารจานพิเศษของคุณ
ด้วยการใส่เห็ดชนิดต่างๆ ลงไป เช่น เห็ดนางรมหรือเห็ดเครมินี
(เห็ดสีน้ำตาล) จะทำให้ช่วยอิ่มท้องโดยไม่เพิ่มแคลอรี

2.  พาสต้า คลุกกับกุ้ง ผัก
และน้ำมันมะกอก จะทำให้คุณอิ่มได้โดยไม่เพิ่มแคลอรีด้วยเช่นกัน
เพราะปริมาณเส้นใยอาหารที่มากพอ ไขมันในปริมาณพอดี   มีโปรตีนต่ำ








 

Create Date : 17 เมษายน 2553    
Last Update : 17 เมษายน 2553 18:05:00 น.
Counter : 333 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  

WishRich
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




มาเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองไปพร้อม ๆ กัน เพื่อความสำเร็จในชีวิตและหน้าที่การงานครับ
Friends' blogs
[Add WishRich's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.