WishRich
Group Blog
 
All Blogs
 

เรื่องที่ 7 : การรับประทานโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตในมื้อที่ต่างกันจะช่วยให้ท่านลดน้ำหนัก ได้

เรื่องที่ 7 :
การรับประทานโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตในมื้อที่ต่างกันจะช่วยให้ท่านลดน้ำหนัก
ได้

    ทฤษฎีกล่าวอ้าง :
ทั้งโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตต่างต้องการเอนไซม์สำหรับการย่อยที่แตกต่างกัน
หากท่านรับประทานอาหารทั้งสองชนิดนี้แยกกัน
จะเป็นการพัฒนาระบบการย่อยอาหารและจะช่วยให้ลดน้ำหนักได้ในอนาคต
     ข้อ
เท็จจริง :

ระบบการย่อยอาหารของท่านสามารถย่อยอาหารที่มีความหลากหลายได้ในเวลาเดียว
กัน 
แต่ไม่ปรากฏการพิสูจน์ว่าการรับประทานโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตแยกกันจะช่วยใน
เรื่องของการย่อยอาหารหรือช่วยให้น้ำหนักลดลงได้ Christopher  Gardner
นักโภชนาการกล่าว ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว
จะเป็นการดีที่เรารับประทานโปรตีนกับคาร์โบไฮเดรตที่มีกากใย
มากกว่าที่จะแยกกันรับประทาน “การซ่อมแซมส่วนสึกหรอ ของสารโปรตีน 
และกากใยจะช่วยให้ท่านรู้สึกอิ่มมากที่สุดและให้พลังงานมากที่สุด Elisa
Zied ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการและโฆษกแห่งสมาคมการควบคุมน้ำหนักแห่งอเมริกา
ได้กล่าวเอาไว้อีกทั้งยังเสริมว่า
“แอปเปิลเป็นผลไม้ที่ดีแต่หากรับประทานร่วมกับเนยถั่วจะเป็นการดียิ่งขึ้น
ยังมีอาหารที่ดีสำหรับท่านอีกจำนวนหนึ่ง ได้แก่ ผลไม้แห้งเปลือกแข็ง
เมล็ดธัญพืช และพืชตระกูลถั่ว ซึ่งจะให้ทั้งโปรตีนและคาร์โบไฮเดรต”
สำหรับคนที่กล่าวว่า เราควรจะรับประทานโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตแยกกันนั้น
ข้าพเจ้าก็สงสัยว่า แล้วพระเจ้าจะสร้างถั่วขึ้นมาทำไมเล่า”
     ข้อ
แนะนำที่ดีที่สุด :
ในการรับประทานโปรตีนร่วมกับคาร์โบไฮเดรตนั้น
เราควรจะระมัดระวัง การเลือกโปรตีนส่วนที่ดีที่สุดกล่าวคือ
เลือกเนื้อไม่ติดมัน เนื้อสัตว์ปีก ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมซึ่งมีไขมันต่ำ
และเต้าหู้ เนื่องจากมีไขมันอิ่มตัวน้อย
และคาร์โบไฮเดรตที่ดีที่สุดจะพบในธัญพืชที่ผ่านการขัดสีน้อย,
ผลไม้และพืชผักต่าง ๆ ซึ่งจะให้ประโยชน์ด้านสุขภาพมากกว่าข้าวขัดสี
“อาหารเหล่านี้จะใช้เวลาในการดูดซึมนาน ดังนั้น
จึงส่งผ่านไปหล่อเลี้ยงร่างกายอย่างช้า ๆ และเป็นแหล่งสะสมพลังงานที่ดี” 
Hope Berkoukis ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านโภชนาการแห่งมหาวิทยาลัย Case
Western Reserve University ในเมือง Cleveland กล่าว





















 

Create Date : 29 มิถุนายน 2553    
Last Update : 29 มิถุนายน 2553 17:39:12 น.
Counter : 348 Pageviews.  

เรื่องที่ 6 : การควบคุมอาหารคือวิธีที่ดีที่สุดในการลดน้ำหนัก

เรื่องที่ 6 : การควบคุมอาหารคือวิธีที่ดีที่สุดในการลดน้ำหนัก
 
   ทฤษฎีกล่าวอ้าง :
กำหนดแผนที่เป็นการชั่วคราวจะเป็นวิธีการลดน้ำหนักที่ชาญฉลาดที่สุด
   
 ข้อเท็จจริง : ในช่วงระยะเวลาอันสั้นนั้น
ท่านมีวิธีการลดน้ำหนักหลากหลายวิธี
นั่นหมายถึงว่าท่านรับประทานอาหารที่มีแคลอรีน้อยลง
แต่มันไม่ใช่วิธีการลดน้ำหนักในระยะยาว
“การควบคุมอาหารไม่ได้ผลหากท่านหยุดทำ” Christopher  Gardner
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านโภชนาการศาสตร์แห่ง Stanford University School of
Medicine กล่าวอีกว่า “ถ้าท่านมีวิธีรับประทานที่ใหม่ ๆ
ข้าพเจ้าก็จะกระทำตามนั้นตลอดไป ถ้ามันช่วยในการลดน้ำหนักได้”
และควรกระทำอย่างต่อเนื่อง
     ข้อแนะนำที่ดีที่สุด :
ไม่ควรลดน้ำหนักด้วยการควบคุมอาหาร โดยเฉพาะในช่วงปีใหม่
และก่อนเข้าสู่ฤดูการอาบแดด (เพราะต้องหาซื้อชุดอาบแดด)
ในทางตรงกันข้ามควรเปลี่ยนรูปแบบการรับประทานจะดีกว่า
ควรวางแผนการรับประทานที่เหมาะสมกับตนเอง
ซึ่งจะทำให่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าวได้ในระยะเวลานาน
และให้แน่ใจว่าท่านรับประทานอาหารที่มีปริมาณแคลอรีที่จะทำให้น้ำหนักลดลง
จากนั้นเมื่อน้ำหนักของท่านลดลงได้ระดับหนึ่ง
ไม่ควรกลับไปรับประทานอย่างเช่นที่เคยกระทำมา
“ให้รักษาน้ำหนักในระดับที่เบากว่าน้ำหนักเดิมเอาไว้”
นอกจากนี้
การควบคุมอาหารเพียงอย่างเดียวจะไม่ได้ผลดีเท่ากับการควบคุมอาหารที่ควบคู่
ไปกับการออกกำลังกาย กล่าวคือ ควรจะออกกำลังกายบ้างเล็กน้อยหรือมากขึ้นด้วย
นับแต่ปี 1994
ของสถาบันการควบคุมน้ำหนักแห่งชาติได้ติดตามและวิเคราะห์ถึงพฤติกรรมของผู้
ที่ประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนัก โดยพบว่า บุคคลเหล่านั้น
ลดน้ำหนักด้วยการออกกำลังกายพร้อมกันไป ด้วยการเดินเร็ว หรือทำกิจกรรมอื่น ๆ
พอสมควร เฉลี่ยแล้ว 1 ชั่วโมงต่อวัน
“หนึ่งในข้อสังเกตที่สำคัญที่สุดของการรักษาระดับน้ำหนัก นั่นคือ
การให้ร่างกายได้มีการกระทำกิจกรรมต่าง ๆ นั่นเอง Dr. Rena Wing
ผู้ร่วมก่อตั้งและศาสตราจารย์ด้านจิตเวชศาสตร์และพฤติกรรมศาสตร์ แห่ง The
Warren Alpert Medical School  ณ มหาวิทยาลัย Brown กล่าว




 

Create Date : 29 มิถุนายน 2553    
Last Update : 29 มิถุนายน 2553 17:37:11 น.
Counter : 356 Pageviews.  

เรื่องที่ 5 : นมสามารถช่วยให้ท่านลดน้ำหนักได้

เรื่องที่ 5 : นมสามารถช่วยให้ท่านลดน้ำหนักได้
     ทฤษฎี
กล่าวอ้าง :

แคลเซียมช่วยให้ร่างกายสลายไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
อีกทั้งช่วยกระตุ้นให้น้ำหนักลดลง
     ข้อเท็จจริง :
ผลิตภัณฑ์จากนมไม่ปรากฏคุณลักษณะที่น่าประหลาดใจมากมายตามที่เข้าใจ
มีงานวิจัยอยู่ 2 – 3 ผลงาน ที่สรุปว่า
คนที่กำลังควบคุมน้ำหนักที่บริโภคผลิตภัณฑ์จากนมจะลดน้ำหนักได้มากกว่าคนที่
อยู่ในช่วงลดน้ำหนักหากแต่ไม่ได้บริโภคผลิตภัณฑ์จากนม 
และมีบางผลงานวิจัยที่แสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคนมในปริมาณสูงและ
การรับแคลอรีเพิ่มขึ้นอีกด้วย
     ข้อแนะนำที่ดีที่สุด : ให้
บริโภคผลิตภัณฑ์นมต่อไป แต่ให้เลือกชนิดไขมันต่ำ
ซึ่งจะให้ทั้งแคลอรีและไขมันอิ่มตัวที่ให้โทษแก่ร่างกายในปริมาณที่ต่ำด้วย
โดย
ทั่วไปแล้วผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมอุดมไปด้วยแคลเซียมแต่ปริมาณแคลเซียมเท่าใด
กันที่ท่านต้องการแต่ละวัน 
รัฐบาลได้กำหนดเอาไว้ว่าผู้ใหญ่ที่มีอายุต่ำกว่า 50 ปี
ต้องการแคลเซียมอย่างน้อย 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน (ประมาณ 3 แก้ว)
และผู้ใหญ่ที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป ควรได้รับแคลเซียม 1,200 มิลลิกรัม
อย่างไรก็ตาม Harvard School of Public Health
อ้างว่าไม่มีผู้ใดรู้ปริมาณที่แน่นอนและปลอดภัยของแคลเซียมที่ผู้ใหญ่ควรรับ
หากท่านไม่ชอบบริโภคผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม
ท่านสามารถอาจรับสารแคลเซียมจากนมถั่วเหลือง น้ำส้ม ผักใบเขียว เช่น
ผักคะน้า ผักคอลลาร์ด (ผักในตระกูลครูซิเฟอร์ส แบบเดียวกับผักคะน้า)
และอาหารจำพวกปลา เช่น แซลมอนกระป๋องก็ได้




 

Create Date : 29 มิถุนายน 2553    
Last Update : 29 มิถุนายน 2553 17:35:03 น.
Counter : 367 Pageviews.  

เรื่องที่ 4 : กาแฟช่วยลดน้ำหนักได้

เรื่องที่ 4 : กาแฟช่วยลดน้ำหนักได้
     ทฤษฎี
กล่าวอ้าง :

สารคาเฟอีนในกาแฟจะช่วยยับยั้งความรู้สึกอยากอาหารและช่วยเร่งกระบวนการเมตา
บอลิซึมในร่างกาย
     ข้อเท็จจริง :
กาแฟอาจจะช่วยระงับความหิวได้ชั่วคราว
การดื่มกาแฟหนึ่งถ้วยต่อวันยังไม่สามารถช่วยให้ได้รับผลดังกล่าวพอที่จะช่วย
ลดน้ำหนักได้ นอกจากนี้
การนำปริมาณกาแฟเข้าสู่ระบบในร่างกายของท่านมากเกินไป จำนวน 4 ถึง 7
ถ้วยต่อวัน อาจนำไปสู่อาการกระวนกระวาย นอนไม่หลับ
และเพิ่มระดับการเต้นของหัวใจและแรงดันโลหิตอีกด้วย
     ข้อแนะ
นำที่ดีที่สุด :

ให้ดื่มกาแฟเพียงถ้วยสองถ้วยต่อวันเป็นประจำทุกวัน หากท่านโปรดปรานเช่นนั้น
แต่ถ้าท่านได้เติมอะไรลงไปในกาแฟ เช่น ครีม น้ำตาล หรือผงมะพร้าว
นั่นหมายถึงท่านกำลังได้รับปริมาณแคลอรี่ส์จากสิ่งเหล่านั้นด้วย
ยกตัวอย่างเช่น การแฟสตาร์บัค รสมอคคา ขนาด 16 ออนซ์
จะให้ปริมาณแคลอรี่ส์มากถึง 330 แคลอรี่ส์ (60 แคลอรี่ส์จากแท่งชอคโกแลต)
ปริมาณแคลอรี่ส์เหล่านี้ไม่ได้ช่วยให้ท่านรู้สึกอิ่มได้เท่ากับปริมาณแค
ลอรี่ส์ที่ท่านรับประทานเข้าไปในรูปของแข็ง
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟ :

การนอนหลับไม่เต็มอิ่มนั้นได้มีหลักฐานที่เปิดเผยถึงความสัมพันธ์กับการควบ
คุมน้ำหนัก โดย ดร. Liz  Applegate,
ผู้อำนวยการของศูนย์โภชนาการการกีฬาแห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอเนีย ดาวีส 
กล่าวว่า “ทุกครั้งที่ผู้คนรู้สึกเหนื่อย
พวกเขามักจะนึกถึงการได้ดื่มกาแฟลาเต้
พวกเขาก็จะติดสารคาเฟอีนในปริมาณที่สูง และใช้เวลาร่วม 4 ถึง 6
ชั่วโมงในการกำจัดสารเหล่านี้ออกไปจากระบบร่างกาย 
นอนหลับได้ไม่ดีและทำให้รู้สึกเหนื่อยในวันถัดมา” และอาจหิวมากขึ้นด้วย 
อย่างน้อยที่สุดผลงานศึกษาสองผลลงานได้ชี้ว่าคนนอนหลับไม่เต็มอิ่ม
ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่ชื่อ Ghrelin
ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำให้รู้สึกหิว ออกมามาก และหลั่งฮอร์โมน Leptin
น้องลงซึ่งฮอร์โมน Leptin นี้ Leptin
เป็นฮอร์โมนที่ถูกสร้างจากเซลล์ที่เก็บสะสมไขมันในร่างกาย โดย Leptin
จะไปยับยั้ง NPY ในสมองส่วนไฮโปธาลามัสทำให้เกิดความรู้สึกอิ่มขึ้น




 

Create Date : 29 มิถุนายน 2553    
Last Update : 29 มิถุนายน 2553 17:32:43 น.
Counter : 341 Pageviews.  

เรื่องที่ 3 : พาสต้าทำให้ท่านอ้วนได้

เรื่องที่ 3 : พาสต้าทำให้ท่านอ้วนได้
     ทฤษฎี
กล่าวอ้าง :
เมื่อท่านรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรต
ร่างกายของท่านก็จะแปรสภาพคาร์โบไฮเดรตไปเป็นน้ำตาล
จากนั้นจะเก็บสะสมในรูปของไขมัน
     ข้อเท็จจริง :
คาร์โบไฮเดรตนั้นโดยตัวของมันเองแล้วไม่ได้ทำให้ท่านอ้วน
แคลอรี่ส์ต่างหากที่เป็นต้นเหตุสำคัญ
ไม่ว่าท่านจะรับประทานมันในรูปของคาร์โบไฮเดรต ไขมัน หรือโปรตีนก็ตาม 
นอกจากคาร์โบไฮเดรตยังรวมไปถึง ผักและผลไม้ 
กับบรรดาธัญพืชที่ผ่านการขัดสีน้อยซึ่งเป็นส่วนที่ความสำคัญต่อการควบ
คุมน้ำหนักอย่างใส่ใจสุขภาพ  สรุปแล้วปัญหามิใช่ที่พาสต้า
แต่ขึ้นอยู่กับปริมาณที่รับประทาน
“ชาวอเมริกันมีแนวโน้มที่จะรับประทานคาร์โบไฮเดรต ไขมัน และโปรตีนมากไป
แต่พบว่าพวกเขารับประทานคาร์โบไฮเดรตมากที่สุดในบรรดาที่กล่าวมา” 
ดร.Babara Moore, นักโภชนาการใน Clyde Park รัฐมอนทานาและโฆษกประจำองค์กร
American Society for Nutrition  กล่าว
“ท่านไปรับประทานอาหารที่ภัตตาคารและรับประทานพาสต้า 3 ถ้วยกับซอสจำนวนมาก”
นั่นหมายถึงพาสต้าเหล่านั้นสามารถเพิ่มพลังงานแคลอรี่ส์ให้ท่านได้ถึง 600
แคลอรี่ส์
     ข้อแนะนำที่ดีที่สุด :
ควรรับประทานพาสต้าที่พอประมาณ
นักโภชนาการแนะนำให้รับประทานเส้นพาสต้าที่ไม่ได้ปรุง 2 หรือ 3
ออนซ์ต่อบุคคล หรือครึ่งปอนด์ต่อครอบครัวที่มีสี่คน
จำนวนนี้อาจจะดูว่าเป็นปริมาณที่ไม่เพียงพอ  แต่ลองคิดดูว่า
“พาสต้ามีส่วนผสมเครื่องปรุงด้วย”  Mark Bittman, ผู้ประพันธ์หนังสือชื่อ
“How to Cook Everything Vegetian” กล่าว และกล่าวอีกว่า
“เริ่มด้วยการเอาผักไปย่างหรือผัดเร็ว ๆ อาจเป็นซอสมะเขือเทศ
จากนั้นใส่พาสต้าเล็กน้อย” หากท่านต้องการโปรตีนให้เพิ่มถั่ว
เนื้อไก่หรือสัตว์น้ำจำพวก หอย กุ้ง ปู
(สำหรับพาสต้ารสอร่อยให้ดูเพิ่มเติมที่ Healthy Pasta Recipes
หรือสูตรพาสต้าเพื่อสุขภาพ) หรืออาจเพิ่มขนมปังหรือข้าว หรือซีเรียลก็ได้
เช่น พวกธัญพืชที่ผ่านการขัดสีน้อยซึ่งจะอุดมไปด้วยไวตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ
ช่วยให้ร่างกายของท่านได้รับกากใยด้วยซึ่งมีส่วนช่วยให้ท่านรู้สึกอิ่ม
(และอิ่มนานขึ้นด้วย)




 

Create Date : 29 มิถุนายน 2553    
Last Update : 29 มิถุนายน 2553 17:30:04 น.
Counter : 337 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  

WishRich
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




มาเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองไปพร้อม ๆ กัน เพื่อความสำเร็จในชีวิตและหน้าที่การงานครับ
Friends' blogs
[Add WishRich's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.