WishRich
Group Blog
 
All Blogs
 
ผึ้ง-ต่อ ต่อย ทำไงดี ?

//www.healthcorners.com/2007/article/large/large_1270340670.jpg
มีคำพยากรณ์ว่าในอนาคตแมลงจะครองพื้นผิวโลกจากการเปลี่ยนแปลงของวัฏสงสารของ
สิ่งมีชีวิตการฆ่าทำลายล้างกัน
มนุษย์ผลิตยาฆ่าแมลงแต่แมลงบางชนิดก็สามารถทนทานยาได้
มนุษย์ต้องใช้ยาฆ่าแมลงที่แรงเพิ่มขึ้นจนมีอันตรายต่อมนุษย์เอง
การย้ายถิ่นฐานของแมลงจากการปรวนแปรของสภาพอากาศ
มนุษย์บุกรุกทำลายป่าซึ่งเป็นที่อาศัยของแมลง บางครั้งก็นำแมลงมาเป็นอาหาร
ดังนั้นแมลงเช่นผึ้งและต่อจึงบุกไล่ป้องกันตัว



รศ.พญ.พรทิพย์ ภูวบัณฑิตสิน สาขาตจวิทยา (ผิวหนัง) ภาควิชาอายุรศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า
ปัญหาแมลงกัดต่อยจะมีเพิ่มขึ้นจากจำนวนแมลงที่มีมากขึ้น
ความนิยมท่องเที่ยวทะเลและป่าก็เป็นการบุกรุกที่อาศัยของแมลง
แมลงบางชนิดไม่มีพิษ แต่เมื่อกัดต่อยจะก่อให้เกิดความรำคาญ
หรือบางคนอาจแพ้เป็นตุ่มคัน เช่น ตุ่มคันจากลิ้นทะเลกัดเมื่อเที่ยวชายทะเล
หรือแพ้ตัวคุ่นซึ่งเป็นตัวเหลือบเมื่อเที่ยวป่าภาคเหนือ
หลายท่านได้ตุ่มคันรุนแรงและเรื้อรังกลับมาเป็นที่ระลึก



ในฤดูร้อนซึ่งเป็นช่วงหยุดพักผ่อนเป็นช่วงที่แมลงชุกชุม และแมลงที่มีพิษ
เช่น ผึ้งและต่อก็ออกมาทำรังสะสมอาหาร
พิษของผึ้งและต่อรุนแรงมีอันตรายต่อชีวิตได้
เพราะพิษมีสารหลายชนิดซึ่งทำลายเยื่อหุ้มเซลล์ของเซลล์ประสาท
เซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ เซลล์เม็ดเลือดแดง มาสต์เซลล์ ซึ่งมีสารหลายชนิด เช่น
ฮีสตามินไคคิน และฟอสโฟไลเปสเอ สารเหล่านี้เมื่อหลั่งออกมาทำให้เกิดลมพิษ
อาจ เป็นเฉพาะที่หรือกระจายทั่วตัว และถ้าเกิดการบวมในท่อหายใจ
ระบบหายใจจะล้มเหลว สาร ยังทำให้ความดันโลหิตตก เกิด
อาการช็อกและเสียชีวิตอย่าง รวดเร็ว



ในประเทศสหรัฐอเมริกาประชากรซึ่งเสียชีวิตจากตัวต่อต่อย
จะสูงกว่าถูกงูพิษกัด พิษของตัวต่อจะร้ายแรงกว่างูพิษ
ตัวต่อมีพิษรวมของพิษงู 3 ชนิด คือ
เป็นพิษต่อระบบประสาทเหมือนพิษงูเห่าหรืองูจงอาง
และพิษต่อเม็ดเลือดแดงทำให้เม็ดเลือดแดงแตกและเกิดไตวายตายเหมือนพิษงูเขียว
หางไหม้ และทำให้กล้ามเนื้อตายเหมือน งูทะเล
และยังทำให้ความดันโลหิตตกจนช็อกได้อย่างรวดเร็ว
ในพิษยังพบสารโปรตีนกระตุ้นระบบภูมิแพ้ ดังนั้นถ้าเคยถูกต่อยและมีอาการแพ้
การถูกต่อยในครั้งต่อไปจะรุนแรงมากและอันตรายถึงชีวิตได้
ในคนแพ้ผึ้งหรือต่อจึงต้องพกพายาฉีดแก้แพ้ตลอดเวลา



อาการผึ้งหรือต่อต่อยจะเกิดอาการปวดรุนแรงมาก และอาการบวมจะเกิดภายใน 12
ชั่วโมง ถ้ารอยกัดบวมอยู่ใกล้ระบบทางเดินหายใจอาจกดท่อหายใจได้ และภายใน 24
ชั่วโมง อาการคันอย่างรุนแรงจะเกิดตามมา



การปฐมพยาบาลที่แนะนำในหนังสือเพื่อลดอาการปวดจะไม่ค่อยได้ปฏิบัติ เช่น
การประคบด้วยน้ำแข็ง
หรือการฉีดยาชาแก้ปวดเพราะคงไม่มีใครเตรียมน้ำแข็งและยาชาไปท่องเที่ยวด้วย
จากการศึกษาการใช้สิ่งใกล้ตัว เช่น น้ำมะนาว น้ำส้มสายชู สบู่ ครีมทาผิว
ผลไม้หลากหลายชนิด หอม กระเทียม ยาสีฟัน ใบหรือรากไม้ ก็ไม่ได้ผล
ก็คงต้องรอและร้องไปจนทุเลาเอง
คนในภาคอีสานจะใช้หนอนตัวต่อทาคงเป็นอุบายที่จะกินหนอนต่อมากกว่า
เพราะการจะได้หนอนต่อคงต้องทำลายรังซึ่งใช้เวลานานอาการปวดคงทุเลา



หลังอาการปวดทุเลาอาการคันที่รุนแรงจะเข้ามาแทน
ก็แนะนำให้ใช้ยาทาที่ทำให้เย็นหรือยาทาสเตียรอยด์
และรับประทานยาแก้แพ้แอนตี้ฮีสตามีน
แต่จากประสบการณ์ของตัวหมอเองที่ถูกต่อต่อย เมื่อไปฝึกกรรมฐานช่วงเดือน
มี.ค. พบว่า ทำตามคำแนะนำก็ไม่ได้ผล เกาจนถลอก จึงลองฝังเข็ม
พบว่าอาการคันทุเลา แผลผื่นหายใน 24-48 ชั่วโมง



ส่วนในรายงานอาการรุนแรง เช่น ช็อก ชัก หรือไตวายคงจะต้องมาพบแพทย์
ผึ้งและต่อมักต่อยบริเวณหนังศีรษะและหน้า พบบ่อยในเด็ก
ผึ้งจะต่อยครั้งเดียวและฝังเหล็กในและถุงพิษไว้
เมื่อผึ้งต่อยจึงต้องถอนเหล็กในทันทีโดยใช้สันมีดขูดออก ส่วน
ต่อต่อยได้หลายครั้ง อันตรายจากการถูกรุมต่อยจะรุนแรง



ขอแนะนำว่าเมื่อทราบว่าถูกต่อหรือผึ้งต่อยให้อยู่นิ่ง ๆ อย่าวิ่ง
เพราะต่อและผึ้งจะส่งสัญญาณให้เพื่อน ๆ มาช่วยกันรุม
คงต้องเอาเสื้อคลุมหน้าและศีรษะ ถ้าอยู่ใกล้แหล่งน้ำ และว่ายน้ำเป็นมีหลาย
คนแนะนำให้โดดลงและดำน้ำหนี



การไปเที่ยวพักผ่อนในฤดูร้อนนี้การป้องกันคงจะดีที่สุด มีคำแนะนำดังนี้
1.ควรใส่เสื้อผ้าสีขาว น้ำตาล หรือเขียว อย่าสวมเสื้อสีสดเหมือนสีดอกไม้
หรือเสื้อลายดอกไม้ เพราะตาของผึ้งและต่อจะไวต่อสีมาก
2.งดใช้น้ำหอมหรือเครื่องหอม หรือผลิตภัณฑ์กลิ่นหอม
3.งดการสวมเครื่องประดับ
4.ใส่เสื้อผ้าที่ถ่ายเทอากาศได้ดีเพราะกลิ่นเหงื่อจะดึงดูดแมลง
5.อย่าเด็ดดอกไม้เพราะอาจมีผึ้งหรือต่อดูดน้ำหวานอยู่
6.สวมรองเท้าหุ้มป้องกัน และเดินอย่างระวังในบริเวณพุ่มไม้ ทุ่งหญ้า กอง
ขยะ และตึกร้าง 7.ทายาไล่แมลงบริเวณนอกร่มผ้า
8.ควรให้ความรู้ชนิดของแมลงที่มีอันตรายแก่เด็ก
9.ทำลายรังผึ้งหรือต่อโดยผู้รู้ 10.เตรียมยาแก้แพ้ไว้ประจำตัว
และเมื่อถูกต่อยต้องมีสติ พยายามอยู่นิ่ง ๆ ดึงเสื้อคลุมหนังศีรษะ



รศ.พญ.พรทิพย์ กล่าวว่า ผึ้งและต่อเป็นแมลงที่มีประโยชน์
ผึ้งดูดน้ำหวานจากดอกและจะผสมเกสร ส่วนต่อนอกจากดูดน้ำหวานจากดอกไม้
ยังกินแมลงตัวหนอน เนื้อสัตว์ ดังนั้นจึงอาจช่วยกำจัดแมลงที่ทำลายธัญพืช
ทั้งผึ้ง และต่อจะไม่ทำร้ายคน ถ้าไม่ถูกรบกวน โดยเฉพาะจะหวงรัง
ดังนั้นอย่าตื่นเต้นกลัว อย่างไรก็ตาม
พบว่าการโบกปัดไล่อาจทำให้ต่อตกใจและส่งสัญญาณมารุมกัดได้
ต้องระลึกไว้ว่าทางใครทางมันก็จะอยู่กันได้อย่างสงบสุข.




Create Date : 26 มิถุนายน 2553
Last Update : 26 มิถุนายน 2553 15:27:18 น. 0 comments
Counter : 467 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

WishRich
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




มาเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองไปพร้อม ๆ กัน เพื่อความสำเร็จในชีวิตและหน้าที่การงานครับ
Friends' blogs
[Add WishRich's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.