สําหรับว่า
ที่คุณแม่มือใหม่ทั้งหลาย "การคลอด" ถือเป็นเรื่องแปลกใหม่น่าตื่นเต้น
และบางคนอาจมองว่าเป็นเรื่องน่ากลัวเพราะไม่รู้ว่าตัวเองจะพบกับอะไรในช่วง
เวลานั้น โดยเฉพาะคุณแม่ท้องแรก
และไม่คุ้นเคยกับสถานที่ก็ยิ่งเป็นกังวลมากขึ้น
สิ่งเหล่านี้จะไม่เป็นปัญหาหาก
ระหว่างที่คุณแม่ฝากครรภ์อยู่ได้ลองหาความรู้ในเรื่องเกี่ยวกับการเตรียมตัว
คลอด
เมื่อนึกถึงบรรยากาศในห้องคลอด
หลายคนคงจินตนาการได้จากประสบการณ์ตรง
หรือจากฉากละครโทรทัศน์ที่มักพรรณนาถึงความรู้สึกเจ็บท้องคลอดของตัวละคร
น้อยคนที่จะปฏิเสธว่าตัวเองไม่เคยกลัวการคลอด
ในความกลัวเหล่านี้เองปัจจุบันคุณแม่หลายคนจึงเลือกแบบการทำคลอดได้
เพื่อลดความกังวลเรื่องความเจ็บปวดระหว่างคลอด
แต่ทั้งนี้ต้องอยู่ในดุลพินิจของแพทย์อย่างใกล้ชิด
ประเภท
ของการคลอดมีทั้งการผ่าท้องคลอด (Cesarean Section) และการคลอดแบบธรรมชาติ
(Natural Birth หรือ Active Birth)
ซึ่งคุณแม่เป็นจุดศูนย์กลางของกระบวนการคลอด
โดยแพทย์หรือพยาบาลแทบจะไม่เข้าไปแทรกแซงในกระบวนการเพื่อคงความเป็น
ธรรมชาติมากที่สุด
การผ่อนคลายความกังวลในการคลอดนั้นทำได้
หลากหลายวิธี อาทิ การศึกษาขั้นตอนในการเตรียมตัวคลอด
การขอคำปรึกษาจากแพทย์ หรือผู้มีประสบการณ์ในการคลอด
หนึ่งในนั้นหากว่าที่คุณแม่มีโอกาสเข้าไปเรียนรู้บรรยากาศภายในห้องคลอดก่อน
ก็คงทำให้คุณแม่มือใหม่อุ่นใจและพร้อมคลอดอย่างไร้กังวล
เมื่อคุณแม่
ใกล้คลอดเต็มที ศีรษะของทารกจะเคลื่อนต่ำลงมาในช่องกระดูกเชิงกราน
ศีรษะของเด็กจะหมุนเพื่อหันหน้ามาอยู่ทางด้านหลังของแม่
ถือเป็นสัญญาณที่ดีที่สิ่งมีชีวิตตัวน้อยๆ
กำลังถือกำเนิดขึ้นตามกระบวนการคลอดแบบธรรมชาติ
ว่าที่คุณแม่หลายคนอาจต้องการคลอดในลักษณะนี้
เพราะถือเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตลูกผู้หญิงที่จะได้รับรู้ถึงความรู้สึกเจ็บ
ท้องเบ่งคลอดเอง
และยิ่งมีคนที่รักอยู่เคียงข้างด้วยแล้วคงสุขใจและอุ่นใจได้ไม่น้อย
|
หาก
นับถอยหลังก่อนการคลอด ในช่วงเวลา 8 ชั่วโมงแรก
อาการและความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับคุณแม่ คือปากมดลูกบางขึ้น
และเริ่มเปิดจนเปิดหมด
การคลอดในลักษณะตามธรรมชาตินี้แบ่งอาการเจ็บท้องได้เป็น 3 ระยะ คือ
ระยะเฉื่อย ระยะเร่ง และ ระยะปรับตัว
เหล่านี้คือสัญญาณดีที่เตือนให้รู้ว่าเจ้าตัวน้อยใกล้ลืมตาดูโลกแล้ว
ระยะ
เฉื่อย อาจเริ่มมีมูกเลือดบ้างเพราะปากมดลูกเริ่มเปิด แต่ยังไม่มีน้ำเดิน
ส่วนใหญ่คุณแม่มีอาการปวดท้องไม่ค่อยมาก ปวดเป็นพักๆ นาน 8-12
ชั่วโมงในท้องครั้งแรก และ 6-8 ชั่วโมงในท้องสอง ช่วงนี้ปากมดลูกเปิดประมาณ
3 เซนติเมตร คุณแม่ควรสังเกตความถี่ในการเจ็บท้องด้วย
ระยะเร่ง
คุณแม่บางคนอาจเริ่มมีน้ำเดิน อาการปวดท้องมากขึ้น
เพราะการหดรัดตัวของมดลูกจะแรงและถี่ขึ้นประมาณ 4-5 ครั้งต่อชั่วโมง
และจะเจ็บท้องนาน 4-6 ชั่วโมงในท้องแรก และ 2-4 ชั่วโมงในท้องสอง
ช่วงนี้ปากมดลูกเปิดประมาณ 4-8 เซนติเมตร
ในระยะนี้อาจยังไม่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาล
บทบาทของคนใกล้ชิดอย่าง
คุณพ่อในระยะนี้ควรประคองรับน้ำหนักคุณแม่
และหาท่าที่ทำให้รู้สึกสบายสำหรับคุณแม่ หากอยู่ในท่ายืนควรงอเข่าเล็กน้อย
ป้องกันอาการตึงและล้าที่ขา
ควรยืนแยกเท้าให้ห่างพอสมควรเพื่อการทรงตัวและช่วยให้กระดูกเชิงกรานผายออก
ระยะ
ปรับเปลี่ยน เป็นระยะที่ซับซ้อนที่สุดของการคลอด เพราะปากมดลูกเปิด 8-10
เซนติเมตร และเข้าสู่การเบ่งคลอดได้ มดลูกจะหดรัดตัวนานมาก
ถุงน้ำคร่ำสามารถแตกได้ ซึ่งช่วยลดอาการตึงถ่วงที่ช่องคลอด
ช่วงนี้คุณแม่อาจรู้สึกอยากเบ่งคลอด
ซึ่งหากเบ่งแล้วรู้สึกเจ็บแสดงว่าปากมดลูกยังเปิดไม่เต็มที่ควรหยุดเบ่ง
และเปลี่ยนเป็นท่าเข่าชิดหน้าอก
นอกจากนี้ยังเป็นระยะที่มีการปรับเปลี่ยนของอารมณ์ด้วย
บางครั้งไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
สำหรับวิธีการผ่อนคลาย
ควรอาบน้ำด้วยฝักบัวในท่ายืน หรือนั่งช่วยบรรเทาความปวด ใช้การนวด
ประคบน้ำร้อนบริเวณที่ปวด แช่น้ำอุ่นในอ่าง ใช้กลิ่นบำบัด
หรือเปิดเพลงผ่อนคลาย ที่สำคัญควรให้การปลอบโยนอย่างใกล้ชิด ใน
ช่วง 2 ชั่วโมงสุดท้าย
หลังจากที่ศีรษะเคลื่อนมาอยู่ใกล้ทวารหนักและปากช่องคลอด
ในที่สุดศีรษะของเด็กจะค่อยๆ เคลื่อนผ่านช่องคลอดออกมา
ช่วงนี้ควรรีบไปโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุดเพื่อเตรียมตัวคลอด
เพราะคุณแม่จะเจ็บท้องไม่เกิน 2 ชั่วโมงสำหรับท้องแรก และไม่เกิน 1
ชั่วโมงในท้องหลัง ซึ่งปากมดลูกจะเปิดหมดแล้ว
เป็นระยะที่เด็กเคลื่อนผ่านช่องคลอดออกมาแล้ว
หลังจากทารกคลอดแล้ว
มดลูกจะเริ่มหดตัวเพื่อลดขนาด และจะหดตัวต่อไปเรื่อยๆ
กระบวนการนี้จะได้รับการช่วยเมื่อทารกดูดนมแม่ จากนั้นรกจะค่อยๆ
ลอกออกจากผนังมดลูกและเคลื่อนลงสู่ช่องคลอด
โดยปกติแล้วรกจะคลอดหลังจากการคลอดทารกประมาณ 20 นาที
จากนั้นแพทย์จะตรวจสอบว่าไม่มีส่วนใดติดค้างอยู่ในโพรงมดลูกอีก
คุณ
แม่ควรอยู่ในท่านั่งรอระหว่างรอให้รกคลอด
จะได้โอบอุ้มและมองเห็นหน้าลูกได้ชัดเจน
นอกจากนี้ยังทำให้ลูกดูดนมแม่ได้ง่ายขึ้น
การที่คุณแม่และลูกได้สัมผัสผิวของกันและกัน
ทำให้ลูกได้รับความอบอุ่นผ่านสัมผัสของแม่
ซึ่งช่วยในการปรับอุณหภูมิของลูกและช่วยสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกอีก
ด้วย
เมื่อเข้าใจการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย และลักษณะอาการต่างๆ
ก่อนคลอดแล้วก็จะดูแลตัวเองได้
และช่วยให้คุณแม่คนใหม่รับมือกับช่วงเวลานี้อย่างมีสติและไม่ตื่นกลัวต่อไป
คุณ
แม่ที่สนใจ นิตยสาร Modern Mom ร่วมกับโรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท
จัดกิจกรรม "MODERNMOM TOUR ห้องคลอด"
ให้ว่าที่คุณแม่ที่เตรียมตัวคลอดได้คลายกังวล
เน้นการคลอดแบบธรรมชาติเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการตั้งครรภ์
และพาคุณแม่ชมบรรยากาศห้องคลอดในแบบต่างๆ โดยเฉพาะการคลอดในน้ำ
ซึ่งเป็นที่นิยมกันมากในปัจจุบัน เพราะเชื่อว่าลดความเจ็บปวดจากการคลอดได้
พร้อมยังเปิดพื้นที่กิจกรรมแบ่งปันความรู้ดีๆ
โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางสูตินรีเวชของโรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท
กิจกรรม
เพื่อคุณแม่จะมีขึ้น 3 รอบ ในวันที่ 27 มิ.ย. , 11 ก.ค. และ 8 ส.ค. เวลา
13.30-17.30 น. ที่ห้องประชุมศูนย์สุขภาพสตรี ชั้น 1 อาคาร 1
โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท ไม่เสียค่าใช้จ่าย สอบถามโทร. 0-2913-7555 ต่อ
3535 ข่าวสด หน้า 25
วัน
ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6780 ข่าวสดรายวัน