ซอมบี้สีเทา


 พุธ ที่ 13 กรกกาคม 2559

ซอมบี้สีเทา



สวัสดีวันพุธตอนบ่ายคล้อยจนเกือบจะเย็น ถึงแม้จะเป็นบ่ายแก่ๆ แต่พระอาทิตย์ก็ลับแสงไปนานแล้ว ถูกบดบังด้วยก้อนเมฆสีดำทะมึนก้อนใหญ่ ให้ความรู้สึกสีเทา มึนๆ อึนๆ บอกไม่ถูก ความเหงามักจะเข้ามาเมื่อแสงอาทิตย์หายไปนี่แหละ ก็แปลกดีเหมือนกันนะ

บรรยากาศอึมครึมขนาดนี้ เรื่องที่จะพูดถึงก็อึมครึมเช่นกัน ถ้าเปรียบเทียบชีวิตเราตอนนี้เป็นสีสัน จากที่เคยเป็นสีที่สดใส ตอนนี้กำลังถูกสีเทายึดชิงพื้นที่เข้ามามากขึ้นทุกที การใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ ที่ทุกคนต่างเร่งรีบ สิ่งแวดล้อมที่มีแต่มลพิษ การจราจรที่ติดขัดอยู่ตลอดเวลา ทำให้ผู้คนในเมืองใหญ่แห่งนี้ใกล้เคียงซอมบี้เข้าไปทุกที คงเป็นเพราะความฝันที่เคยสดใสดูเลือนรางลงไปทุกทีล่ะมั้ง

การทำงานเพื่อหาเลี้ยงตัวเอง หรือบางคนอาจจะมีครอบครัวที่ต้องคอยดูแลอยู่ข้างหลังเป็นสิ่งสำคัญที่เลี่ยงไม่ได้ ถึงแม้หลายคนจะไม่ชอบใจในงานที่ตัวเองทำอยู่ แต่ก็ต้องชั่งใจให้ดี ว่าสิ่งไหนจำเป็น สิ่งไหนสำคัญกับชีวิตเราจริงๆ แต่ในท้ายที่สุดแล้ว ถ้าสิ่งที่ทำอยู่นั้นไม่ไหวจริงๆ ทำให้เราเป็นทุกข์มากจริงๆ ก็ควรเลือกทำให้ชีวิตมีความสุขน่าจะดีกว่า ชีวิตคนเรานั้นสั้น สั้นเกินกว่าที่จะมานั่งทนทุกข์ เราต้องจำไว้เสมอว่าเราเกิดมาเพื่อมีความสุข อะไรที่จะทำให้เรามีความสุข เราก็ไม่ควรลังเลที่จะทำมัน แต่ถ้าจะให้เป็นสุขที่แท้จริง สุขนั้นจะต้องไม่เบียดเบียนสุขของคนอื่นด้วย

สิ่งที่ทำให้เราใกล้เคียงซอมบี้มากเข้าไปทุกที อาจจะเริ่มมาจากความเบื่อหน่าย โดยเฉพาะสิ่งแวดล้อมรอบตัว ทัศนียภาพที่ไม่สดใส มลพิษจากควันรถยนต์ มลพิษทางเสียง มลพิษทางน้ำ กลิ่นเหม็นเน่าฉุนจมูกที่ลอยคละคลุ้งขึ้นมาจากท่อระบายน้ำที่พบได้ทั่วไปบนทางเดินเท้าในกรุงเทพมหานคร แต่สิ่งแวดล้อมที่ใกล้ตัวมากที่สุดและมีอิทธิพลต่อชีวิตซอมบี้อย่างเรามากที่สุดก็คงจะเป็นบรรยากาศในที่ทำงาน ใครมีเพื่อนร่วมงานที่น่ารัก เจ้านายที่เก่งและใส่ใจลูกน้องก็นับเป็นความโชคดีอันหาที่สุดไม่ได้ แต่สำหรับคนที่ไม่ได้โชคดีขนาดนั้น ก็อาจจะต้องมีความอดทนอย่างมาก หาเครื่องมือปกป้อง ป้องกันตัวเองที่เหมาะสม และเดินหน้าต่อสู้กับชีวิตต่อไป

แน่นอนที่เราไม่ได้อยู่ในกลุ่มผู้โชคดี แต่ถึงแม้ชีวิตการทำงานจะไม่ได้เป็นอย่างที่ฝันไว้ ปมดราม่าก็มีมากมายซับซ้อนยิ่งกว่าซีรี่เกาหลี อันการนินทากาเลเหมือนเทน้ำก็คงจะมีอยู่ในแทบจะทุกสังคมการทำงาน ดังนั้นจึงหลีกเลี่ยงที่จะไม่เจอได้ยาก ยอมรับว่ามีช่วงที่เบื่อมากๆ รู้สึกไม่โอเค รู้สึกไม่ชอบสังคมแบบนี้ รู้สึกไม่อยากลุกจากเตียง ไม่มีpassion ไม่มีแรงผลักดัน ไม่อยากตื่นมาทำงาน พอมาถึงที่ทำงานก็ทำแบบเบื่อๆ ทำไปตามหน้าที่ บางทีก็ตึงๆกับเพื่อนร่วมงาน พีคมากๆก็พูดไม่ดีใส่กัน ความรู้สึกดีๆที่เคยมีก็เริ่มเลือนหายไปหมด แต่พอทุกอย่างถึงจุดพีคสุดๆ มันก็จะเริ่มลดลงมาเองเรื่อยๆ จากความไม่ชอบ ความทนไม่ได้ กลายเป็นเฉยๆ เริ่มชาๆ คล้ายซอมบี้เข้าไปทุกที

ที่ทุกอย่างคลี่คลายลงไป อาจจะเป็นเพราะเราได้ค้นพบอะไรหลายๆอย่างในการใช้ชีวิตอยู่ในสังคมแบบนี้ เรารู้สึกว่าสิ่งที่เราไม่ชอบที่คนอื่นเป็นหรือที่เขาทำ เรากลับเริ่มจะเป็นคล้ายเขา อย่างเช่นการนินทา การพูดลับหลัง เมื่อก่อนเราไม่ค่อยนินทาใคร เพื่อนเม้าท์กันเราก็เฉยๆ แต่พอตอนนี้ พอเรามีเรื่องที่ไม่ชอบหรือคนที่ไม่ชอบเราก็เริ่มทำแบบที่เขาทำกับเราบ้าง พอรู้ตัวอีกทีก็เริ่มกลายเป็นคนขี้เม้าท์ไปแล้ว ซึ่งเราก็ไม่ชอบตัวเองในแบบนี้เลย พอคิดได้แบบนั้นก็ตัดสินใจ ลด ละ เลิก ดีกว่า ทำยากเหมือนกัน แต่ถ้าให้เลือก เลือกเป็นตัวเองแบบเดิมดีกว่า ชอบแบบนั้น มีความสุขกว่าตอนนี้เยอะ

จริงๆการที่เราเริ่มเม้าท์ๆมอยๆ มันก็มาจากการที่เราไม่ชอบนิสัยคนอื่น พอสะสมมากๆเข้าก็รู้สึกอึดอัด ยิ่งมีเพื่อนให้ระบาย พอพูดออกมาแล้วก็สบายใจขึ้น ที่นี้ก็เลยกลายเป็นการพูดจนเริ่มจะติด จริงๆทุกคนก็มีข้อเสียทั้งนั้นแหละ ไม่มีใครที่ดีทั้งหมด หรือเลวทั้งหมด มาคิดๆดูคนที่เราไม่ชอบ ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาเป็นคนไม่ดีซะทั้งหมด ส่วนที่ดีของเขาก็คงมี แต่เรามักจะมองข้ามไป มองแต่เรื่องที่เราไม่ชอบ จริงๆเขาอาจจะเป็นลูกที่ดี เป็นพี่เป็นน้องที่ดีของใครหลายคนแค่ไม่ใช่กับเราเท่านั้นเอง

ในความเป็นจริงคือเราไม่สามารถไปเปลี่ยนให้ใครมาเป็นแบบที่เราชอบได้ทั้งหมด ทุกคนโตมาไม่เหมือนกัน การเลี้ยงดู การใช้ชีวิต สิ่งแวดล้อม ประสบการณ์ มุมมองการใช้ชีวิตยิ่งไม่มีทางเหมือนกัน จะให้คนอื่นมาคิดเหมือนที่เราคิดก็คงไม่ได้ หลายครั้งเคยคิดว่า "ทำไมเขาทำแบบนั้นนะ" "ทำไมเขาคิดแบบนั้นล่ะ" "ทำแบบนั้นมันไม่ถูกนี่นา" แต่ความจริงคือไม่มีอะไรที่ผิดหรือถูกทั้งหมด ผิดถูกขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราไปตัดสินคนอื่นซึ่งจริงๆเราก็ถือที่วัดกันคนละอันคนละแบบ อย่างเช่นเอาไม้บรรทัดไปชั่งน้ำหนักสิ่งของก็คงไม่ใช่ ดังนั้นเราจึงตัดสินบางสิ่งว่าถูกหรือผิดจริงๆโดยอาศัยแค่มุมมองของเราเพียงอย่างเดียวไม่ได้ แถมเราก็ไม่ได้ดีเลิศเลอเพอร์เฟคพอที่จะไปติดสินคนอื่นด้วยซ้ำ

มนุษย์นั้นมีความแตกต่างและหลากหลาย ทางที่เราทำได้ดีที่สุดก็คือพยายามยอมรับความแตกต่างนั้น แต่ถ้าทำยังไงก็ยอมรับไม่ได้จริงๆ ปรับตัวที่จะอยู่ร่วมกันไม่ได้จริงๆ ก็แค่ต่างคนต่างอยู่ไม่ก้าวก่ายกันก็คงจะพอ ไม่จำเป็นที่จะต้องเกลียด หรือทำสิ่งแย่ๆใส่กัน เพราะจริงๆแล้วอาจจะไม่มีใครที่ผิด ไม่มีเขาผิด เราผิด ก็แค่ทัศนคติไม่ตรงกัน แนวทางการใช้ชีวิตไม่เหมือนกันเท่านั้นเอง

การเปลี่ยนจากซอมบี้ให้กลายมาเป็นมนุษย์อีกครั้ง อาจทำได้ด้วยการตั้งเป้าหมาย หรือหาสิ่งที่ชอบหรืองานอดิเรกทำ เพราะถ้าเราได้ทำสิ่งที่ชอบ ถึงแม้จะทำงานจนแทบไม่มีเวลาเหลือแต่เราก็จะหาเวลาให้กับความสุขของเราได้อย่างแน่นอน อย่างเรารู้ตัวว่าชอบอ่านหนังสือ ก็พยายามหาหนังสือดีๆมาอ่าน หนังสือที่ให้กำลังใจ หนังสือที่เราชอบ หรืออาจจะเป็นนิยายชวนฝันอ่านให้สบายใจ อ่านจนเพ้อกันไป นอกจากนี้เราก็ชอบปลูกต้นไม้ ชอบดอกไม้ ก็นั่งวางแผน นั่งหาวิธีปลูกต้นไม้ปลูกผักกินเองตามพันทิป หรือบางทีก็เรียนวาดรูป เรียนจัดดอกไม้จากยูทูป

พอได้เริ่มหาสิ่งที่ชอบทำก็รู้สึกว่าชีวิตมีความสุขขึ้นเยอะ หรือว่าจริงๆแล้วที่เรามีเวลาไปคิดลบๆคิดแย่ๆนี่อาจจะเป็นเพราะเราว่างมากจนเกินไปสินะ พอได้หาอะไรทำชีวิตก็ดูจะมีสีสันขึ้นมา ถึงสิ่งที่เราเริ่มทำจะเป็นสิ่งเล็กๆแต่ก็เป็นสิ่งที่เราทำแล้วมีความสุข (ปริมาณไม่สำคัญเท่าคุณภาพ-ไม่เกี่ยว นึกขึ้นได้ ><)

การเรียนรู้ที่จะอยู่และหาหนทางที่จะมีความสุข ดีกว่าจมอยู่กับทุกข์ จมอยู่กับความคิดไม่ดีความคิดแย่ๆเนอะ จริงๆเราก็บอกตัวเองเสมอว่าเราต้องอยู่แบบมีความสุข เราไม่ควรทนหรือรองรับอะไรที่แย่ๆ เราสมควรได้รับแต่สิ่งดีๆ เพราะเราทำแต่สิ่งดีๆเสมอ (เป็นตรรกะโง่ๆแต่เป็นตรรกะที่สบายใจ ก็โอเค๊) แต่บางครั้งคนเราก็ต้องมีหลงลืมไปบ้าง เผลอทำตัวที่จะได้แต่สิ่งแย่ๆกลับมา ไม่เป็นไรหรอกยังไงทุกอย่างก็เป็นบทเรียนในชีวิตทั้งนั้น ถึงจะเสียอะไรไปบ้างแต่ก็ได้อะไรกลับมาเสมอ และในทางกลับกันก็ไม่มีอะไรที่ได้มาโดยที่ไม่ต้องเสียอะไรบางอย่างไป

แต่ถึงยังไงซอมบี้ตัวนี้ก็ยังมีความเป็นซอมบี้อยู่ แต่ก็เริ่มจะกลับมาเป็นมนุษย์และจะกลายเป็นมนุษย์คนดีคนเดิมคนเดียวในไม่ช้าอย่างแน่นอน แต่จริงๆบางคนก็ชอบอยู่แบบซอมบี้นะ อันนี้ก็แล้วแต่ ชีวิตเราเราต้องเลือกเอง เรามีสิทธิ์เลือก <3




ตัวฉัน.. ในวันที่เริ่มเปลี่ยนจากซอมบี้กลายเป็นคน



Create Date : 20 กรกฎาคม 2559
Last Update : 20 กรกฎาคม 2559 20:44:41 น.
Counter : 284 Pageviews.

1 comments
  
สวัสดีจ้าา มาทักทายจ้า sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite SculpSure Ultherapy กำจัดไขมัน ร้อยไหม adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้วถาวร สักคิ้ว 6 มิติ Cover Paint สักไรผม 3D Eyebrow ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ
โดย: สมาชิกหมายเลข 4507140 วันที่: 6 พฤษภาคม 2561 เวลา:17:23:34 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 3088897
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



Group Blog