ชุลมุนลุ้นรัก บทนำ โดย วินุตตา
เรื่อง...ชุลมุนลุ้นรัก 1 [เทวินทร์]
โดย
วินุตตา






บทนำ

ก่อนพิธีแต่งงานช่วงเช้าในโบสถ์จะเริ่มขึ้นสองชั่วโมง...


หญิงสาวที่อยู่ในชุดแต่งงานสีขาวดูสวยราวกับนางฟ้าลงมาจากสวรรค์ขับผิวขาวของเธอให้ดูผ่องสวยยิ่งกว่าเดิมถอนหายใจอย่างโล่งอก เมื่อตอนนี้เธอกำลังนั่งอยู่เพียงลำพังภายในห้องที่จัดให้เป็นห้องแต่งตัวของเจ้าสาว แล้วกานต์กมลก็นั่งกระสับกระส่ายเมื่อความรู้สึกหดหู่กำลังคืบคลานเข้าสู่ใจของเธอเมื่อคิดถึงสิ่งที่กำลังจะมาถึง


คิดมาถึงตรงนี้แล้วเธอก็อดที่จะนึกถึงเจ้าบ่าวที่ไม่เคยพบกันมาก่อนเลยแม้แต่ครั้งเดียวไม่ได้ ริมฝีปากอิ่มเม้มแน่น เจ้าบ่าวที่เธอไม่ต้องการเลย หากเธอขัดคำขอร้องแกมสั่งของแม่ไม่ได้ต่างหาก!


เจ้าบ่าวของเธอนั้นเป็นถึงลูกชายเพื่อนสนิทของแม่ หากน่าแปลก...ลูกๆของทั้งคู่กลับไม่เคยเจอหน้ากันเลยแม้แต่ครั้งเดียว...


กานต์กมลหลุบเปลือกตามองมือของตนเองที่ประสานวางไว้บนหน้าตัก ดวงตาคมสวยมีแววครุ่นคิด ด้วยอีกไม่กี่ชั่วโมงเธอก็ต้องเข้าพิธีแต่งงานแล้ว...


เธอจะอยู่...หรือจะไป...


กานต์กมลได้แต่ครุ่นคิดในใจ


นาทีสุดท้ายของเธอกำลังจะมาถึง







ครึ่งชั่วโมงต่อมา...


ในห้องแต่งตัวของเจ้าบ่าว...


ใบหน้าของคนสามคนที่อยู่ภายในห้องต่างซีดเผือดลงโดยพร้อมเพรียงกัน โดยเฉพาะหญิงวัยกลางคนที่เป็นคนถือจดหมายหรือจะเรียกให้ถูกคือแผ่นกระดาษที่มีข้อความเพียงไม่กี่บรรทัด แต่เป็นไม่กี่บรรทัดที่ทำให้คนถือนั้นถึงกับรู้สึกจะเป็นลม


แม่ครับ

ขอโทษด้วยที่ผมไม่สามารถฝืนใจแต่งงานกับคนที่ผมไม่ได้รักได้
หวังว่าแม่จะให้อภัยในสิ่งที่ผมตัดสินใจทำ

เทวินทร์



“ตายๆ ตาย! โอ๊ย! น้องล่ะอยากจะเป็นลมจริงๆนะคะคุณพี่! นายวินมันทำแบบนี้ได้ยังไงกั๊น!!”


คุณวารีกรีดเสียงร้องถามคนเป็นสามี แล้วยกมืออวบอูมของเธอทาบอก ร่างอวบทำท่าโงนเงนราวกับจะเป็นลมดังที่ปากพูดทำให้คุณเทวัญ ที่ยืนอยู่ข้างๆคุณวารีรีบเข้าไปประคองร่างของภรรยาอย่างรวดเร็ว

“ใจเย็นๆก่อนน้ำ”


“คุณพี่คะ! คุณพี่จะให้น้องใจเย็นได้ยังไงกัน นายวิน...นายวิน มันทำ...มัน...โฮ...”


จบคำพูดคุณวารีก็ส่งเสียงร้องไห้ออกมาดังลั่นพลางตบลงบนอกของตนเองพลางร้องคร่ำครวญถึงชื่อเสียงที่กำลังจะป่นปี้หากว่าแขกเหรื่อที่กำลังรออยู่ภายนอกรับรู้ว่าเจ้าบ่าวของงานในคืนนี้...หนีไปแล้ว
โฮ...เธอล่ะอยากจะกลั้นใจตายเสียจริงๆ! ลูกหนอลูก...ทำแบบนี้กับเธอได้อย่างไรกัน!!...


“แล้วอย่างนี้เราจะทำยังไงกันดีล่ะคะพี่น้ำ ตาวินเล่นหนีไปดื้อๆแบบนี้น่าตีจริงๆเชียว” คุณวารินพูดขึ้นในขณะที่มือก็โบกเจ้ากระดาษที่พ่อหลานชายตัวดีของเธอทิ้งข้อความบอกทุกๆคนไว้นั่นแหละโบกพัดให้กับพี่สาวที่ตอนนี้ยืนทำตาปรือทำท่าจะเป็นลมแหล่มิเป็นลมแหล่ภายในอ้อมแขนของคุณเทวัญ “ถ้าไม่อยากแต่งงานกับหนูกานต์ทำไมไม่บอกเสียตั้งแต่แรกๆ...นี่อาร๊าย! ทำท่ายอมมาตลอดแล้วจู่ๆเล่นหนีไปเฉยเลยแบบนี้ แล้วทีนี้พี่น้ำจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกันล่ะคะ!”


“โฮ!”


ยิ่งได้ฟังคำพูดของน้องสาวคุณวารียิ่งร้องเสียงดังมากยิ่งขึ้นร้อนถึงคุณเทวัญที่ทำหน้าที่ปลอบคนเป็นภรรยาให้ใจเย็นลง ในขณะที่ปรายตาไปมองคุณวารินที่ยืนข้างๆกันเป็นเชิงปรามไม่ให้พูดมากไปกว่านี้ ในขณะที่มือก็พัดเจ้ากระดาษให้กับภรรยาของเขาด้วยสายตาไม่ชอบใจนักที่พูดให้คุณวารีคร่ำครวญมากขึ้นกว่าเดิม


“พี่ว่าน้ำหยุดร้องไห้ก่อนดีกว่าแล้วรีบมาช่วยกันคิดแก้ปัญหาก่อน”


“เอ๊ะ! นี่คุณพี่ว่าน้องเหรอคะ?”


คุณวารีที่ทำท่าจะเป็นลมถามสามีเสียงเขียว หมดสภาพคนเป็นลมในทันที


“พี่ก็บอกให้เธอเลิกร้องคร่ำครวญแล้วมาช่วยกันแก้ปัญหากันดีกว่าน่ะสิ”


“ดู๊! ดูนะฝน ดูพี่เขยของเธอมาหาว่าพี่เป็นตัวถ่วงปัญหา...” คุณวารีหันไปพูดเป็นเชิงฟ้องกับน้องสาวทำให้คุณเทวัญได้แต่ถอนหายใจเฮือกออกมาอย่างไม่ปิดบังและนั่นยิ่งทำให้คุณวารีรู้สึกเหมือนถูกว่าทางอ้อม “นั่นๆ ถอนหายใจด้วย...พี่เขยเธอถอนหายใจด้วยนะยัยฝน!”


“หยุดโวยได้แล้วน่าน้ำ” คุณเทวัญพูดในขณะที่ดึงตัวคุณวารีที่กำลังเกาะแขนคนเป็นน้องสาวแล้วฟ้องออกมา แต่ยังไม่ทันที่ใครจะได้เอ่ยอะไรออกมาต่อ ประตูของห้องพักที่พวกเขาจองเอาไว้ให้เป็นห้องแต่งตัวของเจ้าบ่าวก็เปิดออก


ชายหนุ่มที่อยู่ในชุดสูทสีดำสนิทแนบไปกับลำตัวขับให้คนใส่ดูดีถึงดีมาก แล้วยิ่งประกอบกับใบหน้าหล่อเหลาดั่งพระเจ้าบรรจงสร้างไม่ว่าจะเป็น จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากบางเฉียบเหมือนริมฝีปากของผู้หญิง คิ้วเข้มพาดเหนือดวงตาคมสีดำสนิททำให้บุคคลทั้งสามในห้องต่างหยุดถกเถียงกันทันทีแล้วจ้องผู้มาใหม่เป็นตาเดียว


“คุณพ่อ...คุณแม่...น้าฝน มองผมทำไมเหรอครับ?”


“...”


ไม่มีคำตอบหลุดลอดออกมาจากริมฝีปากของบุคคลที่ถูกเรียก แต่ทุกๆคนต่างก็หันไปสบตากันอย่างมีเลศนัยเว้นแต่ผู้มาใหม่เท่านั้นที่ได้แต่มองคนโน้นทีคนนี้ทีด้วยสายตางุนงง


แล้วนี่นายวินมันไปมุดหัวอยู่ที่ไหนนะ! ตอนนี้ก็ใกล้จะเริ่มงานแล้วด้วย


ชายหนุ่มผู้เข้ามาใหม่คิดในขณะที่สอดส่ายสายตามองหาคนที่เป็นเจ้าบ่าวของงานในวันนี้ไปด้วย


“น้องว่าเรารอดตายแล้วนะคะพี่น้ำ...คุณพี่เขย”


คุณวารินพูดขึ้นมา ในขณะที่ ‘พี่น้ำและคุณพี่เขย’ ต่างพนักหน้ารับแล้วทุกๆสายตาก็หันขวับไปมองคนที่อายุน้อยที่สุดโดยพร้อมเพรียง ทำเอาคนถูกมองอดที่จะสะดุ้งไม่ได้


คุณวารีปราดเข้าไปหาเขาอย่างรวดเร็ว ตามด้วยคุณวารินที่ตามติดมาอย่างกระชั้นชิด สายตาของหญิงวัยกลางคนทั้งสองที่เอาแต่มองเขาอย่างประเมินทำให้ชายหนุ่มรู้สึกร้อนๆหนาวๆอย่างไรพิกล เขาหันไปสบตากับผู้เป็นบิดาก็เห็นว่าท่านมองเขาเขม็งด้วยสายตาครุ่นคิดเช่นกัน


“น้องว่าตาวาขาวกว่าตาวินนะคะพี่น้ำ”


“แต่พี่ว่าแค่ใบหน้าเหมือนกันนี่ก็ใช่ได้แล้วนะฝน”


“งั้นคงพอกล้อมแกล้มไปได้ล่ะค่ะคุณพี่อีกอย่างเขาคงไม่สักเกตหรอกมั้งคะว่านายวินมีผิวขาวมากกว่าปกติ”


“พี่ก็ว่าอย่างนั้น”


คุณวารีพยักหน้าหงึก ในขณะที่มือก็พลิกใบหน้าของชายหนุ่มที่กำลังถูกดูตัวอย่างพินิจพิจารณาไปด้วย


“ตาวา...”


คุณวารีเรียกชื่อเขาออกมาในที่สุด


“อะไรครับแม่”


“แม่วานอะไรหน่อยสิ”


“อะไรครับ?”


ชายหนุ่มขมวดคิ้วมุ่น รู้สึกเสียวสันหลังอย่างไรชอบกล...


“ช่วยเป็นเจ้าบ่าวแทนนายวินที...”


“หา!”






ในห้องแต่งตัวของเจ้าสาว...


คุณแม่คะ...

หนูขอโทษที่ไม่อาจแต่งงานกับคุณเทวินทร์ได้ หนูไม่ได้รักเขา
หวังว่าแม่จะให้อภัยหนูนะคะ

กานต์กมล



“โอย...ฉันจะเป็นลม”


หลังจากที่อ่านจบคุณเมษาร้องขึ้นแล้วพลันร่างของเธอก็ซวนเซไปมา จนหลานสาวที่ยืนหน้าซีดไม่แพ้กันรีบปรี่เข้ามาประคองอย่างรวดเร็ว


“ใจเย็นๆนะคะคุณป้า”


หญิงสาวพูดพลางพยุงร่างที่อวบของคนเป็นป้าให้ไปทรุดนั่งที่เก้าอี้อย่างทุลักทุเล


“จะให้ป้าใจเย็นได้ยังไงยัยไก่! หมด...หมดกัน! ป้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน มีลูกสาวกับเขาคนเดียวแล้วมาทำงามหน้านัก!”


คุณเมษาคร่ำครวญในขณะที่มือข้างหนึ่งที่มีกระดาษจดหมายของกานต์กมล ลูกสาวคนเดียวทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า ก่อนที่เจ้าตัวจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย...ในวันแต่งงานของตัวเอง!


“ถ้ามันไม่เต็มใจตั้งแต่แรกทำไมมันไม่มาบอกฉัน!”


เธอร้องคร่ำครวญออกมาด้วยสีหน้าราวกับจะร่ำไห้...แล้วนี่ลูกสาวของเธอเล่นหนีไปแบบนี้เธอจะทำอย่างไรดีล่ะ?


“เอ่อ...ไก่ว่าเรารีบไปบอกคุณป้าวารีกับคุณลุงเทวัญดีกว่านะคะ” คุณเมษาที่ได้ยินคำแนะนำของหลานสาวก็ได้แต่ร้องค้านเสียงดัง


“ต๊าย! ไม่ได้ๆ ยังไงก็ไม่ได้นะยัยไก่! ถ้าไปบอกอย่างนั้นยัยน้ำต้องเอาป้าตายแน่ๆ แล้วไหนจะแขกเหรื่อที่รออยู่ข้างนอกอีกล่ะ โอย...แค่คิดป้าก็อยากจะตายแล้วยัยไก่”


“ถ้าไม่บอกคุณลุงเทวัญคุณป้าวารี แล้วคุณป้าจะทำยังไงล่ะคะ?” หญิงสาวเอ่ยถามด้วยไม่เห็นว่าจะมีวิธีแก้ปัญหาไหนดีเท่าวิธีนี้แล้ว


“เฮ้อ...” คุณเมษาถอนหายใจยาวพลางหลับตานิ่ง ก่อนจะลืมตาขึ้นมาแล้วสปริงตัวนั่งหลังตรงอย่างรวดเร็วหมดคราบคนกำลังจะเป็นลมและร้องไห้ฟูมฟายจนกัตติการู้สึกทึ่ง


“ยัยไก่!”


คุณเมษาเรียกชื่อหลานสาวออกมาดังลั่น จนคนถูกเรียกถึงกับสะดุ้ง


“อะไรคะคุณป้า?”


“เรานั่นแหละ...เราต้องช่วยป้านะ”


“ช่วยอะไรคะ?”


“ช่วยเป็นเจ้าสาวแทนยัยกานต์ที”


“อะไรนะคะ?!!”







+++++++++++++++++++

จบบทนำแล้วค่ะ
ไม่รู้ว่าฟอนต์จะออกมาเป็นยังไงเพราะลองเอาเครื่อง แม็กเข้ามาดู
เดี๋ยวมาแก้ไขอีกทีค่ะ








Create Date : 24 กันยายน 2552
Last Update : 24 กันยายน 2552 16:23:00 น.
Counter : 358 Pageviews.

3 comments
  
มาเยี่ยมมมมม
โดย: Ladyinlovernovels วันที่: 24 กันยายน 2552 เวลา:17:09:33 น.
  

เอาการ์ตูนมาฝาก ฮาโคตรๆ อิๆๆๆๆ
โจ...พลังชีวิต
คลิกเพื่อไปเติมพลังชีวิตจ้า
//powerup.bloggang.com
โดย: พลังชีวิต วันที่: 24 กันยายน 2552 เวลา:21:55:48 น.
  
มาชมค่ะ รอตอนหน้านะคะ ตอนนี้เพิ่งเปิดเรื่อง
โดย: นิว IP: 61.213.181.82 วันที่: 25 กันยายน 2552 เวลา:10:00:29 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

การิ๋งกิ๋งกิ๋ง
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ยินดีต้อนรับเข้าสู่บ้านหลังน้อยของธีรตี - พิรฏาค่ะ ^^
ผ่านไปผ่านมาแวะทักทายกันได้นะคะ



งานเขียนทั้งหมดใน blog นี้
สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย พระราชบัญญัติ พ.ศ.2537
ห้ามนำไปพิมพ์ เผยแพร่ หรือลอกไปกระทำการใดๆ ก็ตาม
New Comments
Group Blog