ลุ้นรักชุลมุน - บทนำ
ลุ้นรักชุลมุน
โดย...รุ่งรัตนา




บทนำ




ในห้องแต่งตัวของเจ้าบ่าว...

ใบหน้าของคนสามคนที่อยู่ภายในห้องต่างซีดเผือดลงโดยพร้อมเพรียงกัน โดยเฉพาะหญิงวัยกลางคนที่อยู่ในอาภรณ์หรูหราที่เป็นคนถือจดหมายหรือจะเรียกให้ถูกคือแผ่นกระดาษที่มีข้อความเพียงบรรทัดเดียว แต่เป็นบรรทัดเดียวที่ทำให้คนถือนั้นถึงกับรู้สึกจะเป็นลม


คุณแม่ครับ
ขอโทษด้วยที่ผมไม่สามารถฝืนใจแต่งงานกับคนที่ผมไม่ได้รักได้ หวังว่าคุณแม่จะให้อภัยในสิ่งที่ผมตัดสินใจทำ
เทวินทร์


“ตายๆ ตาย! โอ๊ย! น้องล่ะอยากจะเป็นลมจริงๆนะคะคุณพี่! นายวินมันทำแบบนี้ได้ยังไงกั๊น!!”

คุณวารีกรีดเสียงร้องถามคนเป็นสามี แล้วยกมืออวบอูมของเธอทาบอก ร่างอวบทำท่าโงนเงนราวกับจะเป็นลมดังที่ปากพูดทำให้คุณเทวัญ ที่ยืนอยู่ข้างๆคุณวารีรีบเข้าไปประคองร่างของภรรยาอย่างรวดเร็ว

“ใจเย็นๆก่อนน้ำ”

“คุณพี่คะ! คุณพี่จะให้น้องใจเย็นได้ยังไงกัน นายวิน...นายวิน มันทำ...มัน...โฮ...”

จบคำพูดคุณวารีก็ส่งเสียงร้องไห้ออกมาดังลั่นพลางตบลงบนอกของตนเองพลางร้องคร่ำครวญถึงชื่อเสียงที่กำลังจะป่นปี้หากว่าแขกเหรื่อที่กำลังรออยู่ภายนอกรับรู้ว่าเจ้าบ่าวของงานในคืนนี้...หนีไปแล้ว

โฮ...เธอล่ะอยากจะกลั้นใจตายเสียจริงๆ! ลูกหนอลูก...ทำแบบนี้กับเธอได้อย่างไรกัน...

“แล้วอย่างนี้เราจะทำยังไงกันดีล่ะคะพี่น้ำ ตาวินเล่นหนีไปดื้อๆแบบนี้น่าตีจริงๆเชียว” คุณวารินพูดขึ้นในขณะที่มือก็โบกเจ้ากระดาษที่พ่อหลานชายตัวดีของเธอทิ้งข้อความบอกทุกๆคนไว้นั่นแหละโบกพัดให้กับพี่สาวที่ตอนนี้ยืนทำตาปรือทำท่าจะเป็นลมแหล่มิเป็นลมแหล่ภายในอ้อมแขนของคุณเทวัญ “แล้วนี่อะไรกัน! ถ้าไม่รักไม่ชอบหนูกานต์ทำไมไม่บอกเสียตั้งแต่แรกๆ...นี่อาร๊าย! ทำท่ายอมมาตลอดแล้วจู่ๆเล่นหนีไปเฉยเลยแบบนี้ แล้วทีนี้พี่น้ำจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกันล่ะคะ!”

“โฮ!”

ยิ่งได้ฟังคำพูดของน้องสาวคุณวารียิ่งร้องเสียงดังมากยิ่งขึ้นร้อนถึงคุณเทวัญที่ทำหน้าที่ปลอบคนเป็นภรรยาให้ใจเย็นลง ในขณะที่ปรายตาไปมองคุณวารินที่ยืนข้างๆกัน คิ้วเรียวที่กันอย่างดีของเธอขมวดเป็นปมในขณะที่มือก็พัดเจ้ากระดาษให้กับภรรยาของเขาด้วยสายตาไม่ชอบใจนักที่พูดให้คุณวารีคร่ำครวญมากขึ้นกว่าเดิม

“พี่ว่าน้ำหยุดร้องไห้ก่อนดีกว่าแล้วรีบมาช่วยกันคิดแก้ปัญหาก่อน”

“เอ๊ะ! นี่คุณพี่ว่าน้องเหรอคะ?”

คุณวารีที่ทำท่าจะเป็นลมถามสามีเสียงเขียว หมดสภาพคนเป็นลมในทันที

“พี่ก็บอกให้เธอเลิกร้องคร่ำครวญแล้วมาช่วยกันแก้ปัญหากันดีกว่าน่ะสิ”

“ดู๊! ดูนะฝน ดูพี่เขยของเธอมาหาว่าพี่เป็นตัวถ่วงปัญหา...” คุณวารีหันไปพูดเป็นเชิงฟ้องกับน้องสาวทำให้คุณเทวัญได้แต่ถอนหายใจเฮือกออกมาอย่างไม่ปิดบังและนั่นยิ่งทำให้คุณวารีรู้สึกเหมือนถูกว่าทางอ้อม “นั่นๆ ถอนหายใจด้วย...พี่เขยเธอถอนหายใจด้วยนะยัยฝน!”

“หยุดโวยได้แล้วน่าน้ำ” คุณเทวัญพูดในขณะที่ดึงตัวคุณวารีที่กำลังเกาะแขนคนเป็นน้องสาวแล้วฟ้องออกมา แต่ยังไม่ทันที่ใครจะได้เอ่ยอะไรออกมาต่อ ประตูของห้องพักที่พวกเขาจองเอาไว้ให้เป็นห้องแต่งตัวของเจ้าบ่าวก็เปิดออก

ชายหนุ่มที่อยู่ในชุดสูทสีดำสนิทแนบไปกับลำตัวขับให้คนใส่ดูดีถึงดีมาก แล้วยิ่งประกอบกับใบหน้าหล่อเหลาดั่งพระเจ้าบรรจงสร้างไม่ว่าจะเป็น จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากบางเฉียบเหมือนริมฝีปากของผู้หญิง คิ้วเข้มพาดเหนือดวงตาคมสีดำสนิททำให้บุคคลทั้งสามในห้องต่างหยุดถกเถียงกันทันทีแล้วจ้องผู้มาใหม่เป็นตาเดียว

“คุณพ่อ...คุณแม่...น้าฝน มองผมทำไมเหรอครับ?”

“...”

ไม่มีคำตอบหลุดลอดออกมาจากริมฝีปากของบุคคลที่ถูกเรียก แต่ทุกๆคนต่างก็หันไปสบตากันอย่างมีเลศนัยเว้นแต่ผู้มาใหม่เท่านั้นที่ได้แต่มองคนโน้นทีคนนี้ทีด้วยสายตางุนงง

แล้วนี่นายวินมันไปมุดหัวอยู่ที่ไหนนะ! ตอนนี้ก็ใกล้จะเริ่มงานแล้วด้วย

ชายหนุ่มคิดในขณะที่สอดส่ายสายตามองหาคนที่เป็นเจ้าบ่าวของงานในวันนี้ไปด้วย

“น้องว่าเรารอดตายแล้วนะคะพี่น้ำ...คุณพี่เขย”

คุณวารินพูดขึ้นมา ในขณะที่พี่น้ำและคุณพี่เขยต่างพนักหน้ารับแล้วทุกๆสายตาก็หันขวับไปมองคนที่อายุน้อยที่สุดโดยพร้อมเพรียง ทำเอาคนถูกมองอดที่จะสะดุ้งไม่ได้

คุณวารีปราดเข้าไปหาเขาอย่างรวดเร็ว ตามด้วยคุณวารินที่ตามติดมาอย่างกระชั้นชิด สายตาของหญิงวัยกลางคนทั้งสองที่เอาแต่มองเขาอย่างประเมินทำให้ชายหนุ่มรู้สึกร้อนๆหนาวๆอย่างไรพิกล เขาหันไปสบตากับผู้เป็นบิดาก็เห็นว่าท่านมองเขาเขม็งด้วยสายตาครุ่นคิดเช่นกัน

“น้องว่าตาวาขาวกว่าตาวินนะคะพี่น้ำ”

“แต่พี่ว่าแค่ใบหน้าเหมือนกันนี่ก็ใช่ได้แล้วนะฝน”

“งั้นคงพอกล้อมแกล้มไปได้ล่ะค่ะคุณพี่อีกอย่างเขาคงไม่สักเกตหรอกมั้งคะว่านายวินมีผิวขาวมากกว่าปกติ”

“พี่ก็ว่าอย่างนั้น”

คุณวารีพยักหน้าหงึกในขณะที่มือก็พลิกใบหน้าของชายหนุ่มที่กำลังถูกดูตัวอย่างพินิจพิจารณาไปด้วย

“ตาวา...”

คุณวารีเรียกชื่อเขาออกมาในที่สุด

“อะไรครับแม่”

“แม่วานอะไรหน่อยสิ”

“อะไรครับ”

ชายหนุ่มขมวดคิ้วมุ่น รู้สึกเสียวสันหลังอย่างไรชอบกล...

“ช่วยเป็นเจ้าบ่าวแทนนายวินที...”

“หา!”



++++++++++++++++++++++++++++++++++++



ในห้องแต่งตัวของเจ้าสาว...


คุณแม่คะ...
กานต์ขอโทษที่ไม่อาจแต่งงานกับคุณเทวินทร์ได้ กานต์ไม่ได้รักเขา
หวังว่าแม่จะให้อภัยกานต์นะคะ
กานต์กมล




“โอย...ฉันจะเป็นลม”

หลังจากที่อ่านจบคุณเมษาร้องขึ้นแล้วพลันร่างของเธอก็ซวนเซไปมา จนหลานสาวที่ยืนหน้าซีดไม่แพ้กันรีบปรี่เข้ามาประคองอย่างรวดเร็ว

“ใจเย็นๆนะคะคุณป้า”

หญิงสาวพูดพลางพยุงร่างที่อวบของคนเป็นป้าให้ไปทรุดนั่งที่เก้าอี้อย่างทุลักทุเล

“จะให้ป้าใจเย็นได้ยังไงยัยไก่! หมดๆ หมดกัน...ป้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน มีลูกสาวกับเขาคนเดียวแล้วมาทำงามหน้านัก!”

คุณเมษาคร่ำครวญในขณะที่มือข้างหนึ่งที่มีกระดาษจดหมายของกานต์กมล ลูกสาวคนเดียวทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า ก่อนที่เจ้าตัวจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย...ในวันแต่งงานของตัวเอง!

“ถ้ามันไม่เต็มใจตั้งแต่แรกทำไมมันไม่มาบอกฉัน!”

“เอ่อ...ไก่ว่าเรารีบไปบอกคุณป้าวารีกับคุณลุงเทวัญดีกว่านะคะ”

คุณเมษาที่ได้ยินคำแนะนำของหลานสาวก็ได้แต่ร้องค้านเสียงดัง

“ต๊าย! ไม่ได้ๆ ยังไงก็ไม่ได้นะยัยไก่! ถ้าไปบอกอย่างนั้นยัยน้ำต้องเอาป้าตายแน่ๆ แล้วไหนจะแขกเหรื่อที่รออยู่ข้างนอกอีกล่ะ โอย...แค่คิดป้าก็อยากจะตายแล้วยัยไก่”

“ถ้าไม่บอกคุณลุงเทวัญคุณป้าวารี แล้วคุณป้าจะทำยังไงล่ะคะ”

“เฮ้อ...” คุณเมษาถอนหายใจยาวพลางหลับตานิ่ง ก่อนจะลืมตาขึ้นมาแล้วสปริงตัวนั่งหลังตรงอย่างรวดเร็วหมดคราบคนกำลังจะเป็นลมจนกัตติการู้สึกทึ่ง

“ยัยไก่!”

คุณเมษาเรียกชื่อหลานสาวออกมาดังลั่น จนคนถูกเรียกถึงกับสะดุ้ง

“อะไรคะคุณป้า?”

“เรานั่นแหละ...เราต้องช่วยป้านะ”

“ช่วยอะไรคะ?”

“ช่วยเป็นเจ้าสาวแทนยัยกานต์ที!”

“อะไรนะคะ?!!”




+++++++++++++++++++
จบบทนำ
และเป็นบทนำชุดเดียวกันกับชุลมุนลุ้นรักค่ะ อิอิ
เนื่องจากทุกอย่างเริ่มต้นที่นี่ จะไม่ลงก็กลัวจำเนื้อหาไม่ได้
งั้นก็ ลงซะเลย อิอิ






Create Date : 03 กันยายน 2553
Last Update : 3 กันยายน 2553 12:07:46 น.
Counter : 351 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

การิ๋งกิ๋งกิ๋ง
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ยินดีต้อนรับเข้าสู่บ้านหลังน้อยของธีรตี - พิรฏาค่ะ ^^
ผ่านไปผ่านมาแวะทักทายกันได้นะคะ



งานเขียนทั้งหมดใน blog นี้
สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย พระราชบัญญัติ พ.ศ.2537
ห้ามนำไปพิมพ์ เผยแพร่ หรือลอกไปกระทำการใดๆ ก็ตาม
New Comments
Group Blog