Winter must be cold for those with no warm memories
 
 

อารมณ์ไหน ?





...หวั่นไหว ไหวหวั่น ใจสั่นนัก

ต้องมนต์รัก ตราตรึง สุดถอดถอน

ตาสบ สบตา ใจอาวรณ์

แม้นร้างรอน แรมไกล ใจผูกพัน...


งงมั้ย วันนี้เจ้าของบล็อคอารมณ์ไหนกัน เอากลอนมาลง เดี๋ยวจะเฉลยนะ ตอนนี้ขอบ่นนิดนึง (เห็นใจคนอัดอั้นไม่ได้อัพบล็อคนานหน่อยนะจ๊ะ อิอิ) ช่วงนี้ เหมือนจะเคลียร์งานเก่าออกไปได้บ้างแล้ว ค่อยสบายใจหน่อย มีเวลามาแอบอัพบล็อคอีกหน เผลอดีใจไปได้จึ๋งนึง มานั่งเปิดปฏิทินดู ถึงรู้ว่าวันเสาร์ที่ 1 เมษา ที่ตอนแรกตั้งใจไว้ว่า จะไปเดินงานหนังสือฯ ดันติดงานที่บริษัท เซ็งสุดๆ ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าวันอื่นยังมี แต่เสียดายนิดๆ เพราะมันตั้งใจไว้แล้ว ต้องมาเสียความตั้งใจซะนี่ เฮ้อ...

โอเค ได้บ่นแล้ว สบายยใจ...ที่เอากลอนมาอัพแบบนี้ จริงๆแล้วอยากมอบให้เพื่อนซี้คนนึง เอ่อ...เพื่อนผู้หญิงอ่ะนะ อย่าเพิ่งเข้าใจว่า เราแอบมีกิ๊กล่ะ เพื่อนคนนี้เราเรียกได้ว่า ซี้ปึ้กๆกันมาตั้งแต่สมัยยังใส่เอี๊ยมผูกโบว์ เหมือนจะนานเลยเนอะ ซี้ขนาดไหนบอกไม่ถูกนะ รู้แต่ว่า เขาทุกข์ เราก็ทุกข์ เขาสุขเราก็ดีใจด้วย แล้วในช่วงเวลาที่เราทุกข์ใจบ้างแล้วโทรไปหา เพื่อนไม่เคยเซ้าซี้ถามเลยว่าเพราะอะไร แต่บอกเราว่าไม่สบายใจให้ร้องไห้ออกมา แล้วตัวเขาก็ร้องไห้เป็นเพื่อนเราซะนี่...

วันนี้เป็นวันเกิดของเขาแหละ กลอนที่เอามาลงไม่ได้เกี่ยวกับความเป็นเพื่อนเลย แต่ชอบแต่งแต่กลอนรักๆนี่ กลอนมิตรภาพแต่งไม่ได้อ่ะ

ขอให้เพื่อนมีความสุขมากๆ คิดถึงเพื่อนจังเลยเรา




 

Create Date : 04 มีนาคม 2549   
Last Update : 4 มีนาคม 2549 15:50:08 น.   
Counter : 475 Pageviews.  


เพราะ...รัก

...เธอเคยถามกับฉัน ที่ฉันรักเธอ ว่าอยากจะรู้รักเพราะอะไร
กลับไปคิดไปค้น ใคร่ครวญมากมาย ไม่เจอ...คำตอบ
ที่ผ่านมานั้นไม่คิดอยากรู้ที่มา และไม่เคยหาเหตุผลใดๆ
แค่ตัวฉันเพียงรู้ ว่าเป็นสุขใจเมื่ออยู่เคียงกัน...

เสียงเพลงเบาๆจากวิทยุที่กำลังเล่นอยู่นี้ ทำให้ผมอดยิ้มออกมาไม่ได้ สำหรับผมแล้ว
ทุกครั้งที่ผมได้ฟังเพลงนี้ ภาพของผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งจะชัดเจนในใจของผมเสมอ
ผมอดเหลียวไปมองเจ้าของภาพในใจของผมไม่ได้ เธอกำลังขะมักเขม้นอยู่หน้าจอ
คอมพิวเตอร์เพื่อสะสางงานด่วน เมื่อตอนเย็นหลังเลิกงานผมไปรอรับเธอที่ออฟฟิศ
เพื่อจะไปฉลองครบรอบปีที่ 7 ที่เราคบกัน

"ขอโทษนะ สันต์ สงสัยวันนี้เราคงไปไหนไม่ได้แล้วล่ะ มีงานด่วนเข้ามา เนี่ยฝนกำลัง
จะหอบกลับไปทำต่อที่บ้าน"

ในวันที่มีความหมายสำหรับเราสองคน แทนที่จะได้พาเธอไปดินเนอร์ใต้แสงเทียน
ฟังเพลงเบาๆอย่างที่ตั้งใจไว้ กลับต้องมานั่งแกร่วอยู่ที่บ้านของเธอแบบนี้ น่าแปลก
ที่ผมไม่ได้รู้สึกน้อยใจเธอเลย ผมเข้าใจดีถึงความรับผิดชอบของเธอที่มีต่องานที่
ได้รับมอบหมาย และผมก็ไม่อยากให้เธอกังวลใจใดๆ จึงอาสามานั่งอยู่เป็นเพื่อน
ดูเธอทำงานเงียบๆอยู่แบบนี้

เราสองคน ฝนกับผม เจอกันครั้งแรกเมื่อตอนที่เธอเข้ามาเป็นน้องใหม่ที่คณะ ในตอนนั้น
ผมรู้จักกับเธอในฐานะรุ่นน้องคนหนึ่ง แต่เราได้เริ่มสนิทสนมกันมากขึ้นเมื่อตอนที่ผมเข้า
ไปจีบเพื่อนเธอ และมีเธอคอยเป็นกองเชียร์อยู่กลายๆ เธอมักจะให้กำลังใจและช่วยให้
ข้อมูลดีๆแก่ผมเสมอ

หนึ่งปีเต็มๆที่ผมเฝ้าตามจีบเพื่อนของเธอ สุดท้ายก็ลงเอยด้วยความผิดหวัง ผมคงจะเสียใจ
มากกว่านี้ ถ้าตอนนั้นไม่ได้เธอมาคอยปลอบใจ เธอมักจะยิ้มให้ผมเสมอในเวลาที่ผมทำหน้า
เศร้า รอยยิ้มของเธอทำให้ผมอาการอกหักของผมทุเลาลงได้ จนวันหนึ่งเธอมาสารภาพกับ
ผมว่าเธอแอบชอบผมมานานแล้วและเพราะความที่ผมก็รู้สึกดีๆกับเธออยู่บ้าง จึงทำให้เรา
ตัดสินใจคบกันอย่างเปิดเผย

จนถึงวันนี้ 7 ปีแล้วที่ความรู้สึกของเธอยังมั่นคงต่อผมไม่เคยเปลี่ยน แต่สำหรับผมแล้วยิ่ง
นานวันก็เหมือนจะรู้ใจตัวเองมากขึ้นทุกที ผมเฝ้าถามตัวเองหลายครั้งว่าความรู้สึกที่มีต่อ
เธอมันลึกซึ้งแค่ไหน แต่คำตอบที่ได้ก็ไม่เหมือนเดิมเลยสักครั้ง จนเมื่อเดือนที่แล้วผม
บังเอิญได้เห็นเธอวงปฏิทินวันนี้เอาไว้ คำสั้นๆที่เขียนว่า "Anniversary" ทำให้ผมตัดสินใจ
เลือกวันนี้เพื่อจะเปิดใจคุยกับเธอ

ผมตั้งใจจะเรียกเธอ แต่แล้วก็ตัดสินใจผละจากโซฟายาวที่นั่งอยู่ สาวเท้าเข้าไปหาเธอที่
โต๊ะแทน

"เบื่อรึยังคะ สันต์" เธอหันหลังมาส่งยิ้มหวานให้ผม ดวงตาใสแจ๋วของเธอเต็มเปี่ยมไปด้วย
ความรักยามเงยขึ้นสบตาของผม ผมเริ่มใจสั่น ประหม่ากับสายตาแบบนี้ จนเกือบเปลี่ยน
ความตั้งใจที่คิดไว้ก่อนหน้านี้

"ผม..เอ่อ...ขอคุยด้วยสักหน่อยได้มั๊ย" เธอทำตาโตเป็นเชิงแปลกใจ แต่ก็ยอมให้ผมจับ
จูงมานั่งที่โซฟายาวกลางห้องอย่างว่าง่าย เธอดูเหนื่อยล้าจากการนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์
เป็นเวลานาน แต่ก็ยังส่งยิ้มให้ผม ขยับตัวให้ผมนั่งลงข้างๆ

"ฝน..7 ปีแล้วนะที่เราคบกันมา" ผมเอ่ยทำลายความเงียบขึ้นมาก่อน "ตลอดเวลาคุณดีกับ
ผมเสมอ แต่ผมไม่เคยทำอะไรที่ดีๆให้คุณเลย"

"สันต์ คุณก็รู้ ฉันไม่เคยอยากได้อะไร.." เธอเอื้อมมือเล็กอุ่นๆมากอบกุมมือใหญ่ๆของผม
เอาไว้

"ผมเคยคิดนะว่าอยากให้คุณได้เจอใครสักคนที่ดีกว่าผม แต่ตอนนี้คุณทำให้ผมรู้สึกว่าอยาก
เป็นผู้ชายที่ดีกว่านี้เพื่อคุณบ้าง.....ผมมีอะไรอยากให้คุณ"

กล่องสี่เหลี่ยมแบนๆสีชมพูอ่อนถูกวางลงในมือของเธอ เธอทำหน้าประหลาดใจเมื่อเปิดมัน
ออก ล็อกเก็ตรูปหัวใจทำจากทองคำขาววางอยู่อย่างสงบ เธอหยิบมันขึ้นมาด้วยมือที่สั่นเทา
ภายในล็อคเก็ตมีรูปของเธออยู่ ด้านหลังมีรอยสลักคำว่า 'FD'

"คืออะไรคะ" เธอเอ่ยถามผมเบาๆเมื่อมองเห็นรอยสลัก

"ชื่อย่อของคุณไง"

"ชื่อย่อของฉัน คือ 'FT' ต่างหาก คุณจำผิดแล้วล่ะค่ะ" สีหน้าของเธอผิดหวังเล็กน้อย น้ำเสียง
นั้นบอกให้รู้ว่ากำลังน้อยใจ

"อ้าว...หรอ" ผมตีหน้าสำนึกผิด

"ถ้าอย่างนั้น......แทนที่เราจะให้เขาแกะสลักให้ใหม่ ทำไมเราไม่เปลี่ยนนามสกุลคุณแทนล่ะ"

ผมล้วงหยิบกล่องกำมะหยี่เล็กๆสีเดียวกันออกจากกระเป๋ากางเกง ก่อนเปิดมันต่อหน้าเธอ
แหวนเพชรเม็ดงามกำลังเปร่งประกายสู้กับนัยน์ตาของเธอที่บัดนี้พร่างพราวไปด้วยหยดน้ำใสๆ

"ฝนคุณรู้มั๊ย ผมรักคุณมากขึ้นทุกๆวัน แต่งงานกับผมนะ" ผมกระซิบข้างหูเธอเบาๆ ชั่ววินาที
นั้นที่เธอโผเข้าโอบกอดผมแล้วร้องไห้ ผมรู้สึกหัวใจตัวเองกำลังพองโต

"แบบนี้หมายความว่าตกลงรึเปล่าครับ" โดยปราศจากคำพูดใดๆ มีเพียงอาการพยักหน้าน้อยๆ
เท่านั้นแทนคำตอบ...

..หากจะหาเหตุผลสักคำ ว่าสิ่งที่ทำให้ฉันรักเธอ
นั่นเป็นเพราะตัวฉันมาเจอ เจอสิ่งดีงาม...




 

Create Date : 29 สิงหาคม 2548   
Last Update : 1 ธันวาคม 2548 8:51:46 น.   
Counter : 280 Pageviews.  



W i n t e r b e r r y
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add W i n t e r b e r r y's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com