W H I T E A M U L E T
Group Blog
 
All blogs
 
PREVIEW เทสรองพื้นที่ Cle De Peau @Matsuzakaya

เหตุจากเมื่อวานมีมีตติ้งแล็บแต่เช้า
ตื่นเช้า(แปดโมงเนี่ยเช้าเหรอเนี่ย )เกิน
ง่วงนอนมาก ตกเย็นมาไม่มีอารมณ์อ่านเปเปอร์ต่อ
เลยแว่บจากแล็บ ไปลองรองพื้นที่ Matsuzakaya ดีกว่า
อ่านรีวิวของคุณเทนใน pantip แล้วอยากไปลองมากๆ
หลังเคยผิดหวังจากเคาเตอร์ Sisley มาแล้วก่อนหน้านั้น
(ที่ผิดหวังคือ BA ยืนกรานว่าผิวแห้งไม่เหมาะกับรองพื้นเทพรุ่นนั้น
ไม่ลองบนหน้าให้ด้วยซ้ำ เลยได้กำเงินกลับบ้านมือเปล่า)

ว่าแล้วก็ไปเลยดีกว่า กางร่มเดินจากมหาลัยถึงห้าง (สัก 2-3 กิโลได้มั้งเนี่ย)
ฝนก็ตกพรำๆอยู่ได้ทั้งวี่ทั้งวัน จากพยากรณ์จะตกต่อเนื่องถึงวันเสาร์เลย
ช่วงขาเปียกแฉะไปหมด ดีว่าหัวฉีดสเปรย์ ケープ・スーパーハード กระป๋องฟ้าไว้
ผมเลยอยู่ทรงไม่หวั่นแม้วันอากาศชื้นมาก
ดีใช้ได้เลย ขอแนะนำสำหรับคนผมเบาเหมือนเรา
ที่เจออากาศชื้นทีไร ผมฟูเละดูไม่จืด

เอ้า กลับๆๆๆ กลับมาเข้าเรื่องกันก่อน
หลังจากเดินวนๆดูทุกเคาเตอร์สองรอบก็ตรงเข้าเคาเตอร์เป้าหมาย
เคาเตอร์ Cle De Peau อยู่ทางริมๆถัดๆจากเคาเตอร์ lunasol -> kose
ดูแล้วเหมือนเคาเตอร์ลูกเมียน้อยยังไงไม่รู้ เคาเตอร์จิ๊ดเดียวเอง
เทียบกับเคาเตอร์ที่อยู่ตรงส่วนกลางห้างแล้วดูเล็กไปถนัดเลย

มี BA ผู้หญิงสองคน คนนึงยังสาวอยู่ อีกคนค่อนข้างมีอายุแล้ว
ถึงหน้าตาเราดูไม่น่าใช่ target group ของแบรนด์นี้เท่าไหร่
แต่ BA คนที่ว่างอยู่ (คนที่มีอายุ) ก็วิ่งกุลีกุจอมาถามเราทันทีว่าสนใจตัวไหน
(สิ่งหนึ่งที่ชอบญี่ปุ่นก็ตรง service mind สุดยอดนี่ล่ะ)
ได้ทีเราก็แจ้งความจำนงทันทีสิ จะรออะไร เดี๋ยวฝนก็ยิ่งตกหนักกลับลำบากพอดี
บอกว่าสนใจอยากลองรองพื้น ที่ไม่ใช่แป้งผสมรองพื้น
แต่มันราคาแพง ขอคลีนหน้า แล้วลองก่อนได้มั๊ย แล้วจะตัดสินใจอีกที
(ง่ายๆคือ วันนี้เงินไม่กระเด็นจากกระเป๋าแน่ๆนั่นเอง)

BA ก็รับคำ はい、かしこまりました。どうぞ。 แล้วพามานั่ง
เอาที่วางร่มมาให้ เอาผ้ามาคลุมเสื้อให้กันเลอะเสื้ออย่างดี
ก่อนอื่นก็เลือกกันก่อนว่าอยากลองรุ่นไหน
ตามชาร์ทด้านล่างนี้ (แต่ที่เคาเตอร์เป็นชาร์จอีกแบบนึง)

ตามชาร์จมีสี่แกน ทางซ้ายคือ mat ขวาคือพวก dewy
บนคือปกปิดมาก และล่างคือปกปิดน้อย
สำหรับเราที่ผิวแห้งและผิวไม่ต้องปกปิดอะไรมาก (ยกเว้นแพนด้าใต้ตา)
BA แนะนำเป็นสามตัวขวา แต่เราไม่ชอบแบบแป้งๆเลยตัดแบบตลับออกไปได้เหลือแค่สองตัว

สรุปขอเลือกลองรุ่นเก่า (แบบกระปุกสี่เหลี่ยมอ้วนๆ ตามรูปด้านล่าง)

ก่อนจะเลือกสีต้องทำการคลีนหน้าซะก่อน
BA ยืนกรานนะคะ ว่าต้องคลีนก่อนถึงเลือกสีได้ ไม่งั้นสีอาจผิดได้

คลีนหน้าเสร็จก็วิเคราะห์สีกันเลย มีเครื่องสแกนสีและโปรแกรมพร้อม
เอาที่วัดสีผิวหน้า รูปร่างคล้ายๆที่ยิงบาร์โค้คที่ไทยมาแปะแถวๆแก้มใกล้ๆคางเพื่อวัดสีผิวที่หน้า
แล้วก็ค่อยไปแปะอีกทีที่คอเพื่อวัดสีผิวที่คอ
เค้าเน้นด้วยนะคะว่าต้องวัดที่หน้าด้านซ้าย
เพราะผิวด้านซ้ายจะโดนแดดและคล้ำกว่าผิวหน้าด้านขวา

เสร็จแล้วก็ขึ้นเป็น ภาพวงรีสองวงซ้อนกันที่จอ
เนื่องจากหน้าขาวกว่าคอ เลยอยู่ที่ประมาณสี O10 (オークル)
ส่วนคออยู่ที่ประมาณสี O20
สรุปแล้ว BA เลือกให้เป็นสี O20
เพราะส่วนที่วงรี intersect กันมันอยู่ทาง O20 มากกว่า
ปกติตัวเองชอบขาวมากกว่านะคะ แถมสีนี้ในกระปุกดูดำเชียว
แต่ BA ก็ยืนยันว่าสีนี้ดีกว่าไม่งั้นหน้าจะลอยไป ก็เอาน่ะ เชื่อเค้าละกัน

แล้วก็ลงมือทากันเลย หลังลงเบสในภาพด้านล่างให้
ก็เอาฟองน้ำมาเกลี่ยๆรองพื้น เสร็จสรรพก็ตบแป้งเซ็ตให้เรียบร้อย


ไหนๆแวะแล้ว ต้องลองให้คุ้ม ก็ต่อด้วยลองลิปสติกอีกหน่อย
บอกตรงๆว่าตอนแรกที่เห็นรีวิวในเว็บไม่ค่อยชอบรุปร่างมันเท่าไหร่เลย
แท่งดำๆนึกถึงลิปแท่งดำของ suqqu
ส่วนตัวไม่ค่อยชอบ ชอบรูปร่างแบบแท่งขาวมากกว่า
แต่อันนี้พอเห็นของจริงแล้ว มันสวยเข้าตาเรามากอ่ะค่ะ (หมายถึง ภายนอกนะคะ)
ก็เลยหยิบมาลองซะเลย เป็นคนชอบของสวยๆงามๆ หนิ
(เป็นนิสัยที่ไม่ควรเอาอย่างนะคะ ชอบของที่แพ็คเกจสวยเนี่ย )
เลือกชมพูสามแท่งมา สุดท้ายลองสองสี 105 ที่ริมฝีปากล่าง
และ 106 ที่ริมฝีปากบน
เราริมฝีปากแห้งนะคะ แต่พอเช็ดปากเสร็จ
ไม่ลงกลอสเค้าก็เอาสปาตูล่าปาดลิปมาทาให้เลย
บอกว่ารุ่นนี้มันเหมือนมีกลอสในตัวอยู่แล้ว ไม่ต้องทาอย่างอื่นก่อน
สองสีไม่ต่างกันมาก สีน่ารักทั้งคู่เลยค่ะ แบบว่าชมพู๊ชมพูเลย
มีสิทธิได้เสียตังค์นะเนี่ย packaging ก็ถูกใจ สีก็สวยไม่ยุ่งยากทากลอสด้วย


เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จการลองค่ะ บอกแล้วหนิว่าวันนี้ไม่ซื้อ
เหตุเพราะยังเข็ดจาก water cream foundation LUNASOL
รองพื้นนี้ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะคะ สีนี่พอดีอย่างที่เราชอบเลยล่ะ
แต่พอใช้ไปสักระยะ เริ่มหายเห่อบ้าง
ก็สังเกตว่า ทารองพื้นนี้ทีไรจะดูหน้าแห้งแล้งยังไงชอบกล
ไม่ได้ทำให้หน้าเป็นขุยเพิ่มนะ แต่มันดู texture หน้าแห้งๆขาดน้ำยังไงไม่รู้
ขนาดคุณแฟนที่ไม่รู้เรื่องเครื่องสำอาง ยังทักเลยว่าดูเหมือนหน้าแห้งขึ้นนะ
ถ้าจะซื้อขวดใหม่ก็อยากให้แน่ใจตรงนี้ซะก่อน

ก่อนกลับก็ขอแซมเปิ้ลมาลองซะหน่อย
อยู่ญี่ปุ่นทั้งที ต้องขอมาลองให้หมด ไหนๆเค้าอุตส่าห์ให้แล้ว
ตอนลอง ลองรุ่นกระปุกสี่เหลี่ยมเบอร์ O20
เค้าเลยให้แซมเปิ้ลรุ่นน้ำขวดกลมๆสูงๆ ที่ออกใหม่มาลอง สองชุด
(ชุดนึงสี O10 อีกชุดสี O20 เพราะเห็นว่าสีของรุ่นนี้กับรุ่นกระปุก
ไม่เหมือนกันซะทีเดียว เลยให้มาลองทั้งสองสี)
ในชุดนึงเปิดมามีสี่ซอง สองซองบนเป็นรองพื้น
สองซองล่างเป็นเบส
โดยเค้าย้ำมาว่า หนึ่งซองให้ใช้หนึ่งครั้ง อย่าเปิดแล้วเก็บไว้ ให้ใช้ให้หมดทีเดียว

บอกตรงๆว่าตอนเค้าเปิดมานี่ตกใจเหมือนกัน
ทำไมแซมเปิ้ลเค้ามันดูอลังการงานสร้างดีจัง
มาแพ็คนึงสี่ซองเลย ตอนแรกนึกว่าจะได้มาสัก 1-2 ซอง
้ด้านล่างนี้คือโฉมหน้าของแซมเปิ้ลที่ได้มาค่ะ
รูปร่างเหมือนสมุดเป็นเล่มๆ มีวิธีการทาให้เรียบร้อย
รวมแล้ว 8ซอง เป็นเบส 4ซอง รองพื้นอีก4ซอง(2สี)



กลับมาบ้านแล้ว ก็คอยส่องกระจกอยู่เรื่อยๆ ว่ามันดูแห้งหรือเปล่า
แต่ก็ยังไม่ชัวร์อยู่ดี เพิ่งลองได้ไม่กี่ชั่วโมงเอง แถมฝนตกอากาศหนาวๆเย็นๆอีก
ลิปสติกก็ดูเนียนไปกับปากดี (ทั้งที่ปากเราลอกๆอยู่ก่อนลองทา)
แต่ก่อนนอน เผอิญกินชูครีมไปสองก้อน
กินไปต้องคอยปาดครีมที่เลอะรอบปากไป เลอะเทอะมากลิปเลยหายหมด
สรุปวันนั้นก็เลยไม่ล้างหน้า นอนมันอย่างนั้นซะเลย (ซกมกจริงๆ )
ตื่นมาเช้าวันนี้ รวมแล้วเป็นเวลา 12 ชั่วโมงนับจากตอนลอง
ส่องๆกระจกดู ก็ยังดูโอเคอยู่ ไม่หมอง ไม่แห้ง ยังเด้งดีอยู่
นั่งเช็คเน็ตต่ออีก 2 ชั่วโมง เริ่มมันนิดหน่อย
หน้าเริ่มแห้งแล้ว อันนี้ช่วยไม่ได้จริงๆเพราะเราผิวแห้งมาก
แถมไม่ได้ทาครีมเมื่อคืน ข้างนอกก็ฝนตกตลอดอากาศเย็น
แต่คิดว่าโอเคดีทีเดียว ไม่วอก ไม่ดูแห้งผาก นอนมาทั้งคืนก็ไม่เป็นคราบเลย

สรุปว่า BA ก็บริการดีมากค่ะ
แนะนำเราอย่างดี เลือกสีให้พอดีหน้า(และคอ)เลย ไม่วอกไปไม่คล้ำไป
(แต่ดูในตลับนี่ ดูสีเข้มน่าดูเลย)
รองพื้นก็ดูเนียนดี ไม่ดูหนาเกินไป และไม่ดูแห้งด้วย
เอาไว้ขอลองแซมเปิ้ลที่ได้มาให้หมดก่อน
แล้วค่อยคิดอีกทีว่าจะซื้อดีไหม
บางทีมันต้องลองหลายๆครั้งก่อนเนอะคะ ถึงจะตัดสินใจได้
ลองครั้งแรกๆบางทีอาการเห่อมันบังตาจริงๆ อะไรก็ดีไปหมด
พอตาหายฝ้าฟางจากการเห่อ ก็มานั่งเสียดายตังค์ทีหลังทู้กที


Create Date : 18 เมษายน 2551
Last Update : 9 พฤษภาคม 2551 11:04:56 น. 9 comments
Counter : 4424 Pageviews.

 
บริการทุกระดับประทับใจมากมาย รีวิวมีแต่เริ่ดๆ แบบนี้ หนูจะรอดมั้ยเนี่ย CDP


โดย: Crotte วันที่: 18 เมษายน 2551 เวลา:20:42:24 น.  

 
เมื่อไหร่ผู้บริโภคในเมืองไทยจะทำอย่างงี้ได้ซักกะที ...เอ๊...หรือทำได้แล้วแต่เราไม่ทำ


โดย: ไอริน วันที่: 19 เมษายน 2551 เวลา:1:04:28 น.  

 
อยากให้บีเอที่เมืองไทยบริการดีแบบนี้ทุกคนจังเลยนะคะ sample ที่ให้มาดูดีจังค่ะ น่าลองจังแฮะ


โดย: แมวจอมกวน วันที่: 19 เมษายน 2551 เวลา:1:33:16 น.  

 
อยากลองบ้างจังเลย ชอบ
サービス精神です。น่าประทับใจจังค่ะ


โดย: A PrInCeSs (A Princess ) วันที่: 19 เมษายน 2551 เวลา:2:52:47 น.  

 
ไม่ได้โพสลงบอร์ด นึกว่าจะไม่มีใครมาดูนะคะเนี่ย
ขอบคุณทุกคอมเมนต์ที่ไม่ปล่อยให้บล็อคร้างนะคะ

ปล. เราต้องเปิดดิคหาความหมายคันจิ
ในคอมเมนต์ของคุณ A Princess นะคะเนี่ย
แบบว่าเพิ่งระดับสามเอง ภาษาญี่ปุ่นยังอ่อนแออยู่เลยค่ะ
อาจารย์เร่งงานวิจัยยิกๆๆๆ ไม่มีโอกาสทบทวนภาษาเลย


โดย: White Amulet วันที่: 19 เมษายน 2551 เวลา:18:10:13 น.  

 
มันแพงอ่า แต่อยากได้


โดย: CinnamonGal วันที่: 20 เมษายน 2551 เวลา:18:06:55 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณมด
มีคนดังมาเจิมบล็อคด้วย แอบดีใจ

เรายังไม่ทันได้ถามราคามาเลยค่ะ (ลืมไป)
เพราะกะว่าวันนั้นไปลองอย่างเดียว
กำลังนึกอยู่ว่าถ้าแซมเปิ้ลชุดนี้หมด
อาจลองไปขอแซมเปิ้ลแบบครีมกระปุกเหลี่ยม
มาลองอีกที เพื่อเทียบกันให้ชัวร์
เผื่อว่าทาเองแล้วจะไม่งามค่ะ
(แต่คงต้องไปขอสาขาอื่นค่ะ เกรงใจเค้าเหมือนกัน
รู้สึก BA ห้างนี้ความจำดียังไงไม่รู้ ไปหนเดียวก็จำหน้าได้ซะแล้ว)


โดย: White Amulet วันที่: 20 เมษายน 2551 เวลา:23:44:50 น.  

 
เป็นรีวิวรองพื้นที่ให้ข้อมูลมีประโยชน์มากเลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะ
น่าเสียดายที่คุณเจ้าของกระทู้ผิวแห้ง
เราผิวมันคงต้องอ่านและนำข้อมูลไปปรับใช้แทนเนอะ ^ ^

ตอนอยู่ญี่ปุ่นเราก็ทำคล้ายๆคุณ White Amulet เลยค่ะ
ลองแหลก ขอแซมเปิ้ลแหลก บีเอน่าร้ากกกกกมาก

Cle de Peau นี่เล็งตัวคอนซีลเลอร์แท่งๆไว้ เพราะมีแต่คนบอกว่าเทพ
ไปลองครั้งแรก..โอ้..เนื้อดีมากกกก แต่สีไม่ได้เลยจริงๆ
ถ้าไม่ทาออกมาแล้วเทาๆ ก็ทาออกมากลายเป็นผีตองเหลือง 555
สรุปวันนั้นอกหัก ย้อมใจด้วยการซื้อ RMK แทน
(มิได้นำพาจริงๆ แหม -- --")
หลังจากนั้นยังไม่ยอมแพ้ ยังไปลองอีกหลายรอบด้วยความอยากได้
ยังไง๊ยังไงสีก็ไม่ได้จริงๆ บีเอยังยอมแพ้กับคอนซีลเลอร์
สุดท้ายเธอเลย..ลองแต่งหน้าใหม่เลยดีกว่าค่ะ คุณลูกค้า
ก็จัดการคลีนหน้า ลงสกินแคร์ แต่งหน้าให้ใหม่หมด
ช่วงนั้นเราผิวตรงแก้มแห้งนิดนึงเพราะอากาศเปลี่ยน
(จากผิวผสม-มันตอนอยู่ไทย ไปญี่ปุ่นก็แก้มแหงแตกไปเลย)
ปรากฎว่าตอนเช็ดๆหน้าไป เราก็แสบๆนิดหน่อย
ก็เลยถามว่า เอ..อันนี้มีแอลกอฮอลหรือเปล่าคะ รู้สึกแสบๆนิดหน่อย
คุณบีเอตกใจมากกกกกก ทำเอาเราตกใจไปด้วย
ถามใหญ่เลยว่า เป็นอะไรหรือเปล่าคะ เป็นมากหรือเปล่าคะ
เดี๋ยวขอเชิญเข้าไป calm ผิวในซาลอนก่อนนะคะ ฯลฯ
เอ่ออออ ลูกค้าตกใจค่ะ 555 น่าเสียดาย แต่วันนั้นรีบก็เลยไม่ได้เข้า T_T
สุดท้ายก็แต่งหน้า คุณบีเอบอกว่า ถึงคอนซีลเลอร์ใช้ไม่ได้ แต่คุณลูกค้าใช้รองพื้นใต้ตาแทนคอนซีลเลอร์ได้เลยนะค้า
แต่แบบว่า..มันครีมและหนามากเลยค่ะ สุดท้ายก็ไม่ได้สอยอะไรมา
คงต้องตัดใจจริงๆแล้ว พยายามมาหลายครั้งมากกับ CDP T_T
คุณบีเอเธอก็น่ารักมากๆค่ะ ยิ้มแย้ม ไม่มีเกี่ยงงอนเลย

แต่เห็นคุณ White Amulet รีวิวรุ่นขวดปั๊มแล้วแบบ..โอ้ววว อยากลองม้างงงง
ท่าทางจะดีน่าดูเลยค่ะ กิเลสก่อตัว 5555


โดย: RUBIS วันที่: 13 มิถุนายน 2551 เวลา:9:30:24 น.  

 
ตอนที่อกหักจากคอนฯของ CDP มาก็ไปซบอก RMK ทันทีเลยค่ะ
แต่ปรากฎว่าซื้อมาแล้วกลับไม่ค่อยได้ใช้เท่าที่ควร..มันแห้งๆง่ะ
เราใช้วิธีผสม beauty flash balm ของ Clarins ลงไป ก็พอใช้ได้ค่ะ
แต่มันแบบ..ยังไม่ปลื้มถึงที่สุด
จนเมื่อกลับไปญี่ปุ่นเมื่อเมษาที่ผ่านมา แวะไปสักการะเคาเตอร์ KP เพื่อซื้อแป้งฝุ่นสุดเลิฟตามปกติ
บีเอก็จับคลีนและแต่งหน้าใหม่หมด ลองไปลองมา..โอ้..คอนฯใต้ตาแจ่มอยู่
สุดท้ายก็เลยสอยมาค่ะ ของ KP จะเป็นสองหลอด สีเนื้อส้มๆกับสีเหลือง
ไม่เน้นปกปิดมาก แต่เน้นปรับสีผิวให้ดูสว่างขึ้นน่ะค่ะ ดังนั้นก็เลยจะไม่ดูหลอก
ไม่มีปัญหาว่าทาคอนฯลงไปแล้วจะออกมาดูสีเทาๆ
เอามาใช้แล้วก็ชอบมากค่ะ เนื้อชุ่มชื่นดีใช้ได้เลย
(เพราะปกติหน้าเรามัน แต่ใต้ตาก็แห๊งแห้งค่ะ T_T)
พอมาใช้ตัวนี้แล้วแอบรู้สึกโอเคกว่าทุกตัวที่เคยใช้มา
เผื่อคุณ White Amulet สนใจนะคะ ราคาประมาณสามพันเยนเอง
KP นี่พวก base make เค้าคุณภาพใช้ได้เลยค่ะ แต่ point make ยังไม่ค่อยโดนเท่าไหร่ ^ ^;

ปกติเราก็ไม่ได้ผิวแพ้ง่ายนะคะ ออกจะทนถึกไม่เคยแพ้อะไรจริงจัง
แต่ช่วงนั้นคงผิวอ่อนแอลงเพราะอากาศเปลี่ยน + ไม่ได้ดูแลเท่าไหร่
จากร้อนๆเมืองไทย ไปญี่ปุ่นแล้วยังดันทุรังใช้สกินแคร์ตัวเดิม แก้มก็เลยแตกหน่อยๆน่ะค่ะ
พอเจอสำลีเช็ดโทรเนอร์เข้าไปคงเลยแสบๆ แต่ก็ไม่ได้แพ้อะไรค่ะ ^ ^
แต่ก็ดีแล้วที่ไม่ได้ปิ๊งกับ CDP เพราะถ้าปิ๊งกับสกินแคร์ของเค้าเนี่ย...
เป็นหายนะของกระเป๋าสตางค์แน่ๆ T_____T

สำหรับรองพื้น..แอบเข้าไปอ่านรีวิวมาแล้วค่า
ยิ่งอ่านยิ่งกริ๊บกริ้วสุดๆไปเลยค่ะ โอ้ววว อยากลอง อยากด้ายยย 5555
แต่คิดว่าตอนนี้อยู่ไทยคงไม่ไหวล่ะค่ะ เหงื่อท่วม
อย่าว่าแต่ CDP เลย ขนาด Sisley ที่คุมมันดี ตกบ่ายก็เหงื่อแตกหน้ามันเหมือนกัน
ถ้าใช้พวกครีมๆ คงใช้หน้าไปถูกระทะหอยทอดได้แน่ๆ XD
แต่ขอบคุณมากนะคะสำหรับรีวิว จะเก็บไว้เป็นรองพื้นในดวงใจที่ต้องลองในอนาคต
ไปเรียนต่อเมืองหนาวเมื่อไหร่ คงมีโอกาสได้ลองแน่ๆค่ะ น่าสนใจมากๆ

(เลื่อนไปดูภาพแก้มคุณ White Amulet แล้วเคลิ้มค่ะ เนียนสวยมาก
เห็นแล้วรู้สึกวิงเวียน อยากวิ่งไปเสียเงินให้ CDP มั่ง XDDD)


โดย: RUBIS วันที่: 13 มิถุนายน 2551 เวลา:9:30:43 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

White Amulet
Location :
Bangkok Thailand / Tokyo Japan

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 35 คน [?]




บล็อคนี้ถึงไม่ค่อยมีอะไรแต่ถ้าจะก๊อปปี้ข้อความหรือรูปอะไรไปโพสที่อื่น ก็รบกวนช่วยใส่เครดิตลิงค์บล็อคนี้ไว้ด้วยนะคะ

เราไม่สงวนลิขสิทธิ์การนำภาพและข้อความในบล็อคไปเผยแพร่(ในแบบที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์)แต่สงวนลิขสิทธิ์ความเป็นเจ้าของภาพถ่ายและเนื้อหาค่ะ

ค้นหาทุกสิ่งอย่างในบล็อคนี้

New Comments
Friends' blogs
[Add White Amulet's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.