W H I T E A M U L E T
Group Blog
 
All blogs
 
[DUC & Diary]@Japan ครั้งแรกกับ DUC เลือกๆมาแบบจับฉ่าย ;-)

สวัสดีใครก็ตามที่หลงเข้ามานะคะ คิดๆมานานแล้วว่าจะทำบ้างดีไหมหนอ เพราะปกติเป็นคนไม่โพสรูปลงเน็ตซะด้วย คุณแฟนเองก็ห้ามขาดเลย แต่ตัวเองก็ชอบแต่งตัวนะ มันเป็นเรื่องให้สดชื่นอย่างเดียวในชีวิตการทำวิจัยที่ญี่ปุ่นนี่ ถึงไม่ได้ไปไหนอยู่แต่โต๊ะเดิมๆที่เดิมๆก็เถอะ ได้แต่งตัวบ้างก็ยังดีจะได้ไม่ซ้ำซากจำเจ เหตุผลนึงที่เลือกมาเรียนต่อญี่ปุ่นนี่ก็เพราะชอบสไตล์การแต่งตัวนี่แหล่ะค่ะ แต่งได้อิสระไม่มีคนมองเหมือนที่ไทย

จริงๆตั้งแต่มาญี่ปุ่นครั้งแรก(เมื่อสักสามปีก่อนได้)เวลาใส่ชุดใหม่ๆหรือ Mix ใหม่ๆทีก็จะถ่ายรูปเก็บไว้ตลอดมีรูปเป็นร้อย อยากถ่ายเก็บไว้ว่าครั้งนึงเราเคยได้แต่งตัวแบบนี้กะเค้าเหมือนกันนะ อีกหน่อยกลับไทยแล้ว หรือพอเริ่มทำงานแล้วคงมาแต่งยังงี้ไม่ได้อีก(ค่อนข้างมั่นใจว่าสายงานที่ทำไม่สามารถแต่งตัวตามใจชอบได้แน่ๆ ไม่งั้นความน่าเชื่อถือจะลดฮวบ) ตอนเกิด DUC ขึ้นมายังแอบคิดในใจเลยว่า มีคนชอบถ่ายรูปชุดเก็บไว้เหมือนเราเยอะเหมือนกันนะนี่

คิดมาหลายตลบกว่าจะตัดสินใจ เพิ่งปั่นงานเสร็จไปอันนึงพอดีตอนนี้พอมีเวลาเรื่อยเปื่อยได้นิดหน่อย เลยขอลองสักหนแล้วกันค่ะ ลงบล็อคตัวเองเวลาจะกลบเกลื่อนหลักฐานจะได้ทำง่ายๆหน่อย ;P เพื่อเป็นการเซฟตัวเองเลยขอเบลอฉากให้เกลี้ยง ปิดหน้าปิดตากันหน่อยนะคะ เดี๋ยวเจ้าหนี้จะตามถูก ;P แล้วไหนๆก็ไหนๆแล้วก็อยากจะเก็บเรื่องราวบางอย่างที่เจอมาในญี่ปุ่น ณ ตอนนั้นลงมาด้วยค่ะ เป็น DUC & Diary ไปเลย

แนวที่เราชอบจะแนวหวานๆ ดีเทลเยอะๆนะคะ เรียกได้ว่า หวานจนเลี่ยน ใส่จนรกเลยล่ะค่ะ พวกเสื้อผ้าแนวเรียบๆคลาสสิคมีน้อย ชุดเดรสนี่โปรดสุดๆค่ะ คุณแฟนก็ชอบให้ใส่กระโปรงซะด้วย (แต่ก็จะบ่นโน่นนี่ตลอดว่าใส่สั้นไปๆๆๆ)

อย่างนึงคือ เราเป็นคน(แทบ)จะไม่ใส่แขนกุดเลยค่ะ ต้องมีเสื้อคลุมทุกครั้ง สะสมเสื้อคลุมและเสื้อนอกแบบต่างๆ เป็นงานอดิเรกเลยค่ะมีหลากหลายแบบมากๆ ก็อาจพอเป็นทางเลือกได้นะคะ ว่าถึงเราไม่เพรียวเหมือนสมัยนิยม ใส่แขนกุดใส่สายเดี่ยวไม่ได้ แต่ก็มีวิธีแต่งตัวให้สวยๆได้ในแบบของเราเหมือนกันค่ะ ^_^

ปล1 ส่วนสูง 158cm ค่ะส่วนน้ำหนักขอเป็นความลับ อายุก็เลข 2 เข้าช่วงปลายแล้ว แต่ก็ยังแอ๊บแต่งเด็กอยู่เรื่อยๆเพราะยังเรียน(วิจัย)อยู่ ตอนนี้เรียนอยู่ที่โตเกียวค่ะ

ปล2 รูปทั้งหมดถ่ายเองค่ะ ใช้ขาตั้งกล้องกับตั้งถ่ายอัตโนมัติเอา (ไม่มีรีโมทค่ะ ก็กดกล้องแล้วรีบวิ่งไปยืน) เผอิญทำมานานแล้วก็เลยชินค่ะรู้ว่าต้องยืนตรงไหนยังไง ส่วนรูปที่มาลงก็ถ่ายมาเรื่อยๆตั้งแต่ 2-3 ปีก่อนได้

---------------------------------------------------------------------------------------------------
ชุดแรก (ใส่ตอนมิถุนายน ช่วง Early summer)



*** MIX & MATCH ***

- เดรสสีขาวเกาะอก เป็นผ้าคล้ายๆถักโครเชต์ฉลุๆทั้งตัว ช่วงอกเป็นเชือกร้อยไขว้ๆ ซับในเย็บติดมาพร้อม (ซื้อจาก shibuya109)
- สายเดี่ยวสีขาว ช่วงอกเป็นลูกไม้ใส่ไว้ด้านในปิดช่วงอกไม่ให้โป๊ (ร้านเสื้อผ้าจีนแถวบ้าน ถู๊กถูก)
- ที่คาดผมมงกุฏสีเงิน (ซื้อจากไทย)
- แจ๊กเก็ตยีนส์แขนสั้น(แขนตุ๊กตา)กระดุมทอง แจ็กเก็ตแบบนี้ฮิตตอนสองปีก่อนได้ เน้นคอไม่มีปกค่ะ (ซื้อจากร้านใน shibuya109)
- ถุงน่องสีเนื้อ (ขี้เกียจทาเล็บ ก็เล่นถุงน่องนี่ล่ะค่ะง่ายดี)
- รองเท้ารัดส้นโบว์ขาว (ซื้อตอนร้านเค้าลดราคาจะปิดกิจการเลยได้มาถูกหน่อย 5000 กว่าเยนเอง ^_^ )

*** DIARY ***

จำได้ว่าแต่งชุดนี้ไปเดทกับคุณแฟน ตอนเดินแถวบ้าน(ย่านที่อยู่อาศัย)จะไปสถานีรถไฟ เห็นคนเหล่ๆเหมือนกันแอบเขินนิดๆเราแต่งตัวผิดฤดูหรือเปล่าเนี่ย จริงๆแขนสั้นก็ถูกต้องสำหรับหน้าร้อนนะ แต่คงจะดูหนาไปนิดมั้ง หน้าร้อนจะพวกผ้าฝ้ายหรือคอตต้อน(คล้ายๆอยู่ไทย) เสื้อยืดต่างๆมากกว่า ประมาณชุดนี้น่าจะใส่ปลายๆใบไม้ผลิ อีกอย่างไม่ได้ไปเดินย่านแฟชั่นคงดูเว่อร์ไปหน่อยด้วย หรือว่ามงกุฏบนหัวมันเตะตาชาวบ้านก็ไม่รู้สิคะ

วันนั้นไปตรงอาซาคุสะ คุณแฟนพาไปนั่งเรือฮิมิโกะ (link) ที่ล่อง ไปสุดสายที่โอไดบะ(สถานที่เดตยอดนิยมแห่งนึง พอมืดมานี่เดินตามชายหาดเห็นคู่รักกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันเต็มเลย เคยเกือบได้ดูหนังสดทีนึงแล้วถ้าไม่โดนคุณแฟนลากให้เดินต่อ) ยืนต่อคิวอย่างนานกว่าจะได้นั่ง แต่ก็ยังดีว่าทันรอบสุดท้ายพอดี

งานนี้คุณแฟนหน้าแตก เล่นโม้ไว้ซะดิบดีว่า ใครๆก็บอกว่านั่งเรือนี้น่ะโรแมนติคสุดๆ แล่นผ่านแม่น้ำชมวิวไปเรื่อยๆ ไปสุดตรง Rainbow Bridge หูย ฟังแล้วเคลิ้ม แต่เอาเข้าจริง ตอนนั้นมันหน้าร้อนแล้ว ขนาดนั่งรอบสุดท้าย ฟ้ายังสว่างโร่ไปจนถึงปลายทางเลย ไม่เห็นจะรู้สึกโรแมนติคสักนิด(แอบร้อนนิดๆด้วย) เอาไว้หน้าหนาวมืดเร็วๆ ช่วงที่เค้าประดับไฟคริสมาสต์ปีใหม่กันค่อยมาใหม่ดีกว่า คงสวยกว่านี้เยอะน่ะนะ ^_^
---------------------------------------------------------------------------------------------------


---------------------------------------------------------------------------------------------------
ชุดที่สอง (ใส่ตอนตุลา ช่วง Early autumn)



*** MIX & MATCH ***

- เดรสสีม่วงชมพูจาก shibuya109
- สร้อยคอกางเขนสีทองจาก Liz lisa (shibuya 109 เช่นกัน)
- รองเท้าสีครีม(เรียกว่า oxford shoes หรือเปล่าเอ่ย) โบว์สีทอง จากห้างใกล้บ้านไม่กี่พันเยน

*** DIARY ***

ชุดนี้ถูกใจโดยบังเอิญ ปกติไม่ชอบสีม่วงเลย แต่ตัวนี้น่ารักมากเลยซื้อมา แขนก็มีไม่ต้องมายุ่งยากหาเสื้อคลุม เนื้อผ้านิ่มๆลื่นๆบอกไม่ถูกแต่จะทิ้งๆตัวน่ะค่ะ จุดสำคัญของชุดนี้คือ สร้อยกางเขนเลยค่ะ ขาดไม่ได้เลยนะคะ ตอนใส่สร้อยกับไม่ใส่สร้อยนี่ดูผิดกันเลย ตอนไม่ใส่ดูแบบว่าสวยไม่เสร็จค่ะ โล่งๆบอกไม่ถูก

แต่สร้อยที่ขายพร้อมเดรสนี้แพงมากๆซื้อไม่ไหว เส้นละหมื่นกว่าเยน (แต่กางเขนเค้าก็งามจริงๆล่ะค่ะ ตัดใจอยู่นาน) เดินวนทั่ว 109 หาสร้อยที่จะเข้ากันได้จนไปเจอที่ Liz lisa นี่ล่ะค่ะ ถูกกว่าเยอะแต่สวยเหมือนกัน ตั้งแต่มาอยู่ญี่ปุ่นจะชอบเครื่องประดับสีทองๆ(แต่ก่อนอยู่ไทยชอบสีเงิน)ค่ะ ช่วยอัพความหรูหราให้ชุดที่ใส่ได้ (เผอิญชอบแนวนี้น่ะค่ะ)
---------------------------------------------------------------------------------------------------


---------------------------------------------------------------------------------------------------
ชุดที่สาม (ใส่ตอน พย เข้า Autumn เต็มตัวแล้ว)



*** MIX & MATCH ***

- เดรสลายสก็อตจาก Liz lisa (ที่ shibuya 109)
- หมวกgapลายสก็อตจาก INDIO
- รองเท้าบู๊ต จากร้านไหนสักร้านจำไม่ได้ คู่นี้เปลี่ยนส้นไปมากกว่าสามหนแล้ว คุ้มจริงๆ

*** DIARY ***

จริงๆช่วงนั้นควรใส่แขนยาวได้แล้ว แต่ลองไปลองมาชุดนี้ไม่เหมาะจะใส่อะไรทับเลย(โบว์ที่เอวใหญ่เกะกะมาก ใส่กับโค้ตก็ยาก) เอาคอเต่ามาใส่ด้านในก็ได้อยู่ แต่มันดูตลกๆเลยใส่มันเดี่ยวๆไปเดินชิบุยะเลยค่ะ โชคดีไปได้หมวกลายเดียวกันมาเข้ากันได้เป๊ะจากร้านราคาไม่แพง

แต่ทั้งชุดนี้มาตายตรงรองเท้านี่ล่ะค่ะ ชุดพองๆแบบนี้เหมาะกับบู๊ตมากกว่าพวกรองเท้าเปลือยๆน่อง แต่บู๊ตที่มีตอนนั้นก็สีไม่ค่อยเข้ากับชุดเลย มีคู่นี้แหล่ะที่ดูเข้าสุด อ่ะนะ ก็พอถูไถค่ะ มองข้ามๆสีร้องเท้าไปซะก็พอดูได้
---------------------------------------------------------------------------------------------------


---------------------------------------------------------------------------------------------------
ชุดที่สี่ (ใส่ตอนปลาย พย ตอนไปดูใบไม้แดงที่เกียวโต)



*** MIX & MATCH ***

- เดรสสีชมพูม่วงๆ ผ้าไหมพรมนิ่มมากๆ (จากร้านนึงใน shibuya109)
- เสื้อสายเดี่ยวขาวลูกไม้ช่วงอก ใส่กันโป๊ช่วงอก (กันหนาวด้วยค่ะ ช่วงนั้นเย็นแล้ว)
- เสื้อกล้ามสีดำลูกไม้คอวี ใส่ซ้อนทับสายเดี่ยวขาว ทำเป็นเลเยอร์ (ที่เห็นสีดำๆแพลมๆมาตรงช่วงอกน่ะค่ะ)
- jumper นวมสีชมพูของร้าน Tra La La ในเครือ Liz lisa จริงๆแขนยาวและมีฮู้ดด้วยแต่รูดซิปถอดออกไป เอามาใส่เป็นเสื้อกล้ามเล่นเลเยอร์แทน
- หมวกเบเร่ต์สีชมพู ที่หน้าตาเหมือนหมวกนักเขียนการ์ตูนน่ะค่ะ (จากร้านนึงใน shibuya 109)
- tight สีน้ำตาลแบบหนา
- ถุงเท้าสีดำยาวเหนือเข่า (พับเอานิดนึง ให้ไม่เลยหัวเข่า มันรัดแล้วต้นขาจะเป็นปล้องๆค่ะ)
- บู๊ตดำส้นสูงจาก esperanza คู่นี้ใส่งานไหนมักไม่ค่อยพลาด คู่ละ 1หมื่นเยนต้นๆ แต่ใช้จนจะพังแล้วค่ะ เรียกว่าคุ้มจริงๆ
- กางเกงขาสั้นกันหนาว ใส่ไว้ข้างในอีกชั้นนึง

*** DIARY ***

ใส่ชุดนี้ไปดูใบไม้แดงที่เกียวโตตอนช่วงอาทิตย์ที่พีคสุดๆ มีคุณป้าเจ้าของบ้านเช่าที่คุณแฟนอยู่ไปด้วยกันเป็นไกด์ให้ฟรี(เป็นช่างภาพให้ด้วย คุณป้าถ่ายรูปสวยมากทั้งๆที่กล้องธรรมดานี่แหล่ะ) แถมยังช่วยซื้อตั๋วรถให้ในราคาลดพิเศษสำหรับผู้สูงอายุญี่ปุ่นด้วย งานนี้เลยได้นั่งชินกังเซน โนโซมิ เป็นครั้งแรก แถมได้บัตรเงินอีก 3000 เยนเอาไปกินอาหารญี่ปุ่นดั้งเดิมร้านดังที่เกียวโตอีก อร่อยมากกกกก >,< (ปกติกินแต่ฟาสฟู้ดญี่ปุ่น กินกันจนเบื่อเลย)

ขนาดไปวันธรรมดา(โดดงานที่มหาลัยไป)คนยังเป็นล้านเลยค่ะ วันนั้นอากาศไม่ดีแต่โชคยังดีที่ฝนไม่ตก(ฟ้าปิดแต่ก็ยังพอถ่ายรูปได้) เด็กๆตัวเล็กๆมาทัศนศึกษาเดินกันเต็มเลยน่าร้ากกกกก

ชุดนี้นี่เป็นที่ชอบใจของเด็กผู้หญิงญี่ปุ่นมากๆค่ะ (หมายถึงเด็กจริงๆ ประมาณอนุบาลหรือประถมต้นๆตัวเล็กๆนะคะ) เดินผ่านทีเห็นหันมาชี้มามองกันใหญ่ เด็กๆคงชอบสีสันน่ะนะ แต่คุณแฟนนี่บ่นรายทางเลยว่าใส่สั้นไปๆๆๆๆๆ อุตส่าห์ใส่ tight แบบหนาทับมาแล้วนะเนี่ย แถมด้วยถุงเท้ากะบู๊ตยาวอีก ก็ยังโดน

วันนั้นใส่ชุดนี้ล่ะค่ะ ไปลื่นมาที่วัด kinkakuji อยากใส่ส้นสูงดีนักลื่นตรงบันไดหินก้นลงเต็มๆ จะเรียกว่าจับกบก็คงไม่ถูก
เพราะถ้ามีกบอยู่ตรงนั้นรับรองว่าโดนทับตายไปแล้วค่ะ ;P
---------------------------------------------------------------------------------------------------


---------------------------------------------------------------------------------------------------
ชุดที่ห้า (ใส่ตอนตุลา ต้นฤดูใบไม้ร่วงแล้ว)



*** MIX & MATCH ***

- เสื้อคอเต่าสีเทา แขนยาว จาก Rojita (109) อันนี้ผ้าบางๆค่ะไม่ร้อน ตอนซื้อไม่ได้ลอง แขนมันป่องๆแปลกๆยังกะมะขามป้อม เวลาจะใส่ก็เลยหาเสื้อคลุมมาทับตลอด
- กางเกงขาสั้นสีครีมจาก L’est rose (กางเกงตัวนี้ไม่กล้าใส่ให้คุณแฟนเห็นเลย โกรธข้ามปีแน่ๆ)
- trench coat สีกากี จากสักร้านใน Sunshine city (เอาที่คาดเอวผูกเป็นโบว์ไว้ด้านหลัง ให้อ้าๆโชว์ชุดด้านใน)
- สร้อยคอสองเส้น ยาวๆทั้งคู่ ใส่รวมๆกันให้ช่วงคอไม่โล่ง (พันกันยุ่งเลยตอนถอดออก)
- รองเท้าบู๊ตหนังจากร้านนึงใน OICITY คู่นี้หนังเลยแพงหน่อย 16,XXX เยนได้ เพิ่งซื้อปีก่อนเลยยังใช้ไม่ค่อยคุ้ม แต่เวลายังมีค่ะ เอาให้พังก่อนกลับไทยเลย

*** DIARY ***

ทริกของชุดนี้อยู่ที่ trench coat เลยค่ะ บอกตรงๆเลยว่าเราเป็นคนสะโพกใหญ่ แล้วเสื้อคอเต่านี่มันก็คลุมมาถึงสะโพกด้วย ถ้าใส่แบบโล่งๆนี่ดูไม่สมส่วน สะโพกบานอย่างมาก แถมไม่เข้ากับบู๊ตด้วย (ส่วนตัวเราคิดว่าการเลือกชุดใส่กับบู๊ต ต้องบาลานซ์ำน้ำหนักของชุดและของบู๊ตให้พอดีกันน่ะค่ะ ชุดบานๆพองๆมีโวลุ่ม จะบาลานซ์กันดีกับบู๊ต ถ้าใส่ด้านบนซะหนักแต่ด้านล่างใส่ sandal เราดูว่ามันไม่ค่อยสมดุลแปลกๆค่ะ)

คนสะโพกใหญ่อย่างเราก็ต้องมีโค้ตยาวเอาไว้ปิดสะโพกกันบ้างล่ะค่ะ ใส่ไปทีเดียวได้สามเลยค่ะ ทั้งช่วยต่อความยาวให้ชิ้นล่าง ทั้งอำพรางส่วนสะโพก ที่สำคัญคือ ใส่แบบอ้าๆนี่ เส้นแนวยาวขอโค้ตมันหลอกตาให้ดูเพรียวขึ้นด้วยค่ะ

ปกติจะใส่เดรสซะมาก นานๆทีต้องมา mix&match จริงๆจังๆ หนนี้เป็นหนึ่งในความสำเร็จค่ะ feedback ชุดนี้ดีมาก(นับจากคนที่เข้ามาชมวันนั้น) วันนั้นใส่ไปสถานทูตฝรั่งเศสในโตเกียวค่ะ (ไปรับวีซ่านะคะ ตอนไปขอแต่งเรียบร้อยกว่านี้) แต่ยังไงๆเราก็ยังชอบใส่เดรสอยู่ดีล่ะค่ะ ง่ายและตรงคอนเซปต์เราดี
---------------------------------------------------------------------------------------------------


---------------------------------------------------------------------------------------------------
ชุดที่หก (ใส่ตอนธันวา ที่ฮานอย)



*** MIX & MATCH ***

- เชิ้ตแขนยาว ลด 50% จากยี่ห้อ E… อะไรสักอย่างที่ไทย
- กระโปรงดำ มาพร้อมเข็มขัด จาก Zara TRF ซื้อจากไทย (เห็นปุ๊บปิ๊งปั๊บกระโปรงตัวนี้ ใช้ง่ายดีแท้)
- blazer ลูกฟูกสีดำ ซื้อจากสยามหลายปีแล้ว มาคุ้มเอาตอนอยู่ญี่ปุ่นนี่เอง
- ถุงน่องสีเนื้อ
- รองเท้าคัตชูลูกฟูกสีดำ จาก Pool side (shibuya 109)
- สร้อยคอสีเงินเส้นยาวๆ ซื้อจากสยาม (เอามาห้อยไม่ให้ช่วงคอโล่ง)

*** DIARY ***

ชุดนี้ใส่ไปงานคอนเฟอเรนซ์ที่ฮานอยเมื่อปลายปีก่อนค่ะ ตอนธันวาญี่ปุ่นหนาวแล้ว แต่ฮานอยมันเย็นๆ จริงๆกำลังสบายเลยค่ะ เย็นทั้งวันไม่เหมือนที่ไทย แต่เอาจริงๆก็ไม่ได้เย็นขนาดต้องใส่โค้ตอะไรหรอกค่ะ แขนยาวตัวเดียวก็อยู่แล้ว

แต่ช้าก่อนเราไม่ได้ใส่ชุดนี้วันพรีเซนต์นะคะ ตอนพรีเซนต์เราจะเปลี่ยนกระโปรงเป็นอีกแบบที่เรียบร้อยกว่านี้(ทรงสอบยาวถึงเข่า) อันนี้ใส่เข้างานวันอื่นๆ กึ่งๆทางการนิดๆ(คุมโทนสีดำและขาว สีสุภาพ) ส่วนตัวชอบลุคนี้เหมือนกันดูโปรขึ้นนิดนึง กระโปรงตัวนี้ชอบมากๆใส่เที่ยวก็สวยใส่ทางการก็ได้ ไม่เสียทีที่วิ่งหาตั้งแต่ paragon ยัน CTW
---------------------------------------------------------------------------------------------------


---------------------------------------------------------------------------------------------------
ชุดที่เจ็ด (ใส่ตอนคริสมาสอีฟปีก่อน)



*** MIX & MATCH ***

- เดรสลายสก๊อตจาก L’est rose ในรูปมองไม่เห็นแต่ตรงชายกระโปรงเป็นลูกไม้สีน้ำตาลอย่างเนี้ยบค่ะ ด้านหลังมีโบว์เส้นเล็กๆผูกให้เดรสเข้ารูปขึ้นหน่อย
- โค้ตดำตัวเก่ง ใช้ง่าย สีเข้ากับหน้าหนาว เสียตรงว่ากันหนาวไม่ค่อยดี (ง่ายๆคือดีแต่สวยค่ะ)
- ด้านในใส่เสื้อกล้ามและสายเดี่ยวไว้กันหนาวประมาณ 3 ชั้น (จริงๆจะใส่คอเต่าแขนยาวด้านในก็ได้ แต่เราว่าไม่ค่อยสวยค่ะ)
- tight สีดำไม่หนามาก แต่ก็ไม่บางค่ะ
- ถุงเท้าไหมพรมสีน้ำตาล (ใส่อยู่ใต้บู๊ต เพราะช่วงนั้นหนาวมากค่ะแค่ tight เอาไม่อยู่)
- บู๊ตดำคู่เดิมจาก esperanza
- สร้อยคอระย้าสีทองสักหน่อย จะได้ครบสูตร
- ถุงมือสีดำ (ในรูปไม่ได้ใส่)

*** DIARY ***

เดรสชุดนี้กระโปรงบานไปหน่อยค่ะอย่างว่าเราเป็นคนสะโพกใหญ่ แต่พอใส่โค้ตดำทับลงไปก็พอดีเลย ชุดนี้นี่เรียกว่าสวยแต่ไม่กันหนาวเลยค่ะ ถ้าใส่โค้ตแบบปิดหมดก็มองไม่เห็นชุดข้างในพอดีกัน ก็เลยใส่โค้ตแบบอ้าๆนี่ล่ะค่ะ อยากใส่ชุดสวยต้องทน

วันนั้นคืนคริสมาสอีฟ หลังจากเสร็จคลาสที่มหาลัย(ยังอุตส่าห์มีคลาส)ก็แล่นไปช้อปรอคุณแฟนที่ชินจูกุเลยค่ะ พอคุณแฟนมาก็พากันไปโตเกียวทาวเวอร์กัน อ่านมาว่ามีประดับไฟแบบใหม่ก็เลยชวนกันไปดูอีกสักรอบก่อนหอมันจะโดนย้ายไปที่อื่น

คืนนั้นนี่ลมแรงมากๆค่ะ ใช้ขาตั้งกล้องนี่ยังเสียวๆลมจะพัดล้ม จะถ่ายรูปอะไรที่รอบๆหอโตเกียวก็ไม่สะดวกเอาซะเลย แถมชุดนี้ไม่ค่อยกันหนาวด้วย ลมพัดๆมานี่หนาวไปถึงกระดูกเลย ทำไมลมต้องมาพัดแรงเอาคืนนี้ด้วยก็ไม่รู้ แต่บอกแล้วอยากสวยต้องทนค่ะ ทนๆๆๆๆๆ แต่แล้วก็ “ทนไม่ไหวแล้ววววววววว”

แต่เอ๊ะ เราไม่ได้เป็นคนพูดอ่ะค่ะ ที่ทนไม่ไหวน่ะคุณแฟน ลากเราเข้าไปด้านในหอโตเกียวทันทีบอกทนหนาวไม่ไหวแล้ว โธ่ ผู้ชายนี่ไม่ทนเอาซะเลย ทั้งที่คุณแฟนนี่ใส่เสื้อหนาวนวมและถุงมือนวมอย่างหนา กางเกงนี่ใส่ไปสามชั้น รองเท้าก็ผ้าใบปิดมิดชิดส้นก็ไม่มี เสื้อก็เสว็ตเตอร์หนาแถมมีเสื้อแขนยาวด้านในอีกสองชั้นได้ ใส่เยอะขนาดนี้ยังบ่นอีก ดูเราซิใส่แต่ละชั้นบางๆทั้งนั้นยังทนได้เลย ;P
---------------------------------------------------------------------------------------------------


---------------------------------------------------------------------------------------------------
ชุดที่แปด (ใส่ตอนกุมภา ปีนี้เอง)



*** MIX & MATCH ***

- เดรสลายสก๊อตแขนป่องๆจาก L’est rose ซื้อตอนเซลปีใหม่เหลือแค่ 9 พันเยนเอง เห็นอย่างนี้แต่ผ้าบางกันหนาวไม่ได้เลยค่ะ
- โค้ตนวมซื้อลดราคามาเช่นกัน อุ่นดีมากๆ เสียตรงตัวยาวไปหน่อย (ซื้อผ่านเว็บไม่ทันได้ลองกะตัวค่ะ)
- สารพัดเสื้อกล้ามและสายเดี่ยวใส่ซ้อนไว้ด้านในกันหนาว แต่ชั้นนอกสุดนี่ขอเป็นพวกลูกไม้ที่โชว์ได้ (จริงๆจะใส่คอเต่าด้านในก็ได้ แต่ก็อีกนั่นล่ะเราว่าไม่ค่อยสวยค่ะ ยอมทนหนาวเอาเพื่อความสวย)
- tight สีเทาควันบุหรี่แบบหนา สีดูอมฟ้าๆเขียวๆนิดๆเข้ากับสีของเดรสพอดีเลย
- ถุงเท้ายาวเท่าเข่าสีดำ (แต่ในรูปมองไม่เห็น ถ้าไม่ใส่ถุงเท้าจะหนาวค่ะ แถมบู๊ตจะหลวมหน่อยๆด้วย)
- บู๊ตดำคู่เดิมจาก esperanza

*** DIARY ***

ชุดนี้ใส่ง่ายดีค่ะ ไม่ต้องเครื่องประดับอะไรให้มากเรื่อง ถึงจะเป็นเดือนกุมภาด้วย(เดือนที่ว่ากันว่าหนาวที่สุดของญี่ปุ่น) แต่โค้ตนวมนี่ตัวเดียวอุ่นได้เลยค่ะ ถ้าร้อนก็ถอดออกง่ายๆ

จริงๆคือ เดรสตัวนี้ไม่เข้ากับโค้ตดำตัวในรูปด้านบนด้วยล่ะค่ะ โค้ตดำอันนั้นมันสั้นไป พอมาเจอความยาวของกระโปรงชุดนี้แล้วมันไม่บาลานซ์ค่ะ ต้องให้ยาวกว่านั้นหรือไม่ก็โค้ตตัวสั้นแบบนี้ไปเลย

ใส่ชุดนี้ไปตะลุย Misui outlet ที่ chiba มาค่ะ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้อะไรกลับมาเลย จุดประสงค์หลักอยากไปดู coach ได้ยินว่าลดอยู่ แต่พอดูแล้วก็นะ ขนาดลดก็ยังแพงกว่าที่อเมริกาอยู่ดี brandname (เพียงแค่)สองใบที่เรามีคือ coach นี่ล่ะค่ะ แต่ซื้อจาก Woodburry outlet NY ถูกมากๆ คนเคยซื้อราคาถูก พอมาเจอราคาญี่ปุ่นแล้วซื้อไม่ลงเลยค่ะ เสียดายส่วนต่างตั้งหลายหมื่นเยน
---------------------------------------------------------------------------------------------------


---------------------------------------------------------------------------------------------------
ชุดที่เก้า สุดท้ายแล้วค่ะ (ใส่ตอนปลายๆเมษา ที่ผ่านมาและเสียเซลฟ์อย่างแรง)



*** MIX & MATCH ***

- ด้านในเป็น 3-way blouse จาก L’est rose ค่ะ (ซื้อมาตอน summer sale ปีก่อน) ผ้าคล้ายๆชีฟองสีชมพู ใส่เป็นกระโปรงได้ ใส่เป็นเกาะอกได้(จริงๆมีสายเล็กๆใส่เป็นสายเดี่ยวได้ด้วยค่ะ) หรือใส่เป็นคล้องคอก็ได้ค่ะ มีโบว์แยกมาให้แล้วแต่ใครจะครีเอตเลย ลองมาหลายแบบโอเคกับแบบนี้ล่ะค่ะ ใส่เป็นสายเดี่ยวแล้วเอาโบว์มามัดใต้อก ใส่แบบอื่นนี่เสื้อมันพองบาน ทำให้ตัวเบอะมากๆค่ะ
- คาร์ดิแกนแขนสั้นสีขาว ซื้อพร้อมตัวด้านบน ยี่ห้อเดียวกันเลยค่ะ
- กางเกงขาสั้น(หลบคุณแฟน)ตัวเดิม (จริงๆสามชิ้นนี้ซื้อพร้อมกันหมดเลยค่ะ)
- บู๊ตหนังสีน้ำตาล คู่เดียวกับชุดที่ห้า
- ถุงเท้ายาวเท่าเข่าสีดำ (แต่ในรูปมองไม่เห็น ถ้าไม่ใส่ถุงเท้าเท้าจะเหม็นมากค่ะ แถมฝ่าเท้าจะเสียดสีกับพื้นบู๊ตด้วย)
- จริงๆตอนออกข้างนอก มีใส่ trench coat ตัวยาวสีขาวทับอีกตัวค่ะ วันนั้นหนาว

*** DIARY ***

ชุดนี้เป็นหนึ่งในความผิดพลาดของเราเลยค่ะ ใส่ตอนปลายๆเมษาซึ่งก็ประมาณกลางๆใบไม้ผลิแล้ว
เสื้อและกางเกงนั้นจริงๆซื้อมาจากของหน้าร้อน แต่สีสันและเนื้อผ้าก็เข้ากันได้กับใบไม้ผลิ (แถมเราก็ใส่โค้ตยาวทับ) ส่วนรองเท้านี่ของปลายหนาวต้นใบไม้ผลิ

ใส่ออกมาดูรูปก็ยังชอบนะคะว่าเข้ากันดี แต่จะไม่แต่งอย่างนี้อีกในช่วงเวลานั้นอีกแล้วค่ะ จำได้ว่าตอนนั้นอากาศแปรปรวนทั้งที่ปลายเมษาแล้วแต่อยู่ๆก็หนาวขึ้นมา อากาศหนาวๆก็เหมาะกับบู๊ตดี ด้านบนถึงจะบางไปหน่อยแต่ใส่โค้ตยาว(สีขาว)ทับซะก็โอเคแล้ว

เดินๆออกไปเที่ยวแถวบ้าน ยิ่งเดินยิ่งเสียเซลฟ์ ยิ่งเดินยิ่งอยากวิ่งกลับบ้านไปเปลี่ยนรองเท้าค่ะ คือ มองๆไปเนี่ย(เอาเฉพาะสาวๆนะคะ)ไม่มีใครที่ไหนใส่บู๊ตเลยค่ะ บู๊ตสั้นๆมีหลงมาบ้างแต่บู๊ตยาวนี่แทบหาไม่ได้เลย แฟชั่นมันเปลี่ยนเป็นใส่รองเท้าคัตชูกับเลคกิ้งกันหมดแล้วช่วงนั้น แต่ใส่ออกไปแล้วก็ไม่รู้จะทำไงค่ะ จริงอยู่ว่าไม่มีใครมามองมานินทาเราหรอก แต่เรารู้สึกแปลกแยกเองน่ะค่ะ

อยู่ญี่ปุ่นมีสี่ฤดู เสียตรงว่าซื้ออะไรมาจะดองไว้ไม่ได้ ซื้อปุ๊บถ้าไม่รีบใส่ พอเปลี่ยนเดือน (เปลี่ยนเดือนก็เปลี่ยนเทรนด์การแต่งตัวค่ะ)ก็เอ้าท์ไปเลย ต้องเก็บไว้รอปีหน้าถึงจะได้ใส่
---------------------------------------------------------------------------------------------------


จบแล้วค่ะสำหรับ [DUC & Diary]@Japan ครั้งแรกของเรา ใครหลงเข้ามาอ่านเราบ่นบ้าบอก็ต้องขออภัยดัวยนะคะ

สุดท้ายอยากบอกว่ารับชมด้วยวิจารณญาณนะคะ เพราะรูปที่เอามาลงนั้นเป็นรูปที่คัดมาแล้ว และท่าโพสรวมถึงมุมกล้องก็มีส่วนหลอกสายตาด้วยค่ะ แต่เราก็พยายามแต่งปกปิดจุดด้อยเราให้มากที่สุดแล้วล่ะค่ะ ก็ตรงจุดไหนรู้ตัวว่าไม่ดีก็ต้องปิดๆไว้สิเนอะ


Create Date : 16 มิถุนายน 2552
Last Update : 17 มิถุนายน 2552 22:51:10 น. 17 comments
Counter : 1271 Pageviews.

 
mix & match ได้น่ารักมากค่ะ ชอบหลายชุดที่ จขบ. ใส่เลย เก๋ไม่แพ้สาวยุ่นเลยนา


โดย: Nickky วันที่: 16 มิถุนายน 2552 เวลา:17:09:34 น.  

 
น่ารักๆทุกชุดเลยค่า


โดย: หนีแม่มาอาร์ซีเอ วันที่: 16 มิถุนายน 2552 เวลา:17:16:25 น.  

 
เหมือนหลุดออกมาจากแมกกาซีนเลยค่ะ แต่งตัวเก่งมากกกกกกกกกกก ดีจังเลยอยู่ญี่ปุ่น อากาศแต่งเลเยอร์ได้ไม่ลำบาก(และดูอุตสาหะเหมือนสาวไทย - -")

ชอบทุกชุด ทุกชิ้น แต่ชอบชุดที่สี่มากที่สุด น่าร๊ากกก


โดย: หนูคิสเซอร์วิส (KissAhoLicGal ) วันที่: 16 มิถุนายน 2552 เวลา:18:54:57 น.  

 
น่ารักอ่ะค่ะ
ปิดหน้าทำไมอ่าอยากเห็นจังเลยอ่า

ป้าต้อยเคยบอกว่าคุณไวท์อะมิวเล็ทสวย


โดย: แม่บ้านณ.โตเกียว วันที่: 16 มิถุนายน 2552 เวลา:19:01:32 น.  

 
แต่งตัวได้สนุกจังเลยค่า ชอบชุดที่สีเหมือนน้องคิส น่ารักมากๆ แล้วเอามาให้ดูอีกนะคะ ชอบๆๆๆๆๆ


โดย: alekay วันที่: 16 มิถุนายน 2552 เวลา:19:45:36 น.  

 
แต่ละชุดสวยๆน่ารักมากมายค่ะ เหมือนออกมาจากนิตยสารจริงๆด้วย

อยากใส่บู๊ตบ้างจังค่ะ แต่บ้านเราอากาศมันไม่อำนวย

ชอบชุด 4 เหมือนน้องคิสกะพี่เก๋เยยย


โดย: TOToTaNG วันที่: 16 มิถุนายน 2552 เวลา:19:52:27 น.  

 
น่ารักทุกชุดเลยค่ะ ชุดม่วงบู๊ทดำเราชอบค่ะ วันไหนว่างมารีวิว คสอ อีกนะคะชอบอ่านค่ะ


โดย: Cobie วันที่: 16 มิถุนายน 2552 เวลา:20:16:43 น.  

 
โอ้ยย....น่ารักมากๆค่ะ
เข้าใจเลยว่าทำไมมีคนเหล่
ก็แต่งตัวน่ารัก แถมหุ่นดีซะขนาดเนี้ย
สาวญี่ปุ่นแถวนั้นดับไปเลยค่าาา

ปล.ชุดที่คุณแฟนบอกว่าสั้นเนี่ย เราว่าไม่สั้นเลย
แต่คุณน่ารักก็เลยหวงแน่ๆเลยค่ะ อิๆ


โดย: ดอกไม้ในสวนศรีี วันที่: 16 มิถุนายน 2552 เวลา:20:35:07 น.  

 
ชุดที่ 4 น่ารักมากๆๆๆๆเลยค่า


โดย: sppm วันที่: 16 มิถุนายน 2552 เวลา:22:09:26 น.  

 
ชอบจัง อยากแต่งแบบนี้มั่ง แต่แต่งบ้านเราสงสัยเค้าว่าสติไม่ดี
ขนาดหนาวๆ ใส่แล้วยังมีคนมองเล้ยย

จขบ. น่ารักมากค่ะ แต่งตัวได้สนุก สวย และดูดีมากๆ

โดยเฉพาะ โค้ท ชอบทุกตัวเลยค่ะ


โดย: คุณอาผู้น่ารัก วันที่: 16 มิถุนายน 2552 เวลา:22:24:32 น.  

 
ฮั่นแน่...คนสวย มาดูซให้พี่ๆดูแล้ว

สวยมากเลยจ้า น่ารัก เก๋ มีสไตล์ทุกชุดเลย
พี่ชอบทุกชุด จำได้ว่าน้องไวท์ฯ บอกว่ากำลังคลั่ง
เสื้อผ้าของ Let s Rose (สะกดคงผิดอ่ะนะ จำไม่ได้)
พี่ก็ชอบ สวยหวาน แต่พี่คงเลยวัยไปหน่อยนึงอ่ะ (เลยไปเยอะเลยล่ะ...พูดมาได้ หน่อยนึง ดูดีเชียว)

ตอนนี้พี่ก็ทำบล็อคดูซด้วย ไม่เชิงทำเป็นไดอารี่ แต่ทำ
เป็นลักษณะรีวิวเลือกเสื้อผ้าแมทซ์กับกระเป๋า และเป็นการบังคับตัวเองว่าให้ดูแลตัวเองด้วย มันก็สนุกดี
ได้แต่งเนื้อแต่งตัวทุกวัน

เอามาลงบ่อยๆนะคะ เข้าหน้าร้อนแล้ว เสื้อผ้าน่ารักๆ หวิวๆหน่อย...ฮ่า พี่ชอบ เดี๋ยวพี่ตามมาเป็นแฟนขับ เอ๊ย แฟนคลับเองจ้า


โดย: tukuta วันที่: 16 มิถุนายน 2552 เวลา:22:48:23 น.  

 
L'est rose เขียนผิดจริงด้วย ในรีวิวน้องก็เขียนไว้ให้ดูนี่เนาะ เออ..พี่เพี้ยนจริงๆ


โดย: tukuta วันที่: 16 มิถุนายน 2552 เวลา:22:52:32 น.  

 
น่ารักทุกชุดเลยค่ะ ^^


โดย: Pammii_Pammii วันที่: 16 มิถุนายน 2552 เวลา:23:18:38 น.  

 
Like your style ka. Very girly, very cute


โดย: yr_naughty_annie วันที่: 17 มิถุนายน 2552 เวลา:6:01:55 น.  

 
น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกก....
จขบ. หุ่นดีจังเลยค่ะ แต่งตัวก็น่ารักสุดๆ..

มาอัพบ่อยๆ นะค๊า


โดย: @แก่นแก้ว@ วันที่: 17 มิถุนายน 2552 เวลา:16:09:20 น.  

 
ขอบคุณทุกความเห็นที่แวะมาชมนะคะ


โดย: White Amulet วันที่: 27 กรกฎาคม 2552 เวลา:11:16:33 น.  

 
ไม่อยากให้ปิดหน้าเลยน่ารักมาก



โดย: หมุยจุ๋ย วันที่: 10 มีนาคม 2554 เวลา:22:02:39 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

White Amulet
Location :
Bangkok Thailand / Tokyo Japan

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 35 คน [?]




บล็อคนี้ถึงไม่ค่อยมีอะไรแต่ถ้าจะก๊อปปี้ข้อความหรือรูปอะไรไปโพสที่อื่น ก็รบกวนช่วยใส่เครดิตลิงค์บล็อคนี้ไว้ด้วยนะคะ

เราไม่สงวนลิขสิทธิ์การนำภาพและข้อความในบล็อคไปเผยแพร่(ในแบบที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์)แต่สงวนลิขสิทธิ์ความเป็นเจ้าของภาพถ่ายและเนื้อหาค่ะ

ค้นหาทุกสิ่งอย่างในบล็อคนี้

New Comments
Friends' blogs
[Add White Amulet's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.