W H I T E A M U L E T
Group Blog
 
All blogs
 
++++++++ 1st Foundation REVIEW ++++++++

รีวิวอันนี้กะจะทำมานานแล้วล่ะค่ะ แต่ก่อนหน้านี้ปั่นงานหน้ามืดมากๆแทบไม่ได้กินได้นอนเลย เจียดเวลามาทำไม่ได้จริงๆ
ตอนนี้เพิ่งส่งไปเสร็จ ขอเวลาพักผ่อนสักหน่อยก่อนเริ่มปั่นทำเล่มจบโท เลยได้จังหวะมารีวิวรองพื้นที่ลองใช้มาดีกว่า

** สภาพผิว **

สภาพผิวเป็นคนผิวแห้งมากๆเลยนะคะ ผิวค่อนข้างขาว(โดยเฉพาะหลังมาเรียนที่ญี่ปุ่นนี่)อันเดอร์โทนชมพู
หน้าไม่ค่อยมีปัญหาสิวเท่าไหร่ มีก็เล็กๆน้อยๆเท่านั้น แต่ผิวช่วงกรามจะสีเข้มกว่าผิวหน้าหน่อย
ปัญหาหนักๆบนใบหน้านอกจากผิวที่แห้งจัดๆก็คือ ช่วงรอบดวงตาค่ะ
ผิวใต้ตาแห้งมากๆ แถมมีริ้วรอยลึก ในขณะที่เปลือกตากลับมันมากๆแถมสองชั้นหลบในข้างนึง
ผิวรอบดวงตา คล้ำกว่าผิวหน้าอย่างเห็นได้ชัด แพนด้าตัวโตเต็มวัยสุดๆค่ะ

สภาพผิวหน้าเราดูเผินๆจากระยะห่างปกติ ก็มองกันว่าหน้าใสดี แต่หารู้ไม่ถ้ามองใกล้เข้ามาอีกหน่อย
จะเห็นว่าหน้าเป็นขุยๆบางจุด และดูแห้งขาดความชุ่มชื้นอย่างเห็นได้ชัดทั้งที่โบกครีมบำรุงเยอะแล้ว
หน้าหนาวยิ่งไม่ต้องพูดถึงค่ะ หน้าแห้งเหี่ยวมากแทบไม่อยากฉีกปากยิ้มเลยทีเดียว

** My favourite look **

ลุคที่เราชอบจะเป็นลุคใสๆ(หรืออย่างน้อยก็คิดไปเองว่าใส)นะคะ
การคุมมันไม่ใช่ประเด็นที่เราสนใจเพราะเราผิวแห้ง และตอนนี้ก็ไม่ได้อยู่ไทย
ระดับการปกปิดสนใจบ้าง เพราะช่วยปิดแพนด้าได้บ้าง แต่ถ้าปกปิดดีซะจนดูหนาไปก็ไม่โปรดเหมือนกัน
ผิวแห้งก็จริงแต่ชอบลุคหน้าเนียนๆมากกว่าลุคหน้ามัน(หรือลุคdewy) เพราะตบท้ายเราจะปัด finishing powder อยู่แล้ว

** ประสบการณ์การใช้รองพื้น **

เพิ่งเริ่มแต่งหน้าหลังจบปริญญาตรีนะคะ จนบัดนี้ก็สักสามปีได้แล้วมั้ง
ช่วงแรกๆจะใช้แต่เบสกับคอนซีลเลอร์เท่านั้นค่ะ เพราะคิดเหมือนกับหลายๆคนว่าใช้รองพื้นแล้วจะทำให้ดูแต่งหน้าหนา
แถมก่อนนั้นลองรองพื้นมากี่อัน(ที่เคาเตอร์)ก็ไม่ถูกใจ แทนที่จะดูหน้าขาวใสเด้งเหมือนใช้เบส
กลับดูหน้าเข้มๆ น้ำตาลๆ ส้มๆยังไงบอกไม่ถูก ไม่ชอบเอามากๆ

แต่ใช้เบสอย่างเดียวก็มีข้อเสียอยู่ดี เพราะเวลาตาคล้ำมากๆพอเผลอลงคอนซีลเลอร์เยอะไป
ก็ทำให้ดูหนาๆรอบๆตาอย่างเดียวไม่เนียนไปกับผิวส่วนอื่น

เพิ่งมาเมื่อปลายปีก่อนนี่เอง ที่เริ่มสนใจใช้รองพื้นบ้างและเจอตัวที่ถูกใจจนได้
จากนั้นก็เลยได้ลองมาเรื่อยๆ ประกอบกับว่าอยู่ญี่ปุ่นสนใจตัวไหนก็เดินดุ่มๆไปเคาเตอร์ขอแซมเปิ้ลมาลองได้
ก็เลยได้รองพื้นหลายอันมาลองฟรีๆ บางอันก็ชอบบางอันก็ไม่ชอบ ก็ประหยัดไปได้เยอะ
(ดังนั้นอย่าแปลกใจนะคะ ถ้ารูปที่เห็นจะเป็นซองๆหมดเลย บางยี่ห้อแซมเปิ้ลซองใหญ่ใช้ได้หลายหน้าค่ะ)
ปัจจุบันแซมเปิ้ลที่มียังใช้ไม่หมดเลยค่ะ มีอีกหลายตัวรอคิวลองใช้อยู่
ตอนนี้ก็จะขอรีวิวเฉพาะอันที่ใช้ผ่านมาสักระยะจนพอจะมั่นใจผลได้บ้างแล้วนะคะ

** คะแนนความชอบ(ส่วนตัว) **

คะแนนเราให้เป็น 0 - 5 นะคะ
0-2 : ไม่ชอบ ไม่คิดจะซื้อใช้อีกแน่นอน
3 : ปานกลาง ไม่ได้แย่ แต่ก็ไม่ได้ดีจนถึงขนาดประทับใจ จนอยากใช้ต่อ
4 : ค่อนไปทางชอบ และให้ผลที่ดีใช้ได้ คงจะซื้อต่อถ้าตอนนั้นไม่มีตัวอื่นๆที่ชอบมากกว่า
มากกว่า 4: ชอบมาก(อย่างน้อยก็ ณ ตอนนี้ที่เขียนรีวิว) น่าจะซื้อต่อแน่ถ้าในอนาคตไม่มีตัวดีกว่าเข้ามา


ปล. โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ ผิวแต่ละคนถูกกับของไม่เหมือนกัน
ในที่นี้เป็นเพียงประสบการณ์ส่วนตัวของเราเท่านั้นค่ะ ไม่ได้มีข้อมูลวิชาการอ้างอิงใดๆทั้งสิ้น (เพราะเป็นคนไม่ชอบวิชาเคมีเท่าไหร่ ชอบทางฟิสิกส์กับคอมพิวเตอร์มากกว่า)



1. ETTUSAIS OIL FREE AQUA LIQUID FOUNDATION



ตัวนี้ไม่เชิงเป็นรีวิวเท่าไหร่ เพราะนานจนจำไม่ได้แล้วว่าตอนใช้เป็นยังไง
แต่ขอใส่เป็นเกียรติประวัติซักหน่อยในฐานะเครื่องสำอางชิ้นแรกๆของเราเลย

เราเริ่มแต่งหน้าหลังรับปริญญาค่ะ เห็นรูปตัวเองตอนแต่งหน้ารับปริญญาแล้ว
ก็คิดได้ว่า เออ แฮะ อย่างเราแต่งหน้าแล้วก็พอจะดูดีขึ้นได้เหมือนกันนี่
ก็ตั้งแต่ตอนนั้นที่เข้ามาห้องข้อมูลที่นี่ตั้งแต่ยังเป็นห้องย่อยในสวนลุม สั่งสมวิชามาเรื่อยจนบัดนี้ค่ะ

รองพื้นตัวนี้ช่างแต่งหน้าใช้แต่งให้ตอนรับปริญญา ใช้แล้วไม่แพ้
แล้วเค้าแนะนำว่าใช้กลบแพนด้าได้ก็เลยไปซื้อมาตาม
แต่ช่วงนั้นยังมือใหม่อยู่ ไม่รู้สึกว่ารองพื้นนี้ช่วยตาคล้ำของเราได้เท่าที่ต้องการก็เลยไม่ค่อยได้ใช้ไป
หันมาหาคอนซีลเลอร์ต่างๆสารพัดแทน

คะแนนความชอบ(ส่วนตัว): N/A
ซื้อต่อไหม : เอ้อ คงไม่ล่ะค่ะ ปล่อยให้เป็นประวัติศาสตร์ไปก็พอแล้ว ไม่อยากไปขุดคุ้ยเรื่องเก่าๆ


2. LAMER TREATMENT FLUID FOUNDATION (LINEN)



ขวดนี้ได้จากการไปร่วม workshop ที่ไทยตอนเปิดตัวผลิตภัณฑ์พวกแป้งและรองพื้นของเค้าใหม่ๆเลย
สีนี้ก็ได้ MA ในงานเลือกให้กับมือเลยนะคะ แต่ไหงไม่ชอบเลยก็ไม่รู้

ส่วนตัวใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงของเค้าอยู่หลายตัว คุ้นเคยกับกลิ่นของ lamer อยู่แล้ว
แต่ไอ้กลิ่นของรองพื้นนี่กลับไม่ค่อยชอบ บอกไม่ถูกว่ากลิ่นเหมือนอะไร
หรือจะเป็นไอ้ที่เค้าเรียกว่า scent of nature กันก็ไม่รู้สิคะ

คุณสมบัติเค้าโฆษณาไว้ดี๊ดีว่าเป็นรองพื้นบำรุงผิว ดังนั้นเรื่องกลิ่นยังพอหยวนๆกันได้
แถมเป็นยี่ห้อที่ไว้ใจกันมานาน ก็ยังคิดว่ารองพื้นเค้าก็น่าจะไว้ใจได้เหมือนกันนะ
แต่ถึงสุดท้ายที่หยวนไม่ได้คือ ลุคที่ได้ออกมานี่สิคะ ทั้งขวดจิ๋วๆนี่ที่ได้มาลองเอง
ทั้งตอนหลังที่ไปลองใหม่ที่เคาเตอร์ให้เค้าทาให้เลย ยังไงก็ไม่ชอบอ่ะค่ะ
แทนที่จะดูเนียนใส กลับดูหมองๆ หน้าน้ำตาลๆมาเชียว แต่งด้วยเบสปกติยังดูดีกว่าตั้งเยอะ
พยายามทิ้งระยะห่าง ลองใหม่กี่ครั้งก็แล้วก็ยังไม่ชอบอยู่ดี สงสัยว่าสีจะไม่เข้ากับผิวก็เลยบ๊ายบายกันไปละกัน

ราคา: ยังไม่ทันได้ซื้อขวดจริงเลยไม่รู้ราคาค่ะ
คะแนนความชอบ(ส่วนตัว): 2/5
ซื้อต่อไหม : ถึงจะเป็นยี่ห้อที่ใช้ประจำ แต่ตัวนี้คงไม่คิดจะซื้อล่ะค่ะ ใช้แล้วหน้าหมองหยั่งกะโดนของแน่ะ สีไม่ถูกใจเลย


3. FREEPLUS NATURAL FIT LIQUID FOUNDATION SPF11 PA++ (OCHE B)



ยี่ห้อนี้เป็นไลน์ใหม่ของ Kanebo นะคะเป็นเครื่องสำอางที่เน้นการบำรุงผิวไปในตัว และผสมกันแดดด้วย
(ได้ยินคอนเซปนี้ทีแรก นึกถึงคำโฆษณาของรองพื้น lamer ขึ้นมาเลย)
ขวดนี้ซื้อมาเมื่อสักกลางๆปีก่อน (ปี 2550) ได้ เดินเล่นๆอยู่ใน Matsumoto Kiyoshi
แล้วโดน BA กล่อมมา นึกยังไงไม่รู้เหมือนกันก็เลยซื้อมาทั้งที่ตอนนั้นก็ยังไม่ค่อยชอบใช้รองพื้น(แทบไม่ใช้เลยมากกว่า)

ผลการใช้ก็ธรรมดานะคะ ไม่ได้เด้งเป็นพิเศษ ไม่ได้ดูหนาเว่อร์หรือปกปิดอะไรเป็นพิเศษ
แต่ก็ยังดีว่าไม่ทำให้หน้าเข้มหรือหมองเหมือน lamer อันบน
แพ็กเกจใช้ได้ค่ะ เทรองพื้นง่ายไม่หกเลอะเทอะ เนื้อรองพื้นหนืดกว่า lamer ตัวบน นิ่มๆหยุ่นๆเหมือนครีมนิดๆ
แต่ก็ยังเกลี่ยได้ง่ายมาก(เราใช้มือเกลี่ยค่ะ) แม้แต่มือใหม่เกลี่ยรองพื้นอย่างเรา
แล้วด้วยคำโปรยที่ว่าส่วนผสมดีกับผิวอะไรก็ว่าไป เบื่อๆก็หยิบมาใช้บ้าง
อย่างน้อยพอทาทั่วๆเลยไปใต้ตาก็ช่วยกลบแพนด้าได้บ้าง ลงคอนซีลเลอร์น้อยลง(แต่ก็ยังต้องลง)
จะได้ไม่เห็นรอยต่อหนามากระหว่างส่วนรอบตา กับช่วงแก้ม

ราคา: 30mL ราคาเต็ม 3500yen ยังไม่รวมภาษี 5% (ไม่นับช่วงลดราคาหรือพ๊อยต์ต่างๆที่ได้จากการซื้อนะคะ)
คะแนนความชอบ(ส่วนตัว): 3/5
ซื้อต่อไหม : คิดว่าคงไม่ซื้อต่อล่ะค่ะ ถ้าจะหาตัวที่ใช้ได้บ่อยๆโดยไม่กระเทือนกระเป๋าตังค์มาก เดี๋ยวไปเลือก shu อันล่างๆดีกว่า


4. LUNASOL WATER CREAM FOUNDATION SPF18 PA++ (OC 10)



ตัวนี้คงไม่ต้องพูดถึงกันมากนะคะ เพราะก่อนนี้ฮิตกันน่าดูที่ห้องแป้งนี้
สำหรับเรารองพื้นตัวนี้เป็นตัวที่ทำให้เราเข้าสู่ วงจรการสรรหารองพื้นเต็มตัวเลยล่ะค่ะ
ก่อนตัวนี้ก็ยังเฉยๆกับรองพื้นอยู่ แต่อ่านคนรีวิวบ่อยๆเข้าทุกวันๆ เกิดอาการอยากได้อยากลองบ้าง
ประกอบกับมีนิสัยไม่ดีว่าเวลาเครียดๆจากงาน ชอบไปหาเรื่องเสียตังค์ให้หายเครียด วันนึงได้จังหวะก็ไปลองเคาเตอร์เสร็จแล้วก็สอยมาเลย

ตอนช่วงที่ซื้อเป็นช่วงหน้าหนาวที่ผ่านมา ซึ่งหนาวมากๆๆๆๆๆๆๆ คนญี่ปุ่นเองยังบ่นกันเป็นแถวว่าปีนี้หนาวจริงๆ
ช่วงแรกๆที่ใช้ ก็บอกเลยว่ากรี๊ดกร๊าดมากนะคะ เพราะรู้สึกว่าหน้าขาวใสเหมือนอย่างตอนใช้เบส ไม่อมส้ม อมน้ำตาล และดูผ่องไม่หนา
ปริมาณที่ใช้ก็นิดเดียว เกลี่ยง่าย แถมเอามาเลเยอร์ที่ใต้ตา ก็พอช่วยกลบแพนด้าได้ระดับนึง
ลดปริมาณคอนซีลเลอร์ที่กองๆใต้ตาไปบ้าง (แต่ก็ยังลงคอนอยู่อีกบางๆค่ะ เพราะตาดำมากมาย)

แต่ มันมีแต่ค่ะ
ผ่านไปสักระยะ (ยังอยู่ในช่วงหน้าหนาวหฤโหดอยู่) เริ่มสังเกตว่า เวลาใช้รองพื้นนี้แล้ว texture ผิวหน้ามันดูแห้งๆยังไงพิกล
ก็คิดไปว่าคิดไปเองหรือเปล่าเนี่ย เพราะรองพื้นนี่ใครๆก็ใช้แล้วหน้ามัน ไหงเราใช้แล้วดูหน้าแห้งกว่าเดิมแฮะ
คือมันไม่ได้ทำให้หน้าลอกมากขึ้นหรืออะไรนะคะ แต่มันดูเหมือนหน้าแห้งๆผากๆกว่าปกติจริงๆ
ซึ่งก็ไม่ได้อุปทานไปเองด้วย ลองทาแล้วถามคุณแฟนดูว่าเห็นอะไรแตกต่างมั๊ย เค้าก็บอกว่าดูเหมือนหน้าแห้งๆขึ้นนะ T_T

อีกจุดที่เพิ่งสังเกตได้ทีหลัง คือเรื่องสีค่ะ อันนี้คงเป็นความผิดพลาดของเราเองที่ตอนซื้อลองสีโดยไม่คลีนหน้าจนหมดก่อน
แล้วตอนหน้าหนาว สภาพก็พันอะไรเต็มไปหมดช่วงคอนี่ปิดมิดเลยค่ะ เลยไม่ได้สังเกตเรื่องความแตกต่างกับสีคอมาก
ดูแค่ตอนลองกับหน้าระหว่าง OC10 กับ OC20 แล้วทาง OC10 ดูผ่องกว่า (และ BA ก็เชียร์ทางนี้มากกว่า)
หลังๆเริ่มเห็นได้เองค่ะว่าสีมันต่างกับสีคอพอประมาณ เวลาจะใช้ต้องทาเลยมาทั่วๆคอด้วย

ณ ตอนนี้อากาศไม่หนาวแล้วล่ะค่ะ แต่ไอ้ความรู้สึกว่าตัวนี้ทำให้หน้าดูแห้งก็ยังติดตราตรึงใจอยู่ ก็เลยไม่ค่อยใช้แล้ว
ลดระดับเอาตัวนี้ไปทาคอแทนแล้วค่ะ เพราะคอดำกว่าหน้า ส่วนหน้าก็ปล่อยเป็นหน้าที่ตัวอื่นๆที่ชอบมากกว่าไปแทน

ราคา: 30g ราคาเต็ม 5250yenรวมภาษี 5% แล้ว
คะแนนความชอบ(ส่วนตัว): 2/5
ซื้อต่อไหม : คงไม่ซื้อต่อล่ะค่ะ แปลกดีเหมือนกันรองพื้นหน้าหนาวสำหรับคนหน้าแห้งแท้ๆ แต่เรากลับไม่ถูกกับมัน


5. LUNASOL MODELING WATER LIQUID FOUNDATION SPF17 PA+ (OC 02)



ยังเข็ดจากตัวบนไม่หาย พอได้ยินว่ามีรุ่นใหม่ออก คราวนี้เลยยังไม่ซื้อค่ะ
เดินไปขอแซมเปิ้ลมาแทน (ส่วนใหญ่แซมเปิ้ลเลือกสีไม่ได้ค่ะ มักมีแค่สีเดียว)

ลองใช้แล้วบอกได้คำเดียวว่าสำหรับเรา เฉยสุดๆ ไม่รู้สึกอะไรเลย
แบบว่าใช้แล้วไม่มีความรู้สึกเลยว่า อยากลองใช้ต่ออีกหน่อยดูซิว่ามันจะดีจริงไหม อะไรทำนองนี้
ประมาณว่ามันไม่มีอะไรที่กระตุ้นให้เราอยากลองมันต่อเลยน่ะค่ะ จะเรื่องสี ความผ่องอะไรก็แล้วแต่
รู้สึกว่าทาเหมือนไม่ทา ไม่มีอะไรดีขึ้น แค่รู้สึกบนหน้าได้เวลาส่องกระจกว่าเนี่ยชั้นทารองพื้นอยู่ก็เท่านั้น

ตัวนี้อย่างที่บอกนะคะ ลองซองเดียวเลิก(อีกซองยังอยู่ในกรุอยู่เลย)
จำได้ไม่ละเอียดเท่าไหร่ อย่างเดียวที่รู้คือ ไม่ประทับใจใดๆค่ะ

ราคา: ได้แต่แซมเปิ้ลมาไม่รู้ราคาจริงค่า
คะแนนความชอบ(ส่วนตัว): 2/5
ซื้อต่อไหม : ไม่ซื้อขนาดจริงแน่นอนค่ะ


6. SHU UEMURA FACE ARCHITECT CREAM FOUNDATION (764)



หลังจากเริ่มเข้าสู่วงการสรรหารองพื้นเต็มตัวแล้ว ก็ต่อกันที่ตัวนี้ล่ะค่ะ
เห็นหลายๆคนก็บอกว่าตัวนี้ดีมาก ก็เลยเดินดุ่มๆไปขอแซมเปิ้ลมาเลยค่ะ เงินไม่ต้องกระเด็นเลยสักเยนก็ได้มาลองฟรีๆ
ซองใหญ่ซะด้วยสิคะ ใช้ได้หลายหน้ามากเลย

เนื้อรองพื้น เป็นครีมๆเลยล่ะค่ะ เหมือนจะเกลี่ยยากแต่เอาจริงก็ไม่ยากเท่าไหร่(เรานี่ มือใหม่เกลี่ยรองพื้นนะคะ)
แต่จุดที่เรา โอ้โห มากกับรองพื้นนี้คือ ความกริบของมันค่ะ แบบว่าปาดปุ๊บปิดผิวข้างใต้มิดเลย
สมชื่อ face architect จริงๆค่ะ เหมือนโบกปุนฉาบปิดผิวของเราเลย
ขนาดที่ว่าแพนด้าหนักๆของเรานี่ พอเอารองพื้นนี้โบกๆไปแทบไม่ต้องใช้คอนซีลเลอร์เลยค่ะ เนียนและปกปิดเทพมากๆ

แต่ก็นะคะ เรื่องความเนียนและปกปิดนี่ยกให้เลย แต่ปัญหาคือมันกริบเกินไปค่ะ
วันไหนใช้รองพื้นนี้ ส่องกระจกจะรู้สึกหน้าหลอกๆ เหมือนใส่หน้ากากอยู่ ไม่ใช่หน้าของเรายังไงบอกไม่ถูก
คือมันหนาและกริบเกินไปปิดผิวเราจนมิด ไม่เหลือความผ่องแบบผิวจริงเหลือเลยน่ะค่ะ (แต่ติดทนเช้ายันเย็น ไม่หมองลงเลยนะคะ)

ราคา: ขอแต่แซมเปิ้ลมาไม่รู้ราคาจริงค่า
คะแนนความชอบ(ส่วนตัว): 3/5
ซื้อต่อไหม : ก่อนนี้คิดอยู่ว่าอาจจะซื้อมาไว้ใช้บางวันที่โทรมมากๆ แต่ก็ยังลังเลเพราะมันหนาจริงและหน้าเราก็ไม่ได้ต้องการการปกปิดขตนาดนั้น
ตอนนี้มีทางเลือกที่ดีกว่าเป็นรุ่น fluidแล้ว รุ่นนี้คงไม่คิดซื้อแล้วล่ะค่ะ (แต่แซมเปิ้ลซองนี้ ยังเหลือใช้ได้อีก 1-2 หน้าแน่ะค่ะ)


7. SISLEY PHYTO TEINT ECLAT FLUID FOUNDATION OIL-FREE LONG LASTING (IVORY)



รองพื้นเทพตัวนี้ เคยดังระเบิดมาแล้วในห้องนี้ แถมตอนที่คุณเทนมาทำรีวิว ก็รีวิวได้เริ่ดมากจนเราตัวสั่นอยากวิ่งไปเสียตังค์กันเลยทีเดียว
แต่ก็ด้วยความที่บุญไม่ถึง กว่าจะได้ซองนี้มาลองก็เมื่อเร็วๆนี้เองล่ะค่ะ
ก่อนหน้านี้(ช่วงยังหนาวอยู่) ไปเคาเตอร์ BA ยืนยัน นั่งยัน นอนยัน เลยว่าผิวแห้งอย่างเราไม่ควรใช้รุ่นนี้ และแนะนำรุ่นอื่น
แต่ ใจเรานี่มันสนใจแต่รุ่นนี้อ่ะค่ะ พอ BA ยืนกรานก็เลยต้องกำเงินกลับบ้านแทน

แต่เมื่อเร็วๆนี้อากาศไม่หนาวแล้ว (ร้อนหน่อยๆบางวันด้วย) ไปเคาเตอร์อีกที คราวนี้ BA เปลี่ยนเป็นบอกว่าใช้ได้สิคะ ไม่มีปํญหา
(จำไม่ได้ว่าคนเดิมกับคราวก่อนหรือเปล่า แต่ก็รู้ตัวนะคะ ว่าตอนหน้าหนาวผิวเราแห้งน่ากลัวมากจริงๆ แทบไม่อยากยิ้มเลยทีเดียว)
ก็เลยได้มาซองนึงค่ะ ซองใหญ่มาเลยเชียวใช้มา 4-5 หน้าได้แล้วมั้งคะ ตอนนี้รีดรองพื้นไม่ออกแล้ว (แบบว่างกค่ะ)

ความรู้สึกตอนเกลี่ยนะคะ ในบรรดาทั้งหมดที่ลองใช้มา ตัวนี้เป็นตัวแรกที่รู้สึกว่ามันเกลี่ยยากกว่าปกติค่ะ
แบบว่ามันฝืดๆหน่อยไม่ค่อยลื่นเหมือนตัวอื่นๆที่ได้ลองมา บวกกับเราเป็นคนผิวแห้งด้วย
ผลที่ได้ออกมาก็โอเคค่ะ สีพอดีกับผิว หน้าดูเนียนดีสมกับที่ร่ำลือกัน รองพื้นติดผิวดี ไม่หมองไม่คล้ำ
แต่เราเคยลองอย่างละครึ่งหน้าเทียบกับ shu ด้านล่าง ก็ไม่รู้สึกถึงความแตกต่างค่ะ

จุดที่เราไม่ค่อยชอบตัวนี้ หนึ่งคือความรู้สึกตอนมันโดนผิวใหม่ๆค่ะ
ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามันมีส่วนผสมอะไรบ้าง แต่ตอนทาใหม่ๆมันรู้สึกเหมือนจะยิบๆบนหน้าหน่อย
เหมือนเวลาเอายาทาสิวหรืออะไรแรงๆ ทาบนหน้า ที่ตอนแรกจะรู้สึกเหมือนจะคันๆยิบๆนิดๆน่ะค่ะ
แต่ก็ไม่ได้เป็นถึงขนาดว่าแสบ มีสิวหรือมีอาการแพ้อะไรตามมานะคะ เดาว่าเราจะไม่ค่อยถูกกับของ sisley มั้งเนี่ย
ก่อนนี้ไปขอ skincare มาลอง ทาอายครีมทีนี่แสบ จนน้ำตาไหลแสบตาไปหมดเลย

อีกเรื่องคือ เรื่องเนื้อมันดูฝืดๆหน่อยน่ะค่ะ ก็มันเป็น Oil-free นี่เนอะ เราผิวแห้งดันมาใช้
ไม่ถึงกับทำให้หน้าแห้งขึ้นก็จริง (แต่ตอนนี้ไม่ใช่หน้าหนาวด้วยเลยไม่ชัวร์เท่าไหร่)
แต่ก็ไม่ได้ดีมากจนเราประทับใจน่ะค่ะ เนียนดีแต่เราว่ายังไม่ผ่องเท่าไหร่สำหรับเรา
ส่วนตัวคิดว่าครือๆกันกับ shu ตัวด้านล่างนี้หล่ะค่ะ แต่ชอบเนื้อสัมผัสของ shu มากกว่า

ราคา: ขอแต่แซมเปิ้ลจำราคาจริงไม่ได้อ่ะค่ะ จำได้แต่ว่าราคาหมื่นเยนอัพค่ะ
คะแนนความชอบ(ส่วนตัว): 3.5/5
ซื้อต่อไหม : ตัวนี้ลองมาพร้อมๆกับ shu ตัวด้านล่าง คิดว่าสองตัวไม่ต่างกันมากแต่สรุปแล้วชอบทาง shu มากกว่าค่ะ


8. SHU UEMURA FACE ARCHITECT SMOOTHING FLUID FOUNDATION (764)



ตัวนี้ขอแซมเปิ้ลมาวันเดียวกันกับ sisley เลยค่ะ แบบว่าเดินออกจากเคาเตอร์นึง
ก็ไปขอต่ออีกเคาเตอร์นึงเลย แบบว่าอยู่มานานชักหน้าด้าน รู้ว่าขอได้เลยขอแบบไม่เกรงใจค่ะ
แต่วันนั้นมีซื้อ drawing pencil เพิ่มอีกแท่งด้วยเพราะว่าใช้แล้วชอบ ไม่ค่อยเลอะดี (แต่กุดเร็วไปหน่อย เปลืองจัง)

ได้มาสองซอง ซึ่งแซมเปิ้ลของชูนี่ซองใหญ่ดีนะคะ ซองเดียวก็ใช้ได้หลายหน้าแล้ว ตอนนี้ซองแรกยังไม่หมดเลยค่ะ (ใช้สลับๆกับตัวอื่นด้วย เพื่อเทียบผล)
ลองแล้วตัดสินใจได้ทันทีว่าไม่ซื้อรุ่นครีมแล้ว(ก่อนนี้ยังลังเลอยู่) ครีมเหลวกว่าเกลี่ยง่าย สีนี้พอดีกับหน้าเลยไม่ลอยไม่คล้ำ
ทาออกมาแล้วเนียนดี ไม่หนาโบกเหมือนหน้ากากเท่ารุ่นครีม ยังให้ความรู้สึกเหมือนผิวธรรมชาติของเราอยู่(แต่ดีกว่าผิวจริงนิดหน่อย :P)
แล้วก็ไม่รู้สึกคันๆหรือยิบๆอะไร เหมือนตอนทา sisley ด้วย (สำหรับเราคิดว่าให้ผลเหมือนๆกับ sisley เลยน่ะค่ะ)

สำหรับเรา ณ ตอนนี้ ก็ยกให้ตัวนี้เป็นตัวที่จะใช้สำหรับวันธรรมดาทั่วไปที่ไม่ได้ต้องการความเด้งเป็นพิเศษค่ะ
ลองมาหลายหน้าแล้ว เริ่มให้ความไว้วางใจแล้วว่าตัวนี้ใช้ได้เลย ไม่หนาเว่อร์ ไม่ลอย ไม่หมอง และไม่แห้งค่ะ
(แต่ก็ไม่ใช่ว่าตัวนี้ไม่เด้งนะคะ แต่เรามีอีกตัวที่เด้งยิ่งกว่าตัวนี้อยู่ค่ะ)

ราคา: ขอแต่แซมเปิ้ลมาไม่รู้ราคาจริงค่า
คะแนนความชอบ(ส่วนตัว): 4/5
ซื้อต่อไหม : ถ้าใช้แซมเปิ้ลหมดแล้ว(เหลืออีกซอง) อาจจะซื้อขวดจริงค่ะ ถ้าไม่มีตัวอื่นมาแรงแซงโค้งทีหลัง


9. CLE DE PEAU TEINT NATUREL CORRECTEUR SPF24 PA++ (O10)



ยี่ห้อนี้เริ่มเล็งๆมาตั้งแต่ตอนคุณฟลุคพูดถึงแรกๆแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ไปลองจริงๆสักที
จนกระทั่งมาอ่านรีวิวของคุณเทน ที่ตั้งชื่อซะเก๋ไก๋ให้รองพื้นยี่ห้อนี้ว่า รองพื้นคุณนายแม่ (เข้าใจตั้งชื่อจริงๆค่ะ ^_^)
ฟังแล้วต่อมอยากลองกระจายมาก วิ่งไป Matsuzakaya ที่ใกล้สุดลอง(ฟรี)ทันที
ไปหนแรกไปลองรุ่นเก่ากระปุกสี่เหลี่ยม teint naturel satine นะคะ
แต่ลองเฉยๆไม่ได้ซื้ออะไรกลับมา
(มี Preview ขั้นตอนและผลลัพธ์การลองและการเห่อละเอียดๆ ในบล็อคเก่านะคะ)
แต่ได้แซมเปิ้ลรุ่น teint naturel correcteur สี O10 และ O20 มาอย่างละซองสองไม่รวมเบสอีกสี่ซอง

พอใช้แซมเปิ้ลจนหมดก็ตัดสินใจซื้อเลยค่ะ ซื้อรุ่นเดียวกับที่ได้แซมเปิ้ลมานี่ล่ะค่ะ เพราะไหนๆก็ได้ลองเองจนชัวร์แล้ว
ไอ้รุ่นกระปุกเหลี่ยมได้ลองหนเดียวก็จริงแต่ก็รู้สึกว่าชอบนะคะ แต่ไหนๆเคยมีแบบครีมของ lunasol แล้ว
หนนี้เลยเอารุ่นขวดดีกว่า ออกใหม่ด้วยมีผสมกันแดดอีกต่างหาก เหมาะกับคนขี้เกียจอย่างเรายิ่งนัก(ช่วงนี้แดดที่ญี่ปุ่นยังไม่แรงมากค่ะ)

เหตุผลที่ตัดสินใจซื้อ (แพงกว่ารองพื้นอื่นเท่าตัวเลยนะเนี่ย T_T) เคยเห่อละเอียดๆไว้ในบล็อคแล้วล่ะค่ะ แต่สรุปๆก็คือ
1. เกลี่ยง่าย ไม่หนา ไม่หลอก แถมกลิ่นห๊อมหอมค่ะ หอมแบบไฮโซเลยเชียว (ไม่ใช่ scent of nature แล้วค่ะ) แต่ถ้าใครไม่ชอบอาจเวียนหัวไปเลยก็ได้นะคะ
2. วันแรกที่ใช้แซมเปิ้ล ไปเจอคนไทยมาเที่ยวเค้าถามเลยว่า(ผิว)หน้าสวยจังใช้ครีมอะไรเหรอ ก็อดปลื้มไม่ได้มีคนไม่รู้จักกันมาชม
3. ตอนทาเสร็จใหม่ๆก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามันช่วยอะไรได้เปล่าเนี่ย เพราะดูบางๆเหมือนไม่ได้ทาอะไร
แต่ขอบอกว่าระหว่างวันรู้สึกได้เลยค่ะว่า วุ้ยวันนี้ผิวหน้าเราดูดีกว่าปกตินะเนี่ย เหมือนกับว่าที่เห็นผิวผ่องๆเด้งๆน่ะเป็นผิวเราจริงๆไม่ใช่รองพื้นน่ะค่ะ
4. หลายหนที่เผลอหลับไปไม่ทันล้างออก(ซกมกมาก โปรดอย่าเอาอย่าง) เช้ามาแทนที่หน้าจะดูหมองโทรมเหมือนทุกที
แต่กลับดูอิ่มๆเด้งๆหน้าวาวๆบอกไม่ถูกค่ะ ประมาณว่ายังเด้งอยู่นั่นแหล่ะค่ะ(เหมือนกันทั้งรุ่นนี้ และรุ่นกระปุกสี่เหลี่ยมเลย)

ณ ตอนนี้ยกให้ตัวนี้เป็นรองพื้นที่ดีที่สุดของเรา ที่เราให้ความไว้ใจเต็มที่สำหรับวันที่ต้องการหน้าเด้งเป็นพิเศษค่ะ (ถ้ามันถูกกว่านี้ก็คงใช้ทุกวันล่ะค่ะ)
ทาง่าย ไม่แห้ง ไม่หนา ผ่องเด้งเหมือนผิวของเราเอง คงทนตลอดวัน (ทารองพื้นนี้แล้ว หน้าจะดูเด้งๆไฮโซกว่าปกติเหมือนที่คุณเทนบอกจริงๆล่ะค่ะ ^_^)

มี crop รูปถ่ายสีผิววันที่ใช้รองพื้นนี้มาให้ดูค่ะ รูปนี้ถ่ายแสงธรรมชาติ รับประกันว่าไม่มีretouch ใดๆ
แต่งหน้าด้วย Smashbox Photo Finish UVA/UVB SPF15 เบสใส -> Cle De Peau foundation ->
Loose powder Lamer tran (ใช้แปรงปัดแป้งนะคะ) -> ตบท้ายด้วย Guerlain Meteorites Mythic01 ค่ะ
ส่วนตัวรูปนี้มานั่งซูมส่องดูผิวตัวเองเลยค่ะ ว่าเออแฮะทารองพื้นแล้วดูเหมือนไม่ทาแต่ทำให้หน้าเด้งขึ้นได้นี่มันยังมีอยู่จริงนะเนี่ย



ราคา: 30mL 12600yen (รวมภาษี 5% แล้ว) พอฟัดพอเหวี่ยงกับ sisley เลยค่ะ แต่ถ้าสั่งซื้อตามพวก yahoo auction ก็จะถูกลงหน่อยค่ะส่งเกยถึงประตูบ้านเลยด้วย
คะแนนความชอบ(ส่วนตัว): 4.5/5 (ขอกั๊กคะแนนไว้หน่อย เผื่อในอนาคตมีตัวที่ชอบมากกว่า)
ซื้อต่อไหม : ณ ตอนนี้ยกให้ตัวนี้คือตัวดีที่สุดของเราค่ะ(แต่ถ้าใช้ทุกวันเป๋าคงแฟบ) ถ้าหมดแล้วและตอนนี้ไม่มีตัวเทพกว่าคงซื้อต่อแน่ค่ะ



สำหรับรีวิวคราวนี้ก็หมดเพียงเท่านี้นะคะ
ยังมีแซมเปิ้ล CLE DE PEAU teint naturel fluide (O10) กระปุกกลมด้านล่างนี้อีกที่ยังไม่ทันได้ลองใช้ค่ะ



รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ปกปิดสูงสุดนะคะ จริงๆก็ไม่ใช่จุดประสงค์ของเราเท่าไหร่ แต่ก็ไปขอแซมเปิ้ลมาลองค่ะ
มีโอกาสได้ลองทั้งทีก็อยากลองไว้เยอะๆ จะได้มีตัวเลือกหลายๆทาง และ ไม่ต้องมานั่งเสียดายทีหลังเวลาไม่ถูกใจ

อีกตัวที่มีคือ L'oreal true match สีเข้มสุด แต่ตัวนี้เราใช้เฉดดิ้งเฉยๆเลยไม่ทำรีวิวค่ะ
(แต่ก็รู้สึกว่าเกลี่ยง่ายดีนะคะ แค่ไม่เคยลองใช้ทั่วหน้า เพราะอันนี้เข้มเกินค่ะ)




Create Date : 11 มิถุนายน 2551
Last Update : 27 กรกฎาคม 2552 11:57:52 น. 3 comments
Counter : 1472 Pageviews.

 


ว่าแล้วววววว วันนี้ไปห้าง แล้วลืมอะไร

ลืมไปเทส shu 555555

คลีเดอโป ไม่กล้าไปเทสท์เลย กลัวหลงรัก แล้วทำไรไม่ได้ นอกจากนอนชักแด่กๆ อยู่หน้าเค้าเตอร์ ฮือๆๆๆ มานแพงงงงงงง 55555


ไปดีกว่า^^


โดย: LoveToBeLoved วันที่: 13 มิถุนายน 2551 เวลา:4:15:15 น.  

 
ความเห็นนี้ขอก๊อปปี้ความเห็นของทุกๆคนจากกระทู้ใน pantip มาเก็บเป็นที่ระลึกนะคะ
ส่วนใหญ่ขออนุญาตเจ้าของความเห็นแล้วก่อนมาแปะที่นี่
แต่ถ้าตกหล่นลืมขอใครไป แล้วอยากให้เอาออกแจ้งทางหลังไมค์ได้เลยนะคะ

-----------------------------------------------------------

ความคิดเห็นที่ 15

ตอนนี้crazy Sisleyมากเรยค่ะ
สำหรับเรา รู้สึกว่าเป็นรองพื้นที่เกลี่ยง่ายมากที่สุดเท่าที่เคยเจอเรยนะคะ
แต่ละคนคงไม่เหมือนกัน ^^

ถ้าcounterไทยไปขอsampleง่ายๆอย่างงี๊ก็คงจะดีเน๊อะ อิจฉาจังค่ะ
ไม่งั๊นจะไปขอsample Cle de peauมาลองมั่ง

จากคุณ : IsThisIt? - [ 11 มิ.ย. 51 19:20:42 ]


ความคิดเห็นที่ 16

CLE DE PEAU น่าใช้มากเลยค่ะ ถ้ามีบุญ(เงิน) เราคงได้พบกัน 555

ขอบคุณรีวิวดีๆค่ะ
ผิวคุณ White Amulet เนียนสวยจังเลย

จากคุณ : mimitang - [ 11 มิ.ย. 51 19:26:09 ]


ความคิดเห็นที่ 17

เราไม่กล้าเดินไปขอแหะ ขอสั่งสมวิทยายุทธ์อีกซักระยะละกันค่ะ หุหุ
ตอนนี้ ใช้ ettusais อยู่ รู้สึกว่าดีนะคะ แต่แบบว่า... มันแพงง่ะ ขวดจึ๋งนึงเอง

จากคุณ : YuRaGi - [ 11 มิ.ย. 51 19:49:43 ]


ความคิดเห็นที่ 18

ชักอยากลอง CLE DE PEAU แล้วล่ะสิ ^^

จากคุณ : AppLeInSep~ - [ 11 มิ.ย. 51 19:57:28 ]


ความคิดเห็นที่ 19

รีวิวได้ดีมากๆ ค่ะ อ่านแล้วตื่นเต้นลุ้น ตุ๊มๆ ต่อมๆ ไปด้วยเลย

จากคุณ : เม่หลิง - [ 11 มิ.ย. 51 20:04:37 ]


ความคิดเห็นที่ 20

ผิวหน้าละเอียดดีจังเลย อิจฉา

จากคุณ : futomomo - [ 11 มิ.ย. 51 20:17:08 ]


ความคิดเห็นที่ 21

shu กับ cle de peau น่าใช้จัง

แต่ผิวเรา คนละแบบ กับ จขกท เลย อิอิอิ เราผิวมันอ่ะคับ

ผิว จขกท ตอนปาด cle e peau ดูสวยมากกกก

จากคุณ : LoveToBeLoved - [ 11 มิ.ย. 51 20:20:33 ]


ความคิดเห็นที่ 22

ใช่ๆ เคลเดอปูร์เราว่าเนียนจริงๆ

เสียดายเทสเตอร์ที่ได้มาสีดำกว่าหน้าเราเฉดนึง ถ้ามีโอกาส(มีตังค์นั่นเอง)ก็ไปซื้อของจริงแน่ๆค่ะ

จากคุณ : แป้งเปียกรสแซ่บ - [ 11 มิ.ย. 51 21:32:02 ]


ความคิดเห็นที่ 23

IsThisIt?
-> ใช่แล้วค่ะ ถ้ากลับไทยคงทำอย่างนี้ไม่ได้แล้วตอนนี้เลยขอไม่ยั้งค่ะ
น้ำขึ้นต้องรีบตักเนอะคะ (ยังเหลือเวลาให้ตักอีกสามปีแน่ะค่ะ)

mimitang
-> ส่วนที่คร๊อปมาแปะ คือผิวช่วงแก้มที่เป็นส่วนที่ดูดีที่สุดบนหน้าแล้วล่ะค่ะ
ส่วนที่แย่ๆอย่างรอบตา หรือช่วงคางไม่ได้คร็อปมาแปะให้ดูค่ะ :P

YuRaGi
-> เดินไปขอเลยค่ะ รับรองว่าไม่โดน BA กัดหัวเอาแน่นอนค่ะ
มีแต่ตะโกนขอบคุณไล่หลังเราซะอีก (แรกๆก็แอบอายบ้างหน่อยๆ)
บางยี่ห้อ เรานี่สภาพไปอย่างโทรม ไม่เหมือน target group ของเค้าเลยสักนิด
แต่เค้าก็ยังบริการเราอย่างดีค่ะ ขอลองอะไรให้หมด แซมเปิ้ลก็ไม่มีหวงเลยค่ะ

AppLeInSep~
-> ไปลองแต่งที่เคาเตอร์ดูก่อนไหมคะ ไม่ชอบขึ้นมาเสียดายตังค์แย่เลย

เม่หลิง
-> ขอบคุณมากๆค่า ดีใจมีคนชม เพราะนานๆจะทำรีวิวสักที

futomomo, LoveToBeLoved
-> คนผิวแห้งก็มักรูขุมขนเล็กน่ะค่ะ ดูเผินๆก็เหมือนจะใส
แต่จริงๆก็ปัญหาเยอะค่ะ ทั้งหน้าลอก เครื่องสำอางไม่ติดหน้า
แถมริ้วรอยเกิดง่ายมาก(แก่เร็ว T_T) นอนซุกหมอนผิดท่าตื่นมาหน้ายับไปเลยค่ะ

จากคุณ : White Amulet - [ 11 มิ.ย. 51 21:41:23 ]


ความคิดเห็นที่ 24

เข้ามาอ่านค่า....กะว่าต่อไปจะลองเล่นรองพื้นดูมั่งแล้ว...^^

จากคุณ : narusaru - [ 11 มิ.ย. 51 21:53:22 ]


ความคิดเห็นที่ 25

เข้ามาให้กำลังใจจ้า

ขอบคุณรีวิวดี ๆ นะคะ รีวิวได้ดีและละเอียด เป็นประโยชน์มากๆเลย

ส่วนตัวแล้วอยู่มาจนปาเข้าไปสามสิบกว่าปีแล้ว ยังไม่เคยใช้รองพื้นเป็นจริง

เป็นจังเลยค่ะ เคยคิดจะลอง จะลอง แต่ก็กลัวว่าจะเหมือนหน้ากาก

ทุกวันนี้เลยแค่ใช้แต่เบสอย่างเดียว

เมื่อสองปีก่อนเคยใช้แป้งผสมรองพื้น ของ cle de peau นะ ถูกใจอย่างมาก

แต่ไปไปมามา ก็เปลี่ยนไปเจ้านั้นเจ้านี้ ตามประสาคนขี้เบื่อ

มาเจอรีวิวนี้ น่าสนใจทั้งตัวรองพื้น แล้วเลยพาลคิดจะหวนกลับไปหาแป้ง

ตัวเดิมด้วย เผื่อใช้แล้วจะได้ผิวหน้าเนียนใสอย่าง จขกท บ้างง่ะ

จากคุณ : tukuta - [ 11 มิ.ย. 51 21:56:07 ]


ความคิดเห็นที่ 26

อ่านรีวิว CLE DE PEAU แล้วน่าลองมากค่ะ แต่แพงจริงๆ สู้ไม่ไหว
ทางที่ดีคงต้องไปหา sample มาลองก่อนจะดีที่สุด

ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ

จากคุณ : cuccy - [ 11 มิ.ย. 51 22:19:30 ]


ความคิดเห็นที่ 27

................รีวิวเริ่ดม้วกกกกกกกกกกกก(ทำตาลุกวาวสุดฤทธิ์) ปรบมือให้เลยยยยยย............

จากคุณ : cylinderelar - [ 11 มิ.ย. 51 22:47:16 ]


ความคิดเห็นที่ 28

CLE DE PEAU ใช้แล้วแอบหน้ามันอ่ะค่ะ เง้อ....

จากคุณ : minnymin - [ 11 มิ.ย. 51 23:46:28 ]


ความคิดเห็นที่ 29

tukuta
-> สวัสดีค่ะพี่ เจอกันอีกแล้ว ปกติก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆเหมือนกันค่ะ
แต่ก็มีบ้างบางตัวที่เปลี่ยนไปยังไงก็กลับมาตายรัง
(หมายถึง เมคอัพเบสนะคะ เพราะรองพื้นยังไม่ได้ใช้มานานขนาดนั้น)
ถ้าผิวดีอยู่แล้ว ก็คงไม่ต้องพึ่งรองพื้นอ่ะค่ะ
นี่ติดว่าตาคล้ำมาก จนมันมักจะดูโบกๆเฉพาะรอบตาดูไม่เนียนก็เลยหันมาลองรองพื้นบ้าง
ถ้าไม่มีปัญหาตรงนี้ ก็คงไม่คิดมาลองรองพื้นค่ะ เพราะเบสก็ช่วยให้เด้งอยู่แล้ว
ส่วนที่ว่าจะหนาเป็นหน้ากากหรือเปล่า คิดว่าแล้วแต่ยี่ห้อค่ะ พวกปกปิดมาก
แถมยิ่งถ้าทาหนา ก็เป็นหน้ากากมาเลยค่ะ หยั่งกะ mask หน้าแล้วลืมลอกออกก่อนออกจากบ้านเลยค่ะ

ตัว CDP ที่ตอนนี้ชอบมาก(ไม่นับเรื่องราคา) เพราะทาแล้วเหมือนผิวของเราเอง
ดูจากรูปเลยอ่ะค่ะ ขนาดนี่อย่างซูมๆเลย ยังดูไม่เหมือนว่าทารองพื้นเลย
จริงๆก็ใช้น้อยด้วย (ใช้เยอะเปลืองค่ะ) แต่ก็ได้เป็นผิวที่ดูดีกว่าปกติอ่ะค่ะ

cuccy
-> ลองให้ชัวร์ก่อนนะคะ ไม่งั้นเสียดายตังค์แย่เลย
คนที่ถูกใจรองพื้นรุ่นนี้ตัวนี้ อาจเป็นแค่คนส่วนน้อยอย่างเราก็ได้ค่ะ
ดูอย่างตัว sisley อ่ะค่ะ คนเยอะแยะชอบกันทั้งนั้น แต่เรากลับประหลาดไม่ชอบเท่าไหร่
(จำได้ว่าราคา sisley ที่ญี่ปุ่นก็หมื่นเยนอัพเหมือนกันค่ะ ราคาสูสีกับ CDP เลย
แต่ไม่รู้ราคาที่ไทยน่ะค่ะ เพราะ CDP เป็นแบรนด์ของญี่ปุ่นเราซื้อที่ญี่ปุ่นคงถูกกว่าค่ะ)

cylinderelar
-> ดีใจอีกรอบ ขอบคุณมากค่ะ ^_^

minnymin
-> ก็คงเป็นไปได้อ่ะค่ะ เพราะเราเองผิวแห้ง ตอนนี้อากาศก็ไม่ร้อนมาก
แต่ถ้าใช้ที่ไทยที่ร้อนกว่านี้มาก อาจมีปัญหาเรื่องเยิ้มกับเรื่องมันก็ได้
เราเองหน้าแห้งเลยไม่แน่ใจเรื่องนี้เท่าไหร่ ลองก่อนซื้อดีที่สุดค่ะ
(เราเองก็ลองแซมเปิ้ลมาจนมั่นใจก่อน ว่ามันเหมาะกับผิวของเรา
ถึงจะซื้อนะคะ ราคาขนาดนี้ซื้อมั่วๆไม่ไหวค่ะ)
แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 51 01:23:00

จากคุณ : White Amulet - [ 12 มิ.ย. 51 00:24:29 ]


ความคิดเห็นที่ 30

จขกท. หน้าเนียนมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

รูขุมขนไม่เห็นเลยอ่าค่ะ อิจฉาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อิอิ

จากคุณ : เผือกหางหงอก - [ 12 มิ.ย. 51 00:25:17 ]


ความคิดเห็นที่ 31

อ่านแล้วอยากลองเคลเดอโปเลย หน้ากริ๊บมาก ๆ แต่คงเพราะผิวหน้าดีอยู่แล้วด้วย

รีวิวได้เจ๋งมากค่ะ

จากคุณ : Galilee - [ 12 มิ.ย. 51 08:44:16 ]


ความคิดเห็นที่ 32

ผิวหน้าเนียนสวยดีค่ะ ^____^

ขนาดเราซื้อของในเคาเตอร์ไทยนะ ตั้งหลายพัน
Sample ขอแล้ว ขออีก ในไลน์อื่นที่ไม่ได้ซื้อ ยังไม่ให้เลยค่ะ
ให้เฉพาะในเซตที่ยอดถึงเท่านั้น
ไม่รู้จะเก็บจะหวงเอาไว้ไปทำอะไร ให้ๆ ลูกค้าไปซะ เค้าจะได้ไปลองแล้วกลับมาซื้ออีก

ทุกวันนี้ยังไม่เข้าใจ BA ไทยเลย ว่าทำไมเป็นแบบนี้ เราก็เคยไปญี่ปุ่น ต่างกันโดยสิ้นเชิง เรื่อง Sample เนี่ย

จากคุณ : ไม้ร่ม - [ 12 มิ.ย. 51 09:24:38 ]


ความคิดเห็นที่ 33

เผือกหางหงอก
-> thank ค่า

Galilee
-> crop รูปผิวมา อยากให้เห็นอ่ะค่ะว่าทาแล้วแต่ขนาดมองใกล้ๆยังดูเหมือนไม่ทารองพื้นเลย
แต่ถ้ามองเต็มๆหน้า เรารู้สึกเลยอ่ะค่ะว่ามันดูดีกว่าปกติ สังเกตจากรูปถ่ายเทียบกันกับหนอื่นๆ
(แต่ยังไม่เซลฟ์พอจะโพสรูปหน้าเต็มๆอ่ะค่ะ เลยคร๊อปมาส่วนเดียว)

ไม้ร่ม
-> ตอนอยู่ไทยจะขอแซมเปิ้ลเฉพาะเวลาซื้อของเท่านั้นอ่ะค่ะ กลัวโดน BA รับประทานหัวเอา
แต่นิสัยซื้อของเวลาอยู่ไทยกับอยู่ที่นี่ เราค่อนข้างต่างกันนะคะ
ตอนอยู่ไทยอยากได้อะไร แล่นไปซื้อเลยค่ะ (เพราะรู้ว่าขอลองไม่ค่อยได้)
ถ้าแพ้หรือไม่ชอบยังมีช่องทางขายต่อได้ (แต่ก็ขาดทุนไม่ใช่น้อยเลย)
แต่อยู่นี่ ช่องทางขายมีก็จริง แต่เป็นระบบยุ่งยากนิดนึงเลยไม่อยากขายค่ะ
อาศัยว่าขอแซมเปิ้ลได้ก็ขอมาลอง ไม่ต้องขาดทุนเลยคราวนี้

จากคุณ : White Amulet - [ 12 มิ.ย. 51 13:40:40 ]


ความคิดเห็นที่ 34

เราใช้ของ SISLEY อยู่ค่ะ ใช้มาหลายขวดแล้ว ดีมากเลย เป็นรองพื้นที่ดีที่สุดเท่าที่เคยใช้มา แต่เราผิวมัน เราว่ามันไม่เหมาะกับคุณจขกท. มังคะเพราะคุณผิวแห้งมาก แต่เราผิวมัน มันเลยดีมากสำหรับเราน่ะค่ะ แล้วทาแล้วไม่มีอาการยิบเหมือนทายาอะไรเลย แบบว่าเป็นอะไรที่ดีมากจริง ๆ เนียบและเหมือนไม่ได้ใช้รองพื้นน่ะค่ะ เป็นธรรมชาติมาก

จากคุณ : chan-rak-thong-fa - [ 12 มิ.ย. 51 16:17:17 ]


ความคิดเห็นที่ 35

chan-rak-thong-fa
-> หน้าแต่ละคนก็คงถูกกับของไม่เหมือนกันน่ะค่ะ
ตัวเองยังแปลกใจ ใครๆก็ว่าดีกันทั้งนั้นแต่ไหงมันไม่ค่อยดีสำหรับเราก็ไม่รู้
คำตอบสุดท้าย ก็คงเป็นว่าแต่ละคนก็ควรเลือกของให้เหมาะกับผิวตัวเองที่สุดแล้วกันค่า
รีวิวก็เป็นแค่ความรู้สึกของแต่ละคน แต่ละความชอบ แต่ละสภาพผิวเท่านั้นเองค่ะ
ของที่คนส่วนใหญ่ชอบ อาจไม่ใช่ของที่เหมาะกับเราก็ได้เนอะคะ

จากคุณ : White Amulet - [ 12 มิ.ย. 51 17:21:34 ]


ความคิดเห็นที่ 36

เป็นรีวิวรองพื้นที่ให้ข้อมูลมีประโยชน์มากเลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะ
น่าเสียดายที่คุณเจ้าของกระทู้ผิวแห้ง
เราผิวมันคงต้องอ่านและนำข้อมูลไปปรับใช้แทนเนอะ ^ ^

ตอนอยู่ญี่ปุ่นเราก็ทำคล้ายๆคุณ White Amulet เลยค่ะ
ลองแหลก ขอแซมเปิ้ลแหลก บีเอน่าร้ากกกกกมาก

Cle de Peau นี่เล็งตัวคอนซีลเลอร์แท่งๆไว้ เพราะมีแต่คนบอกว่าเทพ
ไปลองครั้งแรก..โอ้..เนื้อดีมากกกก แต่สีไม่ได้เลยจริงๆ
ถ้าไม่ทาออกมาแล้วเทาๆ ก็ทาออกมากลายเป็นผีตองเหลือง 555
สรุปวันนั้นอกหัก ย้อมใจด้วยการซื้อ RMK แทน
(มิได้นำพาจริงๆ แหม -- --")
หลังจากนั้นยังไม่ยอมแพ้ ยังไปลองอีกหลายรอบด้วยความอยากได้
ยังไง๊ยังไงสีก็ไม่ได้จริงๆ บีเอยังยอมแพ้กับคอนซีลเลอร์
สุดท้ายเธอเลย..ลองแต่งหน้าใหม่เลยดีกว่าค่ะ คุณลูกค้า
ก็จัดการคลีนหน้า ลงสกินแคร์ แต่งหน้าให้ใหม่หมด
ช่วงนั้นเราผิวตรงแก้มแห้งนิดนึงเพราะอากาศเปลี่ยน
(จากผิวผสม-มันตอนอยู่ไทย ไปญี่ปุ่นก็แก้มแหงแตกไปเลย)
ปรากฎว่าตอนเช็ดๆหน้าไป เราก็แสบๆนิดหน่อย
ก็เลยถามว่า เอ..อันนี้มีแอลกอฮอลหรือเปล่าคะ รู้สึกแสบๆนิดหน่อย
คุณบีเอตกใจมากกกกกก ทำเอาเราตกใจไปด้วย
ถามใหญ่เลยว่า เป็นอะไรหรือเปล่าคะ เป็นมากหรือเปล่าคะ
เดี๋ยวขอเชิญเข้าไป calm ผิวในซาลอนก่อนนะคะ ฯลฯ
เอ่ออออ ลูกค้าตกใจค่ะ 555 น่าเสียดาย แต่วันนั้นรีบก็เลยไม่ได้เข้า T_T
สุดท้ายก็แต่งหน้า คุณบีเอบอกว่า ถึงคอนซีลเลอร์ใช้ไม่ได้ แต่คุณลูกค้าใช้รองพื้นใต้ตาแทนคอนซีลเลอร์ได้เลยนะค้า
แต่แบบว่า..มันครีมและหนามากเลยค่ะ สุดท้ายก็ไม่ได้สอยอะไรมา
คงต้องตัดใจจริงๆแล้ว พยายามมาหลายครั้งมากกับ CDP T_T
คุณบีเอเธอก็น่ารักมากๆค่ะ ยิ้มแย้ม ไม่มีเกี่ยงงอนเลย

แต่เห็นคุณ White Amulet รีวิวรุ่นขวดปั๊มแล้วแบบ..โอ้ววว อยากลองม้างงงง
ท่าทางจะดีน่าดูเลยค่ะ กิเลสก่อตัว 5555

จากคุณ : RUBIS - [ 12 มิ.ย. 51 17:39:10 ]


ความคิดเห็นที่ 37

RUBIS

-> ตัวคอนซีลเลอร์แท่งๆ เราก็มีไปลองเหมือนกันค่ะ เคยได้ยินมานานแล้วว่าคอนยี่ห้อนี้เทพมาก
แต่ไปลองแล้วคิดว่าไม่เหมาะกับเราเท่าไหร่ เราผิวใต้ตาเราแห้งกว่าผิวหน้าอีกอ่ะค่ะ
ไม่พอยังมีริ้วรอยลึกอีกด้วย คอนแท่งมันเลยดูแห้งไปถึงจะปิดได้แต่มันจะไปเน้นรอยแทนอ่ะค่ะ
ตอนนี้เลยใช้ RMK ผสมๆกับคอนน้ำของ lunasol เพื่อให้ชุ่มชื้นขึ้นค่ะ ก็พอใช้ได้เลย

-> ก่อนลองครีมบำรุงและเครื่องสำอางเราจะขอดูส่วนผสมก่อนเลยค่ะ
แล้วก็บอกเค้าเลยว่าผิวแพ้ง่ายนะ เค้าก็จะเลือกแบบที่อ่อนโยนที่สุดให้ เลยไม่ค่อยมีปัญหาค่ะ
แต่เวลาทาครีมให้ เค้าก็ถามตลอดเลยเนอะคะว่าแสบมั๊ย ถูแรงไปหรือเปล่า บลาๆๆ

-> รองพื้น ถ้าผิวมันอาจไม่ชอบเหมือนเราก็ได้นะคะ เราผิวไม่ได้ต้องการการปกปิดด้วย
แค่อยากให้ดูดีขึ้นโดยรวม ไม่เน้นปิดรอยอะไรมากน่ะค่ะ (เพราะรุ่นนี้ก็บางสุดด้วยค่ะ)
แต่รุ่นเก่าครีมกระปุกเหลี่ยมก็โอเคนะคะ อ่านพรีวิวในบล็อคเก่าๆได้ค่าเคยเห่อไว้นานแล้วตอนลองเคาเตอร์
ส่วนรุ่นปกปิดมากสุดขวดกลม ยังไม่ทันได้ลองเลยค่ะ ไว้หาวันเหมาะๆลองอีกที ^_^

จากคุณ : White Amulet - [ 12 มิ.ย. 51 18:03:59 ]


ความคิดเห็นที่ 38

ตอนที่อกหักจากคอนฯของ CDP มาก็ไปซบอก RMK ทันทีเลยค่ะ
แต่ปรากฎว่าซื้อมาแล้วกลับไม่ค่อยได้ใช้เท่าที่ควร..มันแห้งๆง่ะ
เราใช้วิธีผสม beauty flash balm ของ Clarins ลงไป ก็พอใช้ได้ค่ะ
แต่มันแบบ..ยังไม่ปลื้มถึงที่สุด
จนเมื่อกลับไปญี่ปุ่นเมื่อเมษาที่ผ่านมา แวะไปสักการะเคาเตอร์ KP เพื่อซื้อแป้งฝุ่นสุดเลิฟตามปกติ
บีเอก็จับคลีนและแต่งหน้าใหม่หมด ลองไปลองมา..โอ้..คอนฯใต้ตาแจ่มอยู่
สุดท้ายก็เลยสอยมาค่ะ ของ KP จะเป็นสองหลอด สีเนื้อส้มๆกับสีเหลือง
ไม่เน้นปกปิดมาก แต่เน้นปรับสีผิวให้ดูสว่างขึ้นน่ะค่ะ ดังนั้นก็เลยจะไม่ดูหลอก
ไม่มีปัญหาว่าทาคอนฯลงไปแล้วจะออกมาดูสีเทาๆ
เอามาใช้แล้วก็ชอบมากค่ะ เนื้อชุ่มชื่นดีใช้ได้เลย
(เพราะปกติหน้าเรามัน แต่ใต้ตาก็แห๊งแห้งค่ะ T_T)
พอมาใช้ตัวนี้แล้วแอบรู้สึกโอเคกว่าทุกตัวที่เคยใช้มา
เผื่อคุณ White Amulet สนใจนะคะ ราคาประมาณสามพันเยนเอง
KP นี่พวก base make เค้าคุณภาพใช้ได้เลยค่ะ แต่ point make ยังไม่ค่อยโดนเท่าไหร่ ^ ^;

ปกติเราก็ไม่ได้ผิวแพ้ง่ายนะคะ ออกจะทนถึกไม่เคยแพ้อะไรจริงจัง
แต่ช่วงนั้นคงผิวอ่อนแอลงเพราะอากาศเปลี่ยน + ไม่ได้ดูแลเท่าไหร่
จากร้อนๆเมืองไทย ไปญี่ปุ่นแล้วยังดันทุรังใช้สกินแคร์ตัวเดิม แก้มก็เลยแตกหน่อยๆน่ะค่ะ
พอเจอสำลีเช็ดโทรเนอร์เข้าไปคงเลยแสบๆ แต่ก็ไม่ได้แพ้อะไรค่ะ ^ ^
แต่ก็ดีแล้วที่ไม่ได้ปิ๊งกับ CDP เพราะถ้าปิ๊งกับสกินแคร์ของเค้าเนี่ย...
เป็นหายนะของกระเป๋าสตางค์แน่ๆ T_____T

สำหรับรองพื้น..แอบเข้าไปอ่านรีวิวมาแล้วค่า
ยิ่งอ่านยิ่งกริ๊บกริ้วสุดๆไปเลยค่ะ โอ้ววว อยากลอง อยากด้ายยย 5555
แต่คิดว่าตอนนี้อยู่ไทยคงไม่ไหวล่ะค่ะ เหงื่อท่วม
อย่าว่าแต่ CDP เลย ขนาด Sisley ที่คุมมันดี ตกบ่ายก็เหงื่อแตกหน้ามันเหมือนกัน
ถ้าใช้พวกครีมๆ คงใช้หน้าไปถูกระทะหอยทอดได้แน่ๆ XD
แต่ขอบคุณมากนะคะสำหรับรีวิว จะเก็บไว้เป็นรองพื้นในดวงใจที่ต้องลองในอนาคต
ไปเรียนต่อเมืองหนาวเมื่อไหร่ คงมีโอกาสได้ลองแน่ๆค่ะ น่าสนใจมากๆ

(เลื่อนไปดูภาพแก้มคุณ White Amulet แล้วเคลิ้มค่ะ เนียนสวยมาก
เห็นแล้วรู้สึกวิงเวียน อยากวิ่งไปเสียเงินให้ CDP มั่ง XDDD)

จากคุณ : RUBIS - [ 12 มิ.ย. 51 18:45:09 ]


ความคิดเห็นที่ 39

หน้ามันคงหมดสิทธิ์สิเนี่ยะ....

มันเทพจริงๆ รองพื้นคุณนายแม่

จากคุณ : stupid_turtle - [ 12 มิ.ย. 51 19:52:39 ]


โดย: White Amulet วันที่: 13 มิถุนายน 2551 เวลา:10:56:46 น.  

 
แวะมาเพิ่มคอมเมนต์จากกระทู้เดิมหน่อยนะคะ
นึกว่าจะหมด ไม่มีคนมาดูแล้วซะอีก


---------------------------------------

ความคิดเห็นที่ 40

รีวิวหนุกดีค่า ได้ความรู้ สนใจหลายตัวอยู่พอดีเยย

จากคุณ : mezzanotte - [ 15 มิ.ย. 51 11:57:08 ]


ความคิดเห็นที่ 41

อืม รีวิวดีนี่ซิ้ม :D เธอว่าอย่างเจ๊ติ๋มใช้ของรัยดีแหะ ... ถามเผื่อไว้นะ ส่วนฉันตอนนี้ไม่ค่อยได้ใช้รองพื้นหรอก กลัวสิวขึ้นอีก ค่าหมอแพงกว่าค่าเครื่องสำอางค์อีก จะลองอันใหม่ทีก็กลัวๆแหะ แต่ไอ้ CDP นี่น่าสนนะเนีย อิอิ

จากคุณ : Reda - [ 15 มิ.ย. 51 14:39:39 ]


โดย: White Amulet วันที่: 15 มิถุนายน 2551 เวลา:15:20:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

White Amulet
Location :
Bangkok Thailand / Tokyo Japan

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 35 คน [?]




บล็อคนี้ถึงไม่ค่อยมีอะไรแต่ถ้าจะก๊อปปี้ข้อความหรือรูปอะไรไปโพสที่อื่น ก็รบกวนช่วยใส่เครดิตลิงค์บล็อคนี้ไว้ด้วยนะคะ

เราไม่สงวนลิขสิทธิ์การนำภาพและข้อความในบล็อคไปเผยแพร่(ในแบบที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์)แต่สงวนลิขสิทธิ์ความเป็นเจ้าของภาพถ่ายและเนื้อหาค่ะ

ค้นหาทุกสิ่งอย่างในบล็อคนี้

New Comments
Friends' blogs
[Add White Amulet's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.