อยากคุยเรื่องดอกกระเจียว กับการท่องเที่ยว


พักนี้เห็นสื่อหลายประเภท ออกมาให้ข้อมูลเชิญชวนไปเที่ยวดูดอกกระเจียวบาน ที่จังหวัดชัยภูมิ เลยคิดถึง ความหลัง เมื่อครั้งที่ไปชม มาเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ช่วงเดือนกรกฎาคม นี้ (เมื่อปี 2548) ป่านนี้สถานที่ต่าง ๆคงพัฒนาขึ้นมากมาย

ก่อนอวดรูป อวดเรื่อง ที่ไปเที่ยวมา ลองมาทบทวน ข้อมูลเชิงวิชาการก่อน ให้เครดิต วิกิพีเดีย เจ้าเก่า

ปทุมา หรือ กระเจียว หรือ ทิวลิปสยาม (Siam Tulip) เป็นพืชล้มลุกมีเหง้าอยู่ในดิน จะพักตัวในฤดูหนาวและร้อน เมื่อถึงฤดูฝนจะเริ่มผลิใบและดอก ต้นสูงประมาณ 2 ฟุต ใบยาวคล้ายใบพายดอกสีเหลืองในแดง กาบดอกสีม่วง
• ชื่อวิทยาศาสตร์: Curcuma alismatifolia
• ชื่อพื้นเมืองอื่น ๆ: กาเตียว (ตะวันออกเฉียงเหนือ), จวด (ใต้), อาวแดง (เหนือ)
• การดูแล: ปลูกในที่อากาศชื้นเย็น ดูแลไม่ให้ดินเสียความชื้นโดยการคลุมแปลงปลูก
• การขยายพันธุ์: แยกหน่อ
• ประโยชน์: ดอกกระเจียวมีสีสันและรูปร่างสวยงาม นิยมตัดดอกขาย

เมื่อวันที่เราไปกะเพื่อน 1 คันรถบัส ออกจากบ้านตั้งแต่ ตี 5 ขำมากเลย ระหว่างทาง มีน้องสาว ของเพื่อนโทรมาถามว่าอยู่ไหน ไปไหนกัน .....เพื่อนตอบว่าจะไปดูดอกไม้ที่ชัยภูมิ...เธออุทานมาว่า...อพิโธ่อพิถังกะละมังหก งี่เง่าอดหลับอดนอนหลังแข็งไปดูดอกไม้กันไกลขนาด....


ธ่อ....เรารึอุตส่าห์สุนทรี....

ถึงสถานที่สวยงาม เมื่อเกือบจะได้เวลาอาหารกลางวัน แต่ก็เข้าไปฟังวิทยากรให้ความรู้ก่อน ตามประสาครูบาอาจารย์ แบบให้กำลังใจเจ้าหน้าที่เค้าหน่อย


แต่ก็อดแวบ มาตั้งท่าที่ป้ายก่อน


ต่อไปนี้ก็ชมความงาม หนทางที่เดินไป สะดวกสบาย น่ารักมาก สมกับที่เชิญชวนมาเที่ยว แล้วทำให้นักท่องเที่ยว ต้องคอยระมัดระวัง ไม่ทำลายความสวยงาม ไม่ลงไปใกล้จนทำลายดอกไม้...เก็บไว้ให้คนอื่นดูได้นานๆ









ว่าจะไม่แล้วเชียวนา...แต่อดไม่ไหว


เมื่อเหน็ดเหนื่อยเมื่อยพอสมควรก็ พัก รับประทานอาหารกลางวัน ทางอุทยาน มีสถานที่ โรงอาหาร ห้องน้ำ อำนวยความสะดวกอย่างดี แต่เรา ห่อข้าวเตรียมไป .....

เดินอีกแล้วค่ะ อยากชมธรรมชาติงดงามก็ต้องพยายามกันหน่อย ไม่ใช่มีดอกไม้งามอย่างเดียวนะคะ มีป่าหิมงาม ให้ชมด้วย






และอีกแห่งหนึ่งที่ไปแล้วอย่าพลาดคือจุดชมวิว ที่เรียกว่า..สุดแผ่นดิน..อันนี้ทางอุทยาน มีรถไปส่ง และต้องเดินต่ออีกเล็กน้อย





บ่ายคล้อยมากแล้ว ฝนฟ้าก็ทำท่าไม่ดี เที่ยวหน้าฝนก็ต้องทนเอา เพราะความสวยของดอกไม้งาม ย่อมคู่กับฝน แวะเวียนข้างทางก่อน
กลับ บ้าน ได้ดอกกระเจียว มาปลูกดูเล่นงาม ๆได้ด้วย

คิดไว้ว่า ถ้ามีโอกาส จะไปชื่นชมเธออีกนะจ๊ะ



Create Date : 01 กรกฎาคม 2551
Last Update : 1 กรกฎาคม 2551 20:53:36 น.
Counter : 981 Pageviews.

3 comment
ตามรอยจตุคาม
เห็นบล็อกสุดท้าย เที่ยวไทย แล้วตกใจ ตั้งแต่เดือนเมษา ไม่เคยเข้ามาอัพเลย

วันนี้มีแรงฮึด ขอเล่าย้อนหลังทีละเที่ยวแล้วกัน ให้ชื่อบล็อกว่าตามรอยจตุคาม น่ะ ไม่ได้ตกเทรน หรือจตุคามขาลงหรอก เพราะเราจะไปกินขนมจีนน้ำยาปักษ์ ใต้ ที่นครศรีธรรมราชกันต่างหาก

เมื่อ 4 -10 ธันวาคม ออกเดินทางจากบ้านพิดโลก กะพ่อ 2 คน ไปหาลูกที่กทม.ก่อน เพราะนัดกันไว้ว่าจะไปเที่ยวภาคใต้ ทบทวนความหลัง

ตั้งเป้าหมายไว้ว่า ขับรถไปเรื่อยๆ ไม่เกินวันละ 400 กิโลเมตร โดยประมาณก้พักนอน หาที่กิน ที่เที่ยว ไหว้พระ

วันแรกสุดเป้าหมายคือ เจ๊เขียว ซีฟู๊ดหัวหิน


เดี๋ยวเถอะ น่าดู



อิ่มอร่อย และหมายหัวไว้ว่าขากลับ จะมาแก้แค้น อีกรอบ

ในร้านเค้าเขียนไว้ว่า กินแล้วรวย ไม่รู้รวยเขา หรือเรารวย
โฆษณา ให้ด้วย ไม่รู้จะได้ลดราคาไหม


พ่อชวนแวะไปเยี่ยมเยียนเพื่อนเก่า เมื่อ 40 กว่าปี พบกันที่ลานวัดใกล้เขาช่องกระจก ประจวบคีรีขัณฑ์

ลูกสาวกะลูกเขย เลยเดินขึ้นเขาไปดูวิว 555 ลงมาเล่าว่า โดนเจ้าถิ่นกัดเอา





ที่พักคืนแรก ที่คลองวาฬรีสอร์ท ที่พักในหมู่บ้านเล็ก ๆ กลางคืนออกมาหาของกินในตลาด เดินกลับมาได้ ตอนเช้าลูกออกไปหาของกินตลาดเช้ามากินกัน

รีสอร์ท น่ารัก


เช้าออกเดินทาง มาแวะที่อุทยานหว้ากอ อยู่ใกล้ๆ กัน พบครู พากลุ่มเด็กมาเรียนรู้ ดีจังเลย ใครๆ ไปเมืองนอก มาชื่นชมว่าครูเค้าดีพาเด็กไปเรียนรู้นอก ห้องเรียน ของเราก็มีนะจ๊ะ


วันนี้ตั้งใจ ไปนอนสุราษฏร์ จะพักโรงแรมร้อยเกาะ แต่ว่า ที่กินระหว่างทางนี่สิ มากจัง


นี่ร้านกาแฟริมทาง


ถึงร้าน P 2 N ก่อนถึง สี่แยกทับสะแก อยู่ซ้ายมือ อาหารอร่อย ที่ไม่ได้ถ่ายรูปมา กลัวเค้าว่าเอา มีพิซซ่าข้างทางอร่อยให้กิน มื้อสาย นี่ดีจัง
ส่วนมื้อบ่าย นี่เลยค่ะ สี่แยกละแม ขาหมูนกน้อย ต้องยูเทิร์นกลับไปเล็กน้อย แต่คุ้มค่า

บ่ายมากๆ ก็แวะไหว้พระธาตุไชยา ที่ไม่ได้แวะ มานานเกือบ 10 ปี




ไม่ค่อยมีคนมาเลย ไม่เข้าใจว่า ทำไม ทั้งที่เป็นสถานที่สำคัญ ถือว่าเป็นบุญที่ได้กลับมาอีกครั้ง

หลังจากนั้นก็ แวะไปเยี่ยมสวนโมก ที่เงียบเหงา อีกเหมือนกัน

เข้าที่พักเกือบค่ำ ออกไปหาของกิน (อีกละ)ที่ตลาด แอ้มต้องไปหาหมอฉีดป้องกันบาดทะยัก เพราะน้องลิง มันกัดเอาน่ะแหละ




เช้าออกเดินทาง มุ่งหน้าไปนครศรีธรรมราช กับรถคันดีที่หนึ่ง

เช้านี้ฝนตกเกือบตลอดทาง อยากแวะเที่ยว ขนอม (สมัยลูกๆ เป็นเด็ก พามาเที่ยว กำลังหัดอ่านใหม่ ๆ เธออ่านว่า ขน-อม คนนั้น คือคนอยู่เมืองนอก ถึงว่า อ่านภาษาไทย ไม่ค่อยออก ฮ่าฮ่า)

ที่แน่ ๆ แอ้มบอกอยากไปที่แหลมตะลุม เพราะ เกรงว่า อีก 10 ปีข้างหน้า ตามที่หลายคน พยายามพยากรณ์ว่า น้ำจะท่วมโลก ฮือ ๆๆๆ แหลมตะลุมพุก คงไปก่อน ใครๆ


href="//www.bloggang.com/data/wanjan/picture/1199260214.jpg" target=_blank>

นอนที่โรงแรมโลตัส แหม..ไม่รู้พ้องกันขนาดไหน อยู่ใกล้เทสโก้โลตัสด้วย เราแอบออกไปซื้อหนังสือพิมพ์ มาอ่าน อยากรู้เรื่อง เกี่ยวกับวันเฉลิมพระชนมพรรษาในหลวง

กลางคืน ไปกินโต้รุ่ง แล้วลอง ๆสำรวจเส้นทางไปพระบรมธาตุ
ซึ่งไปกันตอนเช้า สายๆ ทุกคนหมายมาดจะกินขนมจีน พอเจอขนมจีนบุพเฟต์ ของโรงแรม ก็เลยไม่ถามหาร้านอร่อยในตลาดอีกเลย




ขอบคุณแขกท่านที่ 1 มาเยี่ยมเยียนก่อนที่จะเล่าต่อ เพราะเมื่อวาน เหนื่อยซะก่อน เฮ้อ แก่แล้วก็งี้แหละ ทำไรนิดหน่อยก็ต้อง ติดตามตอนต่อไป

นี่ค่ะท่านท้าวจตุคามของแท้ เฝ้าบันไดทางขึ้นพระบรมธาตุ


เข้าไปชมพิพิธภัณฑ์ แล้วทึ่งมาก มีประชาชนไปบริจาค เครื่อง เงิน ทอง ของมีค่า เก็บไว้ในชนรุ่นหลังได้ชม ดู ๆไป ก็คิดว่า เอ...ของเราที่มี ๆอยู่นี่ ไม่มีหลานมารับมรดก ท่าทางจะต้องเอามาบริจาค ที่นี่บ้าง

ภายในอาณาบริเวณพระบรมธาตุ มีพระสังขจาย แอ้มกับหน่องไปไหว้ แล้วมาเล่าให้ฟังว่า มีรูปเด็ก ๆเยอะมาก ถามแล้วได้ความว่า เมื่อมีลูกแล้ว ส่วนใหญ่ จะถ่ายภาพลูก เอามาบอกกล่าวว่าลูก ที่ได้หลังจากมาไหว้ คือคนนี้นะคะ (ประมาณว่าอย่างนั้น) เราเลยบอกลูกว่า เออ ถ้า แม่มีหลาน จะอาสา เอารูป มาบอกท่าน

ออกเดินทางซอกแซกลัดเลาะ มาแถว ๆ หมู่บ้าน อำเภอสิชล ริมทะเลเรื่อย ๆ ได้โอกาส เห็นมีขนมจีน น้ำยา ชาวบ้านก็แวะกินกันจนได้ ระหว่างทางเกือบเที่ยง ชาวบ้าน ดูท่าทางตื่น ๆเล็ก น้อย ประมาณว่า พวกนี้เป็นใคร

เข้าที่พัก Novotel ที่ชุมพร เมื่อยามเย็น ที่หาดทรายรี หมายใจว่าจะไปกิน อาหารทะเล ภราดรเจ้าเดิม นานแล้ว แต่ดูท่าจะไม่เข้าที เลยเปลี่ยนใหม่ เป็นร้านใหม่ ที่หน้า รีสอร์ท นั่นเอง เดินออกมาก้ได้กิน พอใช้ได้ และเรียกว่าชัก จะเริ่มเอียนอาหารทะเลแล้ว





วันนี้จุดหมายปลายทาง คือ หมู่บ้านมัณฑนา รามอินทรา ของฟรี ที่ไม่ต้องเสียกะตัง

แต่ไง ๆต้องไป กราบกรมหลวงชุมพรฯ ก่อน และฝนก็ตกปรอย ๆอีก จำได้ว่ามาครั้งหลังสุด เมื่อปี 2543 มา กราบ ท่าน ก็ฝนตกปรอย ๆ ที่จำแม่น เพราะ พอกราบท่านแล้ว ไปยืนจุดชมวิว ลูก ๆก็จะ เตือนว่า ระวัง จะลื่น เพราะ พื้น บริเวณนั้นเป็นหินอ่อน

วิวยังสวยเหมือนเดิม มองแล้วเพิ่มอาหารสมองจังเลย


นอนพักบ้านลูก 1 คืน เช้า ตายาย ของใครไม่รู้ ก็แจวกันแต่เช้า ถึงบ้านบ่าย ๆ โดยสวัสดิภาพ

เห็นไหม ว่าทำบุญไว้ดี เมื่อก่อนลูกยังเล็ก พาเด็ก เที่ยว ยามแก่เหี่ยว ลูกพาเที่ยว สุขสดใส ไชโย

เปิดโอกาส ให้ลูก แทนคุณ ลูกจะได้มีกุศล



Create Date : 01 มกราคม 2551
Last Update : 4 มกราคม 2551 12:57:34 น.
Counter : 414 Pageviews.

1 comment
ไปสตูลและตรัง ก่อนไปตราด
หัวข้อน่ากลัวหน่อยนะ กับวัยดิฉัน

ธรรมเนียมปฏิบัติ (พูดเป็นวิชาการดีไหมคะ) เมื่อช่วงภาคเรียนซัมเมอร์ ทุกคนก็ค่อยว่างเว้นจากงานประจำ

เราชาวครุศาสตร์ ก็หาโอกาสชวนกัน ไปเที่ยวด้วยกัน เน้นว่าเที่ยวๆๆๆ เพราะไม่ต้องมีงานอื่นมาแอบแฝง

อ๊ะๆๆๆ มีเหมือนกัน คือถ้าใครๆจะเกษียณอายุราชการใน กันยายน ที่จะถึงก็เป็นการเลี้ยงรอบแรก คือพาเที่ยว (555ความจริงพวกไม่เกษียณ หรือพวกที่เกษียณ ไปแล้วก็ชวนกันมา สรุปว่าพวกนักท่องเที่ยวตัวจริงๆ ไม่มีตัวปลอม)

รายการนี้คือเมื่อปี 2549 ค่ะ นึกขึ้นมาได้ว่ายังไม่ได้เล่าเลย เพราะ อีก 3 วันจะไปประจำปี 2550 แล๊วววว

เราไปกันเมื่อ 20-24 มีนาคม 2549 แวะที่เขื่อนเชี่ยวหลาน หรือเขื่อนรัชชประภา จังหวัดสุราษฎร์ธานี เค้าว่าสวยงาม ไม่แพ้ กุ้ยหลิน เมืองจีนเลยละ

จากนั้นก็แวะที่อุทยานแห่งชาติ สระธารโบกขรณี
เหมือนสีมรกตเลย สวยมาก เสียแต่ว่า ไม่ชอบ ที่มีคนไปเล่นน้ำในสระ มากๆ เสียบรรยากาศหมด

คืนนั้นเราไปนอนตรัง แล้วเช้าขึ้นไปที่ท่าเทียบเรือ ของสตูล เพื่อเตรียมเดินทางไปเกาะหลีเป๊ะ ระหว่างทางแวะดำน้ำ ดูปะการัง อะไรนะ เราดำน้ำด้วยเหรอ อ้าวจะพลาดรึน่ะ

เกาะหินงาม งามจริงๆของแท้เลยละ แวะดำน้ำ 2 รอบ สนุกมาก (ขอย้ำว่า อายุ 59 ยังสนุกอยู่ ยืนยันว่าไม่ใช่วัยกลับ แต่เป็นอย่างนี้มานานแล้ว ไม่เชื่อถามลูกดูได้ )

ไปนอนที่เกาะหลีเป๊ะ 1 คืน ฝนตก แต่ไม่เดือดร้อนอะไร เช้าขึ้นจะกลับขึ้นฝั่งเจอฝนเล็กน้อย ไม่ได้แวะเกาะไข่ ได้แต่โฉบๆ ไปถ่ายรูป ว้า อดจูงมือกันรอดประตู ความรักเลย อิอิอิ

มาดูรูปคั่นรายการก่อนนะจ๊ะ


Cool Slideshows


ผ่านไป 2 คืน ทั้งที่เกาะหลีเป๊ะ และกลับมานอนตรัง ตรากตรำมาก อิฉัน ปวดกล้ามเนื้อคอค่ะ ปวดหัว.......หายากินกัน แต่ขากลับนี่แวะเที่ยวเขากอบอีก ตรึกตรองอยู่นานมาก ว่าจะเข้าไปดีไหม...

เอ๊ะ....เราจะมีโอกาสมาอีกไหมเนี่ย....เอาวะ..
เป็นไงเป็นกัน โอ้โฮ ...อาการปวดหัวหายไป เพราะตื่นเต้นมากกกก

นึกดูซิ ใครที่เคยไปมาแล้วเพดานถ้ำตำ ขนาดไม่ต้องก้มหัวละค่ะ แต่ต้องนอน ค่ะ เน้นว่านอนราบทับถมกันบนเรื่อพาย ที่คุณลุงใจดี พูดปลอบประโลม ไปเรื่อยๆ ไม่ต้องกลัวๆๆๆ

แต่ดันเล่าเรื่องฝรั่งบางคนมาแล้วร้องไห้ ไม่มีสติสมประดีเลย เพราะกลัวมาก โถ...เขาคงกลัวเอาชีวิตมาทิ้งที่เมืองไทย ....

ฮะ..ฮ่ะๆๆๆ กลับมาบ้านต้องไปแวะตรวจร่างกาย ที่กทม. เพราะปวดหัวมาก ๆๆๆๆ แต่สรุปแล้วกล้ามเนื้อบ่า คอ รัดประสาท ที่หัวทั้งหัวเลย ฟังดูน่ากลัวไหม แต่เราไม่กลัว เพราะรู้ว่า ไม่ได้เป็นไรในสมอง

กลับมาจัดการกะมันได้...เพียงแต่ว่าก่อนไปเที่ยวต้องออกกำลังมากๆ

จะไปตราด เกาะกูด อีกแล้ว จ้า แล้วจะมาเล่าให้ฟัง

จบท้ายด้วยภาพสวย ๆ จากเขากอบ จังหวัดตรัง


Cool Slideshows





Create Date : 26 เมษายน 2550
Last Update : 26 เมษายน 2550 11:01:23 น.
Counter : 408 Pageviews.

0 comment
พืชสวนโลก..ไม่ไปไม่ได้เลย


พืชสวนโลกนี่ ในฐานะ คนไทยและนักเที่ยว ต้องไปให้ได้เลย เพราะนานๆงานอย่างนี้จะมีครั้ง และเพื่อให้การเงินสะพัดช่วยชาติ ให้เกิดความคล่องตัวทางการเงิน

(พูดถึงตรงนี่ ชักเขิน ....ก็ดูซิ นักเที่ยว มีบล็อคเกือบปี แต่ไปเที่ยวทีลอซู ที่เดี๊ยะ เองเหรอ เหอๆๆ ไปมาเยอะ แต่ไม่ได้อัพบล็อค ค่ะ )

แต่เรื่องนี้ ไม่อัพ ไม่ได้ เพราะ หมดฤดูกาลเค้า แล้วคุยไม่หนุก แล้วอีกอย่างกะลังจะ ไป (เที่ยว ) อีกแหละ
มันซับซ้อนมากเลย เลยตัดใจ อัพเรื่องนี้ก่อนนะคะ

หมายเหตุ: ตั้งแต่เข้าเน็ทบ่อยๆ เราว่าตัวเองนี่ภาษาชักเพี้ยน ทำภาษาเขียนเป็นภาษาพูดไปหมดละ แต่มันฟังดูกันเองดีเหมือนกันเนอะ ...นั่นเอาเข้าไป..

สามีดิฉันก็เร่งเร้าเรื่องซื้อตั๋ว จองตั๋ว ที่ธนาคารกรุงไทยมาก ท่านดำเนินการเองตั้งแต่ไก่โห่ จนดิฉันลืมไปละ ว่าตั้งแต่เมื่อไร เริ่มๆ เลยก็กะกันว่า 9-11 พย. นะ ท่านกลับมารายงานเสียงตื่นเต้นว่า เฮ้ย !!!!พ่อได้ตั๋วลดราคา ผู้สูงอายุด้วย 5555 ขำมาก

ต่อมา ลูกชายและลูกสะใภ้ ต้องเดินทางไปญี่ปุ่น 10 กว่า วัน ไม่มีใครเฝ้าบ้าน (เราต้องผลัดกันเที่ยว )
อ่ะไปเปลี่ยนเป็น 19-21 พย. เอ้า !!!! 2 คนนั่น กลับมาไม่ทัน ตาม วันที่จะไปรอบ 2 เลยต้องไปขอเปลี่ยนรอบ 3 (สังเกตนะคะ การไปเปลี่ยนตั๋วนี่ต้องดิฉันเลย ค่ะ เพราะท่านผู้ชาย บอกว่าอายเค้า อายทำไมไม่เข้าใจ ใครเข้าใจ ช่วยบอกที

ผลสุดท้ายได้ไปมาเมื่อ 26-28 พย 49

ก่อนไปก็จองโรงแรมที่เชียงใหม่พลาซ่า มีเหตุผลค่อนข้างแอบแฝง เพราะสามีดิฉัน เวลาไปเชียงใหม่ทีไรก็ต้องไปหาแฟนเก่า สมัยเมื่อ20 กว่าปีที่แล้วค่ะ คือร้านอาหาร เจี่ยท้งเฮง เก่าขนาดเมื่อก่อนเป็นร้านเล็กๆ อยู่ในซอก ตลาดต้นลำไย เวลาไปกิน ดิฉันก็ออกขัดขืนใจ เพราะเป็นอาหารจีน แล้วต้องไปนั่งในร้านเล็กๆ ห่อๆ ตัวพิกล..ลูกเต้าก็บ่นกันงึมงัม ทำหน้าง้ำ แต่มีหัวหน้าครอบครัวเผด็จการว่า เดี๊ยะ ... ไม่พาเที่ยวนะ ... ทุกคนก็จะหงอยละค่ะ

ยุคนี้เป็นร้านใหญ่โต โอ่อ่า นักเที่ยว นักชิม มากันล้นหลาม ดิฉัน ก็ชินแล้วกับการไปเชียงใหม่ ต้องโดนสั่งการไปกิน ที่เจี่ยท้งเฮง เหมือนเป็นหน้าที่ไงไม่รู้ แต่ก็ ชอบแล้วนะ เห็นม่ะ นานๆไปก็ชอบเอง ...

( จะได้เที่ยวพืชสวนโลกไหมเนี่ย.... )

มาแวะดูรูประหว่างทางไปพลางก่อนดีกว่า



นี่ละค่ะ คนเกิดปีไก่ ต้องชวนแวะนมัสการ พระธาตุหริภุญชัย จ.ลำพูนทุกครั้งไป


นอนโรงแรม ช่วงเทศกาล คืนละ 1693 สำหรับข้าราชการแสดงบัตร


ตอนเช้าวันจันทร์ เลือกเที่ยววันนี้เพราะหวังว่าคนจะน้อย แต่เอาเข้าจริง ก็มากกกกอยู่ค่ะ นี่เลย คิว เพื่อซื้อตั๋วนั่งรถราง 30 บาท

สัญญลักษณ์งานราชพฤกษ์ 2006 (ปีทองของไทย)




ก่อนอื่นเราก็ต้องออมแรงนั่งรถราง ชมสวนข้างทางไปพลางๆก่อน







นี่ดิฉัน พยายามโพส ทีละ 2 ภาพ แต่มันไม่ยอมขึ้นค่ะ
เฮ้อ..คนแก่ ทำอะไรก็งกเงิ่นไปหมด



และนี่เลยค่ะหัวใจของงาน หอคำหลวง ( ภาพด้านข้าง)

ภาพมองจากมุมบนหอคำหลวง
เมื่อลงจากหอคำหลวงมา เราก็เดินชมสวนของประเทศต่างๆ แล้วก็แซวกันเองกะคนที่ไปด้วยว่า ตกลง ต้นไม้ที่แต่ประเทศเค้าเอามาตกแต่งนี่ มันของเราหรือของเขานะ

มันคุ้นๆเนอะ เออน่า ไม่ว่ากัน.....

เดินไป ๆ ๆก็เหนื่อยสิคะ หาอาหารกินดีกว่า เราดูในแผนผังงาน จุดมุ่งหมายจะไปที่ ศูนย์อาหาร ที่ 2 ของ บริษัทบุญรอด อยากขึ้นรถรางต่อซะแล้ว แต่ว่า นี่เรากะลังเดินสวนทาง รถรางนี่หว่า เลยเดินไป แย่เลย แต่พอไปถึงก็ค่อยยังชั่วหน่อย

ที่นั่งว่าง โต๊ะสะอาด อาหารดี ราคา ใช้ได้ มีพัดลมไอน้ำ ให้เย็นฉ่ำ อึมมมม

เดินลัดเลาะไปดูสวนพืช เมืองร้อน เมืองหนาวกัน สวยดี แต่เรากลัวคนตีหัว ผู้เฒ่าที่ไปด้วย เนื่องจากไปดุว่า คนที่นั่งถ่ายรูป ใกล้กับป้าย ห้ามนั่ง และลูบไล้ดอกไม้ ที่เขาเขียนป้ายว่า ห้ามจับ เอ้อ...คนหนอคน ถึงว่า ป้ายห้ามนั่ง ห้ามจับ นี่เต็มงานไปหมด




มาเล่าต่อ นะคะ เมื่อเหนื่อยเมื่อยมาก ตะวันก็เริ่มบ่าย เข้าไปในอาคารในร่ม ให้เย็นๆกายดีกว่า ไปหาที่นั่งกินขนมและกาแฟ (ขอนินๆๆๆสามีหน่อย ท่านชงกาแฟส่วนตัวไปกิน ยามเช้า และสายก็บ่นว่า หนักว่ะ แต่ตอนนี้ อ่ะ มาช่วยกันกินให้หายหนักหน่อย อึมมม...การแฟ ไม่ต้องจ่ายตัง อร่อยจัง แต่เราก็สนับสนุนที่นั่งเค้านะ เราซื้อพิซซ่ามากินแกล้มด้วย

นั่งกินไปดูคนเดินไปมา...อ้าวหันไปเห็นโทรศัพท์ ที่ TOT ท่านมาบริการโทร ภายในประเทศฟรี ต่างประเทศ นาทีละ 5 บาท อินเทอร์เน็ทฟรี แหม....ดีจัง ก็ไปใช้บริการซักหน่อย คุยกะลูกที่กรุงเทพฯ ยัยลูกดันเทศนาแม่ว่า ฟรีก็ดีแล้ว แต่เปลืองพลังงาน อย่าโทรนาน
ดูหล่อนว่าซิ


มาดูรูปในอาคารนิทรรศการหมุนเวียนกันก่อนนะ





เอ้า ผิดพลาดไปละค่ะ เอาละถือว่าแถม

นี่ภาพนี้แหละค่ะในร่มสวนบัว


เดินภายในอาคาร นั่งพัก มีโอกาสได้เล่นเก้าอี้ดนตรี หน้าจอทีวี ที่ฉายภาพยนต์จอยักษ์ ของประเทศตุรกี ประเทศที่ใฝ่ฝันอยากไปมากๆ เลยนั่งพักไปด้วย ดูสารคดีท่องเที่ยวไปด้วย

ข้างๆกันนั้นทางสถานฑูตมีสมุดเซ็นเยี่ยมบูธไว้
มีน้องที่เป็นอาสาสมัคร ของบูธ มาเปิดๆ ดูสมุดเยี่ยม แล้วทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ เพราะมี ...คนไทย ใจหยาบ...
มาเขียนไว้เต็มหน้า ว่า...ขี้เกียจเขียน ไม่ว่าง จะไปเที่ยว
....ดูมันซิ...ไม่ต้องเขียนแสดงความหยาบของจิตใจก็ได้


ลุงกะป้า หันหน้ามาปรึกษากันว่า เรามาเช้าเกินไปเนอะ เพราะเริ่มขาแข็งเดินไม่ไหวละ ว่าจะรอจนถึงเย็นค่ะ เพื่อดูพาเหรด แต่มาคิดดู ยังไง ก้ไม่ไหว เอาไว้ ปีหน้า ( หมายถึงเดือน มค.50) ถ้ามีแรงค่อยมากันใหม่

พอออกจากงานได้ ขอบอกว่า ไม่ได้ของที่ระทึก อะไรสักอย่างเดียว เพราะ หมดอารมณ์ เหนื่อยมาก ........แต่โชเฟอร์ คนเก่งบอกว่า เออน่า เดี๋ยวไปกิน เจี่ยท้งเฮง อีกรอบ ...นั๊นนน....ตกลงมื้อเย็นที่ 2 ก็กินร้านเจี่ย อย่างเดิม ฮือๆๆๆ อาหารนงอาหารเหนือ ไม่ต้องกินมันละ นอกจากนั้นยังซื้อปลานึ่ง มาฝากลูกชายอีก เอาเข้าไป....

มีภาพแถม กระโจม ประเทศการ์ตาร์ เห็นกะลังฮิต เอเชี่ยนเกมส์ตอนนี้
(ดูจะคุยกันรู้เรื่องไหมนะ)



แถมอีกรูป ชอบมากรั้วประเทศญี่ปุ่น คุ้นๆ แต่ไอเดียดีมาก ( จบการรายงานข่าว ภาคท่องเที่ยวไทยนะคะ)






Create Date : 09 ธันวาคม 2549
Last Update : 1 กรกฎาคม 2551 18:42:53 น.
Counter : 499 Pageviews.

1 comment
ทีลอซู 2
อ่ะ ...เดินกันจนขาเริ่มพันกันละ ทั้งไปและกลับ ระหว่างกลับพบกลุ่มทัวร์ที่เพิ่งเข้ามา ก็ให้กำลังใจว่า จวนถึงแล้วค่ะ ....... สวยมากนะคะ ....และก็ต้องพึ่งพา ที่นี่เลย ฮ่า....


เข้าเต็นท์ใครเต็นท์ มัน เพื่อ ไปอาบน้ำ ฝนทำท่าจะตก เฮ้อ...คืนนี้คงอดดูพระจันทร์ สวย แน่เลยเรา
อาบน้ำ (เหมือนแช่น้ำแข็ง) มีกรรมวิธีอีกนะ ล้างหน้าก่อน แล้วเอามาลูบแขน ล้างขา แล้วระเรื่อย...บริเวณหัวใจเค้าว่าเอาไว้สุดท้ายเพราะเกรงว่าเลือดจะแข็งตัว แต่พออาบแล้วไม่อยากหยุด ..ฮ่าๆๆๆ มันๆๆๆๆ
อากาศหม่นลงตามลำดับ เหมือนจะค่ำ เอ..ทำไมไม่เรียกเราไปกินข้าวซะทีหว่า ดูนาฬิกา อ้าวเพิ่ง 5 โมงเย็น เดินเล่น ดีกว่า.....แอบชำเลืองเต็นท์โน้นนี้
แล้วไปกินข้าว ที่โรงครัวของทัวร์ อร่อยมั่กมาก..........






กินข้าวแล้วเดินผึ่งพุงหน่อย แอบไปเห็นหนุ่มสาว ถ่ายรูปที่ป้ายอุทยาน เนื่องจากกลางวัน มีคนไปรุมเต็มเชียว ( น่าเก็บตังค่าป้ายจังเลย)
เราต้องยืนไกลๆอย่างนี้





แต่หนุ่มสาว เค้าได้
ภาพอย่างนี้







ฝนตกจนได้ แต่ตกเหมาะแหมะ...เลยมุดเข้าเต็นท์ใครเต็นท์มัน มีเพื่อนที่ไปด้วย เป่าเมาท์ออแกน อีกเต็นท์นึงก็ร้องเพลง
นี่ เต็นท์ สาวๆ

ค่ำคืนนี้เป็นการนอน ที่ยาวนานที่สุด เพราะไม่มีกิจกรรมอื่นใดทำเลย ฟังเสียง น้ำฝนหยด เต็นท์ ลูกศิษย์ชายบอกว่า จะพยายามถ่ายภาพ พระจันทร์วันเพ็ญ ให้ได้ คืนนี้ เค๊เค..... ครูขออวยพรให้เจ้าทำได้....
เช้าขึ้นมาก็กินข้าวต้ม ( เหมือนเมื่อวานเลย แต่..ก็อร่อยดี ) แล้วเตรียมตัวกลับ



ถึงเวลากลับนี่ต้องนั่งรถ 2 แถวเจ้าเก่ากลับ เป็นระยะทางยาวไกล จนถึงอุ้มผางรีสอร์ท ที่รถตู้ของเรารออยู่ ก็โยกเยกกันมา
เอาผ้ากันฝุ่นอันเก่าออกมา 5555 ระวังนา อย่าเอาด้านนอกของเมื่อวาน มาใส่ด้านในจมูก
ได้แวะสวนสัม เพชรอุ้มผาง เจ้าของท้าชิมจากต้นเลย











มาถึงอุ้มผางรีสอร์ท กินข้าวกลางวันแล้วก็ออกเดินทางกลับ แปลกมาก ขากลับนี่ ไม่หลับเลย ( อ้าวนึกได้ ก็เมื่อคืนนี้นอนทั้งคืนนี่หว่า......) ได้ดูวิวสวย ปล่อยใจล่องลอย......เดี๋ยวก็จะถึงบ้าน...
แล้วพรุ่งนี้ต้องทำงานนนน......
เฮออออ..มีพลังๆๆๆ ได้มาฟอกปอด...
ลาที..ทีลอซู..มีโอกาสจะกลับมาอีก แน่นอน
ขอบคุณ ผู้มีอุปการะคุณ



Create Date : 20 กุมภาพันธ์ 2549
Last Update : 20 กุมภาพันธ์ 2549 12:51:42 น.
Counter : 1544 Pageviews.

4 comment
1  2  

วันจัน
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



อดีต ครูระดับประถมศึกษา 12 ปี ข้ามขั้นมาเป็นครูระดับอุดมศึกษา 29 ปี ปัจจุบัน เป็นผู้เกษียณ อายุราชการ ปีที่11

งานหลัก เป็นผู้อำนวยการดูแลแม่อายุ 90 ปี(ปัจจุบัน2560เสียชีวิตแล้ว)
งานรอง เล่นเกม เล่นกับสัตว์เลี้ยง เดินดูต้นไม้ อ่าน เขียน ทำงานบ้าน ดูหนัง ไปให้คนอื่นนวดตัว ไปนั่งเล่นร้านกาแฟลูกชาย นัดเพื่อนเก่า/ลูกศิษย์เก่ากินข้าว ดูแลสวนกล้วยและต้นไม้อื่นๆตามใจที่อยากปลูก ทำอาหารและช่วยเหลือตนเองได้ในระดับ 9เต็ม10
งาน พิเศษ ช่วยดูแลหลานชายและหลานสาว(ตามที่มีโอกาสไปเยี่ยมเยียนที่บ้านเขา)
ผลงานดีเด่น มีสามี1 คน และลูกชาย 1 คน ลูกสาว 2 คน
และหลานชาย 2 คน หลานสาว 2คน

สถานะล่าสุด ปี2561 😍😍ชีวิตเลือกได้
เนื่องจากไม่มีภาระใดๆมาให้ต้องห่วงหา ยกเว้นต้องห่วงตัวเองให้มากที่สุด เพราะปีนี้ ขึ้นหลักกิโลเมตรที่70 แล้ว