|
ความเชื่อในวัยเด็ก
พอดีมีเพื่อนมาถามทิ้งไว้เรื่องเกี่ยวกับความเชื่อในวัยเด็กก็เลยลองย้อนกลับไปครุ่นคิดดู ว่าตอนเด็ก ๆ ฉันมีความเชื่อ จินตนาการ หรือความเข้าใจที่ผิด ๆ อะไรบ้าง แล้วก็พบว่า..เพียบ ที่สำคัญก็ง่าววววมาก (สะกดงี้ป่าวอะ) มิน่าล่ะ...เค้าถึงต้องให้เด็ก ๆ มีการศึกษากัน 1. ตอนเด็ก ๆ แถวบ้านมีต้นฝ้ายเยอะ ก็ทึกทักเอาเองว่าตัวเองจะทอผ้าฝ้ายได้ ฉันก็ไปเก็บดอกฝ้ายมาเอามาตากแดดบ้าง ผสมน้ำบ้าง คิดวิธีการทอเอาเอง เพียรคิดเพียรทำฝ้ายให้เป็นด้ายมาทอผ้าให้จงได้ สุดท้ายก็ทำไม่ได้หรอก ที่สำคัญนั่นหนะ..มันต้นนุ่นเว้ย -__-' 2. คนแต่งงานแล้วถึงจะมีลูก..ซึ่งฉันเข้าใจว่าไอ้พิธีการเนี่ยมันเป็นตัวทำให้คนมีลูกแหระ พอเรียนสุขศึกษากะเพศศึกษาแล้วถึงได้อ๋อว่า ถึงเมิงไม่แต่งงาน เมิงก็มีลูกได้ ก็ด้วยกรรมวิธี Featuring นี่แหละ! 3. อา=ผู้ชาย น้า =ผู้หญิง และน้าจะเป็นเมียอาเสมอ... -__-' 4. คล้าย 3. แม่ชีคือเมียพระ 5. จิ๊เอาไว้ฉี่อย่างเดียว อันนี้ดูเสื่อมมมมมมมาก หรือพวกคุณ ๆ รุตั้งแต่เด็กว่ามันทำอย่างอื่นได้ด้วย...เสื่อมมมมมมมาก 6. หนอนทุกตัวเมื่อโตขึ้นมันจะกลายเป็นผีเสื้อ..จนได้รุจักแมลงวันนั่นหละ ภาพสวยงามก็มลายหายไป 7. ยังอยู่ที่เรื่องสวยงาม...แม่เราสวยที่สุด แต่ตอนนี้มั่นใจมาก ว่า..เรานี่แหละสวยสุด..สนับสนุนโดยแม่เพื่อนอีกที 8. นึกภาพตามนิสนึงนะ..ด้วยความที่บ้านตอนเด็ก ๆ มีบริเวณกว้างขวาง ตามพื้นดินรอบบ้านจะมีรูสองรูอยู่ติดกันคล้ายรูปู ด้วยความฉลาด..ฉันรู้ว่าเป็นที่อยู่ของสัตว์ชนิดหนึ่งแน่นอน แต่ไม่รุว่ามันคือตัวไร ไปถามน้า..น้าบอกว่ามันคือรูของ "ตัวช้างตัวม้า" = สัตว์ที่มีหัวเป็นช้างตัวเป็นม้า แต่ด้วยความที่รูมันเล็กมากแสดงว่าตัวมันจะต้องเล็กมากด้วย..ฉันภูมิใจในความฉลาดของตัวเอง เฝ้าเพียรเอาน้ำหยอดรูหนึ่งเพื่อให้มันโผล่มาที่อีกรู้หนึ่งอยู่นานก็ยังไม่เคยได้เจอตัวเป็น ๆ ของมันซะที..ตอนนี้นั่งนึกย้อนไป..เออ..ฉันก็เชื่อน้าไปได้ ..ปัจจุบันนี้น้าฉันตายไปละ แล้วฉันก็ได้รู้ว่า...นั่นมันคือรูของตัวด้วงชนิดหนึ่ง 9.สืบเนื่องจากน้าคนเดิม..เห็นฉันเด็ดก้านมะละกอมาเล่นทำดาบฟันกะน้องอยู่บ่อยๆ น้าฉันเลยบอกว่าต้นมะละกอนั้นมีคนงานมอญมาผูกคอตายอยู่ ฉันก็คิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่ก็กลัวผีมะละกอมาตลอดวัยเด็ก 10.รถเมล์ขาไปกะขากลับมันจะวิ่งในเส้นทางตรงกันข้ามกันเสมอ..เข้าใจผิดเพราะยังไม่รุจักกรุงเทพนี่เอง สุดท้ายมารู้ว่ามันไม่เสมอไปก็ตอน ม.ต้น ที่นั่งรถเมล์หลงนี่แหละ..น่ากัวมาก...ฉันร้องไห้ฟูมฟายเกือบหาทางกลับไม่ได้ แสรดดดดด... 11.ฉันเชื่อว่า ความซวยแบบสุด ๆ จะเกิดกับคนเราได้แค่หนเดียวเท่านั้น จนตอนฉันเป็นซีดส์ก้อนแรกผ่าตัดไปได้ไม่เท่าไหร่ ก็เจอก้อนที่สองอีก ฉันก็เริ่มลังเลละ ..แต่ที่เลิกเชื่อความเชื่อนี้ในที่สุดก็ตอนสอบตกแคลคูลัส แล้วตามด้วย Structure อีกทีนั่นแหละ ส่วนเรื่องอื่นที่พิสูจน์กันได้ชัด ๆ ว่าความเชื่อนี้ผิดถนัดเลยก็คือ อาการอกหักหลายครั้งซ้ำซ้อนจนเป็นวงเวียนชีวิต หากคุณๆติดตามเรื่องราวรักวุ่นวายฯของฉัน ก็คงจะรู้กันอยู่แล้วอะนะคงไม่ต้องอธิบายอะไรอีก..สราดดดดด 12.ฉันเชื่อว่าคนเราจะมีพรสวรรค์ประจำตัว 1 อย่าง และตอนนี้ก็ฉันก็ยังเชื่ออย่างนั้นอยู่ แต่ก็ยังไม่รุอยู่ดีว่าที่ตัวเองมีหนะ..มันพรสวรรค์อะไร.. เป็นไงอะ.ง่าวววพอมะ..ขำดี ตอนแรกก็นึกไม่ได้ แต่พอนึกได้ 1 อันมันก็ทยอยตามกันออกมาเรื่อย ๆ สนุกดี..ลองนึกถึงวัยเด็กดูดิ ยังมีเรื่องทำนองนี้ให้ได้อมยิ้มอีกมากค่ะ
Free TextEditor
Create Date : 28 เมษายน 2554 |
Last Update : 28 เมษายน 2554 17:30:06 น. |
|
7 comments
|
Counter : 641 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: สัญญาลมปาก วันที่: 29 เมษายน 2554 เวลา:22:45:40 น. |
|
|
|
โดย: น้าเจ้เขาเข้าใจคิดอ่ะ.. IP: 115.87.52.225 วันที่: 30 เมษายน 2554 เวลา:8:11:25 น. |
|
|
|
โดย: hwan hwan (pimonhwan ) วันที่: 6 พฤษภาคม 2554 เวลา:0:07:42 น. |
|
|
|
โดย: โน้ตตี้ IP: 124.122.102.142 วันที่: 18 เมษายน 2555 เวลา:12:42:04 น. |
|
|
|
โดย: eviwhee IP: 58.11.46.250 วันที่: 19 เมษายน 2555 เวลา:22:44:16 น. |
|
|
|
โดย: Koh Tao IP: 125.25.106.184 วันที่: 19 กรกฎาคม 2555 เวลา:18:12:42 น. |
|
|
|
| |
|
|
pimonhwan |
|
|
|
Location :
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]
|
กับตรงนี้ About Me เรื่องราวเกี่ยวกับตัวฉัน พอมานึก ๆ ไป หากเอาชุดหนังหน้าคนของตนเองออก ฉันก็คงจะเป็นแค่เครื่องจักรที่ทำอะไรซ้ำ ๆ เสมอ ...ฉันเป็นเครื่องจักรของการตีความ ฉันเป็นเครื่องจักรของการ Clear ฉันเป็นเครื่องจักรของการแสวงหาความสุข..ทั้งหมดนี้รวมกันคือฉันเลย
เครื่องจักรของการตีความ..มีโอกาสเมื่อไหร่ฉันเป็นต้องตีความเสมอ..คนนี้มาพูดอย่างนี้ แปลว่าอะไร คนนั้นมาพูดอย่างนั้น มันแปลว่าอย่างนี้หรือเปล่า..ตีความเสร็จก็ขอ Clear หน่อย เพราะเป็นคนชอบความชัดเจน แต่ผลที่ได้ ยิ่ง Clear ก็ยิ่งไม่ชัดเจนเสมอ เป็นอันให้ต้อง Clear กันได้เรื่อย ๆ สุดท้าย...ฉันเป็นเครื่องจักรของการแสวงหาความสุข..ฉันพึงหาหนทางสร้างความสุขให้กับตนเองเสมอ อะไรที่คิดว่าจะทำให้ตัวเองมีความสุขได้ จะหามาสนองตัวตลอด อาทิ คิดว่าถ้ามีคอนโดฯ ได้ฉันก็จะมีความสุขกว่านี้ ฉันก็ได้คอนโดฯ มาสมใจ แต่จนป่านนี้ก็ยังถามตัวเองอยู่เสมอว่าทำไมถึงยังไม่มีความสุขซะที ไม่ว่าจะเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ที่คิดว่าจะทำให้มีความสุขได้..เพลงที่ฟัง หนังที่ดู หนังสือที่อ่าน แนวทางต่าง ๆ ที่เค้าว่าทำแล้วจะมีความสุขแก่ชีวิต ก็หามาอ่าน หามาทำไปเรื่อย สุดท้ายก็พบว่ามันไม่เคยพอ แล้วความสุขที่ได้เหล่านั้นมันก็อยู่ไม่นานเลย มันต้องหาต่อไปเรื่อย ๆ หลงลืมไปว่าความสุขแท้จริงง่าย ๆ มันอยู่ที่เราเอง การแสวงหาความสุขจากสิ่งอื่นหรือคนอื่นมันไม่ยั่งยืนเสมอไป-
เมื่อมีเวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้น ได้ลองมองตัวเองให้ชัด ๆ ขึ้น ก็เลยได้ความกระจ่าง พอใจอยู่อย่างที่อย่างน้อยฉันก็ยังโอเคกับสถานการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตที่เกิดขึ้น แม้บางทีมันก็เลวร้ายได้อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ไม่ว่ามันจะเลวร้ายแค่ไหน..มันก็จะเป็นแค่อีกเรื่องที่ผ่านไป..ดีใจที่ตัวเองไม่ใช่คนเหลาะแหละ..ดีใจที่ตัวเองไม่ได้ไขว่คว้าอะไรมาอย่างมักง่าย สุดท้ายฉันก็ยังได้รู้ว่าฉันยังคงมีสิ่งดี ๆ ในชีวิตอย่างเช่นที่เคยมีมาอยู่เสมอ
...เคยเฝ้ารอด้วยความหวังว่าจะมีใครพาเราพ้นไปจากตรงนี้..แต่ความหวังไม่เคยเป็นจริง.. ...เคยใช้เวลาไปเรื่อย ๆ หายใจทิ้งไปวัน ๆ เฝ้ารอสิ่งดี ๆ ที่คิดว่าจะมีเข้ามาในวันข้างหน้า.. ...บางครั้งก็รอวันข้างหน้าจนหลงลืมไปว่า เรามีความสุขอยู่กับปัจจุบันได้โดยไม่ต้องรอ.
|
|
|