...หลากเรื่อง รายวัน ในวันหนึ่งของหวาน...

“Home” : บ้านใบกลม ๆ ที่ผมเรียกว่า -โลก-

"          ประชากรโลก 20% ใช้ทรัพยากรของโลกถึง 80%

           โลกทุ่มงบประมาณด้านอาวุธมากกว่าให้ความช่วยเหลือประเทศที่กำลังพัฒนาถึง 12 เท่า

            มีคนตายวันละ 5 พันคนเนื่องจากดื่มน้ำที่มีมลพิษ

            มนุษย์ 1 พันล้านคนไม่มีน้ำสะอาดใช้

            มีผู้คนเกือบ 1 พันล้านคนที่หิวโหย

            ข้าวมากกว่า 50% ของทั้งโลก กลายเป็นอาหารสัตว์และเชื้อเพลิงชีวภาพ

            พื้นที่อุดมสมบูรณ์ร้อยละ 40 คุณภาพต่ำลง

            ทุก ๆ ปีป่าจะหายไป 13 ล้านเฮกตาร์ (1 เฮกตาร์ = 10,000 ตร.ม.)

            สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 1 ใน 4, นก 1 ใน 8, สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ 1 ใน 3 ใกล้จะสูญพันธ์

            สัตว์ตายเร็วกว่าอัตราการตายตามธรรมชาติถึง 1 พันเท่า

            3 ใน 4 ของพื้นที่ประมงมีจำนวนปลาลดน้อยลงอย่างน่ากลัว

            อุณหภูมิเฉลี่ยของ 15 ปีหลังสุดเป็นอุณหภูมิสูงสุดตั้งแต่เคยบันทึกมา

            ความหนาของชั้นน้ำแข็งบางกว่าเมื่อ 40 ปีก่อนถึง 40%

            จะมีผู้ลี้ภัยเพราะสภาพอากาศอย่างน้อย 200 ล้านคนในปี 2050..............."

            ทั้งหมดนี่คือความจริงครับ        

            ความจริงที่ถูกนำเสนอไว้ใน DVD ภาพยนตร์สารคดีที่มีชื่อว่า "Home" ที่มีพี่ท่านหนึ่งกรุณานำมาให้ได้ยืมได้ชมกันครับ

            สารคดีนำเสนอความจริง..ความจริงเกี่ยวกับโลกใบนี้ที่เรายืนอยู่บนมันและใช้มันเป็นที่อยู่อาศัย  ผู้บรรยายเปิดเรื่องด้วยการเรียกร้องให้ฟังเค้าก่อน..แค่ฟังก่อนแล้วค่อยตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรดีกับโลกใบนี้ดี   แล้วเค้าก็เล่าให้ฟังตั้งแต่จุดกำเนิดของโลก จากอนุภาคของกลุ่มควันและเปลวไฟ คาร์บอนไดออกไซด์และน้ำ  จนมาถึงจุดกำเนิดของสิ่งมีชีวิต

            เรื่องเริ่มต้นได้อย่างสวยงาม ด้วยภาพที่สวยและเพลงบรรเลงประกอบที่ไพเราะ  มุมกล้องที่ใช้ในการถ่ายทำส่วนใหญ่เป็นมุมมองจากด้านบนแบบ Top View นอกจากจะได้ความแปลกตาแล้ว ยังเหมือนเป็นการเรียกร้องให้เราลองมองไปยังโลกเบื้องล่างบ้าง...โลกที่เราเหยียบย่ำอยู่...

            ระหว่างที่กำลังดูถึงที่มาของโลกและสิ่งมีชีวิตด้วยเสียงบรรยายประกอบกับเพลงบรรเลงเพราะ ๆ เบา ๆ มาสักพัก  เพลงประกอบก็ทวีความดังระทึกถี่ขึ้นเป็นจังหวะเมื่อถึงตอนที่สิ่งมีชีวิตอันชาญฉลาดที่เรียกว่า "มนุษย์"  ได้เข้ามาทำลายวัฏจักรของความสมดุลและเปลี่ยนโฉมหน้าของโลกด้วยการเกษตร, อุตสาหกรรม และความเจริญศิวิไลซ์  ด้วยการบริโภคทรัพยากรที่โลกมีให้อย่างไม่รู้จักพอ...

            ถึงตอนนี้ผมดูแล้วสลดครับ..เกลียดมนุษย์ชะมัด  คิดแล้วไม่อยากอยู่เป็นคนเลยครับ

            ลองกลับไปอ่านความจริงในตอนต้นอีกทีสิครับ  แต่ถ้าจะให้ดีไปดู DVD ประกอบด้วยนะครับจะอินมาก

            Faster and faster...

            More and more...

            เสียงบรรยายแทบจะทุก Chapter ของช่วงทำลายโลกนี้จะขึ้นต้นด้วยคำเหล่านี้ตลอด..

            มนุษย์ใช้ทรัพยากรโลกหมดไปอย่างรวดเร็วและรวดเร็วยิ่งขึ้น...

            มนุษย์ทำลายโลกไปมากมายและมากมายยิ่งขึ้น...

            ถ้าการให้ของโลกและการรับของมนุษย์เป็นวัฏจักร  แล้วมนุษย์ทำตัวเป็นผู้รับเพียงอย่างเดียว  วัฏจักรนี้คงขาดสมดุล

            เราคงปฏิเสธความรับผิดชอบนี้กันไม่ได้หรอกครับ

            ปรากฏการณ์เรือนกระจกหรือโลกร้อนส่งผลกระทบไปทั่วทั้งโลก  แม้แต่ Greenland ที่ไม่มีคนอยู่อาศัยเลยก็ได้รับผลนี้ไปด้วย  อื่น ๆ ก็เห็นได้ทั่วไปจากในข่าวปัจจุบัน...แผ่นดินไหว ไฟไหม้ป่า พายุกระหน่ำ ฯลฯ  ...บางทีเราอาจจะไม่ต้องรอให้โลกแตกในปี 2012 เหมือนอย่างในหนังโลกาวินาศก็ได้นะครับ

            ช่วงเวลาที่เหลือต่อจากนี้มันคงไม่สำคัญอีกแล้วว่าเราจะใช้อะไรไป  หรืออะไรจะเสียหายไปเท่าไหร่แล้วบ้าง  ผมว่าที่เราควรจะคิดให้หนักก็คือ  แล้วเราจะเหลืออะไรไว้ดีล่ะครับ???

            ตัดสินใจกันนะครับว่าเราจะทำอะไรเพื่อบ้านใบกลม ๆ หลังนี้ดี

***อ่านแล้วถูกใจ กรุณาคลิ๊กแถบโฆษณาด้านขวามือให้ด้วยนะครับ




Create Date : 16 มีนาคม 2556
Last Update : 21 มีนาคม 2556 11:00:01 น. 2 comments
Counter : 711 Pageviews.  

 
ชอบมากครับเรื่องนี้ ออกฉายที่ฝรั่งเศสปี 2009 ให้ดูฟรีทางทีวี และอินเตอเนต กลายเป็นปรากฏการณ์ทีเดียว ใครสนใจดูได้ฟรีและถูกกฎหมายทางyoutube แต่ไม่แน่ใจว่าจะมีเวอชั่นภาษาไทย


โดย: Pongratta IP: 92.145.240.208 วันที่: 16 มีนาคม 2556 เวลา:20:50:55 น.  

 
สุขสันต์วันเกิดค่ะ


โดย: เจ้าหญิงแห่งความเหงา วันที่: 1 มิถุนายน 2556 เวลา:10:32:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

pimonhwan
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




กับตรงนี้ “About Me” เรื่องราวเกี่ยวกับตัวฉัน พอมานึก ๆ ไป หากเอาชุดหนังหน้าคนของตนเองออก ฉันก็คงจะเป็นแค่เครื่องจักรที่ทำอะไรซ้ำ ๆ เสมอ ...ฉันเป็นเครื่องจักรของการตีความ ฉันเป็นเครื่องจักรของการ Clear ฉันเป็นเครื่องจักรของการแสวงหาความสุข..ทั้งหมดนี้รวมกันคือฉันเลย

เครื่องจักรของการตีความ..มีโอกาสเมื่อไหร่ฉันเป็นต้องตีความเสมอ..คนนี้มาพูดอย่างนี้ แปลว่าอะไร คนนั้นมาพูดอย่างนั้น มันแปลว่าอย่างนี้หรือเปล่า..ตีความเสร็จก็ขอ Clear หน่อย เพราะเป็นคนชอบความชัดเจน แต่ผลที่ได้ ยิ่ง Clear ก็ยิ่งไม่ชัดเจนเสมอ เป็นอันให้ต้อง Clear กันได้เรื่อย ๆ สุดท้าย...ฉันเป็นเครื่องจักรของการแสวงหาความสุข..ฉันพึงหาหนทางสร้างความสุขให้กับตนเองเสมอ อะไรที่คิดว่าจะทำให้ตัวเองมีความสุขได้ จะหามาสนองตัวตลอด อาทิ คิดว่าถ้ามีคอนโดฯ ได้ฉันก็จะมีความสุขกว่านี้ ฉันก็ได้คอนโดฯ มาสมใจ แต่จนป่านนี้ก็ยังถามตัวเองอยู่เสมอว่าทำไมถึงยังไม่มีความสุขซะที ไม่ว่าจะเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ที่คิดว่าจะทำให้มีความสุขได้..เพลงที่ฟัง หนังที่ดู หนังสือที่อ่าน แนวทางต่าง ๆ ที่เค้าว่าทำแล้วจะมีความสุขแก่ชีวิต ก็หามาอ่าน หามาทำไปเรื่อย สุดท้ายก็พบว่ามันไม่เคยพอ แล้วความสุขที่ได้เหล่านั้นมันก็อยู่ไม่นานเลย มันต้องหาต่อไปเรื่อย ๆ หลงลืมไปว่าความสุขแท้จริงง่าย ๆ มันอยู่ที่เราเอง –การแสวงหาความสุขจากสิ่งอื่นหรือคนอื่นมันไม่ยั่งยืนเสมอไป-

เมื่อมีเวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้น ได้ลองมองตัวเองให้ชัด ๆ ขึ้น ก็เลยได้ความกระจ่าง พอใจอยู่อย่างที่อย่างน้อยฉันก็ยังโอเคกับสถานการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตที่เกิดขึ้น แม้บางทีมันก็เลวร้ายได้อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ไม่ว่ามันจะเลวร้ายแค่ไหน..มันก็จะเป็นแค่อีกเรื่องที่ผ่านไป..ดีใจที่ตัวเองไม่ใช่คนเหลาะแหละ..ดีใจที่ตัวเองไม่ได้ไขว่คว้าอะไรมาอย่างมักง่าย สุดท้ายฉันก็ยังได้รู้ว่าฉันยังคงมีสิ่งดี ๆ ในชีวิตอย่างเช่นที่เคยมีมาอยู่เสมอ

...เคยเฝ้ารอด้วยความหวังว่าจะมีใครพาเราพ้นไปจากตรงนี้..แต่ความหวังไม่เคยเป็นจริง..
...เคยใช้เวลาไปเรื่อย ๆ หายใจทิ้งไปวัน ๆ เฝ้ารอสิ่งดี ๆ ที่คิดว่าจะมีเข้ามาในวันข้างหน้า..
...บางครั้งก็รอวันข้างหน้าจนหลงลืมไปว่า เรามีความสุขอยู่กับปัจจุบันได้โดยไม่ต้องรอ.






hits Stock Photos from 123RF
[Add pimonhwan's blog to your web]