"Life remains the same until the pain of remaining the same becomes greater than the pain of change."
Group ตัวอย่าง
เมื่อฉันรู้ว่าพ่อฉันเป็นมะเร็งตอนที่ 22 ครบ 8 ปี
เมื่อฉันรู้ว่าพ่อฉันเป็นมะเร็งตอนที่ 21 ครบ 4 ปี 3 เดือนหลังการผ่าตัดและ 3 ปี 9 gfnvoหลังจากการให้คีโมXeloda
เมื่อฉันรู้ว่าพ่อฉันเป็นมะเร็งตอนที่ 20 ครบ 2 ปี 5 เดือนหลังการผ่าตัดและ 2 ปีหลังจากการให้คีโมXeloda
เมื่อฉันรู้ว่าพ่อฉันเป็นมะเร็งตอนที่ 19 ครบ 1 ปีจากการให้คีโมXeloda
เมื่อฉันรู้ว่าพ่อฉันเป็นมะเร็งตอนที่ 18 ครบ 1 ปีของการผ่าตัดและ6หลังจากการให้คีโมXeloda
เมื่อฉันรู้ว่าพ่อฉันเป็นมะเร็งตอนที่ 17 (การทานอาหารและการพาท่านไปพักผ่อน)
เมื่อฉันรู้ว่าพ่อฉันเป็นมะเร็งตอนที่ 16 (ต้องแสดงท่านรู้ว่าท่านมีความสำคัญมาก)
เมื่อฉันรู้ว่าพ่อฉันเป็นมะเร็ง (เรื่องเล่า..ที่ไม่เกี่ยวกับมะเร็ง...แต่อยากเล่า)
เมื่อฉันรู้ว่าพ่อฉันเป็นมะเร็งตอนที่ 15 (คีโม Cycle4)
เมื่อฉันรู้ว่าพ่อฉันเป็นมะเร็งตอนที่ 14 (ครบ 4 เดือนหลังจากผ่ามะเร็งออกจากกระเพาะ)
เมื่อฉันรู้ว่าพ่อฉันเป็นมะเร็งตอนที่ 13 (คีโม Cycle3)
เมื่อฉันรู้ว่าพ่อฉันเป็นมะเร็งตอนที่ 12 (คีโม Cycle2)
เมื่อฉันรู้ว่าพ่อฉันเป็นมะเร็งตอนที่ 11 (การดูแลท่านเมื่อท่านกลับบ้าน)
เมื่อฉันรู้ว่าพ่อฉันเป็นมะเร็งตอนที่ 10( มะเร็ง ทำไมต้องคีโม??)
เมื่อฉันรู้ว่าพ่อฉันเป็นมะเร็งตอนที่ 9 (การเตรียมตัวเมื่อพาคุณพ่อกลับบ้าน)
เมื่อฉันรู้ว่าพ่อฉันเป็นมะเร็งตอนที่ 8 (พักรบกับเจ้ามะเร็งร้ายและมารู้จักเจ้าของ Blog กันดีกว่า)
เมื่อฉันรู้ว่าพ่อฉันเป็นมะเร็งตอนที่ 7 (คีโมครั้งที่ 1 ตอนที่ 3/3)
เมื่อฉันรู้ว่าพ่อฉันเป็นมะเร็งตอนที่ 6 (คีโมครั้งที่ 1 ตอนที่ 2/3)
เมื่อฉันรู้ว่าพ่อฉันเป็นมะเร็งตอนที่ 5 (คีโมครั้งที่ 1 ตอนที่ 1/3)
เมื่อรู้ว่าพ่อฉันเป็นมะเร็งตอนที่ 4 (พบคุณหมอมะเร็งก่อนให้คีโม)
เมื่อฉันรู้ว่าพ่อฉันเป็นมะเร็งตอนที่ 3 (ผลชิ้นเนื้อ)
เมื่อฉันรู้ว่าพ่อฉันเป็นมะเร็งตอนที่ 2 (ผ่าตัด)
เมื่อฉันรู้ว่าพ่อฉันเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร ตอนที่1
เมื่อฉันรู้ว่าพ่อฉันเป็นมะเร็งตอนที่ 5 (คีโมครั้งที่ 1 ตอนที่ 1/3)
ใครได้อ่านเรื่อง
ผมไม่มีวันยอมตายด้วยโรคมะเร็ง
บ้างคะ ขออนุญาติภรรยาคุณ kcmc นำมาเล่านะคะ //topicstock.pantip.com/lumpini/topicstock/2008/08/L6863057/L6863057.html
เป็นกระทู้ในพันทิปนี่เองของคุณ kcmc ที่เขียนเล่าเรื่องราวของตัวเองที่เป็นมะเร็งจากตั้งแต่เดือน สค ปี 51 ซึ่งตรวจพบว่าเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่และลามไปที่ตับตั้งแต่เดือนเมษายน 51 เราเข้าไปอ่านแล้ว ค่อยๆเลื่อนข้อความลงไป ซึ่งเขาผ่าตัดเอาส่วนมะเร็งออกไปซึ่งคล้ายกับคุณพ่อ
ต่อมาภรรยาในวันที่ 2 พ.ค 2552 นี้เอง เป็นผู้มาแจ้งในPantip ว่า
คุณก่อเกียรติใช้เวลา 1 ปีเต็มในการต่อสู้กับโรคร้าย และในที่สุดโรคร้ายก็เป็นผู้ชนะโรคมะเร็งได้พรากสามีสุดที่รักของดิฉัน และพรากคุณพ่อที่แสนดีของลูกสาวดิฉันไปอย่างไม่มีวันกลับ คุณก่อเกียรติได้จากเราไปโดยสงบเมื่อวันจันทร์ 27 เมษายน 2552 เวลา 10.00 น..
เรื่องนี้ ทำให้เราไม่กล้าที่จะอ่านข้อความของเขาต่อเลย ทำใจอยู่หลายวันจึงตัดสินใจใหม่ที่จะเข้าไปอ่าน คืนที่เราอ่านกระทู้เป็นคืนที่ฝนตกหนักในกรุงเทพ เราเปิดหน้าต่างออกนิดๆเพื่อให้ลมและกลิ่นอายของฝนเข้ามาที่โต๊ะทำงานที่อยู่ติดกับขอบหน้าต่าง คลิ๊กเข้าไปตรง favorite ที่ save ไว้ แล้วจึงค่อยๆอ่าน
มีคำพูดนึงที่ภรรยาพูดกับคุณ kcmc ว่า ....
สู้น่ะพ่อ เขาจะอยู่ข้างๆแล้วลูกของเราก็รอพ่ออยู่ พ่อเหนื่อยกับครอบครัวมามากแล้วไม่ต้องห่วง แม่ให้พ่อพักบ้าง แม่จะทำทุกอย่างแทนพ่อเอง
....เศร้าจัง..... เราอ่านแล้วก็น้ำตาไหลออกมาเองจนเปื้อนคีบอร์ดไปหมด มีคนนึงเขียนให้กำลังคุณ kcmc ว่า ถึงกายจะพัง ใจต้องไม่พัง ครับ เราชอบมากเลย เราอ่านไปเรื่อยๆ ลงไปเรื่อยๆ.....
มือแทบกดเม้าส์ไม่ไหว เห็นมีคนเขียนมาให้กำลังใจ คุณ kcmc มากเหลือเกินซึ่งเขาคงมีกำลังใจมากขึ้นแน่ๆ ดีจัง เราเอาใจช่วยไปด้วย ในคหที่ 190 เขาเขียนว่า
มีกำลังใจมากขึ้นเวลาที่พี่ชายและพี่สะใภ้มาเยี่ยม สุขใจที่สุดทุกครั้งที่ภรรยาพาลูกสาวมาหา จิตตกหมดอาลัยตายอยากเหมือนกับคนบ้าเวลาที่อยู่คนเดียว
....สะท้อนถึงคุณพ่อเราเลย ท่านคงจะชอบที่มีคนมาอยู่กับท่านเยอะๆ ฉะนั้นเราต้องให้เวลาคุณพ่อมากๆ ยิ่งอ่านประโยคที่เขาเขียนถึงคุณแม่เขาว่า
แม่ครับ ผมเป็นลูกของแม่ แม่เป็นแม่ของผม ในร่างกายของผมมีแต่เลือดของพ่อและแม่ไหลเวียนอยู่ น้ำตาทุกหยดของแม่ที่หลั่งออกมาเพราะความสงสารและเจ็บแทนผมนั้น มันซึมเข้าไปที่หัวใจของผมแล้วและผมจะต้องมีชีวิตอยู่เพื่อเป็นลูกของแม่ตลอดไป .
.....
สำหรับเราแล้วเวลาทั้งหมดของเราซึ่งคงทำให้เวลาส่วนตัวของเราหมดไปด้วยเราจะขอมอบคุณพ่อเราคนเดียวซึ่งเราเต็มใจที่จะทำเพราะเรามีพ่อเพียงคนเดียว....
.....ลองไปอ่านนะคะ เตรียมผ้าเช็ดน้ำตาไว้ด้วยละกัน
.... วันนี้วันที่ 20 พ.ค 2552 เรามีโอกาสได้ไปฟังบรรยายที่โรงพยาบาลรามาเรื่อง...มะเร็ง...ทำไมต้องคีโม '' ซึ่งมีประโยชน์มากๆ เด่วจะเอามาเล่าให้ฟังนะคะ แต่ตอนนี้ขอเล่าเรื่องต่อจากตอนที่ 4 ก่อนละกัน
ตอนนี้ต้องละเอียดหน่อยนะคะ ญาติที่ดูแลผู้ป่วยควรเฝ้าสังเกตุอาการของคนป่วยอย่างละเอียดเพราะเป็นการให้คีโมเป็นครั้งแรกหรือโดยภาษาเขาเรียกว่าครั้งแรกจะต้องเฝ้าอย่าไม่ให้ห่าง ปรกติแล้วครั้งต่อๆไปก็จะเป็นการให้คีโมสูตรเดียวกันจนจบ ยกเว้นบางกรณีทีผู้ป่วยมีอาการข้างเคียงเยอะ คุณหมออาจจะต้องปรับยาใหม่ .:ซึ่ง case คุณพ่อเป็นเช่นนั้นค่ะ นั่นคือสาหตุที่ทำไมคุณพ่อต้องอยู่โรงพยาบาล15 วันแทนที่จะเป็นแค่ 5 วันตามที่คุณหมอบอก.....คอยติดตามนะคะ .
ไม่มีใครดูแลคนของเราเท่าคนในครอบครัวหรอกค่ะ คุณหมอท่านก็มีหน้าที่รักษาด้วยวิธีการของท่าน เราต่างหากที่ต้องดูแลส่วนที่เหลือ ที่สำคัญคือการที่เรารู้ข้อมูลและอาการผู้ป่วยอย่างละเอียดจะสามารถช่วยคุณหมอได้มากนะคะ ที่สำคัญข้อมูลจากเราและที่คุณพยาบาลที่เก็บจะเป็นข้อมูลเบื้องต้นในการวินิจฉัยโรคและรักษาโรคต่อไป.. อย่าลืมว่า เรามีคุณหมอเพียงไม่กี่คนที่ดูแลคนของเรา แต่คุณหมอมีคนไข้เยอะเหลือเกิน ยิ่งเมืองไทยแล้วโรงพยาบาลรัฐด้วยแล้วคุณหมอ 1 ท่านดูแลคนไข้นับร้อยเลยทีเดียวค่ะ สงสารคุณหมอค่ะ.....
ตกลงหลังจากกลับบ้านวันที่ 8 เมษา 52 และพบคุณหมอไนยรัฐและคุณหมอกสานติ์แล้ว พวกเราก็พาคุณพ่อกลับมาอีกครั้งนึงเพื่อเตรียมตัวให้คีโมสูตร ECF
การให้คีโมมีอยู่หลายสูตรค่ะ ขึ้นอยู่กับว่าจะเป็นมะเร็งชนิดไหน? เป็นระยะเท่าไหร่?? ระยะเวลาในการให้ก็ไม่เหมือนกัน คีโมบางสูตรให้ตลอด 24 ชั่วโมง รวม 5 วัน แล้วพัก ครบวันที่ 21 ของการให้คีโมต้องมาให้อีกครั้งสูตรเดิมอีกและต่อเนื่องตามที่คูรหมอบอก ส่วนบางสูตรก็ไม่ต้องนอนค้างที่โรงพยาบาลมาแบบ Day care คือมาให้ที่โรงพยาบาลไปเช้าเย็นกลับ ซึ่งสูตรของคุณพ่อจะเป็นสูตรให้ 24 ชั่วโมงต่อเนื่อง 5 วัน ฉะนั้นญาติหรือคนป่วยต้องถามคุณหมออย่างละเอียดว่าสูตรที่ได้เป็นแบบไหนค่ะ
ในเย็นวันนั้นเอง เราไปถึงโรงพยาบาลประมาณ 6 โมงเย็น จากนั้นก็เป็นเราที่อยู่กับคุณพ่อในคืนนั้น เนื่องจากห้องเต็ม คุณพ่อจึงต้องไปอยู่อาคารพัชรกิตติยาภา 1 คืน จากนั้นวันที่ 10 เมย จึงย้ายไปอยู่อาคารเฉลิมพระเกียรติชั้น 19 แผนกอายุรกรรม ...ทุกอย่างคล้ายชั้น 14 ตอนที่คุณพ่อผ่าตัดเมื่อต้นเดือน มีนาคมที่ผ่านมา
เช้าของวันที่ 9 เมษาเป็นวันแรกของคีโม เริ่มจาก
ช่วงเช้า : คุณพยาบาลมาให้น้ำเกลือ 6 ช.ม ประมาณช่วงบ่ายนิดเป็นการให้ยาคีโมขวดแรก ซึ่งคีโมตัวนี้คือ 5FU เป็นตัวหลักจะต้องให้ขวดละ 12 ชม.(จริงๆแล้วก็แค่ 11 กว่าๆ) ส่วนใหญ่คีโมก็จะมาในรูปบบขวดแหละค่ะ ทางเภสัชของโรงพยาบาลก็จะเอาคีโมแต่ละตัวผสมกับน้ำเกลือเพื่อให้เจือจาง จากนั้นก็จะฉีดเข้าทางเส้นเลือดดำ ค่อยๆปล่อย ช้าๆ 1 ขวดจึงกินเวลา 12 ชม ปริมาณประมาณ 1000 ml คุณพ่อเริ่มให้คีโมในวันที่ 9 บ่าย 5FU
ต่อเนื่อง 2 ขวด จนหมดประมาณ ช่วงบ่ายของวันที่ 10 เมษา จากนั้นก็ให้ คีโมตัวที่ 2 ที่เรียกว่า Epirubisin ซึ่งเป็นตัวยาสีส้มๆแดงๆสวยดี จากนั้นต่อด้วยคีโมตัวที่ 3 คือ Cispatin เป็นตัวใสๆ คีโม 2 ตัวนี้ค่อนข้างแรงจนคุณหมอเรียกตัวใสๆว่า เล็กพริกขี้หนู ทั้ง Epirubisin & Cispatin รับขวดละไม่เกิน ชั่วโมง จากนั้นต่อด้วยตัวยาอะไรอีกไม่ทราบแล้วต่อด้วย 5FU อีก 6 ขวด ซึ่ง คอร์สการให้คีโมครั้งแรกสิ้นสุดลงในวันที่ 13 เมษายน 52 ทุกครั้งเราจะทำการบันทึกในสมุดและเอาเข้าคอมเพื่อเก็บเป็นreference เอาไว้ อย่างที่บอกตอนต้นว่าทำไมต้องบันทึก ก็เพราะว่าคอร์สคีโมในครั้งหน้าจะเป็นแบบเดิม เราจะต้องรู้ว่าอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นในระหว่างการให้คีโมมีอะไรจะได้ต่อสู่ในทุกๆครั้งที่จะต้องให้คีโม
ญาติจึงมีบทาทมากค่ะสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้เนื่องจากผู้ป่วยเองเขาต่อสู้กับโรคด้วยตัวเองแล้ว เขาแทบไม่อยากจดจำรายละเอียดระหว่างการรักษาหรอกค่ะระหว่างการให้คีโม เราจะจดยาที่คุณหมอให้ทานอย่างละเอียด บางครั้งเราไม่รู้จักชื่อยาหรอกนะคะแต่จดไว้เพื่อดูว่าคราวหน้ายาที่รับประทานควรจะต้องเหมือนเดิม
เราก็จะถ่ายรูปยาที่ไม่รู้เอาไว้เผื่อไว้ถามคุณหมอดังเช่น
เราถ่ายไว้แล้วถามคุณหมอและทราบต่อมาว่านี่คือยาชื่อ Nasea เป็นยากันอาเจียนชนิดนึง
วันนี้เราขอจบตอนที่ 5 แค่นี้ก่อนนะคะ แล้วจะรีบมาเขียนต่อค่ะ ซึ่งจะเป็นตอนที่คุณพ่อเรามีอาการข้างเคียงจนเราเห็นแล้วอยากจะให้ท่านเลิกคีโมค่ะ
Create Date : 20 พฤษภาคม 2552
Last Update : 21 พฤษภาคม 2552 20:18:31 น.
5 comments
Counter : 3916 Pageviews.
Share
Tweet
ผมได้อ่านกระทู้ของคุณ kcmc แล้วครับ ซึ้งมาครับ ยังงัย จขกท ต้องเป้นกำลังใจให้คุณพ่อพิชิตโรคนี้ให้ได้นะครับ
โดย: วาทิตย์ IP: 202.176.124.62 วันที่: 21 พฤษภาคม 2552 เวลา:9:53:24 น.
ยังตามเป็นกำลังใจให้คุณพ่อนะคะ
โดย:
ชฎาแหลม
วันที่: 21 พฤษภาคม 2552 เวลา:10:21:37 น.
สู้ๆ นะค่ะ แวะมาส่งกำลังใจให้ค่ะ
โดย: kik IP: 61.90.70.42 วันที่: 21 พฤษภาคม 2552 เวลา:11:25:13 น.
ขอบคุณมากสำหรับความรู้ค่ะ
โดย: Antibiotic IP: 58.8.38.60 วันที่: 18 กรกฎาคม 2552 เวลา:0:32:08 น.
เป็นกำลังใจให้กับทุกคนในครอบครัวนะค่ะ โดยเฉพาะคนป่วย
จิตใจที่เข้มแข็งเท่านั้น ที่จะเอาชนะโรคนี้ได้ สู้ ๆๆ ค่ะ
โดย:
KeRiDa
วันที่: 24 พฤษภาคม 2554 เวลา:17:51:21 น.
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
wachan2014
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [
?
]
PREVIOUS COUNTER WAS 3,956 VISITORS AND THIS COUNTER START SINCE 16 JULY 2009 ...
Webmaster - BlogGang
[Add wachan2014's blog to your web]
Bloggang.com