"Life remains the same until the pain of remaining the same becomes greater than the pain of change."
 
เมื่อฉันรู้ว่าพ่อฉันเป็นมะเร็งตอนที่ 5 (คีโมครั้งที่ 1 ตอนที่ 1/3)

ใครได้อ่านเรื่อง “ผมไม่มีวันยอมตายด้วยโรคมะเร็ง” บ้างคะ ขออนุญาติภรรยาคุณ kcmc นำมาเล่านะคะ //topicstock.pantip.com/lumpini/topicstock/2008/08/L6863057/L6863057.html

เป็นกระทู้ในพันทิปนี่เองของคุณ kcmc ที่เขียนเล่าเรื่องราวของตัวเองที่เป็นมะเร็งจากตั้งแต่เดือน สค ปี 51 ซึ่งตรวจพบว่าเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่และลามไปที่ตับตั้งแต่เดือนเมษายน 51 เราเข้าไปอ่านแล้ว ค่อยๆเลื่อนข้อความลงไป ซึ่งเขาผ่าตัดเอาส่วนมะเร็งออกไปซึ่งคล้ายกับคุณพ่อ

ต่อมาภรรยาในวันที่ 2 พ.ค 2552 นี้เอง เป็นผู้มาแจ้งในPantip ว่า “คุณก่อเกียรติใช้เวลา 1 ปีเต็มในการต่อสู้กับโรคร้าย และในที่สุดโรคร้ายก็เป็นผู้ชนะโรคมะเร็งได้พรากสามีสุดที่รักของดิฉัน และพรากคุณพ่อที่แสนดีของลูกสาวดิฉันไปอย่างไม่มีวันกลับ คุณก่อเกียรติได้จากเราไปโดยสงบเมื่อวันจันทร์ 27 เมษายน 2552 เวลา 10.00 น..”

เรื่องนี้ ทำให้เราไม่กล้าที่จะอ่านข้อความของเขาต่อเลย ทำใจอยู่หลายวันจึงตัดสินใจใหม่ที่จะเข้าไปอ่าน คืนที่เราอ่านกระทู้เป็นคืนที่ฝนตกหนักในกรุงเทพ เราเปิดหน้าต่างออกนิดๆเพื่อให้ลมและกลิ่นอายของฝนเข้ามาที่โต๊ะทำงานที่อยู่ติดกับขอบหน้าต่าง คลิ๊กเข้าไปตรง favorite ที่ save ไว้ แล้วจึงค่อยๆอ่าน

มีคำพูดนึงที่ภรรยาพูดกับคุณ kcmc ว่า ....“ สู้น่ะพ่อ เขาจะอยู่ข้างๆแล้วลูกของเราก็รอพ่ออยู่ พ่อเหนื่อยกับครอบครัวมามากแล้วไม่ต้องห่วง แม่ให้พ่อพักบ้าง แม่จะทำทุกอย่างแทนพ่อเอง” ....เศร้าจัง..... เราอ่านแล้วก็น้ำตาไหลออกมาเองจนเปื้อนคีบอร์ดไปหมด มีคนนึงเขียนให้กำลังคุณ kcmc ว่า “ ถึงกายจะพัง ใจต้องไม่พัง ครับ” เราชอบมากเลย เราอ่านไปเรื่อยๆ ลงไปเรื่อยๆ.....

มือแทบกดเม้าส์ไม่ไหว เห็นมีคนเขียนมาให้กำลังใจ คุณ kcmc มากเหลือเกินซึ่งเขาคงมีกำลังใจมากขึ้นแน่ๆ ดีจัง เราเอาใจช่วยไปด้วย ในคหที่ 190 เขาเขียนว่า “มีกำลังใจมากขึ้นเวลาที่พี่ชายและพี่สะใภ้มาเยี่ยม สุขใจที่สุดทุกครั้งที่ภรรยาพาลูกสาวมาหา จิตตกหมดอาลัยตายอยากเหมือนกับคนบ้าเวลาที่อยู่คนเดียว” ....สะท้อนถึงคุณพ่อเราเลย ท่านคงจะชอบที่มีคนมาอยู่กับท่านเยอะๆ ฉะนั้นเราต้องให้เวลาคุณพ่อมากๆ ยิ่งอ่านประโยคที่เขาเขียนถึงคุณแม่เขาว่า

“แม่ครับ ผมเป็นลูกของแม่ แม่เป็นแม่ของผม ในร่างกายของผมมีแต่เลือดของพ่อและแม่ไหลเวียนอยู่ น้ำตาทุกหยดของแม่ที่หลั่งออกมาเพราะความสงสารและเจ็บแทนผมนั้น มันซึมเข้าไปที่หัวใจของผมแล้วและผมจะต้องมีชีวิตอยู่เพื่อเป็นลูกของแม่ตลอดไป….” .....

สำหรับเราแล้วเวลาทั้งหมดของเราซึ่งคงทำให้เวลาส่วนตัวของเราหมดไปด้วยเราจะขอมอบคุณพ่อเราคนเดียวซึ่งเราเต็มใจที่จะทำเพราะเรามีพ่อเพียงคนเดียว....

.....ลองไปอ่านนะคะ เตรียมผ้าเช็ดน้ำตาไว้ด้วยละกัน

.... วันนี้วันที่ 20 พ.ค 2552 เรามีโอกาสได้ไปฟังบรรยายที่โรงพยาบาลรามาเรื่อง...”มะเร็ง...ทำไมต้องคีโม '' ซึ่งมีประโยชน์มากๆ เด่วจะเอามาเล่าให้ฟังนะคะ… แต่ตอนนี้ขอเล่าเรื่องต่อจากตอนที่ 4 ก่อนละกัน

ตอนนี้ต้องละเอียดหน่อยนะคะ ญาติที่ดูแลผู้ป่วยควรเฝ้าสังเกตุอาการของคนป่วยอย่างละเอียดเพราะเป็นการให้คีโมเป็นครั้งแรกหรือโดยภาษาเขาเรียกว่าครั้งแรกจะต้องเฝ้าอย่าไม่ให้ห่าง ปรกติแล้วครั้งต่อๆไปก็จะเป็นการให้คีโมสูตรเดียวกันจนจบ ยกเว้นบางกรณีทีผู้ป่วยมีอาการข้างเคียงเยอะ คุณหมออาจจะต้องปรับยาใหม่….:ซึ่ง case คุณพ่อเป็นเช่นนั้นค่ะ นั่นคือสาหตุที่ทำไมคุณพ่อต้องอยู่โรงพยาบาล15 วันแทนที่จะเป็นแค่ 5 วันตามที่คุณหมอบอก.....คอยติดตามนะคะ….

ไม่มีใครดูแลคนของเราเท่าคนในครอบครัวหรอกค่ะ คุณหมอท่านก็มีหน้าที่รักษาด้วยวิธีการของท่าน เราต่างหากที่ต้องดูแลส่วนที่เหลือ ที่สำคัญคือการที่เรารู้ข้อมูลและอาการผู้ป่วยอย่างละเอียดจะสามารถช่วยคุณหมอได้มากนะคะ ที่สำคัญข้อมูลจากเราและที่คุณพยาบาลที่เก็บจะเป็นข้อมูลเบื้องต้นในการวินิจฉัยโรคและรักษาโรคต่อไป.. อย่าลืมว่า เรามีคุณหมอเพียงไม่กี่คนที่ดูแลคนของเรา แต่คุณหมอมีคนไข้เยอะเหลือเกิน ยิ่งเมืองไทยแล้วโรงพยาบาลรัฐด้วยแล้วคุณหมอ 1 ท่านดูแลคนไข้นับร้อยเลยทีเดียวค่ะ สงสารคุณหมอค่ะ.....

ตกลงหลังจากกลับบ้านวันที่ 8 เมษา 52 และพบคุณหมอไนยรัฐและคุณหมอกสานติ์แล้ว พวกเราก็พาคุณพ่อกลับมาอีกครั้งนึงเพื่อเตรียมตัวให้คีโมสูตร ECF

การให้คีโมมีอยู่หลายสูตรค่ะ ขึ้นอยู่กับว่าจะเป็นมะเร็งชนิดไหน? เป็นระยะเท่าไหร่?? ระยะเวลาในการให้ก็ไม่เหมือนกัน คีโมบางสูตรให้ตลอด 24 ชั่วโมง รวม 5 วัน แล้วพัก ครบวันที่ 21 ของการให้คีโมต้องมาให้อีกครั้งสูตรเดิมอีกและต่อเนื่องตามที่คูรหมอบอก ส่วนบางสูตรก็ไม่ต้องนอนค้างที่โรงพยาบาลมาแบบ Day care คือมาให้ที่โรงพยาบาลไปเช้าเย็นกลับ ซึ่งสูตรของคุณพ่อจะเป็นสูตรให้ 24 ชั่วโมงต่อเนื่อง 5 วัน ฉะนั้นญาติหรือคนป่วยต้องถามคุณหมออย่างละเอียดว่าสูตรที่ได้เป็นแบบไหนค่ะ

ในเย็นวันนั้นเอง เราไปถึงโรงพยาบาลประมาณ 6 โมงเย็น จากนั้นก็เป็นเราที่อยู่กับคุณพ่อในคืนนั้น เนื่องจากห้องเต็ม คุณพ่อจึงต้องไปอยู่อาคารพัชรกิตติยาภา 1 คืน จากนั้นวันที่ 10 เมย จึงย้ายไปอยู่อาคารเฉลิมพระเกียรติชั้น 19 แผนกอายุรกรรม ...ทุกอย่างคล้ายชั้น 14 ตอนที่คุณพ่อผ่าตัดเมื่อต้นเดือน มีนาคมที่ผ่านมา

เช้าของวันที่ 9 เมษาเป็นวันแรกของคีโม เริ่มจาก
ช่วงเช้า : คุณพยาบาลมาให้น้ำเกลือ 6 ช.ม ประมาณช่วงบ่ายนิดเป็นการให้ยาคีโมขวดแรก ซึ่งคีโมตัวนี้คือ 5FU เป็นตัวหลักจะต้องให้ขวดละ 12 ชม.(จริงๆแล้วก็แค่ 11 กว่าๆ) ส่วนใหญ่คีโมก็จะมาในรูปบบขวดแหละค่ะ ทางเภสัชของโรงพยาบาลก็จะเอาคีโมแต่ละตัวผสมกับน้ำเกลือเพื่อให้เจือจาง จากนั้นก็จะฉีดเข้าทางเส้นเลือดดำ ค่อยๆปล่อย ช้าๆ 1 ขวดจึงกินเวลา 12 ชม ปริมาณประมาณ 1000 ml คุณพ่อเริ่มให้คีโมในวันที่ 9 บ่าย 5FU
ต่อเนื่อง 2 ขวด จนหมดประมาณ ช่วงบ่ายของวันที่ 10 เมษา จากนั้นก็ให้ คีโมตัวที่ 2 ที่เรียกว่า Epirubisin ซึ่งเป็นตัวยาสีส้มๆแดงๆสวยดี จากนั้นต่อด้วยคีโมตัวที่ 3 คือ Cispatin เป็นตัวใสๆ คีโม 2 ตัวนี้ค่อนข้างแรงจนคุณหมอเรียกตัวใสๆว่า เล็กพริกขี้หนู ทั้ง Epirubisin & Cispatin รับขวดละไม่เกิน ชั่วโมง จากนั้นต่อด้วยตัวยาอะไรอีกไม่ทราบแล้วต่อด้วย 5FU อีก 6 ขวด ซึ่ง คอร์สการให้คีโมครั้งแรกสิ้นสุดลงในวันที่ 13 เมษายน 52 ทุกครั้งเราจะทำการบันทึกในสมุดและเอาเข้าคอมเพื่อเก็บเป็นreference เอาไว้ อย่างที่บอกตอนต้นว่าทำไมต้องบันทึก ก็เพราะว่าคอร์สคีโมในครั้งหน้าจะเป็นแบบเดิม เราจะต้องรู้ว่าอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นในระหว่างการให้คีโมมีอะไรจะได้ต่อสู่ในทุกๆครั้งที่จะต้องให้คีโม





ญาติจึงมีบทาทมากค่ะสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้เนื่องจากผู้ป่วยเองเขาต่อสู้กับโรคด้วยตัวเองแล้ว เขาแทบไม่อยากจดจำรายละเอียดระหว่างการรักษาหรอกค่ะระหว่างการให้คีโม เราจะจดยาที่คุณหมอให้ทานอย่างละเอียด บางครั้งเราไม่รู้จักชื่อยาหรอกนะคะแต่จดไว้เพื่อดูว่าคราวหน้ายาที่รับประทานควรจะต้องเหมือนเดิม

เราก็จะถ่ายรูปยาที่ไม่รู้เอาไว้เผื่อไว้ถามคุณหมอดังเช่น


เราถ่ายไว้แล้วถามคุณหมอและทราบต่อมาว่านี่คือยาชื่อ Nasea เป็นยากันอาเจียนชนิดนึง

วันนี้เราขอจบตอนที่ 5 แค่นี้ก่อนนะคะ แล้วจะรีบมาเขียนต่อค่ะ ซึ่งจะเป็นตอนที่คุณพ่อเรามีอาการข้างเคียงจนเราเห็นแล้วอยากจะให้ท่านเลิกคีโมค่ะ




Create Date : 20 พฤษภาคม 2552
Last Update : 21 พฤษภาคม 2552 20:18:31 น. 5 comments
Counter : 3916 Pageviews.  
 
 
 
 
ผมได้อ่านกระทู้ของคุณ kcmc แล้วครับ ซึ้งมาครับ ยังงัย จขกท ต้องเป้นกำลังใจให้คุณพ่อพิชิตโรคนี้ให้ได้นะครับ
 
 

โดย: วาทิตย์ IP: 202.176.124.62 วันที่: 21 พฤษภาคม 2552 เวลา:9:53:24 น.  

 
 
 
ยังตามเป็นกำลังใจให้คุณพ่อนะคะ
 
 

โดย: ชฎาแหลม วันที่: 21 พฤษภาคม 2552 เวลา:10:21:37 น.  

 
 
 
สู้ๆ นะค่ะ แวะมาส่งกำลังใจให้ค่ะ
 
 

โดย: kik IP: 61.90.70.42 วันที่: 21 พฤษภาคม 2552 เวลา:11:25:13 น.  

 
 
 
ขอบคุณมากสำหรับความรู้ค่ะ
 
 

โดย: Antibiotic IP: 58.8.38.60 วันที่: 18 กรกฎาคม 2552 เวลา:0:32:08 น.  

 
 
 
เป็นกำลังใจให้กับทุกคนในครอบครัวนะค่ะ โดยเฉพาะคนป่วย
จิตใจที่เข้มแข็งเท่านั้น ที่จะเอาชนะโรคนี้ได้ สู้ ๆๆ ค่ะ
 
 

โดย: KeRiDa วันที่: 24 พฤษภาคม 2554 เวลา:17:51:21 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

wachan2014
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




PREVIOUS COUNTER WAS 3,956 VISITORS AND THIS COUNTER START SINCE 16 JULY 2009 ...
[Add wachan2014's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com