VUW - Victoria University of Wellington, New Zealand
Group Blog
 
All Blogs
 
อันโม่ (UNMO).. เขาคือใคร

.... เวลาที่ทหารไทยเดินทางไปปฏิบัติภารกิจรักษาสันติภาพภายใต้กรอบขององค์การสหประชาชาติหรือ ยู เอ็น (UN - United Nations) เนี่ยนะครับ

มันมีหลายภารกิจ ... หลายตำแหน่ง ... หลายจ๊อบมากกกก ....

ผู้คนมักไม่ค่อยรู้ว่า มีงานอะไรบ้าง

บางคนนึกว่า ทหารที่ใส่หมวกสีฟ้าๆ ใส่เครื่องแบบชุดพราง ติดธงชาติที่ไหล่ซ้าย คงไปลาดตระเวณตามป่าเขา ... หรือไม่ก็ไปรบราฆ่าฟันกับใคร .... เหมือนในหนังเรื่อง Black Hawk down

บางทีก็เห็นในทีวี ... มีภาพทหารไทยไปออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ... ตรวจโรค ตรวจรักษาชาวบ้าน ... บางทีก็ไปทำถนน ... ไปช่วยเขาพัฒนาประเทศ

... ตกลง ทหารพวกนี้ไปทำอะไรกัน ...

เผอิญผมได้มีโอกาสเดินทางไปกะเขาเหมือนกัน ... ในนามนายทหารจากกองทัพไทย ... บอกได้คำเดียว ... ภูมิใจมากครับ ...


"อันโม่ฟิลิปปินส์" ถ่ายกับ "อันโม่ไทย" ที่เมืองเบาเกาทางตะวันออกของติมอร์


ไปติมอร์ ... ไม่เหมือนไปดูงานที่อเมริกา ไม่เหมือนไปเรียนปริญญาโทที่นิวซีแลนด์

ไม่ได้ใส่สูทผูกไท ...

แต่แบกถุงทะเล แต่งชุดพราง ใส่หมวกแบเร่ต์สีฟ้า ติดธงชาติไทยผืนเล็กๆ ที่ไหล่ซ้าย

บินข้ามเส้นศูนย์สูตรไปหน่อยนึง ... เลยบาหลีไปอีกนิด

ตอนที่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบขึ้นในประเทศติมอร์ตะวันออก เมื่อ ปี 2000 ติมอร์ซึ่งขณะนั้นเป็นจังหวัดที่ 17 ของประเทศอินโดนีเซีย แล้วพยายามแยกตัวเป็นเอกราชจากอินโดนีเซีย

... ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ...

ว่ากันว่า ... ชาวติมอร์มีประมาณ 9 แสนคน

... รบกับอินโดนีเซียมา 25 ปี ... ตายไปเสีย 3 แสนคน ...

9 แสน ... ตายไป 3 แสน ... พระเจ้า ... 1 ใน 3

ทุกบ้านต้องมีสมาชิกในครอบครัวอย่างน้อยหนึ่งคนตายไปเพราะสงครามกลางเมือง

ยิ่งช่วงมีการลงประชามติ ให้ติมอร์เป็นเอกราช ... ยิ่งแล้วใหญ่ ...

มีการเข่นฆ่ากันเป็นเบือ ...

องค์การสหประชาชาติทนดูผู้คนตายเป็นใบไม้ร่วงทุกวัน ทุกวัน ไม่ไหว ...

จึงได้มีมติให้ส่งกองอำลังรักษาสันติภาพเข้าไปให้ความคุ้มครองชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนผู้บริสุทธิ์ เริ่มตั้งแต่ชุดแรก

... กองกำลัง "อินเตอร์เฟต" - INTERFET (International Forces in East Timor) ซึ่งประเทศไทยก็ได้ส่งกองกำลังเข้าร่วม โดยมี พล.อ. ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ยศในขณะนั้น พล.ต.) เป็นรองผู้บัญชาการกองกำลัง มีออสเตรเลีย เป็นหัวหอก

กองกำลังชุดนี้ เข้าไปแยกคู่พิพาทออกจากกัน ... เสี่ยงมาก

ตอนไปถึง ควันไฟยังไม่จางเลย ...

ชาวเมืองเล่าให้ฟังว่า ตอนที่เห็นทหาร "อินเตอร์เฟต" มา ดีใจแทบตาย เพราะอินเตอร์เฟตเข้ามาจัดการกับกองกำลัง มิลิเทีย ที่กำลังเข่นฆ่าชาวบ้าน ... มันหมายถึง การเข่นฆ่ายุติลง ...


"อันโม่" จากกองทัพไทยที่เมือง "โอกุสซี่" ของติมอร์ตะวันออก



ต่อมาสหประชาชาติเข้ามาเต็มตัว ... กองกำลังนี้ก็ได้แปรสภาพเป็น "อุนทาเอต" - UNTAET (United Nations Transitional Administration in East Timor) อยู่ภายใต้การนำของสหประชาชาติ

... มีหน้าที่ในการบริหารติมอร์ตะวันออก ที่เพิ่งแยกตัวออกมาจากอินโดนีเซีย เพื่อเตรียมการเป็นประเทศเกิดใหม่ เพราะยังไม่มีรัฐบาลเป็นตัวเป็นตน

และในท้ายที่สุด ติมอร์ตะวันออก ก็ได้รับเอกราช เป็นประเทศที่ 191 ขององค์การสหประชาชาติ

อุนทาเอต - UNTAET ก็กลายเป็น "อุนไมเสต" -UNMISET (United Nationsl Missions of Support in East Timor) ทำหน้าที่ ในการให้การสนับสนุนีรัฐบาลใหม่ของประเทศติมอร์ตะวันออกในการบริหารประเทศ ภายหลังจากการได้รับเอกราช

มีประธานาธิบดีชื่อ ซานาน่า กุสเมา มีนายกชื่อ มารี อัลกาเตียรี่

ประธานาธิบดี กะ นายกรัฐมนตรี ไม่ถูกกันตั้งแต่เริ่มออกสตาร์ทเลย ... สงครามกลางเมืองรอบใหม่มองเห็นรำไรตั้งแต่วันนั้น

ไม่ใช่ระหว่างติมอร์กับอินโดนีเซียเหมือนอดีต ... แต่เป็นติมอร์กับติมอร์ด้วยกันเอง ...

น่าจะเป็นบทเรียนให้บางประเทศได้ศึกษากันบ้าง ... เรื่องแตกความสามัคคีเนี่ย ... ตัวอย่างมีให้เห็นอยู่ทนโท่ทั่วไป


ภาพนี้ถ่ายกับพาหนะคู่ใจในเมือง "ไอนาโร่"



ในส่วนกองทัพไทยของเรา ก็ได้ให้การสนับสนุนภารกิจในการรักษาสันติภาพในติมอร์ตะวันออกมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการจัดกำลัง ทหารราบในนาม กองกำลังเฉพาะกิจ 972 จำนวน 1 กองพันทหารราบ (infantry battalion) มีระยะเวลาปฏิบัติภารกิจ 6 เดือน เว้นผลัด 7 และผลัด 8 ที่เป็นผลัดสุดท้ายมีระยะเวลาแค่ 5 เดือน

เลข 972 มีที่มานะครับ ...

9 หมายถึงรัชกาลที่9

72 หมายถึงพระชนมายุ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้า่อยู่หัวในปีที่กองกำลังเดินทางไปติมอร์ตะวันออกเป็นครั้งแรก

ทหารไทยที่ไป จึงล้วนแต่มีความภาคภูมิใจในนาม 972 เป็นที่สุด

นอกจากกองพันทหารราบแล้ว ก็ยังมี ชุดผู้สังเกตุการณ์ทางทหารจำนวน 6 คน (United Nations Military Observers หรือเรียกสั้นๆว่า อันโม่ - UNMO) ที่ผมเป็นส่วนหนึ่งในชุดนี้นี่แหละ

ชุดนี้อยู่ยาวกว่าชาวบ้าน ... 1 ปี

เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ วัตถุระเบิดหรือ EOD (Explosive Ordnance Disposal)

ชุดนี้ใจเด็ด ... เสี่ยงตายน่าดู ... ขับรถวิ่งไปกู้ระเบิดทั่วติมอร์ ... ในป่าในเขาลึกแค่ไหน ก็ไป ... มีอยู่ 3 คน ... วิ่งทั้งประเทศ ... สุดยอด ... มีวงรอบให้วิ่งทั่วติมอร์อยู่ 6 เดือน

อีกชุดนึงก็คือ เจ้าหน้าที่ฝ่ายเสนาธิการ ประจำกองกำลังสหประชาชาติ หรือ PKF ... ชุดนี้ประจำอยู่ที่กรุงดิลี เมืองหลวงติมอร์ ...

นอกจากนี้ก็ยังมีกำลังพลประจำโรงพยาบาลระดับ 2 ของสหประชาชาติ ซึ่งเดิมอยู่ที่เมืองเบาเกา ภายหลังย้ายมาอยู่ที่เมืองหลวงคือ เมืองดิลี่ (Dili) ... วงรอบ 6 เดือน เท่าๆกับกองพันทหารราบ

ชุดนี้เป็นแพทย์ พยาบาล ... ปฏิบัติหน้าที่ยอดเยี่ยม

ที่ว่ายอดเยี่ยม เพราะปกติโรงพยาบาลสหประชาชาติ จะรักษาเฉพาะเจ้าหน้าที่สหประชาชาติ แต่ของไทยเรา รักษาคนติมอร์ด้วย ... ได้รับคำชมจากชาวบ้านมาก

"อันโม่" จากกองทัพไทยถ่ายกับชาวบ้านติมอร์ที่เมือง Casa ตอนใต้ของ Ainaro


และก็ยังมีกำลังพลในชุดสำนักงานผู้แทนชาติไทย หรือ Thai NCE (Thai National Command Element) อยู่ในกรุงดิลี่ มีวงรอบ 6 เดือนเช่นกัน

ที่ลืมไม่ได้ก็คือที่ปรึกษาทางทหาร ที่ไทยเราส่งนายทหารไปเป็นที่ปรึกษาให้กองทัพติมอร์ ... ตำแหน่งนี้เท่ห์ไม่หยอก ... ชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้

... จะเห็นได้ว่า กำลังพลของกองทัพไทย เข้าไปมีส่วนอย่างมาก ในการก่อกำเนิด ประเทศติมอร์ตะวันออก ... เรียกว่าคนติมอร์จำธงชาติไทยได้กันจนตายเลยล่ะครับ ...

ตัวผมเองก็ได้มีโอกาสเดินทางไปปฏิบัติภารกิจในการรักษาสันติภาพในติมอร์ตะวันออก ในฐานะ ผู้สังเกตุการณ์ทางทหาร หรือ อันโม่ (UNMO - United Nationsl Military Observers) เป็นเวลา 1 ปี

... ตั้งแต่ 7ม.ค.46 - 7ม.ค.47 โดยมีตัวแทนกองทัพไทยรวม 6 คน ชั้นยศ พันตรี จาก กองบัญชาการทหารสูงสุด 1 คน คือ ผมเอง และเพื่อนๆ จาก ทบ. 4 คน จาก ทร. 1 คน ร่วมในภารกิจดังกล่าว

หลายคนสงสัยว่า ภารกิจผู้สังเกตุการณ์ทางทหารนี่ มันทำอะไรบ้าง


การลาดตระเวณในเส้นทางที่ทุรกันดาร เป็นเรื่องปกติประจำวันของ "อันโม่"


พวกอันโม่ - UNMO อย่างผม จะมีหน้าที่ที่แตกต่างไปจากกองกำลังทั่วไป ความเป็นอยู่ก็ไม่เหมือนกัน แตกต่างกันอย่างไร ผมจะเล่าให้ฟัง เป็นลำดับๆ นะครับ

เริ่มจากความเป็นอยู่เป็นอันดับแรก พวกเราทั้ง 6 คน จะต้องไปรวมกับผู้สังเกตุการณ์ทางทหารจากทั่วโลก จำนวนเกือบ 150 คน ถูกส่งกระจัดกระจายไปอยู่ตามฐานต่างๆ ทั่วประเทศติมอร์ ฐานละ 2 คนบ้าง 3 คนบ้าง

ฐานของพวกอันโม่ ก็ตั้งอยู่ตามเมืองต่างๆ ที่มีการเข่นฆ่าทำลายล้างกันหรือไม่ก็อยู่ตามแนวชายแดนระหว่างติมอร์กับอินโดนีเซีย

... ดังนั้นสภาพความเป็นอยู่ของพวกอันโม่ จึงเป็นสภาพที่อยู่แบบตามมี ตามเกิด ตามสภาพภูมิประเทศ อย่างฐานแรกที่ผมประจำอยู่ ก็คือ เมืองไอนาโร่ (Ainaro) ซึ่งเป็นเมืองที่ได้รับความเสียหาย จากการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ เป็นอันดับสองของประเทศ

ผมประจำอยู่ที่เมืองนี้ 4 เดือน 2 เดือนแรกมีเพื่อนร่วมงานเป็น พันตรีจากปากีสถาน

... 2 เดือนหลัง เพื่อนร่วมงานเปลี่ยนเป็น พันตรี จากประเทศออสเตรเลีย ฐานนี้ มีอันโม่เพียง 2 คน ที่พักก็เป็นบ้านที่ถูกเผาจนเกรียมไปทั้งหลัง อุดมไปด้วยแมงป่อง แถมอากาศหนาวมาก เพราะเมืองนี้อยู่ สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 1000 เมตร เรียกว่าอยู่บนยอดเขาเลยก็ว่าได้

... บ่ายๆ จะมีก้อนเมฆลอยผ่านเรี่ยถนนหน้าบ้านพักเลยทีเดียว นอกจากแมงป่องแล้ว เมืองนี้ยังเต็มไปด้วยมาเลเรีย และอหิวาห์

ภาพนี้ถ่ายกับกองกำลังโปรตุเกส หน้าศาลาว่าการเมืองที่ถูกเผาเหลือแต่ซาก


นึกภาพเมืองนี้ไม่ออก ให้นึกถึงเมืองใด เมืองหนึ่งในแอฟริกา ที่เหลือแต่ซาก เพราะเมืองกว่า 90 เปอร์เซนต์ ถูกพวกอินโดนีเซียเผาจนราบเรียบ ไฟฟ้าไม่มี เพราะโรงไฟฟ้าถูกเผา กลางคืนมืด แบบเอาผ้าดำคลุมศรีษะ คือ มืดแบบมองอะไรไม่เห็น แม้เมื่อสายตาชินกับความมืด

... น้ำปะปาต้องอาศัยน้ำจากภูเขา เพราะท่อน้ำถูกทำลาย เวลาอาบน้ำ ห้ามน้ำเข้าปาก เพราะเต็มไปด้วยเชื้ออหิวาห์ แปรงฟันต้องใช้น้ำดื่มแปรง

อาหารต้องซื้ออาหารกระป๋อง เพราะถ้าจะหาซื้อเนื้อจากชาวบ้าน จะเจอแต่เนื้อวัวที่ผอมกระหร่อง เนื้อแพะ หรือแกะที่ไม่แน่ใจว่ามีเชื้อโรคอะไรบ้าง เพราะมันผอมโกรก มีแต่หนังหุ้มกระดูก

พวกอันโม่จากยุโรป ภูมิต้านทานน้อยเคยท้องร่วงเกือบตาย เพียงเพราะดื่มน้ำจากชาวบ้านมาแล้ว ดังนั้น จึงต้องระมัดระวัง ในเรื่องสุขภาพ และความเป็นอยู่ให้มาก

อันดับต่อมาคือ หน้าที่ของอันโม่

หน้าที่ของพวกเราคือการสังเกตุการณ์ และรายงานให้กองบัญชาการในเมืองหลวงทราบว่า ในแต่ละวัน สถานการณ์ การเข่นฆ่ากัน มีหรือไม่ ประชาชนเป็นอย่างไร พวกมิลิเทีย (Militia) หรือทหารบ้าน ที่ฝ่ายอินโดนีเซียฝึกฝนเอาไว้ ให้เข่นฆ่าชาวบ้าน มีความเคลื่อนไหวอยู่อีกหรือเปล่า

... ดังนั้น เช้าขึ้นมา พวกอันโม่ จะต้องออกทำการลาดตระเวณ ด้วยยานพาหนะ คือ รถโฟร์วีล ขับไปตามเมืองต่างๆ เพื่อสืบทราบสภาพความเป็นอยู่ของประชาชน

การลาดตระเวณจะไม่มีอะไรยุ่งยากเลย ถ้าหากถนน หนทางในติมอร์นั้นสะดวกสบาย แต่ในความเป็นจริง ถนนที่ติมอร์นั้น ชำรุดทรุดโทรม แคบ สองข้างทางเต็มไปด้วยหุบเขา และหน้าผาที่สูงชัน ระยะทางเพียง 20 กิโลเมตรในไอนาโร่ ใช้เวลาถึง 1 ชั่วโมง

ถนนที่ "อันโม่" ต้องลาดตระเวณทุกวัน


ถนนจะแคบและคดเคี้ยว คดเคี้ยวแบบคลิ๊ปหนีบกระดาษ ซ้ายคือภูเขาสูงชัน ขวาคือหน้าผา และหุบเหวลึก นี่คือ ชีวิตเสี่ยงภัย ประจำวันของอันโม่ทุกคน ในติมอร์ตะวันออก

ผมประสบอุบัติเหตุ ภูเขาถล่มใส่รถจนเสียหายยับเยิน เกือบเอาชีวิตไม่รอดมาครั้งหนึ่ง

... อีกครั้งหนึ่ง ลาดตระเวณข้ามแม่น้ำ น้ำป่าเกิดไหลบ่ามาพอดี โชคดีรถใกล้ถึงฝั่ง ไม่เช่นนั้นคงไหลไปกับกระแสน้ำ

เมื่อลาดตระเวณเสร็จแล้ว ก็ต้องรีบกลับมารายงานประจำวัน ที่เรียกย่อๆว่า ซิทเหล็ป (sitrep - situation report) ที่ทำงานของอันโม่ จะมีีเครื่องปั่นไฟ และดาวเทียม เพื่อให้อันโม่สามารถติดต่อกับโลกภายนอกได้ โดยใช้โทรศัพท์ วิทยุ และอินเตอร์เน็ท


ที่ทำงานของ "อันโม่" ในเมือง "ไอนาโร่"


อันโม่ทุกคนจะต้องส่งรายงานประจำวันทุกวัน ไม่เว้นวันหยุด นั่นหมายความว่า อันโม่ทุกคนจะต้อง ลาดตระเวณทุกวันนั่นเอง

อันโม่มักจะมีเรื่องราวสนุกๆ เพราะต้องลงไปคลุกคลีกับชาวบ้าน มีวิถีชีวิตร่วมกับประชาชนในพื้นที่ ได้มีโอกาสศึกษาวัฒนธรรมของท้องถิ่น ได้อย่างลึกซึ้งถึงเนื้อแท้เลยทีเดียว

มันจึงเป็นประสบการณ์ที่หาได้อย่างยากยิ่ง ที่สำคัญที่สุดก็คือ ประสบการณ์ครั้งนี้เป็นประสบการณ์ที่มีธงไตรรงค์ประดับอยู่บนหัวไหล่ด้านซ้ายของเครื่องแบบ มันเป็นความภาคภูมิใจอย่างหาสิ่งใดมาเสมอเหมือน

เพราะนี่คือการประกาศศักดาแห่งความเป็นทหารไทยให้โลกได้ประจักษ์ หน้าที่ของพวกเรา ทหารไทยในติมอร์จึงเป็นหน้าที่แห่งความภาคภูมิใจ ที่พวกเราในนาม กองกำลังเฉพาะกิจ 972 จะไม่มีวันลืมเลือน


Create Date : 16 พฤศจิกายน 2551
Last Update : 16 พฤศจิกายน 2551 20:45:59 น. 3 comments
Counter : 4327 Pageviews.

 
ละเอียดมากเลยค่ะ จากที่ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับ UNMO ก็เข้าใจขึ้นเยอะ เป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่และน่าภูมิใจมากเลยค่ะ นับถือ ๆ


โดย: Darly IP: 202.69.139.194 วันที่: 4 กรกฎาคม 2552 เวลา:14:03:00 น.  

 
แล้วทร.1นายที่ไปด้วย ประจำจุดไหนคะ


โดย: Keng IP: 110.168.114.2 วันที่: 12 มิถุนายน 2555 เวลา:11:50:12 น.  

 
ผมพลทหารราบที่๑๑.รอ.พัน.๒.รอกรมทหารราบ หน่วยกองกองกำลังหน่วยรบพิเศษ จ.นราธิวาสอ.รือเสาะ บ้านลาเมาะ ประจำกองร้อยที่.ฉก.ทพ.1124.รือเสะ 0822901650


โดย: พลทหาร นัทพร IP: 101.108.194.170 วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:11:58:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

unmoknight
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 49 คน [?]




ฉันจะบิน ... บินไป ... ไกลแสนไกลไม่หวั่น
เก็บร้อยความฝันที่มันเรียงราย ...
ให้กลายมาเป็นความจริง ...
New Comments
Friends' blogs
[Add unmoknight's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.