อะไรๆ ก็อยากรู้ไปหมด
|
||||
ไฟใต้-แก้ด้วยการเอาทหารออกแล้วตั้งเป็นเขตปกครองพิเศษ ได้อ่านในเว็บของมุสลิมหลายๆเว็บได้เสนอมาว่าถ้าต้องการแก้ปัญหาไฟใต้ได้แบบยั่งยืนก็ให้นำทหารออกแล้วตั้งระบบปกครองแบบพิเศษให้กับพื้นที่ที่มีปัญหา โดยแนวคิดนี้มาจากพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ เมื่อประมาณปี 2552 ให้มีการจัดตั้งนครรัฐปัตตานี ในสามจังหวัดชายแดนใต้และอีก 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา ที่มาของภาพ //www.fatonionline.com/index.php/news/detail/699 ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันแนวคิดนี้ไม่ควรนำมาใช้ด้วยเหตุผลที่ยังมีความรุนแรงอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ที่ดำเนินการก่อเหตุแบ่งแยกดินแดนออกจากประเทศไทย เอาอันแรกก่อนนะถ้าให้ทหารออกจากพื้นที่สิ่งที่ตามมาก็จะเป็นอย่างนี้
ถ้าเป็นแบบกรุงเทพหรือพัทยา ผมว่าก็โอเคนะคือมีการเลือกตั้งผู้การรัฐ หรือผู้ว่าการนคร มีหน่วยงานราชการจากส่วนกลางเช่นสำนักปลัด กองคลัง กองโยธาฯ กองสาธารณสุขฯลฯ สามารถเก็บภาษี/ค่าธรรมเนียมต่างจากประชาชนในพื้นที่แล้วนำมาใช้เป็นงบประมาณพัฒนานครรัฐปัตตานีในด้านต่างๆตามนโยบายของผู้ว่าการรัฐหรือนคร แต่คงไม่ได้หมายความว่าตั้งเป็นนครรัฐไปแล้วภาษาที่ใช้ในราชการจะเป็นมาลายูนะ ต้องเป็นภาษาไทยเหมือนเดิม ส่วนเรื่องศาสนาหรือวัฒนธรรมก็ต้องให้สิทธิเสรีภาพกับประชาชนในพื้นที่ กฏหมายและระบบศาลก็ต้องเป็นแบบเดียวกับที่คนไทยทุกคนใช้ เคยได้ยินว่ามีการผลักดันเรื่องการใช้ระบบศาลอิสลามถ้ามีศาลประเภทนี้แล้วจะแสดงว่านครรัฐปัตตานีจัดตั้งมาเฉพาะเพื่อมุสลิมหรือเปล่า ทำไมถึงใช้ระบบศาลที่มีอยู่แล้วไม่ได้ ในพื้นที่ก็ต้องมีคนศาสนาอื่นๆอาศัยอยู่ด้วยกันนครรัฐปัตตานีจึงควรจะต้องให้การสนับสนุนความเชื่อของทุกคน เหมือนกับที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูธเช่นกัน สรุปไม่ว่าจะเป็นการนำทหารออกนอกพื้นที่หรือการตั้งนครรัฐปัตตานีต้องทำเมื่อเหตุการณ์สงบแล้วเท่านั้น และถ้ามีนครรัฐปัตตานีก็จะต้องให้สิทธิและเสรีภาพกับประชาชนในพื้นที่เหมือนกับประชาชนชาวไทยในพื้นที่อื่นๆครับ |
vrod
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] ทำงานด้านคอมพิวเตอร์ เข้ามาในพันทิพส่วนมากเข้าห้องศาสนาและหว้ากอ อาจจะเห็นชื่อนี้อยู่ในห้องชานเรือนบ้างแต่นั้นเป็นเพราะแฟนผมขอพ่วงใช้ด้วยเพราะไม่อยากตั้งชื่อใหม่ครับ
Group Blog All Blog Friends Blog |
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |
เข้าถึง. ) เมื่อเข้าถึงการกตัญญูอันสูงสุดกว่าที่ตนอ้างว่า ฉันได้กตัญญูแล้วต่อธรรมชาติ(เป็นแค่อันดับสองของเขาเท่านั้น เขาคือ ผู้กตัญญู อันดับ1)เราสามารถนำความกตัญญูนั้นเข้าพัฒนาจิตตนเองได้ทันที. ไม่ไปกล่าวอุตริ อวดรู้เอาเองว่า เขาทำสิ่งงมงาย ไร้สาระ ไปลบหลู่ผู้ที่มอบออกซิเจนให้ตัวท่านเสพอีกกระทงด้วยซ้ำ. เมื่อจิตท่านสามารถพัฒนาขึ้นได้(ท่านเข้าถึงกตัญญูสูงสุดได้เท่าเขา) สัมมาจิตท่านจะพัฒนาท่านสู่สัมมาชน(ไร้จิตเนรคุณ). ท่านก็มีความพร้อมแล้วที่จะทำงาน
พัฒนา. ). ท่านนั้นคือ เจ้าหน้าที่ ที่ถูกพัฒนาในการกตัญญูแล้ว เท่ากับว่า ท่านกตัญญูได้เท่าๆกลุ่มชนในพื้นที่แล้ว. การพัฒนาในด้านอื่นๆเมื่อถูกนำเข้าไปโดยผู้กตัญญู อันดับเดียวกับเขา. มันจะยากกว่าทุกวันนี้ไหมล่ะ.
ป.ล. ถ้ารับเข้าในภาษาไทย ที่พระเจ้าอยู่หัวให้ทางนำ นั้นไว้หลายสิบปีได้. วันนี้ พัฒนาไปถึงไหนแล้ว. แต่ผู้มีหน้าที่ มีโอกาสแทนคุณแผ่นดิน มัวแต่ตีกรอบไปตามมายาคติตน เข้าพื้นที่ด้วยความขาดญาณวิสัย ขาดปัญญาญาณ. ขาดความกตัญญูเท่าเขา ขาดเข้าใจ ขาดเข้าถึงความกตัญญู ไม่พัฒนาจิตตนเดงก่อนพัฒนาภาระหน้าที่ให้สู่จุดหมาย.