|
พุทธศาสนสุภาษิต ๒๔.เวรวรรค คือ หมวดเวร
พุทธศาสนสุภาษิต
เรียบเรียงจาก หนังสือพุทธศาสนสุภาษิต ของ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรณาณวโรรส และ พระมหาทองสืบ จารุวณฺโณ พร้อมด้วยคณะกรรมการ
--------------------------------------------------------------
๒๔. เวรวรรค คือ หมวดเวร
เย เวรํ อุปนยฺหนฺติ เวรํ เตสํ น สมฺมติ. เวรของผู้จองเวร ย่อมไม่ระงับ. นัย-ม. อุป. ๑๔/๒๙๗. นัย-ขุ. ธ. ๒๕/๑๕. นัย-ขุ. ชา. ปญฺจก. ๒๗/๑๘๒.
เย เวรํ นูปนยฺหนฺติ เวรํ เตสูปสมฺมติ. เวรของผู้ไม่จองเวร ย่อมระงับได้. นัย-ม. อุป. ๑๔/๒๙๗. นัย-ขุ. ธ. ๒๕/๑๕. นัย-ขุ. ชา. ปญฺจก. ๒๗/๑๘๒.
อเวเรน จ สมฺมนฺติ. เวรย่อมระงับด้วยไม่มีเวร. วิ. มหา. ๕/๓๓๖. ม. อุป. ๑๔/๒๙๗. ขุ. ธ. ๒๕/๑๕. ขุ. ชา. ปญฺจก. ๒๗/๑๘๒.
น หิ เวเรน เวรานิ สมฺมนฺตีธ กุทาจนํ. ในกาลไหน ๆ เวรในโลกนี้ย่อมระงับด้วยเวรไม่ได้เลย. วิ. มหา. ๕/๓๓๖. ม. อุป. ๑๔/๒๙๗. ขุ. ธ. ๒๕/๑๕. ขุ. ชา. ปญฺจก. ๒๗/๑๘๒. -------------------------------------------------------------
หมายเหตุ บทความ พุทธศาสนสุภาษิต นี้มาจากการเรียบเรียงสุภาษิตในหมวดเดียวกันให้มารวมกัน จากหนังสือ พุทธศาสนสุภาษิต เล่ม ๑ ที่ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ได้ทรงเรียบเรียง และหนังสือพุทธศาสนสุภาษิต เล่ม ๒ และเล่ม ๓ ที่ พระมหาทองสืบ จารุวณฺโณ พร้อมด้วยคณะกรรมการ ได้รวบรวมและเรียบเรียงไว้ ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ประสงค์จะทราบได้อ่านสุภาษิตในหมวดเดียวกันจากหนังสือทั้ง ๓ ต่อเนื่องกันในครั้งเดียว
เนื่องจากบทความนี้ ผู้เขียนได้เรียบเรียงโดยคัดลอกเนื้อความมาจากเวปของวัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน โดยมิได้ตรวจทานความครบถ้วนถูกต้องจากหนังสือต้นฉบับที่ถูกกล่าวถึง ผู้ที่ประสงค์จะนำไปใช้อ้างอิง กรุณาตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง คัดลอกจาก เวป //www.doisaengdham.org
Create Date : 12 ตุลาคม 2556 | | |
Last Update : 12 ตุลาคม 2556 7:59:25 น. |
Counter : 1617 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
พุทธศาสนสุภาษิต ๒๓.วิริยวรรค คือ หมวดเพียร
พุทธศาสนสุภาษิต
เรียบเรียงจาก หนังสือพุทธศาสนสุภาษิต ของ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรณาณวโรรส และ พระมหาทองสืบ จารุวณฺโณ พร้อมด้วยคณะกรรมการ
--------------------------------------------------------------
๒๓. วิริยวรรค คือ หมวดเพียร
กาลาคตญฺจ น หาเปติ อตฺถํ. คนขยัน ย่อมไม่พร่าประโยชน์ซึ่งถึงตามกาล. ขุ. ชา. ฉกฺก. ๒๗/๑๙๕.
วิริเยน ทุกฺขมจฺเจติ. คนล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร. ขุ. สุ. ๒๕/๓๖๑.
ปฏิรูปการี ธุรวา อุฏฺฐาตา วินฺทเต ธนํ. คนมีธุระหมั่นทำการงานให้เหมาะเจาะ ย่อมหาทรัพย์ได้. สํ. ส. ๑๕/๓๑๖. ขุ. สุ. ๒๕/๓๖๑.
อกิลาสุ วินฺเท หทยสฺส สนฺตึ. คนไม่เกียจคร้าน พึงได้ความสงบใจ. ขุ. ชา. เอก. ๒๗/๑.
น นิพฺพินฺทิยการิสฺส สมฺมทตฺโถ วิปจฺจติ. ประโยชน์ย่อมไม่สำเร็จโดยชอบแก่ผู้ทำโดยเบื่อหน่าย. ขุ. ชา. จตฺตาฬีส. ๒๗/๕๓๓.
อนิพฺพินฺทิยการิสฺส สมฺมทตฺโถ วิปจฺจติ. ประโยชน์ย่อมสำเร็จโดยชอบแก่ผู้ทำโดยไม่เบื่อหน่าย. ขุ. ชา. จตฺตาฬีส. ๒๗/๕๓๓.
อถ ปจฺฉา กุรุเต โยคํ กิจฺเจ อาวาสุ สีทติ. ถ้าทำความเพียรในกิจการล้าหลัง จะจมอยู่ในวิบัติ. ขุ. ชา. วีส. ๒๗/๔๓๔.
หิยฺโยติ หิยฺยติ โปโส ปเรติ ปริหายติ. คนที่ผัดวันว่าพรุ่งนี้ ย่อมเสื่อม ยิ่งว่ามะรืนนี้ ก็ยิ่งเสื่อม. ขุ. ชา. วีส. ๒๗/๔๖๖.
อชฺเชว กิจฺจมาตปฺปํ. ควรรีบทำความเพียรในวันนี้. ม. อุป. ๑๔/๓๔๘. ขุ. ชา. มหา. ๒๘/๑๖๕.
วายเมเถว ปุริโส ยาว อตฺถสฺส นิปฺปทา. บุรุษพึงพยายามไปกว่าจะสำเร็จประโยชน์. สํ. ส. ๑๕/๓๓๐.
กเรยฺย โยคฺคํ ธุวมปฺปมตฺโต. ผู้ไม่ประมาท ควรทำความเพียรให้แน่วแน่. นัย-ขุ. ชา. ทุก. ๒๗/๗๘.
ยถา ยถา ยตฺถ ลเภถ อตฺถํ ตถา ตถา ตตฺถ ปรกฺกเมยฺย. พึงได้ประโยชน์ในที่ใด ด้วยประการใดๆ ควรบากบั่นในที่นั้น ด้วยประการนั้น ๆ องฺ. ปญฺจก. ๒๒/๗๐. ขุ. ชา. ปญฺจก. ๒๗/๑๘๐.
อปฺปเกนปิ เมธาวี ปาภเฏน วิจกฺขโณ สมุฏฺฐาเปติ อตฺตานั อณํ อคฺคึว สนฺธมํ. ผู้มีปัญญาเฉลียวฉลาด ย่อมตั้งตนได้ด้วยต้นทุนแม้น้อย เหมือนคนก่อไฟน้อยขึ้นฉะนั้น. (พุทฺธ) ขุ. ชา. เอก. ๒๗/๒.
อโมฆํ ทิวสํ กริรา อปฺเปน พหุเกน วา ยํ ยํ วิวหเต รตฺติ ตทูนนฺตสฺส ชีวิตํ. ควรทำวันคืนไม่ให้เปล่าจากประโยชน์น้อยหรือมาก เพราะวันคืนผ่านบุคคลใดไป ชีวิตของบุคคลนั้น ย่อมพร่องจากประโยชน์นั้น. (สิริมณฺฑเถร) ขุ. เถร. ๒๖/๓๓๕.
อุฏิฐาตา กมฺมเธยฺเยสุ อปฺปมตฺโต วิธานวา สมํ กปฺเปติ ชีวิตํ สมฺภตํ อนุรกฺขติ. ผู้ขยันในหน้าที่การงาน ไม่ประมาท เข้าใจจัดการ เลี้ยงชีวิตพอสมควร จึงรักษาทรัพย์ที่หามาได้. (พุทฺธ) องฺ. อฏฺฐก. ๒๓/๒๙๘.
จกฺขุมา วิสมานีว วิชฺชมาเน ปรกฺกเม ปณฺฑิโต ชีวโลกสฺมึ ปาปานิ ปริวชฺชเย. เมื่อความบากบั่นมีอยู่ บัณฑิตพึงเว้นบาปในโลกนี้เสีย เหมือนคนมีจักษุเว้นทางอันไม่เรียบร้อยฉะนั้น. (พุทฺธ) ขุ. อุ. ๒๕/๑๔๙.
โย จ วสฺสสตํ ชีเว กุสีโต หีนวีริโย เอกาหํ ชีวิตํ เสยฺโย วิริยํ อารภโต ทฬฺหํ. ผู้เกียจคร้าน มีความเพียรเลว พึงเป็นอยู่ตั้งร้อยปี ส่วนผู้ปรารภความเพียรมั่นคง มีชีวิตอยู่เพียงวันเดียว ก็ประเสริฐกว่า (พุทฺธ) ขุ. ธ. ๒๕/๓๐.
โย จ สีตญฺจ อุณฺหญฺจ ติณา ภิยฺโย น มญฺญติ กรํ ปุริสกิจฺจานิ โส, สุขา น วิหายติ. ผู้ไม่สำคัญความหนาวและความร้อนให้ยิ่งไปกว่าหญ้า ทำกิจของบุรุษ ย่อมไม่เสื่อมจากความสุข. (พุทฺธ) ที. ปาฏิ. ๑๑/๑๙๙.
โกสชฺชํ ภยโต ทิสฺวา วิริยารมฺภญฺจ เขมโต อารทฺธวิริยา โหถ เอสา พุทฺธาสาสนี. ท่านทั้งหลายจงเห็นความเกียจคร้านเป็นภัย และเห็นการปรารภความเพียรเป็นความปลอดภัย แล้วปรารภความเพียรเถิด นี้เป็นพุทธานุศาสนี (พุทฺธ) ขุ. จริยา. ๒๒/๕๙๕.
ตุมฺเหหิ กิจฺจํ อาตปฺป อกฺขาตาโร ตถาคตา ปฏิปนฺนา ปโมกฺขนฺติ ฌายิโน มารพนฺธนา. ท่านทั้งหลายต้องทำความเพียรเอง ตถาคตเป็นแต่ผู้บอก ผู้มีปกติเพ่งพินิจดำเนินไปแล้ว จักพ้นจากเครื่องผูกของมาร. (พุทฺธ) ขุ. ธ. ๒๕/๕๑.
นิทฺทํ ตนฺทึ วิชิมฺหิตํ อรตึ ภตฺตสมฺมท วิริเยน นํ ปณาเมตฺวา อริยมคฺโค วิสุชฺฌติ. อริยมรรคย่อมบริสุทธิ์ เพราะขับไล่ความหลับ ความเกียจคร้าน ความบิดขี้เกียจ ความไม่ยินดี และความเมาอาหารนั้นได้ด้วยความเพียร. (พุทฺธ) สํ. ส. ๑๕/๑๐.
สพฺพทา สีลสมฺปนฺโน ปญฺญวา สุสมาหิโต อารทฺธวิริโย ปหิตตฺโต โอฆํ ตรติ ทุตฺตรํ. ผู้ถึงพร้อมด้วยศีล มีปัญญา มีใจมั่นคงดีแล้ว ปรารภความเพียร ตั้งตนไว้ในกาลทุกเมื่อ ย่อมข้ามโอฆะที่ข้ามได้ยาก. (พุทฺธ) สํ. ส. ๑๕/๗๔.
-------------------------------------------------------------
หมายเหตุ บทความ พุทธศาสนสุภาษิต นี้มาจากการเรียบเรียงสุภาษิตในหมวดเดียวกันให้มารวมกัน จากหนังสือ พุทธศาสนสุภาษิต เล่ม ๑ ที่ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ได้ทรงเรียบเรียง และหนังสือพุทธศาสนสุภาษิต เล่ม ๒ และเล่ม ๓ ที่ พระมหาทองสืบ จารุวณฺโณ พร้อมด้วยคณะกรรมการ ได้รวบรวมและเรียบเรียงไว้ ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ประสงค์จะทราบได้อ่านสุภาษิตในหมวดเดียวกันจากหนังสือทั้ง ๓ ต่อเนื่องกันในครั้งเดียว
เนื่องจากบทความนี้ ผู้เขียนได้เรียบเรียงโดยคัดลอกเนื้อความมาจากเวปของวัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน โดยมิได้ตรวจทานความครบถ้วนถูกต้องจากหนังสือต้นฉบับที่ถูกกล่าวถึง ผู้ที่ประสงค์จะนำไปใช้อ้างอิง กรุณาตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง คัดลอกจาก เวป //www.doisaengdham.org
Create Date : 04 ตุลาคม 2556 | | |
Last Update : 4 ตุลาคม 2556 8:53:06 น. |
Counter : 6187 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
พุทธศาสนสุภาษิต ๒๒.วาจาวรรค คือ หมวดวาจา
พุทธศาสนสุภาษิต
เรียบเรียงจาก หนังสือพุทธศาสนสุภาษิต ของ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรณาณวโรรส และ พระมหาทองสืบ จารุวณฺโณ พร้อมด้วยคณะกรรมการ
--------------------------------------------------------------
๒๒. วาจาวรรค คือ หมวดวาจา
หทยสฺส สทิสี วาจา. วาจาเช่นเดียวกับใจ. ขุ. ชา. เอก. ๒๗/๑๓๘.
โมกฺโข กลฺยาณิยา สาธุ. เปล่งวาจางาม ยังประโยชน์ให้สำเร็จ. ขุ. ชา. เอก. ๒๗/๒๘.
มุตฺวา ตปฺปติ ปาปิกํ. คนเปล่งวาจาชั่ว ย่อมเดือดร้อน. ขุ. ชา. เอก. ๒๗/๒๘.
ทุฏฺฐสฺส ผรุสา วาจา. คนโกรธมีวาจาหยาบ. ขุ. ชา. ทสก. ๒๗/๒๗๓.
อภูตวาที นิรยํ อุเปติ. คนพูดไม่จริง ย่อมเข้าถึงนรก. ขุ. ธ. ๒๕/๕๕.
สํโวหาเรน โสเจยฺยํ เวทิตพฺพํ. ความสะอาด พึงรู้ได้ด้วยถ้อยคำ. นัย-ขุ. อุ. ๒๕/๑๗๘.
วาจํ มุญฺเจยฺย กลฺยาณึ. ควรเปล่งวาจางาม. สํ. ส. ๑๕/๖๐.
สณฺหํ คิรํ อตฺถวตึ ปมุญฺเจ. ควรเปล่งวาจาไพเราะที่มีประโยชน์. ขุ. ชา. เตรส. ๒๗/๓๕๐.
ตเมว วาจํ ภาเสยฺย ยายตฺตานํ น ตาปเย. ควรกล่าวแต่วาจาที่ไม่ยังตนให้เดือดร้อน. สํ. ส. ๑๕/๒๗๘. ขุ. สุ. ๒๕/๔๑๑.
มนุญฺญเมว ภาเสยฺย. ควรกล่าวแต่วาจาที่น่าพอใจ. ขุ. ชา. เอก. ๒๗/๑๐.
นามนุญฺญํ กุทาจนํ. ในกาลไหน ๆ ก็ไม่ควรกล่าววาจาไม่น่าพอใจ. ขุ. ชา. เอก. ๒๗/๑๐.
วาจํ ปมุญฺเจ กุสลํ นาติเวลํ. ไม่ควรเปล่งวาจาที่ดี ให้เกินกาล. ขุ. ชา. ทุก. ๒๗/๘๐. ขุ. สุ. ๒๕/๕๒๓. ขุ. มหา. ๒๙/๖๒๒.
น หิ มุญฺเจยฺย ปาปิกํ. ไม่ควรเปล่งวาจาชั่วเลย. ขุ. ชา. ๒๗/๒๘.
กลฺยาณิเมว มุญฺเจยฺย น หิ มุญฺเจยฺย ปาปิกํ โมกฺโข กลฺยาณิยา สาธุ มุตฺวา ตปฺปติ ปาปิกํ. พึงเปล่งวาจางามเท่านั้น ไม่พึงเปล่งวาจาชั่วเลย การเปล่งวาจางามยังประโยชน์ให้สำเร็จ คนเปล่าวาจาชั่วย่อมเดือดร้อน. (พุทฺธ) ขุ. ชา. เอก. ๒๗/๒๘.
ตเมว วาจํ ภาเสยฺย ยายตฺตานํ น ตาปเย ปเร จ น วิหึเสยฺย สา เว วาจา สุภาสิตา. บุคคลพึงกล่าววาจาที่ไม่เป็นเหตุยังตนให้เดือดร้อน และไม่เป็นเหตุเบียดเบียนผู้อื่น, วาจานั้นแล เป็นสุภาษิต. (วงฺคีสเถร) ขุ. สุ. ๒๕/๔๑๑. นาติเวลํ ปภาเสยฺย น ตุณฺหี สพฺพทา สิยา อวิกิณฺณํ มิตํ วาจํ ปตฺเต กาเล อุทีริเย. ไม่ควรพูดจนเกินกาล ไม่ควรนิ่งเสมอไป เมื่อถึงเวลา ก็ควรพูดพอประมาณ ไม่ฟั่นเฝือ. (พุทฺธ) ขุ. ชา. มหา. ๒๘/๓๓๘.
ปิยวาจเมว ภาเสยฺย ยา วาจา ปฏินนฺทิตา ยํ อนาทาย ปาปานิ ปเรสํ ภาสเต ปิยํ. ควรกล่าววาจาที่น่ารักอันผู้ฟังยินดีเท่านั้น เพราะคนดีไม่นำพาคำชั่วของผู้อื่นแล้ว กล่าวแต่คำไพเรา. (วงฺคีสเถร) ขุ. สุ. ๒๕/๔๑๒.
ปุริสสฺส หิ ชาตสฺส กุธารี ชายเต มุเข ยาย ฉินฺทติ อตฺตานํ พาโล ทุพฺภาสิตํ ภณํ. คนที่เกิดมา มีผึ่งเกิดอยู่ในปาก คนโง่กล่าวคำไม่ดี ก็ชื่อว่า เอาผึ่งถากตัวเอง. (พุทฺธ) องฺ. ทสก. ๒๔/๑๘๕.
ยญฺหิ กยิรา ตญฺหิ วเท ยํ น กยิรา น ตํ วเท อกโรนฺตํ ภาสมานํ ปริชานนฺติ ปณิฑิตา. บุคคลทำสิ่งใด ควรพูดสิ่งนั้น ไม่ทำสิ่งใด ไม่ควรพูดสิ่งนั้น, บัณฑิตย่อมกำหนดรู้คนที่ไม่ทำ ได้แต่พูด. (หาริตเถร) ขุ. เถร. ๒๖/๓๐๙. โย อตฺตเหตุ ปรเหตุ ธนเหตุ จ โย นโร สกฺขิปุฏฺโฐ มุสา พฺรูติ ตํ ชญฺญา วสโล อิติ. คนใด ถูกอ้างเป็นพยาน เบิกความเท็จ เพราะตนก็ดี เพราะผู้อื่นก็ดี เพราะทรัพย์ก็ดี พึงรู้ว่าผู้นั้นเป็นคนเลว. (พุทฺธ) ขุ. สุ. ๒๕/๓๕๐.
โย นินฺทิยํ ปสํสติ ตํ วา นินฺทติ โย ปสํสิโย วิจินาติ มุเขน โส กลึ กลินา เตน สุขํ น วินฺทติ. ผู้ใดสรรเสริญคนควรติ หรือติคนที่ควรสรรเสริญ, ผู้นั้นย่อมเก็บโทษด้วยปาก เขาไม่ได้สุขเพราะโทษนั้น. (พุทธฺ) องฺ. จตุกฺก. ๒๑/๔.
สหสฺสมปิ เจ วาจา อนตฺถปทสญฺหิตา เอกํ อตฺถปทํ เสยฺโย ยํ สุตฺวา อุปสมฺมติ. ถ้ามีวาจาที่ประกอบด้วยข้อความซึ่งเป็นประโยชน์แม้ตั้งพัน, ข้อความที่เป็นประโยชน์ บทเดียว ที่ฟังแล้วสงบระงับได้ ประเสริฐกว่า. (พุทฺธ) ขุ. ธ. ๒๕/๒๘.
อกกฺกสํ วิญฺญาปนึ คิรํ สจฺจํ อุทีรเย ยาย นาภิสเช กญฺจิ ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ. ผู้ใด พึงกล่าวถ้อยคำอันไม่เป็นเหตุให้ใคร ๆ ขัดใจ ไม่หยาบคาย เป็นเครื่องให้รู้ความได้และเป็นคำจริง, เราเรียกผู้นั้นว่าเป็นพราหมณ์ (พุทฺธ) ขุ. ธ. ๒๕/๗๐.
อกฺโกธโน อสนฺตาสี อวิกตฺถี อกุกฺกุจฺโจ มนฺตาภาณี อนุทฺธโต ส เว วาจายโต มุนิ. ผู้ใด ไม่โกรธ ไม่สะดุ้ง ไม่โอ้อวด ไม่รำคาญ พูดด้วยปัญญา ไม่ฟุ้งซ่าน ผู้นั้นแลชื่อว่า เป็นมุนี มีวาจาสำรวมแล้ว. (พุทฺธ) ขุ. สุ. ๒๕/๕๐๐. ขุ. มหา. ๒๙/๒๕๗.
อพทฺธา ตตฺถ พชฺฌนฺติ ยตฺถ พาลา ปภาสเร พทฺธาปิ ตตฺถ มุจฺจนติ ยตฺถ ธรีรา ปภาสเร. คนเขลา ย่อมกล่าวในเรื่องใด ไม่ถูกผูกก็ติดในเรื่องนั้น, คนฉลาดย่อมกล่าวในเรื่องใด แม้ถูกผูก ก็หลุดในเรื่องนั้น. (โพธิสตฺต) ขุ. ชา. เอก. ๒๗/๓๙.
ปรสฺส วา อตฺตโน วาปิ เหตุ น ภาสติ อลิกํ ภูริปญฺโญ โส ปูชิโต โหติ สภาย มชฺเฌ ปจฺฉาปิ โส สุคติคามิ โหติ. ผู้มีภูมิปัญญา ย่อมไม่พูดพล่อย ๆ เพราะเหตุแห่งคนอื่นหรือตนเอง ผู้นั้นย่อมมีผู้บูชาในท่ามกลางชุมชน แม้ภายหลังเขาย่อมไปสู่สุคติ (มโหสธโพธิสตฺต) ขุ. ชา. วีสติ. ๒๗/๔๒๗.
ยํ พุทฺโธ ภาสตี วาจํ เขมํ นิพฺพานปตฺติยา ทุกฺขสฺสนฺตกิริยาย สา เว วาจานมุตฺตมา. พระพุทธเจ้าตรัสพระวาจาใด เป็นคำปลอดภัย เพื่อบรรลุพระนิพพาน และเพื่อทำที่สุดทุกข์, พระวาจานั้นแล เป็นสูงสุดแห่งวาจาทั้งหลาย (วงฺคีสเถร) ขุ. เถร. ๒๖/๔๓๔.
สจฺจํ เว อมตา วาจา เอส ธมฺโธ สนนฺตโน สจฺเจ อตฺเถ จ ธมฺเม จ อหุ สนฺโต ปติฏฺฐิตา. คำสัตย์แล เป็นวาจาไม่ตาย นั่นเป็นธรรมเก่า สัตบุรุษทั้งหลายเป็นผู้ตั้งมั่นในคำสัตย์ที่เป็นอรรถและเป็นธรรม. (วงฺคีสเถร) ขุ. เถร. ๒๖/๔๓๔.
-------------------------------------------------------------
หมายเหตุ บทความ พุทธศาสนสุภาษิต นี้มาจากการเรียบเรียงสุภาษิตในหมวดเดียวกันให้มารวมกัน จากหนังสือ พุทธศาสนสุภาษิต เล่ม ๑ ที่ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ได้ทรงเรียบเรียง และหนังสือพุทธศาสนสุภาษิต เล่ม ๒ และเล่ม ๓ ที่ พระมหาทองสืบ จารุวณฺโณ พร้อมด้วยคณะกรรมการ ได้รวบรวมและเรียบเรียงไว้ ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ประสงค์จะทราบได้อ่านสุภาษิตในหมวดเดียวกันจากหนังสือทั้ง ๓ ต่อเนื่องกันในครั้งเดียว
เนื่องจากบทความนี้ ผู้เขียนได้เรียบเรียงโดยคัดลอกเนื้อความมาจากเวปของวัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน โดยมิได้ตรวจทานความครบถ้วนถูกต้องจากหนังสือต้นฉบับที่ถูกกล่าวถึง ผู้ที่ประสงค์จะนำไปใช้อ้างอิง กรุณาตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง คัดลอกจาก เวป //www.doisaengdham.org
Create Date : 27 กันยายน 2556 | | |
Last Update : 27 กันยายน 2556 7:51:51 น. |
Counter : 5166 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
พุทธศาสนสุภาษิต ๒๑.ราชวรรค คือ หมวดพระราชา
พุทธศาสนสุภาษิต
เรียบเรียงจาก หนังสือพุทธศาสนสุภาษิต ของ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรณาณวโรรส และ พระมหาทองสืบ จารุวณฺโณ พร้อมด้วยคณะกรรมการ
--------------------------------------------------------------
๒๑. ราชวรรค คือ หมวดพระราชา
ราชา รฏฺฐสฺส ปญฺญาณํ. พระราชา เป็นเครื่องปรากฏของแว่นแคว้น. สํ. ส. ๑๕/๕๗.
ราชา มุขํ มนุสฺสานํ. พระราชา เป็นประมุขของประชาชน. วิ. มหา. ๕/๑๒๔. ม. ม. ๑๓/๕๕๖. ขุ. ส. ๒๕/๔๔๖.
สพฺพํ รฏฺฐํ สุขํ โหติ ราชา เจ โหติ ธมฺมิโก. ถ้าพระราชาเป็นผู้ทรงธรรม ราษฎรทั้งปวงก็เป็นสุข. องฺ. จตุตก. ๒๑/๙๙. ขุ. ชา. จตุกฺก. ๒๗/๑๕๒.
กุทฺธํ อปฺปฏิกุชฺฌนฺโต ราชา รฏฺฐสฺส ปูชิโต. พระราชาผู้ไม่กริ้วตอบผู้โกรธ ราษฎรก็บูชา. ขุ. ชา. จตุกฺก. ๒๗/๑๘๗.
สนฺนทฺโธ ขตฺติโย ตปติ. พระมหากษัตริย์ทรงเครื่องรบ ย่อมสง่า. สํ. นิ. ๑๖/๓๓๑. ขุ. ธ. ๒๕/๖๗.
ขตฺติโย เสฏฺโฐ ชเนตสฺมึ เย โคตฺตปฏิสาริโน. พระมหากษัตริย์เป็นผู้ประเสริฐสุด ในหมู่ชนผู้รังเกียจด้วยสกุล. ที. ปาฏิ. ๑๑/๑๐๗. ม. ม. ๑๓/๓๒. สํ. ส. ๑๕/๒๒๕. สํ. นิ. ๑๖/๓๓๑.
ปุตฺตกํ วิย ราชาโน ปชํ รกฺขนตุ สพฺพทา. พระราชาจงรักษาประชาราษฎร์ ให้เหมือนบิดารักษาบุตรทุกเมื่อ. นัย-ส. ส.
-------------------------------------------------------------
หมายเหตุ บทความ พุทธศาสนสุภาษิต นี้มาจากการเรียบเรียงสุภาษิตในหมวดเดียวกันให้มารวมกัน จากหนังสือ พุทธศาสนสุภาษิต เล่ม ๑ ที่ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ได้ทรงเรียบเรียง และหนังสือพุทธศาสนสุภาษิต เล่ม ๒ และเล่ม ๓ ที่ พระมหาทองสืบ จารุวณฺโณ พร้อมด้วยคณะกรรมการ ได้รวบรวมและเรียบเรียงไว้ ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ประสงค์จะทราบได้อ่านสุภาษิตในหมวดเดียวกันจากหนังสือทั้ง ๓ ต่อเนื่องกันในครั้งเดียว
เนื่องจากบทความนี้ ผู้เขียนได้เรียบเรียงโดยคัดลอกเนื้อความมาจากเวปของวัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน โดยมิได้ตรวจทานความครบถ้วนถูกต้องจากหนังสือต้นฉบับที่ถูกกล่าวถึง ผู้ที่ประสงค์จะนำไปใช้อ้างอิง กรุณาตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง คัดลอกจาก เวป //www.doisaengdham.org
Create Date : 19 กันยายน 2556 | | |
Last Update : 19 กันยายน 2556 7:57:13 น. |
Counter : 4562 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
พุทธศาสนสุภาษิต ๒๐.ยาจนาวรรค คือ หมวดขอ
พุทธศาสนสุภาษิต
เรียบเรียงจาก หนังสือพุทธศาสนสุภาษิต ของ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรณาณวโรรส และ พระมหาทองสืบ จารุวณฺโณ พร้อมด้วยคณะกรรมการ
--------------------------------------------------------------
๒๐. ยาจนาวรรค คือ หมวดขอ
น เว ยาจนฺติ สปฺปญฺญา. ผู้มีปัญญาย่อมไม่ขอเลย. ขุ. ชา. สตฺตก. ๒๗/๒๒๐.
ยาจโก อปฺปิโย โหติ. ผู้ขอย่อมไม่เป็นที่รัก (ของผู้ถูกขอ). วิ. มหาวิภงฺค. ๑/๓๓๗๗. ขุ. ชา. สตฺตก. ๒๗/๒๒๐.
ยาจํ อททมปฺปิโย. ผู้ถูกขอเมื่อไม่ให้สิ่งที่เขาขอ ย่อมไม่เป็นที่รัก (ของผู้ขอ). วิ. มหาวิภงฺค. ๑/๓๓๗. ขุ. ชา. สตฺตก. ๒๙/๒๒๐.
เทสฺโส จ โหติ อติยาจนาย. คนย่อมเป็นที่เกลียดชังเพราะขอจัด. วิ. มหาวิภงฺค. ๑/๓๓๔. ขุ. ชา. ติก. ๒๗/๑๐๐.
น ตํ ยาเจ ยสฺส ปิยํ ชิคึเส. ไม่ควรขอสิ่งที่รู้ว่าเป็นที่รักของเขา. วิ. มหาวิภงฺค. ๑/๓๓๔. ขุ. ชา. ติก. ๒๗/๑๐๐.
-------------------------------------------------------------
หมายเหตุ บทความ พุทธศาสนสุภาษิต นี้มาจากการเรียบเรียงสุภาษิตในหมวดเดียวกันให้มารวมกัน จากหนังสือ พุทธศาสนสุภาษิต เล่ม ๑ ที่ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ได้ทรงเรียบเรียง และหนังสือพุทธศาสนสุภาษิต เล่ม ๒ และเล่ม ๓ ที่ พระมหาทองสืบ จารุวณฺโณ พร้อมด้วยคณะกรรมการ ได้รวบรวมและเรียบเรียงไว้ ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ประสงค์จะทราบได้อ่านสุภาษิตในหมวดเดียวกันจากหนังสือทั้ง ๓ ต่อเนื่องกันในครั้งเดียว
เนื่องจากบทความนี้ ผู้เขียนได้เรียบเรียงโดยคัดลอกเนื้อความมาจากเวปของวัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน โดยมิได้ตรวจทานความครบถ้วนถูกต้องจากหนังสือต้นฉบับที่ถูกกล่าวถึง ผู้ที่ประสงค์จะนำไปใช้อ้างอิง กรุณาตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง คัดลอกจาก เวป //www.doisaengdham.org
Create Date : 12 กันยายน 2556 | | |
Last Update : 12 กันยายน 2556 8:04:11 น. |
Counter : 856 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]
|
บทความในกลุ่ม ข้อคิด-ธรรมะ ได้ถูกเรียบเรียงขึ้น โดยบางบทความได้คัดลอกและสำเนาภาพมาถ่ายทอดจากหนังสือธรรมะต่างๆ หรือหนังสืออื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ด้วยเจตนาประสงค์จะให้ธรรมะอันเป็นสัจจะและมงคลของพระพุทธศาสนาได้รับการเผยแพร่และเข้าถึงพุทธศาสนิกชนหรือผู้ที่สนใจให้ได้มากที่สุด รวมทั้งให้บทความธรรมะได้ถูกรวบรวมไว้ในรูปแบบที่จะสะดวกแก่การสืบค้นและเข้าถึงในภายหลัง
ผู้ที่ประสงค์จะคัดลอกไปเพื่อประโยชน์ทางพาณิชย์ กรุณาตรวจสอบกับต้นฉบับหรือเจ้าของลิขสิทธิ์ ด้วยครับ
|
|
|
|
|
|
|
|