|
พุทธศาสนสุภาษิต ๒๒.วาจาวรรค คือ หมวดวาจา
พุทธศาสนสุภาษิต
เรียบเรียงจาก หนังสือพุทธศาสนสุภาษิต ของ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรณาณวโรรส และ พระมหาทองสืบ จารุวณฺโณ พร้อมด้วยคณะกรรมการ
--------------------------------------------------------------
๒๒. วาจาวรรค คือ หมวดวาจา
หทยสฺส สทิสี วาจา. วาจาเช่นเดียวกับใจ. ขุ. ชา. เอก. ๒๗/๑๓๘.
โมกฺโข กลฺยาณิยา สาธุ. เปล่งวาจางาม ยังประโยชน์ให้สำเร็จ. ขุ. ชา. เอก. ๒๗/๒๘.
มุตฺวา ตปฺปติ ปาปิกํ. คนเปล่งวาจาชั่ว ย่อมเดือดร้อน. ขุ. ชา. เอก. ๒๗/๒๘.
ทุฏฺฐสฺส ผรุสา วาจา. คนโกรธมีวาจาหยาบ. ขุ. ชา. ทสก. ๒๗/๒๗๓.
อภูตวาที นิรยํ อุเปติ. คนพูดไม่จริง ย่อมเข้าถึงนรก. ขุ. ธ. ๒๕/๕๕.
สํโวหาเรน โสเจยฺยํ เวทิตพฺพํ. ความสะอาด พึงรู้ได้ด้วยถ้อยคำ. นัย-ขุ. อุ. ๒๕/๑๗๘.
วาจํ มุญฺเจยฺย กลฺยาณึ. ควรเปล่งวาจางาม. สํ. ส. ๑๕/๖๐.
สณฺหํ คิรํ อตฺถวตึ ปมุญฺเจ. ควรเปล่งวาจาไพเราะที่มีประโยชน์. ขุ. ชา. เตรส. ๒๗/๓๕๐.
ตเมว วาจํ ภาเสยฺย ยายตฺตานํ น ตาปเย. ควรกล่าวแต่วาจาที่ไม่ยังตนให้เดือดร้อน. สํ. ส. ๑๕/๒๗๘. ขุ. สุ. ๒๕/๔๑๑.
มนุญฺญเมว ภาเสยฺย. ควรกล่าวแต่วาจาที่น่าพอใจ. ขุ. ชา. เอก. ๒๗/๑๐.
นามนุญฺญํ กุทาจนํ. ในกาลไหน ๆ ก็ไม่ควรกล่าววาจาไม่น่าพอใจ. ขุ. ชา. เอก. ๒๗/๑๐.
วาจํ ปมุญฺเจ กุสลํ นาติเวลํ. ไม่ควรเปล่งวาจาที่ดี ให้เกินกาล. ขุ. ชา. ทุก. ๒๗/๘๐. ขุ. สุ. ๒๕/๕๒๓. ขุ. มหา. ๒๙/๖๒๒.
น หิ มุญฺเจยฺย ปาปิกํ. ไม่ควรเปล่งวาจาชั่วเลย. ขุ. ชา. ๒๗/๒๘.
กลฺยาณิเมว มุญฺเจยฺย น หิ มุญฺเจยฺย ปาปิกํ โมกฺโข กลฺยาณิยา สาธุ มุตฺวา ตปฺปติ ปาปิกํ. พึงเปล่งวาจางามเท่านั้น ไม่พึงเปล่งวาจาชั่วเลย การเปล่งวาจางามยังประโยชน์ให้สำเร็จ คนเปล่าวาจาชั่วย่อมเดือดร้อน. (พุทฺธ) ขุ. ชา. เอก. ๒๗/๒๘.
ตเมว วาจํ ภาเสยฺย ยายตฺตานํ น ตาปเย ปเร จ น วิหึเสยฺย สา เว วาจา สุภาสิตา. บุคคลพึงกล่าววาจาที่ไม่เป็นเหตุยังตนให้เดือดร้อน และไม่เป็นเหตุเบียดเบียนผู้อื่น, วาจานั้นแล เป็นสุภาษิต. (วงฺคีสเถร) ขุ. สุ. ๒๕/๔๑๑. นาติเวลํ ปภาเสยฺย น ตุณฺหี สพฺพทา สิยา อวิกิณฺณํ มิตํ วาจํ ปตฺเต กาเล อุทีริเย. ไม่ควรพูดจนเกินกาล ไม่ควรนิ่งเสมอไป เมื่อถึงเวลา ก็ควรพูดพอประมาณ ไม่ฟั่นเฝือ. (พุทฺธ) ขุ. ชา. มหา. ๒๘/๓๓๘.
ปิยวาจเมว ภาเสยฺย ยา วาจา ปฏินนฺทิตา ยํ อนาทาย ปาปานิ ปเรสํ ภาสเต ปิยํ. ควรกล่าววาจาที่น่ารักอันผู้ฟังยินดีเท่านั้น เพราะคนดีไม่นำพาคำชั่วของผู้อื่นแล้ว กล่าวแต่คำไพเรา. (วงฺคีสเถร) ขุ. สุ. ๒๕/๔๑๒.
ปุริสสฺส หิ ชาตสฺส กุธารี ชายเต มุเข ยาย ฉินฺทติ อตฺตานํ พาโล ทุพฺภาสิตํ ภณํ. คนที่เกิดมา มีผึ่งเกิดอยู่ในปาก คนโง่กล่าวคำไม่ดี ก็ชื่อว่า เอาผึ่งถากตัวเอง. (พุทฺธ) องฺ. ทสก. ๒๔/๑๘๕.
ยญฺหิ กยิรา ตญฺหิ วเท ยํ น กยิรา น ตํ วเท อกโรนฺตํ ภาสมานํ ปริชานนฺติ ปณิฑิตา. บุคคลทำสิ่งใด ควรพูดสิ่งนั้น ไม่ทำสิ่งใด ไม่ควรพูดสิ่งนั้น, บัณฑิตย่อมกำหนดรู้คนที่ไม่ทำ ได้แต่พูด. (หาริตเถร) ขุ. เถร. ๒๖/๓๐๙. โย อตฺตเหตุ ปรเหตุ ธนเหตุ จ โย นโร สกฺขิปุฏฺโฐ มุสา พฺรูติ ตํ ชญฺญา วสโล อิติ. คนใด ถูกอ้างเป็นพยาน เบิกความเท็จ เพราะตนก็ดี เพราะผู้อื่นก็ดี เพราะทรัพย์ก็ดี พึงรู้ว่าผู้นั้นเป็นคนเลว. (พุทฺธ) ขุ. สุ. ๒๕/๓๕๐.
โย นินฺทิยํ ปสํสติ ตํ วา นินฺทติ โย ปสํสิโย วิจินาติ มุเขน โส กลึ กลินา เตน สุขํ น วินฺทติ. ผู้ใดสรรเสริญคนควรติ หรือติคนที่ควรสรรเสริญ, ผู้นั้นย่อมเก็บโทษด้วยปาก เขาไม่ได้สุขเพราะโทษนั้น. (พุทธฺ) องฺ. จตุกฺก. ๒๑/๔.
สหสฺสมปิ เจ วาจา อนตฺถปทสญฺหิตา เอกํ อตฺถปทํ เสยฺโย ยํ สุตฺวา อุปสมฺมติ. ถ้ามีวาจาที่ประกอบด้วยข้อความซึ่งเป็นประโยชน์แม้ตั้งพัน, ข้อความที่เป็นประโยชน์ บทเดียว ที่ฟังแล้วสงบระงับได้ ประเสริฐกว่า. (พุทฺธ) ขุ. ธ. ๒๕/๒๘.
อกกฺกสํ วิญฺญาปนึ คิรํ สจฺจํ อุทีรเย ยาย นาภิสเช กญฺจิ ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ. ผู้ใด พึงกล่าวถ้อยคำอันไม่เป็นเหตุให้ใคร ๆ ขัดใจ ไม่หยาบคาย เป็นเครื่องให้รู้ความได้และเป็นคำจริง, เราเรียกผู้นั้นว่าเป็นพราหมณ์ (พุทฺธ) ขุ. ธ. ๒๕/๗๐.
อกฺโกธโน อสนฺตาสี อวิกตฺถี อกุกฺกุจฺโจ มนฺตาภาณี อนุทฺธโต ส เว วาจายโต มุนิ. ผู้ใด ไม่โกรธ ไม่สะดุ้ง ไม่โอ้อวด ไม่รำคาญ พูดด้วยปัญญา ไม่ฟุ้งซ่าน ผู้นั้นแลชื่อว่า เป็นมุนี มีวาจาสำรวมแล้ว. (พุทฺธ) ขุ. สุ. ๒๕/๕๐๐. ขุ. มหา. ๒๙/๒๕๗.
อพทฺธา ตตฺถ พชฺฌนฺติ ยตฺถ พาลา ปภาสเร พทฺธาปิ ตตฺถ มุจฺจนติ ยตฺถ ธรีรา ปภาสเร. คนเขลา ย่อมกล่าวในเรื่องใด ไม่ถูกผูกก็ติดในเรื่องนั้น, คนฉลาดย่อมกล่าวในเรื่องใด แม้ถูกผูก ก็หลุดในเรื่องนั้น. (โพธิสตฺต) ขุ. ชา. เอก. ๒๗/๓๙.
ปรสฺส วา อตฺตโน วาปิ เหตุ น ภาสติ อลิกํ ภูริปญฺโญ โส ปูชิโต โหติ สภาย มชฺเฌ ปจฺฉาปิ โส สุคติคามิ โหติ. ผู้มีภูมิปัญญา ย่อมไม่พูดพล่อย ๆ เพราะเหตุแห่งคนอื่นหรือตนเอง ผู้นั้นย่อมมีผู้บูชาในท่ามกลางชุมชน แม้ภายหลังเขาย่อมไปสู่สุคติ (มโหสธโพธิสตฺต) ขุ. ชา. วีสติ. ๒๗/๔๒๗.
ยํ พุทฺโธ ภาสตี วาจํ เขมํ นิพฺพานปตฺติยา ทุกฺขสฺสนฺตกิริยาย สา เว วาจานมุตฺตมา. พระพุทธเจ้าตรัสพระวาจาใด เป็นคำปลอดภัย เพื่อบรรลุพระนิพพาน และเพื่อทำที่สุดทุกข์, พระวาจานั้นแล เป็นสูงสุดแห่งวาจาทั้งหลาย (วงฺคีสเถร) ขุ. เถร. ๒๖/๔๓๔.
สจฺจํ เว อมตา วาจา เอส ธมฺโธ สนนฺตโน สจฺเจ อตฺเถ จ ธมฺเม จ อหุ สนฺโต ปติฏฺฐิตา. คำสัตย์แล เป็นวาจาไม่ตาย นั่นเป็นธรรมเก่า สัตบุรุษทั้งหลายเป็นผู้ตั้งมั่นในคำสัตย์ที่เป็นอรรถและเป็นธรรม. (วงฺคีสเถร) ขุ. เถร. ๒๖/๔๓๔.
-------------------------------------------------------------
หมายเหตุ บทความ พุทธศาสนสุภาษิต นี้มาจากการเรียบเรียงสุภาษิตในหมวดเดียวกันให้มารวมกัน จากหนังสือ พุทธศาสนสุภาษิต เล่ม ๑ ที่ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ได้ทรงเรียบเรียง และหนังสือพุทธศาสนสุภาษิต เล่ม ๒ และเล่ม ๓ ที่ พระมหาทองสืบ จารุวณฺโณ พร้อมด้วยคณะกรรมการ ได้รวบรวมและเรียบเรียงไว้ ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ประสงค์จะทราบได้อ่านสุภาษิตในหมวดเดียวกันจากหนังสือทั้ง ๓ ต่อเนื่องกันในครั้งเดียว
เนื่องจากบทความนี้ ผู้เขียนได้เรียบเรียงโดยคัดลอกเนื้อความมาจากเวปของวัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน โดยมิได้ตรวจทานความครบถ้วนถูกต้องจากหนังสือต้นฉบับที่ถูกกล่าวถึง ผู้ที่ประสงค์จะนำไปใช้อ้างอิง กรุณาตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง คัดลอกจาก เวป //www.doisaengdham.org
Create Date : 27 กันยายน 2556 |
Last Update : 27 กันยายน 2556 7:51:51 น. |
|
0 comments
|
Counter : 5166 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]
|
บทความในกลุ่ม ข้อคิด-ธรรมะ ได้ถูกเรียบเรียงขึ้น โดยบางบทความได้คัดลอกและสำเนาภาพมาถ่ายทอดจากหนังสือธรรมะต่างๆ หรือหนังสืออื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ด้วยเจตนาประสงค์จะให้ธรรมะอันเป็นสัจจะและมงคลของพระพุทธศาสนาได้รับการเผยแพร่และเข้าถึงพุทธศาสนิกชนหรือผู้ที่สนใจให้ได้มากที่สุด รวมทั้งให้บทความธรรมะได้ถูกรวบรวมไว้ในรูปแบบที่จะสะดวกแก่การสืบค้นและเข้าถึงในภายหลัง
ผู้ที่ประสงค์จะคัดลอกไปเพื่อประโยชน์ทางพาณิชย์ กรุณาตรวจสอบกับต้นฉบับหรือเจ้าของลิขสิทธิ์ ด้วยครับ
|
|
|
|
|
|
|
|