|
พุทธศาสนสุภาษิต ๑๖.ปุคคลวรรค คือ หมวดบุคคล ( ๘ )
พุทธศาสนสุภาษิต
เรียบเรียงจาก หนังสือพุทธศาสนสุภาษิต ของ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรณาณวโรรส และ พระมหาทองสืบ จารุวณฺโณ พร้อมด้วยคณะกรรมการ
--------------------------------------------------------------
๑๖. ปุคคลวรรค คือ หมวดบุคคล (ต่อ)
เย จ โข พาลา ทุมฺเมธา ทุกมฺมนฺตี โมหปารุตา ตาทิสา ตตฺถ รชฺชนฺติ มารกฺขิตฺตสฺมิ พนฺธเน. คนเหล่าใดเขลา มีปัญญาทราม มีความคิดเลว ถูกความหลงปกคลุม คนเช่นนั้น ย่อมติดเครื่องผูกอันมารทอดไว้นั้น. (นนฺทกเถร) ขุ. เถร. ๒๖/๓๑๒.
เย จ สีเลน สมฺปนฺนา ปญฺญายูปสเม รตา อารกา วิรตา ธีรา น โหนฺติ ปรปตฺติยา. ผู้มีปัญญาเหล่าใด ประกอบด้วยศีล ยินดีในความสงบด้วยปัญญา ผู้มีปัญญาเหล่านั้น เว้นไกลจากความชั่วแล้ว ไม่ต้องเชื่อผู้อื่น. (โพธิสตฺต) ขุ. ชา. จตุกฺก. ๒๗/๑๔๓.
เย ฌานปสุตา ธีรา เนกฺขมฺมูปสเม รตา เทวาปิ เตสํ ปิหยนฺติ สมฺพุทฺธานํ สตีมตํ. ผู้มีปัญญาเหล่าใด ขวนขวายในฌาน ยินดีในความสงบอันเกิดจากเนกขัมมะ เทวดาทั้งหลายก็พอใจต่อผู้มีปัญญา ผู้รู้ดีแล้ว มีสติเหล่านั้น (พุทฺธ) ขุ. ธ. ๒๕/๓๙.
เยสํ ราโค จ โทโส จ อวิชฺชา จ วิราชิตา ตาที ตตฺถ น รชฺชนฺติ ฉินฺนสุตฺตา อพนฺธนา. ราคะ โทสะ และอวิชชา อันผู้ใดหลุดพ้นแล้ว, ผู้นั้น เป็นผู้คงที่มีสายล่ามขาดแล้ว ไม่มีเครื่องผูก ย่อมไม่ติดในที่นั้น. (นนฺทเถร) ขุ. เถร. ๒๖/๓๑๒.
โย จ คุตฺเตน จิตฺเตน สุณาติ ชินสาสนํ เขเปตฺวา อาสเว สพฺเพ สจฺฉิกตฺวา อกุปฺปตํ ปปฺปุยฺย ปรมํ สนฺตึ ปรินิพฺพาติ อนาสโว. ผู้ใดมีจิตคุ้มครองแล้ว ฟังคำสอนของพระชินเจ้า ผู้นั้นชื่อว่า ให้อาสวะทั้งปวงสิ้นไป ทำให้แจ้งซึ่งอกุปปธรรม, บรรลุความสงบอย่างยิ่ง ไม่มีอาสวะ ย่อมดับสนิท. (ยสทตฺตเถร) ขุ. เถร. ๒๖/๓๒๓.
โย เตสุ คุตฺโต วิทิตินฺทฺริโย จเร ธมฺเม ฐิโต อชฺชวมทฺทเว รโต สงฺคาติโค สพฺพทุกฺขปฺปหีโน น ลิมฺปตี ทิฏฺฐสุเตสุ ธีโร. ผู้ใด ระมัดระวังอินทรีย์เหล่านั้น รู้จักอินทรีย์ ๖ ตั้งอยู่ในธรรม ยินดีในความซื่อตรงและความอ่อนโยน ล่วงกิเลสเครื่องข้องเสียได้ ละทุกข์ได้ทั้งหมดเที่ยวไป, ผู้นั้น เป็นธีรชน ย่อมไม่ติดในสิ่งที่เห็นแล้วและได้ฟังแล้ว (พุทฺธ) ขุ. สุ. ๒๕/๓๗๔.
โรสโก กทริโย จ ปาปิจฺโฉ มจฺฉรี สโฐ อหิริโก อฺนตฺตปฺปี ตํ ชญฺญา วสฺโล อิติ. ผู้ใดเป็นคนขัดเคือง เหนียวแน่น ปรารถนาลามก ตระหนี่ โอ้อวด ไม่ละอาย และไม่เกรงกลัวบาป พึงรู้ว่า ผู้นั้นเป็นคนเลว. (พุทฺธ) ขุ. สุ. ๒๕/๓๕๑.
ลาภกมฺยา น สิกฺขติ อลาเภ จ น กุปฺปติ อวิรุทฺโธ จ ตณฺหาย รเส จ นานุคิชฺฌติ. บัณฑิตไม่ศึกษา เพราะอยากได้ลาภ, ไม่ขุ่นเคือง เพราะเสื่อมลาภ ไม่ยินดียินร้ายเพราะตัณหา และไม่ติดในรส. (พุทฺธ) ขุ. สุ. ๒๕/๕๐๑. ขุ. มหา. ๒๙/๒๘๔.
สงฺขาย โลกสฺมิ ปโรปรานิ ยสฺสิญฺชตํ ขตฺถิ กุหิญฺจิ โลเก สนฺโต วิธูโม อนีโฆ นิราโส อตาริ โส ชาติชรนฺติ พฺรูมิ. ผู้ใดพิจารณาเห็นความยิ่งและหย่อนในโลกแล้ว ไม่มีความหวั่นไหวในอารมณ์ไหน ๆ ในโลก, เรากล่าวว่า ผู้นั้นเป็นผู้สงบ ไม่มีกิเลสดุจควันไฟ ไม่มีทุกข์ ปราศจากตัณหา ข้ามชาติชราได้. (พุทฺธ) องฺ. ติก. ๒๐/๑๖๙.
สพฺพทา เว สุขํ เสติ พฺราหฺมโณ ปรินิพฺพุโต โย น ลิมฺปติ กาเมสุ สีติภูโต นิรูปธิ. ผู้ใดเป็นผู้เยือกเย็น ไม่มีอุปธิ ไม่ติดในกาม, ผู้นั้นเป็นพราหมณ์ เป็นผู้ดับแล้ว อยู่เป็นสุขทุกเมื่อ. (พุทฺธ) สํ. ส. ๑๕/๓๑๒.
สพฺพโส นามรูปสฺมึ ยสฺส นตฺถิ มมายิตํ อสตา จ น โสจติ ส เว ภิกฺขูติ วุจฺจติ. ผู้ใดไม่มีความยึดถือว่าของเราในนามรูปโดยประการทั้งปวง และผู้ใดย่อมไม่เศร้าโศกเพราะนามรูปที่ไม่มีอยู่, ผู้นั้นแลท่านเรียกว่าภิกษุ (พุทฺธ) ขุ. ธ. ๒๕/๖๕.
สพฺพา อาสตฺติโย เฉตฺวา วิเนยฺย หทเย ทรํ อุปสนฺโต สุขํ เสติ สนฺตึ ปปฺปุยฺย เจตโส. ผู้ใดตัดความข้องทั้งปวงแล้ว บรรเทาความกระวนกระวายใจได้ ผู้นั้น ถึงความสงบใจ เป็นผู้สงบระงับอยู่เป็นสุข. (พุทฺธ) องฺ. ติก. ๒๐/๑๗๕.
สพฺเพสุ กาเมสุ โย วีตราโค อากิญฺจญฺญํ นิสฺสิโต หิตฺวมญฺญํ สญฺญาวิโมกฺเข ปรเมธิมุตฺโต ติฏฺเฐยฺย โส ตตฺถ อนานุยายี. ผู้ใดปราศจากความติดในกามทั้งปวง ล่วงฌานอื่นได้แล้ว อาศัยอากิญจัญญายตนฌาน น้อมใจไปในสัญญาวิโมกข์อันประเสริฐ, ผู้นั้นจะพึงในอากิญจัญญายตนฌานนั้น ไม่มีเสื่อม. (พุทฺธ) ขุ. สุ. ๒๕/๕๓๘. ขุ. จู. ๓๐/๑๓๓.
ส วีตราโค ส วิเนยฺย โทสํ เมตฺตจิตฺตํ ภาวเยฺย อปฺปมาณํ สพฺเพสุ ภูเตสุ นิธาย ทณฺฑํ อนินฺทิโต พฺรหฺมมุเปติ ฐานํ. ผู้ปราศจากราคะ และกำจัดโทสะได้แล้วนั้น พึงเจริญเมตตาจิตไม่มีประมาณ ผู้นั้น งดอาชญาในสัตว์ทั้งปวงแล้ว ไม่ถูกติเตียน ย่อมเข้าถึงสถานอันประเสริฐ (สรภงฺคโพธิสตฺต) ขุ. ชา. จตฺตาฬีส. ๒๗/๕๔๒.
โส อุภนฺตมภิญฺญาย มชฺเฌ มนฺตา น ลิมฺปติ ตํ พฺรูมิ มหาปุริโสติ โส อิธ สิพฺพนิมจฺจคา. ผู้ (ดับกิเลสได้แล้วหมดความหวั่นไหว) นั้น รู้ที่สุดทั้ง ๒ แล้ว ย่อมไม่ติดในท่ามกลางด้วยปัญญา, เราเรียกผู้นั้นว่า เป็นมหาบุรุษ ผู้นั้นละตัณหาเครื่องเย็บร้อยใจในโลกนี้ได้แล้ว. (พุทฺธ) ขุ. สุ. ๒๕/๕๓๒. ขุ. จู. ๓๐/๓๕.
โสกปริเทวมจฺฉรํ น ชหนฺติ คิทฺธา มมายิเต ตสฺมา มุนโย ปริคฺคหํ หิตฺวา อจรึสุ เขมทสฺสิโน. ผู้ติดในสิ่งที่ยึดถือว่าของเรา ย่อมละความโศกเศร้า ความรำพันและความตระหนี่ไม่ได้ เพราะฉะนั้น มุนีทั้งหลายผู้เห็นความปลอดภัย จึงละความยึดถือไปได้ (พุทฺธ) ขุ. สุ. ๒๕/๑๙๓. ขุ. มหา. ๒๙/๑๕๔.
โสจติ ปุตฺเตหิ ปุตฺติมา โคมิโก โคหิ ตเถว โสจติ อุปธีหิ นรสฺส โสจนา น หิ โส โสจติ โย นิรูปธิ. ผู้มีบุตรย่อมเศร้าโศกเพราะบุตร, ผู้มีโคย่อมเศร้าโศกเพราะโคเหมือนกัน นรชนมีความเศร้าโศกเพราะอุปธิ, ผู้ใด ไม่มีอุปธิ ผู้นั้นไม่ต้องเศร้าโศกเลย (พุทฺธ) สํ. ส. ๑๕/๙.
-------------------------------------------------------------
หมายเหตุ บทความ พุทธศาสนสุภาษิต นี้มาจากการเรียบเรียงสุภาษิตในหมวดเดียวกันให้มารวมกัน จากหนังสือ พุทธศาสนสุภาษิต เล่ม ๑ ที่ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ได้ทรงเรียบเรียง และหนังสือพุทธศาสนสุภาษิต เล่ม ๒ และเล่ม ๓ ที่ พระมหาทองสืบ จารุวณฺโณ พร้อมด้วยคณะกรรมการ ได้รวบรวมและเรียบเรียงไว้ ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ประสงค์จะทราบได้อ่านสุภาษิตในหมวดเดียวกันจากหนังสือทั้ง ๓ ต่อเนื่องกันในครั้งเดียว
เนื่องจากบทความนี้ ผู้เขียนได้เรียบเรียงโดยคัดลอกเนื้อความมาจากเวปของวัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน โดยมิได้ตรวจทานความครบถ้วนถูกต้องจากหนังสือต้นฉบับที่ถูกกล่าวถึง ผู้ที่ประสงค์จะนำไปใช้อ้างอิง กรุณาตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง คัดลอกจาก เวป //www.doisaengdham.org
Create Date : 14 สิงหาคม 2556 |
Last Update : 14 สิงหาคม 2556 5:22:24 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1447 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]
|
บทความในกลุ่ม ข้อคิด-ธรรมะ ได้ถูกเรียบเรียงขึ้น โดยบางบทความได้คัดลอกและสำเนาภาพมาถ่ายทอดจากหนังสือธรรมะต่างๆ หรือหนังสืออื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ด้วยเจตนาประสงค์จะให้ธรรมะอันเป็นสัจจะและมงคลของพระพุทธศาสนาได้รับการเผยแพร่และเข้าถึงพุทธศาสนิกชนหรือผู้ที่สนใจให้ได้มากที่สุด รวมทั้งให้บทความธรรมะได้ถูกรวบรวมไว้ในรูปแบบที่จะสะดวกแก่การสืบค้นและเข้าถึงในภายหลัง
ผู้ที่ประสงค์จะคัดลอกไปเพื่อประโยชน์ทางพาณิชย์ กรุณาตรวจสอบกับต้นฉบับหรือเจ้าของลิขสิทธิ์ ด้วยครับ
|
|
|
|
|
|
|
|