Group Blog
 
All Blogs
 
พุทธประวัติ ปริจเฉทที่ ๒๗ - ๒๘ - ๒๙

ปริจเฉทที่ ๒๗ “ธาตุวิภัชนปริวรรต”

หลังจากพุทธปรินิพพานได้ ๗ วัน มัลลกษัตริย์จึงอัญเชิญพุทธสรีระไปถวายพระเพลิง “ก็เอาอัคคีจุดเข้า แลเพลิงนั้นก็มิได้ติด จึงตรัสถามพระอนุรุทธ พระอนุรุทธจึงบอกว่า อธิบายแห่งเทพยดาทั้งหลายจะคอยท่าพระมหากัสสปะอันเป็นพระสาวกผู้ใหญ่ก่อน เบื้องว่าพระมหากัสสปะยังมิได้มานมัสการพระบาทยุคคลตราบใด เพลิงก็ยังมิได้ไหม้พระเชิงตะกอนตราบนั้น”



(พระมหากัสสปะพร้อมด้วยสงฆ์บริวารเดินทางไปเฝ้าพระพุทธเจ้า)



(พระมหากัสสปะพบอาชีวกถือดอกมณฑารกั้นเป็นร่มเดินสวนทางมาก็ทราบว่าพระพุทธองค์เสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว)

ฝ่ายพระมหากัสสปะทราบข่าวว่าพระบรมศาสดาประชวรอยู่ก็รีบเดินทางไปเฝ้า ระหว่างทางได้พบอาชีวกผู้หนึ่งถือดอกมณฑาร เอาไปเสียบเป็นคันร่มสวนทางมา ก็ทราบว่าพระพุทธองค์เสด็จดับขันธปรินิพพานเพราะดอกมณฑารเป็นดอกไม้ทิพย์ จะมีขึ้นเฉพาะเมื่อพระพุทธเจ้าประสูติ ออกมหาภิเนษกรมณ์ ตรัสรู้แสดงปฐมเทศนา กระทำยมกปาฏิหารย์ เสด็จลงจากดาวดึงส์ และทรงปลงอายุสังขาร ครั้นถามอาชีวกนั้น ก็ได้ความว่าเสด็จดับขันธปรินิพพานได้ ๗ วันแล้ว พระมหากัสสปะจึงเร่งเดินทางไปถวายบังคมพุทธสรีระที่เมืองกุสินาราย



(พระมหากัสสปะถวายบังคมพุทธสรีระ พระบาททั้งสองของพระพุทธเจ้าปาฏิหารย์รับพระมหากัสสปะ)

ครั้นพระมหากัสสปะไปถึงที่ประดิษฐานพุทธสรีระแล้วก็ตั้งสัตยาธิษฐาน “ประการหนึ่ง ผิข้ากัสสปะมีความเสน่หาในพระศาสดาเป็นสัตย์ ขอให้พระบาทยุคคลอันประดับด้วยจักรรัตนลักขณะจงนิกขมนาการจากพระหีบทองรองรับซึ่งหัตถ์ทั้งสองแห่งข้ากัสสปะ ..... ขณะนั้นอันว่า พระสรีระแห่งพระชินสีห์ ...... ก็ยังพระบาททั้งคู่ให้ภินทนาการ ซึ่งคู่ผ้าทุกุลพัสตร์ อันห่อหุ้มพระสรีระกายทั้ง ๕๐๐ ชั้น กับทั้งสุวรรณมัญชุสภาชนะ พระหีบทอง ทำลายออกเป็นสองภาคออกมาปรากฏภายนอก”

นิกขมนาการ หมายถึง ออกไป
ภินทนากการ หมายถึง ทำลาย
ทุกุลพัสตร์ หมายถึง ผ้าอย่างดี
สุวรรณมัญชุสภาชนะ หมายถึง ภาชนะอันงามทำด้วยทอง

ครั้นถวายพระเพลิงพุทธสรีระแล้ว พระเจ้าอชาตศัตรูพร้อมด้วยกษัตริย์ ๗ นครต่างยกกองทัพมายังเมืองกุสินารายเพื่อขอแบ่งพระบรมสารีริกธาตุ โทณพราหมณ์ซึ่งเป็นอาจารย์ผู้ใหญ่ในเมืองกุสินารายห้ามทัพและตวงพระบรมสารีริกธาตุด้วยทะนานทองแบ่งให้แก่เมืองต่างๆ



(โทณพราหมณ์แบ่งพระบรมสารีริกธาตุให้แก่กษัตริย์เมืองต่างๆ)



(ท้าวสักกเทวราชอัญเชิญพระเขี้ยวแก้วไปประดิษฐานไว้ในพระเจดีย์จุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์)

ขณะที่โทณพราหมณ์กำลังแบ่งพระบรมสารีริกธาตุอยู่นั้น ได้ลักเอาพระทาฒธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ซ่อนไว้ในผ้าโพกศีรษะ ท้าวสักกเทวราชก็ลอบมานำพระเขี้ยวแก้วจากผ้าโพกของโทณพราหมณ์ อัญเชิญไปสู่ดาวดึงสพิภพแล้วประดิษฐานไว้ในพระเจดีย์จุฬามณี

ปริจเฉทที่ ๒๘ “มารพันธปริวรรต”

กล่าวถึงพระเจ้าอโศกมหาราชกษัตริย์แห่งราชวงศ์โมริยะทรงรวบรวมพระบรมสารีริกธาตุบรรจุไว้ในสถูป ๘๔,๐๐๐ องค์ แล้วจัดสมโภชยิ่งใหญ่ พญาวัสวดีมารตามรังควานในพิธี พระสงฆ์ทั้งหลายจึงอาราธนาพระอุปคุตเถระพระอรหันต์องค์หนึ่งซึ่งเนรมิตปราสาท เข้าฌานสมาบัติอยู่กลางมหาสมุทร พระอุปคุตสำแดงฤทธิ์จับพญามารทรมานจนยอมจำนน ศรัทธาในพระพุทธศาสนา

ปริจเฉทที่ ๒๙ “อันตรธานปริวรรต”

กล่าวถึงกาลเมื่อจะสูญสิ้นศาสนาของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันว่าประกอบด้วยเบญจอันตรธาน (การสูญสิ้น ๕ ประการ) เรียงตามลำดับ ได้แก่ ปริยัติอันตรธาน (สูญสิ้นพระไตรปิฎก) ปฏิบัติอันตรธาน (สูญสิ้นจากการปฏิบัติกระทำความเพียรเพื่อบรรลุมรรคผล) ปฏิเวธอันตรธาน (สูญสิ้นพระอริยบุคคลผู้บรรลุมรรคผล) ลิงคอันตรธาน (สูญสิ้นจากผู้ดำรงสมณเพศ) และธาตุอันตรธาน (สูญสิ้นพระบรมสารีริกธาตุ)

------------------------------------------------------

ที่มา ภาพและเรื่องสำเนาและคัดลอกจากหนังสือชาดกและพุทธประวัติจากตู้ลายรดน้ำ จัดพิมพ์เป็นหนังสือที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติในโอกาสมหามงคลงานฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี พุทธศักราช ๒๕๔๙
โดย คณะกรรมการฝ่ายประมวลเอกสารและจดหมายเหตุ ในคณะกรรมการอำนวยการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี พุทธศักราช ๒๕๔๙
พิมพ์ที่ บริษัท รุ่งศิลป์การพิมพ์ (๑๙๗๗) จำกัด




Create Date : 05 กันยายน 2553
Last Update : 5 กันยายน 2553 7:57:30 น. 2 comments
Counter : 1799 Pageviews.

 
น่าสนใจมากเลย โดยเฉพาะปริจเฉทที่ ๒๙ ทำให้ระลึกว่าตอนนี้ยังโชคดีได้พบพระพุทธศาสนา ในช่วงที่ยังไม่ถึงกาลสูญสิ้น จะต้องรีบพยายามศึกษา และปฏิบัติ


โดย: chantibha วันที่: 5 กันยายน 2553 เวลา:10:49:08 น.  

 
ขอเจริญในธรรมด้วยคน สาธุ


โดย: nuyect วันที่: 19 กันยายน 2553 เวลา:10:05:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

sirivajj
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




บทความในกลุ่ม ข้อคิด-ธรรมะ ได้ถูกเรียบเรียงขึ้น โดยบางบทความได้คัดลอกและสำเนาภาพมาถ่ายทอดจากหนังสือธรรมะต่างๆ หรือหนังสืออื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ด้วยเจตนาประสงค์จะให้ธรรมะอันเป็นสัจจะและมงคลของพระพุทธศาสนาได้รับการเผยแพร่และเข้าถึงพุทธศาสนิกชนหรือผู้ที่สนใจให้ได้มากที่สุด รวมทั้งให้บทความธรรมะได้ถูกรวบรวมไว้ในรูปแบบที่จะสะดวกแก่การสืบค้นและเข้าถึงในภายหลัง

ผู้ที่ประสงค์จะคัดลอกไปเพื่อประโยชน์ทางพาณิชย์ กรุณาตรวจสอบกับต้นฉบับหรือเจ้าของลิขสิทธิ์ ด้วยครับ
Friends' blogs
[Add sirivajj's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.