วิภา ทราเวล..... คนกันเอง ราคากันเองจ้า.....
Group Blog
 
All blogs
 

งานเทศกาล และประเพณีท้องถิ่น

งานเทศกาลและประเพณีท้องถิ่นของจังหวัดภูเก็ต

งานตรุษจีน-ย้อนอดีตเมืองภูเก็ต เป็นงานประเพณีที่จัดตั้งขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีน 3 วันสุดท้าย โดยเทศบาลนครภูเก็ตและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกในการอนุรักษ์อาคารเก่าและส่งเสริมการท่องเที่ยวในเขตเมือง บนถนนถลาง ถนนกระบี่ และซอยรมณีย์ ซึ่งเป็นถนนสายประวัติศาสตร์ของเมืองภูเก็ต โดยมีกิจกรรมและการแสดงมากมายให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสบรรยากาศกลิ่นอายวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวภูเก็ต พร้อมลิ้มรสอาหารพื้นเมือง ขนมโบราณภูเก็ต และชมการแสดงสุดยอดอุปรากรจีนจากสาธารณรัฐประชาชนจีน

งานประเพณีไหว้เทวดา เป็นประเพณีที่จัดขึ้นหลังวันตรุษจีน 9 วัน ตรงกับวัน 9 ค่ำ เดือน 1 ตามปฏิทินจีน เป็นการบูชาเทวดาเพื่อให้ท่านปกป้องคุ้มครองให้อยู่เย็นเป็นสุข ชาวภูเก็ตเชื้อสายจีนนั้นจะจัดของไหว้เป็นขนมมงคล ผลไม้มงคล รวมถึงสัญลักษณ์ในประเพณีคือ ต้นอ้อย 1 คู่ และขนมเจดีย์น้ำตาลมาตั้งไหว้ในช่วงเช้ามืดบริเวณหน้าบ้านของแต่ละบ้าน เริ่มไหว้ประมาณ 03.00-06.00 น.แล้วรอจนพระอาทิตย์ขึ้นถึงเป็นอันเสร็จพิธี แต่ปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงตามความสะดวกคือ เริ่มไหว้ประมาณเที่ยงคืน ส่วนระยะเวลานั้นไม่มีการกำหนดเวลาที่แน่นอนนักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นความสวยงามของโต๊ะไหว้และแสงเทียนตลอดแนวถนน ตั้งแต่เที่ยงคืนเป็นต้นไป

งานท้าวเทพกระษัตรี-ท้าวศรีสุนทร ตรงกับวันที่ 13 มีนาคม ของทุกปี มีการจัดงานเฉลิมฉลองมีกิจกรรมต่างๆ มากมายเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่สองวีรสตรีสามารถปกป้องเมืองถลางให้รอดพ้นจากข้าศึกพม่าและสดุดีในวีรกรรมของท่าน

งานประเพณีปล่อยเต่า จัดตรงกับวันที่ 13 เมษายน หรือวันสงกรานต์ของทุกปี กรมประมงได้กำหนดให้เป็นวันประมงแห่งชาติ มีงานประเพณีปล่อยลูกเต่าลงทะเล โดยจัดงานบริเวณหาดต่างๆ ในภูเก็ต

งานประเพณีลอยเรือชาวเล จะมีพิธีในกลางเดือน 6 และเดือน 11 ของทุกปี โดยกลุ่มชาวเลที่หาดราไวย์และบ้านสะปำ จะมีพิธีลอยเรือในวันขึ้น 13 ค่ำ กลุ่มชาวเลที่เกาะสิเหร่จะมีพิธีลอยเรือ ในวันขึ้น 14 ค่ำ และกลุ่มชาวเลที่แหลมหลา (ทางตอนเหนือของเกาะภูเก็ต) จะมีพิธีสะเดาะเคราะห์ของชาวเล คล้ายกับพิธีลอยกระทงของชาวไทย มีการสร้างเรือไม้ระกำ ตัดผม ตัดเล็บและทำตุ๊กตาไม้แทนคนใส่ลงไปในเรือแล้วนำไปลอยเพื่อนำเอาความทุกข์โศกเคราะห์ร้ายต่างๆ ออกไปกับทะเลแล้วมีการร่ายรำรอบเรือหรือที่เรียกว่า “รำรองเง็ง” นั่นเอง

งานผ้อต่อ เป็นงานประเพณีของชาวภูเก็ตที่มีเชื้อสายจีน จะมีพิธีในช่วงเดือน 7 ของจีนหรือเดือน 9 ของไทย โดยมีพิธีเซ่นไหว้บรรพบุรุษและวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ด้วยเครื่องบวงสรวง เป็นขนมชนิดหนึ่งทำด้วยแป้งเป็นรูปเต่าขนาดใหญ่บ้างเล็กบ้างทาสีแดง ซึ่งคนจีนเชื่อว่าเต่าเป็นสัตว์ที่มีอายุยืน ดังนั้นการไหว้เต่าจึงเป็นการต่ออายุตนเองและถือเป็นกุศลที่ยิ่งใหญ่

งานประเพณีไหว้พระจันทร์ ตรงกับวันขึ้น 15 เดือน 8 ตามปฏิทินจีน ในคืนดังกล่าวพระจันทร์จะสว่างและกลมถือว่าสวยที่สุด จัดขึ้นเพื่อสักการบูชาเจ้าแม่กวนอิมและพระจันทร์ อีกพร้อมทั้งขอพรให้คนในครอบครัวมีความสุข อีกทั้งยังเป็นเทศกาลแห่งความกลมเกลียว ซึ่งผู้คนถือว่าดวงจันทร์ที่กลมเป็นเสมือนสัญลักษณ์ของความสามัคคี ทั้งนี้เทศบาลนครภูเก็ตได้จัดให้มีพิธีไหว้พระจันทร์ ตลาดนัดขนมไหว้พระจันทร์ขนมมงคลและอาหารพื้นเมือง ณ สวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษามหาราชินี เพื่ออนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามของชุมชนท้องถิ่นและส่งเสริมการท่องเที่ยวในเขตเมืองภูเก็ตด้วย

งานประเพณีถือศีลกินผัก ตรงกับวันขึ้น 1-9 ค่ำ เดือน 9 ของจีน ซึ่งอยู่ในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม ของทุกปี งานเทศกาลกินผักเป็นงานประเพณีซึ่งชาวจีนที่เข้ามาอาศัยในภูเก็ตยึดถือปฏิบัติมาช้านานตั้งแต่ พ.ศ.2368 จนถึงทุกวันนี้ เพื่อเป็นการถือศีลปฏิบัติธรรม ชำระร่างกายและจิตใจให้บริสุทธิ์ และในช่วงเทศกาล 9 วัน 9 คืนนี้ จะมีพิธีกรรมต่างๆ มากมาย อาทิ พิธีอัญเชิญพระ พิธีลุยไฟ พิธีสะเดาะเคราะห์ พิธีส่งพระเป็นต้น งานเทศกาลนี้นับเป็นงานที่ได้รับความสนใจและเลื่อมใสศรัทธา ทั้งจากชาวไทยและชาวต่างประเทศมากที่สุดงานหนึ่ง

ลากูน่าภูเก็ตไตรกีฬา เป็นการแข่งขันกีฬา 3 ประเภทต่อเนื่องกัน คือ ว่ายน้ำ ขี่จักรยานและวิ่ง บริเวณลากูน่าภูเก็ต หาดบางเทา มีผู้เข้าแข่งขันจากทั่วโลก การแข่งขันจะจัดขึ้นในช่วงปลายปีของทุกปี

เทศกาลเปิดฤดูท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ตรงกับวันที่ 1 พฤศจิกายน โดยเริ่มจัดงานครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2528 ณ หาดป่าตอง เพื่อต้อนรับฤดูท่องเที่ยวที่เวียนมาถึงอีกครั้งและเป็นการส่งเสริมความสามัคคีระหว่างผู้ประกอบการธุรกิจสาขาต่างๆ หน่วยงานราชการและประชาชน ในงานมีกิจกรรมต่างๆ มากมาย อาทิ พิธีตักบาตรในตอนเช้า การแข่งขันกีฬาทางน้ำ การประกวดสาวงามจากนักท่องเที่ยวชาติต่างๆ เป็นต้น

งานแข่งขันเรือใบชิงถ้วยพระราชทาน เริ่มมีขึ้นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2530 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ 5 รอบ และหลังจากนั้นจึงถือกำหนดจัดงานขึ้นในช่วงวันเฉลิมพระชนพรรษา 5 ธันวาคมของทุกปี โดยมีเรือใบจากนานาประเทศทั่วโลกเข้าร่วมการแข่งขันบริเวณหาดกะตะ เพื่อชิงถ้วยพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ




 

Create Date : 20 เมษายน 2553    
Last Update : 20 เมษายน 2553 14:54:00 น.
Counter : 425 Pageviews.  

สถานที่ไหว้พระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์เสริมสิริมงคล 9 แห่งในภูเก็ต

1. วัดพระทอง ใกล้สี่แยกถลาง ถ.เทพกระษัตรี อ.ถลาง นมัสการพระผุด เพื่ออธิษฐานขอพรให้มีเงินทอง

2. อนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี-ท้าวศรีสุนทร ถ.เทพกระษัตรี อ.ถลาง เพื่อระลึกถึงวีรสตีรถลางผู้กล้าของแผ่นดิน

3. ศาลเจ้ากะทู้ ใกล้สำนักงานเทศบาลเมืองกะทู้ อ.กะทู้ ไหว้องค์เล่าเอี๋ย เพื่ออธิษฐานขอพรให้เป็นผู้มีเสน่ห์ เป็นที่รักแก่คนทั้งหลาย

4. ศาลเจ้าแสงธรรม ถ.พังงา ตรงข้าม ธ.กสิกรไทย สาขาภูเก็ต อ.เมือง ไหว้องค์สุ่นต่ายไส เพื่ออธิษฐานขอพรให้เป็นผู้มีปัญญาเฉลียวฉลาด

5. ศาลเจ้าจุ้ยตุ่ย ซ.ภูธร ถ.ระนอง ใกล้ตลาดสดเทศบาลภูเก็ต อ.เมือง ไหว้รวมองค์เทพ เพื่ออธิษฐานขอพรให้มีสุขภาพแข็งแรง

6. ศาลเจ้าปุดจ้อ ติดกับศาลเจ้าจุ้ยตุ่ย ถ.ระนอง อ.เมือง ไหว้เจ้าแม่กวนอิม ไทโส่ยเอี๋ย(เทพดาวนพเคราะห์)และจ่ายสินเอี๋ย(เทพเจ้าแห่งโชคลาภ) เพื่อสะเดาะเคราะห์และอธิษฐานขอพรรับโชค

7. ศาลเจ้าบางเหนียว ถ.ภูเก็ต ทางไปสะพานหิน อ.เมือง ไหว้สามต่องอ๋อง เพื่ออธิษฐานขอพรให้เจริญก้าวหน้าทางอาชีพและการงาน

8. ศาลเจ้ากิ้วเที้ยนเก้ง ไม่ได้รับความเสียหายราวปฏิหารย์จากธรณีภัยพิบัติและคลื่นยักษ์สึนามิ ถ.ปลายแหลมสะพานหิน อ.เมือง ไหว้องค์กิ้วเที้ยนเฮียนลื้อและองค์ซำโป้ฮุก เพื่ออธิษฐานขอพรให้เกิดสุขทางบารมี

9. วัดฉลอง ถ.เจ้าฟ้าตะวันตก ทางไปห้าแยกอ่าวฉลอง อ.เมือง นมัสการหลวงพ่อแช่ม หลวงพ่อช่วง และหลวงพ่อเกลี้อม เพื่ออธิษฐานขอพรให้เจริญด้วยยศถาบรรดาศักดิ์นานานัปการ




 

Create Date : 20 เมษายน 2553    
Last Update : 20 เมษายน 2553 14:50:02 น.
Counter : 298 Pageviews.  

แหล่งท่องเที่ยวในเขตอำเภอถลาง

แหล่งท่องเที่ยวในเขตอำเภอถลาง

ประตูเมืองภูเก็ต หรือ Gate Way ตั้งอยู่บนพื้นที่ราชพัสดุ 25 ไร่ บริเวณท่าฉัตรไชย ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง ใกล้กับสะพานท้าวเทพกษัตรี-ท้าวศรีสุนทร บริเวณทางแยกเข้า-ออกจังหวัดภูเก็ต Gate Way ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่และเป็นห้องรับแขกแห่งแรกที่จะต้อนรับและอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่เดินทางมาเยือนจังหวัดภูเก็ต นอกจากโครงสร้างตัวอาคารที่สามารถสะท้อนถึงความเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่นภูเก็ตแล้ว หน้าอาคารมีการจัดภูมิทัศน์ด้วยการสร้างเสาศิลาอีก 29 ต้น ภายในบริเวณดังกล่าวด้วย โดยมีนัยว่า เลข 2 คือ ท้าวเทพกษัตรี-ท้าวศรีสุนทร สองวีรสตรีของชาวภูเก็ต ส่วนเลข 9 มีนัยถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 บนศิลาทั้ง 29 ต้น จะเรียงรายเรื่องราวต่างๆ ของภูเก็ตเอาไว้ตั้งแต่ยุครุ่งเรืองของการทำเหมืองแร่ดีบุก การทำเกษตรกรรม มาจนถึงยุคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวโดยความกรุณาจากกลุ่มอนุรักษ์ประวัติศาสตร์เมืองภูเก็ตนำโดย ผศ.สมหมาย ปิ่นพุทธศิลป์ อาจารย์ประสิทธิ ชินการณ์ ซึ่ง Gate Way เป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์และศิลปกรรมอีกแห่งหนึ่งของภูเก็ต ให้นักท่องเที่ยวและเยาวชนรุ่นหลังได้ศึกษาต่อไป

อนุสาวรีย์ท้าวเทพกษัตรี-ท้าวศรีสุนทร ตั้งอยู่ที่วงเวียนสี่แยกท่าเรืออำเภอถลาง โดยชาวภูเก็ตร่วมกันสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2509 เพื่อเชิดชูเกียรติวีรสตรีผู้กล้าหาญแห่งเมืองถลาง ในวันที่ 24 มี.ค. 2510 ได้นำรูปหล่อขึ้นประดิษฐานบนแท่นฐาน เนื่องจากเป็นวันเดียวกับที่กองทัพพม่าแตกทัพถอยหนีไปจากเมืองถลางเมื่อปี พ.ศ. 2328 ต่อมาเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2510 ได้ประกอบพิธีเปิดอนุสาวรีย์

วัดพระทอง อยู่ห่างจากตัวเมือง 21 กิโลเมตร ไปตามถนนเทพกระษัตรี ผ่านสี่แยกอำเภอถลาง ถึงที่ว่าการอำเภอ ทางด้านขวาจะมีทางแยกเข้าวัดพระทอง ซึ่งเป็นทีประดิษฐานพระพุทธรูปทองคำที่โผล่เพียงพระเกตุมาลาขึ้นมาจากพื้นดิน โดยมีตำนานเล่าว่าเดิมบริเวณที่ตั้งวัดเป็นทุ่งเลี้ยงสัตว์ มีเด็กเลี้ยงควายนำเชือกล่ามควายไปผูกกับหลักที่โผล่มาจากพื้นดิน โดยไม่ทราบว่าหลังที่โผล่มานั้นคือพระเกตุมาลาของพระพุทธรูป หลังจากนั้นเด็กก็ล้มเจ็บและตายลงในที่สุด พ่อของเด็กฝันว่าที่เด็กตายเพราะนำเชือกล่ามควายไปผูกกับพระเกตุมาลาของพระพุทธรูปจึงชักชวนชาวบ้านช่วยกันขุดหาก็พบจริง แต่ไม่สามารถขุดขึ้นมาได้ ต่อมาในสมัยพระเจ้าปดุงกษัตริย์พม่ายกทัพมาตีเมืองถลางเมื่อ พ.ศ. 2328 ทหารพม่าก็พยายามขุดพระผุดเพื่อนำกลับพม่า แต่ไม่สำเร็จกลับโดนฝูงแตนไล่ต่อย ซึ่งต่อมาชาวบ้านจึงก่อพระพุทธรูปเครื่ององค์ครอบไว้ดังปรากฏอยู่ทุกวันนี้ นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของ”พิพิธภัณฑ์สถานวัดพระทอง” เป็นที่รวบรวมโบราณวัตถุข้าวของเครื่องใช้ของชาวภูเก็ต เช่น “จังซุ่ย” เสื้อกันฝนชาวเหมืองแร่ดีบุก รองเท้าตีนตุกของสตรีเชื้อสายจีนที่ต้องมัดเท้าให้เล็กตามค่านิยมของสังคมสมัยนั้น

พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเมืองถลาง ไปจากตัวเมืองภูเก็ตแล้วเลี้ยวขวาที่อนุสาวรีย์ท้ายเทพกระษัตรี-ท้าวศรีสุนทร เปิดให้เข้าชมทุกวัน ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.30-16.00 น. ค่าเข้าชม ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 30 บาท ภายในมีการแสดงหลักฐานทางโบราณคดี อาทิ โบราณวัตถุศิลปกรรมที่ค้นพบแถบบริเวณด้านชายฝั่งทะเลอันดามัน นอกจากนี้ยังมีการจำลองเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ศึกถลาง วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวภูเก็ตและชาวเลในสมัยก่อน สอบภามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 076-311025, 076-311426

วัดพระนางสร้าง อยู่ห่างจากตัวเมือง 20 กิโลเมตร ไปตามเส้นทางถนนเพทกระษัตรี ถึงสี่แยกอำเภอถลาง ตั้งอยู่ด้านซ้าย เป็นวัดที่เก่าแก่ และเป็นแหล่งประวัติศาสตร์เมืองถลางที่สำคัญแห่งหนึ่ง เพราะเคยเป็นค่ายสู้รบกับพม่าเมื่อปี พ.ศ. 2328 นอกจากนี้ภายในอุโบสถยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปดีบุกที่เก่าแก่ 3 องค์ เรียกว่า “พระในพุง” หรือ “พระสามกษัตริย์” ซึ่งอยู่ในพระอุทรของพระพุทธรูปหล่อองค์ใหญ่ 3 องค์ อีกชั้นหนึ่ง

วัดม่วงโกมารภัจจ์ ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่บ้านเหรียง ตำบลเทพกระษัตรี อำเภอถลาง เป็นวัดร้างอยู่ในความดูแลของวัดพระนางสร้าง มีพระพุทธรูปปูนปั้นครึ่งท่อนเศียรชำรุด โดยชาวบ้านเชื่อว่าวิญญาณของพระภิกษุสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งมามรณภาพที่วัดแห่งนี้ท่านยังคงสถิตคอยดูแลปกป้องวัดและมีวิญญาณของปู่ทองสถิตอยู่ที่พระพุทธรูปครึ่งองค์ ใกล้พระพุทธรูปเคยมีต้นทึงและต้นทังซึ่งลายแทงวัดม่วงโกมารภัจจ์นั้นได้กล่าวถึงมีความว่า “ระหว่างต้นทึงต้นทังเป็นที่ฝังสมบัติ โดยมีชาวบ้านยังมีความเชื่ออีกว่าวัดม่วงโกมารภัจจ์เคนเป็นวัดมาก่อนสมัยท้าวเทพกระษัตรี(ท่านผู้หญิงจัน) และท้าวศรีสุนทร(คุณมุก) ก่อนส่งครามศึกถลาง พ.ศ. 2328 เจ้าเมืองถลางได้ใช้ลานวัดม่วงโกมารภัจจ์เป็นสถานที่ฝึกซ้อมทหาร ฝึกการเคี่ยวน้ำมัน ลงยันต์ทหาร ฝึกซ้อมรำกริช ฝึกผสมดินปืน มีบ่อน้ำ 2 บ่อ บ่อหนึ่งแช่ว่านยาสมุนไพรให้ทหารอาบน้ำเพื่อการอยู่ยงคงกระพัน นอกจากนี้บริเวณวัดเป็นทีประดิษฐานพระพุทธมณีศรีถลาง(นามพระราชทาน) ซึ่งหล่อด้วยดีบุกผสม ขนาดหน้าตัก 109 นิ้ว ปางคันธราช หรือปางประธานฝน ประทับอยู่นอกวิหารใต้ต้นโพธิ์ สมเด็จฯพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี เสด็จเป็นองค์ประธานเทดีบุกหล่อ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 19 ธันวาคม 2539 ณ มงคลฤกษ์ 10.50 น.

บ้านท้าวเทพกระษัตรี ตั้งอยู่ที่บ้านเคียน ต.เทพกระกษัตรี อ.ถลาง จากถนนเทพกระษัตรี หลักกิโลเมตรที่ 19.3 แยกทางเข้าบ้านเหรียงไป 2 กิโลเมตร มีการสืบค้นจนได้หลักฐานแน่ชัดว่าที่นี่คือบ้านเดิมของท้าวเทพกระษัตรี จึงได้จัดทำแผ่นป้ายบอกเล่าไว้ภายในบริเวณใกล้เคียงมีวัดม่วงโกมารภัจจ์ เป็นที่ฝึกซ้อมรบไพร่พลคราวศึกถลาง แนวคูเมือง และที่ตั้งค่ายพม่า

เกาะนาคาน้อย เป็นเกาะเล็กๆ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะภูเก็ต เป็นเกาะที่ชายหาดสามารถพักผ่อนว่ายน้ำได้ การเดินทางสามารถได้ตลอดปี โดยเช่าเรือจากอ่าวปอ

สถานีพัฒนาและส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์ป่าเขาพระแทว ครอบคลุมพื้นที่ 13,925 ไร่ หรือ 22.28 ตารางกิโลเมตร เป็นป่าดิบชื้น อุดมสมบูรณ์ด้วยพันธุ์ปาล์มที่หายากชนิดหนึ่งเรียกว่า “ปาล์มเจ้าเมืองถลาง” หรือ “ปาล์มหลังขาว” และยังมีสัตว์ป่าอีกหลายชนิด อาทิ ชะนี ค่าง ลิง เก้ง กวาง หมี หมูป่า กระรอก กระจง นกนานาชนิด เป็นต้น และเป็นสถานที่ที่มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติถึง 3 เส้นทาง เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจศึกษาสภาพธรรมชาติ และผู้ที่มีใจรักธรรมชาติ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งต้นน้ำที่สำคัญของภูเก็ตอีกด้วย ดังนั้นเขาพระแทวจึงเป็นสถานท่องเที่ยว และศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับธรรมชาติ และสภาพแวดล้อมได้อย่างแท้จริง โดยมีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญดังนี้

น้ำตกบางแป ออกไปจากตัวเมืองถึงอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี-ท้าวศรีสุนทร แล้วเลี้ยวขวาออกไปทางตำบลป่าคลอก 7 กิโลเมตร เป็นน้ำตกขนาดเล็กมีสวนรุกขชาติร่มรื่น และสถานอนุบาลชะนีซึ่งเป็นโครงการเพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจชะนีที่ถูกจับมาเลี้ยงให้พร้อมที่จะกลับคืนสู่ป่าต่อไป

น้ำตกโตนไทร อยู่ห่างจากตัวเมือง 22 กิโลเมตร ไปตามถนนเทพกระษัตรี ถึงสี่แยกอำเภอถลางแล้วเลี้ยวขวาออกไป 3 กิโลเมตร ก็จะถึงบริเวณน้ำตกโตนไทรเป็นน้ำตกขนาดเล็กน้ำจะไหลแรงในช่วงฤดูฝน มีต้นไม้ใหญ่น้อยร่มรื่นเหมาะแก่การพักผ่อน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร.076-311998

หาดสุรินทร์ อยู่ห่างจากตัวเมือง 24 กิโลเมตร ไปตามถนนเทพกระษัตรีถึงอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี-ท้าวศรีสุนทรแล้วเลี้ยวซ้ายไป 12 กิโลเมตร เป็นหาดที่เงียบสงบอยู่ริมเชิงเขาและมีต้นสนทะเลเรียงรายอยู่บริเวณเหนือหาด ทางด้านขวาเคยเป็นที่ตั้งสนามกอล์ฟ ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 7 หาดสุรินทร์เป็นหาดที่มีความลาดชันมาก โดยในช่วงฤดูมรสุมนั้นมีคลื่นลมแรงไม่เหมาะแก่การเล่นน้ำ

แหลมสิงห์ อยู่ถัดจากหาดสุรินทร์ไปเพียง 1 กิโลเมตร ซึ่งจะมีทางแยกทางด้านขวาสู่แหลมสิงห์เป็นหาดเล็กๆ ที่เงียบสงบ ทรายขาวสะอาดมีโขดหินสวยงาม

จุดดำน้ำลึกฝูงบินปะการังเพื่อทะเล นั้นเป็นแหล่งดำน้ำแห่งใหม่ ตั้งอยู่ที่บริเวณหน้าอ่าวบางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต จุดดำน้ำฝูงบินปะการัง มีความเป็นมาโดยการนำเครื่องบินปลดประจำการจำนวน 10 ลำ ประกอบด้วย อากาศยานลำเลียงแบบดาโกต้า รุ่นซี 47 จำนวน 4 ลำ ที่ทางทัพอากาศไทยได้รับมอบหมายจากสหรัฐอเมริกา หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อ พ.ศ. 2490 เป็นเครื่องบินลำเลียงเอนกประสงค์ที่มีจำนวนการสร้างมากที่สุดในโลก สร้างเกียรติประวัติให้แก่กองทัพอากาศไทย โดยได้เข้าร่วมกับสหประชาชาติในภารกิจลำเลียงและลาดตระเวนถ่ายภาพทางอากาศ สงสงครามเกาหลีและสงครามเวียดนาม นอกจากนี้ยังมีเฮลิคคอปเตอร์ รุ่นS-58T จำนวน 6 ลำ ซึ่งใช้ในการลำเลียงทางอากาศยุทธวิธีค้นหาและช่วยเหลือชีวิตเมื่อ พ.ศ. 2520 ปัจจุบันได้นำมาจัดวางอยู่ใต้ท้องทะเลอ่าวบางเทาให้เป็นแหล่งปะการัง บ้านของฝูงปลาและสัตว์น้ำและเป็นแหล่งดำน้ำแห่งใหม่ที่มีประวัติน่าสนใจให้นักดำน้ำได้ค้นหาที่อยู่ในความดูแลขององค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล การเดินทางสามารถติดต่อบริการนำเที่ยวดำน้ำลึกได้จากบริษัทดำน้ำที่จัดโปรแกรมดำน้ำลึก หรือถ้าหากมีอุปกรณ์ดำน้ำครบ ต้องการเดินทางไปเองก็สามารถเข่าบริการเรือหากยาวไอ้ที่บริเวณอ่าวบางเทา ใช้เวลาในการเดินทางที่จุดดำน้ำฝูงบินปะการังเพื่อทะเล ประมาณ 15 นาที

อุทยานแห่งชาติสิรินาถ(หาดในยาง) ได้รับประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2524 อยู่ห่างจากตัวเมือง 30 กิโลเมตร ตามเส้นทางถนนเทพกระษัตรี ผ่านสี่แยกอำเภอถลาง ตรงไปเมื่อถึงหลักกิโลเมตร 21-22 จะมีทางแยก ด้านซ้ายเข้าไป 10 กิโลเมตร หรือจะไปทางแยกเข้าสนามบิน เลี้ยวซ้าย 2 กิโลเมตร ครอบคลุมเนื้อที่ 90 ตารางกิโลเมตร หรือ 46,250 ไร่ เป็นหาดทรายที่มีความยาวต่อเนื่องกันถึง 13 กิโลเมตร โดยเริ่มจาก

หาดในทอน ไปตามเส้นทางอุทยานแห่งชาติ เลี้ยวซ้ายที่หลักกิโลเมตร 21-22 เมื่อถึงทางแยกเข้าบ้านสาคูเลี้ยวซ้ายไปประมาณ 3 กิโลเมตร ก็จะถึงหาดในทอน เป็นเวิ้งอ่าวที่งามแปลกตา ทอดโค้งจากตัวเกาะเป็นที่กำบังคลื่นลมได้อย่างดีและเป็นหาดที่เงียบสงบเหมาะสำหรับการเล่นน้ำ

หาดในยาง เป็นที่ตั้งที่ทำการอุทยานฯ เป็นหาดที่มีสวนสนร่มรื่น เหมาะแกการพักผ่อนและเล่นน้ำ นอกจากนี้ยังมีแนวปะการังขนาดใหญ่ เป็นที่อาศัยของสัตว์ทะเลนานาชนิด โดยเฉพาะเต่าทะเลซึ่งจะขึ้นมาวางไข่บนหาดราวเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ แต่ปัจจุบันเต่าทะเลมีจำนวนลดลงมากจนแทบจะไม่เห็นเต่าขึ้นมาวางไข่อีกเลย

หาดไม้ขาว ไปตามเส้นทางถนนเทพกระษัตรี ผ่านทางแยกเข้าสนามบินตรงไปทางสะพานสารสินจะมีทางแยกด้านซ้ายมือมีป้ายบอกทางเข้าหาดไม้ขาว เลี้ยวซ้ายไป 3.5 กิโลเมตร ก็จะถึงหาดไม้ขาวซึ่งเป็นหาดที่มีจั๊กจั่นทะเลและเต่าทะเลขึ้นมาวางไข่ แต่ปัจจุบันจำนวนลดลงมากเช่นเดียวกับหาดในยาง

หาดทรายแก้ว เป็นหาดทรายขาวทอดยาวขนานกับทิวต้นสน อยู่ถัดจากหาดไม้ขาวไปจนถึงสะพานสารสิน นับเป็นหาดที่อยู่เหนือสุดของเกาะภูเก็ต

ป่าชายเลน ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถ บริเวณท่าฉัตรไชย มีเนื้อที่ประมาณ 800 ไร่ ไม้ยืนต้นเด่นๆ ที่พบในพื้นที่ได้แก่ โกงกางใบเล็กโปรงแดง แสมดำ เล็บมือนาง ถั่วขาว และพบสัตว์ในป่าชายเลนอีกนานาชนิด มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติพร้อมป้ายให้ความรู้เรื่องป่าชายเลนตลอดเส้นทาง เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจและให้ความรู้ไปด้วยในขณะเดียวกัน




 

Create Date : 20 เมษายน 2553    
Last Update : 20 เมษายน 2553 13:52:30 น.
Counter : 233 Pageviews.  

แหล่งท่องเที่ยวในเขตอำเภอกะทู้

แหล่งท่องเที่ยวในเขตอำเภอกะทู้

หาดป่าตอง อยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ต 15 กิโลเมตร ตามเส้นทางถนนวิชิตสงคราม หรือทางหลวง 4020 ประมาณ 9 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวง 4029 อีก 6 กิโลเมตร หาดป่าตองมีลักษณะเป็นอ่างโค้งกว้าง เหมาะสำหรับการเล่นกีฬาทางน้ำทุกชนิด และนับเป็นหาดที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากที่สุดในภูเก็ต อาทิ สถานที่พัก บริษัทนำเที่ยว ศูนย์การค้า แหล่งบันเทิง เป็นต้น

หาดกะหลิม เป็นส่วนหนึ่งของหาดไปตามเส้นทางเดียวกับหาดป่าตอง แต่เมื่อถึงตัวหาดป่าตองจะมีทางแยกให้เลี้ยวขวาก็จะถึงหาดกะหลิม ซึ่งเป็นหาดเล็กๆ มีโขดหินและแนวปะการัง และมีสถานที่พักและร้านอาหารริมหาด

หาดกมลา อยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ต 26 กิโลเมตร จากอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตร-ท้าวศรีสุนทร เลี้ยวซ้ายผ่านหาดสุรินทร์ แหลมสิงห์ ก็จะถึงหาดกมลา ซึ่งเป็นแนวหาดทรายยาวประมาณ 2 กิโลเมตร นับเป็นหาดหนึ่งที่สงบเงียบ มีสถานที่พักบริการนักท่องเที่ยว

ภูเก็ตไซม่อนคาบาเร่ต์ ตั้งอยู่ที่หาดป่าตอง เป็นการแสดงคาบาเร่ต์ อันตระการตาด้วยเครื่องแต่งกายและฉากบนเวทีที่งดงาม การแสดงมี 2 รอบ เวลา 19.30 น. และ 21.30 น. โทร. 076342114

สนามยิงปืนกะทู้ ตั้งอยู่ในซอยน้ำตกกะทู้กับภูเก็ตวอเตอร์สกี เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น. สอบถามรายละเอียด โทร. 076-323996 หรือ //www.phuketoutdoorshooting.com

เวิลด์ บันจี้จัมพ์ เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 10.00-19.00 น. ตั้งอยู่ในซอยเก็บทรัพย์ 2 ถนนไสน้ำเย็น หาดป่าตอง โทร. 076-345185

สนามมวยป่าตอง ชมศิลปะการต่อสู้มวยไทยของนักมวยชาวไทยและชาวต่างประเทศทุกคืนวันจันทร์และวันพฤหัสบดี ตั้งแต่เวลา 21.00 น. สอบถามเพิ่มเติมโทร. 076-345578

เดอะเพลย์เฮ้าส์ เปิดให้บริการวันจันทร์-เสาร์ ระหว่างเวลา 17.00-00.30 น. รายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 076-341500

ภูเก็ตวอเตอร์สกี เป็นเคเบิลสกีในแอ่งน้ำขนาดใหญ่แห่งเดียวของภูเก็ต ตั้งอยู่ในซอยน้ำตกกะทู้ อ.กะทู้ เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00-19.00 น. โทร. 076-202525-7

ทาร์ซานบันจี้จัมพ์ ตั้งอยู่ใกล้ทางแยกขึ้นหาดป่าตอง โทร.076-321351

ป่าตองโกคาร์ท ตั้งอยู่ทางขึ้นเขาไปหาดป่าตอง เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น. โทร. 076-321949

ภูเก็ตแฟนตาซี ตั้งอยู่ที่หาดกมลา เป็นมิติใหม่แห่งความมหัศจรรย์บันเทิงยามราตรีที่ยิ่งใหญ่ บนเนื้อที่ 300 ไร่ แสดงถึงศิลปวัฒนธรรมไทยที่งดงาม โดยใช้เทคโนโลยีชั้นสูงด้านการบันเทิงที่ทันสมัย แสดง สี เสียง สเปเชี่ยลเอฟเฟคส์ครบครัน ภายในภูเก็ตแฟนตาซีประกอบด้วย

- หมู่บ้านหรรษา แบบสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์ให้เลือกซื้อสินค้าศิลปหัตถกรรม และสนุกสนานกับกิจกรรมบันเทิงการละเล่นต่างๆ ในสไตล์คาร์นิวัล

- ขบวนพาเหรดแสดง ศิลปวัฒนธรรม

- ภัตตาคารมโนราห์ทอง บริการอาหารทั้งไทย และต่างประเทศ ด้วยความจุถึง 4,000 ที่นั่ง

- วังไอยรา โรงละครขนาด 4,000 ที่นั่ง สำหรับชมการแสดงวัฒนธรรมไทยประยุกต์ที่ยิ่งใหญ่ถึง 9 ชุด สนใจติดต่อสอบถามรายละเอียดและสำรองบัตรได้ที่ โทร. 076-385000 โทรสาร. 076-385333

ศูนย์อนุรักษ์มรดกท้องถิ่นกะทู้ ซึ่งห่างจากตัวเมือง 7 กิโลเมตร ไปตามถนนวิชิตสงครามถึงสามแยกวัดเก็ตโฮ่ เลี้ยวขวาตรงไปยังชุมชนกะทู้ เลี้ยวซ้ายเข้าโรงเรียนบ้านกะทู้ เป็นสถานที่ตั้งศูนย์ฯ เก็บรวมรวมสินแร่ที่สำคัญต่างๆ ซึ่งเป็นวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของชุมชน สถานที่ตั้งของศูนย์โรงเรียนบ้านกะทู้ หมู่ที่ 2 อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 076-321035 เปิด-ปิด ตามเวลาราชการ

น้ำตกกะทู้ เป็นน้ำตกขนาดเล็กที่ร่มรื่นด้วยแมกไม้นานาพันธุ์ อยู่จากที่ว่าการอำเภอกะทู้ 4 กิโลเมตร ทางเข้าน้ำตกอยู่ใกล้กับสนามกอล์ฟล็อคปาล์ม บริเวณน้ำตกมีร้านอาหารอร่อยบริการ

พิพิธภัณฑ์เหมืองแร่กะทู้ ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่หมู่ 5 ถนนสายกระทู้-เกาะแก้ว ตำบลกะทู้ อำเภอกะทู้ บริเวณเหมืองแร่เก่าท่อสูง ระหว่างเขานางพันธุรัตน์ ด้านเหนือติดกับเทือกเขาเก็ตหนี ด้านตะวันออกหรือระหว่างบ้านเกาะแก้ว-บางคู ติดกับสนามกอล์ฟล็อคปาล์ม เป็นสถานที่แสดงความยิ่งใหญ่แห่งประวัติศาสตร์การทำเหมืองแร่ของกะทู้ เป็นเรื่องราวที่ยังถูกกล่าวขาน แม้กาลเวลาจะล่วงเลยมาหลายทศวรรษ แต่หุบเขาแห่งนี้ได้ถูกบันทึกไว้ให้เป็นประวัติศาสตร์ของภูเก็ต พิพิธภัณฑ์เหมืองแร่เกิดขึ้นภายใต้แนวคิดเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และประวัติศาสตร์ชุมชน โดยเฉพาะตำบลกะทู้ในอดีตมีการทำเหมืองแร่ดีบุกเกือบทั่วพื้นที่ ร่องรอยที่เหลืออยู่ของขุมเหมืองโบราณล้วนมีจิตวิญญาณที่สะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าแห่งภูมิปัญญาของบรรพชนที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญแก่คนรุ่นหลังสืบไป สร้างในปี พ.ศ. 2551 อาคารพิพิธภัณฑ์เหมืองแร่ เป็นอาคารแบบชิโนโปรตุกีส 1 ชั้นครึ่ง มีจิ่มแจ้(ลาน) อยู่ตรงกลาง ตกแต่งหน้าต่างด้วยลายปูนปั้นซุ้มโค้งแบน สะท้อนให้เห็นถึงความงดงามแห่งการผสมผสาน จึงได้เรียกชื่ออาคารนี้ว่า “อังมอเหลานายหัวเหมือง” ภายในอาคารมีการจัดนิทรรศการแบบกึ่งมีชีวิต โดยแบ่งการจัดแสดงออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือ รอบๆ ของอาคารถูกจัดตกแต่งให้คล้ายคลึงกับวิถีการขุดแร่ในอดีต ด้วยรางแร่ขุมเหมือง ตกแต่งด้วยพันธุ์ไม้ต่างๆ ส่วนภายในอาคารจัดแสดงนิทรรศการประวัติความเป็นมาของการทำเหมืองแร่ดีบุก และวิถีของชาวเหมือง ด้วยการนำเสนอเป็นเรื่องราวได้อย่างน่าสนใจ เปิดบริการให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. ค่าธรรมเนียมเข้าชม คนไทย 50 บาท นักศึกษา 20 บาท นักเรียน 10 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 086-4707767




 

Create Date : 20 เมษายน 2553    
Last Update : 20 เมษายน 2553 13:48:01 น.
Counter : 465 Pageviews.  

แหล่งท่องเที่ยวในเขตอำเภอเมือง

แหล่งท่องเที่ยวในเขตอำเภอเมือง

เขารัง อยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของตัวเมือง เป็นเนินเขาเตี้ยๆ มีร้านอาหารสวนสุขภาพ และสวนสาธารณะสำหรับออกกำลังกายและพักผ่อนหย่อนใจ นอกจากนี้บนยอดเขายังสามารถมอเห็นทัศนียภาพที่สวยงามของเมืองภูเก็ตได้อีกด้วย

แหล่งท่องเที่ยวย่านเมืองเก่า

ตึกโบราณ อาคารภายในตัวเมืองภูเก็ต ส่วนมากเป็นตึกซึ่งสร้างขึ้นสมัยเกือบร้อยปีมาแล้ว เมื่อครั้งที่กิจการเหมืองแร่เริ่มเจริญใหม่ๆ ตึกเหล่านี้ได้รับอิทธิพลมากจากสถาปัตยกรรมแบบ “ชิโนโปรตุกิส” โดยมีลักษณะตัวอาคารที่มีส่วนลึกมากกว่าส่วนกว้าง หน้าต่างประตูเป็นไม้ลายฉลุ ปัจจุบันจะพบเห็นตึกเหล่านี้บริเวณ ถนนพังงา ถนนเยาวราช ถนนดีบุก และถนนกระบี่ นอกจากนี้ยังมีตึกโบราณที่มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมแบบยุโรป ได้แก่ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ศาลจังหวัดภูเก็ต และตึกบริเวณสี่แยกถนนภูเก็ตตัดถนนพังงา เป็นต้น

ซอยรมณีย์ ตั้งอยู่บนถนนถลาง บริเวณย่านเมืองเก่าของตัวเมืองภูเก็ต ในอดีตซอยรมณีย์เปรียบได้กับ “ย่านบันเทิง” มีผู้คนมาเที่ยวเพื่อความบันเทิงจึงได้ชื่อว่าซอยรมณีย์ หลังจากนั้นได้กลายเป็นที่อยู่อาศัยของคนทั่วไป ตึงที่สร้างขึ้นได้ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ปัจจุบันได้มีการปรับปรุงได้ตึกเก่าสไตล์ชิโนโปรตุกีสเหล่านี้กลับมาสวยงามมีสีสันตลอดซอย แต่ยังคงรักษาสถาปัตยกรรมเดิมไว้เป็นอย่างดี อาคารต่างๆ บริเวณนี้ปัจจุบันกลายเป็นร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก ร้านอาหารเครื่องดื่ม แกลลอรี่ ไว้บริการแก่นักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสกลิ่นไอของเมืองภูเก็ตเมื่อครั้งอดีต

พิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2478 ภายในอาคารจัดแสดงภาพถ่าย และดีดีทัศน์ที่สื่อถึงความเป็นมาของชาวจีนในภูเก็ต การทำเหมืองแร่ การแต่งกาย สถาปัตยกรรมแบชิโนโปรตุกีส อาหารพื้นเมือง และวัฒนธรรมประเพณีของชาวภูเก็ต โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นประโยชน์ในการเรียนรู้ถึงอารยธรรมของชาวภูเก็ต สถานที่ตั้ง 28 ถ.กระบี่ ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต 83000 โทร. 076-211224 เวลาทำการ อังคาร-ศุกร์ เวลา 13.00-20.00 น. เสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-20.00 น. หยุดวันจันทร์และวันนักขัตฤกษ์

บ้านชินประชา สร้างขึ้นไปปี พ.ศ. 2446 (ค.ศ.1903) หรือในปลายรัชสมัยรัชกาลที่ 5 โดยพระพิทักษ์ชินประชา( ตันม่าเสียง ) บิดาของท่านคือ หลวงบำรุงจีนประเทศ( ตันเนี่ยวยี่ ) ท่านถือกำเนิดในประเทศจีน มณฑลฮกเกี้ยน รับราชการทหารในตำแหน่ง “ บู๊เต็ก จงกุน ” ต่อมาท่านได้เดินทางมายังประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2397(ค.ศ.1854) หรือในปลายรัชสมัยรัชกาลที่ 4 ได้ประกอบกิจการทำเหมืองแร่ดีบุกที่เกาะภูเก็ต และกิจการค้าขายที่เกาะปีนังในนามยี่ห้อ “เหลียนบี้” พระพิทักษ์ชินประชา( ตันม่าเลียง ) ถือกำเนิดที่เกาะภูเก็ตในปี พ.ศ.2426 (ค.ศ.1883) เมื่ออายุได้ 20 ปี ท่านได้สร้างบ้านหลังนี้ตามแบบ “ชิโนโปรตุกีส” เป็นหลังแรกของจังหวัดภูเก็ต หรือเรียกกันว่า “อังม่อเหลา” เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่เป็นมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษเมืองจีน วัสดุส่วนอื่นของบ้านนั้นส่วนใหญ่นำเข้ามาจากต่างประเทศ เนื่องจากการค้าขายทางเรือผ่านเกาะปีนังมายังภูเก็ตในสมัยเฟื่องฟู เช่น กระเบื้องปูพื้นจากอิตาลี ฯลฯ ณ ปัจจุบัน “บ้านชินประชา” มีลูกหลานนับเนื่องเป็นรุ่นที่ 6 แล้ว สถานที่ตั้ง 98 ถนนกระบี่ ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต 83000 โทร. 076-211281, 076-211167

สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ตั้งอยู่ที่แหลมพันวา เป็นสถานที่รวบรวมพันธุ์สัตว์น้ำกว่า 100 ชนิด เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.30-16.00 น. ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 076-391126

สวนผีเสื้อและโลกแมลงภูเก็ต อยู่ห่างจากตัวเมือง 3 กม. ไปตามถนนเยาวราชผ่านโรงพยาบาลวชิรภูเก็ต แล้วเลี้ยวซ้ายที่สามแยกหมู่บ้านสามกอง และเลี้ยวขวาที่ซอยพะเนียง เป็นสถานที่รวบรวม และอนุรักษ์สิ่งมีชีวิตในเขตร้อนจำพวกผีเสื้อและแมลงนานาชนิด เปิดบริการทุกวัน เวลา 09.00-17.00 น. สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 076-215616, 076-210861

สวนเฉลิมพระเกียรติ ในวโรกาสเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมายุครบ 72 พรรษา ในปี 2547 เทศบาลนครภูเก็ต ได้พิจารณาแผนงานโครงการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล จึงได้จัดทำโครงการก่อสร้างสวนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมราชินีนาถซึ่งได้รับความเห็นชอบให้ก่อสร้างในที่ดินราชพัสดุ ซึ่งได้รับพระกรุณาธิคุณพระราชทานสวนสาธารณะแห่งนี้ว่า “สวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มหาราชินี พ.ศ. 2547”

“พญามังกรทะเล หรือฮ่ายเหล็งอ๋อง” สัตว์มงคลที่ยิ่งใหญ่ จัดสร้างเพื่อเป็นสิริมงคลโดยสืบเนื่องมาจากเมื่อครั้งที่พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดีเป็นข้าหลวงปกครองมณฑลภูเก็ต ได้มีซินแสท่านหนึ่งกล่าวว่าภูมิศาสตร์ และทำเลของเกาะภูเก็ตมีลักษณะที่ตั้งเป็น “ฮ่ายเหล็งหรือมังกรทะเลแห่งมหาสมุทรอินเดีย” ที่มีความเชื่อมาจากตำนานเจ้าสมุทรทั้งสี่ที่ช่วยปกปักรักษาสมุทรตามบัญชาสวรรค์ โดยหัวใจของมังกรอยู่ตรงกลางเมือง ทางเทศบาลนครภูเก็ตจึงได้จัดสร้างมังกรทะเลขึ้นเพื่อความเป็นสิริมงคลของคนภูเก็ต และในวโรกาสเฉลิมฉลองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2549 เพื่อประดิษฐานอยู่ที่สวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษามหาราชินี ถนนฉลาง ติดกับ ททท. สำนักงานภูเก็ต

ศูนย์วัฒนธรรมไทยภูเก็ต อยู่ห่างจากตัวเมือง 3 กม. ไปตามถนนเทพกระษัตรีจะมีป้ายบอกทางเข้าหมู่บ้านไทยฯ ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปภายในมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยสี่ภาค และสวนกล้วยไม้ เปิดบริการวันจันทร์-เสาร์ เวลา 10.00-19.00 น. การแสดงมี 2 รอบ เวลา 13.00 และ 17.30 น. ค่าเข้าชมการแสดงสำหรับคนไทย ผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 200 บาท สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร.076-225063

สวนสัตว์ภูเก็ต อยู่ระหว่างเส้นทางจากตัวเมืองอ่างฉลอง แล้วเลี้ยวซ้ายที่ซอยป่าหล่าย ถนนเจ้าฟ้า ในสวนสัตว์มีสัตว์นานาชนิด อาทิ เสือชนิดต่างๆ นกชนิดต่างๆ กวาง ม้าลาย อูฐ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการแสดงช้าง และจระเข้ สวนสัตว์เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.30-18.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.076-381337,076-381227 และ 076-282043

สะพานหิน เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจภายในตัวเมือง ตั้งอยู่สุดถนนภูเก็ตติดชายฝั่งทะเลเป็นที่ตั้งอนุสาวรีย์หลัก 60 ปี ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2512 เพื่อเป็นที่ระลึกแก่ กัปตันแอ็ดเวิร์ด โธมัสไมล์ ชาวออสเตรเลีย ผู้นำเรือขุดแร่ลำแรกมาใช้ขุดดีบุกเมื่อปี พ.ศ. 2452 นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของศูนย์กีฬาสะพานหินอีกด้วย

ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมจังหวัดภูเก็ต ตั้งอยู่ในมหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต ถ.เทพกระษัตริย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เป็นสถานที่จัดแสดงเรื่องราวประวัติศาสตร์ และศิลปวัฒนธรรมของภูเก็ต โดยเฉพาะเรื่องราวเกี่ยวกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ เรือนไทยพื้นบ้าน ข้าวของเครื่องใช้ เมืองถลางยุคโบราณ ชั้นล่างเป็นห้องสมุดรวบรวมหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรม เปิดบริการทุกวันเวลา 08.30-16.30 น. สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร.076-211959 ต่อ 148

จุดชมวิวเขาขาด ทัศนียภาพที่เป็นเอกลักษณ์ในมุมสูงของเขาขาด สามารถดึงดูดใจนักท่องเที่ยวให้เข้ามาสัมผัสกับความตระการตาแห่งท้องทะเลอันดามันได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ อีกทั้งในระหว่างเส้นทางเขาขาดยังมีจุดชมภูมิทัศน์ให้ผู้มาเยือนเก็บความประทับใจอีกด้วย สถานที่ตั้ง หมู่ที่ 6 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต

พิพิธภัณฑ์เปลือกหอยภูเก็ต ตั้งอยู่ใกล้กับหาดราไวย์เป็นแหล่งรวบรวมเปลือกหอยหลายสีสันและลวดลายจากทั่วทุกมุมโลก มีฟอสซิลเปลือกหอยอายุหลายร้อยปี เปลือกหอยยักษ์ น้ำหนักกว่า 250 กก. ไข่มุกสีทองหนัก 140 กะรัต เปิดบริการให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น. รายละเอียดติดต่อได้ที่ โทร. 076-613678, 076-613666

เกาะสิเหร่ มีเนื้อที่ประมาณ 20 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะภูเก็ต มีคลองท่าจีนคั่นระหว่างเกาะทั้งสอง มีสะพานเชื่อมติดต่อกันโดยสะดวกเป็นที่ประดิษฐานพระพุธไสยาสน์องค์ใหญ่บนยอดเขาที่วัดเกาะสิเหร่ นอกจากนี้ยังมีหมู่บ้านชาวเลที่ใหญ่ที่สุดในภูเก็ตที่ตรงบริเวณแหลมตุ๊กแก สำหรับชายหาดที่นี่ไม่เหมาะกับการเล่นน้ำ เพราะเป็นพื้นที่ทรายปนโคลน ประชากรส่วนใหญ่บริเวณนี้ประกอบอาชีพทำการประมงพื้นบ้าน

ตลาดนัดนาคา(เจ้าฟ้าวาไรตี้) ตลาดนัดช่วงบ่างทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ประมาณ 15.00 น. เป็นต้นไปเป็นแหล่งจำหน่ายเสื้อผ้าแฟชั่น รองเท้า เครื่องประดับ ของตกแต่งบ้าน ไม้ดอกไม้ประดับ สินค้าอาหารสดและอาหารแห้งเป็นต้น ซึ่งเป็นที่นิยมของกลุ่มวัยรุ่นในภูเก็ตและกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไปจับจ่ายซื้อสินค้าราคาประหยัด

วัดไชยธาราราม(วัดฉลอง) ชาวบ้านนิยมเรียกชื่อวัดนี้ว่า วัดฉลอง อยู่ห่างจากตัวเมือง 8 กิโลเมตร จากนามกีฬาสุระกุลเลี้ยวซ้ายไปห้าแยกฉลอง วัดฉลองจะอยู่ทางซ้ายก่อนถึงห้าแยกฉลอง 4 กิโลเมตร เป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อแช่ม ซึ่งเป็นผู้ช่วยเหลือชาวบ้านในการต่อสู้กับพวกอั้งยี่ (พวกจีนที่ก่อการกบฏ) โดยหลวงพ่อท่านได้มอบผ้าประเจียดสีขาวให้ชาวบ้านทุกคนโพกหัวเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการต่อสู้จนชนะพวงอั้งยี่ได้ (ตอนนั้นพวกอั้งยี่เรียกชาวบ้านว่า “พวกหัวขาว”) เมื่อปี พ.ศ. 2419 ในสมัยรัชกาลที่ 5 จึงได้โปรดเกล้าฯ พระราชทานสมณศักดิ์แก่หลวงพ่อแช่มวันฉลอง เป็น “พระครูวิสิทธิองศาจารย์ญาณมุนี” นอกจากนี้ยังมีรูปหล่อของหลวงพ่อช่วง หลวงพ่อเกลื้อมเจ้าอาวาสวัดในสมัยต่อมา ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของชาวภูเก็ตโดยทั่วไป อีกทั้งวัดฉลองยังเป็นที่ตั้งของ “พระธาตุจอมไทย บารมีประกาศ” บรรจุพระสารีริกธาตุซึ่งอัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา ในทุกปีวัดฉลองจะจัดงานประจำปีขึ้นช่วงวันตรุษจีนเป็นเวลา 7 วัน 7 คืน

วัดสีลสุภาราม(วัดใหม่หลวงปู่สุภา) อยู่ห่างจากตัวเมือง 7 กิโลเมตร จากสนามกีฬาสุระกุล เลี้ยวซ้ายไปห้าแยกฉลอง วัดสีลสุภารามจะอยู่ทางขวาก่อนถึงตัวห้าแยกฉลองประมาณ 4 กิโลเมตร วัดแห่งนี้มีเจ้าอาวาส คือหลวงปู่ภา ซึ่งมีอายุมากกว่า 100 ปี ครองเพศบรรพชิตเรื่อยมาตราบจนปัจจุบัน เป็นเวลามากกว่า 80 พรรษา เป็นพระที่ปฏิบัติ ขณะเดียวกันก็สร้างวัดเพื่อเป็นถาวรวัตถุในพระพุทธศาสนา ตามท้องถิ่นนั้นๆ ทั้งที่เป็นวัดและสำนักสงฆ์ตามป่าตามเขานับรวมกันได้ 36 แห่ง ที่สำคัญคือ ประวัติการสร้างพระเสด็จกลับซึ่งเป็นวัตถุมงคลชั้นสูงที่สร้างถูกต้องตามหลักพุทธศาสตร์ทุกประการ ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของปวงชนชาวภูเก็ตโดยทั่วไป โทร. 076-280774

วัดพระใหญ่”พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี” คนภูเก็ตนิยมเรียกว่า วัดพระใหญ่ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปใหญ่ที่สุดในจังหวัดภูเก็ตตั้งตระหง่านบนยอกเขานาคเกิด วัดแห่งนี้เกิดขึ้นโดยวัดกิตติสังฆาราม(วัดกะตะ) ได้ดำเนินการตามโครงการส่งเสริมให้วัดช่วยงานป่าไม้ เนื้อที่ 42 ไร่ จึงเป็นสถานที่เหมาะสมแก่การประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว่าง 25.45 เมตร สูง 45 เมตร หันไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ 19 องศา บนยอกเขานาคเกิด ต.กะตะ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ไว้เป็นที่เคารพบูชาของชาวภูเก็ตและผู้มีจิตศรัทธา

อ่าวฉลอง อยู่ห่างจากตัวเมือง 11 กิโลเมตร ไปตามถนนเจ้าฟ้าถึงห้าแยกฉลองแล้วเลี้ยวซ้ายไปประมาณ 1 กิโลเมตร ชายหาดเป็นรูปโค้งยาวเหยียดทะเลบริเวณนี้ไม่เหมาะกับการเล่นน้ำ เพราะชายหาดเป็นทรายหนโคลน แต่เหมาะสำหรับการจอดเรือ ไม่ว่าจะเป็นเรือให้เช่าไปเกาะต่างๆ หรือเรือยอช์ทส่วนตัว

แหลมกา อยู่ห่างจากตัวเมือง 16 กิโลเมตร จากห้าแยกฉลองตรงไปถนนวิเศษก่อนถึงหาดราไวย์ทางซ้ายจะมีทางแยกเข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นหาดที่เงียบสงบ หาดทรายสะอาด มีโขดหินเรียงราย ทะเลเหมาะสมสำหรับการเล่นน้ำ

หาดราไวย์ อยู่ห่างจากตัวเมือง 17 กิโลเมตร ตามเส้นทางจากห้าแยกฉลองตรงไปตามถนนวิเศษก็จะถึงหาดราไวย์ มีหมู่บ้านชาวเลอยู่ตรงด้านซ้ายของหาด บริเวณริมหาดมีเรือประมง และเรือให้นักท่องเที่ยวเช่าไปตามเกาะต่างๆ อาทิ เกาะเฮ เกาะบอน เกาะรายา เกาะแก้วพิสดาร เป็นหาดที่สามารถเล่นน้ำได้เพราะชายฝั่งน้ำตื้น คลื่นลมไม่แรง มีที่พักและร้านอาหารทะเลบริการริมหาด

แหลมพรหมเทพ อยู่ห่างจากหาดราไวย์ เลี้ยวขวาไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นแหลมที่มีหน้าผาสูงอย่างทางใต้สุดของเกาะภูเก็ต เดิมชาวบ้านเรียกแหลมนี้ว่า “แหลมเจ้า” จากริมหน้าผามีแนวต้นตาลลาดลงสู่แหลมที่เป็นโขดหินมองเห็นน้ำทะเลสีเขียวมรกต จะเห็นกระแสน้ำวนและลึกไกลออกไปจะเห็นเกาะแก้วพิสดารอยู่ด้านหน้าแหลมและทางขวาจะมีถนนตัดไปหาดในหาน แหลมพรหมเทพนับเป็นสถานที่ชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมากแห่งหนึ่งของประเทศไทย

หาดในหาน จากแหลมพรหมเทพเลี้ยวซ้ายไปตามถนนสายรอบเกาะก็จะถึงหาดในหาน ซึ่งห่างจากตัวเมือง 18 กิโลเมตร ชายหาดมีความยาวไม่มากนัก มีหาดทรายสีขาวสะอาดและค่อนข้างสงบเงียบ ในช่วงฤดูมรสุมระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม คลื่นลมแรงไม่เหมาะสำหรับการเล่นน้ำ

อ่าวเสน เป็นอ่างเล็กๆ ติดกับหาดในหานไปทางขวาผ่านโรงแรมภูเก็ตยอช์ทคลับ เป็นชายหาดเล็กๆ ที่สงบ มีโขดหินน้อยใหญ่ หาดทรายขาวสะอาดเหมาะสำหรับดำน้ำดูปะการัง

จุดชมวิว 3 อ่าว จากหาดในหานไปหาดกะตะน้อย ตามเส้นทางถนนรอบเกาะ จุดชมวิวจะอยู่ระหว่าง 2 หาดนี้ จากจุดนี้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเวิ้งอ่าวถึง 3 อ่าวคือ หาดกะตะน้อย หาดกะตะ และหาดกะรน ซึ่งเป็นทัศนียภาพที่สวยงามมาก

หาดกะตะ อยู่ห่างจากตัวเมือง 17 กิโลเมตร ไปตามเส้นทางถนนเจ้าฟ้าถึงห้าแยกอ่าวฉลองเลี้ยวขวาเข้าถนนปฎัก หาดกะตะแบ่งออกเป็น 2 หาด คือ หาดกะตะใหญ่ และหาดกะตะน้อย เป็นหาดที่เหมาะสำหรับการเล่นน้ำและใช้เป็นที่ฝึกเรียนดำน้ำ เนื่องจากมีแนวปะการังติดต่อกันไปจนถึงเกาะปูซึ่งอยู่ด้านหน้าหาดกะตะ ปัจจุบันหาดกะตะเป็นหาดหนึ่งที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ สถานที่พัก บริษัทนำเที่ยว ร้านค้า แหล่งบันเทิงต่างๆ ไว้สำหรับบริการนักท่องเที่ยว

หาดกะรน อยู่ถัดจากหาดกะตะไปทางด้านเหนือไปตามถนน ซึ่งแยกจากหาดกะตะ 3 กิโลเมตร เห็นหาดทรายขาวละเอียดทอดตัวในแนวยาวไปจนสุดหาด และเป็นหาดที่มีสถานที่พัก บริษัทนำเที่ยว ร้านค้าจำนวนมาก สำหรับรองรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเช่นเดียวกับหาดกะตะ

ไดโนปาร์คมินิกอล์ฟ ตั้งอยู่ข้างโรงแรมภูเก็ตมารีน่า รีสอร์ท หาดกะรน เป็นมินิกอล์ฟขนาด 18 หลุม ในบรรยายกาศโลกล้านปี ผจญภัยกับไดโนเสาร์และภูเขาไฟระเบิดด้วยเทคโนโลยีแสงสีเสียงครบครัน เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00-24.00 น. โทร. 076-330625

เกาะแก้วพิสดาร เป็นเกาะเล็กๆ อยู่ทางตอนใต้ของแหลมพรหมเทพและห่างจากฝั่งหาดราไวย์เพียง 3 กิโลเมตร นั่งเรือจากฝั่งราไวย์ใช้เวลาประมาณ 15 นาที บนเกาะมีวัดและเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธบาทจำลอง

เกาะโหลน เป็นเกาะใหญ่ทางตอนใต้ของอ่าวฉลอง เดินทางด้วยเรือโดยสารจากอ่าวฉลองใช้เวลาเพียง 20 นาที บนเกาะมีหมู่บ้านชาวประมงและโรงเรียน เป็นเกาะหนึ่งที่มีบรรยากาศเงียบสงบและมีสถานที่พักบริการหรือจะไปเช้ากลับเย็นก็ได้

เกาะบอน เป็นเกาะเล็กๆ ทางตอนใต้ของภูเก็ต มีหาดทรายขาวสามารถเล่นน้ำได้ เดินทางไปเที่ยวชมได้แบบไปเช้าเย็นกลับ โดยเช่าเรือจากหาดราไวย์หรือแหลมกา ใช้เวลาเพียง 10 นาที ไม่มีที่พักบริการ

เกาะเฮ อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของแหลมพันวา เป็นเกาะหนึ่งในเขตรักษาพืชพันธุ์ของกรมประมงสามารถเช่าเรือหางยาวหรือเรือเร็วได้ทั้งจากหาดราไวย์และอ่าวฉลอง บนเกาะมีหาด 2 หาด อยู่ทางด้านเหนือและด้านตะวันออก เป็นหาดทรายขาวละเอียดมีแนวปะการังจากหาดไปจนถึงระยะ 100 เมตร ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของปะการังบริเวณนี้ เกาะเฮจึงมีชื่อภาษาอังกฤษว่า“Coral Island” และเป็นเกาะที่เหมาะสำหรับการดำน้ำ บนเกาะมีสถานที่พัก ร้านอาหาร และบริการกีฬาทางน้ำแก่นักท่องเที่ยว สนใจติดต่อ คอรัลไอแลนด์รีสอร์ท โทร. 076-281060-2 หรือติดต่อบริษัทนำเที่ยวในลักษณะของ Package Tour และสามารถเช่าเรือ เหมาเรือจากอ่าวฉลองและหาดราไวย์ได้

หมู่เกาะราชาหรือหมู่เกาะรายา ประกอบด้วย 2 เกาะ เรียงกันในแนวตะวันตกเฉียงใต้ ตะวันออกเฉียงเหนือ อยู่ทางตอนใต้ของเกาะภูเก็ต คือ

เกาะราชาใหญ่ มีหาดทางด้านตะวันตก อยู่ระหว่างหุบเขาเป็นรูปคล้ายเกือกม้า เรียกบริเวณนั้นว่า ”อ่าวน้ำตาตก” หรือ “อ่าวบังกะโล” มีหาดทรายขาวละเอียดและน้ำทะเลที่ใสสะอาด มีลักษณะคล้ายทะเลแทบหมู่เกาะสิมิลัน บนยอดเขาทางตอนใต้ของอ่าวมีจุดชมวิวซึ่งสามารถมองเห็นทัศนียภาพของเกาะได้ทั้งหมดนอกจากนี้ยังมี “อ่าวสยาม” “อ่าวทือ” และทางตะวันออกของเกาะคือ “อ่าวขอนแค” เหมาะสำหรับการดำน้ำดูปะการังที่สมบูรณ์จุดหนึ่ง

เกาะราชาน้อย อยู่ห่างจากเกาะราชาใหญ่ 10 กิโลเมตร เป็นเกาะที่เกิดจากการทับถมของหินปะการังจึงมีโขดหินมากกว่าหาดทรายทางด้านตะวันตก เป็นอ่าวเล็กๆ สำหรับจอดเรือ น้ำทะเลใสเป็นสีเขียวมรกตไม่เหมาะกับการเล่นน้ำ แต่นับเป็นแหล่งตกปลาที่น่าสนใจจุดหนึ่ง การเที่ยวชม สามารถเดินทางได้โดยติดต่อเช่าเรือหางยาว ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง หรือเรือเร็วใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากอ่าวฉลองหรือหาดราไวย์ หรือติดต่อซื้อทัวร์จากบริษัทนำเที่ยว หรือบริษัทดำน้ำ สำหรับผู้ที่ต้องการค้างคืน มีสถานที่พักบริการบนเกาะราชาใหญ่

เกาะไม้ท่อน เป็นเกาะเล็กๆ ที่เงียบสงบ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะภูเก็ต มีหาดทรายขาว น้ำทะเลใส เหมาะแก่การว่ายน้ำ ตกปลา บนเกาะมีรีสอร์ทให้พักค้างคืนหรือจะไปเช้ากลับเย็นก็ได้ มีเรือบริการจากท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต สนใจติดต่อฮันนีมูนไอส์แลนด์รีสอร์ท โทร. 076-214965-7

เกาะตะเภาใหญ่ เป็นเกาะทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะภูเก็ต ใช้เวลาเดินทางโดยทางเรือจากท่าเรืออ่าวมะขามเพียง 10 นาที บนเกาะมีนกเงือกอาศัยอยู่

เกาะรังใหญ่ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะภูเก็ต เป็นเกาะเล็กๆ เงียบสงบ มีบริษัทนำเที่ยวจัดนำเที่ยวชมฟาร์มมุก พายเรือแคนู ปั่นจักรยานรอบเกาะ เล่นมินิกอล์ฟ มีร้านอาหารทะเลบริการผู้มาเที่ยวชม สนใจติดต่อบริษัทริชชี่ไอแลนด์ทัวร์ โทร. 076-238781 มีเรือบริการจากภูเก็ตโบ๊ทลากูน หรือเช่าเหมาลำได้ที่ท่าเรือแหลมหิน

เกาะมะพร้าว ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะภูเก็ต เดินทางได้ด้วยเรือโดยสารจากท่าเรือแหลมหินใช้เวลาประมาณ 15 นาที บนเกาะมีหมู่บ้านซึ่งชาวบ้านประกอบอาชีพทำการประมงพื้นบ้าน และการเกษตรบนเกาะมีรีสอร์ทให้พักค้างคืน




 

Create Date : 20 เมษายน 2553    
Last Update : 20 เมษายน 2553 13:37:23 น.
Counter : 251 Pageviews.  

1  2  

Nedine
Location :
ภูเก็ต Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




คนกันเอง ราคากันเอง
Friends' blogs
[Add Nedine's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.