Group Blog
 
All blogs
 

TFEX มันเสี่ยง แล้วเหตุใฉน ? ผมจึงกล้าเล่น แล้วเพื่อน ๆ คิดอย่างไร


TFEX มันเสี่ยง แล้วเหตุใฉน ? ผมจึงกล้าเล่น แล้วเพื่อน ๆ คิดอย่างไร

เข้ามาอ่านเสียเป็นส่วนใหญ่ ขอออกความเห็นบ้างครับ (เน้นครับ ว่าเป็นความเห็นส่วนตัว)

ก่อนอื่นขอออกตัวว่าผมเป็นคนที่ปอดแหก เอามาก ๆ warrants ไม่เคยเล่น หุ้นปั่นเล่นน้อยครั้งมาก และเล่นเมื่อมีเวลาเฝ้าหน้าจอ อีกทั้งเงินที่เล่นน้อยมาก ๆ ระดับ หมื่น
แต่ที่ผมเล่น TFEX เพราะ

- สนามนี้ ใครหาญกล้าจะเป็นเจ้ามือ เหมือนหุ้นปั่น ต้องปั่นหุ้นใน Set50 นั่นคือ ต้องใช้เงินมหาศาล พวกที่ปั่นได้ต้องเป็นระดับใหญ่ กองทุน ฝรั่ง และต้องลากไปมาให้ได้ เพื่อให้ Set50 เกิด Trend แต่ถ้าหากว่า ราคาหุ้นใน Set50 Over หรือ Lower เกินจริง จะมีกองทัพ VI คอยเบรคต้านไว้ นั่นคือกล่าวได้ว่า (มุมมองส่วนตัวของผม) มัน Fair กว่าหุ้นปั่น และหุ้นปั่นไม่ใช่สนามของผม
- ผมไม่ได้เล่น day trade แต่เป็นการเล่นรอบสั้น เมื่อเกิดการลากเปลี่ยน Trend ผมสามาถ Alert ได้ และจะเป็นพวก "ขี่ Trend" ได้ทั้งขึ้นและลง นั่นคือกล่าวได้ว่า ผมมีโอกาสได้แจกเงิน ทั้งขาขึ้นและขาลง
- ผมรู้ระดับตัวเอง ว่าเมื่อไรผิดท่า ก้อต้องตัดใจ (Cut Loss)
- ผมมีเงินเย็น และพร้อมที่จะบริจาคให้คนที่เก่ง ๆ
- ผมถือว่ามันเป็นการเล่นเกมส์ เงินของผมถือเป็นกองทหาร มีผมเป็นผู้บัญชาการ เชลยที่จับมาได้จะกลายเป็นทหารที่เกรียงไกร ดังนั้นผมรู้สึกเฉย ๆ เมื่อมัน Swing ระหว่างวัน
- ผมไม่ชอบ แทง ไฮโล เพราะมันเป็นการพนันโอกาสได้เสีย 50 : 50 แต่ผมกล้าที่แทง เพราะผมจะลดความเสี่ยงโดยการฝึกฟังเสียง ไฮโล ว่าแต่ละหน้ามีเสียงดัง กิ๊ก กั๊ก ยังงัย

ถ้าหาก เพื่อน ๆ ยังไม่หาวิธีลดความเสี่ยง อย่าเข้ามาเด็ดขาดครับ


จากคุณ : Lonely Nine Swords - [ 20 พ.ย. 49 23:53:01 ]
ความคิดเห็นที่ 3

1 จริงๆแล้วปั่นเซ็ท50ไม่ยากนะครับ แค่เคาะซื้อpttกับpttepอย่างละร้อยหุ้นตลาดก็บวกจุดกว่าๆแล้ว
และผมว่าVIส่วนใหญ่ไม่ค่อยมองหุ้นset50หรอกครับ

ที่เหลือเห็นดีด้วยครับ

จากคุณ : ขอบฟ้าบูรพา - [ 21 พ.ย. 49 04:10:39 ]

ความคิดเห็นที่ 9

ขอถามพี่ Lonely Nine Swords ...นะคับ....ขอความเห็นพี่....ให้มาประดับความรู้ให้ผมหน่อย

ตอบที่ละข้อ ห้ามข้ามข้อนะคับ


1...อะไร คือ ความเสี่ยง

2...อะไร ที่ ทำให้ เกิด ความเสี่ยง

3...เรารู้มั๊ย ว่าตอนนี้ เราเสี่ยง

4...อะไร ที่ช่วยเราลด ความเสี่ยง

....และ....

5...เราคุ้มค่าแค่ไหนที่จะเสี่ยง


....โชดดี ปัญญาแจ่มใส และรวยเร็วๆคับ....

จากคุณ : no_lagging - [ 21 พ.ย. 49 13:16:26 ]
ความคิดเห็นที่ 10

ความเห็นส่วนตัว

1...อะไร คือ ความเสี่ยง
การที่เราไม่รู้สิ่งที่เรา กำลังเล่นอยู่กับมัน คือความเสี่ยง


2...อะไร ที่ ทำให้ เกิด ความเสี่ยง
ในเรื่องหุ้น ความโลภ กับ ความกลัว เป็นความเสี่ยงเนื่องจากจะทำให้เรา หน้ามืดตามัว ลืมสิ้น แม้เหตุผล ทางตรรกะ และการวิเคราะห์


3...เรารู้มั๊ย ว่าตอนนี้ เราเสี่ยง
ข้อ สองจะตอบคลุมมาแล้ว เราไม่รู้ตัวหรอกครับ


4...อะไร ที่ช่วยเราลด ความเสี่ยง
ต้องหาตัวช่วยลดความเสี่ยง นั่นคือสิ่งที่คอยตักเตือนเราว่า ควรหรือไม่ควร ของผมคือ เคล็ดเก้ากระบี่เดียวดาย และแปลงออกมาให้เป็นตัวโปรแกรม ที่ถูกจริต และนิสัยของตัวเอง พูดง่าย ๆ คือ Self model trading เพราะมันจะคอย ยั้ง ๆ ตัวเราเอาไว้ ถึงแม้จะมีตัวช่วย แต่บางครั้ง อารมณ์ มักอยู่เหนือ เหตุผล สุดท้ายคือขายหมูบ้าง


....และ....

5...เราคุ้มค่าแค่ไหนที่จะเสี่ยง
คุ้มค่าแน่นอน คืนหนึ่งผมนอนประมาณ 4-5 ชั่วโมงเพื่อทำการฝึกวิทยายุทธ และปรับแต่ง Trading model ของผม ที่ผมว่าคุ้ม เพราะ ถึงผมไม่เล่นหุ้นผมก้ออยู่ได้โดยทำงานไปเรื่อย ๆ แต่ผมสามารถสร้างหลักฐานให้ครอบครัวได้ตั้งแต่อายุ ยังน้อยโดยไม่พึ่งเงินทางบ้านมันเป็นความภูมิใจครับ ผมคงไม่สามารถพูดโอ้อวดอะไรมากไม่ได้ แต่ขอบอกตามความเป็นจริงว่า คนที่เล่นหุ้นได้ เล่นได้แล้วได้อีก เขาทำยังงัย โดยไม่มี Insider มีจริงครับ

แถมให้นิดนึง ณ ปัจจุบันนี้ ถ้าใครพบผมแล้วจะตกใจ เพราะจะเห็นว่าสีผมของผม เป็น 40% เป็นสีขาวไปแล้ว แต่ผมไม่ยี่หระกับรูปลักษณ์ภายนอก สู้เก็บเป็นความภูมิใจเล็ก ๆ ไว้ดีกว่า ว่า ครั้งหนึ่งเราเคยเป็น เช่น แมงเม่ารายย่อย พอตอนนี้มีความรู้บ้าง จะคอยชี้แนะช่วยพวกเขาได้บ้าง

แต่ที่พบเห็นผู้คนส่วนมาก ไม่อยากที่จะเสียเวลาเรียนรู้ เพราะมันยุ่งยาก หรืออย่างไร ยังคงเป็นคำถามคาใจ ???

เล่งฮู้ชง

จากคุณ : Lonely Nine Swords - [ 21 พ.ย. 49 15:22:36 ]

ความคิดเห็นที่ 13

เซียนเทคนิคมาตอบกันเยอะ
ผมไม่ใช้เทคนิคเต็มตัว
แต่อยากขอตอบบ้าง

1 อะไรคือความเสี่ยง

ความไม่รู้คือความเสี่ยง

2 อะไรที่ทำให้เกิดความเสี่ยง

ความที่เข้าใจว่าเรารู้คือความเสี่ยง

3 เรารู้มั๊ยว่าตอนนี้เราเสี่ยง

เราไม่เคยรู้อะไรจริงๆซักที ดังนั้น เราไม่รู้ว่าจริงๆแล้วตอนนี้ เราเสี่ยงหรือเปล่า

4 อะไรที่ช่วยเราลดความเสี่ยง

ความเข้าใจว่า เราไม่เคยรู้อะไรจริงเกี่ยวกับอนาคต

5 เราคุ้มค่าแค่ไหนที่จะเสี่ยง

ตอนไหนล่ะครับ?
ที่บางจุด ที่บางเวลาจะคุ้มค่า
แต่ที่บางจุด บางเวลากลับไม่คุ้มค่า อิอิ


จากคุณ : มั่วๆเดาๆ เดี๋ยวก็ถูกเอง (DARINGYOUSENDMEHOME) - [ 21 พ.ย. 49 16:22:02 ]

ความคิดเห็นที่ 14

มาตอบคำถามท่าน DARINGYOUSENDMEHOME ผิดถูกไม่ว่ากันนะครับ ดูหลักการ เป็นพอ แล้วท่านพิจารณาอีกที

ข้อจำกัดของ โปรแกรมที่ผมเขียนมานี้ ไม่สามารถเข้าซื้อได้ที่จุดสูงสุด หรือต่ำสุด จะต้องเกิดจุดวกกลับเสียก่อน

ตอนนี้ ยังไม่เกิดสัญญาณให้ Long ตาม แม้ว่า TFEX จะเกิดจุดวกกลับภายในวัน แต่เงื่อนไขที่ผมป้อนให้มันจะต้อง เกิดวกกลับขึ้นใน Set50 ด้วย

เมื่อมันไม่เกิดสัญญาณ สอดคล้องกัน จะมีผลทำให้เกิด Basis ห่างกันถึง -6.57 ถือว่า มันเสี่ยง ครับ ถ้าเป็นผม ผมจะรอดูให้สถานะการณ์ ของ Set50 ในวันพรุ่งนี้ครับ และสถานะกาณ์ข่าวรอบด้านประกอบ หากมีคนหมั่นใส้ลาก set50 ขึ้นซะเลย ผมก้อปิดสถานะ และตาม long ลื่นไหลไปตามกระแสคลื่น (ได้น้อยหน่อย ไม่เป็นไร หากต้องการรู้ว่าต้นทุนผม อยู่ที่เท่าไร ก้อไปค้นหาในเว็บ เล็ก ๆ เอาเอง)

อีกจุดหนึ่ง ค่า Low ยังคงต่ำกว่าเมื่อวาน และค่า High ยังคงไม่ทะลุ แนวเดิม การเคลื่อนตัวของค่า Last ยังคงกึ๊กกั๊ก อยู่ในกรอบ

จากกราฟ (ข้างล่าง) จำนวน Vol Vs Price มีการกระโดด ข้ามไปหลายราคา ช่วง 509.5 - 510.5

หลาย ๆ อย่างมันไม่สอดคล้องกัน เหมือนกับว่าไม่เต็มใจกลับตัวขึ้น Model นี้ เลยแนะนำให้อยู่เฉย เพราะมันเลยจุด Short มาเนิ่นนานแล้ว ไม่ต้องไปใจร้อนครับ ตอนนี้ เห็นมั๊ยครับว่า อารมณ์โลภเข้ายึดครองใจของท่าน (เห็นว่ามันลงต่ำมากแล้ว ละสิ (ลึกยังมีลึกกว่าให้เห็นครับ)

ว่าไปก้อเรื่องเทคนิคล้วน ๆ เรื่องพื้นฐานผมดึงมาประมวลผล นิดเดียวเอง คือการดูว่าหุ้นกลุ่มไหนพาขึ้น พาลง และจะดูข่าวประกอบครับ

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน จงเชื่อตัวเองเป็นดีที่สุด

เล่งฮู้ชง


[คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง]


จากคุณ : Lonely Nine Swords - [ 21 พ.ย. 49 20:57:00 ]

ความคิดเห็นที่ 17

"1 จริงๆแล้วปั่นเซ็ท50ไม่ยากนะครับ แค่เคาะซื้อpttกับpttepอย่างละร้อยหุ้นตลาดก็บวกจุดกว่าๆแล้ว
และผมว่าVIส่วนใหญ่ไม่ค่อยมองหุ้นset50หรอกครับ"

ขอ Confirm ครับ...

ขอยืมคำของ David S. Nassar มาใช้ครับ

Reads the level, not the ticks.


ลงทุนใน Future แนะนำว่าให้เล่นแบบ Trend Trading อย่าเล่น Day Trade

เพราะต้นทุนของผมไปกลับแค่ 100 แต่ของรายย่อย ไปกลับ 1000 บาท

จากคุณ : หมากเขียว - [ 22 พ.ย. 49 13:53:49 ]

ความคิดเห็นที่ 20

Model คุณ OK แล้วครับ ถ้าปรับตัวเลขบางอย่างอีกนิดหน่อย คุณจะออกได้เร็วกว่านี้อีก

สไตล์ Trend Trading ของคุณผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง ขอให้รวยๆ ครับ


เพิ่มเติมอีกนิด

Basis = Future price - Underlying price ครับ

แต่ที่คุณคำนวณ เป็น Underlying price - Future price

Text Book Derivatives แทบทุกเล่มใช้แบบนี้ แต่มีโบรกหนึ่ง เขียนคอลัมภ์ลงใน นสพ. ดันลงตรงข้าม

Future ราคาสูงกว่า Underlying ถือว่าเป็น Contango ค่า Basis ต้องเป็น "บวก" ถึงจะถูกต้องตามหลักทฤษฎี และ คอนเซปท์
แก้ไขเมื่อ 22 พ.ย. 49 17:19:05

จากคุณ : หมากเขียว - [ 22 พ.ย. 49 17:10:56 ]




 

Create Date : 13 กันยายน 2550    
Last Update : 13 กันยายน 2550 12:58:50 น.
Counter : 1266 Pageviews.  

ดูกราฟการดึ่งลงของ tfex set50 ย้ำหรือให้แง่คิดอะไรบ้าง

เมื่อวานดิ่งลงแรง ย้ำหรือให้แง่คิดอะไรบ้าง ส่วนด้านกลยุทธของผม เมื่อคลื่นลมแรง จะหลบ รอดูทิศทาง จนกว่าจะเห็นภาพใหม่


จากคุณ : keeta2 - [ 20 ธ.ค. 49 09:50:09 ]

เรียนตอบด้วยความเคารพครับ

ว่ากราฟ ก็เป็นแค่กราฟ
มันไม่เคยมีอยู่จริง(งั้นอะไรมีอยู่จริง? อาจไม่เคยมีอะไรอยู่จริงเลยก็ได้ ก็แค่จุดสังเกต โดยมีอคติเท่านั้น ตูซื้อหุ้นควรขึ้น ตูขาย หุ้นควรลง บางทีโยนหัวก้อย หลายคนอาจถูกมากกว่า)

ราคาเคลื่อนไหวไปตามจิตวิทยามวลชน
กับข่าวที่มากระทบในแต่ละวัน
ถ้าเป็นข่าวที่รุนแรงชนิดปัจจุบันทันด่วน
กราฟไม่ช่วยอะไร

หรือถ้าจะช่วย
ก็อาจเพียงเพราะเรามีอคติส่วนตัว(ขึ้น เพราะเราดูกราฟถูก ลงเพราะเราดูกราฟผิด หรือตูดูกราฟถูกแต่สภาวะมันไม่เอื้อ เพราะธนาคารแห่งประเทศไทยมันติ๊งต๊อง แป่ว ก็ไหนบอก ข่าวสารทั้งหมดถูกสะท้อน อยู่ในการเคลื่อนไหวของกราฟอยู่แล้วไง )

แต่ถ้าส่วนใหญ่ใช้แล้วถูกก็เป็นดวงเฉพาะบุคคล ไม่ว่ากันครับ

ส่วนผม ก็เก็บกินเศษเนื้อไปแต่ละวัน ราคามักเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่รายย่อยส่วนใหญ่ ขาดทุนเสมอ เวบบอร์ดเชียร์ซื้อเมื่อไรขาย ยกเว้น บางความเห็นที่กำลังดวงรุ่งสุดๆ ๒ เดือนหลังนี้ ผมแทงตามคุณทวนลมฯเป็นหลัก ก็ยังเป็นบวกน้อยๆอยู่ครับ

จากคุณ : fooled by randomness (DARINGYOUSENDMEHOME) - [ 20 ธ.ค. 49 10:56:06 ]

บอกว่า "เราแพ้อินไซด์กับดวง"

กราฟไม่ไช่ไม่ดี ก็ดีกว่าคนเล่นมั่วๆ หรือ ตามแห่ล่ะวะ ไม่งั้นจะรู้เหรอ จุดไหนตามมากน้อย

เมื่อวาน พวกใจถึง ดวงดีที่มีการพลิกลิ้น
ไม่มี เมิง หมดตูดแน่ ...ไม่มีโอกาสมาเยาะเย้ยตูที่ออฟฟิตหรอก
.............
ช่วงนี้ ว่าจะลองเสี่ยง TFEX ดู โอ้โห มันเล่นตั้งกันไม่มีทศนิยมเลย ผิดแล้วจบเลย แถม แรงไม่มีด้วย

ช่างมัน ไปรอเอาแบบสงบๆดีกว่า ...เรามันคนไม่มีดวง เล่นแบบ มั่วๆไม่ได้

จากคุณ : KENG76 - [ 20 ธ.ค. 49 11:10:02 ]

ความคิดเห็นที่ 4

ผมไม่เคยพูดว่า กราฟไม่ดี ครับ คุณKENG76

ผมก็เป็นคนหนึ่งที่เริ่มจากสายกราฟ
และกำไร ได้มากกว่าที่ผมคิดด้วยซ้ำ(จากหกหลัก เป็น เจ็ดหลักปลายๆ คนเก่าๆที่เคยคุยกับผมมาบ้างจะรู้)

เพียงแต่เมื่อมาถึงจุดหนึ่งแล้ว
มันแค่เกิดการตั้งคำถามว่า
เราถูกเพราะกราฟ
หรือเราถูกเพราะดวงเรากำลังดีกันแน่?
ก็เท่านั้นครับ

สุดท้าย
ผมไม่เคยบอกว่ากราฟไม่ดี(มันเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของผมมาพอควร)
ก็แค่บอกว่า อย่าเชื่ออะไรให้มันมากนักครับ(แค่มีหลักการบ้างก็โอเคอยู่แล้ว)

ก็แค่หนึ่งความเห็นน้อยๆ
ช่วงหลังไปเที่ยวเหนือมาหลายวัน
รู้สึกว่าความคิดเปลี่ยนไปอีกแล้ว
จนรู้สึกว่า เบื่อเข้าเวบบอร์ดอย่างไรชอบกล อิอิ
ไปดีกั่ว

จากคุณ : สิ่งที่เห็นอาจไม่เป็นดั่งคิด (DARINGYOUSENDMEHOME) - [ 20 ธ.ค. 49 11:24:37 ]

ป.ล. เมื่อก่อน ตอนเล่นกราฟเพียวๆ
ผมใช้ชื่อ "แมงเม่ามือใหม่" อ่ะครับ
ปีสองปี คนที่เคยโพสต์
จะเห็นว่าผมคือสาวกกราฟอย่างแท้จริง

แต่ตอนนี้ ไม่ใช่แมงเม่าแล้ว
กราฟก็เลยใช้บ้าง ใม่ใช้บ้างแต่ไม่ใช้นำแล้ว
กำไร ก็ยังอยู่ในจุดที่ยอมรับได้ อิอิ

ปัจจุบัน มองจอน้อยมาก
ระยะยาว เงินเพิ่มขึ้นก็โอเคแล้ว

แล้วเจอกันใน TFEX ครับ

ขอให้โชคดี มีเงินใช้ครับ ทุกท่าน


จากคุณ : แมงเม่ามือใหม่ (DARINGYOUSENDMEHOME) - [ 20 ธ.ค. 49 11:34:56 ]

ความคิดเห็นที่ 6

แหม วันนี้เปิดเผยตัวซะแล้ว

พี่ Daring เอาแทงตามผม ระวังคำเตือนของโซรอนด้วย อิอิ แซวเล่น

หลังๆ ผมก็คล้อยตามพี่ Daring แล้ว
ไม่มีกราฟ ก็เป็นผู้ชนะในตลาดเก็งกำไรได้

แม้ไม่มีความรู้ทางกราฟ แค่รู้เศรษฐศาสตร์สมัยใหม่ (neoclassical economic) กอปรกับไม่คิดแบบฟิสิกส์แบบนิวตัน ก็เป็นผู้ชนะในตลาดเก็งกำไรได้

จริงๆ แล้ว แมวสีอะไรก็ได้ (เครื่องมือ) ขอให้จับหนูได้ก็พอ (กำไร/ผู้ชนะ)

เล่นแล้วเงินในพอร์ตเพิ่มอย่างต่อเนื่องก็พอ

เจอกันใน TFEX และ AFET

จากคุณ : ทวนลมเรโช - [ 20 ธ.ค. 49 11:44:28 ]

ความคิดเห็นที่ 7

ผมว่าจะมาปิดตัวมากกว่าครับ พี่ทวนฯ อิอิ

พี่ทวนลมฯ ถ้าเชื่อเรื่องดวง ในฐานะที่เป็น series of randomness
ว่ามันจะมีการ วนเวียนเป็น loop เหมือนสรรพสิ่งต่างๆในธรรมชาติ

คือมันจะขึ้นแล้วก็ลงไปตามสภาวะของมัน

เมื่อขึ้นมากๆ
แล้วก็ต้องลง เป็นธรรมดาอยู่เอง

บางคน อาจใช้การวนลูบนี้ นาน ๓-๕ เดือน บางคนอาจไม่กี่วัน
ซึ่ง แตกต่างไปตามสภาวะธรรมชาติของแต่ละคน

ถ้าเราเชื่อว่า series of randomness นี้มีอยู่จริง
เราต้องหาข้อมูลอย่างคร่าวว่า เมื่อได้ ได้ไปถึงไหน
แล้วลดลง ลงไปนานแค่ไหน

เราในฐานะผู้สังเกต ถ้าเราเชื่อใน chaos theory
ว่า แม้ในความสับสน ก็มี แพทเทริ์น ของการวนนั้นอยู่บ้าง
เราก็ต้องหาการวนนั้นให้ได้ว่า ซึ่งก็คือ
fractal (เข้าใจว่าภาษาไทยใช้คำว่าเสี้ยวส่วน)
ว่า loop สูงสุดของเสี้ยวส่วนเล็กๆ ของดวงของเรานั้น อยู่แถวไหน

จะทำให้การกำหนด position ในการทำกำไร เป็นไปอย่างมั่นคงครับ( เช่น เมื่อเดาคร่าวๆ จากสถิติ ในอดีต loop ของ series of randomness ของเรา กินระยะเวลา ๓ เดือน พอเข้าเดือนสุดท้าย ปลายๆ loop ที่กำไร ให้เริ่มลด position เป็นต้น)

เช่นนี้ การเก็บกำไร ก็จะสามารถทำไว้ได้ครับ(เพราะเมื่อเรารู้ fractal ของตนเอง เราจะไม่รู้สึกตื่นเต้นไป กับกำไรที่เพิ่มมากขึ้น หรือตกใจไปบ้างกับขาดทุนที่มีมา แต่จะจัด การเพิ่มและลด position ไปตาม loop ของ series of randomness ของตนเอง อย่างระมัดระวัง และมีสติครับ)

ขอให้มีสติ และรวยๆครับ


จากคุณ : กำไรขาดทุนก็แค่สิ่งสมมติ (DARINGYOUSENDMEHOME) - [ 20 ธ.ค. 49 12:32:55 ]





 

Create Date : 26 สิงหาคม 2550    
Last Update : 26 สิงหาคม 2550 18:19:29 น.
Counter : 329 Pageviews.  

ตารางหยินหยางของหุ้น


ความจริงผมเห็นตารางหยินหยางมาตั้งแต่เมื่อกว่า 20 ปีก่อนจากเซียนหุ้นชาวญี่ปุ่น ตอนนั้นไม่ค่อยสนใจ จนต่อมาเห็นคุณอยากเชือกเปิดแฟ้มหุ้นของเขาและมีใบแทรกตารางหยินหยาง จึงช่วยกันทำเป็นเรื่องเป็นราว(ช่วยกันทำสถิติจากตารางหยินหยาง) วิธีเหมือนกับแนวคิดของ rsi คือการวัดความแข็งแกร่งของหุ้นหรือของsetindex แต่ที่นิยมของrsi ตำราเขาบอกเอาค่า parameter เป้น 14 วัน ส่วนของหยินหยาง เขาต้องดูเนื้อหุ้น แล้วค่อยกำหนด กี่วัน
เช่น หุ้น ptt มีเนื้อหุ้น(ความนิยมเล่นใน 30 วัน ติดอันดับทั้ง30 วัน) อย่างงี้เนื้อหุ้นเป็นหยาง ก็ควรตั้งตารางของ ptt เป็น 30 วัน ดังนั้นหุ้นทั้งหมดจะมีค่านิยมเล่นต่างๆ กัน เนื้อหุ้นจึงแตกต่างกันจนมากเกินที่เราจะมาเสียเวลากับมัน ผมกับคุณอยากเชือกก็ทดลองเก็บข้อมูลอยู่ 2 ปี (ต่างคนต่างเก็บ) แล้วเอามาเปรียบกัน สัก 50 ตัวหุ้นที่ตกลงกัน ปรากฎกว่าสามารถหาค่าเหมาะสมของเนื้อหุ้นได้เป็นสมดุลย์ ณ ค่าเฉลี่ยดีที่สุด 10 วัน โดยเฉพาะ set index ตลอดกว่า 30ปีมา มีปิดแดงและเขียวต่อเนื่อง เกิน 10 วันน้อยครั้งมาก จึงร่วมกันตัดสินใจยึด 10 วันเป็นหลัก

ตารางหยินหยางคือเอาราคาปิดจดลงในแต่ละวันแบ่งเป็น ปิดบวก เป็นหยาง ปิดลบเป็นหยิน เมื่อครบ 10 วันก็นับจำนวนหยาง ถ้ามีหยาง น้อยกว่า 5 แสดงว่าตลาดหรือหุ้นนั้นเป็นขาลง ถ้าเท่ากับ 5 คือ sideway แต่มันยังให้น้ำหนักในการตัดสินใจดีหากเราเผื่อวันข้างหน้า 1 วันว่าหากปิดแดง หรือปิดเขียวแล้ววันถัดไปจะมีค่าเท่าใด นั่นตรงกับ advanc indecaterของหุ้นได้ด้วย ช่วยใช้ตัดสินใจว่า หากซื้อเก็บวันนี้แล้ว โอกาสเสี่ยงในวันถัดไปยังมีมาก ถ้าวันนี้ปิดแดง(ลบ)แค่ไหน สมควรถือหรือไม่ ค่าหยางจะบอกความสมดุลย์ให้ นั่นคือหากค่าหยางน้อยแสดงว่าหุ้นนั้นแรงแผ่วมาก ต้องไปเพ่งที่ปริมาณมากกว่าสนใจราคา หากปริมาณซื้อขายมาก หยางน้อย แสดงว่าซื้อเก็บไว้ใจเย็นได้ มันจะดีดกลับแร็วๆนี้แน่นอน

ตารางหยินหยางต้องทำกับหุ้นแต่ละตัว มันจึงเหนื่อยกว่า ผมกับคุณอยากเชือกจึงแบ่งกันทำคนละ ไม่กี่สิบตัว แล้วแบ่งกันรู้ ต่อมาคุณอยากเชือกก็ใช้คอมปิวเตอร์ช่วยเก็บให้ แล้วพอตเป็นกราฟ ดูง่าย แล้วเขาก็เอาไปต่างแดนเฉย ไม่แบ่งให้ผมดู ใจดำ ใจดำ 5566 5566
ประโยชน์ของตารางหยินหยางจะว่ามากก็มาก จะว่าน้อยก็น้อย ขึ้นกับความเชื่อมันของคนใช้ที่ผ่านการทดสอบความน่าเชื่อก่อน สำหรับผมก็เชื่อมั่น 75% (ใช้ได้ดี)
ตารางหยินหยาง ผมจะเขียนละเอียดในหนังสือเพื่อเผยแพร่ต่อไป

ขอให้โชคดี
nowya

จากคุณ : nowya - [ 30 ส.ค. 49 08:50:11 A:202.57.180.134 X: TicketID:112031 ]


เรื่องหยินหยาง ไม่ได้แปลว่า ฟันธง เหมือนเช่น กลางวันแปลว่า มีแสงสว่าง ดวงอาทิตย์อบู่ระหว่าง 6 นาฬิกาถึง18 นาฬิกา คนเราจะทำอะไรก็มักทำกลางวัน(เป้นธรรมชาติ) แต่ระหว่างกลางวัน บางชั่วโมงอาจมีเมม มากจนท้องฟ้องครึ้มๆ สลัว ๆ ก็คือขาดคุณสมบัติของค่าสว่าง แต่ที่ชัดๆ คือกลางคืนมักจะมืด(ไม่นับแสงจากไฟฟ้า) นอกจากอาศัยรอบของดวงจันทร์ จึงมีบางคืนสว่างในบางช่วงเวลา

ตารางหยินหยางก็เช่นกัน ปิดบวกต่อเนื่อง 7 วันแต่วันละ 1จุดบ้าง ครึ่งจุดบ้างแม้หยางจะบอกว่า 7 คือเป็นขาขึ้นแต่เป็นขาขึ้นของพลังหยางที่น้อย แต่ก็เป็นหยาง ซึ่งหากขึ้นมามีค่า 7 ก็แปลว่าเริ่มเสี่ยงในการลงอีกแล้ว เพียงอีก 3 วันข้างหน้านี้หากมันไม่แดงจัดๆ ให้ดูสักวัน มันก็อาจหมายว่าหมดรอบขึ้นเป็นแดงยาว ๆหลาย ๆ วัน
มีข้อละเอียด เมื่ออธิบายเนื้อหยาง หับเนื้อหยินแล้วเอาไปเทียบกับความจริงในหลายเรื่องจะน่าสนใจมาก
ก็บอกแล้วครับว่า คนที่จะใช้ต้องทดสอบก่อน อย่าเพิ่งลงมือจริง เพราะการลงมือในแต่ละค่า ของหยินหยาง ไม่ใช่เหมือนกันหมด เช่น หยาง 9 ต้องเริ่มขายแต่ขายจำนวนมากกว่าตอน หยาง7 หรือจะขายหมดก็ยิ่งดี แม้จะมีหยาง 10อีกสักวันที่รุนแรง แต่เราต้องปลอดภัยเพื่อรักษาความสมดุลย์ในกระเป๋าตังเราไว้ เพราะใจเราไม่อาจต้านทาน หยาง 10 ได้ มันอาจทำให้เราไม่ขายแล้วฝันว่าจะไปต่อ ของเก่ามีกำไรมากอยู่ ไม่ขาย ดันไปผันว่าจะไปก็ซื้อเพิ่ม พอวันถัดไป หยางหดลงเหลือ 9 ค่าของตอนหดกับตอนหยาง 9 ขึ้น ต่างกันมาก เพราะแรงขายตอนหยางหดลง 9 มากว่าแรงซื้อของหยางขึ้น 9 มาก

ขอเวลาไปตั้งคำสั่งซื้อขายก่อน

ขอให้โชคดี

จากคุณ : nowya - [ 30 ส.ค. 49 09:40:29 A:202.57.180.134 X: TicketID:112031 ]

ผมไปตั้งคำสัง หุ้น แล้ว ก็กลับมาใหม่

มนุษย์เราทุกคน เกิดมาประกอบด้วยหยินหยางในตัวเอง เขาเกรียบว่า มนุษย์เมื่อก่อนก็คือสัตว์เช่นกัน แต่เป็นสัตว์ที่เดิน 4 เท้าก่อนพัฒนามาเดิน 2 เท้า ส่วนใดๆของอวัยวะที่ถูกแสงแดดให้ถือเป็นส่วนของหยาง เช่น ศรีษะด้านหลัง เส้นผม แผ่นหลัง ฯลฯ ส่วนที่ถูกแสงต้องมีสีหรือเซลล์เม็ดสีที่เข้มกว่าส่วนหยิน คุณลองดูที่สันมือคุณ ดูที่สันมือนิ้วชี้จะเห็นได้ชัดกว่า ส่วนหลังนิ้วจะสีเข้ม ส่วนฝ่านิ้วจะขาวและจะแบ่งแยก(บางคนชัด ) ที่ตรงสันนิ้วด้านที่หันมานิ้วหัว
ลิ้น ตับ ไต ไส้ พุงเขาแบ่งเป็นหยิยหยางตามคุณสมบัติการทำหน้าที่ (ไม่อธิบาย ยาว)

การเล่นหุ้นทางหยินหยาง ก็ถูกแบ่งออกมาเป็นหยินหยาง ทั้งเนื้อหุ้นมทั้งหุ้นหยินและหุ้นหยาง ราคาเปิดปิด เป็นหยาง ราคาไฮ โล เป็นหยิน ปิดบวกเป็นหยาง ปิดลบเป็นหยิน เวลาก็แบ่งในหนึ่งวัน ถ้าแบ่งหยาบ ๆ ตัวอย่าง เวลาเปิด 10.00-10.20 หยาง 12.30 เป็นหยิน 16.30-16.40เป็นหยิน จิตใจคนเล่นตามสภาวะอารมณ์ กลัวเป็นหยิน กล้าหาญ เป็นหยาง ภาวะสถานะ ซื้อเป็นหยาง ขายเป็นหยิน ปริมาณซื้อขาย มากเป็นหยาง น้อยเป็นหยิน(แต่มากน้อยขึ้นกับแต่ละคน ดังนั้นปริมาณของหุ้นจึงนิยมไปวัดเทียบกับปริมาณตลาด เช่น ปริมาณของ ptt ซื้อขายมาก ถือปริมาณตลาดของ ptt เป็นหยาง) เป็นต้น

รู้แล้วได้อะไร เมื่อรู้อะไรเป็นหยางหยิน ก็ต้องเอาสิ่งที่เป็นหยางมารวมหยาง สิ่งเป็นหยินมารวมหยิน คำตอบจะปรากฎ(ใครคำณวนละเอียดกกว่า เพราะมีข้อมูลมากกว่าก็ชัดเจนกว่า ผมยังไม่ละเอียดพอ แต่คุณอยากเชือก เขาไปเรียนมาค้นคว้ามามากกว่า เขาจึงประเมิณหุ้นได้แม่นกว่าในเรื่องหยินหยาง) เมื่อรวมสิ่งต่างเป็นหยินหยางก็จะประเมิฯตัวหุ้นนั้นเป็นคุณสมบัติเฉพาะตัวได้ เช่นหุ้นปั่นที่เล่นหลาย ๆ เดือนจะเป็นหยาง หุ้นที่ปั่นไม่นานแล้วเลิกวอลุ่มหายไปเลยเป็นปี มักเป็นหยิน หุ้นที่ปั่นสวิงแรง ๆ แต่เล่นไม่กี่วัน เนื้อหุ้นเป้นหยิน และ วอลุ่มเริ่มเปลี่ยนเป็นหยาง แปลว่า มีคนติดวอลุ่มมาก หุ้นนี้หากวันข้างหน้าใครปั่นอีกจะรุ่นแรง เพราะวอลุ่มหยางมีแรงขับซ่อนอยู่ เหมือนบริเวณของโลกเราส่วนที่เป็นภูเขาไฟ ข้างในมันมีพลังงานซ่อน ฯลฯ

นี่เปิดตลาดแล้ว ผมยังนั่งพิพม์อยู่ได้ บ้าจัง (แสดงว่าใจว้าวุ้นหน่อยๆ ใจกำลังเดินสู่สภาวะหยางหน่อย ๆ ต้องระวังตนเองอย่าฝันหุ้นจะไปไกล 5566 5566)

พอแล้ว ไปละ

ขอให้โชคดี

จากคุณ : nowya - [ 30 ส.ค. 49 10:06:39 A:202.57.180.134 X: TicketID:112031 ]


กลับมาเห็น คห 26 คุณ prettypetite
ไม่ใช่เรื่อง xo ของพอยฟิกเกอร์

แต่เวลาเราจะกา ต้องกาแบบ ปฎิทิน แต่มาปูวันจันทร์ถึงศุกร์ต่อไปเป็นแนวนอน พอครบ 10 วันก็ลบถอยไปวันที่ 11 ออก
อย่างเช่นวันนี้ปิด ลบ เมื่อนับถอยหลัง 10 วันทำการ รวมวันนี้ด้วย จะมีหยาง(ปิดบวก) เพียง 2 วันอีกแล้ว เมื่อวาน 29 สค ค่าหยางเท่ากับ 3 การระบายสีจะดีที่สุด ดีกว่า กา xo เช่นวันนี้ค่าหยาง 3 แต่ปิดลบ เอาสีแดงทาทับ ณ วันนี้ลงไป แล้วนับถอยหลัง 10 วัน จะเห็นว่าพรุ่งนี้ ค่าหยางมีเพียง 2 แต่เป็น 2 ที่ตามหลังหยิน(วันนี้แดง)


นั่นก็คือ อ่านว่า ในวันพรุ่งนี้หากเป็นไปตามกฎหยินหยาง พรุ่งนี้โอกาส set ดีดกลับ และมีแนวว่าจะมีค่าสูงมากเช่นวันอังคาร 29 สค (ค่าหยาง 2) ประมาณว่าพรุ่งนี้ ดัชนีถ้าบวก จะสูง ประมาณ 0.08%ของค่าปิดคือ พรุ่งนี้ 31 สคset มีโอกาส ไปแค่ 690.2 + - 0.5


การคำณวน หยินหยางจะแม่นเพียงใด ขึ้นกับการนับจำนวนวันของเนื้อหุ้น หรือเนื้อดัชนี สำหรับดัชนี ผม กับอยากเชือกนิยม 10 วันถอยหลัง สำหรับหุ้นเกือบ70 % ของตลาดใช้ 10 วันแต่จะมีหุ้นที่ไม่มีสภาพคล่อง ก็อาจใช้ 2 เท่า หรือ 3 เท่าของจำนวนเทียบกับดัชนี คือ 20 วัน 30 วัน


ดังนั้นหุ้นไม่มีสภาพคล่องใช้ 30 วัน เวลาหุ้นนั้นลง ส่วนมากหยางจะอยู่ที่ 5 -10 วัน เทียบเป็นเปอร์ แทบหมดพลังเล่น ใครเข้าไปมีแต่เจ๊ง ส่วนหุ้นไม่มีสภาพคล่องแต่ หยางมาอยู่ที่ 20 -25 แสดงว่าเป็นหุ้นปั่นรายเดือน คือเดือนหนึ่งๆ เล่นกันเป็นเรื่องเป็นราว 2 - 3 วันที่รายย่อยเข้าซื้อแล้วขายออกมีกำไรได้ นอกนั้นซื้อแล้วขายไม่หลุด แต่พอปิดตลาดมันบวก 1 ช่อง อย่างงี้ก็ถือยาวได้ มีกำไรแต่ไม่มีทางรวยถ้าเล่นทั้งชาติ 5566 5566



รายละเอียดมาก คนไม่เข้าใจก็ไม่นิยม ผมเองยังไม่นิยม แต่.....แต่ เอามาใช้เฉพาะ set index ดีมาก ไม่ต้องไปเชื่อใครเรื่อง 670 รับไหวไม่ไหว 690 ผ่านไม่ผ่าน


ดังตัวอย่าง หากพรุงนี้ ดัชนีพุ่งไป 5.6 จุด ผมจะขายหุ้นที่มีวอลุ่มซื้อขายมาก ๆของตลาดที่มีในมือ อย่างไม่ลังเล แม้จะขายใกล้ปิดประมาณ 16.00 น เพราะมั่นใจว่า พอ 16.30 น พวกบ่มีเงินจะมอบตัวคืนราคาให้ผมได้ซื้อคืนอีก อย่างงี้เป็นต้น

คนญ่ปุ่น เขาเอาหยินหยางพัฒนาจนเห็นเป็นรูปวงกลมแล้วแบ่ง 4 ส่วน เหมือนหน้าตาปู สี่แฉก ในนั้นมีซีกบนและล่างโดยแบ่งเป้น 4 สภาวะของหุ้น ซึ่งผมก็นำมาใช้กับโปรแกรมช่วยเล่นหุ้น คือ ขาขึ้น ขาลง กระทิงน้อย หมีน้อย เป็นต้น ใช้ไปนาน ๆจะรู้เองว่า มันเล่นได้ทั้งตลาดขาขึ้นและขาลง ใจไม่หวั่น เหมือนบินอยู่ข้างบนมีแผนที่ให้ดูแล้ว รู้ว่าพวกซิ่ง ๆ วิ่งพร่านอยู่อย่างเก่งก็ 16 ช่อง แล้วก็ต้องลงมาในวงที่ วงไว้ การตั้งซื้อตั้งขายก็ไม่เพ้อเจ้อเกินเกินเหตุ ไม่ได้ของก็เฉย ๆ เพราะมองเห็นว่าพรุ่งนี้ราคามันก็หนีไปไม่ไกลอะไร เผลอ ๆ ก็กลับลงมาต่ำกว่าที่อยากได้อีก


ขอให้โชคดี

มีของดีก็แจกกันให้รู้ เมื่อชีวิตต้องวิ่งเข้าวิ่งออกในตลาด ทุกวี่ทุกวัน เมื่อเกิดเป็นเสือก็เล่าเรื่องการหากินแบบเสือให้คนเขารู้ว่าล่าเหยื่ออย่างไร แต่ถ้าเกิดเป้นไก่ ก็เล่าประสบการณ์การหากินของไก่ว่า วันๆ จิกเศษหิน 500 เม็ดทิ้งไป ได้เมล็ดข้าวเข้าท้องเพียง 100 เม็ด จะทำไงได้ล่ะ ก็เกิดมาเป็นไก่แล้ว ก็ต้องหากินแบบ ไก่ ๆ อย่าดันหากินแบบหมา ๆ จะอดตาย หรือตายก่อนเวลาอันควร น่าเสียดาย จริงม๊ะ

วันหน้าจะมาเล่าเรื่องหากินแบบเสือ ๆ ต้องอดทนต้องถือยาวอย่างไร ไม่ต้องมาตลาดทุกวันหลอก หิวเมื่อไรก็ออกล่าเหยื่อ แล้วก็จะมาเล่าเรื่องหากินแบบหมา ๆ ว่าต้องพเนจรลำบากเพียงใด แล้วเหยื่อที่ได้ภูมิใจหรือเปล่า ชีวิตเคล้าน้ำตาแบบหมา ๆ เศร้า

5566 5566
อยากเชือก มันถอดแบบผม ไม่ใช่ผมถอดแบบอยากเชือก แต่เขารวย ship หาย เราสิยังจนอยู่ แต่ไม่จนปัญญานะจะบอกให้มนุษย์ร้อยชื่อ

เพื่อห้องนี้เรียกร้องก็ต้องมาคุย ไม่ใช้ผิดคำพูดนะเฟ้ย
nowya

จากคุณ : nowya - [ 30 ส.ค. 49 20:43:22 A:202.57.175.96 X: TicketID:112031 ]

ความคิดเห็นที่ 30

เรื่องการนับวัน หยินหยาง เท่าที่อ่านนี่ พอเข้าใจถึง 70-80% ครับ

แต่ที่สงสัย และมีเรื่องเรียนถามต่อครับ คือ จากคห.28

"นั่นก็คือ อ่านว่า ในวันพรุ่งนี้หากเป็นไปตามกฎหยินหยาง พรุ่งนี้โอกาส set ดีดกลับ และมีแนวว่าจะมีค่าสูงมากเช่นวันอังคาร 29 สค (ค่าหยาง 2) ประมาณว่าพรุ่งนี้ ดัชนีถ้าบวก จะสูง ประมาณ 0.08%ของค่าปิดคือ พรุ่งนี้ 31 สคset มีโอกาส ไปแค่ 690.2 + - 0.5"

คำถามคือ ถ้าดัชนีบวก จะบวกประมาณ 0.08% ของค่าปิด ใช้ฐานอะไรคำนวนครับ ว่าต้องได้ 0.08% ของราคาปิดวันนี้?

ขอบคุณที่กรุณาสอนสั่งครับ

จากคุณ : DARINGYOUSENDMEHOME - [ 30 ส.ค. 49 21:54:56 ]



ตอบ คห ที่ 30 ก่อน

คุณต้องทำตารางก่อน ผมจะตัดตอนมาที่วันจันทร์เลย

ณ วันจันทร์ ที่ 28 สค เนื้อดัชนี (set index) นับต่อเนื่องจากวันศุกร์ วันจันทร์ คือ มีหยาง = 3 ตกเย็นปิดลบทาสีแดง นับถอยไปสิบวัน จะมีหยาง = 2 เขียนลงในวันอังคาร ปิดเย็นวันอาคารปิดเขียว นับถอยไปรวมอังคารด้วย มีหยาง = 3 เขียนลงในวันพุธ คือวันนี้ ปรากฎวันนี้ปิดแดง ทาสีแดงทับเลข 3 นับหยางถอยหลังไป 10 วัน (สีแดงคือหยิน วันไหนไม่ทาสีคือหยาง ได้หยาง 2 วัน เขียนลงไปในวันพรุ่งนี้ก่อน ถือว่าเหตุการณืยังไม่เกิดให้เป็นหยางก่อน แต่เป็นหยางที่ต่อจากหยิน(วันนี้ 30 สค)

เราถอยไปดูวันจันทร์ ปิด 682.07 (สิ้นวันปิดแดง เป็นหยิน)
พอวันอังคารเช้า ค่าหยาง= 2 ดัชนีวันอังคารสูงสุด 687.74 มากกว่าวันจันทร์ =5.67จุด หรือเทียบเป็นร้อยละต่อวันจันทร์ = 5.67*100/682.07 = 0.83% ของ 682.07

วันนี้ปิดแดงอีก นับถอยไป พรุ่งนี้มีค่าหยาง= 2อีก เหมือนวันอังคาร เอาดัชนีปิดวันนี้ 684.51*0.83 /100= 5.68จุด
หลักของหยางมีข้อหนึ่งว่า การเปลี่ยนแปลงจะเริ่มจากสิ่งใกล้เคียงค่อยๆ เปลี่ยน และจะเร่งมากตามเวลา (เวลายังมีหยินหยาง) ดังนั้น พรุ่งนี้วันพฤหัส ถ้า set จะบวก จะมีค่าสูงสุดใกล้กับเมื่อวันอังคารมาก(เทียบเป็นร้อยละต่อราคาปิด)

คนที่ไม่อยากรู้ก็จะคิดว่า นี่มันวิชาหมอดู (ก็ใช่ เพราะแต่ละวิชาที่เกี่ยวกับการคาดคะเน พยากรณ์ทั้งหลายทั้งปวงคือวิชาหมอดู แต่คนที่รับจะรับภาพพจน์วิชานั้น ๆอย่างใดเท่านั้น วิชาความเป็นได้ของโครงการ possibility study ก็หมอดูเหมือนกัน )

หยินหยางเป็นศาสตร์ที่มีกฎบางอย่าง เราไม่เชื่อเพราะมันเหมือนบังคับให้เชื่อ แต่ลึกๆ มีเหตุผลอธิบายจนลึกซึ้งมาก ยากแก่การยอมรับเพราะรู้สึกพิสูจน์ยาก ผมจึงไม่ค่อยอยากเผยแพร่มาก
ในสัญญลักษณ์ของตลาดหุ้นก็คล้ายกับหยินหยาง หยินหยางคือความไม่แน่นอนที่เป็นกฎแน่นอน ฝารั่งจึงเอามาเป็นกฎ แบบ oscillate มันไม่แน่นอนเพราะต้องแกว่งแต่มันต้องไป ๆ มา ๆแค่นี้แน่นอน เพราะเป็นแค่ 2 มิติ ดัชนีเป็น 2มิติ แต่คนเล่นเอากลยุทธ 3 มิติมาใช้ มันจึงเกิดวิชา divine ต่างๆ

เช่นเราเอา 3 มิติ คือ ราคา จำนวนและเวลา คนส่วนใหญ่สนใจ 2 มิติ คือ ราคาและจำนวน แต่ถ้าเอาเวลามาคิดด้วยจะต้องตกใจแน่ ถ้าคุณดู วอลุ่มสะสมแต่ละวันจะเป็นรูปตัว U คุณต้องซื้อตอน ใต้กะทะ U มักเป็นเวลาเที่ยง (ถูกต้องเพียงครึ่งเดียว เพราะเวลาใกล้เที่ยงเป็นหยาง มันซ่อนพลังไว้มากทางด้านราคา เจ้ามือกำลังขอคิดยอดว่าตั้งแต่เช้าซื้อมา ขายไป ขาดทุนหรือกำไร ถ้ากำไรช่วงบ่ายก็จะเป็นแรงขาย ถ้าขาดทุน บ่ายอาจซื้อสร้างกระแสต่อ ดังนั้นใครซื้อใกล้ ๆ เที่ยงมักเสียเปรียบกว่าคนซื้อใกล้ปิดเย็น หรือ atc เพราะเวลานั้นใกล้หยินมาก ทุกอย่างหมดแรง กำลังเผนธาตุแท้ของรายใหญ่และรายย่อย รายใหญ่หมดเงิน รายย่อยหมดหวัง เป็นต้น ดังนั้นหากซื้อที่หยินตอนเย็น เอาไปขายตอนหยางเช้าตรู่ โอกาสได้เงินสูงครับพี่น้อง)


ใครก็ตามที่ไม่รู้ ไม่แน่ใจ ก็ไม่ต้องทำตาม เพราะนี่เพียงทางเลือกเท่านั้น ไม่ใช่สิ่งจำเป็นหรือไม่รู้ไม่ได้

ขอให้โชคดี

จากคุณ : nowya - [ 30 ส.ค. 49 23:16:29 A:202.57.183.185 X: TicketID:112031 ]

เข้าใจเพิ่มขึ้นนิดหน่อยแล้วครับ

ถ้าสมมติต่อจากวันพุธ เป็นพฤหัสฯ แล้วหุ้นเขียว จะได้ค่าหยางเป็น 3 ใหม่ ถูกไหมครับ

ใส่เลขนี้ ลงในวันศุกร์ด้วย ค่าหยางของวันศุกร์จะเป็น 3 ถ้าอย่างนี้ ก็ต้องเทียบเคียงราคาสูงสุดซึ่งอาจเกิดขึ้นในวันศุกร์ กับวันใกล้กันมากที่สุดที่มีค่าหยางเท่ากัน คือวันพุธหรือเปล่าครับ?

ซึ่งถ้าราคาขึ้นมาในอัตราส่วนใกล้เคียงกันกับวันพุธ ก็เสี่ยงขายไปก่อน ถูกไหมครับ

ถ้าถูก
ผมเดาต่อเอานะครับว่า
สมมติฐานตรงนี้ ผมเห็นภาพว่า ในที่สุด มันจะต้องเลือกทางว่าจะไปหยินหรือหยาง(มันคงไม่ทำ 2-3-2-3 ไปตลอด ไม่งั้น หุ้นจะไม่เลือกทาง)
เช่น สมมติว่าศุกร์เลือกเป็นหยางต่อ คือ เย็น ปิดสูงกว่าที่เราคำนวนค่าได้ ต้องไปรับกลับหรือเปล่าครับ ถ้าเราเชื่อว่า ราคามันเป็นหยางต่อไป

และดังนี้
เปิดมาจันทร์ค่าหยางจะเป็น 4 ซึ่งไม่มีตัวเทียบเคียงแล้ว เปอร์เซนต์จะเป็นอย่างไร ไม่ทราบงงคำถามหรือเปล่าครับ?

อีกอย่างคือ ราคาหยางที่อันตราย(หมายถึงเหมาะแก่การขาย) 7,8,9 หรือเปล่า?

หรือเราต้องเชื่อ หรือมองตลาดให้ออกก่อนว่า ตลาดเป็น ขึ้น ลง หรือ ไซด์เวย์ เพื่อกำหนดค่าหยางที่ไม่ควรรับกลับ(สำหรับสถานะ long position) เช่น sideway หยาง 5 แล้วอันตราย ,ขาลงหยาง 3 ก็อันตรายแล้ว อะไรทำนองนี้

ข้อดีคือ เราสามารถเล่น long position ได้ในทุกช่วงเวลา ทั้ง ขาขึ้น ขาลง และ sideway(คนทั่วไปเล่นไม่ได้แน่)

ซึ่งต่างกับเทคนิคแบบ 2 มิติ ที่เห็นจะมีแค่ elliot wave, fibonacci, และ gann time ที่พอจะกำหนดจุดเสี่ยงเด้งได้?

รบกวนชี้แนะต่อครับ
ขอบคุณครับ

จากคุณ : DARINGYOUSENDMEHOME - [ 31 ส.ค. 49 01:25:51 ]

เช้านี้เหมือนพบปราญ อย่างคห 36 คุณ DARINGYOUSENDMEHOME

แสดงว่าคุณคือคนที่ลงมือทำตารางแล้ว จึงมองเห็นง่ายเข้าใจเร็ว ถูกต้องตามที่เล่า หากวันจันทร์ที่ 4 กย เป็นหยาง 4 ก็ต้องไปเทียบเคียงกับวันพุธที่ 22 สค ซึ่งคือหยาง 4ที่ต่อจากหยาง 4 แดงของวันอังคารที่ 21 นั่นคือวันจันทร์ มีสิทธิที่ setจะสูงสุดที่ 0.02ของค่าsetปิดของวันศุกร์ที่ 1 กย นี้เอง

คุณรู้หยินหยางก็สามารถเดาทางของ set หรือหุ้นได้ 2 ทางล่วงหน้า แต่หากเดาทางล่วงหน้ามากวัน ความผิดเพี้ยนจะกว้างมากขึ้น จึงไม่นิยมมากกว่า 1 - 2 วัน

ตารางหยินหยาง เรามักให้น้ำหนักหยาง มากกว่าหยิน แต่หากคำนึงทั้งสองค่า จะเสริมความมั่นใจมากขึ้น
โดยประมาณจะเป็นดังนี้
ค่าหยาง 0 ซื้อล้วนๆ ซื้อให้หมดตัวไปเลย 5566 สถิติเกือบ 98 % รีบาวน์ มีเพียง 1 ครั้งสมัยท่านพลเอกชวลิตกระมั่ง ที่หุ้นลงเกิน 12 วันต่อเนื่อง นั่นคือหยาง -0 ถึง 2 วัน แต่ก็มีหยาง 10 ตั้ง 3 วันสมัยพลเอกชาติชาย คือหุ้นปิดบวก 13 วันต่อเนื่อง นั่นคือขายหมูจนหมดหุ้น ราคายังไปต่อ แต่ก็ไม่มาก สมัย 1700จุด หยางอยู่ 7 8 9 วนอยู่เป็นเดือน ตอนนั้นเล่นยาก เพราะขายแล้วต้องเปลี่ยนตัวซื้อหุ้นอื่นที่คนอื่นขาย เพราะซื้อหมูตัวเอง มันทำใจยาก แต่หากซื้อราคาก็ขึ้นอีก ดังนั้น การที่ค่าหยางอยู่ที่จุดใด ซ้ำๆ ไม่ว่า แถวต่ำ ๆ 0 - 2 แล้ววนไปวนมา แสดงว่ามันกำลังสะสมพลังการรีบาวน์สูงขึ้น(ดูที่ดัชนีหรือค่าหุ้นว่าปิดบวกคิดเป็นร้อยละมากหรือน้อยประกอบ) ถ้าอยู่แถวค่าสูง เช่นหยาง 7 - 9 วนหลายรอบ ให้ระวังหุ้นจะตกรุนแรงและนานด้วย

ผมเป็นแค่ศิษย์โง่ไปเรียนเซนในเรื่องหยินหยาง แต่ อยากเชือกเขาเชี่ยวเลยและ บางครั้งเขาโทรมาบอกผมขายหมดปอด ซึ่งเครื่องมืออื่นยังไม่แสดง เขาบอกว่า ตารางหยินหยางเขาบอกว่าอันตรายสุด ๆ แล้ว ก็ลอดไปได้ ทุกวันนี้โปรแกรมที่คุณอยากเชือกคิดไว้ มีหยินหยางให้ใช้ประกอบ แต่ผมเองกลับให้ค่าน้ำหนักน้อยกว่า เพราะมันคำนวณเพี้ยนเมื่อเกินกว่า 3- วันขึ้นไป หรือว่าผมไม่เก่งก็ไม่รู้ซิ ต้องไปหาตำราญี่ปุ่นดู(อ่านไม่ออก)

ขอให้โชคดี

จากคุณ : nowya - [ 31 ส.ค. 49 07:47:54 A:202.57.183.217 X: TicketID:112031 ]

ความคิดเห็นที่ 41

ต่อ

วันนี้ 31 สค เลขหยางประจำวัน คือ 2 และเนื่องจากวันนี้ปิด บวก 6.39 จุด( ตารางหยางคำนวณว่า ได้เห็นค่าสูงสุด 5.6 จุด) ดังนั้นพรุ่งนี้ วันที่ 1 กย เลขหยางประจำวันก็คือ 3
เราต้องไปตรวจสอบวันถอยหลังว่า วันใกล้ที่สุดที่มีเลขประจำวันหยางเป็น 3 ปรากฎว่า คือวันที่ 22 มิย และเมื่อเอาset ปิด วันที่ 21 มาเทียบกับ Hi ของ 22 เท่า 11 จุดกว่า หรือ 1.7%ของวันที่ 21 มิย เมื่อเอามาเข้ากับวันนี้จะได้
เห็นว่า พรุ่งนี้ วันที่ 1 กย หากหุ้นเขียวจะเห็นดัชนีบวกถึง 11 จุดกว่าตามอัตราร้อยละเหมือนของวันที่22 มิย
ตารางหยินหยางจึงบอกว่า พรุ่งนี้หากมีเขียว ดัชนีจะเห็นถึง 702 จุด เศษๆโดยประมาณ

ดูแล้วท้าทายน่าดู เราก็ต้องรอพิสูจน์กัน
จากสถิติ ที่เก็บ ๆ มา ความน่าเชื่อถือเฉพาะดัชนีมีถึง 75 % ก็นับว่าน่าเชื่อถือพอสมควร

นี่ก็คือการใช้วิชาหยินหยางในการทำนาย ทำให้เรามีจิตใจที่มั่นคงหากพรุ่งนี้เขียวจริง ก็จะรอขายที่บริเวณ 700 - 704 จุดโดยประมาณ
ถ้าไปดูกราฟอื่น ๆ ตอนนี้เครื่องมือ ค่าเฉลี่ย 5 , 10 วัน ก็เริ่มงอหัวขึ้นหน่อย ผมว่าน่าสนใจ ทั้งที่ข่าวปัจจัยบวกไม่มี

นั่นคือการสะสมพลังขี่ตามระบบหยินหยาง แต่ถ้ามาคิดทางจิตวิทยาแล้ว คนคงเบื่อขาลงมานาน พรุ่งนี้คงอยากซื้อมากขึ้นมั่ง

nowya
31 สค 49

จากคุณ : nowya - [ 31 ส.ค. 49 19:44:32 A:202.57.180.61 X: TicketID:112031 ]


เช้านี้มีความสุข ทั้งที่เมื่อคืนนอนดึก อ่านเมล์

คห ที่ 43 คุณ MeasureMind มาโพสทกราฟ หยางของดัชนี ผมดูแล้วก็แปลกไปอีกแบบ ส่วนตัวทำเป็นแบบตารางแบบปฎิทินดูจนชิน
แต่เมื่อมาดูกราฟจากคุณ MeasureMind ในระยะเวลาสั้นไม่กี่เดือน ก็คล้ายกับดูจากตาราง

ลองสังเกตุจากกราฟ หลังวันที่ 8 สค เหมือนดัชนีจะเปลี่ยนแนวโน้มเป็นขาลง ของหยาง แต่ไปดูจากกราฟแท่งเทียน ดัชนียังไปต่ออีกหลายวัน ไปแสดงแนวโน้มชัดที่วันที่ 17 สค แสดงว่าตารางหยินหยางบอกเตือนก่อนหลายวัน แต่ในทางปฎิบัติ(ผมคิดเอง) ถ้าใช้ตารางหยินยางดูแนวโน้มจะช่วยในการตัดสินใจว่าให้กล้าน้อยลง ซื้อน้อยลงเพราะหยางอ่อนค่า หรือขายมากขึ้น ก็ได้ แต่ไม่ใช้หยุดเล่น (คนเล่นรอบใช้เป็นแนวทางตัดสินเล่นรอบคือ ขายหมดแล้วหยุดซื้อ ณ ขณะนั้น ก็ได้)



ผมใช้ตารางหยินหยางเพื่อวัดความน่าเป็นไปของดัชนี แล้วเสริมการตัดสินใจอีกที เพราะเราเข้าออกห้องค้าทุกบ่อยหรือเล่นหุ้นซื้อขายเกือบทุกวัน(เล่นโดยใช้โปรแกรมช่วยเล่น) ตารางหยินยางช่วยทางด้านดัชนี หากวันไหนบวกจะคาดตามจำนวนจุดที่น่าจะบวกถึง หากลบจะคาดตามจุดที่น่าจะลบถึง ทุกๆวันมีค่าหยินและหยางในตัว ค่านั้นไปเทียบเคียงกับค่าที่ใกล้วันปัจจุบันมากที่สุด(บางครั้งหลายเดือน เช่นวันนี้ 1 กย ค่า หยาง 3 ตรงกับ 21 มิย หลายเดือน ดังนั้นหากวันนี้พลังหยางมีมาก เกิดดัชนีบวก เราก็คิดว่าไปถึง 700 -704ได้ ก็รอขายตรงนั้น หรือตอนเช้าบวกอ่อนๆ อาจซื้อเพิ่มหุ้นตัวที่มีอยู่อีกหน่อยแล้วรวมขายเมื่อไปถึง หากเวลาใกล้ 4 โมงเศษแต่พลังบวกไปไม่ถึง ก็ถือว่าพลังหยินหยางเปลี่ยนทาง ต้องดูว่าถ้า ลบ วันจันทร์จะเป้นไง ถ้าปิดบวก วันจันทร์จะเป็นไง จึงตัดสินใจว่าจะขายหุ้นทิ้งไปหรือเก็บไว้รอวันจันทร์ เป็นต้น)

ตารางหยินหยางเป็นวิธีแบบตะวันออก มันจึงไม่ชี้แบบชัดๆ เพราะเป็นแบบ harmonyมากกว่า จึงเหมาะกับคนเล่นสไตล์รอบๆ แต่คนเล่นเก็งกำไรก็ใช้ได้ขึ้นกับการตั้ง parameter ของตาราง 10 วัน 20 30 วันดังที่เคยพูดไว้


อยากเชือกเขามีตารางหยินหยางของเวลา (ไม่ได้ให้ผมแต่เคยเห็น)เป็นตารางพลังหยินหยางที่เคลือนตามแบบที่ตะวันตกคิด คล้ายกับการเคลื่อนของดวงอาทิตบ์ในรอบปี รอบเดือน รอบวัน เหมือนมีตะวันอ้อมเข้า หน้าหนาว หยางตอน 12.00น จะมีค่าน้อยกว่าหน้าร้อน อะไร ๆ ทำนองนี้ มันก็ตรงกับวิทยาศาสตร์ แต่ที่คนนิยมน้อยเพราะ ยังไม่มีคนแปลงค่าของสูตรให้ดูและคำนวณง่ายๆ หน่อย มันยุ่งยากจึงเสียเวลา คนจึงไม่นิยม ผมเคบบอกคุณอยากเชือกให้ช่วยหน่อยเถิด ทำเป้นตารางสำเร็จออกมาให้คนเขาดูง่ายๆ เขารับปากแต่ก็เงียบหายไป


ขอให้โชคดี

จากคุณ : nowya - [ 1 ก.ย. 49 08:29:45 A:202.57.180.136 X: TicketID:112031 ]


จากกราฟคุณ Measuremind
แค่การ plot เป็นกราฟ ก็ทำให้เห็น ไดเวอร์เจ๊ง(ช่วงวันที่ 8-16) ระหว่าง price กับ set yang

เป็น อินดิเคเตอร์ของคนเล่นรอบที่อาจจะชัดกว่า ไดเวอร์เจ๊งของ price กับ rsi เสียอีกครับ

มีคำถามครับ
สมมติคนส่วนใหญ่ ใช้ตารางแบบเดียวกัน
สมมติหลังจากนี้ คนส่วนใหญ่ใช้ตารางแบบเดียวกัน ในการไปบ่อนทุกเช้าบ่าย
ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร?

สมมติค่าของความถูกต้องในอดีต อาจจะอยู่ที่ 75%
แต่ถ้าคนส่วนใหญ่ใช้เหมือนกัน หลังจากนี้ สุดท้าย ผลลัพธ์ จะออกมาที่ 75% อีกหรือไม่ครับ? แต่ตารางนี้ เป็นตารางอย่างง่าย ที่ผมเชื่อว่าใครก็สามารถใช้ได้เมื่อเข้าใจ(อย่างกราฟปกติ คนที่อ่านกราฟเป็น ก็เพียงแต่รู้ว่า ตรงนี้ ควรซื้อหรือขายเท่านั้น ไม่ใช่ว่าจะถูกมาก ยิ่งไปกว่านั้น การอ่านกราฟปกติ ต้องการskill ของผู้ใช้อย่างสูง ทำให้ส่วนต่างแจกจ่ายไปในระดับที่แตกต่างกันมาก)
ถ้าคนหมู่มากใช้(เหยื่อในเกมมีน้อยลง) การล่าอาจยากขึ้น และทำให้ผลลัพธ์ ตกอยู่ใน 25% ที่ผิดมากขึ้นหรือเปล่าครับ(ผมก็มั่วของผมไปเรื่อย)

มีนักคณิตศาสตร์หรือนักสถิติอยู่แถวนี้ไหม ช่วยอธิบายหน่อยครับ?

จากคุณ : DARINGYOUSENDMEHOME - [ 1 ก.ย. 49 09:50:22 ]


คุยโทรกับลูกศิษย์อยู่นาน เลยยังอยู่หน้าคอมฯ คลิ๊กไปคลิ๊กมา ค้างกระทู้นี้ตั้งแต่เช้าเปิดดูอีก เจอนักคิดคนเก่า คุณ DARINGYOUSENDMEHOME

ตารางหยินหยางรู้มาว่ามีคนใช้มากในญี่ปุ่นกับไต้หวัน เขาใช้มานานและคงใช้อยู่
ไม่ต้องกังวลว่าคนรู้จะเล่นยาก
เมื่อวานลูกศิษย์มาคุย ถามแบบนี้แหละ
ผมบอกว่าสมมตทั้งตลาดตั้งขายที่ 4.80 หมดเลยจะเกิดอะไร
ผลคืออาจไม่มีคนซื้อ หรือพอรอสักระยะคนที่ร้อนเงินจะถอนมาแย่งขาย 4.78 ก่อน แล้วคนกลัวก็ตามมาขายจนตกลงที่ 4.70 จากนั้นทุกอย่างจะค่อยๆเข้าที่อีกคือกาจกลับไปที่ 4.80ใหม่แล้วเลยขึ้นไป4.82 4.84 ก็ได้แต่คนที่นิ่งๆ ตั้งขาย ณ 4.80 ก็จะเล่นตามเป้าหมาย happy จิตใจเป็นเรื่องใหญ่ สูตรเป็นรอง(สูตรเทียบเท่าสมอง) คำพูดเป็นโกหก(คือผันผวนกว่า) นี่คือแนวคิดแบบหยินๆหยาง ๆ

5566 5566

nowya

จากคุณ : nowya - [ 1 ก.ย. 49 10:56:06 A:202.57.180.136 X: TicketID:112031 ]


มีเวลาก็วกกลับมา ต่อวิชา เผื่อคนรุ่นใหม่ๆจะคิดค้นแตกแขนงออกไปเป้นเคล็ดวิชาใหม่ได้

สูตรทุกสูตร ก้มีรายใหญ่ที่ต้องการตีหลอกสลับขาเดินให้มันดูเพี้ยนเพื่อหวังหลอกรายย่อย แต่ในเรื่องหยินหยางของเนื้อsubject เช่นเนื้อหุ้น เนื้อดัชนีมันมีคุณสมบัติตัวมันเอง คุณภาพของหยินกับหยางก็จะต่างกันตามค่า

คนส่วนใหญ่มักคิดว่าหยางคือพลังที่รุนแรงทางบวก น่ากลัวมาก แต่ความจริงหยินอาจน่ากลัวกว่า ค่าทางหยินของ ดัชนีจะมีค่าที่รุนแรงกว่าค่าหยางมาก เหมือนว่าดวงจันทร์จะเหนือดวงอาทิตย์ก็แค่ความเย็น แต่หากเทียบทางความร้อนแล้วดวงจันทร์แพ้อาทิตย์กระจุย

แนวคิดหยินหยางไม่กลัวใครจะมาดัดแปลงหลอกล่อลวงไปลวงมา เพราะโดยธรรมชาติจะเข้าสู่สมดุลย์เสมอ เช่นหุ้นลงซึมยาวนาน เวลาดีดกลับก็จะขึ้นสูงในเวลาสั้นๆ กฎธรรมชาติ
จริงๆทุกสูตรก็หลอกได้ แต่หลอกไม่ได้นาน ถึงหลอกก็มีคนอ่านออกหนีทัน อย่างที่บอกว่า สูตรเป็นรองจากใจ ที่เราแพ้ตลาดส่วนมากแพ้ที่ปาก (ข่าวลือ อินไซด์ เพื่อนบอก ผีบอก นักวิเคราะห์แนะมาร์เชียร์ ฯลฯ ) สุดท้ายเจ๊งจากเรื่องปากทั้งน้าน 5566 5566

ขอใหโชคดี

จากคุณ : nowya - [ 1 ก.ย. 49 23:52:34 A:202.57.182.115 X: TicketID:112031 ]


เรียนอาจารย์ nowya ครับ

ผมลงไปพล็อตกราฟ เพื่อดูเทรน เทียบกับกราฟราคา set แล้ว
คิดว่าใช่ได้ดีทีเดียวครับ ในการใช้ประกอบการตัดสินใจ

มีคำถามเล็กน้อยครับ อาจารย์ nowya

1.ถ้ากรณีใช้ตารางหยินหยางกับหุ้นรายตัว
กรณีที่ราคาปิดเท่ากับราคาวันก่อน
อย่างนี้เราจะให้เป็นหยินหรือหยางอ่ะครับ
หรือต้องพิจารณาอะไรเพิ่มเติมหรือเปล่าครับ

2.ในการดูเนื้อหุ้น เพื่อกำหนดว่าดูหยิหยางย้อนหลังกี่วัน
ถ้าเราไม่อยากได้ค่าประมาณ อย่าง 10 20 30
เราจะพิจารณา นับ จากอะไรได้บ้างครับ
เผื่อจะใช้ในหุ้นรายๆตัวไป

รบกวนด้วยนะครับ
ขอบพระคุณมากๆครับ
จากคุณ : HolySix - [ 3 ก.ย. 49 01:17:03 ]

ขอควบคำตอบ คห 57 -59
ตารางหยินหยางผมใช้เป็นตารางมากกว่าใช้กราฟ เพราะเป็นเนื้อดัชนีเดียวกัน ดูกราฟอาจใจแขวได้

ปิดเหลืองเป็นหยิน

หุ้นสภาพคล่อง 10 ไม่คล่อง 30 ธรรมดา 20 แต่ชาวญี่ปุ่นมัก ใช้ 22(1เดือนวันทำการ)

กราฟคุณ Moonzonezturn ผมดูไม่เข้าใจ ช่วยอธิบายว่าข้อมูลอะไรมาจากไหน

กราฟ iec พ๊อตจาก ตารางหยินหยาง10 วัน แสดงว่าช่วงหลัง หยางอ่อนลง 3 - 4หลายๆ วัน แสดงว่าพักตัวเหมือนกัน แต่หยางไม่ยอมอ่อน 1 - 2 ก็คือพลังยังไม่ถอย เหมือนคนเล่นไม่ยอมแพ้ พอเล่นได้ สังเกตุว่าเวลาพักตัวจะประมาณ 7 - 9 วัน แต่ผมดูกราฟคุณ เหมือนลงตารางผิด ลองตรวจสอบใหม่อีกที

2วันที่ผ่านมา ไม่ค่อยสบายเท่าใด ขอพักสักหน่อย

ขอให้โชคดี

จากคุณ : nowya - [ 3 ก.ย. 49 23:53:23 A:202.57.183.246 X: TicketID:112031 ]



ขอให้สุขภาพดีและแข็งแรงจะได้ให้วิทยาทานแก่ผู้ที่สนใจ
ขออนุญาติส่งการบ้าน
================

หาหยิน-หยางพรุ่งนี้อังคารที่ 5-ก.ย.-06
จากวันจันทร์ได้หยาง= 5 ได้Aug18,2006 ได้sidewayจากวันจันทร์ได้close= 703.53 close + ได้ เขียว
Aug18,2006 high= 712.01
Aug17,2006 close= 709.01
712.01-709.01 = 3 จุด = 0.42%ของ709.01
highคำนวน =703.53+3
=706.53 ของ05/09/2006
ขอขอบคุณที่อ่านและวิจารณ์ให้ความรู้

จากคุณ : หยางเขียว (tingsa) - [ 5 ก.ย. 49 03:06:39 ]

หาหยิน-หยางเพื่อประเมินsetของวันพรุ่งนี้ 09/06/2006
จากวันอังคารได้หยาง 4 ได้ 08/22/2006
ได้set =เขียวน้อย
= ระดับ 4
Date 09/05/2006
จากอังคารได้ close= - =สีแดง
close=701.1
08/22/2006 high= 707.92
low = 703.35
08/21/2006 close = 05.93
707.92-705'93= 1.99(+ -0.5)= 0.281%
highคำนวน=701.1+1.99=703.09
703.35-705.93=-2.85
lowคำนวน = 701.1-2.85=698.25

จากคุณ : หยางงง (tingsa) - [ 6 ก.ย. 49 02:07:39 ]

หายไปหลายวัน กลับมาเจอคนเก่งขึ้น

ตารางหยินหยาง มีค่าทั้งหยินและหยาง
สมมติว่าวันพรุ่งนี้ หยาง =5 หยินก็ = 5 ง่ายๆคือ ค่าหยิน= 10 - ค่าหยาง
เราสามารถหาค่าหยางจากสถิติเก่าที่มีค่าหยางเท่ากับวันที่เป็นอยู่ปัจจุบันที่อยู่ใกล้ที่สุด แต่ก็อนุโลมให้ไม่ควรเกิน 3 เดือน หรือ 66 วัน ถ้าเกินกว่านั้นความน่าเชื่อถือจะลดลงไปเรื่อยๆ พลังหยางจะยางมาก หยินกลับจะมีพลังมากรุนแรง นั่นแสดงว่าตลาดอาจเป็นหมียักษ์ซึมนาน

เวลาเราหาค่าเสมือนของหยาง ก็ควรหาค่าเสมือนของหยินด้วย อย่างน้อยจะมีช่วงให้เราประเมิน เช่น วันที่ 7 กยมีค่าหยาง 5 ตรงกับ วันที่ 21 กค 49
21 กค 49 ปิด = 685.71
22 กค 49 hi = 690.36 =0.0678%
Lo = 683.13 =-0.0376%
วันที่6 กย ปิด = 701.96
คาดว่าพรุ่งนี้ hi = 706.71
Lo = 699.32
(ระวังการเทียบหยางของวันที่ 25 กค= 5 แต่ก่อนหน้าเป็น หยาง5แต่ปิดแดงกลายเป็นหยิน วันที่ 7 กย มีค่า หยาง= 5 ที่ตามหลังหยาง 4 (วันนี้ 6 กยเป็นหยาง 4))

ทำเป็นตารางแบบปฎิทินจะดูง่ายกว่าเยอะ

ค่าที่เทียบความเหมือนยิ่งใกล้จะยิ่งน่าเชื่อถือ

การใช้ตารางหยินหยางที่ใช้กับ setindex จะทำให้เรามีใจนิ่งมุ่งมั่น เหมือนพอมองเห็นว่า set ในวันนั้นนั้น อย่างเก่งก็บวกแค่นี้จุด แค่นั้นจุด หรือเวลาลบก็ลบแค่นั้นแค่นี้ การคาดคะเนโดยเหมือนมองเห็นความน่าเป็นไปได้ก่อน จะทำให้เราวางแผนเล่นได้นิ่ง การวางคำสั่งซื้อขายจะไม่วอกแวก วางแล้วนิ่งรอ และรู้จักหาเวลาในการวางคำสั่งได้ดีขึ้น
โดยธรรมชาติของหยินหยางมักให้ค่าเป็น approximate ไม่ใช่ accurate เราจึงใช้เปรียบเทียบว่าจะไปทางหยางมากกว่าหรือหยินมากกว่า
ตัวอย่างวันที่ 7 กย พรุ่งนี้ ถ้าดูจากตารางหยินหยางจะทำให้เรามีความมั่นใจว่า ดัชนีจะมีโอกาสเล่นในแดนบวกมากกว่าแดนลบ เกือบครึ่ง อย่างน้อยจะไม่คิดกลัวขายหมูในตอนช่วงเช้าถ้าตลาดอยู่ในแดนลบก่อนจะไปเล่นในแดนบวกตอนบ่าย หรือทางกลับกัน หากเช้าอยู่แดนบวก
หากอยู่เกิน 706 จุดก็จะทำให้เราไม่รีบร้อนซื้อเพราะคาดว่าสูงสุดก็เท่านี้แหละ

ขอให้โชคดี

จากคุณ : nowya - [ 6 ก.ย. 49 22:42:45 A:202.57.182.222 X: TicketID:112031 ]

หาหยิน-หยางเพื่อประเมินsetของวันพรุ่งนี้ พฤหัส 09/07/2006
=================================================
จากวันพุธ 09/06/2006 ได้ หยาง= 5 ของ 09/07/2006
ได้ set= sideway
ใช้ setวันที่ 09/04/2006
=================================================
จากวันพุธ 09/06/2006 ได้ close = 701.96
close = +
สีเขียว
--------------------------------------------------------------------------------------------------
09/04/2006 high = 704.08
low = 699.50

09/01/2006 close = 696.44
--------------------------------------------------------------------------------------------------
704.08 - 696.44 = 7.64
highคำนวน 701.96 + 7.64 = 709.60

699.50 - 696.44 = 3.06
low คำนวน 701.96 + 3.06 = 705.02

จากคุณ : tingsa - [ 7 ก.ย. 49 05:08:43 ]


หาหยิน-หยางเพื่อประเมินsetของวันพรุ่งนี้ ศุกร์ 8 Sep 06
===========================================================
พฤหัส 7 Sep 06 ได้ หยาง = 5 ของ 09/08/2006
วันนี้ ได้ set = sideway
ใช้ setวันที่ 25 Jul 06 # หยางและคุณสมบัติใกล้เคียงอื่นๆ
===========================================================
พฤหัส 7 Sep 06 ได้ close = 692.56
วันนี้ close = -
= สีแดง
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
26 Jul 06 high = 691.53 = 0.0348%
low = 686.22 = -0.0422%

25 Jul 06 close = 689.13
]----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
691.53 - 689.13 = 2.40
highคำนวน 692.56 + 2.40 = 694.96

686.22 - 689.13 = -2.91
low คำนวน 692.56 + -2.91 = 689.65

จากคุณ : tingsa - [ 7 ก.ย. 49 19:43:51 ]

เอามาแบ่งกัน สำหรับคนใช้ metastock
ใส่สูตร(ทื่อๆ)นี้ใน indicator builder แล้วเอาไปพล๊อต
กราฟแบบจุดโตๆ จะดูดีมากครับ
กราฟจะได้ 2 เส้นคือค่าหยินหยางกับ
ค่าหยางสะสม (หุ้นปิดบวกติดกัน)

{BuySellSignal by YinYang Concept}
YY0:=If(C>Ref(C,-1),1,0);
YY1:=If(Ref(C,-1)>Ref(C,-2),1,0);
YY2:=If(Ref(C,-2)>Ref(C,-3),1,0);
YY3:=If(Ref(C,-3)>Ref(C,-4),1,0);
YY4:=If(Ref(C,-4)>Ref(C,-5),1,0);
YY5:=If(Ref(C,-5)>Ref(C,-6),1,0);
YY6:=If(Ref(C,-6)>Ref(C,-7),1,0);
YY7:=If(Ref(C,-7)>Ref(C,-8),1,0);
YY8:=If(Ref(C,-8)>Ref(C,-9),1,0);
YY9:=If(Ref(C,-9)>Ref(C,-10),1,0);

YYScore:=
YY0+YY1+YY2+YY3+YY4+YY5+YY6+YY7+YY8+YY9;

CumYang:=
If(
YY0=1 AND YY1=1 AND YY2=1 AND YY3=1 AND YY4=1 AND
YY5=1 AND YY6=1 AND YY7=1 AND YY8=1 AND YY9=1,10,
If(
YY0=1 AND YY1=1 AND YY2=1 AND YY3=1 AND YY4=1 AND
YY5=1 AND YY6=1 AND YY7=1 AND YY8=1,9,
If(
YY0=1 AND YY1=1 AND YY2=1 AND YY3=1 AND YY4=1 AND
YY5=1 AND YY6=1 AND YY7=1,8,
If(
YY0=1 AND YY1=1 AND YY2=1 AND YY3=1 AND YY4=1 AND
YY5=1 AND YY6=1,7,
If(
YY0=1 AND YY1=1 AND YY2=1 AND YY3=1 AND YY4=1 AND
YY5=1,6,
If(
YY0=1 AND YY1=1 AND YY2=1 AND YY3=1 AND YY4=1,5,
If(
YY0=1 AND YY1=1 AND YY2=1 AND YY3=1,4,
If(
YY0=1 AND YY1=1 AND YY2=1,3,
If(
YY0=1 AND YY1=1,2,
If(
YY0=1,1,0))))))))));

YYScore;
CumYang;

จากคุณ : teeranet - [ 8 ก.ย. 49 10:29:11 ]




 

Create Date : 11 สิงหาคม 2550    
Last Update : 11 สิงหาคม 2550 2:21:16 น.
Counter : 493 Pageviews.  


UTTO
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add UTTO's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.