|
บทที่ 9 เขี้ยวเล็บและคมดาบ
อย่า! เฟริน!
ไม่ทันสิ้นเสียงร้องห้ามอย่างตกใจของยมทูต ดาบผ่าปฐพีในมือของธิดาแห่งความมืดก็ฟันลงมาเต็มเหนี่ยว
เป้าหมายคือร่างหมาป่าสีทองเบื้องหน้า!
................................................................
นับตั้งแต่วินาทีที่หมาป่าสีทองปรากฏกายจนกระทั่งพุ่งเข้าปะทะร่างของฮาร์นด้วยความเร็วที่มองแทบไม่เห็น เจ้าหญิงหัวขโมยยังไม่ทันได้ขยับตัวแม้แต่นิด ร่างสูงของยมทูตแห่งเดมอสก็อยู่ใต้ร่างศัตรูผู้ไร้ที่มาที่ไปนั่นเสียแล้ว
เธอรู้ดีว่าฮาร์นมันเก่งแค่ไหน แต่ทำไมมันกลับถูกโจมตีเอาง่ายๆแบบนี้...!?
เฟรินร้อนใจที่เพื่อนของเธอกำลังจะกลายเป็นเหยื่อของสัตว์ร้ายที่ไม่น่าจะใช่หมาป่าธรรมดา ไม่อย่างนั้นยมทูตหนุ่มคงจัดการไปตั้งแต่แรก ไม่ต้องตกเป็นเป้าหมายรอการฝังคมเขี้ยวขาววับของสัตว์แสนสวยนั่นลงบนคอ....เขี้ยวขาวที่เพียงแค่มองก็รู้ว่าคมกริบและแข็งแรงพอที่จะหักคอเหยื่อข้างใต้นั่นเอาง่ายๆ
ดาบผ่าปฐพีถูกเรียกมาไว้ในมือ ร่างบางปักหลักมั่นก่อนจะเงื้อดาบฟันเต็มเหนี่ยวโดยมีเป้าหมายอยู่ที่ร่างสีทองเบื้องหน้า!
ดวงตาสีอำพันอบอุ่นละจากดวงตาสีทองเบื้องหน้าที่เหมือนจะดึงดูดเขาไว้จนลืมสิ่งรอบข้างเพียงชั่วแวบ...ทันทีที่เห็นประกายสีเงินของผ่าปฐพีวาดลงมา...
ดวงตาสีน้ำตาลคู่โตฉายแววเป็นห่วงอยู่เหนือไหล่ของร่างสีทองที่กดเขาไว้ด้วยแรงมหาศาล แล้วดาบในมือก็จะตวัดฉับ!
เสียงร้องห้ามหลุดออกไป แต่...ไม่ทัน...
ไม่ทันก่อนที่ดาบในตำนานจะเรียกเลือดจากศัตรูสีทองออกมาตกต้องพื้น!
..............................................................
ร่างของสัตว์ป่าแสนสวยเอี้ยวตัวหลบวิถีดาบทันทีที่ได้ยินเสียงร้องห้าม
...หากอำนาจแห่งดาบและพลังของผู้ใช้มากพอที่จะเรียกเลือดซึมออกจากแผ่นหลัง
อำนาจการทำลายล้างของผ่าปฐพี...ดาบในตำนานที่เล่ากันว่าจ้าวปีศาจเป็นผู้ใช้ผ่าดินแดนเอเดนและเดมอสแยกออกจากกัน...ในมือธิดาแห่งความมืดผู้สืบสายเลือดแห่งสองดินแดน
ดวงตาสีทับทิมปนประกายทองงามแปลกตาปรากฏรอยตื่นเต้นสนุกสนานฉายระริกอยู่ในนั้น ความสนุกที่จะได้ต่อกรกับคู่มือแปลกหน้า...ที่ท่าทางจะฝีมือดีไม่น้อย
การต่อสู้เบื้องหน้าที่กำลังจะเริ่มได้ปลุกสายเลือดแห่งเผ่าปีศาจทั้งของตัวเธอและคู่ต่อสู้ขึ้นมาอย่างช้าๆ
ดวงตาสีทับทิมปนทองกับดวงตาสีน้ำตาลที่จดจ้องกันอยู่ไม่ลดละไม่มีส่วนใดคล้ายคลึงแม้แต่น้อย หากแววบางอย่างที่เหมือนกันไม่ผิดเพี้ยนกลับฉายสะท้อนเงาของกันและกันอยู่ลึกๆ
แววตาของปีศาจชั้นสูง...ที่กำลังรื่นรมย์กับเกมรบและการเข่นฆ่า!
เพียงกะพริบตา ร่างบางที่ถือดาบก็กระโจนเข้าฟาดฟันกับร่างสีทองปราดเปรียว เขี้ยวเล็บของร่างสีทองเรียกเลือดออกมาจากร่างบางของสาวน้อยได้ไม่เบานัก แต่คมดาบของผ่าปฐพีก็ทำให้ขนฟูที่สะท้อนแสงจันทร์เป็นประกายนั้นย้อมด้วยสีแดงฉานไปไม่น้อยเช่นกัน
รังสีแห่งการฆ่าฟันที่รุนแรงปลดปล่อยออกมาอย่างปราศจากการยับยั้ง จากทั้งสองร่างที่คงลืมไปแล้วถึงสาเหตุของการต่อสู้ครั้งนี้ มีเพียงความตื่นเต้นสนุกสนานที่ได้ประมือกับศัตรูแปลกหน้ากระตุ้นเร้าสัญชาติญาณของกันและกันให้เดือดพล่าน....สัญชาติญาณของปีศาจ!
ความรุ่มร้อนแผ่ขยายออกมาครอบคลุมบรรยากาศจนน่าอึดอัด ไอสังหารรุนแรงบีบรัดจนแทบจะสัมผัสได้อย่างชัดเจน แต่กลับไม่มีนักเรียนในป้อมคนไหนตื่นขึ้นมาชมการต่อสู้ครั้งนี้
ใครบางคนกำลังกางเขตแดนอาคมครอบไว้?
.............................................................
ร่างสูงของฮาร์น อีวิล โอดินยืนหยัดอยู่ริมระเบียง ดวงตาสีอำพันทองจับอยู่ไม่คลาดกับสองร่างที่กำลังประมือกันอย่างสูสี ไม่มีใครยอมแพ้ใครนั่น
ในมือของยมทูตหนุ่มคือเงามัจจุราช...คทาด้ามดำขลับที่มีปลายเป็นรูปจันทร์เสี้ยวสีนิล กึ่งกลางเป็นลูกแก้วจันทราสีทองส่องประกายรับกับดวงตาผู้เป็นเจ้าของ มีปลายพู่สีดำสนิทประดับหินเลือดห้อยอยู่ ...คทามนต์ดำที่สร้างจากอาคมของปีศาจชั้นสูงในราชวงศ์เกรเดเวลแห่งเดมอส
กลิ่นไอเวทลี้ลับของปีศาจแผ่ซ่านในบรรยากาศอย่างเงียบงันเมื่อเขตอาคมก่อตัวขึ้น อาณาเขตของทะเลทรายสีทองกว้างใหญ่แผ่ไกลสุดสายตาปรากฏขึ้นชั่วแวบ หากร่างทั้งสองที่กำลังสนใจกับการต่อสู้ตรงหน้าที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะเลิกรานั้นคงไม่ทันสังเกตเสียด้วยซ้ำ
คทาที่สร้างจากหัตถ์เหล่าเชื้อพระวงศ์แห่งเดมอสกำลังแผลงฤทธิ์...เพื่อปกป้องสายเลือดแห่งเกรเดเวลทั้งสองที่มาห้ำหั่นกันเองคู่นั้น!
ไอทมิฬจากธิดาแห่งความมืดที่แผ่ออกมาเหมือนจะผสานเข้ากับตาข่ายแสงจันทร์ที่กางรอบร่าง หมาป่าสีทอง จนเจ้าของพลังทั้งสองอดรู้สึกประหลาดใจไม่ได้
ยมทูตหนุ่มไม่อาจเข้าไปขัดขวางการต่อสู้...ที่เขาก็รู้ดีว่ามันเป็นการประลองฝีมืออย่างที่เผ่าพันธุ์ปีศาจล้วนชื่นชอบ จึงทำได้แต่กางอาณาเขตเพื่อประคองพลังชีวิตไม่ให้ทั้งคู่ต้องบาดเจ็บหนัก หากพลังที่รุนแรงของสองสาวก็เล่นเอาเขาเหงื่อตก....เพราะต้องกางอาณาเขตที่แข็งแกร่งพอที่จะลดทอนจิตสังหารและไอปีศาจของทั้งคู่ไปพร้อมๆกับการประคองพลังชีวิตให้ได้ในคราวเดียว
ในมือของร่างบางคือดาบผ่าปฐพี ที่เจ้าตัวถือไว้มั่น ก่อนจะเงื้อดาบขึ้นสูงพร้อมกับกระโจนลงมายังร่างสีทอง หมายจะทุ่มกำลังทั้งหมดมากับดาบเดียวเพื่อเผด็จศึก
พริบตานั้นร่างสีทองถลันหลบวูบไปด้านข้าง ทำให้ร่างบางที่ฟันมาเต็มแรงเสียหลักกะทันหัน
เท้าทั้งสี่ดีดตัวโดยใช้กำแพงป้อมเป็นฐาน ก่อนจะวกกลับมาจู่โจมอย่างรวดเร็ว
ดวงตาสีแดงปนทองฉายรังสีแห่งการฆ่าฟันประสานกับดวงตาสีน้ำตาลที่ยังไม่ยอมแพ้
เขี้ยวเล็บคมกริบหมายจะเรียกเลือดออกมาจากร่างบางที่กุมดาบตรงหน้า
เปรี๊ยะ!
เสียงเขตอาคมถูกทำลาย ก่อนที่พายุหิมะจะพัดมาแทนที่เขตแดนแห่งผืนทรายเมื่อครู่
วีสกาย่า!
....................................................................
เจ้าชายแห่งคาโนวาลสัมผัสได้ถึงรังสีสังหารรุนแรง ก่อนที่จะเข้ามาพบภาพที่ทำให้หัวใจเกือบหยุดเต้น
ไอ้ตัวยุ่งของเขาที่โชกเลือดไปแทบทั้งตัวกำลังปะทะกับหมาป่าสีทองตัวใหญ่ซึ่งบาดเจ็บหนักเช่นกัน!
โร เซวาเรส ขอทานแห่งทริสทอร์กับคิล ฟีลมัส นักฆ่าแห่งซาเรส เสนาธิการฝ่ายขวาและผู้คุ้มกฏคนปัจจุบันซึ่งคงจะรู้สึกถึงรังสีการฆ่าและไอเวทย์ประหลาดโผล่มาจากริมระเบียงอีกด้าน พวกมันเห็นภาพนั้นเช่นเดียวกับเขา แต่ก่อนที่ทั้งหมดจะได้ลงมือช่วยเหลือ กลับปะทะกับเขตอาคมขององครักษ์จากเดมอสเข้าอย่างจัง
แกทำบ้าอะไรวะ ฮาร์น ช่วยเฟรินมันสิ
คิลตะโกนลั่นใส่ยมทูตที่ยังยืนกุมคทาเอาไว้ แต่ดวงตาสีอำพันทองที่เคยอบอุ่นนั้นกลับฉายแววดุดันอย่างน่ากลัว เหงื่อผุดพรายขึ้นบนดวงหน้าคมเข้มจนแทบโชก แสดงถึงการใช้พลังเวทมหาศาลไปเพื่อกางเขตแดน ริมฝีปากที่มักแย้มรอยยิ้มรื่นเริงอยู่เสมอเม้มสนิท ก่อนจะกัดฟันพูดด้วยเสียงหนักๆ
อย่ามายุ่งเป็นอันขาด!
พวกเขาร้อนใจแทบคลั่ง แต่เจ้าหมอนั่นมันกลับไม่อธิบายอะไรเลย เหมือนจะทุ่มเทสมาธิทั้งหมดไปกับการกางเขตแดนตรงหน้า ขณะที่การต่อสู้เริ่มรุนแรงยิ่งขึ้นทุกที
ทันทีที่เฟรินเสียหลัก หมาป่าสีทองกลับกระโจนเข้ามาหมายขย้ำร่างบางตรงหน้า
คทาพิพากษาปรากฏบนมือเขาโดยอัตโนมัติ ในหัวสมองว่างเปล่า มีเพียงภาพของไอ้ตัวยุ่งตรงหน้า...คนที่เขาจะต้องปกป้องให้ได้....
พลังเวทของพ่อมดปีศาจแห่งคาโนวาลปะทะเข้ากับเขตแดนของยมทูตแห่งเดมอสเต็มแรง!
อาณาเขตทะเลทรายสีทองพลันหายวับ มีเพียงสีขาวโพลนของน้ำแข็งและพายุหิมะเข้าแทนที่...
ไอซ์ วอลล์!
กำแพงน้ำแข็งผุดขึ้นตระหง่านหมายเป็นเกราะปกป้องร่างบางที่โชกเลือดนั่น แต่ทันทีที่ร่างสีทองพุ่งเข้าใส่ ปราการน้ำแข็งก็เหมือนกับจะละลายเมื่อกระทบตาข่ายแสงจันทร์ที่กางล้อมรอบ หากนั่นเท่ากับช่วยซื้อเวลาให้ร่างบางของคนที่เขาเป็นห่วงลุกขึ้นมาตั้งตัวรับการโจมตีต่อได้
ร่างสูงของยมทูตที่ถูกทำลายอาณาเขตหันมาเผชิญหน้ากับเจ้าชายแห่งคาโนวาล ดวงตาสีอำพันทองคู่นั้นดูแปลกไป เขารู้สึกไปเองหรือเปล่าว่าหมอนี่กำลังพยายามปกป้องหมาป่าสีทองตัวนั้นอยู่ด้วยแววตาแบบเดียวกับเขา...ยามที่ปกป้องเจ้าตัวยุ่งนั่น..
เงาอสรพิษ!
เงาดำทมิฬค่อยๆแผ่ขยายออกจากคทาในมือยมทูต...เหมือนกับควันบางเบา แต่เมื่อสัมผัสมันกลับหดตัวพันเป้าหมายราวกับมีชีวิต เงาดำเลื้อยรัดร่างของพ่อมดปีศาจไว้แน่นจนไม่สามารถถือคทาได้
นักฆ่าฉวยโอกาสที่ยมทูตมัวแต่จัดการกับคาโลใช้ความเร็วหายวับไปโผล่เบื้องหลัง มือกระตุกประจุไฟฟ้าพันรอบคอแล้วกระชากอย่างแรง หมายจะหยุดยั้งเพื่อนที่กำลังมีอาการแปลกประหลาดไปให้ได้ แต่ความเร็วของยมทูตผู้ใช้เวทย์แห่งเงากลับเหนือกว่า ทิ้งให้คิลพบแต่ความว่างเปล่าในมือ
พร้อมๆกันนั้นคาโลก็ดิ้นหลุดจากอสรพิษเงาสำเร็จ ทั้งสองจึงหันมาเผชิญหน้ากับยมทูตที่เริ่มฟื้นคืนพลังหลังจากใช้ไปกับการกางเขตอาคมเมื่อครู่อย่างหนักใจ
...ปกติมันก็เก่งมากอยู่แล้ว ถ้ามันเอาจริงพวกเขาจะเข้าไปช่วยเฟรินได้หรือเปล่าก็ไม่รู้....
...แปลก ทั้งๆที่มันเป็นองครักษ์ของเฟรินที่จ้าวปีศาจส่งมา แต่ทำไมมันถึงกลับทำเหมือนอยากจะช่วยเจ้าหมาป่านั่นด้วย....
ความประหลาดใจที่ผุดขึ้นมาทำให้อยากจะเอ่ยปากถามยมทูตตรงหน้า แต่ไม่ทันไร เสียงระเบิดจากการปะทะก็ดึงความสนใจของคนทั้งสามไปที่คู่ต่อสู้ในตอนแรกเสียก่อน
................................................................
ร่างสีทองหลบจากแรงฟันของดาบผ่าปฐพีที่เป็นต้นเหตุให้พื้นระเบียงที่ถูกคมดาบฟาดแตกละเอียดเป็นทางยาว แต่ติดกับขุมพลังที่พุ่งเข้าใส่ทั้งซ้ายขวาจากฝีมือขอทานแห่งทริสทอร์
...ตาข่ายแสงจันทร์อาจคุ้มกันร่างได้ แต่ก็ใช่ว่าจะปราศจากบาดแผล โดยเฉพาะเมื่อไม่ใช่คืนเพ็ญ...อย่างคืนนี้...
ร่างของยมทูตสะอึกเข้าไปหมายจะช่วยหมาป่าสีทอง แต่ติดที่มีคิลกับคาโลพัวพันอยู่ ดวงตาสีอำพันฉายแววร้อนใจปนเกรี้ยวกราดอย่างยากที่จะเห็นสำหรับยมทูตอารมณ์ดีในสายตาเพื่อนฝูง
ดาบผ่าปฐพีฟันกระหน่ำมาอีกครั้ง ร่างสีทองเสียหลักเล็กน้อย แม้จะหลบได้ฉิวเฉียด แต่เท้าหลังข้างหนึ่งก็โชกเลือดจนชุ่ม
หมาป่าสีทองที่ใช้ขาหลังไม่ถนัดเพราะบาดแผลเมื่อครู่เคลื่อนไหวได้ช้าลง ขุมพลังมหาศาลที่ถูกปล่อยจากมือของโรจึงพุ่งถลาเข้าใส่ร่างอย่างหมายจะเอาชีวิต
ดวงตาสีอำพันของยมทูตเบิกกว้างราวกับจะคลุ้มคลั่งไปแล้ว หัวใจเหมือนหยุดเต้นในชั่วเสี้ยววินาที...ที่เขาเอื้อมมือไปไม่ทัน
เปรี้ยง!
งูสองหัวพุ่งเข้าปะทะกับขุมพลังมหึมาที่หมายร่างหมาป่าสีทองตัวนั้น ก่อนจะสะท้อนกลับไปยังเจ้าของเวททั้งสองที่ถูกแรงกระแทกกลับจนล้มลงทั้งคู่
ร่างหมาป่าสีทองนอนหมอบอยู่กลางลาน นัยน์ตาสีทองกระจ่างไม่ต่างอะไรจากดวงจันทร์กลางฟ้ามองไปยังผู้ช่วยชีวิตด้วยแววเห็นใจแกมเวทนา....เวทนาในความโชคร้ายของบุรุษที่ยืนงุนงงอยู่เบื้องหน้า...ซึ่งเกิดขึ้นในทันทีที่ได้พบกับเธอ...
เสียงเหยี่ยวกรีดก้องอยู่ในอากาศก่อนจะกระพือปีกร่อนลงมาเกาะยังไหล่ของผู้สืบสายเลือดแห่งสัตย์สาบานต้องคำสาป
ลูคัส ซาโดเรีย ผู้วิเศษแห่งทริสทอร์!
.............................................................
นี่มันเรื่องอะไรกัน หา!
เสียงตวาดของลอเรนซ์ ดอร์น นักบวชแห่งแอเรียส ที่วิ่งตามหลังเพื่อนคู่หูมาติดๆดังขึ้นทำลายความเงียบหลังจากเหตุการณ์ปะทะกันเมื่อครู่ระหว่างคนจากทริสทอร์ทั้งสอง
ดวงตาสีอมิธิสต์ที่ตอนนี้ดุจัดกว่าเดิมหลายเท่ากวาดตามองความเสียหายบนลานระเบียงนั้นเท่าที่พอจะเห็นได้ในแสงตะเกียงริบหรี่ จากนั้นจึงจ้องกราดไปยังผู้อยู่ในเหตุการณ์ทีละคน ก่อนจะหยุดอยู่ที่ร่างหมาป่าสีทองชุ่มเลือดที่นอนหมอบอยู่กลางลาน
นักบวชผมทองชะงักไปเมื่อสบดวงตาสีประหลาดของหมาป่านั่น ความรู้สึกไม่ไว้วางใจที่เกิดขึ้นกระทันหันทำให้นิ้วเลื่อนไปแตะมีดสั้นที่พกไว้โดยอัตโนมัติ หากร่างสูงของยมทูตแห่งเดมอสก้าวเข้ามาขวางร่างสีทองที่บาดเจ็บนั้นไว้เสียก่อน
ชายหนุ่มถอดเสื้อตัวนอกออกก่อนจะยอบตัวลงนั่งข้างๆ มือใหญ่คลี่เสื้อคลุมลงบนร่างนั้นอย่างนุ่มนวล สัตว์ป่าแสนสวยที่ตอนนี้ดูเชื่องผิดจากตอนแรกลิบลับค่อยหันหัวใหญ่ของมันไปซบบ่าฮาร์น พลางเลียหน้าชายหนุ่มอย่างรักใคร่...
...หมานี่ของนายเองหรอกเหรอ
เฟรินที่เดินลากดาบกลับมาสมทบกับคาโล คิล และโร ถามขึ้นด้วยเสียงหอบๆ แม้ตัวจะยังเต็มไปด้วยบาดแผลที่มีเลือดซึม และแขนก็ดูจะขัดไปข้างหนึ่ง แต่ก็เห็นได้ชัดว่าไม่เป็นอะไรมากนัก ดวงตาสีฟ้าสวยที่เหลือบมามองคนพูดอย่างเป็นห่วงในตอนแรกจึงค่อยคลายความกังวลลง
พระจันทร์ครึ่งดวงที่ซ่อนตัวเบื้องหลังเมฆสีนิลมาพักใหญ่ราวกับไม่ปรารถนาจะเห็นภาพการประลองอันดุเดือดเบื้องล่างเริ่มขยับเยื้องกรายออกพ้นหมู่เมฆ ลานที่เต็มไปด้วยร่องรอยการต่อสู้เมื่อครู่จึงค่อยสว่างขึ้นอย่างช้าๆ
ท่ามกลางแสงสลัวราง ร่างหมาป่าสีทองเหมือนจะซ้อนทับกับร่างของมนุษย์ กรอบเค้าโครงเส้นสายที่อ่อนช้อยนั้นคล้ายจะเป็นร่างของสตรี...สตรีที่งดงามราวสลักเสลา...
และเมื่อดวงจันทร์กลับทอแสงกระจ่างอีกครั้ง คนทั้งหมดที่มองอยู่ก็แทบขยี้ตาตัวเอง เมื่อพบว่าตรงที่ที่หมาป่าสีทองเคยนอนหมอบ กลับมีร่างของสาวน้อยคนหนึ่งนั่งอยู่!
เสื้อคลุมตัวโคร่งยิ่งเน้นให้ร่างนั้นดูบอบบางลงไปอีก ผมสีทองหยักสลวยยาวลงมาคลุมสะโพก ยามที่สาวน้อยนั่งอยู่อย่างนี้ ปลายผมส่วนหนึ่งจึงเรี่ยลงไปกองอยู่บนพื้นหิน ให้เจ้าตัวต้องยกมือเรียวเสยไปไว้เบื้องหลังอย่างรำคาญ ทำเอาสาบเสื้อที่คลุมทับไว้ลวกๆ นั้นแหวกออกเป็นช่อง อวดผิวผ่องนวลเนียนที่เหมือนจะซับแสงเรื่อเรืองของจันทราอยู่ภายใต้ จนคนที่ทันได้เห็นภาพนั้นหน้าขึ้นสีไปตามๆกัน
มือใหญ่ของยมทูตหนุ่มซึ่งอยู่ใกล้ที่สุดจึงรีบติดกระดุมด้านหน้าให้สาวน้อยที่ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเป็นสาวเลยนั้นอย่างรวดเร็ว สร้างความโล่งอกแก่ผู้ที่ยืนอยู่รายรอบ ให้ไม่ต้องรีบเบือนหน้าไปทางอื่นที่ไม่มีร่างของผู้ต้องสงสัยนั่งอยู่
ร่างบางก้มลงมองมือใหญ่ที่ช่วยติดกระดุมให้อย่างงงๆ ก่อนจะยิ้มกว้างออกมา พลางโผเข้ากอดชายหนุ่มอย่างสนิทสนม เป็นเหตุให้ผิวสีน้ำผึ้งสวยของฮาร์นต้องแดงระเรื่อตามคนอื่นๆไปด้วยอีกราย ความยินดีทำให้รอยยิ้มกระจ่างสดใสที่ยังติดค้างอยู่บนดวงหน้ามอมแมมหากได้ส่วนงดงามราวรูปปั้นแจกจ่ายเลยไปยังกลุ่มคนแปลกหน้าที่มองมา ดวงตาสีทองกระจ่างมองสบดวงตาหลายคู่ที่มีแววสงสัย ไม่ไว้ใจ แต่กลับไม่มีรอยหวาดกลัวเจืออยู่แม้แต่น้อยนั้นอย่างสบอารมณ์....
...พวกเอเดนนี่ก็ไม่ยักกลัวมนุษย์หมาป่าไปกันหมดอย่างที่เคยได้ยินมาหรอกนะ...
เท้าทั้งสองที่ชุ่มเลือดไปข้างหนึ่งยันตัวลุกขึ้น เผยช่วงขาเพรียวผ่องที่ต่างจากสีคล้ำจัดของดวงหน้า มือ และเท้าจนน่าแปลกใจ เลือดที่ซึมจากบาดแผลทำให้สีคล้ำๆพวกนั้นหลุดออกไปบางส่วน จนเห็นผิวขาวใสที่คงเป็นสีผิวจริงๆของเจ้าตัวได้อย่างชัดเจน
สาวน้อยกวาดตามองกลุ่มคนตรงหน้าอย่างรำคาญใจ พวกมนุษย์ที่เอาแต่ทำท่าเหมือนกับว่ามีหลายอย่างที่อยากถามเสียเหลือเกิน แต่กลับไม่มีใครยอมปริปากอะไรออกมาสักคำ ดวงตาสีทองเริ่มส่อแววหงุดหงิด แล้วเสียงหวานใสก็เอ่ยขึ้นมาเป็นประโยคแรก...ที่ทำเอาทุกคนอึ้งไปกว่าเดิม
พวกเจ้ามีอะไรสงสัยก็ถามมาเลยสิ มัวเงียบอยู่ได้ ไม่มีปากเหรอ!
...............................................................
ผู้หญิงคนนั้นเป็นปีศาจ
เสียงอธิบายของโร เซวาเรสดังขึ้นในห้องของหัวหน้าชั้นปีที่ตอนนี้ค่อนข้างแคบไปถนัดใจ เมื่อมีคนอัดเข้ามาในห้องถึงเจ็ดคน แถมแต่ละคนก็ใช่ว่าจะตัวเล็กๆเลย
ผู้เป็นเป้าการสนทนาขณะนี้กำลังอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำพลางฮัมเพลงอย่างเพลิดเพลิน เสียงหวานใสและเสียงน้ำที่ได้ยินลอดออกมานั้นพาจินตนาการให้เตลิดเอาง่ายๆ ชายหนุ่มส่วนใหญ่ในห้องจึงพยายามตั้งสมาธิอยู่กับคำบอกเล่าของขอทานผู้รอบรู้
หลังจากหายตกตะลึงกับการกลายร่างของสาวน้อยตรงหน้าแล้ว นักบวชแห่งแอเรียสจึงเริ่มต้นจะสอบสวนจำเลย แต่เจ้าชายแห่งคาโนวาลขัดขึ้นว่าควรจะหาสถานที่ที่สะดวกกว่านี้ เพราะคงต้องทำแผลให้ทั้งผู้บุกรุกและเฟริน อีกอย่างการที่หญิงสาวเป็นคนรู้จักของฮาร์นก็น่าจะรับประกันความปลอดภัยได้ชั้นหนึ่ง ทุกคนจึงพากันอพยพมายังห้องของสามสหายที่ค่อนข้างกว้างกว่าห้องคนอื่นๆ
สาวน้อยแปลกหน้าเดินไม่ค่อยถนัดเพราะได้รับบาดเจ็บที่เท้าจากการต่อสู้ที่เพิ่งผ่านไป ยมทูตหนุ่มจึงช่วยอุ้มมาส่งจนถึงห้องเพราะทนเห็นคนกัดฟันเดินขโยกเขยกไม่ได้ เพื่อที่ว่าแม่สาวน้อยจะได้ร่ำร้องขออาบน้ำในทันทีที่เข้ามาจนสุภาพบุรุษทั้งหลายไม่อาจปฏิเสธ แต่ถึงจะอยากปฏิเสธก็คงไม่ทัน เพราะพอเห็นห้องน้ำปุ๊บ เจ้าหล่อนที่เพิ่งถูกวางลงก็คว้าห่อผ้าถลาเข้าไปเรียบร้อยแล้วค่อยตะโกนบอกคนข้างนอก ก่อนที่เสียงน้ำกระทบพื้นและเสียงฮัมเพลงจะดังขึ้นให้คนอื่นๆมองหน้ากันแล้วต่างหลบตาไปคนละทิศละทาง
ไอ้นั่นน่ะฉันรู้แล้ว จะมีคนที่ไหนแปลงเป็นหมาได้ล่ะ
แกไง
เฟรินที่เพิ่งขัดคอโรไปหยกๆ หันมาถองศอกใส่คิลที่สอดขึ้นมาได้จังหวะพอดี ทำให้บางคนที่รู้อดีตอันเคยต้องแปลงร่างเป็นหมาน้อยมาระยะหนึ่งของเจ้าตัวกลั้นหัวเราะกึกกัก
อันนั้นไม่นับโว้ย จะว่าไปก็ความผิดของพวกแกแหละที่ดันไปเอาส่วนผสมเพี้ยนๆมาแก้อาคมกลายร่างให้ฉัน
เจ้าหญิงหัวขโมยแยกเขี้ยว แล้วโบ้ยความผิดไปให้นักฆ่าที่เพิ่งโดนศอกเสยไปกับเจ้าชายที่กำลังทำแผลให้ตัวเองอยู่ข้างๆ
แล้วตกลงผู้หญิงคนนั้นเป็นคนที่แปลงร่างเป็นหมาป่า หรือหมาป่าที่แปลงร่างเป็นคนกันแน่ล่ะ
นักฆ่าผู้ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องเผ่าพันธุ์ปีศาจถามขึ้นลอยๆ ให้เจ้าหญิงจากแดนปีศาจที่เคยถูกกรอกหูจากโกโดมเรื่องนี้มาก่อนได้โอกาสถากถางพร้อมคุยทับไปในคราวเดียว
แหม...ทำไมนายโง่ยังงี้เนี่ย เจ้าหล่อนก็เป็นทั้งคนทั้งหมาป่านั่นแหละ พวกมนุษย์หมาป่าไง
คนสงสัยเหลือบมองไปทางโรเพื่อขอคำยืนยัน ขอทานจากทริสทอร์จึงพยักหน้ารับก่อนให้ข้อมูลเพิ่มเติม
ใช่ จะร่างมนุษย์หรือร่างหมาป่าก็ถือป็นร่างจริงของมนุษย์หมาป่าทั้งคู่ จริงๆแล้วมีอีกร่างหนึ่งด้วยคือร่างครึ่งคนครึ่งหมาป่า ปีศาจเผ่านี้นี้เรียกตัวเองว่าเผ่าหมาป่า มีถิ่นที่อยู่อาศัยบริเวณแคว้นจีโนวาขึ้นไปทางตะวันตกเฉียงเหนือของเดมอส
คนที่ฟังอยู่อดทึ่งกับความรอบรู้ของขอทานผู้ได้สมญาว่าห้องสมุดเคลื่อนที่ไม่ได้ นักบวชผมทองซึ่งนั่งขมวดคิ้วเงียบอยู่นานตั้งแต่ที่เข้ามาในห้องแล้วจำเลยแปลกหน้าก็เผ่นเข้าไปอาบน้ำสบายใจเฉิบ ไม่ทันได้ให้จับตัวมาซักฟอกเรื่องที่เกิด ชายหนุ่มจึงเอ่ยขึ้นด้วยเสียงหงุดหงิดตามเคย
แล้วเรื่องต่อสู้จนระเบียงพังนั่น อธิบายมาซิ
เฟรินยิ้มแหยๆ ก่อนตอบอาจารย์รุ่นพี่
คือ...ทีแรกเจ้าหล่อนพุ่งเข้าชาร์ตฮาร์นมันล้มไปน่ะฮะ ไอ้ผมไม่รู้ว่าเป็นคนรู้จักกัน ก็เห็นๆอยู่ว่ามันจะโดนหมาป่าขย้ำอยู่รอมร่อ แถมตัวมันเองก็ดันนอนนิ่งเงียบไม่กระดุกกระดิกซะอีก เลยคว้าดาบฟันไปกะจะช่วย...ง่า...ทีนี้พอเริ่มสู้กันแล้วมันเพลินไปหน่อย...รู้สึกตัวอีกทีระเบียงก็เละแล้ว แฮ่ๆ ไอ้ฮาร์น! แกเองก็ไม่รู้จักบอกคนอื่นซักคำว่าเป็นเพื่อนแก แถมเป็นสาวน้อยน่ารักออกอย่างนั้น รู้งี้ฉันไม่ช่วยแกให้โง่หรอก
เจ้าตัวแสบอธิบายครอก แล้วจัดการโยนความผิดไปให้ยมทูตที่นั่งถอนหายใจเฮือกๆอยู่ริมหน้าต่าง
หือ...
ยมทูตหันมามองอย่างงงๆ ทำเอาเจ้าหญิงหัวขโมยถอนหายใจตามอย่างปลงอนิจจัง
ไม่ได้ฟังเลยสิท่า ใจลอยไปถึงไหนล่ะแก...อ๊ะ...หรือว่า...
เจ้าตัวดีดนิ้วเปาะ แล้วโพล่งขึ้นทันควัน
แม่สาวนั่นเป็นแฟนเก่าแกที่ทิ้งไว้ที่เดมอสวะ อย่างนี้นี่เอง....มิน่า...
ไม่ใช่!
ยมทูตหนุ่มเผลอขึ้นเสียงอย่างลืมตัว เจ้าตัวคนพูดจึงได้แต่เหลียวไปทางประตูห้องน้ำที่ยังปิดอยู่ แล้วค่อยหันมาอธิบายเรียบๆ
เป็นญาติ เอ่อ...ก็เหมือนน้องสาวน่ะ โตมาด้วยกัน ทีนี้ไม่ได้เจอกันนานมาก...
ประโยคถัดไปชักเริ่มตะกุกตะกัก ก่อนคนตอบจะถอนหายใจอีกเฮือก ทำให้คนมีประสบการณ์โชกโชนเรื่องจีบสาวที่มองอยู่อดคิดไม่ได้....หน้ามันไม่ยักบอกว่าคิดกับเค้าเป็นน้องสาวเลยนี่หว่า...
เดมอส!?
เสียงแสดงความสงสัยจากบุคคลสองคนที่เหลือในห้องซึ่งไม่รู้ฐานะที่แท้จริงของยมทูตมาก่อนดังขึ้น ให้แม่เจ้าหญิงสองดินแดนนึกขึ้นมาได้ว่าหลุดปากอะไรออกไป เจ้าตัวรีบตะครุบปากตัวเองพลางกลอกตาไปมา เจ้าชายคาโลที่กำลังใช้เวทรักษาบาดแผลจึงหันไปมองนักบวชกับซาตานที่ทำท่าเหมือนจะคว้าคอไอ้ตัวยุ่งขึ้นมาเขย่าถาม ก่อนจะช่วยตอบแทนให้เสียเอง
ฮาร์นเป็นองครักษ์จากเดมอสที่จ้าวปีศาจเอวิเดสส่งมาอารักขาเจ้าหญิงเฟลิโอน่าครับอาจารย์ มหาปราชญ์เลโมธีรับทราบเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว
ฮาร์น อีวิล โอดิน เดอะ ไฮ วอริเออร์ แอนด์ เดท คีปเปอร์ ออฟ เดมอส ครับผม ยินดีที่ได้รู้จักอีกรอบ
ยมทูตที่หันมายิ้มเผล่แทนการนั่งถอนหายใจอย่างเมื่อครู่กล่าวแนะนำตัวก่อนจะโค้งให้ พวกเพื่อนๆที่ชินกับนิสัยเด็กๆและอารมณ์ขึ้นๆลงๆของมันไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่ แต่อาจารย์หนุ่มทั้งสองยังอึ้งอยู่ ที่จู่ๆก็เพิ่งรู้ว่าตัวเองมีลูกศิษย์ชาวปีศาจหลงมาให้สอนโดยไม่ทันรู้ตัว แถมยังเป็น...เอ๊ะ...ตะกี้เจ้านี่มันว่าเป็นอะไรนะ....
ง่า...รุ่นพี่ฟังไม่ผิดหรอกฮะ ฮาร์นมันเป็นเดท คีปเปอร์ ก็...ยมทูตนั่นแหละ
เฟรินช่วยตอบเหมือนจะรู้ความในใจของรุ่นพี่ แต่ปฏิกิริยาที่ได้รับกลับต่างกันโดยสิ้นเชิง นักบวชแห่งแอเรียสหน้าบึ้งหนักกว่าเก่า คิ้วขมวดจนแทบจะผูกกันได้ เอ่อ...อันนี้ไม่ค่อยแปลกหรอก ก็พี่แกเป็นนักบวชนี่หว่า... พอรู้ว่านักเรียนรุ่นน้องตัวเองเป็นยมทูตที่สายงานตรงข้ามกันแบบสุดๆไปเลย ไม่เรียกคัมภีร์มนต์สวรรค์ขึ้นมาจัดการก็ดีเท่าไหร่แล้ว...
เจ้าตัวยุ่งประจำป้อมลอบหันไปพิจารณารุ่นพี่อีกคน ซาตานแห่งทริสทอร์ยังมีสีหน้าประดับด้วยรอยยิ้มอยู่เหมือนเดิม แต่ดวงตาหลังแว่นกรอบทองดูจะเป็นประกายวาววับ เหมือนเจอคู่มือที่น่าสนุกเข้าให้แล้ว...กรรมของป้อมอัศวิน...ขืนให้ยมทูตสู้กับซาตาน...มีหวังป้อมพังแน่...แล้วใครต้องคิดแผนหาเงินมาซ่อมถ้าไม่ใช่ตูฟะ....หัวขโมยกุมขมับ ชักรู้สึกอยากสละตำแหน่งเสนาธิการฝ่ายซ้ายขึ้นมารำไร
เอ่อ...ว่าแต่ทำไมรุ่นพี่ถึงเข้ามาช่วยสาวน้อยหมาป่านั่นได้ล่ะฮะ
เฟรินพยายามเบี่ยงประเด็นไปเรื่องอื่นที่ไม่ใช่เรื่องยมทูตจากเดมอส แต่ดูท่าว่าจะเป็นการตัดสินใจที่ผิดไปถนัด เพราะคราวนี้รอยยิ้มตอบของลูคัสกลับเย็นเยียบจนน่ากลัว เย็นยิ่งกว่าไอ้เจ้าชายน้ำแข็งที่เธอเคยคุ้น ไอทมิฬเหมือนจะแผ่ออกมาจากรอบตัวให้รู้สึกได้จางๆ
ฉันก็อยากรู้เหมือนกันนั่นแหละ เฟรี่
สายตาของอดีตซาตานประจำป้อมเล่นเอาเฟรินแทบขนหัวลุก เพราะนอกจากมันจะอ่านไม่ออกแล้ว...ลูกแก้วสีนิลนั้นยังดูราวกับหลุมดำที่ไร้ก้นบึ้ง...
เดี๋ยวนายมีอะไรก็ถามๆไปเถอะน่า ลูคัส
เสียงดุๆของรุ่นพี่ลอเรนซ์ดังขึ้นเหมือนตัดรำคาญ แต่กลับทำให้ไอซาตานที่เริ่มคละคลุ้งจางหายไปอย่างรวดเร็วอย่างน่าประหลาด รุ่นพี่ลูคัสกลับมาเป็นรุ่นพี่คนเก่าที่มีรอยยิ้มใจดีประดับบนดวงหน้าเหมือนเดิม
นั่นสินะ ลอรี่
เฟี้ยว!
ประกายสีเงินสะบัดวูบ ซาตานประจำป้อมจึงเบี่ยงหลบอย่างเคยชิน ปลายมีดจึงพุ่งตรงเลยไปยังองครักษ์จากเดมอสที่นั่งอยู่ด้านหลัง
ร่างที่กลายเป็นเป้าผงะนิดหนึ่งที่จู่ๆ ก็มีมีดร่อนมาโดยไม่ได้นัดหมาย นิ้วเรียวจึงคีบหยุดมีดไว้กลางอากาศโดยอัตโนมัติ
เกือบไปแล้ว เล่นอะไรอันตรายกันจัง นี่...คืนครับอาจารย์
เจ้าตัวเดินมาส่งมีดคืนให้ลอเรนซ์ ท่ามกลางสายตารอบข้างที่มองมาอย่างชื่นชมแกมทึ่ง นักบวชมองมีดในมือก่อนจะรับมาอย่างไม่ชอบใจนัก หากเมื่อเบือนหน้าไปทางอื่น ริมฝีปากที่เม้มสนิทนั้นกลับคลายรอยเคร่งเครียดลง
...ไม่เลว...เจ้ายมทูตจากเดมอสนี่ฝีมือน่าสนใจ....
ลูคัสที่มองเห็นอยู่จึงยิ้มพราย แล้วเอนไปพูดเบาๆกับนักบวชคู่หู
นายถูกใจฝีมือเจ้าเด็กเดมอสนั่นแล้วใช่ไหมล่ะ เอ...ฉันว่าฉันน่าจะไปฝึกวิธีรับมีดแบบนั้นมาบ้างนะ ลอรี่ อย่างน้อยกำแพงป้อมก็ไม่เป็นรอย แถมนายยังไม่ต้องไปซื้อมีดใหม่บ่อยๆอีกต่างหาก
ฉึก!
คราวนี้ปลายมีดสีเงินพุ่งไปปักที่ผนังห้องอย่างรุนแรงและแม่นยำ เฉียดหน้าซาตานที่เบี่ยงหลบเกือบไม่ทันไปแค่เส้นยาแดง
งั้นลองดูซิว่านายจะฝึกได้ก่อนหรือมีดฉันจะปักนายก่อนกันแน่ จำไว้ ถ้าไม่อยากตายอย่าเรียกฉันอย่างนั้นอีก ลูคัส!
....................................................................
ญาติฉัน!?
ใช่ นางเป็นพระญาติของเจ้าน่ะแหละ
เจ้าหญิงสองดินแดนที่เพิ่งรู้ตัวเองว่ามีญาติเพิ่มมาอีกคนเกาหัวแกรกๆ
ญาติทางไหนวะ ไหนแกช่วยอธิบายสาแหรกตระกูลแม่สาวนั่นให้ฉันฟังหน่อยซิ ดูท่าจะรู้จักเจ้าหล่อนดีเหลือเกินนี่
ฮาร์นมองหน้าคนที่พูดพลางทำตาวิบวับอย่างมีเลศนัย ก่อนจะถอนใจเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้สำหรับคืนนี้ จากนั้นจึงเริ่มอธิบายช้าๆ
นางเป็นท่านหญิงแห่งเผ่าหมาป่า มีศักดิ์เป็นหลานสาวของท่านเคานท์หมาป่าลูอิชแห่งจีโนวา บิดาคือท่านราอูลผู้เป็นน้องชายคนเดียวของท่านเคานท์ ส่วนมารดาของนางคือเจ้าหญิงเลวันน่าซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของท่านเอวิเดส...
อืมๆ พอเข้าใจ เอาเป็นว่าแม่เจ้าหล่อนกับพ่อปีศาจของฉันเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน
เจ้าหญิงหัวขโมยพยักหน้าหงึกๆ ก่อนจะขมวดคิ้ว
เอ๊ะ แต่นายบอกตอนแรกนี่ว่าแม่สาวนั่นเป็นญาตินาย มิหมายความว่าฉันกับนายก็เป็นญาติกันด้วยหรือไง
ยมทูตทำหน้าหน่ายๆ จากนั้นจึงชี้แจงให้
ข้าจะไปบังอาจอ้างตนเป็นสายเลือดแห่งราชวงศ์เกรเดเวลได้ยังไง ที่พูดน่ะหมายถึงนางเป็นญาติของข้าจริง แล้วก็เป็นญาติของเจ้าจริง แต่ข้ากับเจ้าไม่ใช่ญาติกันเลยไม่ว่าจะนับทางไหน เข้าใจหรือยัง
วะ...ใครจะไปตรัสรู้ แล้วท่านหญิงนี่เป็นญาติกับแกทางไหนล่ะ
หัวขโมยเริ่มหน้าบูด แต่ความอยากรู้ก็ทำให้เอ่ยปากถามต่อ
ท่านจ้าวปีศาจองค์ก่อนมีญาติสนิทเพียงคนเดียวเป็นน้องสาวต่างมารดา นางมีนามว่าเจ้าหญิงอาเดรีย เจ้าหญิงนางนี้แหละที่เป็นมารดาของท่านเลวันน่า ส่วนตัวเจ้าหญิงอาเดรียเองนั้นมีเชื้อสายของเผ่าเงาจันทร์ เพราะมารดาของนางเป็นพี่สาวของหัวหน้าเผ่าซึ่งเป็นทวดของข้าเอง...
โอ๊ย...พอก่อนๆ งงโว้ย! แกช่วยอธิบายให้มันเข้าใจง่ายๆกว่านี้หน่อยได้มั้ย
หัวขโมยที่ตอนนี้ชักมึนกับสาแหรกตระกูลของปีศาจเริ่มโวยวายจนคนเล่าต้องสรุปใจความลงในประโยคเดียว
พูดง่ายๆก็คือทวดของข้ากับทวดของนางเป็นพี่น้องกัน
เออ ค่อยยังชั่ว แค่นี้แหละ ทำเป็นไอ้โรมันไปได้ ตอบทีซะยืดยาว
เจ้าหญิงที่เริ่มจะเป็นโรคสมองรับความรู้ไม่ทันเอ่ยขึ้นอย่างโล่งอก พลางหันไปแขวะขอทานที่นั่งฟังอย่างตั้งใจอยู่ไม่ไกลนัก ดวงตาสีมรกตฉายแววฉลาดเฉลียวยังคงจดจ่อกับความรู้ใหม่ที่ยมทูตเป็นคนเล่า
อืม...งั้นฉันพอเข้าใจล่ะว่าทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงมีดวงตาสีทองเหมือนนาย ดวงตาที่มีแต่ปีศาจเผ่าเงาจันทร์เท่านั้นที่จะมีได้ ที่แท้ก็มีสายเลือดเผ่านายนี่เอง
อำพันคู่สวยหันมาสบดวงตาสีเขียวเหมือนแมวแสนรู้นั่นอย่างถูกอกถูกใจ
จนถึงตอนนี้เจ้าก็ยังทำให้ข้าทึ่งได้ไม่เปลี่ยนเลยนะ โร เซวาเรส บอกได้เลยว่าในจำนวนมนุษย์เอเดนที่ข้าเคยพบ เจ้าถือเป็นคนที่มีความรู้เกี่ยวกับเดมอสมากที่สุดคนหนึ่งทีเดียว
โรยิ้มน้อยๆแต่ไม่ตอบอะไร ยมทูตหนุ่มจึงเอ่ยต่อ
ในฐานะที่เจ้าทำให้ข้าประทับใจ เพราะงั้นข้าจะบอกเรื่องของเผ่าข้าให้ฟังเพิ่มอีกอย่าง ปีศาจที่มีสายเลือดของเผ่าเงาจันทร์จะต้องมาใช้ชีวิตร่วมกับสมาชิกในเผ่าจนถึงอายุสิบปี นี่เป็นกฎของเผ่า จากนั้นจึงจะสามารถแยกตัวออกไปได้ หรือถ้าอยากทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลความตายอยู่ที่เผ่าต่อก็ตามใจ แต่ต้องฝึกฝนเพิ่มเติมถึงจะมิสิทธิ์เลื่อนขึ้นเป็นยมทูต...
อ๋อ เพราะงี้เองแกถึงบอกว่าแม่สาวนั่นโตมาด้วยกันกับแก
คำพูดที่หัวขโมยสาวทะลุขึ้นกลางปล้องทำให้ชายหนุ่มเผลอถอนหายใจอีกรอบ ก่อนที่บรรยากาศจะเริ่มหดหู่ตามคนช่างเล่าที่ตอนนี้กลับเข้าโหมดพระเอกละครเศร้าไปแล้ว เจ้าชายแห่งคาโนวาลที่เพิ่งทำแผลให้เจ้าตัวยุ่งเสร็จก็ถามขึ้นมาเป็นประโยคแรก
แล้วท่านหญิงคนนั้นชื่ออะไร
เออ จริงด้วย เล่ามาตั้งนานแกยังไม่ได้บอกเลยว่าเจ้าหล่อนชื่ออะไร
เจ้าหญิงหัวขโมยช่วยถามซ้ำ สายตาทุกคู่ที่กำลังหันมามองฮาร์นเป็นตาเดียวทำให้ยมทูตหนุ่มถอนตัวออกจากภวังค์ เสียงห้าวทุ้มเอ่ยประโยคแรกอย่างแผ่วเบา ก่อนจะขานนามของสาวน้อยเต็มยศ
นางชื่อลูซีน...ลูซินดาเลีย เดอแคลร์ เดอะ เลดี้แวร์วูล์ฟ ออฟ จีโนวา!"
เรียกข้าเหรอ?
เสียงใสแจ๋วขานรับ ทันใดนั้นประตูห้องน้ำก็เปิดผาง เรียกสายตาทุกคู่ให้หันไปมองร่างบางที่ยืนอยู่ระหว่างกรอบประตูนั้นทันที
Create Date : 09 กุมภาพันธ์ 2549 |
Last Update : 9 กุมภาพันธ์ 2549 23:29:17 น. |
|
0 comments
|
Counter : 722 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|