อย่าลังเล เพราะถ้าลังเล จะกระโดดได้ไม่ไกลและไม่แรงพอ
Group Blog
 
All Blogs
 

"แด่ภาคีวรรณศิลป์"



วรรณศิลป์วรรณกรรมอันล้ำค่า
ร้อยศรัทธาหล้าสะเทือนเขยื้อนไหว
รวมความคิดจิตวิญญาณผสานใจ
เริ่มยุคใหม่แต่ละยุคปลุกผองชน

ผสมศัพท์ผสานเสียงร้อยเรียงชื่อ
เลื่องระบือลือระบิลสิ้นเวหน
จรรโลงโลกจำลองหล้าให้น่ายล
ประสิทธิ์ผลประเสริฐภพจบภูมิไตร

วรรณศิลป์วรรณกรรมค้ำจุนโลก
สะท้อนโศกสะท้านทรวงล่วงสมัย
ข้ามภพนั้นสู่ภพนี้ทวีวัย
วรรณศิลป์ฤาสิ้นไปในกาลกัลป์

เถิดบรรเลงเรียงถ้อยถักสร้อยศิลป์
ประดับผืนแผ่นดินดุจอินทร์สรรค์
ล้างวรรณะในศิลป์ให้สิ้นพลัน
สถิตวรรณศิลป์แท้แด่โลกา

"อิสราวลี"




 

Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2551    
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2551 23:01:01 น.
Counter : 335 Pageviews.  

มีแต่มัน.....

ร้าวระทมข่มจิต"ไม่คิดถึง"
กลับคะนึงตรึงใจ"ใฝ่ฝันหา"
เมื่อไรเล่าเจ้าจะเลิกร้าวอุรา
เลิกตัณหาบ้าทุกข์ยุคอัปรีย์

พ่อแม่เจ้าเขาหม่นกมลไหม้
ลูกจัญไรไร้จรรยาน่าบัดสี
ตามืดมัวตัวมืดมิด ผิด? ถูก? ดี?
สิ้นศักดิ์ศรีสกุลเสื่อมเอือมระอา

โอ้ลูกรักมักทิ้งความหยิ่งศักดิ์
เอาแต่รักมักชายไม่อายหนา
กี่คำกล่าวที่เจ้าเล่าออกมา
มีแต่มันไอ้ห่าพ่อล่ะเซง


๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๙




 

Create Date : 17 มีนาคม 2549    
Last Update : 17 มีนาคม 2549 15:24:53 น.
Counter : 302 Pageviews.  

คำหวาน

"คำหวาน"




แว่ว"คำหวาน" วางไว้ "ให้ใครหวัง"
สร้างพลังชีวิตลิขิตสมัย
ยินสำเนียงเสียงหวานมาผลาญใจ
จึงฝันใฝ่ฟุ้งเฟ้อละเมอเมา

ผู้คนมักหว่านถ้อยหวังร้อยจิต
หวังผูกมิตรติดตรึงเพื่อพึ่งเขา
หรือกระทั่งหวังจองตัวของเรา
หากหูเบาเขาคงคุมตะกรุมตะกราม

มองให้ดีดูให้แน่แท้หรือเท็จ
พินิจเสร็จให้ถ้วนถี่อย่าผลีผลาม
อย่าปลดปล่อยอารมณ์จนเกินงาม
พยายามยั้งใจเมื่อไม่ควร

เพียงคำหวานผ่านแผ่วแว่วเข้าหู
โฉมพธูรู้รักศักดิ์สงวน
หากคำหวานสะท้านใจให้เรรวน
โปรดอย่าด่วนปรวนแปรแพ้กลกาม


๑๗๐๒๒๕๔๙




 

Create Date : 17 มีนาคม 2549    
Last Update : 17 มีนาคม 2549 14:50:55 น.
Counter : 402 Pageviews.  

ชาติธรรม

ชาติธรรม

ธรรมชาติสร้างสรรค์ร้อยพันสิ่ง
คือความจริงความจำที่ทำอยู่
ธรรมชาติ ธรรมชน ธรรมนูญ์
สิ่งใดคู่โลกเราแต่เก่ามา?

ถ้าอยากอยู่เรื่อยไปใน"ธรรมชาติ"
อย่าวิวาทวาทะ ละตัณหา
อยู่อย่างธรรมนำใจใช้ปัญญา
พัฒนา"ชาติธรรม" ค้ำปวงชน


๑๕๐๓๒๕๔๙




 

Create Date : 17 มีนาคม 2549    
Last Update : 17 มีนาคม 2549 13:55:17 น.
Counter : 296 Pageviews.  

กวดวิชาพุทธศาสตร์

กวดวิชาพุทธศาสตร์

ก้าวเข้าสู่ประตูใหญ่ไปตามเพื่อน
คนกลาดเกลื่อนเต็มห้องสองคูหา
ทั้งเศร้าโศกสุขีมีนานา
ล้วนมุ่งมาแสวงทางสว่างใจ

คนทั้งหลายฝึกสงบสยบจิต
นั่งพินิจกายามีค่าไม่
นั่งคุมตนไม่ยึดติดฤทธิ์เดชใด
นั่งทำใจให้พิสุทธิ์หยุดราคี

ณ มุมหนึ่งคนไม่น้อยทยอยหลับ
เฝ้าคอยนับ แกะกระโดดโลดสุขี
หลงในฝันที่เลิศหรูทุกนาที
แต่ความจริงทุกข์ทวีทุกวันคืน

มุมที่สองไม่ใกล้ไม่ไกลนัก
มีหมู่คนทนหนักฝึกใจฝืน
ทรมานตนเองย่ำหยัดยืน
หลับหรือตื่นมุ่งดัดตนจนปางตาย

ทั้งนอนหลับแลฝืนทนจนเกินเหตุ
ก็มิอาจล้างกิเลสให้สลาย
และมีอาจปลดเปลื้องทุกข์ให้มลาย
หากเดินสายทางสุดโต่งทุกโมงยาม

กลุ่มที่สามหว่างสองกลุ่มดูมีสุข
ไร้ซึ่งทุกข์รุกร้ำเข้าเหยียดหยาม
ไม่หย่อนใจไม่ตึงจิตชวนคิดตาม
ว่าหนทางนาม"สายกลาง"สว่างจริง

คือทำตามหน้าที่ของชีวิต
ไม่ยึดติดว่าของฉันในทุกสิ่ง
ทำตนเองให้เป็นซึ่งที่พึ่งพิง
ไม่ประวิงว่าต้องได้ไร้โศกา

และเป้าหมายกวดวิชาพุทธศาสตร์
มิหมายมุ่งยุ่งอำนาจทรัพย์สินหนา
แต่มุ่งหมายให้เรามีปัญญา
พัฒนาตัวตนสู่นิพพาน

ไตร่ตรองแล้วจึงเลือกลงคอร์สที่สาม
ดำเนินตามพระพุทธะละไฟผลาญ
ปฏิบัติตามมรรคแปดทุกวันวาร
มุ่งนิพพานหมดทุกข์แท้จริงแน่นอน





หัวข้อนี้ได้มาตอนเรียนเคมี อ.อุ๊
ด้วยความที่ข้าพเจ้าจะหลับแหล่มิหลับแหล่นี่เอง

^^



กลอนพาไป สัมผัสพาเพลิน เกือบจบไม่ลง ;p







มดส้มจ่อย






นี่คือการชี้แนะจากพี่เจ



มาอ่านตามคำขอ

อิอิ

อ่านไปยิ้มไป
น้องมด พัฒนาการเร็วมาก
สำนวนการเขียนดีขึ้นผิดหูผิดตาเลย

มีแวว รุ่งนะเนี่ย


ส่วนต่อไปก็จะพยายามแก้ให้ตามที่ขอนะ

บางจุด อาจจะแก้ไม่ได้ (ไม่เคยสวมบทฤาษีแปลงสาส์น)

แต่คงบอกได้แค่ตรงที่ความ+++ ๆ ละกัน
ก้าวเข้าสู่ประตูใหญ่ไปตามเพื่อน
คนกลาดเกลื่อนเต็มห้องสองคูหา

หน้าตาผ่องหรือหมองหม่นมีนานา

(วรรคนี้ดูแปลก ๆ นะลองแก้ ๆ ดูอีกหน่อย)

ล้วนมุ่งมาแสวงทางสว่างใจ

(วรรคนี้ฉลาดเล่นคำมาก เล่นคำว่า "แสวง" กับ "สว่าง")
คนทั้งหลายฝึกสงบสยบจิต
นั่งพินิจกายามีค่าไม่

(ตรงนี้ความยังไม่ชัด น่าจะเน้นให้เห็นอีกว่า นั่งพินิจว่า ร่างกายนี่ไม่ได้จีรังยั่งยืน อะไรประมาณนั้น)

นั่งคุมตนไม่ยึดติดฤทธิ์เดชใด
นั่งทำใจให้พิสุทธิ์หยุดราคี

(สามวรรคนี้ เข้าใจเล่น กลบท เป็นความพยายามที่ดี แต่ เสียนิดนึงว่า ความไม่ค่อยเดินเท่าใดนัก)
ณ มุมหนึ่งคนไม่น้อยทยอยหลับ

(เอ... วรรคนี้ขาดประธานนะ อะไรเหรอ ที่มันไม่น้อย ทยอยหลับ สุนัข หรือ ลิง อิอิ)


เฝ้าคอยนับ แกะกระโดดโลดสุขี

(ใครนับแกะ แล้วแกะ มันอยู่ไหน ...แกะ นี้ มันเป็นสัตว์ชนิดหนึ่งหรือว่า เป็นคำกริยา ที่แสดงอาการ "แงะ" "งัด" บางสิ่งอยู่ ตรงนี้ยังไม่ค่อยชัดนะครับ)


หลงในฝันที่เลิศหรูทุกนาที

(ตรงนี้ ขาดสัมผัสใน อ่านไม่รื่นนะ)

แต่ความจริงทุกข์ทวีทุกวันคืน

(นี่ก็ด้วย)


มุมที่สองไม่ใกล้ไม่ไกลนัก
มีหมู่คนทนหนักฝึกใจฝืน
ทรมานตนเองย่ำหยัดยืน
หลับหรือตื่นมุ่งดัดตนจนปางตาย


ทั้งนอนหลับแลฝืนทนจนเกินเหตุ
ก็มิอาจล้างกิเลสให้สลาย
และมีอาจปลดเปลื้องทุกข์ให้มลาย
หากเดินสายทางสุดโต่งทุกโมงยาม


กลุ่มที่สามหว่างสองกลุ่มดูมีสุข
ไร้ซึ่งทุกข์รุกร้ำเข้าเหยียดหยาม

(ตรงนี้ คำว่า "ร้ำ" กับ "หยาม" เสียงคล้ายกัน เหมือนจะมาแย่งสัมผัสส่งระหว่างวรรคื คือ "ยาม" )

ไม่หย่อนใจไม่ตึงจิตชวนคิดตาม
ว่าหนทางสายกลางสว่างจริง

(ตกสัมผัสนะ "ตาม" ต้องรับ กับ อะไรก็ได้ ที่เป็นสระ "อาม")

คือทำตามหน้าที่ของชีวิต
ไม่ยึดติดว่าของฉันในทุกสิ่ง
ทำตนเองให้เป็นซึ่งที่พึ่งพิง
ไม่ประวิงว่าต้องได้สิ่งดีมา

(ตรงนีสัมผัสเลือน "พิง" รับกับ "ประวิง" แล้วมี "สิ่ง" มาแย่ง... ทำใม่เพราะ)


และเป้าหมายกวดวิชาพุทธศาสตร์
มิหมายมุ่งยุ่งอำนาจทรัพย์สินหนา
แต่มุ่งหมายให้เรามีปัญญา
พัฒนาตัวตนสู่นิพพาน

ไตร่ตรองแล้วจึงเลือกลงคอร์สที่สาม

(ลงท้ายวรรคด้วยสระ "อาม" มันเสียงคล้าย กับ นิพพาน ของท้ายบทที่แล้ว จะดีหรือ?)

ดำเนินตามพระพุทธะละไฟผลาญ
ปฏิบัติตามมรรคแปดทุกวันวาร
มุ่งนิพพานหมดทุกข์แท้จริงแน่นอน

(นิพพานตรงนี้สีมผัสซ้ำ กับวรรคทีแล้วฮับ)
เป็นแค่ความเห็นหนึ่งนะ
จะเชื่อก็ได้ ไม่เชื่อก็ได้

จงพิจารณาไตร่ตรองให้จงหนัก

อิอิ

เคยแก้ลงกระดาษตามคำแนะนำของพี่เจรอบนึงแล้ว . . .
แต่หาย (-*-)

๐๗๐๓๒๕๔๙




 

Create Date : 07 มีนาคม 2549    
Last Update : 7 มีนาคม 2549 17:36:06 น.
Counter : 366 Pageviews.  

1  2  3  4  

มดส้มจ่อย
Location :
นนทบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add มดส้มจ่อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.