ยูโทเพียไทย
เศรษฐศาสตร์
เพื่อความเป็นธรรม

 
คิดถึงอะดัม สมิธ (1)

คิดถึงอะดัม สมิธ (1)
ดร.ไสว บุญมา: วันที่ 3 เมษายน 2552 กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์
//www.bangkokbiznews.com/home/details/politics/opinion/sawai/20090403/30177/คิดถึงอะดัม-สมิธ-(1).html

ท่ามกลางการโหมกระหน่ำของวิกฤติเศรษฐกิจ แนวคิดระบบตลาดเสรี ซึ่งบางทีก็เรียกกันว่า ระบบทุนนิยมถูกประณามว่าสามานย์ และเป็นต้นตอของเหตุการณ์เลวร้ายครั้งนี้ พร้อมทั้งครั้งที่ผ่านๆ มาด้วย เนื่องจากอะดัม สมิธ ได้รับการยอมรับว่าเป็นต้นตำรับของแนวคิด บ่อยครั้งชื่อของเขาจึงถูกอ้างถึง แต่ผู้อ้างส่วนใหญ่ดูจะไม่เข้าใจอย่างลึกซึ้ง ว่า อะดัม สมิธ คิดอย่างไร และดำเนินชีวิตอย่างไร ถ้าคนไทยเข้าใจและปฏิบัติตามแนวคิด และการดำเนินชีวิตของเขา เมืองไทยจะไม่ประสบวิกฤติในหลากหลายด้าน ซึ่งแสดงอาการออกมาให้เห็นเป็นที่ประจักษ์อยู่ในปัจจุบัน

เนื่องจาก อะดัม สมิธ เสียชีวิตตั้งแต่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ จึงไม่มีผู้ใดที่มีชีวิตอยู่ในปัจจุบันรู้จักเขาโดยตรง ข้อมูลเกี่ยวกับแนวคิดและการดำเนินชีวิตของเขามาจากการค้นคว้าของผู้สนใจในเวลาต่อมา โดยเฉพาะจากตำรับตำราที่เขาเขียนขึ้น ในบรรดาตำราของเขา นักเศรษฐศาสตร์มักอ้างถึงเพียงเรื่องเดียว คือ The Wealth of Nations ซึ่งเป็นชื่อย่อของหนังสือ ที่มีชื่อเต็มว่า An Inquiry into the Nature and Causes of the Wealth of Nations ส่วนอีกเล่มหนึ่ง ซึ่งเขาเขียนขึ้นก่อน 17 ปี และมีความสำคัญมาก เนื่องจาก เนื้อหาเป็นเรื่องจริยธรรมอันเป็นฐานของระบบตลาดเสรี ดูจะไม่มีใครพูดถึง นั่นคือ เรื่อง The Theory of Moral Sentiments หลังจากศึกษาแนวคิดของอะดัม สมิธ และชีวิตของเขา ผมสรุปว่า ระบบทุนนิยม หรือตลาดเสรี แม้จะมีความบกพร่องอยู่บ้าง แต่ก็ยังไม่ถึงกับขั้นสามานย์ มนุษย์ที่ไม่มีจริยธรรมและความสามารถ เนื่องจากขาดปัญญาต่างหาก ที่ทำให้ความสามานย์เกิดขึ้น

ก่อนอื่นขอทำความเข้าใจว่า ทำไมระบบตลาดเสรีจึงเกิดขึ้นและทุนซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญของมันหมายถึงอะไร เนื่องจากดูจะมีผู้ไม่เข้าใจเป็นจำนวนมาก ระบบตลาดเสรีมีมาตั้งแต่ครั้งดึกดำบรรพ์ เนื่องจากมนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์เดียวที่นำสิ่งของมาแลกเปลี่ยนกัน กระบวนการแลกเปลี่ยนเริ่มด้วยการแลกของกันโดยตรงแล้วค่อยๆ วิวัฒน์มาเป็นการแลกผ่านเครื่องมือ หรือกลไกชนิดหนึ่งซึ่งเรียกว่าตลาดที่มักใช้เงินเป็นตัวกลาง ข้อความในศิลาจารึกที่ว่า "ใครใคร่ค้าช้างค้า ..." ชี้บ่งว่าเมืองไทยใช้ระบบตลาดเสรีมาตั้งแต่ต้น อะดัม สมิธ เป็นผู้เสนอแนวคิดเกี่ยวกับความมั่งคั่งเกิดขึ้นได้อย่างไร และจะทำอย่างไรระบบตลาดเสรีจึงจะมีประสิทธิภาพในการผลิตสิ่งต่างๆ ขึ้นมาสนองความต้องการอันหลากหลายของมวลมนุษย์ ระบบตลาดเสรีอยู่คู่กับมนุษย์มายาวนาน เพราะมันสะท้อนธรรมชาติ 2 ด้านของมนุษย์เรา นั่นคือ ความต้องการแลกเปลี่ยนกันและการมีเสรีภาพ ในทางตรงข้าม ระบบคอมมิวนิสต์ ซึ่งใช้การบังคับเป็นเครื่องมือถูกเลิกใช้ยกเว้นในคิวบาและเกาหลีเหนือภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งศตวรรษ เพราะมันขัดกับธรรมชาติของมนุษย์ คิวบากำลังจะเลิกใช้ ส่วนเกาหลีเหนือยากจนถึงขั้นมีคนอดตาย ต่างกับเกาหลีใต้ซึ่งพัฒนาหนีเกาหลีเหนือไปแบบไม่เห็นฝุ่น

ทุน หรือ capital วิวัฒน์มาจากคำว่า capita ในภาษาละติน คำนี้มีความหมายว่า "หัว" ซึ่งยังใช้อยู่ในปัจจุบัน อาทิเช่น per capita income ซึ่งหมายถึงรายได้ต่อหัวคน ย้อนไปในสมัยก่อน capital มีความหมายเป็น 2 นัย คือ นัยที่เป็นรูปธรรม และนัยที่เป็นนามธรรม ในด้านนัยที่เป็นรูปธรรม "หัว" หมายถึงหัวของสัตว์เลี้ยงที่ถูกผลิตขึ้นมาในนาในไร่ อาทิเช่น วัว จำนวนหัวของสัตว์ง่ายต่อการนับและแสดงออกถึงระดับของทรัพย์สินของเจ้าของเพราะวัวมีค่าที่ให้ทั้งเนื้อ นม หนัง และแรงงาน แม้แต่ในสมัยนี้ ก็ยังมีประชาชนบางเผ่าในแอฟริกาที่นับทรัพย์สินในรูปของวัว ซึ่งแต่ละครอบครัวมีไว้ในครอบครอง

ผู้ที่มีทรัพย์สินที่ตนผลิตขึ้นได้โดยเฉพาะในรูปของสัตว์เลี้ยงที่ให้แรงงานจนเหลือใช้อาจให้ผู้อื่นหยิบยืมไปใช้ชั่วคราว สัตว์ที่ถูกหยิบยืมไป คือ "ทุน" การหยิบยืมแบบนี้ก็มีใช้อยู่ในเมืองไทยในสมัยก่อน นั่นคือ ชาวนาที่ไม่มีควายพอใช้ไปเช่าควายจากผู้ที่มีควายเหลือใช้เพื่อนำมาลากไถ นวดข้าวและลากเกวียน หลังจากเก็บเกี่ยวข้าวแล้วผู้เช่าก็นำควายไปคืนพร้อมกับข้าวเปลือกในจำนวนที่ตกลงกันไว้ ต่อมาเมื่อเงินถูกนำมาใช้เป็นตัวกลางอย่างแพร่หลาย ทรัพย์สินที่เหลือกินเหลือใช้ก็ถูกเก็บไว้ในรูปของ "เงินออม" ซึ่งถูกยืม หรือ "เช่า" ไปใช้ชั่วคราวโดยผู้เช่าจ่ายค่าเช่าในรูปของดอกเบี้ย คนส่วนใหญ่ จึงมักคิดว่า "ทุน" คือ เงิน โดยลืมความหมายที่แท้จริงของมัน

ส่วนในด้านนามธรรม "หัว" หมายถึงสติปัญญาที่อยู่ในหัวคน ในปัจจุบันนี้ไม่มีใครนึกถึงความหมายนี้แล้ว ทั้งที่การลืมอาจมีผลร้ายทันตาเห็น อาทิเช่น ในกรณีของกองทุนหมู่บ้านซึ่งรัฐบาลก่อตั้งขึ้นเมื่อราว 8 ปีก่อน รัฐบาลให้ทุนชาวบ้านไปในรูปของเงินกู้ ซึ่งเป็นทรัพย์สินเหลือใช้ที่ได้มาจากภาคอื่นของสังคม รัฐบาลลืมไปว่า ผู้ยืมเงินทุนจะต้องมีทุนในรูปของปัญญา หรือความสามารถในการทำธุรกิจด้วย เงินทุนที่ให้ยืมไปจึงจะก่อให้เกิดผลผลิตทางเศรษฐกิจอย่างคุ้มค่า ย่อมเป็นที่ประจักษ์แล้วว่า ผู้ยืมเงินทุนเป็นจำนวนมาก ไม่มีความสามารถนั้น กิจการจึงล้มเหลว

สภาพแวดล้อมทั้งโดยทั่วไปและในด้านการทำธุรกิจในปัจจุบันนับวันจะสลับซับซ้อนยิ่งขึ้น และเปลี่ยนแปลงรวดเร็วขึ้น สร้างความจำเป็นให้ทุกคนต้องเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นที่มาของเรื่อง "การเรียนรู้ตลอดชีวิต" คนไทยเพิ่งจะเริ่มพูดถึงความสำคัญของเรื่องนี้ ทั้งที่มันมีมาตั้งแต่ก่อนสมัย อะดัม สมิธ ด้วยซ้ำ การเรียนรู้ตลอดชีวิตเป็นวิธีเพิ่มทุนในด้านนามธรรมที่ อะดัม สมิธ เองปฏิบัติอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะจากการอ่านและการฟังปราชญ์

ในระบบตลาดเสรี คนเราต้องมีข่าวสารข้อมูลทัดเทียมกัน ซึ่งได้มาจากการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา ตลาดเสรีจึงจะมีประสิทธิภาพสูง เนื่องจากคนไทยส่วนใหญ่ไม่ชอบอ่านและไม่ชอบฟังผู้อื่น ซ้ำร้ายเมืองไทยยังมีความฉ้อฉลสูง จึงอาจมองได้ว่าความสามานย์ของทุนนิยมในเมืองไทย ซึ่งได้แก่ ความไม่ค่อยมีประสิทธิภาพจนทำให้เมืองไทยยังตกอยู่ในภาวะด้อยพัฒนาเกิดขึ้น เพราะคนไทยโดยทั่วไป ไม่ค่อยมีทุนทางด้านมันสมอง พร้อมทั้งขาดจริยธรรม นั่นเอง


Create Date : 05 เมษายน 2552
Last Update : 6 เมษายน 2552 0:01:45 น. 0 comments
Counter : 490 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 
 

สุธน หิญ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




แก้ความอยุติธรรมขั้นฐานราก
ตามแนวเฮนรี จอร์จ
http://utopiathai.webs.com
เลิกภาษีการลงแรงลงทุนผลิตและค้า
เลิกภาษีเงินได้ เพิ่มภาษีที่ดิน
ค่อยๆ เปลี่ยนแปลง ใช้เวลาสัก 30 ปี


เปิดเว็บต่างแดนดูไม่ได้ ให้ google ช่วยหา free anonymous proxy server ของต่างประเทศซึ่งมีอยู่มากเพื่อเปิดให้แทนครับ (ในไทยอาจมีการปิดกั้นเว็บของต่างแดน เว็บย่อยที่คนไทยอาศัยใช้กันก็พลอยถูกปิด)

เว็บหลักของผม ยูโทเพียไทย_1
* หน้ารวมลิงก์ยูโทเพียไทย_1 *

หนังสือดีเด่นแปล Progress and Poverty หนังสือ ความยากจนที่ไม่เป็นธรรม และ บทความ ของผม ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ยินดีให้เผยแพร่ต่อด้วยความขอบคุณ ยกเว้นบทความแปลกรุณาอ่านเงื่อนไขจากต้นฉบับภาษาอังกฤษที่อ้างไว้ครับ


- ศัพท์เศรษฐศาสตร์ ดร.บุญเสริม
- ภาษีทรัพย์สินสหรัฐฯ
- ภาวะตลาดอสังหาฯ
- ภาวะตลาดที่อยู่อาศัย 2537-51
- ราคาที่ดินทั่วไทยรายแปลง
- สรุปราคาประเมินใน กทม.ปี 2551-54
- การเปลี่ยนแปลงราคาที่ดินใน กทม.และปริมณฑลปี 2528-50


[Add สุธน หิญ's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com