ไม่ว่าคนเข้มแข็งหรือคนอ่อนแอ
ก็อาจเจ็บปวดกับคำด่าทอได้ทั้งคู่
ผูกใจเจ็บ คิดอาฆาตแค้นได้ทั้งคู่
แต่จะมีเพียงคนเข้มแข็งพอ
ที่สามารถอภัยให้คนอื่นได้
เพราะคนเข้มแข็งเท่านั้น
ที่มีกำลังมากพอจะทำเรื่องยากได้สำเร็จ
คนเข้มแข็งเท่านั้น
ที่มีกำลังมากพอจะแก้ปมผูกใจที่แน่นหนา
คนเข้มแข็งเท่านั้น
ที่มีกำลังมากพอจะหลุดพ้นจากหลุมดำแห่งความเกลียด
ความเข้มแข็งไม่ได้เกิดจากการแกล้งฝืนอดกลั้น
แท้ที่จริงแล้ว การแกล้งฝืนอดกลั้น
เป็นเพียงแรงกดดันให้อ่อนแอกว่าเดิม
ความเข้มแข็งเกิดจากการ ฝึก ทำจิตให้สว่างขึ้น
ด้วยวิธีคิดเข้าข้างสว่าง ขณะรู้ตัวว่าใจเริ่มคิดเข้าข้างมืด
ด้วยวิธีพูดเข้าข้างสว่าง ขณะรู้ตัวว่าปากเริ่มพูดเข้าข้างมืด
ด้วยวิธีเคลื่อนไหวเข้าข้างสว่าง ขณะรู้ตัวว่ามือไม้เริ่มขยับเข้าข้างมืด
เริ่มจากการสร้างคำพูดดีๆขึ้นมา ในท่ามกลางคำพูดร้ายๆ
ไม่ใช่ด้วยเจตนาเสแสร้งเพื่อให้คนอื่นเห็นว่าแสนดี
แต่ด้วยเจตนาให้ตนเองเห็นว่าจิตถอนจากหลุมดำขึ้นสู่แสงขาวได้
เพียงเพราะการเลือกคำพูดที่ไม่ต้องทำร้ายจิตใจใคร
พูดคำไหนแล้วใจตัวเองเบาลง
คิดถึงคำไหนแล้วความฟุ้งซ่านปั่นป่วนลดลง
คำนั้นแหละที่เป็นพลังสร้างความเข้มแข็งขึ้นในจิตได้
ด้วยเจตนาจะดูความจริงทางจิตของตน รู้เฉพาะตนในแต่ละครั้ง
คุณจะเห็นความเข้มแข็งที่พอกพูนขึ้น
คุณจะรู้ตัวว่าเข้มแข็งขึ้นจริงหลังจากผ่านเดือนผ่านปี
เมื่อใดเห็นตัวเองพูดดีได้ โดยไม่ต้องรอใครพูดดีก่อน
หรือเมื่อใดเห็นตัวเองพูดดีได้ ทั้งที่มีใครพูดร้ายใส่
เมื่อนั้น คุณจะรู้สึกถึงวิธีคิดที่แตกต่างไป
ไม่ใช่แกล้ง แต่รินออกมาจากน้ำใสใจจริง ไม่มีสิ่งใดปลอมปน
และน้ำใสใจจริงเท่านั้น ที่มีคุณภาพพอจะแจ่มใสเป็นสมาธิ
หากไม่สร้างความเข้มแข็ง
แนวโน้มคือยิ่งใช้ชีวิต คุณจะยิ่งอ่อนแอลงเรื่อยๆ วันต่อวัน
เพราะโลกเต็มไปด้วยคนมีเหตุผลทางปากคอ
แต่ไร้เหตุผลทางความคิด
คุณจะถูกกดดันให้ด่าตอบ
หรือถูกกดดันให้ทำร้ายตอบ
กระทั่งอ่อนแอขนาดขัดเคืองได้หมด
ผูกใจเจ็บได้หมด อาฆาตแค้นได้หมด เกลียดชังได้หมด
แม้จะไม่ได้ถูกใครทำให้เจ็บช้ำ
ก็เหมือนอยู่ดีๆเจ็บช้ำได้จากความคิดของตนเอง
------------------------------------------------------------------------------------------------------