อยู่ไฟหลังคลอดที่โรงเรียนนวดแผนไทยบ้านดอน ระยอง วันนี้จะมาเขียนเรื่องอยู่ไฟหลังคลอดนะคะ เราท้องแรกคลอดเมื่อสิงหาคม 2554 (คลอดธรรมชาติ) (ตอนนี้ท้องสอง อายุครรภ์ได้ 36 สัปดาห์แล้วค่ะ) หลังคลอดมาก็ไม่ได้เห็นความจำเป็นอะไรที่จะต้องไปอยู่ไฟ ไปๆมาๆ คลอดได้ 14 วัน แม่ก็ถามว่า ทำไมไม่ไปอยู่ไฟสักที อยากสุขภาพไม่ดีแบบแม่เหรอ  *** แม่เราไม่ได้อยู่ไฟ มีลูก 2 คน คือ เรากับน้องชาย หลังจากทำหมัน ก็มีอาการหนาว ฝนตั้งเค้ามาก็สั่นสะท้าน สุขภาพไม่ดีตลอด  เราก็เลยต้องไปหาที่อยู่ไฟตามที่แม่รีเควสต์ ^^ เราอยู่ระยอง เลยไปติดต่ออยู่ไฟที่วัดบ้านดอน แต่ตัวเองเป็นคนแพ้ "ไพล" สมุนไพรที่ผสมในการทำอยู่ไฟ  ต้องทำสมุนไพรเพื่ออยู่ไฟแบบพิเศษ เลยได้รับคำแนะนำว่า  ให้ไปที่โรงเรียนนวดแผนไทยบ้านดอน สามารถทำให้ได้ และแล้วเราก็เริ่มไปอยู่ไฟที่นั่น เป็นเวลา 15 วัน  (ความจริงแม่บังคับให้ทำ 1 เดือน แต่ขี้เกียจ เลยต่อรองเหลือครึ่งเดือน 555) มาดูขั้นตอนการอยู่ไฟหลังคลอดของที่นี่กันค่ะ 1. นวดประคบด้วยลูกประคบสมุนไพร 2. ทับหน้าท้องด้วยหม้อเกลือ 3. ขัด+พอกผิว (ทั้งหน้าและตัว) บางวันก็นวดน้ำมันค่ะ 4. อบสมุนไพร 5. อาบน้ำสมุนไพร เห็นขั้นตอนมีแค่นี้แต่ใช้เวลาในการทำนานมากนะคะ เนื่องจากทุกขั้นตอนทำอย่างพิถีพิถันค่ะ ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง/วัน สนนราคาอยู่ที่ 600 บาท/ครั้ง และทุกขั้นตอนใช้สมุนไพรสดล้วนๆค่ะ ผลที่ได้จากการทำอยู่ไฟ -> รู้สึกได้ทันทีว่าร่างกายสดชื่นขึ้น มดลูกเข้าอู่ หน้าท้องยุบลง และอาการบวมน้ำคาวปลาหายไป ตอนนี้ท้องที่สองแล้ว ตัวไม่บวมเหมือนตอนท้องแรกด้วยค่ะ (คนในบ้านทักมาค่ะ) ท้องสองนี้ หลังคลอดแล้วก็เลยว่าจะอยู่ไฟสัก 1 เดือนเลย 555 ทางเจ้าหน้าที่ที่ทำอยู่ไฟยังแนะนำมาว่า  การอยู่ไฟไม่ใช่แค่หญิงหลังคลอดเท่านั้นที่ควรทำ ผู้ที่ผ่าตัดมา แท้ง หรือขูดมดลูกมา ก็ควรไปทำค่ะ ขอจบการเล่าเรื่องอยู่ไฟเพียงเท่านี้ค่า   Create Date : 12 ตุลาคม 2555     Last Update : 12 ตุลาคม 2555 12:18:41 น. Counter : 6527 Pageviews.   0 comment Share Tweet

หมอแมะเมืองนนท์ นอกจากโรคภูมิแพ้ที่เป็นโรคประจำตัวของตุ๊กแล้ว ตุ๊กยังเป็นคนที่เลือดลมไม่ค่อยดีนัก มีอาการที่เกิดขึ้นเป็นประจำดังนี้ค่ะ 1. ปวดหัวเหมือนหัวจะระเบิดทุกครั้งในช่วงที่มีประจำเดือน 2. ประจำเดือนมาน้อย 3. เวียนหัวและเป็นลมง่าย 4. หน้าตาและผิวพรรณหมองคล้ำ ด้วยความที่ตุ๊กเลือดลมไม่ดี จึงขวนขวายหายาสตรีมาทานตลอดๆ ซึ่งแต่ละยี่ห้อที่วางขายตามท้องตลาดนั้นตุ๊กทานมาแทบจะหมดทุกยี่ห้อแล้ว แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือ ทานได้แค่ระยะแรกๆ แล้วสักพักก็จะทานไม่ได้ เพราะทานแล้วมึนหัวและปวดหัว ประจำเดือนก็เริ่มมีน้อยลงเรื่อยๆ สุขภาพตุ๊กมาย่ำแย่สุดๆก็ตอนที่ไปซื้ออาหารเสริมจากบริษัทขายตรงชื่อดังยี่ห้อหนึ่งมาทาน โดยหวังว่าจะช่วยให้สุขภาพดีขึ้นได้บ้าง แต่ปรากฏว่าอาหารเสริมยี่ห้อนั้นยิ่งทำให้อาการหนักกว่าเดิม ความดันตุ๊กสูงขึ้นเกือบเกินมาตรฐาน หัวใจเต้นเร็ว ประจำเดือนไม่มาติดต่อกัน 6 เดือน อาหารไม่ย่อย ท้องอืดทั้งวัน เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย มึนหัว กระหายน้ำตลอดเวลา และปัสสาวะบ่อย จะบอกว่าช่วงเวลานั้นทรมานมากๆค่ะ ไปหาหมอที่โรงพยาบาลก็ไม่หาย ไม่รู้จะทำยังไง เลยตัดสินใจลองไปหาหมอแผนโบราณดู ตุ๊กไปหาหมอแผนโบราณที่เรียกว่า "หมอแมะ" ที่จังหวัดนนทบุรีค่ะ คุณหมอชื่อว่า "คุณหมอเกษม" ท่านก็ตรวจร่างกายตุ๊กโดยการจับชีพจร คุณหมอบอกว่าที่ร่างกายเป็นแบบนี้ เนื่องจากไตอ่อนแอ ทำงานหนักเกินไป ทำให้ร่างกายร้อนจัด เผาน้ำในร่างกายอย่างรวดเร็ว จึงทำให้ปัสสาวะบ่อย เลือดน้อย ประจำเดือนเลยไม่มา คุณหมอยังบอกอีกว่า ไตเป็นอวัยวะที่สำคัญมากของร่างกายเรา ถ้าไตดีทุกอย่างก็ดี คุณหมอจึงให้ทานยาสมุนไพรจีนบำรุงไต ปรับหยินหยางในร่างกาย ปรากฏว่าอาการดีขึ้นภายใน 3 วันแรกที่ทานเลยค่ะ (แต่ยาของคุณหมอก็แพงสุดยอดเลยอ่า) หลังการทานยาสมุนไพรจีนปรับสภาพระยะหนึ่ง คุณหมอก็ค่อยๆเริ่มให้ยาบำรุงตามลำดับ จนทำให้ทุกวันนี้ เลือดลมและสุขภาพของตุ๊กดีกว่าแต่ก่อนมาก นอนหลับง่ายและเต็มอิ่ม ผิวพรรณสดใสขึ้นกว่าเดิมเยอะค่ะ อาการทรมานต่างๆที่เคยเป็นก็หายหมด สมุนไพรจีนนี่สุดยอดจริงๆค่ะ สุดท้ายนี้ต้องขอบคุณคุณหมอเกษมด้วยค่ะที่ช่วยให้ร่างกายตุ๊กดีขึ้นกว่าเดิมมากๆ เพื่อนๆคนไหนมีปัญหาสุขภาพแบบตุ๊ก หรือประสบปัญหามีบุตรยาก ก็เข้าไปปรึกษาคุณหมอได้นะคะ คุณหมอให้คำปรึกษาและตรวจฟรีค่ะ หรือจะเข้าไปสอบถามคุณหมอในเว็บบอร์ดของ website ร้านคุณหมอก็ได้ค่ะ ที่ //www.kasemwetchakram.com ค่ะ หวังว่าสิ่งที่ตุ๊กเขียนไปในวันนี้จะเป็นประโยชน์กับใครหลายๆคนได้บ้างไม่มากก็น้อยนะคะ ขอให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดีค่ะ   Create Date : 30 มิถุนายน 2553     Last Update : 30 มิถุนายน 2553 21:41:06 น. Counter : 4369 Pageviews.   1 comment Share Tweet

อย่ายอมแพ้ภูมิแพ้ วันนี้ตุ๊กจะมาเล่าถึงสุขภาพของตัวเองค่ะ เผื่อว่าใครจะพบกับปัญหาแบบเดียวกับตุ๊กนะคะ เมื่อก่อนตุ๊กต้องเสียเงินค่ายารักษาหวัดคัดจมูกเป็นว่าเล่น เนื่องจากเป็นโรคภูมิแพ้ แน่นจมูกอยู่ตลอดเวลา ยิ่งวันไหนที่ฝนจะตกหรือตกแล้วล่ะก็ ยิ่งหายใจไม่ออกหนักกว่าเดิม กินยาอะไรก็ไม่ดีขึ้น ทรมานมากๆ แถมเป็นไซนัสเพิ่มมาอีกโรคหนึ่ง จะบอกว่าเป็นคนที่ทำทุกวิถีทางเลยนะคะเพื่อที่จะให้ตัวเองหายจากโรคนี้ แต่มันก็ยังไม่หายสักทีค่ะ จนเมื่อต้นปีที่แล้ว อาการกำเริบอย่างหนัก ไม่สามารถหายใจทางจมูกได้ ทานยาลดอาการคัดแน่นก็ไม่หาย พ่นยาแก้แน่นจมูกก็ไม่ดีขึ้น เลยตัดสินใจไปพบหมอเฉพาะทางที่โรงพยาบาลพญาไทตามที่พี่ที่บริษัทแนะนำ ปรากฎว่า ฮือๆๆ คุณหมอบอกว่าเยื่อบุโพรงจมูกอักเสบ เนื่องจากเราทานยาคัดจมูกและพ่นจมูกติดต่อกันนานและมากเกินไป ยาจึงไปกดอาการเอาไว้ นานๆเข้าเลยรับไม่ไหว ทำให้อาการต่างๆกำเริบและหนักขึ้นกว่าเดิม คุณหมอเลยให้หยุดทานยาและพ่นแก้คัดแน่นจมูกตัวเก่า และให้ยาแก้แพ้ในกลุ่ม Cetirizine Dihydrochloride มาทานแทน พร้อมกับให้พ่นรักษาเยื่อบุโพรงจมูก ยี่ห้อ Rhinocort ให้กับเราด้วย การไปหาหมอที่โรงพยาบาลพญาไทในครั้งนั้น ถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุดอย่างหนึ่งในชีวิตเรา เพราะทำให้ตอนนี้เราสามารถหายใจได้อย่างปกติโดยไม่ต้องทานยาแก้แพ้ทุกวัน (ทานบ้างเป็นบางวัน) ไม่ต้องทรมานกับอาการคัดแน่นจมูกเหล่านั้นอีกต่อไป นอกจากทานยาแล้ว เรายังรักษาสุขภาพด้วยการทานข้าวกล้อง ทานเนื้อสัตว์น้อยลง และออกกำลังกายเป็นประจำ ทำให้ตอนนี้สุขภาพเราดีขึ้นกว่าแต่ก่อน เพื่อนๆคนไหนที่มีปัญหาเรื่องภูมิแพ้แบบเดียวกับเรา ก็ลองไปพบหมอเฉพาะทางในโรงพยาบาลและปรับอาหารการกินดูนะคะ ใครที่เป็นโรคภูมิแพ้เหมือนเรา ก็ขอให้สู้ๆและหายไวๆค่ะ   Create Date : 30 มิถุนายน 2553     Last Update : 30 มิถุนายน 2553 22:23:09 น. Counter : 568 Pageviews.   3 comment Share Tweet