ถูกรวบรวมโดย อ. เสรี หวังในธรรม ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ศิลปะการละคร) ประจำปี พ.ศ. 2531 ผู้เชี่ยวชาญด้านการสังคีต กรมศิลปากร โดยท่านอาจารย์ได้รวบรวมเอาเฉพาะเพลงปี่ที่ถูกเป่าในช่วงสำคัญของเรื่อง กล่าวคือ มีจุดประสงค์ในการเป่าชัดเจน จึงทำให้ตลอดเรื่อง พระอภัยมณีเป่าปี่ทั้งสิ้น 9 ครั้งด้วยกัน คือ
พบสามพราหณ์
สังหารนางผีเสื้อ
คิดถึงนางสุวรรณมาลีและสินสมุทร
สะกดทัพเจ้าละมาน
สยบกองทัพทั้งเก้า
กล่อมนางละเวง
ปลุกทหาร
กล่อมทัพลังกา
รำพึงรักนางละเวง
โดยในแต่ะครั้งมีเนื้อเพลง และใช้จังหวะทำนองที่แตกต่างกัน ดังต่อไปนี้
ครั้งที่ 1 พบสามพราหมณ์
เรียกเพลงปี่ครั้งว่า "เพลงปี่พิศวาส" เป่าด้วยทำนองเพลง พัดชา 2 ชั้น ทำนองเก่า ใช้หน้าทับปรบไก่ โดยมีเนื้อว่า
ในเพลงปี่ว่าสามพี่พราหมณ์เอ๋ย
ยังไม่เคยชมชิดพิสมัย
ถึงร้อยรสบุปผาสุมาลัย
จะชื่นใจเหมือนสตรีไม่มีเลย
พระจันทร์จรสว่างกลางโพยม
ไม่เทียมโฉมนางงามพี่พราหมณ์เอ๋ย
แม้นได้แก้วแล้วค่อยประคองเคย
ถนอมเชยชมโฉมประโลมลาน
ครั้งที่ 2 สังหารนางผีเสื้อ
ครั้งนี้ใช้เพลง "พราหมณ์เก็บหัวแหวน" 2 ชั้น เป็นเพลงแรก ในเพลงชุดนางหงส์ เป็นเพลงที่มีท่วงทำนองช่า โหยหวน เพราะเพลงนางหงส์นิยมใช้ในงานอวมงคล และการละคร โดยมีเนื้อร้องว่า
" แล้วทรงเป่าปี่แก้วให้แจ้วเสียง
สอดสำเนียงนิ้วเอกวิเวกหวาน
พวกโยคีผีสางทั้งนางมาร
ให้เสียวซ่านซับซาบวาบหัวใจ
แต่เพลินฟังนั่งโยกจนโงกหงบ
ลงหมอบซุกซอนซบสลบไสล
พอเสียงปี่ที่แหบหายลงไป
ก็ขาดใจยักษ์ร้ายถึงวายวาง