ตรีศุลี เทวาลัย
 
 

โครงการจัดสร้างพระพุทธมหาศิลาปฏิมากรฯ องค์ที่ ๒

โครงการจัดสร้างพระพุทธมหาศิลาปฏิมากรฯ องค์ที่ ๒




ในปีพุทธศักราช ๒๕๕๒ ครอบครัวผมและคุณจารุกร มีเจตนาที่จะจัดสร้างพระประธานถวายวัดซึ่งบรรดาญาติๆพร้อมทั้งลูกศิษย์ลูกหาต่างก็มีจิตศรัทธาที่จะร่วมบุญจัดสร้างเพื่อถวายวัดที่ยังขาดพระประธาน จึงได้จัดสร้างพระพุทธมหาศิลาปฏิมากรฯ แกะสลักจากหินทรายละเอียดขนาดหน้าตักความกว้าง ๑.๕๐ เมตร ความสูง ๒.๕๐ เมตร ความหนา ๑.๐๐ เมตรโดยประมาณ เพื่อประดิษฐาน ณ. อาคารปฏิบัติธรรม “อุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี” วัดป่าท่าพง จ. สระบุรี โดยตรีศุลี่ได้ถวายพระนามพระพุทธมหาศิลาปฏิมากรฯองค์นี้ว่า “พระพุทธมหาศิลาปฏิมากร ธรรมบวรตรีโลกนาถ” และประกอบพิธีพราหมณ์บวงสรวงเบิกเนตร เมื่อวันเสาร์ที่ ๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒


(ภาพ: พุทธศาสนิกชนสรงน้ำพระบรมสารีริกธาตุ)


โดยการนี้ได้รับมอบพระบรมสารีริกธาตุจากน้องชายที่น่ารักคุณนัฐชัย แย้มพิกุลสกุลเจ้าของเว็บไซต์พระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุพระพุทธสาวก//www.relicsofbuddha.com/ จำนวน ๑๐๘ องค์ และถือเป็นมงคลสูงสุดสำหรับผมและครอบครัวคือการได้รับพระเมตตาจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระบรมสารีริกธาตุจำนวน ๙ องค์ เพื่อบรรจุบนยอดพระเกศาพระพุทธมหาศิลาปฏิมากรฯ ขอขอบคุณญาติธรรมและพุทธศาสนิกชนทุกท่านที่ได้ร่วมบุญด้วยกันในครั้งนี้



โครงการจัดสร้างพระพุทธมหาศิลาฯ องค์ที่ ๒ กำลังอยู่ในขั้นตอนการคัดเลือกวัดและสถานปฏิบัติธรรมที่เหมาะสม หากท่านใดต้องการร่วมสร้างบุญกุศลสมทบทุนในครั้งนี้ ท่านสามารถติดต่อขอทราบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ //www.trisulidevalai.com Email: trisulidevalai@gmail.com


ประมวลภาพพิธีบวงสรวงเบิกเนตร พระพุทธมหาศิลาปฏิมากรฯ วัดป่าท่าพง จ. สระบุรี //www.slide.com/r/KQL8ywcF4z9cID0UMSt7nrysXiPHnvKq







(ภาพ: การแกะสลักหินในปี ๒๕๕๒)




 

Create Date : 10 พฤษภาคม 2553   
Last Update : 4 พฤษภาคม 2554 22:56:56 น.   
Counter : 706 Pageviews.  


King of Kings

King of Kings







https://www.youtube.com/watch?v=Dx6AoEz-fMg


ศุภวาระวันฉัตรมงคล



จักขอเป็นข้ารองพระบาทเจ้า ทุกภพชาติไป

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า นายชาคริต




 

Create Date : 06 พฤษภาคม 2553   
Last Update : 10 พฤษภาคม 2553 3:00:30 น.   
Counter : 955 Pageviews.  


WITH MY LIFE คำตอบที่ผมอยากตอบจากหัวใจเช่นเดียวกัน

พอดีผมได้รับข้อความนี้จากเพื่อน ที่เล่นบอร์ดๆหนึ่ง อยู่ ผมเลยอยากพูดคำเดียวกับเจ้าของข้อความนี้เหมือนกันครับ

WITH MY LIFE



"เมื่อคืนก่อนเราอยู่ที่สนามบิน ด้วยสถานการที่ค่อนข้างวุ่นวายเพราะเป็นวันที่สนามบินทางยุโรปเริ่มเปิด และมีผู้โดยสารตกค้างมากมายที่ต้องการเดินทางกลับบ้าน ได้มีผู้โดยสารชาวสวิสคนหนึ่งเดินทางในชั้นธุรกิจแต่มาเข้าแถวที่ชั้น ประหยัด ขณะทำการตรวจบัตรโดยสารเราแอบสังเกตุว่าเขาเหมือนมีอะไรในใจ เหมือนมีอะไรอยากจะพูด ได้แต่จ้องหน้าเรา แล้วไม่พูดอะไร จนเสร็จขั้นตอนการตรวจเอกสาร หลังจากเราคืนบัตรที่นั่งไป ผู้โดยสารท่านนั้นก็ยังไม่เดินจากไปกลับจ้องที่หน้าอกเรา แล้วบอกกับเราว่า ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นก็ตาม PLEASE TAKE CARE OF YOUR KING เราแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่พูดอะไรไม่ออกได้แต่ขอบคุณเขาซ้ำแล้วซ้ำอีก หลังจากเขาจากไปแล้วเราก็นึกขึ้นได้ว่าเพราะเราติดเข็มกลัดสัญลักษณ์ครองราช หกสิบปีไว้ที่หน้าอกนี่เองเขาจึงกล้าพูดกับเรา เราจึงได้แต่ตอบในใจว่า WITH MY LIFE
ดอกราตรี"


ขอบคุณเจ้าของกระทู้นี้ ที่ทำให้ผมรู้สึกว่า ยังมีคนไทยอีกคนที่ยังรักและเทิดทูนพระองค์เช่นเดียวกับผม และผมก็เชื่อว่าอีกหลายล้านคนก็รักพระองค์เช่นเดียวกัน ไม่ใช่เพราะพระองค์คือกษัตริย์ของคนไทย ไม่ใช่เพราะพระองค์คือประมุขของประเทศ แต่พระองค์คือผู้ที่ทรงตรากตรำพระวรกายอย่างหนักเพื่อทำให้คนไทยได้อยู่อย่างสุขสบาย และทรงทำมาตลอดนับตั้งแต่ที่พระองค์ต้องทรงรับพระราชภาระ ทรงทำทุกอย่างเพื่อคนไทย........... คนไทยที่กำลังจะฆ่ากัน คนที่ไทยที่ไม่รักกัน คนไทยที่ไม่สามัคคีกัน คนไทยที่ไม่รักประเทศชาติ คนไทยที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าส่วนรวม

คำตอบของเจ้าของกระทู้ด้านบน เป็นคำตอบเดียวกับของผมครับ
WITH MY LIFE


ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน
จักขอเป็นข้ารองพระบาทตลอดทุกชาติไป
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะข้าพระพุทธเจ้า นายชาคริต สอนวงษา




 

Create Date : 27 เมษายน 2553   
Last Update : 5 พฤษภาคม 2553 22:51:46 น.   
Counter : 388 Pageviews.  


พราหมณ์ กับความเป็นไปในสังคมไทย

CopyRight © 2010 All Right reserved by Trisulidevalai.com



บทความโดย พราหมณ์ชาคริต  (www.trisulidevalai.com)


พราหมณ์ (เทวนาครี : ब्राह्मण)

คำๆนี้กลับมาเป็นจุดสนใจของสังคมไทยโดยกว้างอีกครั้งหนึ่งหลังจากที่เกิดเหตุการณ์กรณีที่เจ้าพิธีของกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง (น.ป.ช.)ได้ประกอบพิธีนำเลือดของผู้ชุมนุมมาเทราดในสถานที่ต่างๆโดยนัยยะเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการสาปแช่งต่อฝ่ายตรงกันข้าม จนเป็นที่กล่าวขานและพูดคุยกันในวงกว้างถึงความเหมาะสมของพิธีกรรมดังกล่าว ทำให้ประชาชนโดยทั่วไปตั้งคำถามถึงการกระทำดังกล่าวว่ามันคืออะไร และนำไปสู่คำถามกับตัวผู้เขียนว่า สิ่งที่เกิดขึ้นมันคืออะไร หลายๆคนไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงได้มีคนคิดอุดตริเอาเลือดของคนจำนวนมากไปเทพื้นได้ และจากการค้นคว้าในคัมภีร์และตำราต่างๆในครอบครัวของผู้เขียนและนำเสนอผ่าน //www.trisulidevalai.com ก็ไม่ปรากฏพิธีกรรมในลักษณะดังกล่าวมาก่อน และที่สำคัญคติจารีตธรรมเนียมของครอบครัวผู้เขียนเอง เท่าที่ได้ศึกษามาไม่มีปรากฏพิธีดังกล่าวและมีการเชิญพระพุทธรูปมาเป็นประธานในการทำพิธีเทเลือดด้วยยิ่งไม่ใช่ใหญ่ และที่สำคัญก็คือ ตามจารีตวิถีพราหมณ์แล้ว เลือดคือสิ่งที่มีคุณค่า เพราะเลือดคือเครื่องหล่อเลี้ยงชีวิต คนเราขาดเลือดก็ต้องดับชีวิต ดังนั้นเลือดแม้เพียงหนึ่งหยดก็มีคุณค่า จึงเป็นที่น่าแปลกใจกับผู้เขียนอยู่พอสมควรว่าเหตุใด บุคคลท่านนั้นจึงได้คิดอุดตริกระทำพิธีเช่นนั้น ซึ่งนำมายังความสับสนในพิธีกรรมแปลกๆ และทำให้หลายคนเริ่มสงสัยและเริ่มค้นหาว่า ตกลงนี่คือวิถีทางของพราหมณ์ พิธีพราหมณ์หรืออย่างไร หรือว่ามันคือไสยศาสตร์

ตามประวัติศาสตร์แล้วพราหมณ์และศาสนาพราหมณ์นั้นเข้ามามีบทบาทในสังคมไทยมานับตั้งแต่ยุคสมัยอาณาจักรขอมยังเรืองอำนาจ จะเห็นได้ว่าเทวาลัย ปราสาทหินต่างๆที่ยังคงหลงเหลืออยู่นั้นต่างก็ได้รับอิทธิพลจากศาสนาพราหมณ์ ซึ่งพิธีกรรมและคตินิยมตามจารีตประเพณีของพราหมณ์ก็ได้ตกทอดมาจนถึงทุกวันนี้และแทรกซึมผสมผสานรวมเป็นหนึ่งในวิถีชีวิตของชาวไทย พราหมณ์ในชมพูทวีปคือวรรณะหนึ่ง หรือเรียกง่ายๆก็คือชนชั้นหนึ่งที่ได้มีการสืบเชื้อสายตกทอดมาซึ่งเป็นแนวคิดในวิถีชีวิตเฉพาะของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ในสังคมของผู้นับถือศาสนาพราหมณ์-ฮินดูในดินแดนชมพูทวีปนั้น พราหมณ์ถือเป็นวรรณะหนึ่งในสี่วรรณะของสังคมฮินดูที่ถือว่าเป็นวรรณะที่มีอิทธิพลสูงสุดวรรณะหนึ่งเพราะเป็นผู้รู้ เป็นปราชญ์ เป็นผู้สืบทอดวิชาความรู้ ในคัมภีร์ พระเวท พิธีกรรมต่างๆ จารีต ประเพณี ศิลปะ วัฒนธรรม ต่าง ๆ ให้สืบทอดต่อไป บางองค์ความรู้ก็ดำรงคงไว้ให้ผู้สืบเชื้อสายในตระกูลได้สืบทอด พราหมณ์ในศาสนาพราหมณ์-ฮินดูถ้าเปรียบเปรยแล้วก็มีสถานะเทียบได้กับพระสงฆ์ในศาสนาพุทธ เพียงแต่จริยวัตรของพราหมณ์นั้นจะแตกต่างจากพระสงฆ์ในหลายๆเรื่องเช่น พราหมณ์โดยปกติจะถือศีล นุ่งผ้าตามแบบลักษณะของนิกายตนเอง ไว้มวยผมบ้าง ปอยผมบ้าง หรือบางนิกายก็ตัดผมสั้น และทานมังสะวิรัต งดเว้นเนื้อสัตว์ แต่สำหรับพราหมณ์ไทยทานเนื้อสัตว์ได้แต่งดเว้นเนื้อสัตว์บางประเภทเท่านั้น เช่น เนื้อวัว เนื้อปลาไหล เนื้อนก เป็นต้น พราหมณ์ต้องถือศีลตามข้อวัตรปฏิบัติของนิกายที่ตนเองนับถืออยู่ พราหมณ์สามารถมีครอบครัวเพื่อสืบสกุล โดยจะพำนักอยู่บ้านพักอาศัยของตนเอง หรือ เทวะสถาน ประจำลัทธินิกายแห่งตน สำหรับพราหมณ์หลวงจะเข้าไปพำนักรอบๆเทวสถานโบสถ์พราหมณ์ดังจะเห็นได้จากจะมีชุมชนพราหมณ์อยู่ในบริเวณนั้น

สำหรับพราหมณ์ในสังคมไทย ผู้เขียนขอแบ่งออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ๆกล่าวคือ พราหมณ์ที่เกิดในคติของพราหมณ์ไทย กับพราหมณ์ที่เกิดขึ้นในคติของพราหมณ์ฮินดู ถามว่าเพราะเหตุใด ผู้เขียนถึงแยกพราหมณ์ออกเป็นสองกลุ่มในลักษณะนี้เสียก่อน ก็ด้วยเหตุที่ว่า พราหมณ์ตามคติของไทยเรานั้น มีจริยวัตรแตกต่างและพิธีกรรม จารีต ประเพณีก็แปลกแตกต่างจากพราหมณ์ในศาสนาพราหมณ์-ฮินดูของชาวชมพูทวีปอยู่มากจนทำให้พิธีกรรมและอัตลักษณ์ของพราหมณ์ไทยนั้นแยกตัวออกมาและแตกต่างไม่เหมือนกันกับพราหมณ์ของประเทศในแถบชมพูทวีป เช่นประเทศอินเดีย ทั้งๆที่พราหมณ์ไทยมีต้นเค้าหรือรากเหง้ามาจากพราหมณ์อินเดียทางตอนใต้ของประเทศอินเดียในส่วนที่เรียกว่า ทมิฬนาฑู ในปัจจุบัน ซึ่งก็คงมีลักษณะที่คล้ายๆกันกับพราหมณ์ของชาวเกาะบาหลี ที่ประชากรเกือบทั้งหมดนับถือศาสนาพราหมณ์-ฮินดูในรูปแบบของชาวบาหลีเอง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องแบ่งแบบนี้เพื่อให้ทำความเข้าใจกันก่อน ส่วนความเป็นพราหมณ์ไทยที่เกิดด้วยวิธีการแบบไทยนั้นผู้เขียนขอแบ่งออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ๆ ตามความเข้าใจของผู้เขียนเองคือ เอาแบบที่อธิบายให้เข้าใจได้ง่ายก็คือ พราหมณ์หลวง และ พราหมณ์ราษฎร์ หรือพราหมณ์พิธี

สำหรับผู้เขียนนั้นพราหมณ์หลวงคือผู้ที่ได้รับการบวชพราหมณ์จากที่ประชุมพราหมณ์ ในทำเนียบของพราหมณ์หลวง โดยผู้ขอรับการบวชจะนำของมาถวายต่อพราหมณ์ผู้ใหญ่ แล้วพราหมณ์ผู้ใหญ่จะมอบสายสิญจน์ที่เรียกว่า สายยัชโญปวีตเพื่อเป็นการแสดงว่าตนได้เกิดใหม่หรือทวิชาติ ซึ่งหมายถึงการเกิดครั้งที่ 2 ซึ่งการบวชพราหมณ์ในแบบพิธีไทยไม่ได้มีกฎปฏิบัติจำนวนมากเหมือนกับการบวชพระในพระพุทธศาสนา กล่าวโดยรวมคือพราหมณ์ในแบบไทยเรานั้นจะถือศีลขั้นพื้นฐานแบบเดียวกับศีล 5 เป็นศีลปฏิบัติ โดยสามารถแต่งกายสุภาพทั่วไปในเวลาปกติ และสวมเครื่องแบบเป็นเสื้อราชปะแตนและโจงกระเบนสีขาวในยามประกอบพิธีกรรม รวมถึงสามารถมีภรรยาเพื่อมีทายาทสืบตระกูลพราหมณ์ต่อไปได้ นี่เป็นเพียงขั้นตอนการบวชพราหมณ์แบบคร่าวๆของพราหมณ์ไทย แต่สำหรับการเป็นนักบวชในศาสนาพราหมณ์-ฮินดูของชาวอินเดียนั้นมีกฏเกณฑ์วัตรปฏิบัติที่มากกว่าเช่น ทานมังสะวิรัตตลอดชีวิต ถือศีลอดในเทศกาลบูชาที่สำคัญ ท่องจำพระเวทเพื่อประกอบพิธีบูชาและออกจาริกแสวงบุญในเวลาอันสมควร ซึ่งจะมีความแตกต่างจากพราหมณ์ในรูปแบบของไทย ซึ่งก็มีคนไทยที่ปฏิบัติตนเองและได้รับการบวชมาแล้วเช่นกันแต่มีจำนวนน้อยมาก พราหมณ์กับการไว้ทรงผม สำหรับพราหมณ์ไทยมีคติเกี่ยวกับเส้นผมคือห้ามตัดแต่งผม ต้องไว้ผมยาวแล้วมุ่นเป็นมวยไว้ที่ท้ายทอย เพราะตามหลักศาสนาเชื่อว่าศีรษะและเส้นผมเป็นที่อยู่ของเทวดา สำหรับพราหมณ์อินเดียหรือเนปาลจะไว้ผมบ้างหรือตัดผมบ้างแล้วแต่นิกายครับ ในปัจจุบันพราหมณ์หลวงนั้นมีบทบาทและหน้าที่ถวายงานรับใช้พระราชวงศ์ทำหน้าที่เกี่ยวกับ พระราชพิธีต่างๆ ของพระมหากษัตริย์ ในการอัญเชิญพระผู้เป็นเจ้าและทวยเทพตามความเชื่อของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู มาเป็นสักขีพยานในการพระราชพิธีนั้นๆ เพื่อความเป็นสิริมงคลแด่องค์พระมหากษัตริย์ เชื้อพระวงศ์ และบ้านเมือง ยกตัวอย่างเช่น พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา พระราชพิธีฉัตรมงคล พระราชพิธีพืชมงคล พระราชพิธีตรียัมปวาย-ตรีปวาย เป็นต้น และงานตามวาระโอกาสสำคัญ อาทิ พระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี เป็นต้น

(ภาพ: พราหมณ์ฮินดูกำลังประกอบพิธีบูชาไฟกองกูณฑ์)


“พราหมณ์ผู้เป็นนักปราชญ์ ปราดเปรื่องและเชี่ยวชาญในพระเวททั้งหลายก็ไม่เหมาะที่จะเป็นคุรุของผู้หนึ่งผู้ใดหากพราหมณ์ผู้นั้นไม่สามารถเข้าถึงพระเป็นเจ้าได้ ในทางตรงกันข้ามหากผู้ใดสามารถเข้าถึงพระเป็นเจ้าได้แม้นว่าจะเป็นผู้ที่มีกำเนิดมาจากวรรณะจัณฑาล เขาผู้นั้นก็ได้ชื่อว่าเป็นคุรุของคนทั่วไปได้” ปัทมะ ปุราณะ


จากการเก็บข้อมูลในเว็บไซต์ //www.trisulidevalai.com สรุปได้ใจความว่า สำหรับพราหมณ์อีกกลุ่มก็คือพราหมณ์ราษฎร์ หรือพราหมณ์พิธี ซึ่งในที่นี้ก็คือพราหมณ์ที่ไม่ได้รับการบวชในเทวสถานโบสถ์พราหมณ์ในช่วงพระราชพิธีตรียัมปวาย-ตรีปวาย แต่ก็มีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกันอยู่ พราหมณ์ราษฎร์ในความคิดของผู้เขียนเอง คือผู้ที่มีสายเลือดของพราหมณ์หากแต่ไม่ได้เข้าถวายงานรับราชการกินเบี้ยหวัดอย่างพราหมณ์หลวง แต่ได้มีการบวชในรูปแบบของตนเองหรือในกลุ่มของพราหมณ์ในครอบครัวของตนเอง ด้วยสายเลือดและความรู้ในตำรับตำราที่รับสืบทอดมาในตระกูลของตนเองจึงทำให้พราหมณ์ราษฎร์ที่ได้ศึกษาและเชี่ยวชาญในพระเวทและพิธีกรรมก็สามารถที่จะประกอบพิธีเพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับงานพิธีต่างๆได้เช่นเดียวกัน ตระกูลของพราหมณ์ที่เข้ามาอยู่ในประเทศไทยนั้นมีจำนวนมากมายอยู่ที่ว่าครอบครัวหรือตระกูลนั้นๆจะได้เคยเข้าถวายงานกับราชการหรือไม่ เพราะโดยการบันทึกในสมัยก่อนนั้นจะปรากฏชื่อหรือเหตุการณ์เฉพาะที่สำคัญเท่านั้น สำหรับการบันทึกในแบบของชาวบ้านธรรมดาทั่วไปนั้นไม่ปรากฏให้เห็นมากนัก จนเป็นเหตุให้ข้อมูลและความรู้ในศาสตร์ต่างๆ ลบเลือนหายออกไปจากสังคมไทย และโดยเฉพาะความรู้เกี่ยวกับตระกูลของพราหมณ์ ในศาสนาพราหมณ์-ฮินดูในปัจจุบันนั้น ผู้ที่จะเป็นพราหมณ์หรือได้รับการบวชพราหมณ์นั้น นอกไปจากผู้ที่เกิดในตระกูลตามวรรณะของตนเองแล้ว ผู้ที่เกิดนอกวรรณะพราหมณ์ก็สามารถบวชพราหมณ์ได้เช่นกันแต่ยกเว้นอยู่เพียงคนกลุ่มเดียวซึ่งเป็นวรรณะต้องห้ามซึ่งขอที่จะไม่กล่าวถึงในตอนนี้ พราหมณ์ที่มาจากวรรณะอื่นหรือในกรณีของพราหมณ์ที่มาจากประเทศอื่นๆเช่น ประเทศทางแถบยุโรป เป็นต้นนั้นก็สามารถที่จะได้รับการบวชพราหมณ์จากเหล่าคุรุได้เช่นเดียวกันกับพราหมณ์ที่เกิดและสืบเชื้อสายมาจากชาวชมพูทวีปโดยเมื่อผ่านพิธีอุปนายะฯแล้ว คนผู้นั้นก็ย่อมจะได้ชื่อว่าเป็นพราหมณ์ในนิกายที่ตนได้เข้าไปบวช โดยในประเทศอินเดียนั้นมีมหาวิทยาลัยของพราหมณ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่งอยู่ที่เมืองพารานาสี โดยมหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้สร้างนักคิดนักเขียน และพราหมณ์ที่มีความรู้ความสามารถเป็นนักปราชญ์ออกมารับใช้สังคมและพระเป็นเจ้าอย่างมากมาย การศึกษาในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ใช้เวลาศึกษาเล่าเรียนประมาณ 5 ปีเป็นอย่างน้อย และหลังจากนั้นจะเป็นจาริกแสวงบุญเพื่อค้นหาสัจจะธรรมและความหลุดพ้นเพื่อเข้าสู่พระเป็นเจ้าตามหนทางของลัทธินิกายที่ตนเองนับถืออยู่ สำหรับตระกูลพราหมณ์เท่าที่มีการสืบค้นและมีหลักฐานแน่นอนว่ามีความเกี่ยวข้องกับราชสำนักไทยมาตั้งแต่ครั้นโบราณกาลก็มีพราหมณ์อยู่หลายตระกูล แต่สำหรับตระกูลของพราหมณ์หลวงที่ได้สืบเชื้อสายมาจากบรรพบุรุษของตนเองอยู่ 7 ตระกูล ได้แก่ตระกูล โกมลเวทิน สยมภพ นาคะเวทิน รัตนพราหมณ์ ภวังคนันท์ วุฒิพราหมณ์ และรังสิพราหมณกุล ถามว่าแล้วจะมีตระกูลอื่นนอกเหนือจากนี้เป็นพราหมณ์ด้วยหรือไม่ คำตอบสำหรับผู้เขียนก็คือ มีครับ เพียงแต่มีการเปิดเผยในวงกว้างหรือไม่เท่านั้น เพราะหลายตระกูลก็ไม่ได้ทำหน้าที่พราหมณ์ประกอบพิธีอีกแล้วก็มีอยู่หลายตระกูลและอีกหลายสกุลที่ทำงานด้านนี้อยู่แต่ไม่ได้เปิดเผยตัวเองต่อสาธารณะชนทั่วไป

แล้วพราหมณ์ทำหน้าที่อะไรมีบทบาทอย่างไรในศาสนาพราหมณ์-ฮินดูและสังคมไทย สำหรับผู้เขียนในฐานะที่เป็นพราหมณ์พิธีได้ทำหน้าที่เผยแผ่ศาสนาและหลักธรรมผ่านเว็บไซต์ //www.trisulidevalai.com เพื่อให้เข้าถึงคนรุ่นใหม่ แน่นอนพราหมณ์ย่อมต้องมีหน้าที่สอนหลักธรรมและหลักการของศาสนา สอนปรัชญา จารีต ประเพณี ตามนิกายที่ตนเองนับถืออยู่โดยนำความรู้จากพระเวทและคัมภีร์ต่างๆมาสอนสั่งผู้ที่ต้องการเรียนรู้และเป็นผู้ประกอบพิธีที่เกี่ยวข้องกับความเป็นมงคล การสรรเสริญพระเป็นเจ้าตามรูปแบบพิธีกรรมตามจารีตประเพณีโบราณที่สืบทอดกันมา ดังนั้นพราหมณ์จึงถือเป็นปราชญ์ของสังคม พราหมณ์เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการอัญเชิญพระเป็นเจ้าลงมาสถิตยังมงคลสถานเพื่อเป็นสักขีพยานในพิธีหรือรับเครื่องบูชาสังเวยพลีจากผู้บูชาโดยผ่านพราหมณ์ผู้ประกอบพิธี พราหมณ์เป็นผู้รับใช้พระเป็นเจ้าเป็นสื่อกลางในการประกอบพิธีกรรมซึ่งพิธีกรรมของพราหมณ์นั้นไม่เกี่ยวข้องกับคติหรือความเชื่อในลักษณะเป็นบาป เช่นการทำ คุณไสย หรือมนต์ดำ ไสยศาสตร์ พราหมณ์คือผู้ครองตนในทางที่ถูกที่ควรตามจริยวัตรอันดีงาม และชี้นำสังคมให้เดินตามทางสันติสุข แนวทางการปฏิบัติหรือการประพฤติตนเองของพราหมณ์ย่อมต้องเป็นแบบอย่างที่ดีต่อสังคม ต่อผู้ศรัทธาในเหล่าเทพเจ้าในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เป็นผู้ชี้แนะแนวทางในการดำเนินชีวิตตามนัยยะคติของนิกาย ดังนั้นพราหมณ์ที่ดีย่อมเป็นผู้ที่น่าสรรเสริญในคุณความดีที่ได้สั่งสมมา ดังเช่นศาสนาพุทธที่สอนให้คนเรารู้จักที่จะเคารพบูชาและสรรเสริญผู้อื่นจากการกระทำดีหาใช่แต่เพราะว่าเขาเหล่านั้นคือใคร เป็นใคร วรรณะใด หากแต่อยู่ที่การกระทำความดีเป็นที่ตั้ง คำว่าการทำดี ครองตนดีของพราหมณ์ส่วนหนึ่งก็คือไม่เบียดเบียนผู้อื่น เห็นค่าของสิ่งมีชีวิตบนโลก เพราะนั่นคือสิ่งที่พระเป็นเจ้าได้รังสรรค์ไว้ให้ ยินดีกับพรที่พระเป็นเจ้าได้สร้างสรรค์สรรพสิ่งต่างๆไว้ให้เหล่ามนุษย์

ดังนั้นพราหมณ์ในศาสนาพราหมณ์-ฮินดูแม้ว่าจะมีวิถีทางที่ แนวความคิดแตกต่างหรือมีที่มาแตกต่างจากคติของศาสนาพุทธแต่เมื่อมองในมุมของการประพฤติปฏิบัติตนแล้วย่อมสามารถที่จะสรรเสริญในคุณงามความดีได้เฉกเช่นเดียวกับคนทั่วไปประกอบคุณความดี หากแต่ว่าพราหมณ์คนใดไม่ได้ครองตนอยู่ในทางที่ถูกที่ควร ประกอบกิจพิธีที่เป็นอัปมงคลต่อผู้อื่น พราหมณ์ผู้นั้นก็ไม่ควรที่จะได้รับการสรรเสริญยกย่องแต่ประการใด แม้แต่พระเป็นเจ้าย่อมไม่ยินดีในการกระทำเหล่านั้น และเมื่อมองย้อนกลับไปถึงพิธีกรรมที่มีการเอาเลือดมาเทที่พื้นในลักษณะนี้ สำหรับผู้เขียนแล้ว ผมเองทราบคำตอบในใจว่าพิธีดังกล่าวเป็นพิธีมงคลที่พราหมณ์ควรที่จะเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ และเป็นพิธีกรรมในศาสนาพราหมณ์-ฮินดูหรือไม่ หรือนั่นเป็นเพียงแค่เดรัจฉานวิชาอย่างหนึ่ง ไสยศาสตร์ในอีกรูปแบบหนึ่ง

ओम शांति शांति शांति
โอม ศานติ


ท่านสามารถหาอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ //www.trisulidevalai.com



CopyRight © 2010 All Right reserved by Trisuli




 

Create Date : 23 เมษายน 2553   
Last Update : 3 มีนาคม 2556 2:49:44 น.   
Counter : 2827 Pageviews.  



คุ้มหลวง
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




รับประกอบพิธีพราหมณ์ทุกพิธี (www.trisulidevalai.com)
Copyright©2010 Trisuli ตาม พ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ 2537

สำหรับการโพสข้อความใดๆเพื่อเป็นการใส่ร้ายป้ายสีหรือข้อความอันเป็นเท็จและทำให้พราหมณ์ชาคริต เสื่อมเสียชื่อเสียงทางคณะศิษยานุศิษย์พราหมณ์ชาคริตจะถือว่าท่านมีเจตนากระทำความผิดตามกฏหมายทันที ดังนั้นโปรดศึกษาข้อกฏหมายให้ดีเสียก่อนเพราะการตรวจสอบIP Addressไม่ใช่เรื่องยากสำหรับการสืบเสาะและค้นหาตัวผู้กระทำผิด หรือการใช้เฟสบุ๊คปลอมมาโพสข้อความอันเป็นเท็จหรือการกระทำอื่นใดอันเข้าข่ายความผิดตาม“พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550” มีโทษทั้งจำและปรับ

จึงเรียนมาเพื่อทราบ
คณะทำงานศิษยานุศิษย์พราหมณ์ชาคริต
[Add คุ้มหลวง's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com