"ความสามัคคีปรองดอง เป็นกำลังอย่างสูงสุดของชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ความสามัคคีของคนในชาติ จะทำให้บ้านเมืองผ่านพ้นอุปสรรค และทำให้สังคมไทย ร่มเย็นเป็นสุข" พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
สนใจลงโฆษณา ในพื้นที่ข้างบน ติดต่อ email : nana_sara1000@ymail.com
Home Lover’s Corner นานา สาระ๑๐๐๐ นานา สารพัด พระพุทธประวัติ ภาคพิเศษ
Travel Around the World Real Estate Buyer's Guide สุขภาพกาย สุขภาพใจ Pets & Animals
ปางพระพุทธรูปตามพุทธประวัติ Horoscope 12 ราศี พระพุทธศาสนา World of Beautiful Musics

สีสันของ Autumn


ป่าไม้เมืองหนาวนนี่ ได้เปรียบป่าไม้เมืองร้อน เรื่องสีสัน

เพราะมันมีฤดูผลัดใบ...

ผลัดทีไร ใบมันก็เปลี่ยนสี

เปลี่ยนไป..ทีละน้อย ๆ

แต่ไม่เพียงเท่านั้น....

อารมณ์คน ก็ดันเปลี่ยนตาม

เพราะสีสัน มันคือบรรยากาศ

มันดลบันดาลให้เกิดจินตนาการ

มันสร้างความประทับใจ และเตือนใจกลับไปอดีต

.............

นี่แหละ อานุภาพแห่ง ป่าไม้ผลัดใบ

































































































































ภาพชุดนี้ สวยแบบธรรมชาติ
คือการถ่ายภาพที่ไม่ได้ใช้เทคนิค หรือตัวช่วย
แต่ใช้เลนส์ ต่างระยะกัน หลายตัว
ตั้งแต่กว้าง (wide angle) จนแคบ(Micro)
เลือกจับภาพในระยะต่างๆกัน
ทั้งมุมกว้าง แบบสุดลูกหูลูกตา
และแคบแบบ เอาแค่ใบไม้ที่ร่วงหล่น
กับการเลือกมุมกล้องอีกเล็กน้อย

ความสวย ก็อยู่ที่สีสันของธรรมชาติมัน
และเลนส์ที่ใช้
ว่าถ่ายทอดเอาของจริงมาได้มากแค่ไหน


TraveLArounD




ปล. ท่านที่เพิ่งเข้ามาชมบล็อกใหม่ ผมได้จัดทำเป็นสารบัญ แบบหนังสือให้ค้นดูหัวเรื่องได้ง่ายที่ group : นานา สาระ๑๐๐๐ เพราะเรื่องต่างๆ เขียนไว้ 1200 กว่าเรื่องแล้ว

ส่วนท่านที่ชอบเพลง background ผมได้รวบรวมเพลงไพเราะ เพลงรัก romantic และเพลงซึ้งๆ ที่หาฟังได้ยากในสมัยนี้ ไว้หลายชุด สนใจ email ติดต่อมาได้ครับที่ nana_sara1000@ymail.com

หมายเหตุ : ขณะได้มี website อื่นๆหลาย website ได้นำเอาเรื่องที่ผมเขียนไว้ ไปลงต่อในลักษณะของเนื้อหา โดยไม่ได้รับอนุญาตใดๆ ถ้าต้องการบทความใดไปใช้ ขอให้ติดต่อขออนุญาต ก่อนทาง Email : nana_sara1000@ymail.com มิฉะนั้น จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายลิขสิทธิ์

ส่วนผู้ที่ต้องการนำเรื่องไปโพสต่อ เพื่อเผยแพร่ โดยมิใช่ทางการค้า ขอให้ติดต่อขออนุญาตให้ถูกต้องก่อนโพส




 

Create Date : 08 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 19 กันยายน 2553 2:20:56 น.
Counter : 3149 Pageviews.  

กล้องฟิลม์ อดีตที่ยังมีลมหายใจ

กล้องฟิลม์ อดีตที่ยังมีลมหายใจ


สำหรับคนรุ่นใหม่ ที่เกิดในยุคดิจิทัล กล้องฟิลม์ อาจเป็นเพียงอุปกรณ์ถ่ายภาพในอดีต ที่ถึงยุคร่วงโรย หรือสินค้าตกยุค เพราะกล้องถ่ายรูปในปัจจุบันมีการพัฒนาแข่งขันกันไปอย่างไม่หยุดยั้ง สามารถตอบสนองความต้องการของนักถ่ายภาพ ได้อย่างกว้างขวาง ทั้งมือสมัครเล่น และมืออาชีพ และก็ยังไม่มีทีท่าว่า จะจบลงเมื่อใด กลับมีแต่ข่าวการพัฒนาของเทคโนโลยี่ด้านนี้อย่างต่อเนื่อง มีการคิดค้น ผลิตกล้องรุ่นใหม่ๆ ที่แก้ไขจุดบกพร่องต่างๆ ได้ดีขึ้นเรื่อยๆ การปรับปรุงคุณภาพของตัวรับภาพและบันทึกภาพ ให้มีความสวยงาม คมชัด หรือเหมือนจริง ได้ดีกว่าฟิลม์ธรรมดา ทำให้ตากล้องมืออาชีพยอมรับ และยังได้ใจมือสมัครเล่นกลุ่มใหญ่ๆ ก็คือความง่ายในการใช้งาน ความสะดวกรวดเร็วทันใจ ในการได้ภาพมาชมหลังการถ่าย และเครื่องช่วยให้ถ่ายภาพได้ดีขึ้น เช่นการโฟกัส การวัดแสง และการแก้การสั่นไหว ทำให้ใครๆ ก็ถ่ายภาพได้ โลกของการถ่ายภาพในปัจจุบันจึงขยายตัวมากกว่าครั้งใดๆในอดีต











กล้องฟิลม์ในอดีต มากมายหลากหลาย brand เช่น Leica , Hasselblad , Nikon , Canon , Contax , Pentax , Minolta , Olympus , Fujica , Yashica , Ricoh , Rollei , Yashica , Voigtlander , Bronica , Kodak , Argus , Zorki ฯลฯ มีบางส่วนจากหายไป ด้วยการแข่งขันกันเอง แม้เกิดก่อน... ดังกว่า.... แต่ถ้าขาดการพัฒนาให้เป็นที่ยอมรับของตลาดผู้ใช้แล้ว ก็ยากที่จะยืนอยู่ได้ ต้องทยอยปิดตัวไปหลายๆ brand โดยเฉพาะรายเล็ก รายน้อย ที่สู้กับ brand ใหญ่ๆไม่ได้ หรือแม้แต่ Brand ใหญ่ๆบาง Brand เอง ที่ผ่านจุดสูงสุดของมันมาแล้ว ก็ยังไม่วายต้องโดน take over โดยค่ายยักษ์ของญี่ปุ่น ที่กินตลาดไปได้เรื่อยๆ (แม้กระทั่งตลาดรถยนต์ พี่ยุ่นแกก็กวาดไปซะ !!)












กล้องฟิลม์ในอดีต มีการพัฒนาจากหลักการง่ายๆ ใช้งานก็ไม่ยาก แต่จะถ่ายให้สวยนั้นค่อนข้างยาก เพราะไม่ค่อยมีตัวช่วย ชัตเตอร์มีไม่กี่สปีด ไม่มีเครื่องวัดแสง ต้องอาศัยการจดจำและประสบการณ์ แต่เดี๋ยวนี้ นอกจากกล้องจะช่วยผู้ถ่ายได้เยอะแล้ว ยังมีโปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยตกแต่งภาพได้อีกสารพัด จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมกล้องฟิลม์ จึงถูกทอดทิ้ง เก็บเข้ากรุ หรือขายต่อกันถูกๆ อย่างน่าเสียดาย











แต่สำหรับคนที่เติบโตมาพร้อมกับวิวัฒนาการยุคเก่านี้ กล้องเปรียบเสมือนคู่ขาหรือเพื่อนเก่า ที่ยังมีคุณค่า ทั้งการใช้งาน และทางจิตใจ (ไม่มากก็น้อย) กล้องเก่าๆที่มีคุณภาพดี ส่วนใหญ่ยังใช้การได้ดี ด้วยระบบกลไกที่แข็งแรงทนทาน โดยเฉพาะเลนส์มือหมุน ที่ให้ภาพได้สวยงามสุดยอด (ที่กล้องดิจิทัล ยังไม่มีเทคโนโลยี่อย่างอื่น มาทดแทน) ทำให้การใช้กล้องฟิลม์มีอะไรให้เล่นได้สนุก และมีเสน่ห์ในตัวเอง แม้ว่าอะไรๆมันจะทำได้เชื่องช้าอืดอาดกว่า ระบบ “ สารพัด auto ” ในปัจจุบัน ในทางกลับกัน คนรุ่นก่อนๆ (เช่นผม) ก็สับสนและไม่คุ้นเคยกับโปรแกรมและ mode การใช้งานของกล้อง ดิจิทัล ด้วยเหมือนกัน











กล้องยุคกลางๆที่เป็นอิเลคโทรนิค ก็ถูกกระแสการตลาดกลืนกินไปเช่นกัน เพราะเมื่อขาด battery เสียแล้ว มันก็กลายเป็นกล้องง่อย กล้องพิการ ทำงานไม่ได้ไปเลย สู้กล้องรุ่นเก่ากว่าที่เป็นแมคคานิคไม่ได้ นอกจากกล้องที่ช่างภาพอาชีพทั่วโลกยอมรับเช่น Leica หรือ Hasselblad แล้ว ยังมีกล้องฟิลม์ระดับรองๆลงมาอีกหลาย Brand ที่ยังใช้งานได้ดี และราคาไม่แพง เช่น Nikon , Canon , Pentax , Olympus ที่คนรุ่นใหม่ ที่เริ่มถ่ายภาพจากกล้องดิจิทัล และเริ่มสนุกกับการถ่ายภาพ น่าจะลองหันมาเล่นกันได้ พวกกล้อง SLR จะมีให้เลือกมากหน่อย เลนส์มือหมุนก็มีเยอะแยะ ราคาไม่แพง ส่วนใครเล่นจนติดใจ อยากจะลองข้ามไปเล่นพวก rangefinder หรือ medium format อีก ก็ไม่ผิดกติกาแต่ประการใด เพราะเดี๋ยวนี้ ในต่างประเทศเขาเก็บสะสมกล้องพวกนี้กันแบบจริงๆจังๆ ขนาดซ่อมได้ จัดเป็นพิพิธภัณฑ์ได้ หรือมีชมรมเฉพาะกล้องเก่าแต่ละ brand กันเลย













ข้อเสียอย่างหนึ่งของกล้องฟิลม์ (หรือกล้องดิจิทัลก็คงไม่น้อยไปกว่า) คือการ “เสีย” ที่ซ่อมไม่ได้ หรือซ่อมไม่คุ้ม ก็ต้องหา body ตัวใหม่มาแทน แต่บางส่วนที่เสีย ก็ไม่จำเป็นต้องซ่อม ก็ยังสามารถใช้งานได้ เช่น ตัววัดแสง ที่ส่วนใหญ่จะใช้งานไม่ได้ ใช้ได้ไม่เที่ยงตรง หรือไม่มี แบตเตอรี่ เราก็สามารถหาเครื่องวัดแสงเป็นตัวมาใช้แทนได้ (จะดีกว่าเสียด้วยซ้ำ) เช่นของ Sekonic หรือ Gossen ที่ใช้งานได้ดี และเมื่อเราใช้งานจนคล่องแล้ว เราก็จะใช้แทนกล้องทุกตัวได้เลย














หรือแม้เลนส์มือหมุนรุ่นเก่าๆ จะมีข้อเสียเรื่องการเคลือบผิว ที่ไม่ดี เหมือนเลนส์รุ่นใหม่ๆ เพราะเขาใช้ถ่ายภาพขาว-ดำ แต่ข้อดีก็ยังมีอยู่บ้าง เช่น ภาพจะนุ่มนวลกว่า contrast น้อยกว่า เหมาะกับการถ่ายภาพ portrait และเลนส์เก่าของค่ายดังๆ อย่าง Rokkor , Super-Takumar หรือ Zuiko ก็มีคุณภาพดี น่าใช้ ราคาไม่แพง และยังได้รับความนิยมจากทั้งคนชอบมือหมุน และดิจิทัล














ที่อยากจะพูดประเด็นหนึ่ง นอกจากที่จะมาเปรียบเทียบประสิทธิภาพของกล้องฟิลม์ กับกล้องดิจิทัล ว่าอะไรจะดีกว่ากัน คือเรื่องของ “ศิลปในการถ่ายภาพ” เพราะกล้อง ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน มันก็เป็นเพียงเครื่องมือในการบันทึกภาพเท่านั้น ภาพที่ดีหรือสวย มันจะออกมาจากสายตาและมันสมองของช่างภาพมากกว่า หรือที่ฝรั่งมันพูดไว้ว่า “ Great photographers can take good pictures with any equipment. ” (ซึ่งก็ถูก แต่ไม่ทั้งหมด เพราะ ไอ้ photographers ที่ว่านั่น ก็มักจะใช้กล้องและอุปกรณ์ที่ดีและแพงๆ เสมอ)














สำหรับตัวผมเอง นอกจากการถ่ายภาพด้วยกล้องทั้งสองประเภท แล้วแต่โอกาสและการใช้งานแล้ว การสะสมกล้องฟิลม์ หรือกล้องโบราณ ก็ยังเป็นความสุขอีกอย่างหนึ่ง ที่ได้เล่น ได้จับ ได้ดูรูปร่าง รูปแบบและวิธีคิด ของการสร้างกล้อง ให้ตอบสนองการใช้งานของแต่ละ brand ออกมา ไล่ตั้งแต่พวก BOX มาเป็นพวก Folding เรื่อยมา แต่ละแบบ แต่ละประเภท ก็มีความน่าสนใจ ความสวยงาม หลากหลาย แตกต่างกันไป เป็นเสน่ห์เฉพาะตัว ที่ยากจะปฏิเสธ ...... และน่าเสียดาย ถ้ากล้องเหล่านี้ จะถูกละเลย ลืมเลือน ไปจากวิถีชีวิตของ “คนถ่ายภาพ”


TraveLArounD




ปล. ท่านที่เพิ่งเข้ามาชมบล็อกใหม่ ผมได้จัดทำเป็นสารบัญ แบบหนังสือให้ค้นดูหัวเรื่องได้ง่ายที่ group : นานา สาระ๑๐๐๐ เพราะเรื่องต่างๆ เขียนไว้ 1200 กว่าเรื่องแล้ว

ส่วนท่านที่ชอบเพลง background ผมได้รวบรวมเพลงไพเราะ เพลงรัก romantic และเพลงซึ้งๆ ที่หาฟังได้ยากในสมัยนี้ ไว้หลายชุด สนใจ email ติดต่อมาได้ครับที่ nana_sara1000@ymail.com

หมายเหตุ : ขณะได้มี website อื่นๆหลาย website ได้นำเอาเรื่องที่ผมเขียนไว้ ไปลงต่อในลักษณะของเนื้อหา โดยไม่ได้รับอนุญาตใดๆ ถ้าต้องการบทความใดไปใช้ ขอให้ติดต่อขออนุญาต ก่อนทาง Email : nana_sara1000@ymail.com มิฉะนั้น จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายลิขสิทธิ์

ส่วนผู้ที่ต้องการนำเรื่องไปโพสต่อ เพื่อเผยแพร่ โดยมิใช่ทางการค้า ขอให้ติดต่อขออนุญาตให้ถูกต้องก่อนโพส




 

Create Date : 25 เมษายน 2553    
Last Update : 9 สิงหาคม 2554 20:01:57 น.
Counter : 3971 Pageviews.  

เหตุผล 5 ประการ ที่กล้องฟิลม์ ยังดีกว่ากล้องดิจิตัล



เหตุผล 5 ประการ ที่กล้องฟิลม์ ยังดีกว่ากล้องดิจิตัล


ขณะที่กล้องติจิตัลกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จากความสะดวกและประหยัดกว่าการส่งฟิลม์ล้าง ทำให้โลกมีการถ่ายภาพมากขึ้นกว่ายุคใดๆ หนำซ้ำ โลกอินเตอร์เนท ยังมีกิจกรรมที่ส่งเสริมการถ่ายภาพ หลายๆอย่าง เวบไซท์ Flickr มีคน upload ภาพเข้าไปมาก นับเป็นพันล้านภาพ มือถือทุกเครื่อง มีกล้องติดตั้งในตัว และนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ ก็ใช้กล้อง DSLR กันเกือบหมด กล้องฟิลม์ตกยุคจนแทบจะตายจากไป แต่ในสถานการณ์นี้ สิ่งที่ดีๆในอดีต ก็ยังคงเป็นสิ่งที่ดีกว่า

1. Shutter Lag การถ่ายภาพสิ่งของที่ไม่เคลื่อนไหว หรือภาพทิวทัศน์ อาจไม่ใช่ปัญหาของกล้องดิจิตัล แต่สำหรับภาพที่ต้องการช่วงเวลาแค่เสี้ยววินาที การ delay เพียงนิดเดียว ก็สามารถเปลี่ยน action ที่สุดยอด ไปเป็น action ที่แค่เกือบสวย และช่วงเวลาเพียงเสี้ยววินาที ที่คุณเพิ่งผ่านไปนั้น มันก็เป็นอดีตที่น่าเสียดาย เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด “Decisive Moment” ที่คุณจะเรียกกลับมาใหม่ ไม่ได้อีกแล้ว

2. Batteries แม้ว่ากล้องส่วนใหญ่ที่ใช้กันในปัจจุบัน จะต้องใช้ Battery แม้กล้องฟิลม์ แต่บรรดากล้องดิจิตัล นั้นกินไฟมากๆ โดยอุปกรณ์เช่น LCD ขนาดใหญ่ motorized zoom lenses , image stabilizers และ CCD ทำให้การถ่ายภาพกิจกรรมต่างๆ ต้องมีการสำรอง Battery หรืออุปกรณ์สำหรับ recharges ต่างๆเอาไว้ใช้อย่างพะรุงพะรัง ในอดีต ช่างภาพสงครามติดตามข่าวในสนามรบด้วยกล้องเพียงตัวสองตัว ใส่เป้ผ้าใบสะพายบ่าไป แต่ปัจจุบัน ช่างภาพที่จะทำอย่างเดียวกันได้ อาจจะต้องแบกอุปกรณ์ต่างๆ มากกว่าทหารที่เขาตามข่าวเสียอีก

3. Viewfinder ด้วยจอ LCD 2-3 นิ้วด้านหลังกล้อง อาจทำให้การถ่ายภาพสะดวกสบายขึ้น แต่สำหรับการถ่ายภาพแบบจริงจังแล้ว ช่างภาพต้องใช้ Viewfinder ที่นอกจากจะทำให้ไม่วอกแวกไปกับความเคลื่อนไหวอื่นๆรอบด้านแล้ว ยังทำให้มีสมาธิกับสิ่งที่จะถ่าย นอกจากนั้น การที่ถือกล้องแนบกับศีรษะอย่างมั่นคงนั้น ก็ช่วยให้กล้องนิ่งและภาพที่ได้ไม่มัว หรือสั่นไหวโดยไม่ต้องการ

แม้ว่า กล้องดิจิตัล จะมี Viewfinder ก็ตาม การมองผ่านช่อง Viewfinder ก็ไม่ได้ถ่ายทอดภาพที่คุณต้องการ หรือภาพที่คุณอยากจะได้ ทั้งขนาดภาพที่เห็นไม่เต็ม frame หรือขนาด fileภาพ ที่ได้ไม่เต็ม pixel แม้มีการพัฒนาที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ก็ยังมีจุดบอด ทำให้คุณไม่สามารถมองเห็นเหตุการณ์ หรือ action ตามจริง เมื่อกระจกกระดกขึ้น ระบบที่ดีที่สุดที่ไม่มีปัญหาอย่างนี้ ก็คือ rangefinder ซึ่งก็มี digital rangefinder ที่ทำอย่างนี้ได้ เช่น Leica M8 (แต่คุณต้องมีเงินพอสมควรเชียวนะ)

4. Obsolescence กล้องฟิลม์ในอดีตนั้น แม้จะเก่า ถูกทิ้งๆขว้างๆ หรือเก็บยัดใส่ตู้จนลืม แต่มันก็ยังใช้ได้อยู่ เมื่อเราต้องการ และได้ภาพที่ดี เหมือนเมื่อตอนที่เราซื้อมันมาใหม่ๆ (อาจจะไม่สะดวกในการซื้อฟิลม์ ) แต่ทุกอย่างก็ยังใช้ได้ดี นอกเสียจากว่าคุณต้องการจะ upgrade กล้องรุ่นที่ดีขึ้นกว่าที่มีอยู่ แต่สำหรับเจ้าของกล้องดิจิตัล คุณต้องคอยไล่ตาม เทคโนโลยี อยู่ตลอด แม้คุณจะยังไม่อยากเสียเงินก็ตาม เช่นสาวกของกล้องดิจิตัล Canon EOS 1D 4 megapixel ก็คงไม่มีใครใช้กล้องรุ่นนี้กันแล้ว เพราะอย่างต่ำๆ ก็คงต้องหารุ่นที่มีไม่ต่ำกว่า 8 megapixel ขึ้นไป

5. Noise สิ่งที่น่ารังเกียจสำหรับคอกล้องดิจิตัล คงไม่มีอะไรเกินเรื่อง Noise ยิ่งมี pixel มาก ก็ยิ่งมี Noise มาก ในการถ่ายภาพ ในที่มีแสงน้อย ด้วย ISO speed สูงๆ ต่างกับ ฟิลม์ ที่มี ISO สูงๆก็ไม่มีปัญหาเรื่อง noise (แต่จะมีเรื่อง Grain ใหญ่หยาบกว่า)

ในปัจจุบัน การผลิต กล้องดิจิตัล ก็พยายามแก้จุดเสียต่างๆเหล่านี้ แต่คนเล่นกล้อง หรือรักการถ่ายภาพ ก็ต้องควักกระเป๋าจ่ายเงินเพิ่มกันดัง “หนึบบบ...” ไปตามๆกัน


พวกตากล้องมืออาชีพ ก็พอทำเนา เพราะเขามีรายได้มาจากการถ่ายภาพ แต่สำหรับมือสมัครเล่นแล้ว การจ่ายเงินหลัก หลายๆหมื่น มันจะคุ้มกับความสุขที่ได้รับกลับมาหรือไม่ ?

คำตอบ ก็อยู่ที่ตัวคุณๆเองนั่นแหละครับ

TraveLArounD




เรียบเรียงจาก :-
Five Reasons Film Cameras Are Still Better Than Digital
By Charlie Sorrel
//www.wired.com/gadgetlab/tag/film/page/3/




 

Create Date : 14 เมษายน 2553    
Last Update : 14 เมษายน 2553 20:03:03 น.
Counter : 894 Pageviews.  

สถาปัตยกรรมมุมเงย

สถาปัตยกรรมมุมเงย



ภาพชุดนี้ นำเสนองานถ่ายภาพสถาปัตยกรรม ที่มีความ สูงใหญ่

การนำเสนอ มีทั้งภาพถ่ายภายใน และภายนอก

แต่ไม่ใช่ถ่ายจากระยะไกล

เป็นการถ่ายจากระยะใกล้ แบบกระชั้นชิด

ภาพถ่าย จึงเป็นมุมมองที่เงยขึ้น

ถ่ายทอดตัวสถาปัตยกรรม ที่อยู่ข้างบน

อาจจะใช้ wide angle ที่ทำให้เห็นภาพกว้างๆ

หรือเลนส์ normal ที่แสดงรายละเอียดเฉพาะส่วน

บางภาพอาจใช้เทคนิคอื่นๆช่วย

หรือบางภาพอาจเล่นเรื่องมุมกล้อง ให้เอียงไป

ให้เส้นสายออกมาน่าสนใจ

ไปเที่ยวที่ไหน ลองนำวิธีนี้มาใช้บ้าง

จะได้ภาพแง่มุมเก๋ๆ กว่าที่เคยถ่ายครับ

























































































































































ภาพประกอบทั้งหมดจาก INTERNET ครับ

TraveLArounD




ปล. ท่านที่เพิ่งเข้ามาชมบล็อกใหม่ ผมได้จัดทำเป็นสารบัญ แบบหนังสือให้ค้นดูหัวเรื่องได้ง่ายที่ group : นานา สาระ๑๐๐๐ เพราะเรื่องต่างๆ เขียนไว้ กว่า 1400 กว่าเรื่องแล้ว

หมายเหตุ : ขณะได้มี website อื่นๆหลาย website ได้นำเอาเรื่องที่ผมเขียนไว้ ไปลงต่อในลักษณะของเนื้อหา โดยไม่ได้รับอนุญาตใดๆ ถ้าต้องการบทความใดไปใช้ ขอให้ติดต่อขออนุญาต ก่อนทาง Email : nana_sara1000@ymail.com มิฉะนั้น จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายลิขสิทธิ์

ส่วนผู้ที่ต้องการนำเรื่องไปโพสต่อ เพื่อเผยแพร่ โดยมิใช่ทางการค้า ขอให้ติดต่อขออนุญาตให้ถูกต้องก่อนโพส




 

Create Date : 01 ตุลาคม 2552    
Last Update : 11 กันยายน 2554 12:57:43 น.
Counter : 1063 Pageviews.  

พลิ้วคลื่นแห่งขุนเขา

พลิ้วคลื่นแห่งขุนเขา | Marcin sacha


ภาพชุดนี้ เป็นผลงานของ marcin sacha ช่างภาพชาว โปแลนด์ ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ landscape หรือภูมิทัศน์ธรรมชาติ เป็นพิเศษ แต่ภาพของ marcin sacha จะแตกต่างจากภาพ landscape ที่เราเคยเห็นกันทั่วๆไป




































ภาพชุดของ marcin sacha จะเลือกภูมิประเทศที่เป็นเนินเขาเล็กๆสลับซับซ้อน และไร้ต้นไม้ปกคลุม จะมีบ้างก็ไม่มาก ให้เป็นจุดสนใจ ความเด่นอยู่ที่การใช้แสงเงาเป็นหลัก เพื่อให้ได้ความรู้สึกลึกลับ หรือมหัศจรรย์ บวกกับเทคนิคเฉพาะตัวเล็กน้อย























































การจะได้แสงแบบนี้ ต้องอาศัยช่วงเวลา เช้าๆหรือเย็นๆ เพื่อให้ได้แสงที่เรี่ยไล่ไปกับแนวเนิน ให้เกิดความแตกต่างของระยะเนินแต่ละลูก ไม่ใช่ถ่ายภาพตอนเที่ยงๆ ที่แดดตรงหัว ส่องสว่างไปทั่วทุ่ง เห็นทุกอย่างชัดเจนไปหมด โดยไม่เกิดแสงเงาขึ้นมา


































ถ้าติดใจผลงานของเขา ก็ตามกันไปดูได้นะครับ ที่ //m.sacha.comitto.eu/

TraveLArounD




ปล. ท่านที่เพิ่งเข้ามาชมบล็อกใหม่ ผมได้จัดทำเป็นสารบัญ แบบหนังสือให้ค้นดูหัวเรื่องได้ง่ายที่ group : นานา สาระ๑๐๐๐ เพราะเรื่องต่างๆ เขียนไว้ กว่า 1400 เรื่องแล้ว

หมายเหตุ : ขณะได้มี website อื่นๆหลาย website ได้นำเอาเรื่องที่ผมเขียนไว้ ไปลงต่อในลักษณะของเนื้อหา โดยไม่ได้รับอนุญาตใดๆ ถ้าต้องการบทความใดไปใช้ ขอให้ติดต่อขออนุญาต ก่อนทาง Email : nana_sara1000@ymail.com มิฉะนั้น จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายลิขสิทธิ์

ส่วนผู้ที่ต้องการนำเรื่องไปโพสต่อ เพื่อเผยแพร่ โดยมิใช่ทางการค้า ขอให้ติดต่อขออนุญาตให้ถูกต้องก่อนโพส




 

Create Date : 21 สิงหาคม 2552    
Last Update : 14 สิงหาคม 2554 16:54:27 น.
Counter : 1432 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  

travelaround
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 164 คน [?]





ยินดีต้อนรับทุกท่านที่แวะเข้ามาชม blog มีข้อคิดเห็น เชิญ comment มาได้นะครับ ถ้าตอบได้ จะตอบให้ทันทีครับ แต่ถ้าไม่ทราบ ต้องขอเวลา จะค้นคว้ามาให้อ่านกัน ท่านที่จะถามคำถาม หรือติดต่อเรื่องบทความ ได้ทาง Email :- d_sign_place@yahoo.com ครับ


เรื่องต่างๆที่ผมได้เขียนหรือรวบรวม เรียบเรียงมานี้ ยินดีให้ทุกท่านได้อ่านเป็นวิทยาทานและเพื่อการศึกษา ถ้าจะนำไปโพสต่อใน website สาธารณะ หรือ website อื่นใดที่ไม่ใช่ทางพาณิชย์ กรุณาระบุที่มา คือ https://www.travelaround.bloggang.com และนามปากกาผู้เขียนคือ TraveLArounD ด้วย

แต่ขอสงวนสิทธิ์สำหรับการนำไปใช้ ในเชิงพาณิชย์ หรือโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง จะถูกดำเนินคดี ตามกฏหมายลิขสิทธิ์

ส่วนบทความหรือภาพถ่ายใดๆ ที่ได้นำมาจาก website อื่น เพื่อเป็นข้อมูลประกอบเรื่องนั้นๆ เป็นการถ่ายทอดจากวิจารณญาณแล้วว่า มีความถูกต้องเป็นจริง มากที่สุด และได้นำมาจาก website ที่เป็นสาธารณะ ถ้าเรื่องราวหรือภาพของท่านที่ได้นำมาถ่ายทอดนี้ ไปละเมิดลิขสิทธิ์ของท่าน กรุณาแจ้งมาทาง email :– nana_sara1000@ymail.com ผมจะทำการลบข้อมูลหรือภาพที่ละเมิดลิขสิทธิ์ดังกล่าว ออกทันที

Acknowledges that I try to write or report accurately but postings may contain fact , speculation or rumor. I find images from the Web that are believed to belong in the public domain. If any stories or images that appear on the site are in violation of copyright law, please email to :- nana_sara1000@ymail.com and I will remove the offending information as soon as possible.


Website counter
: Users Online









ที่ดินเชียงใหม่ ทางไปแม่ริม ใกล้ศาลากลาง และสนามกีฬา 700 ปี ติดน้ำปิง ในหมู่บ้านเพชรริมปิง พื้นที่ 667 ตารางวา @ 14,000.- บาท สภาพแวดล้อมดี สนใจติดต่อ โทร. 0859559950



DESIGN PLACE CO.,LTD. รับออกแบบ และตกแต่งภายใน บ้านพักอาศัย ในแบบไทย และไทยร่วมสมัย



มรดก ฉบับที่ 1

มรดก ฉบับที่ 2

มรดก ฉบับที่ 3

มรดก ฉบับที่ 4

มรดก ฉบับที่ 5

มรดก ฉบับที่ 6

มรดก ฉบับที่ 7

ช่วยสนับสนุนการจัดทำ BLOG ด้วยการซื้อหนังสือ "มรดก" 1ชุด 7เล่ม (หนังสือเก่า) ในราคาชุดละ 700 บาท (รวมค่าส่งทางไปรษณีย์)

สนใจสั่งซื้อทาง E-mail :- nana_sara1000@ymail.com



New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add travelaround's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.