"ความสามัคคีปรองดอง เป็นกำลังอย่างสูงสุดของชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ความสามัคคีของคนในชาติ จะทำให้บ้านเมืองผ่านพ้นอุปสรรค และทำให้สังคมไทย ร่มเย็นเป็นสุข" พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
สนใจลงโฆษณา ในพื้นที่ข้างบน ติดต่อ email : nana_sara1000@ymail.com
Home Lover’s Corner นานา สาระ๑๐๐๐ นานา สารพัด พระพุทธประวัติ ภาคพิเศษ
Travel Around the World Real Estate Buyer's Guide สุขภาพกาย สุขภาพใจ Pets & Animals
ปางพระพุทธรูปตามพุทธประวัติ Horoscope 12 ราศี พระพุทธศาสนา World of Beautiful Musics

ศึกษาคอนโดฯ แนวรถไฟฟ้า รอเวลาซื้อ

ศึกษาคอนโดฯ แนวรถไฟฟ้า รอเวลาซื้อ


หลังจากที่เจอสารพัดม๊อบเข้าไป เศรษฐกิจไทย ที่ดูเหมือนไม่ค่อยถูกแรงกระทบ กระแทกจาก พิษศก.ภายนอกประเทศ เมื่อตอนต้นปี 2552 คอนโดฯส่วนหนึ่ง ก็ยังมียอดขายปกติ แต่จากข้อมูลล่าสุด น่าจะเป็นข่าวดีของผู้รอซื้อ


นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยข้อมูลจากการสำรวจตลาดว่า ในรอบปี 2551 จนถึงปัจจุบัน จำนวนคอนโดตามแนวรถไฟฟ้า ที่เปิดขายมียอดรวมที่ 170 โครงการ กว่า 5.1 หมื่นยูนิต ขายออกไปได้แล้ว 76% หรือ 32,826 ยูนิต โดยโอนไปแล้ว 12% หรือ 3,899 ยูนิต ยังเหลือห้องชุดที่ขายแล้วแต่ยังไม่ได้โอนอีก 28,927 ยูนิต และขณะนี้พบว่าลูกค้าที่ซื้อคอนโดฯดังกล่าว เริ่มพบปัญหาธนาคารพาณิชย์ตีกลับสินเชื่อสูงถึง 30%

รายงานของศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ ระบุอีกว่า เดือนก.พ. 2552 มีโครงการอาคารชุด ชะลอการขาย 11 โครงการ ในจำนวนนี้อยู่ในทำเลสุขุมวิท 6 โครงการ ที่เหลืออยู่ในย่านสาทร พหลโยธิน สารสิน ราชดำริ สาเหตุมาจากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ขาดสภาพคล่อง ต้องทบทวนแผนการลงทุนใหม่ ปรับกลยุทธ์การตลาด และอาจจะมีการขยับราคาในโครงการที่สร้างเสร็จก่อนขาย ส่วนโครงการอาคารชุดตามแนวรถไฟฟ้าในภาพรวม ยังเหลือพื้นที่ขาย 13,700 หน่วย

ส่วนผลสำรวจพฤติกรรมการซื้อคอนโดมิเนียม ใน รัศมี 2 ก.ม.ตามแนวรถไฟฟ้า ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ช่วงเดือนต.ค.-พ.ย. 2551 จากกลุ่มตัวอย่าง 420 ราย เป็นกลุ่มที่ซื้อคอนโดแล้ว 205 ราย กลุ่มที่จะซื้อภายใน 1 ปี 215 ราย และพบว่าผู้ที่ซื้อคอนโดส่วนใหญ่เป็นคนโสด อายุ 25-34 ปี มีรายได้ 2-4 หมื่นบาทต่อเดือน

ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการซื้อมากที่สุดคือ ราคา ส่วนใหญ่สนใจซื้อราคา 1.6-2 ล้านบาท ขนาด 30.5-40 ตารางเมตร พื้นที่ใช้สอย 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ซื้อคอนโดเพื่อพักอาศัยและเป็นบ้านพักหลังที่สอง และกลุ่มตัวอย่างให้ความสำคัญกับความมั่นคงเรื่องงานมากที่สุด ในการตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียม ส่วนอัตราดอกเบี้ย หากปรับขึ้นก็จะซื้อคอนโดฯราคาต่ำลง

ขณะที่ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ได้จัดสัมมนาเรื่อง วิเคราะห์พฤติกรรม : ใครซื้อคอนโดแนวรถไฟฟ้า เมื่อวันที่ 2 เม.ย.2552 โดยนักวิชาการและผู้ประกอบการ ร่วมให้ข้อมูลภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียม ตาม แนวรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ วิทยากรต่างวิเคราะห์ตรงกันว่า ตลาดเริ่มชะลอตัว ทั้งการเปิดโครงการใหม่และกำลังซื้อที่ชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจ

นายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมอาคารชุด กล่าวว่า หากประเมินจากองค์ประกอบของปัจจัยที่เป็นดัชนีชี้แนวโน้มตลาดคอนโดฯ โดยเฉพาะปัจจัยเรื่องการเติบโตของจีดีพีประเทศ ซึ่งมีผลให้ตลาดคอนโดฯใหม่ เปลี่ยนแปลงไม่น้อยกว่า 3 เท่า เช่น ในปีนี้หลายสำนักประเมินว่า จีดีพีจะติดลบ 3-5% แสดงว่าตลาดคอนโดฯ จะติดลบไม่น้อยกว่า 10% แต่หากประเมินในมุมมองที่เป็นบวกมาก ตลาดคอนโดฯปีนี้ อาจจะทรงตัว คืออัตราเติบโตอยู่ที่ 0% แต่แนวโน้มที่จะติดลบ น่าจะมีความเป็นได้มากกว่า

การชะลอตัวทั้งจำนวนโครงการใหม่ที่จะเปิดตัวเข้าสู่ตลาด และจำนวนของกำลังซื้อ ที่จะหดหายไปตามสภาพเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ซื้อกึ่งลงทุน (Investor) และกลุ่มลูกค้าเก็งกำไร ซึ่งซื้อโดยไม่มีเจตนาโอน วางดาวน์แล้วต้องการขายต่อเป็นหลัก ทั้งสองกลุ่มนี้เคยมีสัดส่วนอยู่ 30% ของจำนวนห้องชุดที่ขายได้ทั้งหมด แต่ในปีนี้ คาดว่าจะชะลอตัวเช่นกัน โดยยอดรวมไม่ถึง 20%
ส่วนการปรับตัวของโครงการใหม่ นอกจากเปิดตัวลดลงแล้ว หลายโครงการต้องปรับแผนโดยลดขนาดห้องชุด ปรับกลุ่มลงมาเจาะตลาดที่กำลังซื้อ เนื่องจากตลาดระดับบนชะลอตัวไปค่อนข้างมาก


วิกฤตเศรษฐกิจและความไม่มั่นคงทางการเมืองยังคงส่งผลให้ตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ อ่อนตัวลง ในช่วงไตรมาสแรก ปี 2552

ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจจากภายนอก และความไม่มั่นคงทางการเมืองภายใน ยังคงส่งผลให้ตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ อ่อนตัวลง ในช่วงไตรมาสแรกปี 2552 จำนวนยูนิตของคอนโดมิเนียม ที่เปิดตัวใหม่ในกรุงเทพ ฯ ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2552 ลดลงถึง 36% จากจำนวนยูนิตของคอนโดมิเนียม ที่เปิดตัวไปในไตรมาสที่ 4 ของปีที่ผ่านมา

ตลาดคอนโดมิเนียมในช่วงไตรมาสแรก มีการชะลอตัวลง เนื่องจากผู้พัฒนาโครงการและผู้ซื้อ ต่างไม่มีความเชื่อมั่นในการลงทุน หรือใช้จ่ายภายใต้สภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2552 มีจำนวนคอนโดมิเนียมที่เปิดตัวใหม่เพียง 1,671 ยูนิต มีอัตราลดลงถึง 36% เมื่อเทียบกับจำนวนคอนโดมิเนียม ที่เปิดตัวในไตรมาสสุดท้ายของปี 2551 ซึ่งมีจำนวน 2,615 ยูนิต หากเทียบกับจำนวนคอนโดมิเนียมที่เปิดตัวไปในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2551 แล้ว จำนวนคอนโดมิเนียมที่เปิดตัวใน 3 เดือนแรกของปี 2552 คิดเป็นสัดส่วนเพียง 16% การลดลงของคอนโดมิเนียมที่เปิดตัวใหม่นี้ ชี้ให้เห็นว่าผู้พัฒนาโครงการ ใช้ความระมัดระวังมากขึ้นในการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ออกสู่ตลาด เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจและการเมือง ที่ยังคงเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายจับตามองอย่างใกล้ชิด

ความไม่ชัดเจนของทิศทางของเศรษฐกิจและการเมือง ความลังเลใจของผู้ซื้อในการตัดสินใจซื้อคอนโดฯ การลดลงของจำนวนยูนิตที่ขายไปที่ลดลงมากกว่าการลดลงของจำนวนยูนิตที่เปิดตัว และการที่ผู้ซื้อตระหนักถึงการที่ผู้พัฒนาโครงการจะนำยูนิตที่ยังคงเหลือ และยังไม่ถูกขายไป มาลดราคา ปัจจัยทั้งหมดนี้ ส่งผลให้อัตราการขายชะลอตัวลง ซึ่งจำนวนคอนโดมิเนียมที่เปิดตัวในไตรมาสแรกของปีนี้มีอัตราการขายเฉลี่ยอยู่ที่ 40% และลดลงจาก 42% ของอัตราการขายในไตรมาสสุดท้ายของปี 2551

สำหรับราคาขายต่อตารางเมตรของคอนโดมิเนียม ที่เปิดตัวใหม่ในไตรมาสแรกของปี 2552 พบว่ามีการเพิ่มขึ้นที่น้อยมาก เพียง 1.1% เมื่อเทียบกับราคาขายในไตรมาสสุดท้ายของปี 2551 ราคาขายของคอนโดมิเนียมในย่านซีบีดี มีการเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยจาก 122,000 บาทต่อตารางเมตร มาอยู่ที่ 123,000 บาทต่อตารางเมตร ส่วนคอนโดมิ เนียมในย่านสุขุมวิทนั้น ราคาขายเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเช่นเดียวกัน โดยเพิ่มจาก 119,900 บาทต่อตารางเมตร ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2551 มาอยู่ที่ 121,200 บาทต่อตารางเมตร ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2552
สภาวะของตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ ยังคงมีความสมดุล ระหว่างอุปทานและอุปสงค์ เมื่อผู้ซื้อเลื่อนการตัดสินใจซื้อออกไป ผู้พัฒนาโครงการจึงเปิดตัวโครงการใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดน้อยลง ทั้งนี้เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากจำนวนสต๊อคที่มาก ของจำนวนยูนิตที่ยังไม่ขายออกไป

ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) คาดการณ์ว่า จำนวนคอนโดมิเนียมที่เปิดตัวใหม่ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2552 จะอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับจำนวนคอนโดมิเนียมที่เปิดตัวไปในไตรมาสแรก เนื่องจากนักลงทุนมีความมั่นใจค่อนข้างต่ำ ต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมือง ซึ่งจะทำให้ผู้พัฒนาโครงการเกิดความลังเลในการเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่ๆ ออกสู่ตลาด ราคาขายของคอนโดมิเนียมที่จะเปิดตัวใหม่ในไตรมาสที่ 2 คาดว่าจะยังคงระดับราคาเดิม หรืออาจเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยจากไตรมาสแรก ส่วนเรื่องของทำเลนั้น คอนโดมิเนียมที่จะเปิดตัวใหม่ จะยังคงอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าและรถไฟใต้ดิน แม้ว่าที่ดินเปล่าบริเวณใกล้กับแนวรถไฟฟ้าและรถไฟใต้ดินจะเริ่มมีจำกัด ความต้องการในตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2552 มีแนวโน้มที่จะลดลงจากไตรมาสแรก แม้ความสนใจในโครงการคอนโดมิเนียมระดับหรูจากตลาดบนจะยังคงมีสูงก็ตาม


ดังนั้น เมื่อทุกฝ่าย ยังขาดความมั่นใจ ในสภาวะของเศรษฐกิจ ทางรอดของโครงการต่างๆ นอกจากจะไม่เปิดโครงการใหม่ๆ หรือขึ้นราคาแล้ว ยูนิตที่ยังเหลือ ก็น่าจะต้องขายออกให้หมด เพื่อสภาพคล่อง และความสี่ยง จายูนิตที่ขายแล้วแต่กู้ไม่ผ่าน ก็จะกลับมาทบยอดค้างเข้าไปอีก ผู้ซื้อจึงน่าจะมีความได้เปรียบ ในการต่อรองส่วนลดต่างๆ หรือโครงการอาจจัดแคมเปญ ลด แลก แจก แถม เพื่อระบายสินค้าให้หมดสต๊อก ดังเช่นวิกฤตครั้งก่อนๆก็ได้ (แม้แต่ผู้ที่จองซื้อ ก็อาจประกาศขายดาวน์ในราคราขาดทุน)

ผู้ที่ต้องการซื้อ จึงต้องมีข้อมูลเปรียบเทียบคอนโดฯที่เล็งๆไว้ ว่ามีอย่างไร และแตกต่างกันอย่างไร เพื่อการตัดสินใจ ที่ถูกต้อง และรวดเร็วกว่าคนอื่น เพื่อจะได้มีคอนโดฯถูกใจ ไว้อยู่อาศัย ในราคาที่ต่ำกว่าคนอื่น


TraveLArounD



ปล. ท่านที่เพิ่งเข้ามาชมบล็อกใหม่ ผมได้จัดทำเป็นสารบัญ แบบหนังสือให้ค้นดูหัวเรื่องได้ง่ายที่ group : นานา สาระ๑๐๐๐ เพราะเรื่องต่างๆ เขียนไว้ 1300 เรื่องแล้ว

ส่วนท่านที่ชอบเพลง background ผมได้รวบรวมเพลงไพเราะ เพลงรัก romantic และเพลงซึ้งๆ ที่หาฟังได้ยากในสมัยนี้ ไว้หลายชุด สนใจ email ติดต่อมาได้ครับที่ nana_sara1000@ymail.com

หลังจากที่ home’s lover club ที่ ning.com ต้องปิดลงไปเพราะเขาคิดค่าใช้จ่าย จึงจำต้องย้ายที่ ตอนนี้ผมเริ่มรวบรวมภาพต่างๆ ที่เกี่ยวกับการตกแต่งบ้าน การจัดสวน และที่ยังไม่ได้เอามาเขียน มารวบรวมไว้ที่ facebook ถ้าใครสนใจก็เข้าไปดูได้นะครับ ที่ //www.facebook.com/reqs.php#!/nanasara1000?v=photos

หมายเหตุ : ขณะได้มี website อื่นๆหลาย website ได้นำเอาเรื่องที่ผมเขียนไว้ ไปลงต่อในลักษณะของเนื้อหา โดยไม่ได้รับอนุญาตใดๆ ถ้าต้องการบทความใดไปใช้ ขอให้ติดต่อขออนุญาต ก่อนทาง Email : nana_sara1000@ymail.com มิฉะนั้น จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายลิขสิทธิ์

ส่วนผู้ที่ต้องการนำเรื่องไปโพสต่อ เพื่อเผยแพร่ โดยมิใช่ทางการค้า ขอให้ติดต่อขออนุญาตให้ถูกต้องก่อนโพส

ข้อมูลจาก : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
//www.bangkokbiznews.com
//www.bangkokbiznews.com/home/detail/property/market/20090422/35784/




 

Create Date : 15 พฤษภาคม 2552    
Last Update : 26 ธันวาคม 2553 0:39:18 น.
Counter : 776 Pageviews.  

โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม หมอชิต - สะพานใหม่

โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม หมอชิต - สะพานใหม่

พาไปดูโครงการด้านสำโรงมาแล้ว ตอนนี้พามาดูด้านเหนือกัน เป็นส่วนต่อขยายของกทม. ที่มีอู่รถอยู่ที่หมอชิตเก่า เส้นทางที่จะต่อไปทางเหนือนี้ มีโครงการที่จะต่อขยายไปถึง ลำลูกกา โน่นเลย แต่คงยังอีกนานครับ เอาแค่สะพานใหม่นี่ คงยังไม่ได้ใช้ภายใน 3-4 ปีนี้แน่นอน ฟันธง!!! (เพราะมัวแต่ยังทะเลาะกันไม่เลิก พวกเราชาวบ้าน ควรจะเลิกไปสนับสนุนนักการเมืองแย่งอำนาจกันได้แล้ว)
ตอนที่แล้วผมลงสายสีเขียวอ่อนไป เพราะก่อสร้างใกล้เสร็จ ได้ใช้แน่นอน ก็กะว่าที่ยังไม่สร้างจะไม่ลงข้อมูล แต่ก็ยังมีคนถามมา ก็เลยต้องจัดให้ แต่เอาแบบไม่ละเอียดนักนะครับ แค่ให้รู้แนวทาง ก็พอ


รูปแบบโครงการ ช่วงจากหมอชิต-สะพานใหม่

เป็นโครงสร้างยกระดับโดยตลอด ตามแบบฉบับรถลอยฟ้า ของกทม. เริ่มจากสถานีหมอชิต ข้ามแยกลาดพร้าว ไปตามถนนพหลโยธิน ไปตามเกาะกลางถนน ไปจนถึงบริเวณสะพานใหม่ (ช่วงแรก)


สถานีขึ้น-ลง รูปแบบสถานีจะมีทั้งแบบชานชาลากลาง และชานชาลาด้านข้าง (ตามสภาพของที่ตั้ง) โดยแต่ละสถานีจะมีระยะห่างกันประมาณ 1 กิโลเมตร ต่อสถานี รวมทั้งสิ้น 12 สถานี ได้แก่
1.สถานี ลาดพร้าว N9 (ปากทางลาดพร้าว)
2.สถานี แดนเนรมิต N10 ( ปากซอย พหลฯ24 เลยห้างโลตัสลาดพร้าวไปหน่อย )
3.สถานี รัชโยธิน N11 (แถวเมเจอร์รัชโยธิน)
4.สถานี เสนานิคม N12 (เลยซอยเสนาไป แถวรพ.เมโย)
5.สถานี เกษตร N13 (เลยสี่แยก หน้าม.เกษตร)
6.สถานี ศรีปทุม N14 (เลยกรมป่าไม้ ก่อนถึงศรีปทุม)
7.สถานี บางบัว N15 (เลยม.ศรีปทุม)
8.สถานี รามอินทรา N16 (ตรงข้าม ราบ11)
9.สถานี วัดพระศรีฯ N17 (ก่อนวงเวียนหลักสี่ แถววัดพระศรีฯ)
10.สถานี หลักสี่ฯ N18 (เลยโลตัส หลักสี่)
11.สถานี พหลฯ50 N19 (ใกล้รพ.เซ็นทรัล เยนเนอรัล)
12.สถานี สะพานใหม่ N20 (บริเวณตลาดสะพานใหม่)




ดูตำแหน่งสถานี จากแผนที่ได้คร่าวๆ ไม่ตรงเผงนะครับ เพราะข้อมูลกับแผนที่ ยังไม่ตรงกันเลยครับ ต้องใช้วิจารณญานในการนำเสนอเอาเอง (จะแน่นอนที่สุด ก็ต้องมีการเซ็นต์สัญญากันโน่น) ลองดูแผนผังอีกสักรูป จะเห็นว่าสถานีไม่เท่ากัน










ความชักช้าทั้งหลาย เนื่องจากนโยบายของรัฐ ในช่วงนายกฯทักษิณ ที่ต้องการรวมการบริหารระบบ ขนส่งมวลชนทั้งหมด มาอยู่ในหน่วยงานเดียว คือของการรถไฟฟ้าฯ(รถไฟฟ้าใต้ดิน) ที่รัฐบาลควบคุมดูแล แทนที่จะเป็นเอกชนดูแล เหมือนรถลอยฟ้า ของกทม. จะทำให้ระบบการจัดเก็บ และเสียค่าโดยสาร ง่ายและเป็นระบบกว่า (เอกชนดูแลก็มีปัญหาการต่อขยาย ก็ตกลงกับกทม.ไม่ได้เสียที กว่าสายตากสินจะเปิดใช้ได้ ก็ยังหลายปี) เมื่อใครไม่ยอมใคร เรื่องมันก็เลยจบไม่ลง ชาวบ้านก็ต้องคอย คอย คอย ไปจนกว่าจะชาชิน


แต่จะว่าไป ไอ้สายที่อยู่ในมือรัฐบาลเอง ก็เดินหน้าได้ยาก หากรัฐบาลเปลี่ยนบ่อย บางรัฐบาลก็ยึกยักอยู่นั่น ไม่ตัดสินใจเสียที ไอ้ที่ตัดสินใจเร็ว ก็ไม่อยู่ซะแล้ว คอยดูรัฐบาลปัจจุบันนี่ก็แล้วกัน เขาคุยว่าทำงานเร็ว กู้เงินเร็ว ยังไม่เห็นเซ็นต์สัญญาเสียที เซ็นต์เมื่อไร รอไปอีก 5 ปี เป็นอย่างเร็วถึงได้ใช้ครับพี่น้อง

TraveLArounD




 

Create Date : 28 เมษายน 2552    
Last Update : 28 เมษายน 2552 20:22:36 น.
Counter : 11190 Pageviews.  

รถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อน สุขุมวิท-สมุทรปราการ

รถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อน สุขุมวิท-สมุทรปราการ


หลังจากที่สายตากสิน จะเปิดให้ชาวฝั่งธนฯ ได้ใช้บริการกันแล้ว สายต่อไป ก็คงจะเป็นสายสีเขียวอ่อน ที่เป็นส่วนต่อขยายของโครงการรถไฟฟ้าบีทีเอส สายสุขุมวิท รวมระยะทาง 24 กิโลเมตร แบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ

ช่วงแรก จากอ่อนนุช-สำโรง-สมุทรปราการ มีจุดเริ่มต้นการก่อสร้างที่สถานีอ่อนนุชจาก
นั้นวิ่งไปตามถนนสุขุมวิท ผ่านแยกบางนา ไปทางสำโรง จนถึงสมุทรปราการ

ช่วงสอง จากพระราม 1-ปิ่นเกล้า-จรัญสนิทวงศ์ มีจุดเริ่มต้นจากสถานีสนามกีฬา ใน
แนวถนนบำรุงเมือง เข้าสู่แนวถนนราชดำเนินกลาง และลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยาที่บริเวณเชิงสะพานปิ่นเกล้า ไปจนถึงสถานีรถไฟธนบุรี แล้วเข้าสู่แนวถนนพรานนก จากนั้นจึงจะเริ่มยกระดับ เมื่อเลยแยกพรานนกไปจนถึงถนนจรัญสนิทวงศ์



แต่ในอนาคตอันใกล้ ก็คงจะเสร็จแค่ ช่วงแรกก่อน จึงพามาดูสถานีต่างๆกัน ว่าจะผ่านที่ไหนกันบ้าง จะได้เตรียมตัวกันไปเที่ยว ติดต่อธุระ หรือเยี่ยมเยียนเพื่อนฝูง อย่างสะดวก รวดเร็ว โดยมี

ช่วงอ่อนนุช-สำโรง ระยะทาง 8.9 กิโลเมตร โครงสร้างเป็นทางยกระดับตลอดแนวสายทาง อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ประมาณ 5.6 กิโลเมตร และมีแนวเขตทางอยู่ในพื้นที่สำโรง ประมาณ3.3 กิโลเมตร



โดยสถานีที่จะขยายต่อจากสถานีอ่อนนุช ในปัจจุบันได้แก่
1. สถานี อ่อนนุช
2.สถานี E10 บางจาก
3.สถานี E11 สุขุมวิท 101 (ปุณณวิถี)
4.สถานี E12 อุดมสุข 103
5.สถานี E13 บางนา (BITEC)
6.สถานี E14 ลาซาล(แบริ่ง)
7.สถานี E15 สำโรง (อิมพีเรียล)
8.สถานี E16 พระประแดง
9.สถานี E17 ช้างสามเศียร
10.สถานี E18 อุดมเดช (นายเรือ)
11.สถานี E19 ศาลากลาง
12.สถานี E20 ศรีนครินทร์
13.สถานี E21 สมุทรปราการ (แพรกษา)
14.สถานี E22 สายลวด
15.สถานี E23 เคหะสมุทรปราการ



ใครจะมองหาที่อยู่อาศัย ที่ราคายังไม่แพง เข้ามาทำงานกลางใจเมืองได้สะดวก ในอนาคตอันใกล้ ก็ลองพิจารณา หารายละเอียดโครงการกันได้ เพราะตอนนี้โครงการในเมือง จากราคา ล้านต้นๆ มันก็ขึ้นไปเรื่อยๆ ไป 2-3 ล้านแล้ว แถวสุขุมวิท-ทองหล่อ ไม่ต้องพูดถึง ต้องมีกะตังค์จริงๆถึงจะซื้อได้ครับ


TraveLArounD


ข้อมูลจาก
//www.bts.co.th




 

Create Date : 31 มีนาคม 2552    
Last Update : 31 มีนาคม 2552 22:30:02 น.
Counter : 5187 Pageviews.  

อสังหาฯ ส่งสัญญาณบวก ! ตลาดคอนโดฯเริ่มฟื้นตัว


อสังหาฯ ส่งสัญญาณบวก
2เดือนแรกยอดดีเกินคาด
'พฤกษา-เอเชี่ยน-แสนสิริ'เล็งขยายลงทุนเพิ่ม


ยอดขายบ้าน 2 เดือนแรกดีเกินคาด ชี้มาตรการกระตุ้นอสังหาฯแผลงฤทธิ์ ยักษ์ตลาดบ้านทั้ง "พฤกษา-เอเชี่ยน-แสนสิริ" ทำยอดขายพุ่ง 30-50% ระบุตลาดมีสัญญาณบวก เล็งปรับแผนลงทุนเพิ่ม ขณะที่ขุนคลัง "กรณ์ จาติกวณิช" อ้าง เป็นผลจากการเมืองมีเสถียรภาพ ส่วนคิวเฮ้าส์-แลนด์-เพอร์เฟค-ศุภาลัย ยังไม่มั่นใจ


นายวิษณุ สุชาติล้ำพงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า หลังจากรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ในช่วงที่ผ่านมา ปรากฏว่าตลาดเริ่มฟื้นกลับมา โดยบริษัทมียอดขายต่อสัปดาห์อยู่ที่ประมาณ 100 ล้านบาท แต่ในปัจจุบันช่วง 2 เดือนที่ผ่านมากลับเพิ่มเป็น 150 ล้านบาท สาเหตุหลัก เป็นเพราะกำลังซื้อได้ถูกอั้นไว้ ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2551 จึงส่งผลให้ผู้ที่ต้องการบ้านอยู่อาศัยรีบตัดสินใจซื้อบ้านเร็วขึ้น นอกจาก นี้ยังเชื่อว่า เป็นผลมาจากการที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากปรับตัวต่ำลง ทำให้กลุ่มคนมีเงินฝากธนาคาร นำเงินออกมาลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัย เพราะสามารถให้ผลตอบแทนการลงทุนอยู่ที่ 7-8% ซึ่งสูงกว่าการนำเงินฝากธนาคาร


ทั้งนี้พฤติกรรมการเลือกซื้ออสังหาฯของผู้บริโภคปัจจุบัน จะให้ความสำคัญของแบรนด์ หรือบริษัทผู้พัฒนาสินค้าเป็นหลัก ซึ่งผู้ประกอบการรายกลาง-เล็ก อาจเสียเปรียบในเรื่องแบรนด์ ซึ่งจากแนวโน้มความต้องการของผู้ซื้อที่มีทิศทางที่ดี บริษัทอาจจะต้องขยายการลงทุนเพิ่มจากเดิมที่กำหนดแผนไว้ 11 โครงการ มูลค่าขาย 17,700 ล้านบาท ซึ่งเรื่องนี้ต้องดูสถานการณ์ตลาดไปอีกสัก 1 เดือน จึงจะสามารถตอบแผนธุรกิจใหม่ที่ชัดเจนได้


ส่วนนายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดในไตรมาส 4 ปี 2551 ออกมาติดลบไปประมาณ 17% โดยในแง่ของมูลค่าตลาดได้หายไปถึง 40% ซึ่งเป็นผลมาจากการขาดความเชื่อมั่นของผู้บริโภค


อย่างไรก็ดีล่าสุดในเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ต้นปี 2552 ที่ผ่านมา พบว่าสถานการณ์ตลาดได้ฟื้นกลับมาอย่างน่าตกใจ โดยในเดือนแรกของปี 2552 บริษัทมียอดขายเกือบ 1,000 ล้านบาท เติบโตจากเดือนธันวาคมปีก่อนถึง 50% และในเดือนกุมภาพันธ์ 2552 มียอดขายราวๆ 1,400 ล้านบาท ถือเป็นสถานการณ์ที่ดีเกินความคาดหมายของผู้ประกอบการส่วนใหญ่


นอกจากนี้ในช่วง 1 สัปดาห์แรกของเดือนมีนาคม 2552 บริษัทสามารถทำยอดขายได้ถึง 700 ล้านบาท โดยพบว่าลูกค้าเข้าชมโครงการในเดือนมกราคม 2552 กลับมาอยู่ที่ 3,000 รายจาก 2,500 รายในเดือนธันวาคมปี 2551 ขณะเดียวกัน สถิติผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทในเดือนกุมภาพันธ์ 2552 ยังเพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2552 จำนวน 33% แสดงให้เห็นว่าตลาดมีสัญญาณฟื้นตัวแล้ว ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ภาครัฐออกมาตรการมากระตุ้นธุรกิจอสังหาฯ


ทั้งนี้คาดว่าบริษัทจะต้องทบทวนแผนการลงทุนอีกครั้ง จากเดิมที่กำหนดไว้แค่ 22 โครงการ มูลค่า 15,000 ล้านบาทและตั้งเป้ารายได้ที่ 17,000 ล้านบาท จำนวนลดน้อยลงจากปีก่อนที่เปิดถึง 39 โครงการ มูลค่า 21,773 ล้านบาท ส่วนเป้ารายได้ปีก่อนตั้งไว้ที่ 14,000 ล้านบาท แต่ทำได้ 13,000 ล้านบาทโดยจะขยายการลงทุนเพิ่มทั้งโครงการคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ ล่าสุดบริษัทได้ซื้อที่ดิน 1 ไร่ครึ่งเพื่อพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมหรู "ไอวี่ ไชน่าทาวน์" ในย่านทำเลเยาวราช มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท มีขนาดความสูง 37 เมตร สูง 11 ชั้น และชั้นใต้ดินอีก 4 ชั้น ซึ่งตามข้อกำหนดผังเมืองสามารถสร้างสูงได้ไม่เกิน 37 เมตรหรือ 11 ชั้น แต่หัวใจสำคัญของการซื้อที่อยู่อาศัยในย่านเยาวราชคือต้องมีที่จอดรถ บริษัทจึงได้ทำที่จอดรถไว้รองรับถึง 7 ชั้นคือบนดิน 2 ชั้น และใต้ดินอีก 4 ชั้นรองรับการจอดรถได้ถึง 194 คัน โดยให้ที่จอดรถสูงสุดอยู่ที่ 4 คันต่อขนาดห้อง 3 ห้องนอน เพื่อเป็นจุดขายที่โดดเด่นนอกเหนือจากทำเล


ด้านนายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การฟื้นตัวของกำลังซื้อในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาน่าจะมาจากปัจจัยประกอบหลายด้าน ทั้งเรื่องของการเมืองที่เริ่มมีเสถียรภาพและดอกเบี้ยเงินฝากที่ลดต่ำลง คนที่มีเงินเก็บจึงหันมาลงทุนในธุรกิจอสังหาฯ นอกจากนี้ยังเป็นเพราะกำลังซื้อที่อั้นมาตั้งแต่ช่วงปี 2551 ผู้บริโภคคาดการณ์ว่าราคาบ้านในปีนี้จะถูกกว่าปีที่ผ่านมา แต่เมื่อราคาบ้านไม่ได้ปรับลดมากอย่างที่คาดหวัง ประกอบกับมีมาตรการลดหย่อนทางภาษีเข้ามา ผู้บริโภคจึงต้องรีบตัดสินใจซื้อบ้านทันที


ในส่วนของแอล.พี.เอ็น.นั้นมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเช่นกัน จากเดือนธันวาคมปีก่อนที่มียอดขายเพียงสัปดาห์ละ 20 ยูนิต ปรับขึ้นเป็น 100 ยูนิตต่อสัปดาห์ เทียบเท่ากับเมื่ออดีต คิดเป็นมูลค่าขายราว 150 ล้านบาท หรือขึ้นไปถึง 200 ล้านบาทในบางสัปดาห์ จากการประเมินช่วง 2 เดือนมียอดขายแล้วประมาณ 1,250 ล้านบาท หากสถานการณ์เป็นไปอย่างนี้ผู้ประกอบการจะต้องใส่งบการตลาดเพิ่ม แต่ทั้งนี้บริษัทยังไม่นิ่งนอนใจคงจะต้องติดตามดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป ส่วนแผนการลงทุนยังคงแผนเดิมที่ 8 โครงการ มูลค่า 12,000 ล้านบาท


ก่อนหน้านี้นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ได้รับรายงานถึงแนวโน้มการซื้อขายที่อยู่อาศัยของผู้ประกอบการพบว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเริ่มฟื้นกลับมา โดยมียอดขายบ้านที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการเมืองเริ่มมีเสถียรภาพ เช่นเดียวกับภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่มีสัญญาณเป็นบวกในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมาแล้ว


จากการตรวจสอบยอดขายของ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) โดยได้จัดงาน Living in Style 2009 ขึ้นเมื่อวันที่ 6-8 มีนาคมที่ผ่านมาปรากฏว่าสามารถทำยอดขายกว่า 1,200 ล้านบาท หรือคิดเป็น 354 ยูนิต และหากรวมกับแคมเปญ 0% ที่ร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา จะมียอดรวมทั้งสิ้น 565 ยูนิต คิดเป็นมูลค่า 2,300 ล้านบาท ทั้งนี้ในไตรมาสแรกได้ปรับเป้าขายใหม่เป็น 6,500 ล้านบาทจากเดิมที่ตั้งเพียง 5,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่จะรองรับโอกาสการขยายตัวของบริษัทที่จะเกิดขึ้นในปี 2552 ส่วนเป้าทั้งปียังคงเดิมตามที่ประกาศไว้


ส่วนมุมมองของบริษัทพัฒนาที่ดินรายใหญ่ เช่น บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ยังคงดำเนินนโยบายระมัดระวังในการลงทุน แต่ยืนยันว่าสถานการณ์การตลาดในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมากำลังซื้อเริ่มกลับเข้ามาสู่ภาวะปกติแล้ว


ขณะที่นายชายนิด โง้วศิริมณี กรรมการผู้จัดการ สำหรับ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ จะสามารถช่วยผลักดันยอดขายบ้านใหม่ได้มากแค่ไหน โดยส่วนตัวยังมองเห็นภาพไม่ชัด คงต้องรอดูอีกระยะหนึ่ง ทั้งนี้ การตัดสินใจซื้อบ้านที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคยังผูกติดกับปัจจัยเรื่องความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจ และ การปล่อยกู้ ของสถาบันการเงิน ส่วนเป้ายอดขายในปีนี้ตั้งไว้ 8,000 ล้านบาท เป็นยอดเดียวกับปีที่ผ่านมา ยอดรับรู้รายได้ก็น่าจะใกล้เคียงกับปีก่อนคือเกือบ 7,000 ล้านบาท โดยมีโครงการใหม่ที่จะเปิดในปีนี้อีก 3 โครงการ รวมมูลค่า 6,600 ล้านบาท ซึ่งเดิมทั้ง 3 โครงการจะเปิดในช่วงครึ่งหลังของปี 2551 คือ โครงการย่านราชพฤกษ์, พัฒนาการ สาทร โดยมีแผนจะเปิดโครงการใหม่ 6 แห่ง คิดเป็นมูลค่ารวม 16,000 ล้านบาท แต่ต้องเลื่อนไป 3 โครงการ


ดังนั้น !!! ข่าวนี้อาจเป็นข่าวร้ายของผู้ที่จะรอโอกาสทอง ในการซื้อบ้าน เพราะทางผู้ประกอบการ ไม่น่าที่จะต้องออกมาตรการลดราคา กระตุ้นยอดขาย กันอย่างที่คิดไว้ ถ้าใครจำเป็นเรื่องที่อยู่อาศัยจริงๆ ก็ควรตัดสินใจได้แล้ว เศรษฐกิจก็จะได้เดินไปอย่างปกติได้ ไม่เป็นวิกฤตอย่างประเทศอื่นๆ

TraveLArounD


ข่าวจาก : ฐานเศรษฐกิจ
//www.thannews.th.com/subnews.php?hLineID=5&issue=2410




 

Create Date : 20 มีนาคม 2552    
Last Update : 20 มีนาคม 2552 12:05:35 น.
Counter : 679 Pageviews.  

ชาวฝั่งธนฯ เตรียมใช้รถไฟฟ้ากัน

ชาวฝั่งธนฯ เตรียมใช้รถไฟฟ้ากัน


ผู้ว่าฯกทม.คนใหม่ เผยรถไฟฟ้าต่อขยายบีทีเอส สะพานตากสิน-วงเวียนใหญ่ เปิดใช้แน่ 15 พ.ค.นี้ โดยเปิดวิ่งฟรีจนถึง 12 ส.ค. แต่ยังไม่สรุปอัตราค่าโดยสารว่าจะเท่าใดกันแน่


ที่ศาลาว่าการ กทม. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหาร กทม.ว่า ที่ประชุมได้รับทราบความคืบหน้าการดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีลม จากสถานีสะพานตากสิน-วงเวียนใหญ่ ระยะทาง 2.2 กิโลเมตร ตามที่สำนักการจราจรและขนส่ง(สจส.) รายงาน โดยการติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณจะแล้วเสร็จในเดือน มี.ค.นี้ ก่อนที่จะเปิดให้บริการในวันที่ 15 พ.ค. โดยจะวิ่งให้บริการฟรี จากนั้นจะเริ่มเก็บค่าบริการในวันที่ 13 ส.ค. หลังจากวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ


ก่อนหน้านี้ นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ บีทีเอส ที่กทม.จะว่าจ้างมาเดินรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายจากสาทร-ตากสิน ระยะทาง 2.2 กม. ได้ร่วมกับบริษัทบอมบาดิเอร์ ทรานสปอร์เทชั่น ซิกแนล (ประเทศไทย) จำกัด ที่เป็นผู้ติดตั้งงานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล ส่วนที่ 1 ระบบอาณัติสัญญาณ ได้เริ่มทดลองเดินรถไฟฟ้าจากสถานีกรุงธนบุรี (เอส 7) มายังสถานีวงเวียนใหญ่ (เอส 8) ซึ่งเป็นช่วงที่ใช้ระบบอาณัติสัญญาณของบอมบาดิเอร์ฯ ซึ่งผลการทดสอบเป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่มีปัญหาอุปสรรคใดๆ ซึ่งจะทดสอบระบบไปเรื่อยๆ อีก 3 สัปดาห์ จากนั้นวันที่ 13 เม.ย.นี้ บริษัทจะเริ่มทดสอบเพื่อเดินรถให้ยาวขึ้นจากสถานีรถไฟฟ้าสะพานตากสินมายังสถานีวงเวียนใหญ่ ระยะทาง 2.2 กม. เพื่อทดสอบระบบอาณัติสัญญาณจากระบบของบอมบาดิเอร์ฯ กับของบริษัทซีเมนส์ในโครงการส่วนแรกที่สถานีสะพานตากสิน อีกราว 3 สัปดาห์ จากนั้นวันที่ 15 พ.ค. จะเปิดทดสอบเดินรถอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งรวมทั้งการใช้ระบบตั๋วโดยสารด้วยเพื่อให้ประชาชนทดลองใช้ระบบฟรียาวต่อเนื่อง ไปจนกว่าจะเปิดให้บริการจริงในเดือน ส.ค.นี้


นายธีระชน กล่าวต่อว่า การทดสอบระบบดังกล่าวจะสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในย่านฝั่งธนบุรี ว่าอีกไม่นานจะได้ใช้รถไฟฟ้าแน่นอน เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัด โดยคาดว่าจะรองรับผู้โดยสารได้วันละประมาณ 50,000 คน ส่วนของการจัดเก็บค่าโดยสารนั้น กทม.ได้ยกร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครเรื่องค่าบริการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร เสร็จเรียบร้อยแล้ว เพื่อรองรับในการจัดเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้า รถโดยสารประจำทางด่วนพิเศษชิดเกาะกลางหรือบีอาร์ที รถโดยสารประจำทางและไม่ประจำทางและบริการเรือโดยสารประจำทางและไม่ประจำทาง ที่จะนำเสนอสภากทม.พิจารณาร่างข้อบัญญัติในเดือนเม.ย.นี้ โดยในส่วนของค่าโดยสารรถไฟฟ้านั้นแม้จะเปิดบริการเพิ่มอีก 2.2 กม. แต่ประชาชนยังจ่ายค่าโดยสารในอัตราเดิม 15-40 บาท.

คนฝั่งธนฯส่วนหนึ่ง ที่เคยพึ่งบริการเรือข้ามฟาก ก็คงจะสะดวกขึ้นกว่าเก่า แต่ก็คงต้องควักกระเป๋าเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน แลกกับบริการนี้


ข่าวจาก
//www.dailynews.co.th/




 

Create Date : 14 มีนาคม 2552    
Last Update : 14 มีนาคม 2552 22:21:12 น.
Counter : 669 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  

travelaround
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 164 คน [?]





ยินดีต้อนรับทุกท่านที่แวะเข้ามาชม blog มีข้อคิดเห็น เชิญ comment มาได้นะครับ ถ้าตอบได้ จะตอบให้ทันทีครับ แต่ถ้าไม่ทราบ ต้องขอเวลา จะค้นคว้ามาให้อ่านกัน ท่านที่จะถามคำถาม หรือติดต่อเรื่องบทความ ได้ทาง Email :- d_sign_place@yahoo.com ครับ


เรื่องต่างๆที่ผมได้เขียนหรือรวบรวม เรียบเรียงมานี้ ยินดีให้ทุกท่านได้อ่านเป็นวิทยาทานและเพื่อการศึกษา ถ้าจะนำไปโพสต่อใน website สาธารณะ หรือ website อื่นใดที่ไม่ใช่ทางพาณิชย์ กรุณาระบุที่มา คือ https://www.travelaround.bloggang.com และนามปากกาผู้เขียนคือ TraveLArounD ด้วย

แต่ขอสงวนสิทธิ์สำหรับการนำไปใช้ ในเชิงพาณิชย์ หรือโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง จะถูกดำเนินคดี ตามกฏหมายลิขสิทธิ์

ส่วนบทความหรือภาพถ่ายใดๆ ที่ได้นำมาจาก website อื่น เพื่อเป็นข้อมูลประกอบเรื่องนั้นๆ เป็นการถ่ายทอดจากวิจารณญาณแล้วว่า มีความถูกต้องเป็นจริง มากที่สุด และได้นำมาจาก website ที่เป็นสาธารณะ ถ้าเรื่องราวหรือภาพของท่านที่ได้นำมาถ่ายทอดนี้ ไปละเมิดลิขสิทธิ์ของท่าน กรุณาแจ้งมาทาง email :– nana_sara1000@ymail.com ผมจะทำการลบข้อมูลหรือภาพที่ละเมิดลิขสิทธิ์ดังกล่าว ออกทันที

Acknowledges that I try to write or report accurately but postings may contain fact , speculation or rumor. I find images from the Web that are believed to belong in the public domain. If any stories or images that appear on the site are in violation of copyright law, please email to :- nana_sara1000@ymail.com and I will remove the offending information as soon as possible.


Website counter
: Users Online









ที่ดินเชียงใหม่ ทางไปแม่ริม ใกล้ศาลากลาง และสนามกีฬา 700 ปี ติดน้ำปิง ในหมู่บ้านเพชรริมปิง พื้นที่ 667 ตารางวา @ 14,000.- บาท สภาพแวดล้อมดี สนใจติดต่อ โทร. 0859559950



DESIGN PLACE CO.,LTD. รับออกแบบ และตกแต่งภายใน บ้านพักอาศัย ในแบบไทย และไทยร่วมสมัย



มรดก ฉบับที่ 1

มรดก ฉบับที่ 2

มรดก ฉบับที่ 3

มรดก ฉบับที่ 4

มรดก ฉบับที่ 5

มรดก ฉบับที่ 6

มรดก ฉบับที่ 7

ช่วยสนับสนุนการจัดทำ BLOG ด้วยการซื้อหนังสือ "มรดก" 1ชุด 7เล่ม (หนังสือเก่า) ในราคาชุดละ 700 บาท (รวมค่าส่งทางไปรษณีย์)

สนใจสั่งซื้อทาง E-mail :- nana_sara1000@ymail.com



New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add travelaround's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.