สุขาพาเสียว สุขาพาเสียว ไม่ได้ลงเรื่องเกี่ยวกับ “ห้องสุขา” มานานพอสมควร วันนี้ เลยต้องเอาเรื่องสุขามาฝาก เพราะเห็นภาพแล้วมันโดนใจจริงๆ ว่าถ้าไม่ “สุดๆ จริงๆ” แล้ว จะกล้าเข้าไปนั่งใช้บริการของเขารึปล่าว ? เพราะห้องสุขาเขา ทำฝาด้วยกระจกแบบ oneway มองเห็นด้านเดียว มองเข้าไม่เห็น แต่มองออกมาเห็น ว่าแต่ ถึงใจจะกล้า แต่มันตะขิดตะขวงใจพิลึก แหม .......... ช่างทำไปด๊าย !!! TraveLAround ปล. ตอนนี้ผมจัดทำ web ที่รวบรวมภาพต่างๆ ที่ยังไม่ได้เอามาเขียนเป็นเรื่อง หรือบางเรื่องมีรูปเยอะมาก ก็เอามาลงไม่หมด ก็จะมาเก็บไว้ที่นี่ก่อน ถ้าใครสนใจก็เข้าไปดูได้นะครับ ที่ Home Lover's Club แต่ก่อนเข้าชม กรุณา sign up ก่อนนะครับ ไม่เสียเวลา กรอกแค่ email address กับ ใส่ password ของคุณเอง เท่านั้นครับ ถ้าไม่ sign up จะดูภาพได้ไม่ครบนะครับ ส่วนท่านที่เพิ่งเข้ามาชมบล็อกใหม่ ผมได้จัดทำเป็นสารบัญ แบบหนังสือให้ค้นดูหัวเรื่องได้ง่ายที่ group : นานา สาระ๑๐๐๐ เพราะเรื่องต่างๆ เขียนไว้เกือบ 900 เรื่องแล้ว   Create Date : 17 มีนาคม 2552     Last Update : 17 มีนาคม 2552 18:15:48 น. Counter : 1277 Pageviews.   1 comment Share Tweet

เทรนสีใหม่ของ การตกแต่งบ้าน 2009 เทรนสีใหม่ของ การตกแต่งบ้าน 2009 Oriental Sweetness โทนสีใหม่ของปี 2009 โดยการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Woolmark เป็นแนวที่ยังคงได้รับอิทธิพลจากทางตะวันออก โดยเอาความอบอุ่น และความอ่อนหวาน จากศิลปของญี่ปุ่น ไปประยุกต์ใช้ โดยให้คำนิยามว่า “ Oriental Sweetness ” โทนสีที่ออกทางแดงส้มและเทานี้ จะได้รับความนิยม ตามที่ designer วางแผนไว้หรือไม่ ยังเร็วเกินไปที่จะสรุป นอกจากโทนสี ที่เป็นสีพื้น ลวดลายที่เป็นธรรมชาติ จากดอกไม้ ก็เป็นสิ่งที่เขาหยิบจากศิลปญี่ปุ่น มา simplify ด้วยลวดลายธรรมชาติ บางเบา ที่ดูคล้ายงาน pop art แต่มันเป็นรูปแบบที่เกิดขึ้นมาเป็น ร้อยปีแล้ว ของเทคนิคการใช้แปรงของญี่ปุ่น แม้ว่า แนวทางแบบตะวันออก หรือเอเซียน จะได้รับความนิยมก่อนหน้ามากว่า 3-4 ปีแล้ว แต่ก็ยังไม่ลดดีกรีความนิยมลงแต่อย่างใด เพราะกระแสที่นิยมธรรมชาติ กับความเรียบง่าย มันเหมาะกับจิตใจของคนมากกว่า การปรุงแต่งที่หรูหรา ฟุ่มเฟือย นั่นเอง แต่เทรนของทางตะวันตกนี่ อาจจะไม่ค่อยเหมาะกับบ้านเรานัก เพราะเป็นแนวสีร้อน บ้านเราร้อนอยู่แล้ว มาใส่สีเพิ่มความร้อนอีก เดี๋ยวมันจะร้อนกันไปใหญ่ อาจจะใช้กับพื้นที่เล็กๆ เสริมห้องให้เด่นขึ้นก็คงพอ แล้วใช้โทนสีอ่อน หรือสีกลางๆ กับส่วนที่เหลือ ก็จะทำให้บ้านของคุณ ไม่ตกรถไฟแน่นอนครับ TraveLAround ปล. ตอนนี้ผมจัดทำ web ที่รวบรวมภาพต่างๆ ที่ยังไม่ได้เอามาเขียนเป็นเรื่อง หรือบางเรื่องมีรูปเยอะมาก ก็เอามาลงไม่หมด ก็จะมาเก็บไว้ที่นี่ก่อน ถ้าใครสนใจก็เข้าไปดูได้นะครับ ที่ Home Lover's Club แต่ก่อนเข้าชม กรุณา sign up ก่อนนะครับ ไม่เสียเวลา กรอกแค่ email address กับ ใส่ password ของคุณเอง เท่านั้นครับ ส่วนท่านที่เพิ่งเข้ามาชมบล็อกใหม่ ผมได้จัดทำเป็นสารบัญ แบบหนังสือให้ดูหัวเรื่องได้ง่ายที่ group : นานา สาระ๑๐๐๐ หมายเหตุ : ขณะได้มี website อื่นๆหลาย website ได้นำเอาเรื่องที่ผมเขียนไว้ ไปลงต่อในลักษณะของเนื้อหา โดยไม่ได้รับอนุญาตใดๆ ถ้าต้องการบทความใดไปใช้ ขอให้ติดต่อขออนุญาต ก่อนทาง Email : nana_sara1000@ymail.com มิฉะนั้น จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายลิขสิทธิ์   Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2552     Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2552 21:38:54 น. Counter : 1142 Pageviews.   1 comment Share Tweet

ประติมากรรมธรรมชาติ ประติมากรรมธรรมชาติ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการตกแต่งบ้าน ด้วยต้นไม้ หรือสิ่งแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติ แต่ก็ไม่อาจทำได้เต็มที่ เพราะบ้านมีพื้นที่จำกัด ลองมาทำวิธีนี้กันดูครับ ไอเดียนี้ เกิดขึ้นจากแนวความคิดของ Cathryn Barmon ที่นำเอาธรรมชาติ มาย่อส่วน เพื่อให้เหมาะกับการตกแต่ง ในพื้นที่จำกัด โดยไม่ได้เอามาจัดวางอย่างธรรมดา เหมือนแต่ก่อน แต่ต้องมาปรุงแต่ง ออกแบบ ในรูปแบบของงานศิลปเสียก่อน ที่จริงไอเดียของ Cathryn Barmon ที่เป็นชาวตะวันตกนี้ เธอเองได้รับอิทธิพลมาจากการจัดสวนแบบญี่ปุ่นนั่นเอง แต่มาประยุกต์ให้เป็นงานสมัยใหม่ เอามาจัดวางในรูปแบบใหม่ ใช้แขวนแทนการตั้ง ทำให้ดูแปลกตา และสามารถใช้พื้นที่เล็กๆ ในส่วนต่างๆของบ้าน ให้เกิดมุมมองใหม่ในแบบร่วมสมัย ได้เป็นอย่างดี การใช้วัสดุต่างๆ ก็ยังเน้นใช้วัสดุธรรมชาติ เป็นส่วนใหญ่ ที่ดูแลรักษาง่าย เสริมด้วยระบบไฟส่องสว่าง เพิ่มบรรยากาศ ไอเดียนี้ เกิดขึ้นได้จากการคิด “นอกกรอบ” โดยผสมผสานระหว่าง งานศิลป และ การปลูกต้นไม้ แต่ไม่ได้เลือกใช้ กระถางต้นไม้แบบเดิมเดิม มาเป็นอุปกรณ์ในการปลูก ดังนั้น ถ้าเราจะทำเลียนแบบอย่างเขาบ้าง ราคาอาจจะสูงกว่าปกติ นอกจากเราจะหาไอเดียใหม่ วัสดุใหม่ หรือเป็นพวก รีไซเคิล ก็ได้ ก็จะสามารถสร้างงาน “ประติมากรรมธรรมชาติ” ได้เช่นเดียวกันครับ TraveLAround ปล. ตอนนี้ผมจัดทำ web ที่รวบรวมภาพต่างๆ ที่ยังไม่ได้เอามาเขียนเป็นเรื่อง หรือบางเรื่องมีรูปเยอะมาก ก็เอามาลงไม่หมด ก็จะมาเก็บไว้ที่นี่ก่อน ถ้าใครสนใจก็เข้าไปดูได้นะครับ ที่ Home Lover's Club แต่ก่อนเข้าชม กรุณา sign up ก่อนนะครับ ไม่เสียเวลา กรอกแค่ email address กับ ใส่ password ของคุณเอง เท่านั้นครับ ส่วนท่านที่เพิ่งเข้ามาชมบล็อกใหม่ ผมได้จัดทำเป็นสารบัญ แบบหนังสือให้ดูหัวเรื่องได้ง่ายที่ group : นานา สาระ๑๐๐๐ หมายเหตุ : ขณะได้มี website อื่นๆหลาย website ได้นำเอาเรื่องที่ผมเขียนไว้ ไปลงต่อในลักษณะของเนื้อหา โดยไม่ได้รับอนุญาตใดๆ ถ้าต้องการบทความใดไปใช้ ขอให้ติดต่อขออนุญาต ก่อนทาง Email : nana_sara1000@ymail.com มิฉะนั้น จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ข้อมูลจาก Hixton - Contemporary Garden Design Inspiration //shinedesign.blog124.fc2.com/blog-entry-74.html   Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2552     Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2552 23:36:15 น. Counter : 1538 Pageviews.   0 comment Share Tweet

เล่นกับไฟ เล่นกับไฟ การตกแต่งบ้าน นอกจากบรรดาเฟอร์นิเจอร์ต่างๆแล้ว การใช้ระบบแสงสว่างอย่างเจาะจง หรือออกแบบเป็นพิเศษ ก็จะให้ความแตกต่าง ของภาพรวม หรือความรู้สึกของห้องที่เปลี่ยนไป กลายเป็นคนละห้องทีเดียว แม้ว่าสีของห้อง จะเป็นองค์ประกอบสำคัญของการแต่งบ้าน แต่ไม่ว่าสีในห้องจะสวยสดเพียงใด ถ้าหากขาดปริมาณแสงที่เหมาะสม สีในห้องนั้นอาจหม่นลง หรือไม่สวยงามดังที่ควรจะเป็น การออกแบบระบบแสงสว่างนั้น ไม่ใช้เรื่องยาก เพียงรู้จักลักษณะของแสงและอุปกรณ์ที่ใช้ ก็สามารถออกแบบระบบแสงสว่าง ที่ให้อารมณ์ความแตกต่าง ได้มากกว่าห้องธรรมดา อาจจะมีบางวิธี ที่ยุ่งยากซับซ้อนบ้าง และต้องออกแบบตั้งแต่การก่อสร้างเลยทีเดียว สำหรับคนที่สร้างบ้านใหม่ ก็มีโอกาสคิด วางแผนได้มากกว่า การเล่นกับไฟ หรือระบบแสงสว่าง ที่ออกแบบพิเศษ ใช้ร่วมกับแสงธรรมชาติ ตามปกติ เราจะเลือกใช้แสงสว่าง ที่ให้ความสว่างกันแบบมาตรฐาน คือให้ความสว่างแบบทั่วถึง โดยการใช้แสงฟลูออเรสเซน หรือที่เรียกกันว่านีออน ซึ่งให้ความสว่างมากกว่าหลอดแบบอินแคนเดสเซน หรือหลอดไฟกลมแบบเก่า ที่ให้แสงสีเหลือง และไม่สว่างมากนัก ที่เรานิยมใช้เป็นไฟดาวน์ไลท์นั่นเอง ในการออกแบบระบบแสงนั้น แสงสว่างในบ้านไม่จำเป็นต้องมาจากแสงบนเพดานหรือดาวน์ไลท์เท่านั้น เราสามารถเล่นกับไฟหรือแสงได้หลายแบบ เช่นการจัดแบ่งสัดส่วนภายในบ้านด้วยแสง(โดยการมอง ไม่ใช่โดยการกั้น) หรือการเน้นจุดใดจุดหนึ่ง บริเวณใดบริเวณหนึ่งในบ้านให้เด่นขึ้นมาด้วยแสง เรียกว่าเป็น spot หรือเป็นจุดนั่นเอง การใช้แสงสว่างในบ้านแบ่งได้เป็น 3 ลักษณะใหญ่ๆคือ 1. การใช้แสงสว่างทั่วทั้งห้อง (General lighting) เช่นการติดดวงโคม หรือไฟเพดานด้วยนีออน หรือไฟช่อ 2. การใช้แสงสว่างเพื่อการทำงานหรือการอ่านหนังสือ (Task lighting) ได้แก่โคมไฟสำหรับการอ่านหนังสือในห้องทำงาน โคมไฟหัวเตียงนอน หรือไฟใต้ตู้ลอยในครัว 3. การใช้แสงสว่างเพื่อเน้นให้จุดใดจุดหนึ่งหรือบริเวณใดบริเวณหนึ่ง (Accent lighting) ให้บริเวณนั้นเด่นขึ้นมา เช่น ไฟดาวน์ไลท์จากเพดาน ไฟส่องในตู้โชว์ ไฟส่องภาพเขียน หรือโคมไฟส่องข้างโซฟา หรือแม้กระทั่งการใช้ไฟแบบ indirect light เช่นไฟซ่อนในเพดาน ที่จริงการใช้หรือออกแบบระบบแสงนั้น เราสามารถเลือกใช้แสงจากธรรมชาติได้ด้วย เพียงแต่ต้องมีวิธีนำแสงนั้นมาใช้ หรือควบคุมให้ได้ตามต้องการ แม้ว่าจะทำได้เฉพาะเมื่อเวลากลางวันเท่านั้น เช่นการทำ skylight ให้กับห้องโถง หรือห้องนั่งเล่น และการเลือกเจาะช่องแสงตามต้องการ ที่ไม่ใช่ช่องหน้าต่างธรรมดา เช่นการทำผนังกระจกขนาดใหญ่ด้านทิศเหนือ ที่แสงแดดจะไม่ส่องเข้ามาในห้อง ยกเว้นความสว่าง ก็ให้แสงที่สว่าง นุ่มนวล หรือการใช้ glassblock กับผนังต่างๆ ที่เราต้องการใช้แสงธรรมชาติบ้างเฉพาะจุด การใช้แสงธรรมชาติ ร่วมกับแสงไฟ เทคนิคง่ายๆ ในการเลือกใช้หลอดไฟ หลอดไฟประเภทต่างๆ จะให้ความสว่าง และลักษณะของแสง แตกต่างกันไป 1.หากต้องการแสงสว่างทั่วห้อง แสงสีขาวของนีออน จะเหมาะกว่าแสงสีเหลืองของหลอดกลม 2. แสงสีเหลืองจะสวยเมื่อใช้กับห้องที่ต้องการบรรยากาศสลัวๆ (cozy) สร้างอารมณ์ได้หลากหลาย จะโรแมนติก เหงาๆ เศร้าๆ ก็ได้ 3. แสงจะขับสีให้เด่นขึ้นก็ต่อเมื่อแสงนั้น มีความเข้ม (Hue) เดียวกันกับสีหรือแสงนั้น หรือเป็นโทนเดียวกันกับสีนั้น เช่น แสงสีเหลืองจะส่องสีเหลืองได้สวยที่สุด ในขณะที่แสงสีฟ้าจะส่องสีฟ้าหรือโทนเย็นได้สวยสุด 4. แสงสีขาวนวลเหมือนแสงธรรมชาติของหลอดฮาโลเจน จะให้สีที่ไม่ผิดเพี้ยนที่สุด (แต่จะให้ความร้อนด้วยเช่นกัน ใช้มากก็ไม่ดี) เราแบ่งชนิดของหลอดไฟ ได้ตามคุณสมบัติดังนี้ หลอดไฟชนิดเผาไส้ หรือหลอดอินแคนเดสเซนต์ (Incandescent Lamp) ลักษณะเป็นกระเปาะแก้วทรงกลม มีขดไส้เล็กๆ กลางหลอด ทำหน้าที่ให้แสงสว่าง เปิดปุ๊ปติดปั๊ป สามารถใช้ร่วมกับอุปกรณ์หรี่ไฟ (Dimmer)ได้ และราคาถูก แต่มีข้อเสียตรงที่อายุการใช้งานสั้น ขาดง่าย ถ้าต่อสายไฟไม่ดี แค่ปิด-เปิด ก็ขาดได้ ให้ความสว่างไม่มากและปล่อยความร้อนสูง ทำให้สิ้นเปลืองค่าไฟฟ้า โดยเฉพาะหากใช้ในห้องปรับอากาศส่วนใหญ่ เราจึงนิยมใช้เป็นแสงไฟสำหรับการทำงาน เช่น แสงไฟสำหรับการอ่านหนังสือ หรือใช้สำหรับเน้นบรรยากาศของห้อง เช่น ไฟส่องรูปภาพ หรือไฟซ่อนในตู้โชว์ซึ่งไม่ได้เปิดใช้ตลอดเวลา หลอดไฟชนิคคายประจุ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า หลอดฟลูออเรสเซนต์ (Fluorescent Lamp) ตัวหลอดเป็นรูปกลมทรงกระบอกสีขาวขุ่น (มีทั้งชนิดตรงและชนิดกลม) ภายในบรรจุไอปรอท ซึ่งเป็นตัวทำปฎิกิริยากับอิเล็กตรอน ทำให้เกิดพลังงานแสงไปกระทบกับสารเคมีเรืองแสงที่เคลือบไว้ด้านในหลอด เกิดเป็นแสงสว่างสีนวลตา มีการกระจายแสงดี ปล่อยความร้อนน้อยกว่า ข้อเสียของหลอดไฟชนิดนี้คือ ไม่สามารถเพิ่ม หรือลดแสงสว่างได้ (หรี่ไฟ (Dimmer)ไม่ได้) หากแรงดันไฟฟ้าตกลง หลอดไฟชนิดนี้จะดับทันที หลอดไฟฟลูออแรสเซนต์ชุดหนึ่ง จะประกอบไปด้วยสตาร์ทเตอร์ (Starter) อุปกรณ์ช่วยในการกระตุ้นให้อิเล็กตรอนไหลเข้ามาในหลอดไฟ โดยมีบัลลาสต์ (Ballast) ทำหน้าที่เป็นตัวบังคับกระสไฟที่ผ่านหลอดให้คงที่ ในปัจจุบัน ผู้ผลิตหลอดไฟ เข้าใจผลของความสว่างจากหลอดไฟดี แต่ละชนิดจึงพยายามผลิตหลอดไฟ ที่ให้ความสว่างทดแทนกันได้หมด หลอดนีออน ก็ทำแสงให้มีทั้งแบบ daylight และ warm white ที่มีแสงออกเหลืองนวล และหลอดกลม ก็ผลิตหลอดแบบแสง daylight มีแสงสีขาว ออกมาเช่นกัน (เป็นหลอดสีฟ้า) ส่วนพวกหลอดประหยัดไฟทั้งหลาย ก็มีแสงทั้ง warm white และ daylight เช่นกัน เราก็สามารถเลือกซื้อได้สะดวกสบาย การออกแบบห้องที่เน้นการเล่นกับไฟโดยเฉพาะ TraveLAround หมายเหตุ : website อื่นๆ ที่ได้นำเอาเรื่องที่ผมเขียนไว้ ไปลงต่อในโดยไม่ได้รับอนุญาตใดๆ ถ้าต้องการบทความใดไปใช้ ขอให้ติดต่อขออนุญาต ก่อนทาง Email : nana_sara1000@ymail.com มิฉะนั้น จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ปล. ตอนนี้ผมเขียนบล็อกมาได้กว่า 810 เรื่องแล้ว ล้วนเป็นสาระน่ารู้ต่างๆ ท่านที่เข้ามาชมบล็อกใหม่ ผมได้จัดทำเป็นสารบัญ แบบหนังสือให้ดูหัวเรื่องได้ง่ายที่ group : นานา สาระ๑๐๐๐ ส่วนเรื่องเกี่ยวกับบ้านและการตกแต่ง รวมรวมแยกไว้ในหมวด Home Lover’s Corner สามารถคลิ๊กที่ ลิงค์ด้านบนได้เลยครับ   Create Date : 30 ธันวาคม 2551     Last Update : 30 ธันวาคม 2551 14:15:11 น. Counter : 5005 Pageviews.   2 comment Share Tweet

การตกแต่งห้องนอน วัยรุ่นและหนุ่มสาว การตกแต่งห้องนอน การออกแบบตกแต่งห้องนอน เป็นงานตกแต่งที่มีข้อจำกัด ในเรื่องของรูปแบบน้อยที่สุด แต่ก็อย่ามองข้ามพื้นฐาน ในเรื่องของความสบาย ผ่อนคลาย ไปเสีย เช่นแบบที่หรูหรา วูบวาบ ก็ไม่เหมาะกับห้องนอน ผมจำได้ว่าตอนวัยรุ่น ไปดูหนังของ Brook Shield แม้จะจำชื่อเรื่องไม่ได้แล้ว แต่จำห้องนอน ที่ทำฝ้าเพดาน มืดๆ มีดาวกระพริบระยิบระยับ ได้ดี มันดูเท่มาก นับเป็นไอเดียที่ผมยังจำได้มานานหลายสิบปี ห้องนอน ควรเป็นห้องที่ใช้พักผ่อนจริงๆ แต่มีหลายๆคน ที่มีห้องนอนขนาดใหญ่ เลยทำห้องนอนให้เป็นห้องเอนกประสงค์ไป เช่น ดูหนังฟังเพลง ออกกำลังกาย แม้กระทั่ง เป็นที่เก็บของสารพัด ที่ไม่อยากให้คนอื่นเห็น เลยให้มารก รวมกันอยู่ในห้องนอน การตกแต่งโดยใช้รูปภาพ หรือโปสเตอร์ต่างๆ เฟอร์นิเจอร์ที่สำคัญที่สุดของห้องนอน คือที่นอน แบบง่ายๆอย่างวางกับพื้น หรือจะมีเตียงรูปแบบใดๆ ก็ได้ เพื่อเอาไว้เป็นที่ซุกหัวนอน อย่างอื่นจะใส่เพิ่ม ก็ดูตามขนาดของห้อง เช่นตู้เสื้อผ้า ที่จะสามารถขยายขนาดใหญ่ขึ้น จนถึงกับแบ่งเป็น walk-in closet คนที่ใช้เป็นห้องพักผ่อน ก็จะชอบมีทีวี หรือชุดเครื่องเสียง ไว้นอนดู การตกแต่งโดยใช้พวกเครื่องแต่งกาย เครื่องใช้ แค่นี้ ก็เริ่มเกินกว่าความเป็นห้องนอนแล้ว บางคนก็เอาโต๊ะทำงานเข้ามาตั้ง บางคนก็เอาเครื่องออกกำลังกายเข้ามาตั้ง เพราะความเป็นห้องนอน มันมีความเป็นส่วนตัวสูง จึงใช้ทำอะไรๆ ได้ตามสบาย (ไม่รวมห้องน้ำ ที่ทำอะไร ได้ส่วนตัวกว่านั้นอีก) การตกแต่งโดยใช้ของสะสม การจัดห้องนอน คนไทยมักจะถือเรื่องทิศของหัวเตียงที่สุด ใครเชื่อก็ต้องว่าไปตามนั้น แต่ถ้าได้ทิศทางของการระบายถ่ายเทอากาศที่ดีแล้ว จะทำให้นอนหลับสบาย ไร้โรคภัยถามหา ส่วนเฟอร์นิเจอร์ ก็เลือกซื้อกันตามอัธยาศัย ส่วนในเรื่องการตกแต่งนั้น ในตอนนี้ ก็ว่าเรื่องของห้องนอนแบบวัยรุ่น คนโสด กันก่อน เพราะไม่ค่อยจะต้องมีอะไรมากนัก แต่คนวัยนี้ คงไม่ชอบอะไรที่เรียบๆ เฉยๆ เป็นแน่ ต้องสดใส ซู่ซ่า ตามพลังงานที่อัดแน่นในตัว การตกแต่งโดยใช้ โทนสีต่างๆ ของตกแต่ง เราใช้ได้เกือบทุกประเภท ที่เรามี เช่น รูปภาพ หรือโปสเตอร์ต่างๆ ของดารา นักร้องคนโปรด พวกเครื่องแต่งกาย เครื่องใช้ ก็เอามาจัดแขวนให้ดีๆ ก็ดูเก๋ไก๋ได้ แต่ใครที่เป็นนักสะสม ก็เอาของสะสมนั่นแหละ มาโชว์ มาแต่ง อย่าเก็บใส่ตู้ ใส่ลิ้นชัก เอาไว้เฉยๆ ถ้าแต่งง่ายๆหน่อย ก็โดยเน้นการใช้โทนสีต่างๆ หรือโทนที่แรงๆ ไม่เน้นของตกแต่ง ใครชอบสีไหนก็เล่นสีนั้น มันสร้างอารมณ์ ได้ทั้ง เปรี้นว หวาน มัน แสบ เลยทีเดียว ซึ่งก็เป็นอีกแนวหนึ่ง ที่ไม่ต้องลงทุนมาก การตกแต่งโดยใช้ แสงสี ส่วนที่ลงทุนมาก ก็พวกออกแนวคลาสสิคหน่อย หรือผู้ใหญ่หน่อย ที่ต้องเลือกเฟอร์นิเจอร์ ชิ้นสวยๆ เด่นๆ เป็นจุดสนใจ เทคนิค สุดท้าย ที่ใช้ง่าย ได้ผลดี คือการเล่นแสงสี จะเอาแบบอ่อนหวาน เร่าร้อน ก็ทำไม่ยาก ด้วยโคมไฟ สปอตไลท์ หรือนีออนไลท์ แล้วแต่จะชอบ เพราะไฟแต่ละอย่าง มันให้อารมณ์ต่างกันไป การตกแต่งโดยใช้ เฟอร์นิเจอร์สวยๆ แค่นี้ คุณก็จะได้ห้องนอน แบบฉบับของวัยจ๊าบแล้ว ที่จริง แนวการตกแต่งห้องนอน มีมากมายไม่จำกัด ดังที่ได้เกริ่นไว้ตั้งแต่ต้น แต่ที่นำเสนอมานี้ เป็นแนวทางกว้างๆ ที่เราสามารถทำเองได้ง่ายๆ ส่วนวิธี หรือรูปแบบอื่นๆนั้น เหมาะให้มืออาชีพ เขาช่วยมากกว่าทำเอง เพราะมีองค์ประกอบหลายอย่าง ห้องที่นำภาพมาเสนอเป็นตัวอย่าง ก็เป็นห้้องที่เข้าข่ายจัดเอง แม้จะดูดีหรือเจ้าของห้องชอบ แต่ก็ยังไม่ถึงกับสวยมาก ในสายตาของมัณฑนากร หรือดีไซน์เนอร์ เขาอาจว่าต้องปรับปรุงอีกหน่อย หรือยังไม่ค่อยลงตัว ทำนองนั้น ดังนั้น การจัดเอง อยู่เอง เป็นความอิสระของเรา ความชอบของเรา จะจัดยังไง ให้เราพอใจ เป็นจุดหมายที่ใกล้ตัว และทำได้ทุกคนครับ TraveLAround ปล. ท่านที่เพิ่งเข้ามาชมบล็อกใหม่ ผมได้จัดทำเป็นสารบัญ แบบหนังสือให้ค้นดูหัวเรื่องได้ง่ายที่ group : นานา สาระ๑๐๐๐ เพราะเรื่องต่างๆ เขียนไว้ 1370 กว่าเรื่องแล้ว หมายเหตุ : ขณะได้มี website อื่นๆหลาย website ได้นำเอาเรื่องที่ผมเขียนไว้ ไปลงต่อในลักษณะของเนื้อหา โดยไม่ได้รับอนุญาตใดๆ ถ้าต้องการบทความใดไปใช้ ขอให้ติดต่อขออนุญาต ก่อนทาง Email : nana_sara1000@ymail.com มิฉะนั้น จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ส่วนผู้ที่ต้องการนำเรื่องไปโพสต่อ เพื่อเผยแพร่ โดยมิใช่ทางการค้า ขอให้ติดต่อขออนุญาตให้ถูกต้องก่อนโพส   Create Date : 18 ธันวาคม 2551     Last Update : 23 มิถุนายน 2554 20:56:05 น. Counter : 16069 Pageviews.   20 comment Share Tweet

• พระมหากษัตริย์ พระราชวงศ์ และบุคคลสำคัญของไทย
• Travel Around The World
• ท่องเที่ยวไป ทั่วเมืองไทยบ้านเรา | Travel in Thailand
• พระพุทธประวัติ : ประสูติ-ตรัสรู้
• พระพุทธประวัติ : เสวยวิมุตติสุข-ประทานโอวาทปาฏิโมกข์
• พระพุทธประวัติ : ทรงประทับเรือขนาน - ถวายพระเพลิงพระเจ้าสุทโทธนะ
• พระพุทธประวัติ : ภาคพิเศษ
• พระธรรม คำสอน | Dhamma
• สิ่งศักดิ์สิทธิ์และความเชื่อ
• พระอริยสงฆ์แห่งกรุงสยาม
• พระพุทธรูป | Buddha Images
• ปางพระพุทธรูป จากพุทธประวัติ
• Buddha Images : based on life of Buddha history
• นิทานธรรม ขำขัน
• ข้อคิด-คำคม
• Home Design & Style
• Interior Design , Idea & Furnitures
• Trees Garden & Nature
• เรือนไทย | Thai Traditional House
• Thai Decor Arts & Antiques
• Hotel & Restaurant Design
• Thai Architecture | สถาปัตยกรรมไทย
• ช่างและศิลปินไทย | Thai Master Architects
• สถาปัตยกรรม | Architecture
• งานก่อสร้าง และ ต่อเติมบ้าน
• ปรึกษาหมอบ้าน : อาการหนัก-เบา เราช่วยแนะ
• ฮวงจุ้ย กับการออกแบบ ตกแต่ง
• IDEA & INVENTIONS
• Resident Guide
• Real Estate Laws & Regulations
• Real Estate Informations & NEWS
• Exclusive Property for Sales
• สุขภาพกาย และสุขภาพใจ
• กีฬา และการออกกำลัง
• เมืองไทยในอดีต | In the past of Siam Kingdom
• วัฒนธรรม ประเพณี และการละเล่น
• หน้าต่างสู่อดีต
• ศิลปยืนยาว ชีวิตสั้น
• กล้องและการถ่ายภาพ
• คนดีศรีรัตนโกสินทร์ : People's Hall of Fame
• สรรหา-สะสม | Antiques Crafts & Collectibles
• ที่สุดในโลก
• อาหาร การตกแต่ง
• สิ่งแปลกของแหวกแนว
• ขำขำ คลายเครียด | Humor
• นานา สาระ๑๐๐๐ | NaNaSaRa1000
• section links
• King of Gypsy | Kunttong Asunee
• ศิลปินอมตะ
• ตำนานเพลง : Rock 'n' Roll Forever
• ลิ้นชักเพลงเก่า มาเล่าเรื่องเพลง : DJ :- DON-JD
• ธุรกิจ และการจัดการ
• สัตว์เลี้ยงสัตว์โลก
• ยานยนต์
• วิเคราะห์เจาะข่าว | NEWS IN FOCUS
• มรดก | วารสารเพื่อการอนุรักษ์ ศิลป วัฒนธรรมและสถาปัตยกรรม

• nature-delight
• ทายาทตระกูลหยี
• pimpagee
• Napassawan
• คนช่างอาย
• หมอที่ดิน
• Zantha
• หนูเล็กนิดเดียว
• jenifaae
• Merchant Dream
• poivang
• tanas251235
• Suessapple
• Derek
• naigod
• Opey
• หนุ่มร้อยปี
• อีคิวศูนย์
• Sweety-around-the-world
• มาเรีย ณ ไกลบ้าน
• Webmaster - BlogGang

• บันทึกสยาม
• การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย
• แผนผังรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายและสายใหม่
• กรมที่ดิน
• กรมโยธาธิการและผังเมือง
• BlogGang.com