"ความสามัคคีปรองดอง เป็นกำลังอย่างสูงสุดของชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ความสามัคคีของคนในชาติ จะทำให้บ้านเมืองผ่านพ้นอุปสรรค และทำให้สังคมไทย ร่มเย็นเป็นสุข" พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
สนใจลงโฆษณา ในพื้นที่ข้างบน ติดต่อ email : nana_sara1000@ymail.com
Home Lover’s Corner นานา สาระ๑๐๐๐ นานา สารพัด พระพุทธประวัติ ภาคพิเศษ
Travel Around the World Real Estate Buyer's Guide สุขภาพกาย สุขภาพใจ Pets & Animals
ปางพระพุทธรูปตามพุทธประวัติ Horoscope 12 ราศี พระพุทธศาสนา World of Beautiful Musics
วิวัฒนาการของกล้องและการถ่ายภาพ ตอนที่ 4 : กล้องเรนจ์ไฟเดอร์

วิวัฒนาการของกล้องและการถ่ายภาพ ตอนที่ 4 : กล้องเรนจ์ไฟเดอร์


ตบท้ายตอนที่แล้วว่าจะต่อเรื่องกล้อง SLR แต่นึกขึ้นได้ว่าได้ข้ามเรื่องกล้อง Rangefinder ไปเสียจึงขอมาแทรกกลางก่อนนะครับ เพราะมีความสำคัญและลำดับการพัฒนามาก่อน










กล้องเรนจ์ไฟเดอร์ (Range finder)

คือกล้องที่มีเครื่องหาระยะ Range Finder ที่เป็นระบบหาโฟกัส ที่เรียกว่า Rangefinder จากระบบของปืนมาใช้ กล้องเรนจ์ไฟเดอร์ เป็นกล้องประเภท Direct Vision คือเป็นกล้องที่มองผ่านช่องมองโดยตรง ไม่ผ่านเลนส์ คล้ายๆกับกล้อง TLR ที่แยกช่องมองภาพออกจากกัน ส่วนภาพที่ถ่ายจะผ่านเลนส์เข้าสู่ฟิล์มโดยตรง โดยไม่มีกระจกสะท้อนแสงคั่น เหมือน SLR (ก็คือแบบ mirrorless ในปัจจุบันนั่นเอง)





3A Kodak Autographic Special








ดังนั้นข้อดีของกล้องเรนจ์ไฟเดอร์ จึงมีขนาดเล็ก และบางเบากว่ากล้อง SLR เพราะตัดระบบกระจกสะท้อนแสงและ Prism สะท้อนภาพออกไปได้ และก็จะเงียบกว่า SLR เพราะไม่มีเสียงกระจกสะท้อนแสงกระดกเวลาถ่าย (กล้อง SLR มีของ Canon ผลิตรุ่น Pellix ออกมาโดยกระจกสะท้อนแสงนี้ไม่ต้องกระดก แต่น่าจะไม่ได้รับความนิยม จึงเห็นมีผลิตอยู่รุ่นเดียว)













ข้อเสียของกล้องนี้ คือระบบวัดแสง ที่เป็น Range Finder นั้นอาจจะใช้งานยากหน่อย เพราะมีช่องมองเล็ก และการหาโฟกัสแบบภาพซ้อน ที่ต้องการแสงมากหน่อยจึงมองถนัด แต่ก็สามารถวัดระยะของ subject ได้ ทำให้ได้ภาพคมชัด กล้องบางรุ่นไม่มีการสร้าง rangefinder อยู่ในตัวต้องใช้แบบพิเศษเสียบเข้ากับช่องเสียบแฟลช















ข้อเสียอีกประการหนึ่งของกล้องนี้คือ ภาพที่มองเห็นจากช่องมองจะไม่เหมือนกันกับภาพที่ถ่าย ซึ่งเรียกว่าเกิดอาการผิดเพี้ยนจากการตัดส่วนของภาพ (Parallax) เช่นเดียวกับกล้อง TLR โดยเฉพาะการถ่ายในระยะใกล้

























แต่คุณภาพของกล้องและเลนส์ ของกล้องเรนจ์ไฟเดอร์ นับว่าสุดยอดไม่แพ้กล้องระบบอื่น จนได้รับความนิยมมาก และกล้องที่ผลิตดีๆ ก็มีราคาแพงกว่ากล้องระบบอื่นๆมาก เช่นของ Leica Contax แต่กล้อง เรนจ์ไฟเดอร์ ตัวแรกนั้นเป็น 3A Kodak Autographic Special ที่วางขายเมื่อปี 1916 โดยยังเรียกว่าเป็นกล้อง "telemeters" จนกระทั่งกล้อง Leica I ได้ออกจำหน่ายเมื่อปี 1925 และพัฒนาระบบ rangefinder จนได้รับความนิยมสูงสุด


















กล้องเรนจ์ไฟเดอร์ ผลิตออกมาขายหลากหลายขนาดตั้งแต่เล็กๆ กล้องขนาดกลาง (Medium Format) ก็มีการผลิตกล้องที่มีราคาสูงๆหลายยี่ห้อเช่นกัน จนถึงขนาดใหญ่ (Large Format) แต่ขนาดที่ใช้ฟิล์ม 135 จะได้รับความนิยมที่สุดเพราะใช้ระบบ focal plane shutter และสามารถถอดเปลี่ยนเลนส์ได้

ตอนหน้า เป็นกล้อง SLR แน่นอนครับ


TraveLArounD



ปล. ท่านที่เพิ่งเข้ามาชมบล็อกใหม่ ผมได้จัดทำเป็นสารบัญ แบบหนังสือให้ค้นดูหัวเรื่องได้ง่ายที่ group : นานา สาระ๑๐๐๐ เพราะเรื่องต่างๆ เขียนไว้ กว่า 1400 กว่าเรื่องแล้ว

หมายเหตุ : ขณะได้มี website อื่นๆหลาย website ได้นำเอาเรื่องที่ผมเขียนไว้ ไปลงต่อในลักษณะของเนื้อหา โดยไม่ได้รับอนุญาตใดๆ ถ้าต้องการบทความใดไปใช้ ขอให้ติดต่อขออนุญาต ก่อนทาง Email : nana_sara1000@ymail.com มิฉะนั้น จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายลิขสิทธิ์

ส่วนผู้ที่ต้องการนำเรื่องไปโพสต่อ เพื่อเผยแพร่ โดยมิใช่ทางการค้า ขอให้ติดต่อขออนุญาตให้ถูกต้องก่อนโพส



Create Date : 27 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 28 พฤศจิกายน 2554 0:01:05 น. 1 comments
Counter : 3496 Pageviews.
Share

 
ตากล้อง |ช่างภาพ | ชมรมกล้อง | ชมรมคนรักกล้อง | ชมรมถ่ายภาพ | ขายภาพออนไลน์ | ชมรมตากล้อง | สมาคมช่างภาพ | สมาคมถ่ายภาพ | ชมรมช่างภาพ เว็บตากล้อง | เว็บถ่ายภาพ | ราคากล้อง | กล้องมือสอง | งานพริตตี้ | เลนส์มือหมุน



โดย: amulet108 วันที่: 15 พฤษภาคม 2555 เวลา:4:29:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

travelaround
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 164 คน [?]


ยินดีต้อนรับทุกท่านที่แวะเข้ามาชม blog มีข้อคิดเห็น เชิญ comment มาได้นะครับ ถ้าตอบได้ จะตอบให้ทันทีครับ แต่ถ้าไม่ทราบ ต้องขอเวลา จะค้นคว้ามาให้อ่านกัน ท่านที่จะถามคำถาม หรือติดต่อเรื่องบทความ ได้ทาง Email :- d_sign_place@yahoo.com ครับ


เรื่องต่างๆที่ผมได้เขียนหรือรวบรวม เรียบเรียงมานี้ ยินดีให้ทุกท่านได้อ่านเป็นวิทยาทานและเพื่อการศึกษา ถ้าจะนำไปโพสต่อใน website สาธารณะ หรือ website อื่นใดที่ไม่ใช่ทางพาณิชย์ กรุณาระบุที่มา คือ https://www.travelaround.bloggang.com และนามปากกาผู้เขียนคือ TraveLArounD ด้วย

แต่ขอสงวนสิทธิ์สำหรับการนำไปใช้ ในเชิงพาณิชย์ หรือโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง จะถูกดำเนินคดี ตามกฏหมายลิขสิทธิ์

ส่วนบทความหรือภาพถ่ายใดๆ ที่ได้นำมาจาก website อื่น เพื่อเป็นข้อมูลประกอบเรื่องนั้นๆ เป็นการถ่ายทอดจากวิจารณญาณแล้วว่า มีความถูกต้องเป็นจริง มากที่สุด และได้นำมาจาก website ที่เป็นสาธารณะ ถ้าเรื่องราวหรือภาพของท่านที่ได้นำมาถ่ายทอดนี้ ไปละเมิดลิขสิทธิ์ของท่าน กรุณาแจ้งมาทาง email :– nana_sara1000@ymail.com ผมจะทำการลบข้อมูลหรือภาพที่ละเมิดลิขสิทธิ์ดังกล่าว ออกทันที

Acknowledges that I try to write or report accurately but postings may contain fact , speculation or rumor. I find images from the Web that are believed to belong in the public domain. If any stories or images that appear on the site are in violation of copyright law, please email to :- nana_sara1000@ymail.com and I will remove the offending information as soon as possible.
Website counter
: Users Online









ที่ดินเชียงใหม่ ทางไปแม่ริม ใกล้ศาลากลาง และสนามกีฬา 700 ปี ติดน้ำปิง ในหมู่บ้านเพชรริมปิง พื้นที่ 667 ตารางวา @ 14,000.- บาท สภาพแวดล้อมดี สนใจติดต่อ โทร. 0859559950



DESIGN PLACE CO.,LTD. รับออกแบบ และตกแต่งภายใน บ้านพักอาศัย ในแบบไทย และไทยร่วมสมัย



มรดก ฉบับที่ 1

มรดก ฉบับที่ 2

มรดก ฉบับที่ 3

มรดก ฉบับที่ 4

มรดก ฉบับที่ 5

มรดก ฉบับที่ 6

มรดก ฉบับที่ 7

ช่วยสนับสนุนการจัดทำ BLOG ด้วยการซื้อหนังสือ "มรดก" 1ชุด 7เล่ม (หนังสือเก่า) ในราคาชุดละ 700 บาท (รวมค่าส่งทางไปรษณีย์)

สนใจสั่งซื้อทาง E-mail :- nana_sara1000@ymail.com


New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add travelaround's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.