"ความสามัคคีปรองดอง เป็นกำลังอย่างสูงสุดของชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ความสามัคคีของคนในชาติ จะทำให้บ้านเมืองผ่านพ้นอุปสรรค และทำให้สังคมไทย ร่มเย็นเป็นสุข" พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
สนใจลงโฆษณา ในพื้นที่ข้างบน ติดต่อ email : nana_sara1000@ymail.com
Home Lover’s Corner นานา สาระ๑๐๐๐ นานา สารพัด พระพุทธประวัติ ภาคพิเศษ
Travel Around the World Real Estate Buyer's Guide สุขภาพกาย สุขภาพใจ Pets & Animals
ปางพระพุทธรูปตามพุทธประวัติ Horoscope 12 ราศี พระพุทธศาสนา World of Beautiful Musics
ปริศนาอัศจรรย์ครอปเซอร์เคิล (Crop circles)

ปริศนาอัศจรรย์ครอปเซอร์เคิล (Crop circles)
สัญลักษณ์จากห้วงจักรวาล ?


ปรากฏการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นจริงในหลายๆประเทศทางแถบยุโรป และที่ต่างๆทั่วโลก ปัจจุบันนี้มีการรายงานการเกิด Crop circles ใน 29 ประเทศ เป็นปรากฏการณ์ที่ถือว่าไม่ธรรมดามากๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านรูปแบบ วิธีการ ขนาด ระยะเวลาการเกิด และผู้สร้าง ล้วนเป็นความลับ ให้บรรดานักวิทยาศาสตร์ และนักคาดเดาต่างต้องทำงานกันอย่างหนัก แต่ก็ดูเหมือนจะยังไม่ใกล้ความเป็นจริง ที่จะเฉลยปริศนานี้ได้


Crop circles (ครอปเซอร์เคิล) เกิดเป็นรูปร่างโดยธัญพืชที่มีแปลงเพาะปลูกขนาดใหญ่นั้น ได้ล้มลงเป็นจำนวนมาก เกิดลวดลายขึ้น ตัดกับส่วนที่ยังตั้งอยู่ จึงเห็นเป็นลวดลายชัดเจน โดยมีรูปทรงเรขาคณิตที่ซับซ้อน สวยงาม เป็นระเบียบ ส่วนใหญ่มีวงกลมเป็นหลัก และประกอบด้วยรูปทรงเรขาคณิตอีกหลากหลาย และมีขนาดใหญ่มาก ไม่สามารถมองดูได้จากพื้นดินธรรมดา แต่เมื่อมองจากมุมสูงจึงจะเห็นเป็นลวดลายชัดเจน เป็นลักษณะของสัญลักษณ์ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้จากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ โดยเฉพาะมันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ภายในระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น การสร้างจึงต้องใช้เทคนิคและเทคโนโลยี่ขั้นสูงมากๆ จึงจะสามารถทำได้ ดังนั้นจึงมีคำถามว่า คือ ใครเป็นคนทำ ทำได้อย่างไร ใช้อะไรในการทำ และทำเพื่ออะไร












พระเจ้าหรือมนุษย์ต่างดาว กำลังจะบอกอะไรบางอย่างกับพวกเราชาวโลกผ่าน crop circle อย่างนั้นหรือ มีใครจะสามารถอ่านความหมายของเครื่องหมายเหล่านี้ได้ ปริศนาต่างๆ ยังคงดำมืดอยู่อย่างนั้นหรือ และพวกเราจะได้รู้ความลับนี้เมื่อไหร่ จะเกินอายุขัยเราหรือไม่ เพราะความลับในโลกนี้ยังมีอีกมากมาย ที่เราไม่สามารถแก้ไขได้ ได้แต่รอเวลาเท่านั้น


Crop circles ถูกพบครั้งแรกตั้งแต่ปี 1678 ที่เฮิร์ทฟอร์ดเชียร์ ในประเทศอังกฤษ แต่ไม่มีใครสามารถอธิบายได้ว่าใครหรืออะไรทำให้มันเกิดขึ้น ข้อสันนิษฐานที่เป็นทฤษฎีแรกคือเป็นร่องรอยการลงจอดของยานจากต่างดาว ตามมาด้วยทฤษฎีอุกาบาตและทฤษฎีพายุทอร์นาโดขนาดเล็ก มีการรายงานมากกว่า 200 เหตุการณ์ในช่วงก่อนปี 1970 มีผู้เห็นเหตุการณ์กว่า 80 คน ในทศวรรษที่ ในปี 1972 ณ ประเทศอังกฤษ นายอาเทอร์ ชัตเติลวูด กับ บริซ บอนด์ ได้ซุ่มซ่อนตัวบริเวณเนินเขาสตาร์ฮิล ใกล้เวสมินเตอร์ เพื่อเฝ้าดูปรากฏการณ์แสงประหลาด ซึ่งเกิดขึ้นในแถบนั้นมานานเกือบทศวรรษ โดยเชื่อกันว่ามันคือยูเอฟโอ คืนนั้นทั้งสองผิดหวังเมื่อไม่พบแสงประหลาด แต่ได้รับการชดเชยด้วยร่องรอยบางอย่างที่อาจเกี่ยวข้องกัน นั่นคือ พืชที่ล้มเป็นวงกลม สี่ปีต่อมาในเดือนกันยายน 1976 เอดวิน เฟอร์ ชาวนาแห่งแลงเกนเบิร์ก(Langenburg) อ้างว่า เห็นยานรูปโดมสีเงินหลายลำบินอยู่เหนือทุ่งนา หลังจากที่ยานเหล่านี้จากไปแล้ว เขาก็พบ Crop circles หลายแห่งในบริเวณนั้น นี่คือเรื่องราวแรกเริ่มของปรากฏการณ์วงกลมพืชบนท้องทุ่งของอังกฤษ ที่ผู้คนมากมายเชื่อว่าเป็นหนึ่งในปริศนาลึกลับของโลกอยู่ทุกวันนี้ ในปี1980ได้มีการค้นพบ Crop circles มากขึ้น โดยเฉพาะรอบๆเมืองวอร์มินสเตอร์ (Warminster) ในช่วงต้นของทศวรรษนี้รูปทรงของมันก็ยังคงเหมือนเดิม คือเป็นวงกลมหยาบๆ แต่ในกลางทศวรรษรูปทรงของมันซับซ้อนขึ้น คือมีวงแหวนแตกออกไป และมันเริ่มดึงดูดใจคนอังกฤษมากขึ้น ในทศวรรษนี้เอง เทอร์เรนซ์ มีเดน ศาสตราจารย์ทางฟิสิกส์และนักอุตุนิยมวิทยาได้พยายามไขปริศนานี้ โดยทำการวิจัยครอปเซอร์เคิลมากกว่า 1,000 แห่ง มีเดนเสนอทฤษฎีว่า Crop circles เกิดจากความผิดปกติของอากาศที่เขาเรียกว่า Plasma Vortex ทำให้เกิดลมหมุนวนในระดับสูงแล้วเคลื่อนตัวลงสู่พื้นทำให้พืชแบนราบ (แต่ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ก็ไม่น่าจะทำให้เกิดลวดลายที่สลับซับซ้อนกว่าวงกลมๆธรรมดาได้ นอกจากวงกลมธรรมดาๆ ที่ไม่กลมดิก เหมือนใช้เครื่องมือทำ หรือถ้ามันเกิดโดยวิธีการคล้าย Plasma Vortex อย่างที่เขาวิจัย ก็ต้องมีคนที่มีเทคโนโลยี่ขั้นสูงที่สร้างเครื่องมือทำเจ้าลม Plasma Vortex นี้ได้ แล้วจึงบังคับให้มันเป็นรูปทรงเรขาคณิต ซึ่งธรรมชาติจะทำไม่ได้)












เคยมีการปล่อยข่าว จากหลายๆรัฐบาล ของประเทศที่มี Crop Circles เกิดขึ้น เพื่อเบี่ยงเบนและควบคุมความสนใจของคน หรือกลบเกลื่อนปริศนาที่ไร้คำตอบนี้ ว่า ทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นจากการกระทำของคนอายุระหว่าง 60-70 ปี 2 คน แต่ก็กลบเกลื่อนเรื่องนี้ไปได้ไม่นาน สุดท้ายความจริงก็ถูกเปิดเผย เพราะเหตุผลอ้างอิงไม่หนักแน่นพอ เอาง่ายๆว่าคนแก่ 2 คน จะใช้เครื่องมืออะไร มาทำลวดลายขนาดใหญ่ กลางทุ่งนา ได้ในชั่วเวลาเพียงพริบตา ต่อให้ทำทั้งคืนผมว่าก็ยังไม่เสร็จอยู่ดี ชายชาวอังกฤษสองคนได้ออกมาเปิดเผยกับหนังสือพิมพ์ว่า Crop circles เป็นเรื่องหลอกลวงมันเกิดจากฝีมือของมนุษย์คือ เดฟ คอร์ลีและโดฟ โบเวอร์ (Dave Chorley and Doug Bower) อ้างว่าพวกเขาเป็นผู้สร้างมันขึ้นมารวมแล้วกว่า 1,000 แห่ง ตั้งแต่ปี 1978 โดยใช้ไม้กระดานขนาด 4 ฟุต และเชือกเป็นเครื่องมือ ในขณะเดียวกันก็มีนักหลอกลวงกลุ่มอื่นๆออกปฏิบัติการในยามค่ำคืนอย่างเดียวกับพวกเขาด้วย นิตยสารไทม์ฉบับวันที่ 23 กันยายน 1991 พูดถึงเรื่องนี้ว่า นี่คือการนำไปสู่จุดจบของเรื่องซึ่งเป็นหนึ่งในความลึกลับที่สุดของอังกฤษและของโลกแล้ว













ลักษณะของ Crop Circles ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดในไร่นาที่ปลูกธัญพืชต่างๆ ประเภทข้าว เช่น ข้าวสาลี ข้าวบาเล่ห์ ข้าวโพด ซึ่งจะเป็นการล้มของต้นธัญพืชมากมาย ออกมาเป็นรูปทรงต่างๆ ซึ่งถ้าสังเกตจากต้นพืชที่ล้มลง ก้านนั้นจะไม่หักเลยทีเดียวแต่จะงอไปทางขวา ซึ่งจะเกิดขึ้นบริเวณหนึ่งนิ้วจากพื้นดินก่อนที่จะถึงข้อแรกของลำต้น ในบางโอกาสนั้นการงอจะเกิดขึ้น หกนิ้วนับจากหัวเมล็ด ซึ่งตรงนี้นี่เองที่ใช้เป็นข้อโต้แย้งเกี่ยวกับข่าวลือของการเกิด Crop Circles เพราะถ้ามีการใช้เครื่องมือทับต้นไม้ มันจะต้องแบนราบไปกับพื้น และจะต้องมีความเสียหายเกิดขึ้นกับต้นพืช ในช่วงปี1980 จำนวน 90% ของการเกิด Crop Circles ในทางตอนใต้ของอังกฤษนั้น จะเป็นรูปทรงวงกลม วงกลมกับวงแหวน และอื่นๆ แต่ในช่วงปลายปี1980 นั้น Crop Circles ส่วนใหญ่จะมีรูปแบบออกมาในลักษณะเส้นตรง ซึ่งจะออกมาคล้ายๆกับสัญลักษณ์ และภายหลังจากปี1990 รูปแบบของ Crop Circles จะซับซ้อนขึ้นมาก นอกจากความซับซ้อนจะเพิ่มขึ้น ขนาดก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ในบางแห่งนั้นกินวงกว้างถึง 200,000 ตารางฟุต จนถึงปัจจุบันนี้ได้มีรายงานการเกิด Crop Circles กว่า 10,000 ครั้ง มนุษย์ว่างงานคนไหน จะมีเวลาไปทำอะไรเล่นๆ ได้มากมายขนาดนั้น (ว่างแล้วต้องรวยด้วยนะครับ จึงจะมีเงินค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปทั่วโลก)













Crop circles เป็นสิ่งที่ถูกจัดสร้างได้อย่างลงตัว ซึ่งเป็นที่ประจักษ์ต่อชาวโลก ซึ่งปรากฏการณ์นี้ น่าจะเป็นผลจากพลังงานที่กระทำกับสิ่งมีชีวิตบนโลกซึ่งก็คือต้นธัญพืช พลังงานเหล่านี้ประกอบไปด้วย แสง เสียงและ คลื่นแม่เหล็ก ใน AUSTRALIA และ BRITISH COLUMBIA ผู้พบเห็นได้กล่าวว่า Crop Circle นั้นเกิดขึ้นในช่วงเวลาเพียงแค่ 20 วินาที พวกเขาได้อธิบายถึง ลูกบอลเรืองแสงที่มีสีสันจากความร้อนได้เกิดขึ้นก่อนการเกิด Crop Circles ในบางโอกาส มีลำแสงพุ่งลงมายังท้องทุ่ง และได้ทำให้ต้นธัญพืชโค้งงอและจัดเรียงตัวเป็นรูปทรงเรขาคณิตภายในเวลาน้อยกว่า 15 วินาที ส่วนใหญ่คนที่เห็นเหตุการณ์นี้จะเป็นพวกเกษตรกร ต้นไม้เหล่านี้ดูเหมือนจะถูกกระทำจากความร้อนที่ร้อนในช่วงเวลาสั้นๆซึ่งจะทำให้ต้นพืชนั้นอ่อนตัวลงและก็งอเป็นมุม 90 องศาโดยที่การงอนั้นคงเดิมและไม่ทำให้เกิดการเสียหายกับต้นพืช นักพฤกษศาสตร์ได้งุนงงกับการเกิดปรากฏการณ์นี้และได้สนับสนุนแนวคิดนี้ เนื่องจากดูเหมือนจะเป็นแนวคิดเดียวที่สามารถอธิบายปรากฏการณ์นี้ได้ แต่จากหลายๆการค้นคว้าและทดลองได้ค้นพบว่า Infrasound (เสียงที่ต่ำกว่า 20 Hz) นั้นก็สามารถที่จะทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ได้เช่นกัน Infrasound ที่มีความดันสูง สามารถที่จะทำให้น้ำเดือดได้ภายในเวลาเพียงแค่ 1 นาโนวินาที ซึ่งก็ตรงกับคำพูดของเกษตรกรผู้เห็นเหตุการณ์ว่าได้เห็นไอควันลอยขึ้นจาก Crop Circles













มีอีกทฤษฎีหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เป็นของด๊อกเตอร์ คอลลิน แอนดริวส์ นักวิทยาศาสตร์อังกฤษซึ่งศึกษาครอปเซอร์เคิลมาเป็นเวลา 17 ปี ในปี 2000 แอนดริวเปิดเผยผลวิจัยซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากมูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์ว่า ราวๆ ร้อยละ 80 ของครอปเซอร์เคิลเป็นฝีมือของมนุษย์ ครอปเซอร์เคิลเหล่านี้ จะมีรูปทรงซับซ้อนและวิจิตรพิสดารส่วนที่เหลือซึ่งมีรูปทรงง่ายๆนั้น เขาเชื่อว่ามันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสนามแม่เหล็กในบริเวณนั้น ซึ่งทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าและกระแสไฟนี้เองเป็นตัวการทำให้พืชล้มลง งานวิจัยที่พบว่าครอปเซอร์เคิลบางแห่งทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าเช่นไมโครโฟน หรือเครื่องบันทึกเสียงถูกรบกวนจนใช้การไม่ได้ รวมทั้งผู้ที่อยู่ในบริเวณนั้นจะรู้สึกปวดศีรษะหรือมีอาการคลื่นไส้ สนับสนุนทฤษฎีนี้ นักวิจัยบางคนเชื่อว่ามันเกิดจากพลังงานที่ตกค้าง













ทฤษฎีนี้ได้รับการสนับสนุนจากผลการทดลองของนักวิทยาศาสตร์ญี่ปุ่นคือ ศาสตราจารย์โอซึกิ (Ohtsuki) เขาใส่พลาสมา (plasma Fireballs) ลงในถาดแป้ง ผลปรากฏว่ามันทำให้เกิดวงแหวนสองชั้นรอบศูนย์กลาง ปี 1991 ได้มีการค้นพบครอปเซอร์เคิลหลายร้อยแห่งในอังกฤษ มันยังแพร่ระบาดไปในเยอรมัน สหรัฐอเมริกา บราซิล โรมาเนีย ฮังการีและญี่ปุ่น ยิ่งไปกว่านั้นมันได้เปลี่ยนแปลงรูปทรงใหม่ที่สลับซับซ้อนมากขึ้น เรียกว่า Pictrogram เสมือนการสื่อความหมายบางอย่างด้วยภาพ รูปแบบใหม่ของมันทำให้ทฤษฎีผู้มาจากต่างมิติที่พยายามสื่อสารกับมนุษย์เริ่มก่อตัวขึ้นอีกครั้ง ความซับซ้อนของรูปทรงครอปเซอร์เคิล ทำให้ทฤษฎีพลาสมาไม่สามารถอธิบายรูปทรงนี้ได้ ในขณะที่คำกล่าวอ้างเรื่องแสงไฟประหลาดเหนือท้องทุ่งยามดึก แล้วทำให้เกิดครอปเซอร์เคิลในรุ่งอรุณของทฤษฎียูเอฟโอ ก็ยังใช้เป็นหลักฐานไม่ได้ แต่มันก็ยังเป็นทฤษฎีที่ได้รับความสนใจมากที่สุด ในปี 1992 การเกิดครอปเซอร์เคิล มีความสลับซับซ้อนของรูปทรงเรขาคณิต และขนาดอันมหึมาหลายร้อยฟุตในทุ่งบาร์เลย์ และ ทุ่งข้าวโพด พร้อมๆกับการแพร่ระบาดไปกว่า 10 ประเทศ และยังทำให้ตัวเลขนักวิจัยเพิ่มสูงขึ้น อีกด้านหนึ่งมันคือศิลปอันวิจิตรพิสดารบนท้องทุ่ง ซึ่งผลิตช่างภาพมืออาชีพมากมาย และเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจสิ่งพิมพ์เกี่ยวกับครอปเซอร์เคิลที่เฟื่องฟูอยู่ทุกวันนี้














จนถึงปัจจุบัน มี Crop circles เกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อนที่อังกฤษรวมแล้วประมาณ 10,000 แห่ง ส่วนใหญ่เกิดทางภาคใต้ และ 90 เปอร์เซนต์ อยู่ในรัศมี 50 ไมล์จากสโตนเฮน(Stonehenge) Crop circles บางแห่ง สื่อความหมายเกี่ยวกับจักรวาลและแกแล็คซี่ บางแห่งสื่อความหมายเกี่ยวกับหายนะของโลกจากอาวุธนิวเคลียร์ และบางแห่งสื่อความหมายเกี่ยวกับผลร้ายของการทำลายสภาพแวดล้อม ในวันที่ 17 สิงหาคม 2001 นักวิจัยครอปเซอร์เคิลต้องตะลึงกับ Crop circles รูปแบบใหม่สองแห่งในทุ่งข้าวโพดใกล้กล้องโทรทรรศน์วิทยุ Chilbolton ที่ Hampshire อังกฤษ มันเป็นภาพกราฟิกของสัญญาณวิทยุที่ส่งจากโลกไปยังกลุ่มดาว M13 อีกแห่งหนึ่งเป็นภาพหน้าคนที่คล้ายภูเขาหน้าคนบนดาวอังคาร ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อครบรอบปี ได้เกิด Crop circles แบบนี้ขึ้นอีก มันคือ Crop circles ที่แสดงภาพของ E.T. ห่างจากที่ตั้งกล้องโทรทรรศน์ Chilbolton ราว 9 ไมล์ในวันที่ 15 สิงหาคม 2002 สำหรับนักวิจัยแล้ว ความพยายามของพวกเขาไม่ไร้ผล นักวิจัยได้พบเบาะแสบางอย่างที่อาจคลี่คลายปริศนานี้ได้ นั่นคือการพบความผิดปกติในลำต้นของพืชใน Crop circles ที่พวกเขาอ้างว่าสามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างของจริงกับที่มนุษย์สร้างขึ้นได้ Crop circles ของจริงนั้นลำต้นของพืชที่ล้มซึ่งอยู่เหนือพื้นดินประมาณ 1 นิ้ว มีลักษณะโค้งงอไม่แตกหัก นอกจากนั้นโครงสร้างของเซลล์ (cell Pit) ยังเปลี่ยนแปลง คือเซลล์ขยายตัวเหมือนได้รับความร้อน ด๊อกเตอร์ วิลเลียม เลเวนกูด เชื่อว่าไม่ว่าอะไรก็ตามที่ทำให้เกิด Crop circles มันต้องใช้พลังงานที่เร็วและหนาแน่นจนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเซลล์ นักวิจัยเชื่อว่าพลังงานที่ว่านั้นน่าจะเป็นไมโครเวฟ ทฤษฎีนี้เรียกว่า Microwave Transient Heating นักวิจัยยังอ้างการศึกษาผลกระทบของพืชใน Crop circles เปรียบเทียบกับพืชที่อยู่ใกล้เคียงซึ่งพบว่า เมล็ดพืชในครอปเซอร์เคิลมีอัตราการเจริญเติบโตเร็วกว่าเมล็ดพืชบริเวณใกล้เคียงถึง 45 เปอร์เซ็นต์














แต่ในปี 2000 ชายชาวอังกฤษกลุ่มหนึ่งได้ออกมาเปิดเผยตนเองว่าเป็นผู้สร้าง Crop circles ที่วิจิตรพิสดารหลายสิบแห่งในภาคใต้ของอังกฤษมากว่า 11 ปี พวกเขาเรียกตนเองว่า Circlemakers โดยใช้คอมพิวเตอร์ร่างรูปแบบก่อน พวกเขาได้รับเชิญจากสื่อมวลชนให้สาธิตการสร้าง Crop circles ที่มีความซับซ้อนหลายครั้ง ซึ่งพวกเขาทำได้จริงๆ และก็ไม่ได้ใช้ไมโครเวฟ ปัจจุบันพวกเขามีเว็บไซต์ที่แสดงผลงานและเสนอข่าวสารเกี่ยวกับครอปเซอร์เคิล ทุกวันนี้นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่เชื่อว่ามีทฤษฎีเดียวเท่านั้นที่จะอธิบาย Crop circles ได้ นั่นคือ ทฤษฎีมนุษย์เป็นผู้สร้างแต่อย่างไรก็ตาม นักวิจัย Crop circles ก็ยังเชื่อเหมือนกับแอนดริวว่า มันไม่ทั้งหมดที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ของนักวิจัยหลายกลุ่มจึงยังดำเนินอยู่ต่อไป Circlemaker คนหนึ่งพูดถึงเรื่องนี้ว่า ไม่มีใครอยากเชื่อคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์หรอก เพราะผู้คนต้องการเชื่อสิ่งที่เป็นความลึกลับมากกว่า “สาธารณชนไม่ต้องการคำอธิบาย” เขากล่าว


คุณละครับ ดูรูปแล้ว เชื่อตามทฤษฎีไหนมากกว่ากัน ?

TraveLArounD




ปล. ท่านที่เพิ่งเข้ามาชมบล็อกใหม่ ผมได้จัดทำเป็นสารบัญ แบบหนังสือให้ค้นดูหัวเรื่องได้ง่ายที่ group : นานา สาระ๑๐๐๐ เพราะเรื่องต่างๆ เขียนไว้ กว่า 1400 เรื่องแล้ว

หมายเหตุ : ขณะได้มี website อื่นๆหลาย website ได้นำเอาเรื่องที่ผมเขียนไว้ ไปลงต่อในลักษณะของเนื้อหา โดยไม่ได้รับอนุญาตใดๆ ถ้าต้องการบทความใดไปใช้ ขอให้ติดต่อขออนุญาต ก่อนทาง Email : nana_sara1000@ymail.com มิฉะนั้น จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายลิขสิทธิ์

ส่วนผู้ที่ต้องการนำเรื่องไปโพสต่อ เพื่อเผยแพร่ โดยมิใช่ทางการค้า ขอให้ติดต่อขออนุญาตให้ถูกต้องก่อนโพส

เรียบเรียงจาก
ศรีธนนชัย - sudipan.net
//www.sudipan.net/phpBB2/viewtopic.php?p=32467
???nuihome
//tocropcircle.blogspot.com/
ภาพจาก
//www.cropcircles.net/photographsofcropcircles2002.htm
//www.lucypringle.co.uk/photos/2007/uk2007bw.shtml



Create Date : 04 พฤษภาคม 2551
Last Update : 18 กรกฎาคม 2554 19:17:37 น. 12 comments
Counter : 9466 Pageviews.

 
สวยจัง


โดย: Nagano วันที่: 8 พฤษภาคม 2551 เวลา:19:20:48 น.  

 
ชอบครับ ชอบติดตามเรื่องนี้ไม่รู้ ว่าเป็นผีมือใคร แต่มันสวยดีเลยชอบ เจอที่ไหนจะอ่านตอลอดเลยเก็บรูปไว้เต็มเครื่องเลย ครับ อิอิ


โดย: หามานาน IP: 203.130.159.3 วันที่: 9 พฤษภาคม 2551 เวลา:10:56:08 น.  

 


โดย: ธวัชชัย IP: 125.26.111.34 วันที่: 27 พฤษภาคม 2551 เวลา:14:42:03 น.  

 
เง้อ
สวยดีค่ะ
อยู่อังกิดแต่ไม่เคยเห็นเลยแฮะ


โดย: PPpIRCU วันที่: 2 มิถุนายน 2551 เวลา:18:30:43 น.  

 

แปลกมาก ติดตามข่าวมานานแล้ว ขอให้ทำต่อไปนะค่ะ


โดย: นงค่ะ IP: 222.123.115.230 วันที่: 29 มิถุนายน 2551 เวลา:22:14:13 น.  

 
ดร้อปเซอร์เคิ้ล
ดร.เดล วันล้อฟ ผู้ปกครองเมืองอังกฤษ เป็นผู้ที่รู้ในเรื่องนี้ ดร้อปเซอร์เคิ้ล เป็นสถานที่สัญลักษณ์การลงจอดของจานบินมนุษย์ต่างดาว มีพื้นที่กว้าง 1 ตารางกิโลเมตร เหมือนกันทุกแห่ง มีหลายพื้นที่ ที่เหิทฟอร์เชียร์ ประเทศอังกฤษ ก็เช่นเดียวกัน
พื้นที่ดร๊อปเซอร์เคิ้ล เป็นที่ราบ โล่งเตียน ลุ่มๆดอนๆ มีทุ่งหญ้าเกิดขึ้นทีหลังได้บ้าง เนื่องจากความเร็ว และแรงของจานบิน ที่ขึ้นและลงจอด ทำให้เกิดสภาพไร้น้ำหนัก วัตถุสิ่งของพืชต้นไม้และอื่นๆในบริเวณนั้น ปลิวว่อนออกไปหมดทันทีในชั่วพริบตา
จานบินของมนุษย์ต่างดาวเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ตอนบินจะดูเป็นรูปทรงกลม ซึ่งจานบินของมนุษย์ต่างดาวใช้พลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์จุดพลังงานปรมณูเป็นแรงดันขับเคลื่อนจานบิน เป็นแรงขับดันมหาศาล เกิดสภาพไร้น้ำหนัก จานบินลอยไปในพริบตา
มนุษย์ต่างดาวที่มาเยือนโลกมนุษย์ ชื่อว่า “มนุษย์หิน” มาจากเมืองสามหาว น่าจะมาจากดาวพฤหัส แต่ยังไม่ยืนยันแน่นนอน มนุษย์ต่างดาวจะมาเยือนโลกมนุษย์บ่อย พบอะไรที่โลกมนุษย์จะเก็บไปหมด ตอนนี้ที่เก็บไป มีหิน ดิน ทราย น้ำ ข้าวสาร และอื่นๆที่เก็บได้ ส่วนคนและสัตว์บนโลกมนุษย์ มนุษย์ต่างดาวยังจับเอาไปไม่ได้ สิ่งที่มนุษย์ต่างดาวนิยมมากที่สุด คือ หินแสงที่ขั้วโลกเหนือโลกมนุษย์ มนุษย์ต่างดาวจะเก็บไปใช้เป็นเครื่องประดับบ้าน หินแสงนี้มีคุณสมบัติคือให้แสงสว่างเหมือนกลางวัน
มนุษย์ต่างดาวมาเสียชีวิตที่โลกมนุษย์หลายหมื่นคน เนื่องจากจานบินชำรุดเกิดระเบิด หรือบางครั้งจานบินลงจอดใกล้ภูเขา เมื่อจานบินหยุดนิ่ง สภาพไร้น้ำหนักก็หมดไป ก้อนกินใหญ่ จากภูเขาที่ปลิวว่อนอยู่ก็ตกลงมาทับจานบินระเบิดเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน
s.yeneng 25 ตุลาคม 2551


โดย: s.yeneng IP: 117.47.108.188 วันที่: 25 ตุลาคม 2551 เวลา:12:10:33 น.  

 
เมื่อเกือบ 40 ปีที่แล้ว วงพืชปริศนาหรือ "คร็อปเซอร์เคิล" เริ่มเป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ วิทยุไปจนถึงโทรทัศน์ มีผู้เชื่อว่าลวดลายประหลาดในไร่เป็นฝีมือของมนุษย์ต่างดาว หลายคนถึงกับยืนยันว่าเห็นจานบินอยู่เหนือแถบนั้น

ภายหลังพบว่า "คร็อปเซอร์เคิล" เป็นฝีมือของมนุษย์นี่เอง



โดย: ฟันธง IP: 117.47.122.208 วันที่: 30 มิถุนายน 2552 เวลา:11:07:32 น.  

 
ไม่รู้เรื่อง


โดย: xxx IP: 125.26.23.116 วันที่: 30 กันยายน 2552 เวลา:16:35:22 น.  

 
เรื่องนี้น่าติมตามมากๆ อยยากรู้ว่ามีจริงมั้ย


โดย: หนุงหนิง IP: 124.122.239.79 วันที่: 21 ตุลาคม 2552 เวลา:19:42:57 น.  

 
เป็นเรื่องที่แปลกสำหรับคนปกติ แต่สำหรับผมเป็นเรื่องที่ไม่แปลกเพราะผมคือผู้กำความลับของครอปเซอร์เคิล อยากมาหาผม มาหาได้ในปีพ.ศ.2556


โดย: เพื่อน IP: 125.25.22.49 วันที่: 2 เมษายน 2553 เวลา:8:41:35 น.  

 
ผมคนนึงล่ะที่ไม่เชื่อว่าเป็นฝีมือมนุษย์ แน่จิงพวกที่บอกว่าทำลองทำให้ดู และให้นักข่าวไปถ่ายมาดิ รัฐบาลจ้างคนมาปิดข่าวน่า ผมรู้


โดย: เชื่อเรื่องต่างด่าว IP: 202.91.23.4 วันที่: 18 กรกฎาคม 2554 เวลา:14:02:06 น.  

 
สวยมากอยากเอามาเก็บไว้ที่บ้านเราเชื่อว่าทุกคำถามมีคำตอบ(แต่ไม่รู้เมื่อไหร่)จะคอยติดตามคะชอบมากๆ


โดย: kittyต่างดาว IP: 110.49.233.162 วันที่: 3 มิถุนายน 2555 เวลา:19:32:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

travelaround
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 164 คน [?]





ยินดีต้อนรับทุกท่านที่แวะเข้ามาชม blog มีข้อคิดเห็น เชิญ comment มาได้นะครับ ถ้าตอบได้ จะตอบให้ทันทีครับ แต่ถ้าไม่ทราบ ต้องขอเวลา จะค้นคว้ามาให้อ่านกัน ท่านที่จะถามคำถาม หรือติดต่อเรื่องบทความ ได้ทาง Email :- d_sign_place@yahoo.com ครับ


เรื่องต่างๆที่ผมได้เขียนหรือรวบรวม เรียบเรียงมานี้ ยินดีให้ทุกท่านได้อ่านเป็นวิทยาทานและเพื่อการศึกษา ถ้าจะนำไปโพสต่อใน website สาธารณะ หรือ website อื่นใดที่ไม่ใช่ทางพาณิชย์ กรุณาระบุที่มา คือ https://www.travelaround.bloggang.com และนามปากกาผู้เขียนคือ TraveLArounD ด้วย

แต่ขอสงวนสิทธิ์สำหรับการนำไปใช้ ในเชิงพาณิชย์ หรือโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง จะถูกดำเนินคดี ตามกฏหมายลิขสิทธิ์

ส่วนบทความหรือภาพถ่ายใดๆ ที่ได้นำมาจาก website อื่น เพื่อเป็นข้อมูลประกอบเรื่องนั้นๆ เป็นการถ่ายทอดจากวิจารณญาณแล้วว่า มีความถูกต้องเป็นจริง มากที่สุด และได้นำมาจาก website ที่เป็นสาธารณะ ถ้าเรื่องราวหรือภาพของท่านที่ได้นำมาถ่ายทอดนี้ ไปละเมิดลิขสิทธิ์ของท่าน กรุณาแจ้งมาทาง email :– nana_sara1000@ymail.com ผมจะทำการลบข้อมูลหรือภาพที่ละเมิดลิขสิทธิ์ดังกล่าว ออกทันที

Acknowledges that I try to write or report accurately but postings may contain fact , speculation or rumor. I find images from the Web that are believed to belong in the public domain. If any stories or images that appear on the site are in violation of copyright law, please email to :- nana_sara1000@ymail.com and I will remove the offending information as soon as possible.


Website counter
: Users Online









ที่ดินเชียงใหม่ ทางไปแม่ริม ใกล้ศาลากลาง และสนามกีฬา 700 ปี ติดน้ำปิง ในหมู่บ้านเพชรริมปิง พื้นที่ 667 ตารางวา @ 14,000.- บาท สภาพแวดล้อมดี สนใจติดต่อ โทร. 0859559950



DESIGN PLACE CO.,LTD. รับออกแบบ และตกแต่งภายใน บ้านพักอาศัย ในแบบไทย และไทยร่วมสมัย



มรดก ฉบับที่ 1

มรดก ฉบับที่ 2

มรดก ฉบับที่ 3

มรดก ฉบับที่ 4

มรดก ฉบับที่ 5

มรดก ฉบับที่ 6

มรดก ฉบับที่ 7

ช่วยสนับสนุนการจัดทำ BLOG ด้วยการซื้อหนังสือ "มรดก" 1ชุด 7เล่ม (หนังสือเก่า) ในราคาชุดละ 700 บาท (รวมค่าส่งทางไปรษณีย์)

สนใจสั่งซื้อทาง E-mail :- nana_sara1000@ymail.com



New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add travelaround's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.