"ความสามัคคีปรองดอง เป็นกำลังอย่างสูงสุดของชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ความสามัคคีของคนในชาติ จะทำให้บ้านเมืองผ่านพ้นอุปสรรค และทำให้สังคมไทย ร่มเย็นเป็นสุข" พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
สนใจลงโฆษณา ในพื้นที่ข้างบน ติดต่อ email : nana_sara1000@ymail.com
Home Lover’s Corner นานา สาระ๑๐๐๐ นานา สารพัด พระพุทธประวัติ ภาคพิเศษ
Travel Around the World Real Estate Buyer's Guide สุขภาพกาย สุขภาพใจ Pets & Animals
ปางพระพุทธรูปตามพุทธประวัติ Horoscope 12 ราศี พระพุทธศาสนา World of Beautiful Musics
พระพุทธรูปก่อนการประสูติเจ้าชายสิทธัตถะ | พระสุเมธดาบส

พระพุทธรูปก่อนการประสูติเจ้าชายสิทธัตถะ

พระสุเมธดาบส

เมื่อกาลเวลาจะถึงสมัยพุทธภูมิ ของสมเด็จพระสัมมาทีปังกรพุทธเจ้า อนิยตโพธิสัตว์ ก็จุติเป็นบุตรของพราหมณ์มหาศาล ซึ่งเป็นบุตรโทน มีทรัพย์สินมากมาย เป็นผู้เชียวชาญในเชิงมนต์ และรู้แจ้งในไตรเภท มีนามว่า สุเมธ เมื่อบิดามารดาได้สิ้นชีวิตหมดแล้ว ท่านสุเมธ ก็ดำริกับตัวเองด้วยจินตามยปัญญาว่า "ทรัพย์สินที่เรามีมากมายนั้น ช่วยอะไรได้ เพราะชีวิตนี้ก็ต้องแก่ ต้องเจ็บ และต้องตาย แล้วทรัพย์สินก็ไม่สามารถติดตามไปได้ เมื่อเวียนว่ายตายเกิดโดยไม่รู้ถึงจุดหมายปลายทาง เราจะห่วงอะไรกับสิ่งที่เป็นภายนอก ควรแสวงหาโมกธรรมอันเกษม เพื่อหลุดพ้นจากทุกข์ในจิตใจเสียดีกว่า

เมื่อท่านสุเมธคิดได้ดังนี้ จึงตัดสินใจบริจากทรัพย์สินอันมากมาย ใช้เวลาเป็นเดือนจึงหมดสิ้น เหลือแต่บริขารออกบวชเป็นดาบส สุเมธดาบสได้สร้างอาศรม อยู่ในราวป่าแห่งหนึ่ง บำเพ็ญภาวนาจนบรรลุ ถึงฝั่งอภิญญา 5 และ สนใจอยู่ในการเข้าสมาบัติเป็นประจำ เมื่อสมเด็จพระทีปังกรพุทธเจ้าบังเกิดขึ้น ทรงสั่งสอนสรรพสัตว์ ให้ก้าวล่วงพ้นจากภพ จากวัฐฏสงสาร แม้เสียงกล่าวถึง พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ขจรไกลไปทั่ว แต่สุเมธดาบสหาได้รับรู้ไม่ เพราะมัวแต่สนใจเข้าสมาบัติ

ณ วันหนึ่งสุเมธดาบส ออกจากฌานสมาบัติ ประสงค์รสอาหารที่ต่างจากผลไม้ จึงดำริที่จะบิณฑบาตในเมือง จึงเข้าอภิญญาเหาะไปในนภากาศ ซึ่งในขณะนั้น พระทีปังกรพุทธเจ้าทรงเสด็จโปรดประชาสัตว์ มีผู้คนรอรับเสด็จมากมายเรียงรายกันเป็นทิวแถว เมื่อสุเมธดาบสเหาะมาทางอากาศ ก็ได้ยินเสียงกล่าวว่า พระพุทธเจ้าเสด็จมาๆ และเห็นหมู่เหล่าเทพเทวดา ทำการพุทธบุชากันมากมายด้วยทิพย์จักษุ เมื่อได้ยินได้เห็นเหล่ามนุษย์และเทพเทวดาทำพุทธบูชา จึงบังเกิดความยินดีเป็นอย่างยิ่ง เหาะลงบริเวณที่ฝุงชนเรียงแถวกันรอรับเสด็จ และแลเห็นฝูงชนกำลังทำทางดำเนินรับเสด็จให้ราบเรียบ แต่ละท่านก็แบ่งเป็นส่วนๆ สุเมธดาบสก็มีความประสงค์ที่จะสร้างบุญกุศลแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงขอแบ่งที่มาส่วนหนึ่ง ชาวบ้านก็แบ่งให้ที่ส่วนหนึ่ง สุเมธดาบสมีความปีติยินดีเป็นอย่างยิ่ง จึงนำดินขนทราย มาทำทางดำเนินให้ราบเรียบ แต่ตรงส่วนที่สุเมธดาบสทำนั้นเป็นหลุมเป็นบ่อมีน้ำขัง สุเมธดาบสทำทางเกือบเสร็จแล้ว เหลือพืนที่เพียง 1 ช่วงตัว ที่ยังมีน้ำขังอยู่ และพระพุทธองค์ก็กำลังเสด็จมาพอดี ซึ่งถ้าจะขนดินทรายมาถมก็ไม่ทันการณ์ ท่านจึงเอาลำตัวนอนคว่ำปิดช่วงที่น้ำขังนั้น จิตก็จินตนาการด้วยความปีติยินดีไปว่า "เราได้ทำมหากุศลนี้ แก่พระพุทธองค์ และเหล่าพระสาวก เพื่อประสงค์ให้ตรัสรู้ เป็นดังพระพุทธองค์ในภายหน้า " ขณะนั้นพระทีปังกรพุทธเจ้าทรงเสด็จมาถึงเบื้องหน้า สุเมธดาบสก็กราบทูลว่า "ขอให้พระพุทธองค์ทรงดำเนินไปบนหลังข้าพระองค์ ไม่ให้พระบาทของพระองค์เปียกด้วยโคลนตม" ครั้นนั้นพระพุทธองค์ทรงพิจารณาด้วยพระสัพพัญญุตาญาณ แล้วตรัสพระวาจา แก่ชาวประชาพุทธบริษัททั้งหลายในที่นั้นว่า





"ถ้าท่านทั้งหลายแคล้วคลาดจากอมตธรรม ไม่ได้บรรลุมรรคผลนิพพานในศาสนาของเรานี้ และยังต้องท่องเทียวในภพสงสาร นานไปในอนาคตกาลเบื้องหน้า ก็จงปรารถนาให้ใด้บรรลุในศาสนาของดาบสนี้เถิด ในอีก 4 อสังไขยแสนกัป ดาบสผู้นี้จะได้ตรัสรู้ เป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งในโลก มีนามว่า พระศรีศากยมุนีโคดมพุทธเจ้า" หลังจากนั้นทั้งมนุษย์และหลายเทพเทวดาก็กล่าวสาธุการ สนั่นดังไปทั่ว

ขณะนั้นก็มีหญิงสาวผู้หนึ่งเข้ามากราบแทบพระบาทของพุทธองค์ แล้วกล่าววาจาว่า " ข้าพระบาทได้แลเห็นท่านดาบส ลงมาจากนภากาศ ข้าพระบาทมีความศรัทธาในท่านดาบส เห็นท่านดาบสสร้างทางและทอดกายเป็นสะพาน ข้าพระบาทมีปีติและศรัทธายิ่งขึ้น และเมื่อพระพุทธองค์ทรงพยากรณ์ ท่านดาบสว่า จักได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาล ข้าพระบาทศรัทธาปิติยินดียิ่งขึ้น ก็มีใจรักปราถนาเป็นคู่สูขคู่ทุกข์คู่อยาก ช่วยสร้างสมบารมีให้สมบูรณ์"




พระพุทธรูปปางนี้สร้างขึ้นเป็นพระทีปังกรพุทธเจ้าเสด็จมาพร้อมพระสาวก มีพระสุเมธดาบสนอนเหยียดยาวถวายบังคมพระทีปังกรพุทธเจ้า




เมื่อพระพุทธองค์ตรวจสอบด้วยพระสัพพัญญูตาญาณแล้ว จึงตรัสวาจาพยากรณ์ว่า "ความปรารถนาของนาง จะสำเร็จตามปรารถนา จะได้เป็นพระชายาทรงนามว่า ยโสธารา" เหล่ามนุษย์และเทพยดาต่างสาธุการดังก้อง แล้วพระพุทธองค์ยกพระบาทเบื้องขวาดำเนินไปบนกายของสุเมธดาบส ตามด้วยพระอริยะสาวก เหยียบกายสะพานนั้นไป ถ้าในขณะที่สุเมธดาบสทอดกายเป็นสะพาน และดำริในใจก่อนที่ว่า "ปรารถนาละกิเลสบรรลุถึงนิพพานโดยเร็วพลัน" เมื่อพระพุทธองค์เสด็จมาถึง พระพุทธองค์ก็จะแสดงธรรมให้ฟังเพียงกึ่งบทคาถา สุเมธดาบสก็จะบรรลุเป็นพระอรหันต์ในทันที แต่เมื่อสุเมธดาบสปรารถนาในพระโพธิญาณอย่างไม่ย่อท้อ พระพุทธองค์จึงตรัสพุทธพยากรณ์

เมื่อพระภิกษุสงฆ์เดินไปหมดแล้ว นิยตโพธิสัตว์สุเมธดาบส (นิยตโพธิสัตว์ คือพระโพธิสัตวที่เทียงแท้แน่นอน) ก็ลุกขึ้นแล้วเหาะไปที่สงบ แล้วนั่งพิจารณาตัวเองด้วยอภิญญา หามีมหาฤาษีใดเทียบได้ พิจารณาบารมีทั้ง 30 ที่เพียรได้บำเพ็ญมา เมื่อครบถ้วนสมบูรณ์ ก็บังเกิดแผ่นดินสั่นหวั่นไหว แล้วเหล่าเทพเทวดาทั่วหมื่นโลกธาตุก็ประชุมกันสักการะด้วยทิพย์สุคนธมาลัย แล้วกล่าวอำนวยพรว่า " ท่านสุเมธดาบส วันนี้ท่านได้รับพุทธพยากรณ์แห่งองค์สมเด็จพระทีปังกรพุทธเจ้า ท่านจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าอย่างแน่นอนในอณาคต คำตรัสพยากรณ์ของพระพุทธเจ้าเที่ยงแท้แน่นอนไม่มีเป็นสอง ขอให้ท่านดาบสทรงบำเพ็ญบารมีให้ถึงที่สุด เพื่อประโยชน์แก่เหล่าสรรพสัตว์ทั้งหลาย" เมื่อสุเมธดาบสนิยตโพธิสัตว์ ได้เห็นหมู่มนุษย์และเทพเทวดาทำสักการะบูชา และกล่าวคำอวยพรเป็นอันมาก ก็มีความยินดีปรีดา จึงอธิษฐานมั่นด้วยวิริยะบารมี หน่วงเอาพุทธานุสติเป็นอารมณ์ นมัสการไปยังทิศ ซึ่งพระทีปังกรพุทธเจ้าเสด็จอยู่ แล้วเหาะไปยังอาศรมแห่งตน เจริญอภิญญาสมาบัติมิให้เสื่อมสิ้นอายุขัยไปอุบัติเกิดในพรหมโลก



Create Date : 03 มีนาคม 2552
Last Update : 3 มีนาคม 2552 19:34:33 น. 1 comments
Counter : 3801 Pageviews.

 
ขอขอบคุณผู้เขียนทุกท่านที่ให้ข้าพเจ้าได้ความรู้
และคนรุ่นหลังได้ศึกษาต่อไป
ขอคุณค่ะ



โดย: สุชานันท์ ทะรารัมย์ IP: 118.175.211.172 วันที่: 13 กรกฎาคม 2556 เวลา:10:05:52 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

travelaround
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 164 คน [?]





ยินดีต้อนรับทุกท่านที่แวะเข้ามาชม blog มีข้อคิดเห็น เชิญ comment มาได้นะครับ ถ้าตอบได้ จะตอบให้ทันทีครับ แต่ถ้าไม่ทราบ ต้องขอเวลา จะค้นคว้ามาให้อ่านกัน ท่านที่จะถามคำถาม หรือติดต่อเรื่องบทความ ได้ทาง Email :- d_sign_place@yahoo.com ครับ


เรื่องต่างๆที่ผมได้เขียนหรือรวบรวม เรียบเรียงมานี้ ยินดีให้ทุกท่านได้อ่านเป็นวิทยาทานและเพื่อการศึกษา ถ้าจะนำไปโพสต่อใน website สาธารณะ หรือ website อื่นใดที่ไม่ใช่ทางพาณิชย์ กรุณาระบุที่มา คือ https://www.travelaround.bloggang.com และนามปากกาผู้เขียนคือ TraveLArounD ด้วย

แต่ขอสงวนสิทธิ์สำหรับการนำไปใช้ ในเชิงพาณิชย์ หรือโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง จะถูกดำเนินคดี ตามกฏหมายลิขสิทธิ์

ส่วนบทความหรือภาพถ่ายใดๆ ที่ได้นำมาจาก website อื่น เพื่อเป็นข้อมูลประกอบเรื่องนั้นๆ เป็นการถ่ายทอดจากวิจารณญาณแล้วว่า มีความถูกต้องเป็นจริง มากที่สุด และได้นำมาจาก website ที่เป็นสาธารณะ ถ้าเรื่องราวหรือภาพของท่านที่ได้นำมาถ่ายทอดนี้ ไปละเมิดลิขสิทธิ์ของท่าน กรุณาแจ้งมาทาง email :– nana_sara1000@ymail.com ผมจะทำการลบข้อมูลหรือภาพที่ละเมิดลิขสิทธิ์ดังกล่าว ออกทันที

Acknowledges that I try to write or report accurately but postings may contain fact , speculation or rumor. I find images from the Web that are believed to belong in the public domain. If any stories or images that appear on the site are in violation of copyright law, please email to :- nana_sara1000@ymail.com and I will remove the offending information as soon as possible.


Website counter
: Users Online









ที่ดินเชียงใหม่ ทางไปแม่ริม ใกล้ศาลากลาง และสนามกีฬา 700 ปี ติดน้ำปิง ในหมู่บ้านเพชรริมปิง พื้นที่ 667 ตารางวา @ 14,000.- บาท สภาพแวดล้อมดี สนใจติดต่อ โทร. 0859559950



DESIGN PLACE CO.,LTD. รับออกแบบ และตกแต่งภายใน บ้านพักอาศัย ในแบบไทย และไทยร่วมสมัย



มรดก ฉบับที่ 1

มรดก ฉบับที่ 2

มรดก ฉบับที่ 3

มรดก ฉบับที่ 4

มรดก ฉบับที่ 5

มรดก ฉบับที่ 6

มรดก ฉบับที่ 7

ช่วยสนับสนุนการจัดทำ BLOG ด้วยการซื้อหนังสือ "มรดก" 1ชุด 7เล่ม (หนังสือเก่า) ในราคาชุดละ 700 บาท (รวมค่าส่งทางไปรษณีย์)

สนใจสั่งซื้อทาง E-mail :- nana_sara1000@ymail.com



New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add travelaround's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.