เที่ยวเมืองเพอร์กามุม กับทัวร์ตุรกี จากกรุงเทพฯ มาถึงประเทศตุรกีทำเอาเพลียไม่น้อยเลยทีเดียว เนื่องจากใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง ไกด์ทัวร์ตุรกีแจ้งให้ทราบว่าสถานที่ท่องเที่ยวแห่งแรกของวันนี้อยู่ที่เมือง "เพอร์กามุม" (Pergamum) ซึ่งอยู่ไม่ไกลจาก โอวาลิคพอขึ้นรถโค้ชก็มีการแนะนำให้รู้จักกัน และมีกิจกรรมเล่นกันบนรถอย่างสนุกสนาน ไกด์ทัวร์ตุรกีเริ่มเล่าประวัติเมืองเพอร์กามุมให้ฟัง เมืองเพอร์กามุม เป็นเมืองโบราณมีความเจริญรุ่งเรืองมากที่สุดช่วง 133-281 ปี ก่อนคริสตกาล ขณะนั้นถือว่าเป็นยุคทองของศิลปะและวิทยาการของกรีกซึ่งเรียกว่า ยุคเฮลเลนลิสติก โดยดินแดนอานาโตเลีย (หรือตุรกีในปัจจุบัน)เดิมเคยอยู่ภายใต้อาณาจักรเปอร์เซียแต่ต่อมาถูกยึดครองโดยพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชเป็นเวลาถึง 10 ปีหลังจากพระเจ้าอเล็กซานเดอร์สิ้นพระชนม์ อาณาจักรทั้งหมดได้ถูกแบ่งออกเป็น 4 ส่วนปกครองโดยขุนพลของพระองค์ 4 คน ดังนี้   ดัสซันโดรส ปกครอง มาซิโดเนียและกรีซ เซเลอคุส ปกครอง เมโซโปเตเมีย ซีเรียและอานาโตเลียตะวันออก ปโตเลมี ปกครอง อียิปต์ ลิเบียและอานาโตเลียตอนเหนือ ไลซิมาคุส ปกครอง อานาโตเลียตอนใต้และตะวันตก   ไกด์ทัวร์ตุรกีบรรยายต่อว่า ในบรรดาขุนพลทั้งสี่ไลซิมาคุส ได้ปกครองดินแดนส่วนใหญ่ของอานาโตเลียซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญทางด้านเศรษฐกิจเพราะเป็นพื้นที่ติดกับทะเลเมติเตอร์เรเนียนและทะเลอีเจียนซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่เมือง เพอร์กามุมเป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองสืบต่อมาจนถึงยุคของราชวงศ์อัตตาลุส ที่สืบทอดเอาวัฒนธรรมของกรีกมาเป็นอย่างมากจนกระทั่งมีการเปลี่ยนผังของ อะโครโปลิส แห่ง เพอร์กามุม เป็น อะโครโปลิสในเอเธนส์เมื่อถึงยุคของพระเจ้าอัตตาลุสที่ 3 สิ้นพระชนม์โดยไม่มีรัชทายาทได้มีการทำพินัยกรรมยกอาณาจักร เพอร์กามุมให้กับอาณาจักรโรมันซึ่งเป็นพันธมิตรเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดสงคราม จากการบรรยายของไกด์ทัวร์ตุรกีจนทราบเรื่องราวความเป็นมาของเมืองเพอร์กามุม เมื่อมาถึง นักท่องเที่ยวทัวร์ตุรกีได้เดินสำรวจร่องรอยในอดีตที่ยังมีหลงเหลือไว้ให้เห็นจนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์   Cr. wikipedia.org   Create Date : 15 มิถุนายน 2557     0 comment Last Update : 4 กรกฎาคม 2565 16:45:04 น.     Counter : 1331 Pageviews.   Share Tweet

นักท่องเที่ยวทัวร์ตุรกี ถูกใจ ฮิปโปโดรม สถานที่ท่องเที่ยวแห่งแรกจากการไปทัวร์ตุรกีมักจะเป็น จัสตุรัสสุลต่านอาห์เมต หรือ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ฮิปโปโดรม (Hippodrome) จัสตุรัสแห่งนี้เดิมถือว่าเป็นจุดศูนย์กลางของเมืองในยุคไบแซนไทน์ เป็นลานกว้างใช้เป็นสนามกีฬาแข่งม้าและสถานที่จัดแสดงกิจกรรมต่างๆ แต่ในปัจจุบันไม่ได้ถูกใช้งาน คงเหลือเพียงร่องรอยในอดีตที่มีแต่เสาโบราณ 3 ต้น โดยมีชื่อเรียกเสาทั้ง 3 ต้น ดังนี้       1. เสาโอเบลิสก์แห่งกษัตริย์เธโอโดเซียส (Obelisk of Theodosius) เป็นเสาทรงสี่เหลี่ยมฐานกว้างเรียวยาวขึ้นไปเป็นยอดแหลม เดิมเคยตั้งอยู่ที่ประเทศอียิปต์จากการสร้างโดย ฟาร์ธุตโมซิสที่ 1 เป็นเสาหินแกรนิคที่สวยงามด้วยความสูง 20 เมตร บนปลายยอดเสาถูกแกะสลักเป็นรูปขององค์ฟาร์โรห์บูชาสุริยเทพ เมื่อจักรพรรดิโอโดเซียรบชนะอียิปต์ ก็ได้ย้ายเสาต้นนี้จากอียิปต์มาประดับไว้ที่อีสตันบูลใช้เวลาการย้ายนานถึง 30 ปี โดยการสร้างฐานหินอ่อนไว้รอก่อนแล้วแกะสลักฐานเป็นรูปจักรพรรดิโอโดเซีย กำลังพระราชทานรางวัลให้แก่นักรบ โดยมีพระโอรส อาร์คาดิอุส และโฮโนริอุส มีทหารและพลเมืองมาแสดงความยินดีกับชัยชนะในครั้งนี้ เป็นจุดเด่นที่นักท่องเที่ยวทัวร์ตุรกีมักจะถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก     2. เสางู (Snake Column) เป็นเสาบรอนซ์ที่แกะสลักเป็นรูปงู 3 ตัว พันเกียวกันไปมาเป็นเสาที่ชาวอีตันบูลยอมรับว่าเก่าแก่ที่สุดที่คงเหลืออยู่ในทุกวันนี้ แต่เดิมเมื่อเริ่มสร้างเสาต้นนี้มีความสูง 8 เมตร แต่ด้วยเวลาอันยาวนาน ทำให้สึกกร่อนเสียหายไปจนปัจจุบันเหลือความสูงเพียง 5 เมตร     3. เสาคอนสแตนติน (Constantinople) ตั้งตามชื่อของพระเจ้าคอนสแตนตินจักรพรรดิแห่งโรมัน เมื่อครั้งเริ่มสร้างเป็นเสาบรอนซ์ แต่ในช่วงสงครามโดนศัตรูหลอมเอาบรอนซ์ไปจนหมด ปัจจุบันถ้านักท่องเที่ยวทัวร์ตุรกีเข้าไปชมก็จะเห็นเพียงเสาปูนเท่านั้น ความสูงของเสาประมาณ 32 เมตร เดิมเป็นรูปเกษตรกรและชาวประมง     ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวทัวร์ตุรกีได้ชมอีกหลายแห่งที่เป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่ยังอนุรักษ์สภาพเดิมไว้อย่างครบถ้วน และสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีกมากมาย นับว่าเป็นความภาคภูมิใจของชาวตุรกีที่มีจุดสนใจที่เป็นเสน่ห์ของประเทศดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมากทำให้เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้นและมีคนรู้จักประเทศตุรกีมากขึ้น   Credit : privateephesus-tours.com , wikipedia.org   Create Date : 10 มิถุนายน 2557     0 comment Last Update : 4 กรกฎาคม 2565 16:45:16 น.     Counter : 2156 Pageviews.   Share Tweet

ทัวร์ตุรกีพาเที่ยวพระราชวังโดลมาบาห์เช ร้อนนี้ไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหนดีขอแนะนำว่า ไปทัวร์ตุรกีกันดีกว่า จะพาไปชม "พระราชวังโดลมาบาห์เช" ที่มีความงดงามไม่แพ้พระราชวังแวร์ซายส์ของประเทศฝรั่งเศสเลยที่เดียว   พระราชวังโดลมาบาห์เช พระราชวังโดลมาบาห์เช (Dolmabahce Palace) อยู่ที่ริมช่องแคบบอสฟอรัสฝั่งยุโรป อยู่บนเนื้อที่ประมาณ156 ไร่ มีความยาวเลียบชายฝั่ง 600 เมตร พระราชวังแห่งนี้สร้างขึ้นในยุคอาณาจักรออตโตมันโดยสุลต่านอับดุลเมจิต ได้ยืมเงินจากประเทศ อังกฤษ อิตาลี ฝรั่งเศสจำนวนกว่า 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อนำมาสร้างพระราชวัง ใช้เวลาสร้าง 30 ปีโดยสถาปนิค คาราเบต บัลยาน เน้นรูปแบบศิลปะยุโรปสไตน์บาโร้ก และร็อกโกโกนักท่องเที่ยวทัวร์ตุรกีจะประทับใจตั้งแต่ปากทางเข้าที่มีหอนาฬิกาตั้งเด่นอย่างสวยงามเดินเข้าไปอีกนิดก็จะเจอประตูขนาดใหญ่ของพระราชวังชั้นนอกตกแต่งด้วยลวดลายปูนปั้นอย่างวิจิตรตระการตาได้เวลาทัวร์ตุรกีพาไปชมภายใน เมื่อเดินผ่านประตูชั้นนอกไปแล้วจะมีประตูชั้นในอีกชั้นหนึ่งตรงจุดนี้ จะต้องเสียเงินค่าถ่ายรูป ประมาณ 150 บาทเนื่องจากภายในพระราชวังห้ามนักท่องเที่ยวทุกคนถ่ายรูป ประตูทางเข้าพระราชวังโดลมาบาห์เช เมื่อคณะทัวร์ตุรกีเดินเข้าไปก็จะเจออุทยานที่มีรูปหงส์พ่นน้ำตั้งเด่นอยู่ตรงกลางก่อนจะเข้าไปในพระราชวัง ต้องสวมถุงพลาสติกที่เท้าเพื่อไม่ให้พื้นกระเบื้องเสียหาย การเข้าไปในตัวอาคารพระราชวังต้องรอคิวเป็นรอบๆ มากับทัวร์ตุรกีก็เดินเข้าไปเป็นกลุ่มๆ ละประมาณ 15 คน ภายในพระราชวังมีห้องเป็นจำนวนมากถึง 285 ห้อง ทุกห้องตกแต่งอย่างหรูหรามีเฟอร์นิเจอร์ กระจก นาฬิกา โคมไฟ รูปภาพ วอลเปเปอร์ เครื่องเงิน เครื่องทองเครื่องแก้วเจี่ยระไน ภาพจิตรกรรมฝาผนัง และอื่นๆ อีกมากมายดูงดงามวิจิตรตระการตาไปทั่วทุกพื้นที่ ห้องที่มีจุดเด่นที่สุดคือ ห้องท้องพระโรงตกแต่งไว้สวยงามมากปูพรมที่ทอด้วยมือไว้รับรองงานสำคัญๆ และเป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงต่างๆนักท่องเที่ยวทัวร์ตุรกีจะได้เห็นโคมไฟขนาดใหญ่ ที่เป็นของขวัญจากประแทศอังกฤษทำจากแก้วคริสทัลใหญ่ที่สุดในโลกหนัก 4-5 ตัน ประดับด้วยดวงไฟ 750 ดวงสุดท้ายไม่ควรพลาดชมห้องพักของ มุสตาฟา เคมาล อะตาเติร์ก วีรบุรุษแห่งชาติผู้ปฏิวัติเปลี่ยนแปลงประเทศเป็นประธานาธิบดีคนแรกของสาธารณรัฐตุรกี ภายในพระราชวัง   ความสวยงามของพระราชวังโดลมาบาห์เชที่ได้บรรยายมาคงทำให้ทุกท่านประทับใจใครที่มีโอกาสไปทัวร์ตุรกีก็อย่าพลาดชมความงดงามของพระราชวังแห่งนี้เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 9.30 น. ถึง 16.00 น. ทุกวัน    Credit:  turkeyforholidays.com , wikimedia.org   Create Date : 02 มิถุนายน 2557     0 comment Last Update : 4 กรกฎาคม 2565 16:45:26 น.     Counter : 2027 Pageviews.   Share Tweet

ปามุคคเล่ดินแดนของทัวร์ตุรกี หากท่านที่คิดถึงสถานที่ท่องเที่ยวอันแสนจะงดงามดังอยู่บนสวรรค์ผุดขึ้นมาในใจของหลายๆ คนแน่นอนว่า มันเป็นสถานที่ในฝันของหลายคนอยากจะบอกว่ามันมีอยู่จริงแล้วที่ประแทศตุรกี ดินแดนของทัวร์ตุรกี นั่นก็คือ "ปราสาทปุยฝ้ายปามุคคเล่" บ่อน้ำร้อนศักดิ์สิทธิ์ของชาวตุรกี ปามุคคเล่ (Pamukkale) เป็นดินแดนแห่งน้ำพุร้อนบนภูเขาหิน ที่มีลักษณะคล้ายระเบียงน้ำพุร้อนซ้อนกันหลายชั้นมีขอบหินปูนสีขาวดูงดงามขาวสะอาดดั่งปุยฝ้าย ด้วยความเขื่อว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์จึงถูกใช้เป็นสปาเพื่อเป็นสถานที่บำบัดโรคมานานกว่าพันปี หลังจากขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกก็ไม่ให้นักท่องเที่ยวทัวร์ตุรกีลงไปอาบแช่ เพื่อป้องกันสถานที่แห่งนี้เกิดความเสียหาย แต่ปัจจุบันนี้ สามารถลงไปแช่ในน้ำแร่ได้ในบางจุดตามที่ทางเจ้าหน้าที่ที่ดูแลสถานที่ได้กำหนดไว้ ทำให้คณะทัวร์ตุรกีได้แช่กัน ผลจากธรรมชาติสร้างสรรค์ทำให้ปราสาทปุยฝ้ายเกิดเป็นริ้ว เป็นชั้น เป็นแอ่ง เป็นชั้นลดหลั่นกันไปตามภูมิประเทศ กลายเป็นปติมากรรมจากธรรมชาติอันสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์ยากจะหาที่ใดเหมือน จนยูเนสโก้ประกาศให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ   ปัจจุบัน น้ำแร่ก็ยังผุดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปามุคคเล่เป็นแอ่งน้ำขนาดย่อมที่นักท่องทัวร์ตุรกีสามารถลงไปแช่กันอย่างสบายใจ ความสวยงามและความมหัศจรรย์ของปามุคคเล่ทำให้ชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก เป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวทัวร์ตุรกีเป็นอย่างมากถ้าได้ไปก็อย่างลืมลงแช่น้ำแร่กันไม่อย่างนั้นเหมือนไปไม่ถึงปามุคคเล่   Create Date : 27 พฤษภาคม 2557     0 comment Last Update : 4 กรกฎาคม 2565 16:45:43 น.     Counter : 1014 Pageviews.   Share Tweet

ทัวร์ตุรกีพาช็อปและชมตลาดแกรนด์บาซาร์ ใครที่ไปทัวร์ตุรกีต้องไม่พลาด ตลาดช็อปปิ้ง "แกรนด์บาซาร์" (Grand Bazaar Market) ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่และมีชื่อเสียงของประเทศตุรกี อยู่ที่เมืองอิสตันบูลเป็นตลาดที่ไม่เหมือนใครและไม่เหมือนตลาดทั่วไป รูปแบบตลาดเป็นสไตล์เตอร์กิชอายุกว่า 1,500ปี มีเนื้อที่เกือบ 200 ไร่ภายในตกแต่งไว้อย่างสวยงามอลังการด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงามมีเพดานโค้งแบ่งเป็นช่วงๆ ทางเข้ามีหลายทาง นักท่องเที่ยวทัวร์ตุรกีมักหลงทางเสมอ ต้องคอยสังเกตว่าไกด์ทัวร์ตุรกีนัดหมายที่ประตูไหน เพราะตรงประตูจะมีชื่อและหมายเลขติดเอาไว้  ตลาดแกรนด์บาซาร์ ในตลาดจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่มีหลังคาและส่วนที่เป็นที่โล่งกลางแจ้ง มีสินค้าให้เลือกมากมายโดยเฉพาะเครื่องแต่งกาย มีทั้ง เสื้อขนแกะ เสื้อผ้าสไตล์ตุรกี ผ้าคลุมไหล่ เครื่องประดับ กระเป๋า รองเท้า เครื่องเซรามิค ของที่ระลึก ผลไม้อบแห้ง เครื่องเทศ และอีกมากมาย นักท่องเที่ยวทัวร์ตุรกีส่วนใหญ่จะซื้อพรมต่างๆ ที่เป็นสินค้ามีชื่อของตุรกีขอแนะนำว่าเวลาจะซื้ออะไรให้ไปเป็นกลุ่มเพื่อการต่อรองราคาง่ายขึ้นบางครั้งได้ลดถึง 50-70 %เพราะร้านค้าจะตั้งราคาไว้สูงมากมาถึงตลาดนี้อย่าลืมให้ไกด์ทัวร์ตุรกีพาไปทานอาหารท้องถิ่นของที่นี่ด้วยนะและขนมหวานขื่อดัง เตอร์กิชดีไลต์ ที่ใครไปก็ต้องลองชิมกัน ด้านนอก ตลาดแกรนด์บาซาร์ ขนมเตอร์กิชดีไลต์   Credit : wikimedia.org  , travelshus.com  ,  md-events.com   Create Date : 23 พฤษภาคม 2557     0 comment Last Update : 4 กรกฎาคม 2565 16:45:55 น.     Counter : 1913 Pageviews.   Share Tweet