รักแท้...แค่เส้นขนาน
Group Blog
 
All blogs
 

~*~*~ ไล่มด มอด แมลง ออกไปจากข้าวสาร ~*~*~

ไม่รู้ว่าเพื่อน ๆ ที่นี่จะเคยเจอปัญหา บรรดามดแมลงต่าง ๆ 

เข้ามาแอบกัดกินข้าวสารกันหรือไม่ ถ้าไม่เคยก็ถือว่าโชคดีไป

แต่ถ้าเคยหรือกำลังมีปัญหาอยู่ วันนี้เราเอาวิธีง่าย ๆ มาแนะนำ





วิธีแรกคือ การเอานำใบมะกรูดใส่ไว้ในถังข้าวสารหรือภาชนะที่ใส่ข้าวสาร

เพราะกลิ่นจากใบมะกรูดจะช่วยขับไล่แมลงต่าง ๆ ได้

แต่เพื่อน ๆ ต้องคอยหมั่นตรวจตรา ว่าใบมะกรูดแห้งหรือยัง

ถ้ามันแห้งแล้วก็อย่าลืมเอาใบใหม่มาเปลี่ยน





วิธีการต่อมาคือ นำเอาพริกสด มาประมาณ 7 - 8 เม็ด

จากนั้นก็ผ่าเอาเมล็ดออก เหลือไว้แต่เปลือกพริก 

จากนั้นก็นำเอาเปลือกพริกเหล่านี้ใส้ไว้ในถังข้าวสาร

ก็จะช่วยขับไล่แมลงต่าง ๆ ได้เช่นกัน





และวิธีสุดท้าย คือเอาเกลือป่นโรยลงไปในถังข้าวสาร

ถ้าเป็นข้าวสาร 1 กิโลกรัมให้ใช้เกลือป่น 1 ช้อนชา

วิธีนี้จะช่วยไล่ทั้งมด มอด แมลงต่าง ๆ ไม่ให้แอบมาจิ๊กข้าวสารของเราได้

แต่ก็อย่าเผลอใส่จนเยอะเกินไป



ขอขอบคุณ คุณ PUTT2PUTT แห่ง TeeNee.com สำหรับความรู้ครับ

//variety.teenee.com/foodforbrain/9808.html



:)




 

Create Date : 10 มิถุนายน 2552    
Last Update : 12 มิถุนายน 2552 22:48:40 น.
Counter : 7577 Pageviews.  

~*~*~ บะหมี่ดำ (หวาน) ~*~*~

ไม่อยากบอกว่า นี่คือหนึ่งในอาหารสิ้นคิดของที่บ้าน
แรกเริ่มเดิมที ก็ดัดแปลงจากสูตรบะหมี่ดำจริงๆ มานั่นแหล่ะครับ
ไปๆ มาๆ ติดใจในรสชาติ เลยทำกินกันบ่อย
จนไม่รู้จะทำอะไรกินกัน ก็ลงที่บะหมี่ดำ (หวาน) ไว้ก่อน
มีอะไรในตู้เย็น ก็จับๆ ใส่ไปตามอัธยาศัย
ว่าจะถ่ายรูปหลายที ก็หิวจนลืมถ่ายรูปเก็บไว้
ส่วนรูปชุดนี้ ก็มาถ่ายเอาตอนที่จับของเหลือๆ ในตู้เย็นมาทำ
สภาพเลยเป็นอย่างที่เห็นล่ะคัรบ

เครื่องปรุง
1. ผักลวกตามชอบ - เอาไว้ตัดหวาน ทำให้ไม่เลี่ยนจนเกินไป
ปกติก็จะมี คะน้า, ข้าวโพดอ่อน แล้วก็เห็ดเข็มทอง
วันที่ถ่ายรูปก็แต่คะน้า
เพราะสองอย่างหลังหมดไปกับสุกี้ในมื้อก่อนหน้าเรียบร้อยแล้ว

2. หัวหอมใหญ่ ถ้ากินกันสองคน สักครึ่งหัวก็พอ
หั่นเป็นชิ้นเล็กสัก 60% ที่เหลืออีก 40% ซอยหยาบ
จริงๆ ในรูปจะเห็นว่ามีมะเขือเทศด้วย ปกติไม่ใส่หรอกครับ
แต่วันนี้มีผักน้อย เลยหั่นๆ ใส่ลงไปด้วย

3. เนื้อสัตว์ตามชอบ ปกติในสูตรก็จะเป็นหมูสามชั้นหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
แต่วันนี้ไก่ทอดมื้อก่อนหน้ายังเหลือ (ทำไมมีแต่ของเหลือๆ หว่า)
เลยเอาไก่ทอดนั่นแหล่ะ หั่นเป็นชิ้นพอคำ

4. เส้นบะหมี่ เลือกเอาตามชอบครับ
จะเป็นหมี่เหลือง หมี่หยก อุด้ง หรือสปาเกตตี้ ก็ตามอัธยาศัย
อร่อยทุกอย่าง มื้อนี้จะเป็นหมี่เหลืองธรรมดา สองก้อน

5. ซีอิ๊วหวาน คนละอย่างกับซีอิ๊วดำนะครับ
ตัวนี้ถ้าดูส่วนผสมข้างขวด จะมีน้ำตาลทรายเป็นหลัก ผสมกับซีอิ๊ว
ต่างจากซีอิ๊วดำ ที่จะมีกากน้ำตาลเป็นหลัก รสชาติคนละแบบเลยครับ
กินกันสองคน ก็ประมาณ 6 - 10 ช้อนโต๊ะ แล้วแต่ว่าชอบหวานแค่ไหน

6. แป้งข้าวโพด ใช้แป้งมันแทนก็ได้ครับ ละลายน้ำเอาไว้
ใช้ประมาณ 2 - 3 ช้อนโต๊ะ ช่วยให้น้ำบะหมี่มันเหนียวๆ หน่อย
อร่อยกว่าแบบใสๆ

7. น้ำเปล่านิดหน่อย

8. น้ำมันพืช นิ๊ดนึง

9. แถมกิมจิสักถ้วยก็ไม่เลวนะครับ ช่วยตัดหวานกับผักลวกได้ดีทีเดียว


เริ่มทำกันดีกว่า
1. ถือว่าลวกผัก กับ ลวกเส้นเตรียมไว้แล้วนะครับ
ลวกเส้นแล้ว อย่าลืมคลุกน้ำมันพืชสักหน่อย เส้นจะได้ไม่ติดกัน
เอาเส้นกับผักใส่จานรอไว้ได้เลย
ถ้าอยากค่อยๆ คลุกกินเอง ก็ใส่จานกลางเอาไว้
แต่ถ้าจะใส่จานสำหรับเสิร์ฟเลย ก็ไม่ว่ากัน จัดผักลวกเคียงให้เรียบร้อย

2. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืชนิดหน่อย
เอาหัวหอมที่ซอยหยาบไว้ลงไปผัดให้หอม
(เรื่องของเรื่องคือผมชอบน้ำมันหอมเจียว)
แล้วก็ใส่เนื้อสัตว์ลงไป ผักให้สุก

3. ใส่หัวหอมที่เหลือลงไป ตามด้วยซีอิ๊วหวาน
ใส่เยอะหน่อยนะครับ (6-10 ช้อนโต๊ะ) เพราะเราจะทำมันเป็นน้ำซอส
เสร็จแล้วใส่น้ำลงไปสัก 2 - 3 ช้อนโต๊ะ

4. คลุกเคล้าเข้ากัน พอเริ่มเดือดขึ้นมาอีก
ก็ใส่แป้งข้าวโพดที่ละลายน้ำแล้วลงไป
กะว่าพอเหนียวๆ ประมาณราดหน้านั่นแหล่ะครับ
เสร็จแล้วยกลงเลย จัดใส่จานน้ำซอส หรือจะราดลงบนจานบะหมี่เลยก็ได้

5. เสร็จแล้วครับ ง่ายจัง
ที่เหลือก็แค่คลุกๆ แล้วก็ทานได้เลย
ไม่ต้องกลัวเลอะปากนะครับ เพราะมันเลอะแน่ๆ อยู่แล้ว เหอๆๆ

เทคนิคการทำเมนูนี้ ก็คือระวังรสชาติให้ดีครับ
สังเกตว่าผมไม่ได้ใส่เกลือ น้ำตาล หรือเครื่องปรุงรสอื่นๆ เพิ่มเลย
รสชาติจะออกหวานเป็นหลัก ปนเค็มนิดๆ จากซีอิ๊วหวานเพียงอย่างเดียว
จะหวานมากหรือน้อย อยู่ที่ปริมาณซีอิ๊วหวานที่ใส่ลงไป
และปริมาณน้ำเปล่าที่ใส่เพิ่ม

ถ้าอยากได้รสชาติแบบอื่นๆ ก็ปรับสูตรตามชอบครับ


:)


- น้ำซอส หน้าตาประมาณนี้ ใส่แฮมนิดหน่อย ให้สีตัดกัน-


-บะหมี่ธรรมดาครับ พร้อมคะน้าลวก-


- คลุกแล้วหน้าตาน่ากินไหมครับ -




 

Create Date : 19 มิถุนายน 2551    
Last Update : 20 มิถุนายน 2551 4:37:27 น.
Counter : 977 Pageviews.  

~-~ มันคืออะไรกันหว่า ~-~

วันก่อนดูเค้าทำอาหารให้ดูจากทีวี
เลยอยากลองทำเองดูบ้าง รู้สึกว่าทำไม่ยาก แต่ยุ่งยาก (เอ๊ะ ยังไง)

แต่...ตอนทำไม่ได้ถ่ายรูปเอาไว้
ถ้าทำอีกรอบ เดี๋ยวจะเอารูปมาลงเพิ่มให้นะครับ

จำชื่อไม่ได้ งั้นตอนนี้เรียกมันว่า...
--[สะโพกไก่ยัดใส่ห่อเบคอน]--
ไปก่อนล่ะกัน

มาเตรียมเครื่องปรุง และเครื่องใช้กันก่อน
อ่อ...โปรดระวัง......เมนูนี้เรียกความอ้วนได้ดีทีเดียว
โปรดระวังอีกครั้ง

1. สะโพกไก่ อยากได้กี่ชิ้น ก็ตามอัธยาศัยครับ ยิ่งมากก็ยิ่งอ้วนมาก

2. เบคอน ถ้าได้แบบที่ติดมันน้อยหน่อยจะดีครับ
ใช้ 3 เส้นต่อหนึ่งสะโพกไก่

3. ไส้ - ไม่ได้หมายถึงไส้ไก่นะครับ แต่เป็นไส้ที่จะยัดลงในสะโพกไก่
ในทีวีจะเป็นหมูผัด แต่ผมใช้ใส้กรอกหมูลอกผิวออก
หรือท่านใดจะใช้ใส้กรอกชีสก็ไม่เลวครับ
ผมเคยลองใช้ปูอัดด้วย 2 แท่งต่อหนึ่งสะโพก
ถ้าเป็นปูอัด ไส้จะฉ่ำน้ำไปนิด แต่ก็อร่อยครับ
ประมาณ กรอกนอก นุ่มใน
ยิ่งทาวาซาบิลงไปด้วย เมื่อเสร็จจิ้มซีอิ๊ว ก็อร่อยไปอีกแบบ

4. เกลือและพริกไทเล็กน้อย

5. น้ำมันสำหรับทอด

เครื่องใช้
1. ฟอลย์
2. กระทะ (แน่นอนว่าต้องมีตะหลิว)
3. หม้อ
4. ฆ้อน
5. อื่นๆ ตามที่สูตรระบุ (ขี้เกียจเขียนนี่หว่า)


--- มาเริ่มทำกันครับ ---
1. ล้างสะโพกไก่ให้สะอาด เลาะกระดูกออก แล้วปรับผิวให้เรียบ
โดยเริ่มแรกก็เฉือนผิวที่ปูดขึ้นมาให้เกือบขาด แล้วพลิกไปด้านข้าง
ต่อมาก็เอาฆ้อนมาทุบๆๆๆๆๆ (สนุกครับตรงนี้)
เสร็จแล้วปรุงรสด้วยเกลือและพริกไท

2. เอาไก่มาห่อใส้ที่เตรียมไว้ โดยม้วนเป็นทรงกระบอก

3. นำเบคอนมาแผ่เรียงกัน 3 ชิ้น เพื่อให้คลุมไก่ได้ทั้งชิ้น
โดยอาจใช้คมมีดช่วยยืดเบคอนให้ยาวพอม้วนได้
แล้วนำไก่ที่ม้วนแล้ว มาม้วนด้วยเบคอนอีกชั้นหนึ่ง
โดยปกติ เบคอนจะยาวกว่าหนึ่งรอบสะโพกไก่
ก็ม้วนไปตามนั้นเลยครับ ไม่ต้องตัด
เพื่อเวลานำไปทอด จะได้ไม่แตกออก

4. นำไก่ที่ม้วนเบคอนแล้ว มาม้วนด้วยฟอยล์อีกครั้ง
จับขอบสองข้างมัดเหมือนลูกอมให้แน่น แต่ระวังอย่าให้ฟอยล์ขาด

5. นำหม้อตั้งไฟ ใส่น้ำกะพอให้ท่วมไก่ เมื่อน้ำเดือด ใส่ไก่ลงไปต้ม
ประมาณ 15 - 20 นาที
ตรงนี้ถ้าต้องการให้สุกทั้งหมดเลย ก็ต้มไปเลยครับ 25 นาที
แต่ถ้าต้องการนำไปอบอีกครั้ง 15 นาทีก็พอ
การต้มนอกจากจะทำให้ไก่สุกแล้ว
ยังทำให้เบคอนรัดไก่แน่นขึ้นด้วยครับ

6. ต้มเสร็จ นำไก่ออกมาพักให้คลายร้อน (พาไปทะเลเลยดีมะ)

7. เมื่อไก่คลายร้อนแล้วนำเข้าช่องแช่แข็งประมาณ 1 ชั่วโมง
ซึ่งตรงนี้จะทำให้น้ำมันที่ออกมาตอนต้ม กลับมาติดตัวเบคอนอีกครั้ง
และทำให้เบคอนรัดไก่แน่นขึ้นอีกนิด


8. นำไก่ออกมาจากตู้เย็น แกะฟอยล์เตรียมไว้


9. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันไม่ต้องมากครับ แค่ท่วมเบคอนก็พอ
ตั้งไฟปานกลาง

10. พอกระทะร้อน ก็นำไก่มาทอด
ค่อยๆ พลิกเมื่อเบคอนเกรียมได้ที่

11. เมื่อเบคอนสีสวยเท่ากันทั้งหมดก็ยกลงครับ พักให้สะเด็ดน้ำมันเล็กน้อย


12. อันนี้เสริมครับ ถ้าท่านใดต้มไก่ไม่สุก ก็นำเข้าเตาอบไฟฟ้า
อีกราวๆ 15 นาที ช่วงนี้จะหอมมากครับ กระเพาะจะร้องได้ง่ายๆ
แต่ถ้าท่านใดต้มไก่สุกแล้ว ข้ามไปข้อต่อไปได้เลย

13. หั่นไก่เป็นช้ินๆ ตามลอนของเบคอน (หรือตามต้องการ)

จะได้ชิ้นไก่ที่กรอบนอก ด้วยเบคอน
นุ่มด้วยเนื้อไก่ ที่สอดไส้ตามที่เราเลือกไว้ตอนต้น

กินเปล่าๆ ก็อร่อยอยู่แล้ว แต่จะจิ้มด้วยน้ำจิ้มไก่, น้ำจิ้มสุกี้
หรือน้ำสลัดก็ไม่เลวครับ

:)

ป.ล. 1 ในทีวีสอนการทำน้ำราดด้วย แต่ผมลืมอ่ะ - -"
ป.ล. 2 ถ้ามีดไม่คมจะทำให้หั่นไก่ในขั้นตอนสุดท้ายได้ไม่สวยนะครับ
ป.ล. 3 อาหารเป็นสไตล์ฝรั่ง แต่ถ้าท่านใด จะยัดไส้แบบไทยๆ
ก็ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด บางท่านอาจชอบแหนม ก็ใส่แหนม
หรือจะม้วนแฮม ม้วนโบโลน่าใส่ ก็เป็นอีกสไตล์นึง




 

Create Date : 20 กุมภาพันธ์ 2550    
Last Update : 22 เมษายน 2550 18:25:32 น.
Counter : 720 Pageviews.  

เต้าหู้อ่อนราดซอส

อากาศร้อนๆ มาหาอะไรเบาๆ กินกันดีกว่า

เริ่มจากเตรียมของก่อน
1. เต้าหู้อ่อน (เต้าหู้ถั่วเหลืองแบบอ่อน
บางทีก็เรียกว่าเต้าหู้สตีม)
2. น้ำจิ้มสุกี้สูตรกวางตุ้ง ตราพันท้ายนรสิงห์

จริงๆ แล้วซอสนี่ต้องผัดเอง แต่วันนี้ยังนึกสูตรไม่ออก
เอาแค่นี้ก่อนล่ะกัน

เอาเต้าหู้มาหั่นเป็นชิ้นๆ พอสองคำ (คือกัดได้สองคำหมดน่ะ)
ตั้งน้ำให้เดือด แล้วเอาเต้าหู้ลงไปต้มประมาณ 1-2 นาที

แล้วตักสะเด็ดน้ำ เรียงใส่จาน
ราดด้วยน้ำจิ้มสุกี้
กินร้อนๆ และถ้ามีผักลวกแกล้มด้วยก็อร่อยยิ่งขึ้น


เอ๊ะ! สรุปว่ามันคือเต้าหู้ลวกหรือนี่ - -"

อาหารเพื่อสุขภาพน่า คิดไรมากมาย หุหุหุ

:)




 

Create Date : 11 พฤษภาคม 2548    
Last Update : 30 พฤศจิกายน 2548 10:00:09 น.
Counter : 898 Pageviews.  

ไก่มะนาว

ว่าจะเขียนถึงเมนูนี้หลายทีแล้ว
แต่ยังไม่ได้ลองทำเองสักที เดี๋ยวบรรยายผิดๆ ไป
แล้วใครทำตาม แทนจะได้กินของอร่อย
ก็อาจได้กินของประหลาดแทนก็ได้

เมนูนี้ชื่อดูธรรมดา แต่รสชาติอร่อยมาก
เพื่อนพาไปกินที่ ปาร์คทูบาร์ สุขุมวิท 66
ร้านนี้บรรยากาศเหมือนนั่งอยู่บ้าน (จริงๆ)
มีดนตรีสดเล่น (อันนี้ชอบมาก)
แถมด้วยเมนูนี้ที่ชอบมากๆ
ชอบรสชาติแบบนี้แหล่ะ เปรี้ยวนิดๆ หวานหน่อยๆ

ก่อนอื่นขอออกตัวไว้ก่อนว่า วันนี้เครื่องปรุงไม่ค่อยมี
เลยอาจได้เมนูประหลาดนิดๆ
มาเริ่มทำกันเลย เริ่มที่เตรียมของก่อน
ไก่หั่นเป็นชิ้นพอคำ (หรือจะหั่นเป็นเส้นยาวๆ ไว้ก่อน
แล้วค่อยหั่นเป็นชิ้นพอคำหลังจากทอดก็ได้)
แป้งทอดกรอบ (จะเอาแบบปรุงเสร็จหรือแบบจืดๆ ก็ได้)
กระหล่ำปลีหั่นฝอย
ใบมะกรูดสัก 6-10 ใบ หรือตามชอบ
(จะเอาสักครึ่งโลก็ได้ ไม่ว่ากัน เหอๆๆ)
ถ้าใครชอบเผ็ดก็อาจเสริมพริกทอดได้นะ
และที่ขาดไม่ได้ ครีมสลัดมะนาว
(ก็ครีมสลัดรสมะนาวนั่นแหล่ะ)
ถ้าอยากไฮโซก็หามะนาวมาหั่นเป็นชิ้นพอคำ
หรือจะหั่นเป็นแว่นเพื่อประดับก็ได้

วิธีทำ
แบ่งแป้งทอดกรอบแห้งๆ มาหน่อยนึง
อีกส่วนก็เอาไปละลายน้ำเย็น (ย้ำว่าน้ำเย็น)
พอให้ไม่ข้นมาก (แต่อย่าใสเกินไป ไม่อร่อย)
ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืช (โปรดอย่าใช้น้ำมันเบนซิน)
ใช้ไฟปานกลาง พอน้ำมันร้อน
ก็ทอดใบมะกรูดก่อน ทอดพอกรอบก็ยกลง พักไว้

หลังจากนั้นเอาไก่ที่เตรียมไว้มาคลุกแป้งแห้งก่อน
แล้วคลุกแป้งที่ผสมน้ำ เอาลงทอด
พอสุกเหลืองกรอบ เอามาสะเด็ดน้ำมัน พักไว้

คราวนี้ถ้าอยากทอดพริกก็ทอดซะ

เอาจานมาใบนึง รองใต้จานด้วยกะหล่ำปลีซอย
(ถ้ากินที่ร้านจะเป็นใบอะไรสักอย่างทอด นึกไม่ออก)
ถ้าทอดไก่เป็นชิ้นใหญ่ ก็หั่นเป็นชิ้นพอคำตอนนี้แหล่ะ
เอาไก่มาวางเรียง วางเคียงด้วยใบมะกรูดทอด พริกทอด
โรยหน้าไก่ด้วยครีมสลัดมะนาว
อาจประดับด้วยมะนาวหั่นชิ้น หั่นแว่นเพื่อให้ดูหรู
รับประทานเป็นคำๆ ทานเล่นก็อร่อย แกล้มเหล้าก็ไม่เลว

กินมากๆ ระวังอ้วนนะครับ

:)




 

Create Date : 21 มีนาคม 2548    
Last Update : 30 พฤศจิกายน 2548 10:00:38 น.
Counter : 1296 Pageviews.  

1  2  

TonMai2K
Location :
ปราจีนบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add TonMai2K's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.