อำนาจปาฏิหารย์ อาจอาศัยการรับรู้และกระทำในมิติที่สูงกว่า

ครั้งนี้อยากจะขอเล่าให้ฟังถึงไอเดียเจ๋งๆอันหนึ่งเรื่องไสยศาสตร์ ปาฏิหารย์ แต่ขอบอกว่าอ่านมาจากหนังสือวิทยาศาสตร์นะ !?
หนังสือที่ว่าคือ Hyperspace แต่งโดย Michio Kaku มีรูปปกให้ดูข้างล่าง



เนื้อหาจริงๆแล้วเป็นเรื่องทาง Physics ด้าน Cosmology คือศึกษาอธิบายลักษณะของจักรวาล และกำเนิดของจักรวาลว่ามาจากไหน (คนละเรื่องกับดาราศาสตร์ Astronomy นะ) เช่น
สสารกำเนิดมาจากไหน ทำไมต้องมี Electron, Proton, Quark ทำไมสสารต้องมีมวล ต้องมีประจุ
จักรวาลคู่ขนาน การเดินทางข้ามเวลา มิติที่ 10 ฯลฯ ยกตัวอย่างแค่นี้ละกันเด๋วจะไม่จบ เหอๆ ไว้จะเขียน Blog เกี่ยวกับพวกนี้วันหลัง ...

แต่มีอยู่ 1-2 หน้า ที่พาดพิงเกี่ยวกับอำนาจปาฏิหารย์และไสยศาสตร์ นาย Michio Kaku นี่ได้พูดในเชิงคณิตศาสตร์ได้อย่างน่าชมทีเดียว ครึๆๆ

ก่อนอื่นขออธิบายคำว่า "มิติ" ก่อน เพื่อให้เข้าใจตรงกัน
จุด ถือว่าไม่มีมิติ คือเป็น "จุด" ในอุดมคติเลยนะ ไม่มีความหนาอะไรทั้งสิ้น จุดใหญ่ จุดเล็ก ไม่มี ไม่ใช่ไฝหรือขี้แมลงวันอะไรนั่นเม็ดเล็กเม็ดโต โอ เราพูดถึง "จุด" ... ไม่มีมิติ
เส้นตรงที่เชื่อมจุดสองจุด ถือว่ามี 1 มิติ คือความยาว (ที่เวลาเอาไม้บรรทัดไปวัดน่ะ)
รูปเรขาคณิตที่วาดบนกระดาษ เช่น วาดสามเหลี่ยมบนกระดาษ ถือว่ามี 2 มิติ คือกว้างและยาว
รูปสี่เหลื่ยมลูกบาศก์ มี 3 มิติ คือกว้าง ยาว ลึก (บางทีก็เรียก กว้าง ยาว สูง)
3 มิตินี่ก็รวมถึงวัตถุของใช้ทุกอย่างที่เราเห็นๆกันทุกวันน่ะนะ 3 มิติหมดแหละ

ทีนี้เริ่มครับเริ่ม ...
จินตนาการว่ามีสิ่งมีชีวิตประหลาด ร่างกายมันมีแค่สองมิติ มันอาศัยอยู่บนผิวโต๊ะทำงานซึ่งมีสองมิติ (ผิวโต๊ะนะ ก็มีแต่กว้างกับยาวถูกไหม แค่ผิวบนน่ะ ผิว)
สิ่งมีชีวิตที่ว่านี่เป็นยังไงหว่า ? ก็นึกเสียว่ามันคือตัวการ์ตูนที่เราใช้ดินสอวาดบนกระดาษบางๆน่ะ ตัวการ์ตูนนี่ก็ต้องมีแค่สองมิติ เพราะมันอยู่บนกระดาษจริงไหม ถ้ามันนูนออกมาจากกระดาษได้ถึงจะเรียกสามมิติ
สมมติไอ้ตัวพวกนี้เกิดมาก็อยู่แต่บนโต๊ะไม่เคยไปไหน ไม่เคยเดินไปจนสุดขอบโต๊ะ ไม่เคยตกโต๊ะ ไม่เคยใช้สว่านเจาะผิวโต๊ะดูว่าจะมุดลงไปในโต๊ะได้ไหม
ดังนั้นมันจึงเชื่อว่าจักรวาลมีสองมิติเท่านั้น กรำ ริงๆ (ถ้ามันเคยเดินไปถึงขอบโต๊ะแล้วร่วงลงไปที่พื้นนะ มันจะเข้าใจว่าจักรวาลไม่ได้มีแค่กว้างกะยาว แต่มีความสูงเป็นมิติที่ 3 ด้วยครับทั่น)

ทีนี้สมมติต่ออีกว่ามีสองตัวเกิดต่อยตีกันชื่อ Mickie กับ Sunny ปรากฏนาย Sunny ระลึกได้ว่าสู้ไม่ได้เป็นแน่เท้ เลยวิ่งหนีมันซะเลย
ก็วิ่งไล่กันไปมาอยู่บนโต๊ะนั่นล่ะ โฮ่ๆ นาย Mickie นี่อึดมาก ตามได้ตลอด
"ทำไงดี พระเจ้าช่วยลูกด้วย" Sunny ภาวนาในใจ
ถ้าเผอิญมีมนุษย์เราคนหนึ่งไปเห็นเหตุการณ์นี้พอดี ก็คิดจะช่วย
อย่าลืมมนุษย์เรานี่มี 3 มิตินะ ร่างกาย 3 มิติ แล้วก็อาศัยอยู่ในโลกที่มีมิติ 3 มิติ (อันนี้ผู้รู้เรื่อง Cosmology อาจเถียงว่าจักรวาล 11 มิติเฟร้ย แต่ขออธิบายให้คนทั่วไปเข้าใจว่า 3 มิติก่อน : กว้าง ยาว ลึก)

อ่ามนุษย์นายนี้ทำไงล่ะ ก็เอามือไปหยิบนาย Sunny ขึ้นมาจากผิวโต๊ะซะ โอ้ !!! ทำให้นาย Mickie ตกใจมากที่อยู่ๆ Sunny ก็หายไปต่อหน้าต่อตา แต่สิ่งที่เกิดคือ Sunny ได้ถูกเคลื่อนย้ายจากผิวโต๊ะ ลอยขึ้นมาในอากาศ นี่คือการเดินทางในมิติที่ 3 คือความสูง เรื่องนี้เป็นเรื่องมหัศจรรย์มากสำหรับสิ่งมีชีวิต 2 มิติ เพราะเขาไม่เคยรับรู้ถึงมิติที่นอกเหนือจากกว้างและยาว
นาย Mickie นั่นเดินหา Sunny เท่าไรก็ไม่เจอหรอกครับ เพราะเค้ารู้จักแต่โลก 2 มิติ ไม่รู้จัก "ระนาบ" (Plane) นอกเหนือจากผิวโต๊ะตัวนั้น
สิ่งที่นายมนุษย์ใจบุญทำ ถือว่าคือการสำแดงปาฏิหารย์ในสายตาของ Mickie และ Sunny ทีเดียว มันคือการกระทำในมิติที่สาม ซึ่งเป็นมิติที่สูงกว่าโลกสองมิติที่ทั้งสองตัวนี่รับรู้ได้
มีรูปประกอบให้ดูข้างล่าง จะเข้าใจมากขึ้น



...
...
...

อนึ่งวงการวิจัยด้าน Physics นั้น เชื่อกันมานานแล้วว่า จักรวาล ไม่ได้มีแค่ 3 มิติของ Space และ 1 มิติของ Time เค้าเชื่อว่า Space นั้นมีถึง 11 มิติทีเดียว (หรือ 10 จำไม่ได้ ถ้ารวม Brane Theory น่าจะ 11 มั้ง) แต่มิติที่ปรากฏให้สัมผัสได้มีเพียง 3 มิติอย่างที่เรารู้ทุกวันนี้ กว้าง ยาว ลึก (สูง) ส่วนที่เหลือนั่นมีขนาดเล็กมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ในการแก้สมการคณิตศาสตร์ใน Cosmology นี่พบว่าต้องมี 10 มิติจึงจะอธิบายปรากฏการณ์ต่างๆในจักรวาลได้อย่างมีเหตุผล
การที่คุณไม่เคยเห็นมิติอื่นๆไม่ได้แปลว่ามันไม่มีนะ เพียงแต่อุปกรณ์ในปัจจุบันยังไม่พัฒนาถึงขั้นที่ตรวจพบมันได้ แต่มีคนเสนอแนวทางไว้แล้ว อืม ไว้เขียน Blog ให้อ่านวันหลัง


Michio Kaku ได้ชี้ให้เห็นว่านี่อาจเป็นแนวทางอธิบายสิ่งเหนือธรรมชาติที่เราไม่สามารถอธิบายได้
ความสามารถในการรับรู้และกระทำในมิติที่สูงกว่าปกติอาจเป็นสิ่งที่เราเรียกว่า "ปาฏิหารย์"
รวมถึงเวทย์มนตร์ คาถา ไสยศาสตร์

ถ้าตามตัวอย่าง นาย Sunny มีความสามารถที่จะเคลื่อนที่ในแนวดิ่งลอยขึ้นมาจากบนโต๊ะ เขาย่อมหลบหนีจากนาย Mickie ได้แน่นอน Mickie ต้องเชื่อว่า Sunny มีคาถาอาคมอันตรธานหายตัวไปดื้อๆได้


ลึกๆแล้วผมเชื่อว่าแท้จริงไม่มีเส้นแบ่งไสยศาสตร์และวิทยาศาสตร์ แต่สิ่งที่วิทยาศาสตร์ยังหาแนวคิดมาอธิบายไม่ได้เราก็เรียกว่าไสยศาสตร์ ? แต่ไสยศาสตร์อาจไม่ใช่สิ่งเหลวไหลเป็นไปไม่ได้ เพียงแต่ในวันนี้เรายังอธิบายมันไม่ได้ แต่สักวันเส้นแบ่ง 2 ศาสตร์นี้ต้องหายไป ณ เวลานั้นคือเวลาที่เราบรรลุความเข้าใจในทุกสรรพสิ่งของจักรวาล
ทั้งอดีต ปัจจุบัน อนาคต

และผู้ที่บรรลุขั้นนั้นได้ อาจมีภาวะเทียบเท่าการตรัสรู้เลยทีเดียว




Create Date : 04 มกราคม 2550
Last Update : 4 มกราคม 2550 11:20:10 น. 1 comments
Counter : 750 Pageviews.  

 
8


โดย: แดง บางทราย IP: 125.25.51.56 วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:20:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ตงฉินครองเมือง
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add ตงฉินครองเมือง's blog to your web]