แอลกอฮอล์ในเครื่องสำอาง มิตรแท้หรือตัวการทำลายผิว

แอลกอฮอล์ที่นำมาใช้ใน
เครื่องสำอางไม่ได้อยู่ในรูปของเหลวที่ใช้ฆ่าเชื้อตามตู้ยาอย่างที่เราคุ้น
เคย แต่แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ กลุ่มตัวทำละลาย
เรียกว่า Fatty Alcohol ได้แก่ Cetyl Alcohol, Stearyl Alcohol, Lanolin
Alcohol แอลกอฮอล์ชนิดนี้มีลักษณะเหมือนกับเม็ดโฟม เนื้อคล้ายแว็กซ์
ใช้เพื่อทำละลายสารที่ไม่ละลายน้ำ
แอลกอฮอล์ชนิดนี้ไม่ทำให้เกิดอาการระคายเคือง
มีคุณสมบัติช่วยให้เครื่องสำอางติดผิวดี ทำความสะอาดผิว
ชะล้างสิ่งสกปรกและไขมัน มักพบในเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของน้ำมัน เช่น
ครีมหรือโลชั่น ประเภท Water in oil หรือ Oil in water


   ส่วนแอลกอฮอล์อีกประเภทหนึ่ง เรียกว่า กลุ่มฆ่าเชื้อ
ได้แก่ Ethyl Alcohol, Isopropyl Alcohol, SD Alcohol, Alcohol Denat,
Benzyl Alcohol ใช้เป็นส่วนผสมของยาทาผิว มีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย
เป็นสารกันบูด นิยมผสมในเครื่องสำอางประเภทน้ำหรือของเหลว เช่น โทนเนอร์
อีมัลชั่นบำรุงผม น้ำหอม สเปรย์
แอลกอฮอล์กลุ่มนี้ทำหน้าที่ส่งสารบำรุงเข้าสู่ผิวชั้นหนังแท้ส่วนบน
แต่มักทำให้ผิวระคายเคืองและแห้ง
เพราะขณะที่แอลกอฮล์ระเหยจะนำน้ำออกจากผิวด้วย


เลือกแอลกอฮอล์ให้เหมาะกับผิว



  • ผิวแพ้ง่าย
    คนที่มีผิวระคายเคืองง่ายหรือกลุ่มผิวแพ้ง่ายต้องหลีกเลี่ยงเครื่องสำอางที่
    ผสมแอลกอฮอล์กลุ่มฆ่าเชื้อ อาการเบื้องต้นของการแพ้คือจะรู้สึกคัน
    มีผดผื่นแดง หรือตุ่มน้ำ ตามความรุนแรง
    แนะนำให้หยุดใช้เครื่องสำอางนั้นทันที

  • สำหรับผิวแห้ง
    แนะนำให้ใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์กลุ่มตัวทำละลาย
    เพราะเป็นเครื่องสำอางที่ช่วยลดการสูญเสียน้ำของผิวได้

  • กลุ่มผิวมัน กลุ่มนี้โชคดีกว่ากลุ่มอื่น
    เพราะโอกาสที่จะแพ้แอลกอฮอล์มีน้อย
    และแอลกอฮอล์ในเครื่องสำอางจะช่วยให้ความมันบนใบหน้าลดลง
    ขณะที่ใช้เครื่องสำอางนั้น

  • กลุ่มที่เป็นสิว ต้องระวังเครื่องสำอางที่มี
    แอลกอฮอล์กลุ่มฆ่าเชื้อ เพราะจะกระตุ้นให้สิวอักเสบได้มากขึ้น รวมทั้ง
    Lanolin Alcohol
    ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มตัวทำละลายเพราะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดสิว


3 ความเข้าใจผิด
เรื่องแอลกอฮอล์ในเครื่องสำอาง


Q: การใช้เครื่องสำอางที่มีแอลกอฮอล์ เช่น
โทนเนอร์เป็นประจำ จะทำให้รูขุมขนกว้างขึ้นหรือไม่


A: จริงๆ แล้ว รูขุมขนเกิดจากฮอร์โมนและพันธุกรรมมากกว่า
แอลกอฮอล์ไม่ได้ทำให้รูขุมขนกว้าง


Q:
เมื่อแอลกอฮอล์ในเครื่องสำอางระเหยจะพาน้ำออกจากผิวด้วย
ยิ่งเร่งให้ผิวเหี่ยวเร็วกว่าเดิม


A: ริ้วรอยที่เกิดจากแอลกอฮอล์นั้นเกิดขึ้นเพียงชั่วคราวเพราะผิวแห้ง
แตกต่างจากรอยเหี่ยวย่นที่มาจากอาการสูญเสียคอลลาเจน
ซึ่งบรรเทาได้โดยการบำรุงผิวด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์


Q: ทำไมในเครื่องสำอางประเภทแอลกอฮอล์ฟรี
คือเครื่องสำอางที่ไม่ส่วนผสมของแอลกฮอล์อยู่เลยใช่หรือไม่


A: นายแพทย์ประยูร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลผิวหนังอโศก ให้ความเห็นว่า
เป็นไปได้ยากที่เครื่องสำอางจะไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เลย
เพราะแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสมหลัก ทำหน้าที่เป็นตัวทำละลาย
อีกทั้งยังเป็นตัวนำสารเข้าสู่ผิว ในเครื่องสำอางที่โฆษณาว่า Alcohol Free
มักจะหมายถึง
การไม่ใช้พวกเอทิลแอลกอฮอล์แต่เลี่ยงมาใช้แอลกอฮอล์ชนิดอื่นซึ่งมีคุณภาพดี
ไม่ค่อยก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น กลุ่ม Fatty หรือ SD Alcohol มากกว่า


   แม้แอลกอฮอล์จะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวระคายเคือง
แต่หากเลือกใช้ให้เหมาะกับผิว
และลดพฤติกรรมชอบลองของใหม่ก็จะช่วยลดความเสี่ยงของการแพ้เครื่องสำอางได้






Free TextEditor







































































































 

Create Date : 05 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 5 พฤษภาคม 2553 21:41:49 น.
Counter : 309 Pageviews.  

สวยด่วนจี๋ รับปาร์ตี้ แค่ 2 วัน



เวลาหนึ่งวันเทียบเป็นนาทีได้ถึง 1,440 นาที
ซึ่งเพียงพอสำหรับการเนรมิตผิวและรูปร่างได้สบาย หากปฏิบัติตามโปรแกรม
ต่อไปนี้


6.00 น.-7.00 น.


   เป็นช่วงเวลาที่ผิวหน้าจะฟ้องสารพันปัญหา ทั้งถุงใต้ตาบวม ตาคล้ำ
ปากแห้ง เนื่องจากอดนอน เครียด และดื่มน้ำน้อย
เราจึงเตรียมวิธีแก้ปัญหาผิวหน้ามาฝากกัน



  • ตาบวม ให้คุณนำสำลีชุบชาคาร์โมมายแช่เย็น
    ปิดตาไว้ประมาณ 10 นาที
    คาร์โมมายมีสรรพคุณช่วยให้เส้นเลือดซึ่งบวมคั่งอยู่บริเวณใต้ตาหดตัวลงและมี
    กลิ่นที่ช่วยผ่อนคลายความเครียดได้ด้วย

  • รอยคล้ำใต้ตา มักเกิดจากการอดนอน
    ทำให้เส้นเลือดฝอยใต้ตาแตกจนมีเลือดมาคั่งบริเวณถุงใต้ตา
    แก้ปัญหาโดยใช้สำลีชุบน้ำเกลืออุ่นๆ ปิดตาไว้ประมาณ 10 นาที
    ความร้อนและน้ำเกลือจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดบริเวณนั้น
    ทำให้รอยคล้ำจางลงได้

  • ริมฝีปากลอกเป็นขุย
    นำน้ำเกลืออุ่นๆมาทาริมฝีปากให้ชุ่มเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด
    แล้วทาทับด้วยปิโตรเลียมออยด์เพิ่มความชุ่มชื้นให้ริมฝีปาก


   หลังจากดูแลผิวหน้าแล้ว ลำดับต่อไปคือ
ปฏิบัติการดูแลผิวกายให้กระจ่างสดใส
ด้วยโปรแกรมขัดผิวสยบผิวหมองคล้ำซึ่งเหมาะกับทุกสภาพผิว



  1. นำน้ำตาลทรายผสมโยเกิร์ตรสธรรมชาติในปริมาณเท่ากันขัดตัว ทิ้งไว้ประมาณ
    10 นาที

  2. ขั้นตอนต่อมา คือ การทำความสะอาดผิวและกระตุ้นผิวให้เปล่งปลั่ง
    โดยการอาบน้ำอุ่นสลับกับน้ำเย็น กระตุ้นให้เลือดไหลเวียนได้ดี
    วิธีนี้ต้องอาบน้ำอุ่นก่อนและต้องใช้มือนวดวนผิวจากปลายเท้าขึ้นมาหาหัวใจ
    หลังจากนั้นอาบน้ำเย็นให้นวดวนผิวอีกครั้งแล้วทามอยส์เจอร์ไรเซอร์เพิ่มความ
    ชุ่มชื้น


9.00 น.-17.00 น.


   ในช่วงเวลาทำงานซึ่งไม่สามารถขัด นวด และพอกได้นั้น
เราจะนำเทคนิกการเลือกกินอาหารที่ช่วยป้องกันผิวเสีย
และหลีกเลี่ยงอาหารที่จะทำให้คุณมีหน้าท้อง ดังต่อไปนี้



  • กินอาหารที่ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันผิวไม่ให้ถูกทำลายด้วยมลภาวะที่
    ต้องพบในงานปาร์ตี้ได้แก่ ผลไม้ที่มีวิตามินซีและอีสูง เช่น ฝรั่ง
    ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เพื่อเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระให้แก่ร่างกาย

  • ผักตระกูลกะหล่ำซึ่งมีสารโคเอนไซม์คิวเทนสูงช่วยในการดีท็อกซ์ตับ
    ทำให้ตับทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมรับมือมลภาวะและสารพิษ

  • ถั่วเหลืองมีโปรตีนสูงช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
    เสริมความยืดหยุ่นให้ผิว

  • หลีกเลี่ยงการบริโภคเกลือและอาหารที่มีรสเค็มซึ่งเป็นสาเหตุให้
    เซลล์อุ้มน้ำ ทำให้บวมและกระหายน้ำมากยิ่งขึ้น


20.00 น.


   ถึงเวลาที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวก่อนนอน เพียงใช้น้ำผึ้ง 2
ช้อนโต๊ะ ผสมกับนม 1/4 กล่อง ชโลมใบหน้าและผิวทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที
ก่อนอาบน้ำ


20.30 น.


   นำแตงกวาและมะเขือเทศมาบดละเอียด ทาใต้ตา
เอนไซม์ในแตงกวาและไลโคพีนในมะเขือเทศจะเพิ่มความชุ่มชื้นและป้องกันรอยหมอง
คล้ำ ทิ้งไว้ 10 นาที แล้วเช็ดออกด้วยน้ำเย็น


21.00 น.


   นอนหลับให้เพียงพอ
เพิ่มโกร๊ธฮอร์โมนและให้เวลาผิวในการฟื้นฟูตัวเองให้แข็งแรง


   เมื่อทำตามโปรแกรมนี้จนครบ 2 วัน จะสังเกตเห็นว่า
คุณพร้อมที่จะไปงานปาร์ตี้แล้ว
ต่อไปจึงเป็นวิธีการป้องกันผิวเสียและน้ำหนักตัวเพิ่มหลังจากการจบงาน
ปาร์ตี้


เคล็ดลับกันโทรมหลังงานปาร์ตี้



  • ก่อนออกจากบ้านควรรองท้องด้วยผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูง เช่น แอ๊ปเปิ้ล
    ลูกแพร์ ซึ่งจะช่วยให้คุณอิ่มและลดความอยากอาหารลง
    จนไม่เผลอใจไปกับอาหารในงานปาร์ตี้มากเกินไป

  • แอลกฮอฮอล์มีฤทธิ์ทำให้น้ำไม่สามารถซึมเข้าสู่เซลล์ผิวได้
    จึงต้องกินอาหารที่ช่วยขจัดแอลกฮอล์ออกจากร่างกาย ได้แก่ เมล็ดถั่วแปบ
    และถั่วงอก ซึ่งสารโดลิโคสเตอโรที่ลดการดูดซึมแอลกอฮอล์ในกระเพาะอาหาร
    และกำจัดแอลกอฮอล์จากกระแสเลือด หรือกินผักโขมซึ่งมีธาตุเหล็ก วิตามินซี
    แมกนีเซียม โพแทสเซียม และน้ำ ที่ช่วยชะล้างแอลกอฮอล์

  • ดื่มน้ำ 8-10 แก้ว ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและน้ำในกระแสเลือด
    เมื่อนำโปรแกรมสวยเร่งด่วนไปใช้ร่วมกับการปรับอารมณ์ให้แจ่มใส ไม่เครียด
    จะยิ่งทำให้คุณสวยเร็วขึ้นได้เป็นทวีคูณ







Free TextEditor







































































































 

Create Date : 05 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 5 พฤษภาคม 2553 21:40:14 น.
Counter : 270 Pageviews.  

เคล็ดลับดูแลสิวเพื่อผิวสวย

สิวเกิดจากสาเหตุหลัก คือ
ฮอร์โมนที่ทำให้ต่อมไขมันทำงานมากขึ้น รองลงมาคือ ความเครียด เครื่องสำอาง
และอาหาร คนส่วนใหญ่คุ้นชื่อของสิวหลากประเภทก็จริง
แต่พอเจ้าเม็ดสิวผุดขึ้นบนใบหน้ากลับบอกประเภทของสิวไม่ได้
ทำให้ไม่รู้วิธีการดูแลสิวอย่างตรงจุด
เราจึงนำแบบทดสอบที่จะพาคุณไปหาคำตอบว่า สิวที่กำลังกวนใจคุณอยู่นั้น
เป็นสิวประเภทไหน แล้วมีวิธีใดที่จะช่วยให้คุณดูแลสิวได้อย่างถูกวิธี [ทำแบบสำรวจลักษณะสิวบนใบหน้าได้ในฉบับ]


   เมื่อทราบแล้วว่า สิวที่คุณเป็นอยู่จัดในประเภทไหน
ก็ถึงเวลาที่จะรักษาสิวด้วยวิธีง่ายๆ ดังนี้



  • สิวอักเสบ เป็นสิวที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียทำ
    ให้เกิดอักเสบรุนแรง สิวประเภทนี้จะมีอาการบวมแดงและเป็นหนอง
    การรักษาจึงต้องกินวิตามินเอร่วมกับทายากลุ่ม Clindamycin
    เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เมื่อเป็นสิวประเภทนี้ควรงดอาหารประเภทแป้ง น้ำตาล
    และผลิตภัณฑ์จากนม ซึ่งช่วยกระตุ้นการอักเสบมากยิ่งขึ้น  

  • สิวอุดตัน เป็นสิวที่พบมากประมาณ 70
    เปอร์เซ็นต์ของคนที่เป็นสิว ได้แก่ สิวหัวขาว สิวหัวดำ
    เกิดจากการอุดตันของต่อมไขมัน ฮอร์โมนช่วงใกล้ประจำเดือน ความเครียด
    แพ้เครื่องสำอาง วิธีการรักษาควรทายากลุ่ม Tretinoin (Retin-A)
    เพื่อลดการระคายเคือง ควรล้างหน้าก่อนทายา 10-15 นาที ส่วนยากินจะเป็นกลุ่ม
    Retinoids เช่น Roaccutane,Isotretionoin ช่วยลดปัญหาผิวมัน
    และละลายสิวอุดตันได้ดี ข้อควรจำอีกอย่างของคนที่เป็นสิวประเภทนี้ คือ
    ไม่ควรแกะสิว หรือล้างหน้าบ่อยเกิน 2
    ครั้งต่อวันเพราะจะยิ่งกระตุ้นให้สิวเกิดติดเชื้อ ลุกลามเป็นสิวอักเสบต่อไป

  • สิวผดหรือสิวเทียม เป็นสิวเม็ดเล็กๆ ไม่มีหัวสิว
    พบมากในบริเวณทีโซน เกิดจากความร้อน แสงแดด และเครื่องสำอาง
    ข้อควรปฏิบัติสำหรับคนที่เป็นสิวประเภทนี้คือ
    ไม่ควรรบกวนสิวด้วยการล้างหน้า ถู แกะ เกา เพราะสิวผดจะยุบในเวลา 5-6 ชม.
    แต่สำหรับคนที่มีสิวผดมากอาจใช้ยากลุ่ม Benzoyl Peroxide ความเข้มข้น 2.5%
    ทาทิ้งไว้ 5-20 นาทีแล้วล้างออกหรือทายากลุ่ม Tretinoin (Retin-A)
    จะช่วยลดการเกิดสิวผดได้

  • สิวเสี้ยน
    การรักษาสิวเสี้ยนอาจใช้แผ่นลอกสิวที่มีสารยึดติดผิวชั้นหนังกำพร้า
    (Adhesive Substance) และส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid)
    ทำให้สิ่งอุดตันและหนังกำพร้าบริเวณนั้นลอกหลุดได้ง่ายขึ้น
    หลังจากลอกสิวเสี้ยนคุณอาจสังเกตเห็นรูขุมขนกว้าง
    แต่อาการนี้จะเกิดเพียงชั่วคราวและรูขุมขนบนผิวหน้าจะกลับสู่สภาพเดิมในที่
    สุด 


   เนื่องจากผิวหน้าของเรามีต่อมไขมันอยู่มาก เมื่อมีแผลเป็นจากสิว
ผิวหน้าจะเยียวยาตัวเองจนรอยสิวจางลง หากแต่ต้องใช้เวลานาน
การทาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินเอ วิตามินซี
ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้รอยสิวลบเลือนเร็วขึ้น


   วิธีการดูแลสิวนี้เหมาะกับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ
หากทำแล้วอาการไม่ดีขึ้นควรปรึกษาแพทย์






Free TextEditor







































































































 

Create Date : 05 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 5 พฤษภาคม 2553 21:38:34 น.
Counter : 248 Pageviews.  

เลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวของเธอ


เลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวของเธอ
   
ไม่ว่าคุณจะมีสภาพผิวแบบใด ล้วนมีโอกาสมีลักษณะของผิวแพ้ง่ายได้ทั้งหมด
ดังนั้นก่อนเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลผิวให้ตั้งเกณฑ์ในใจก่อนว่า
คุณมีลักษณะผิวแพ้ง่ายหรือไม่ โดยสังเกตจากผิวของคุณมีผื่นแดง
มีขุยตามหัวคิ้ว ร่องแก้ม ร่องข้างจมูก หรือไม่ หากเข้าเกณฑ์ดังกล่าว
ควรเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงตามสภาพผิว
ที่พ่วงคุณสมบัติปกป้องการแพ้หรือการระคายเคืองเข้าไปด้วยค่ะ



  • ผู้หญิงผิวแห้ง
    ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีความเข้มข้นประเภทเนื้อครีม
    เพราะจะช่วยลดการสูญเสียน้ำและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวได้นานกว่า
    ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
    และใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยดูแลเรื่องริ้วรอยเสริมด้วย

  • ผู้หญิงผิวธรรมดา
    ควรเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวโดยคำนึงถึงสภาพอากาศ เช่น
    ในช่วงอากาศปกติควรเลือกผลิตภัณฑ์ประเภทเนื้อโลชั่น เพราะไม่เหนียวเหนอะหนะ
    และไม่ก่อให้เกิดปัญหาผิวอุดตัน  แต่หากต้องเผชิญกับอากาศที่หนาวเย็น
    หรืออยู่ในห้องปรับอากาศ ควรเลือกใช้ประเภทเนื้อครีม

  • ผู้หญิงผิวผสม
    นอกจากจะเลือกผลิตภัณฑ์ที่เฉพาะกลุ่มสำหรับผิวผสม ได้แก่
    ผลิตภัณฑ์ประเภทเนื้อโลชั่นและเนื้อเจล
    อาจเน้นใช้ผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื่นและดูแลริ้วรอยให้แก่ผิวบริเวณนอกที
    โซนด้วย

  • ผู้หญิงผิวมัน
    ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทเนื้อเจลเพราะมีส่วนผสมของน้ำ ไม่มีไขมัน
    และมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ที่ช่วยขจัดความมันได้ดี 
    ที่สำคัญควรเลือกใช้ครีมกันแดดประเภทฟิสิคอล (Physical) ที่มีสาร Titanium
    Dioxide และ Zinc Oxide ซึ่งเมื่อทาผิวมักมีคราบสีขาวติดอยู่ที่ผิว
    สารกลุ่มนี้จะช่วยสะท้อนแสงออกไป มีคุณสมบัติคงตัว ไม่เปลี่ยนแปลง
    ไม่มีปฏิกิริยากับผิวที่แพ้ง่ายหรือเป็นสิว


เลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวของเขา
   
แม้ผู้ชายส่วนใหญ่จะมีผิวมัน
การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสำหรับผิวมันของผู้หญิงอาจไม่ใช่เรื่องเสียหาย
แต่เนื่องจากผู้ชายจะมีความมันของผิวมากกว่า
ทำให้ผู้ชายมีปัญหาเรื่องสิวและรูขุมขนกว้างมากกว่า
ดังนั้นจึงควรเลือกผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ชายโดยตรง
เพราะจะเน้นส่วนผสมที่ป้องกันการเกิดสิวและแก้ปัญหาเรื่องรูขุมขนแบบตรงจุด
ทั้งนี้หากจะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์สำหรับผิวผู้ชายอย่าลืมที่จะพิจารณาถึงหลัก
พื้นฐานว่า มีลักษณะผิวแพ้ง่ายหรือไม่ แล้วจึงคำนึงถึงสองปัญหาข้างต้น



  • ผู้ชายเป็นสิวมาก
    ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่สารป้องกันการเกิดสิว มีลักษณะเนื้อบาง
    เหลว หรือเป็นน้ำ เช่น โลชั่น เจล
    และหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เมื่อเป็นสิวแล้ว
    เพราะจะยิ่งทำให้สิวอักเสบยิ่งขึ้น

  • ผู้ชายรูขุมขนกว้าง
    ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ นอกจากจะช่วยลดความมันของผิว
    ยังช่วยให้รูขุมขนดูกระชับหลังจากใช้ผลิตภัณฑ์


ที่สำคัญ ก่อนเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวทุกครั้ง อย่าลืมว่า
ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ดีที่สุด คือ
ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณมากที่สุดนั่นเอง







Free TextEditor






















































































 

Create Date : 05 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 5 พฤษภาคม 2553 21:36:30 น.
Counter : 302 Pageviews.  

ก้าวย่างสู่สุขภาพดี


ก้าวย่างสู่สุขภาพดี
    ตามหลักชีวกลศาสตร์
(Biomechanics) “เท้า”
เป็นอวัยวะสำคัญที่ช่วยรองรับน้ำหนักและแรงกระแทกจากการเคลื่อนไหวของร่าง
กาย ไม่ว่า ยืน เดิน วิ่ง กระโดด  
    มองจากภายนอก
เท้าของเราประกอบด้วย 3 ส่วน คือ เท้าส่วนหน้า หมายถึง นิ้วเท้า
และฝ่าเท้าส่วนหน้า เท้าส่วนกลาง
ประกอบด้วยโครงของฝ่าเท้าซึ่งเป็นส่วนเว้าเรียกว่า อุ้งเท้า
และเท้าส่วนหลัง หมายถึงบริเวณส้นเท้า
หากสแกนดูจะพบว่าเท้าข้างหนึ่งประกอบด้วยกระดูก 26 ชิ้น ข้อต่อ 33 ข้อ
เชื่อมต่อกับโครงสร้างของร่างกายด้วยกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นจำนวนนับไม่ถ้วน
   

โครงสร้างของเท้าที่กล่าวมานั้นมีความสัมพันธ์กับลักษณะรองเท้าที่คุณเลือก
ใส่ในชีวิตประจำวัน
เท้าจะปรับตัวให้เหมาะกับรูปแบบของรองเท้าเพื่อช่วยในการทรงตัวของร่างกาย
ให้ดีที่สุด ดังนั้นหากคุณใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะกับเท้าอยู่บ่อยๆ
ก็ย่อมมีผลให้โครงสร้างเท้าเปลี่ยนไป เช่น
ในกรณีที่คุณต้องใส่รองเท้าส้นสูงทุกวัน
พื้นรองเท้าที่เทลงจะทำให้เท้าส่วนหน้าของคุณต้องรองรับน้ำหนักมากกว่าปกติ
เป็นสาเหตุของอาการปวดเท้าไปจนถึงเข่าและหลังได้ หรือการใส่รองเท้าหน้าแคบ
บีบนิ้วเท้าบ่อยๆก็จะทำให้ปวดนิ้วเท้า และทำให้เกิดภาวะผิดปกติของเท้าได้


ปัญหาจากรองเท้าคู่ใจ
   

ลักษณะของรองเท้าคู่ใจที่คุณเลือกใส่ในชีวิตประจำวันอาจเป็นสาเหตุของภาวะ
ผิดปกติของเท้าได้ ลองสังเกตอาการเบื้องต้นเหล่านี้ดูนะคะ



  • อาการปวดน่องหรือเป็นตะคริว
    อาจมีสาเหตุจากการเดินบ่อยๆ หรืออยู่ในท่าเขย่ง
    จากการสวมรองเท้าส้นสูงเป็นเวลานาน ทำให้กล้ามเนื้อน่อง เอ็นร้อยหวาย(
    Achilles tendon ) ตึงตัว

  • อาการปวดตึงหลังส่วนล่าง
    เป็นผลจากการใส่รองเท้าส้นสูง ที่ทำให้น้ำหนักของร่างกายเทไปข้างหน้า
    ร่างกายจึงต้องปรับให้ลำตัวแอ่นไปด้านหลัง
    เพื่อให้ร่างกายตั้งตรงและทรงตัวได้

  • ภาวะเท้าโก่งหรือหลังเท้านูน มีผลการสำรวจพบว่า
    การใส่รองเท้าส้นสูง ซึ่งเท้าต้องเขย่งเป็นเวลานาน
    ส่งผลให้เท้าโก่งจากการดึงรั้งของพังฝืดใต้ฝ่าเท้า(Plantar Fascia)

  • ภาวะเท้าแบน ตามทฤษฎีธรรมชาติกับความเจริญในเมือง
    (Nature VS Civilization Theory) ของนายแพทย์ฟิลลิป วาสิลี
    แพทย์เฉพาะทางด้านเท้า ชาวออสเตรเลีย ได้อธิบายไว้ว่า
    เป็นการเปลี่ยนแปลงของเท้าให้บิดเข้าด้านในและอุ้งเท้าแบนลง
    เมื่อต้องสัมผัสกับพื้นรองเท้าที่แข็งแบน
    ซึ่งส่งผลให้มีคนทั่วโลกกว่าร้อยละ 70 เกิดภาวะนี้
    โดยสังเกตจากอาการปวดเข่า เกิดปุ่มโปนข้างหัวแม่เท้า และปัญหารองช้ำ
    (Plantar fasciitis) หรืออาการปวดบริเวณอุ้งเท้าจนถึงส้นเท้า
    โดยเฉพาะก้าวแรกหลังจากตื่นนอนตอนเช้า หรือนั่งนาน ๆ แล้วลุกขึ้นยืน


เทคนิคดูแลเท้า



  • ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า รองเท้าที่ดีควรสูงไม่เกิน 1 นิ้ว
    และลักษณะส้นไม่ควรเป็นส้นเข็มหรือเล็กเกินไปเพราะนอกจากจะทำให้การทรงตัว
    เสียสมดุลแล้วยังทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายอีกด้วย

  • ควรเลือกรองเท้าที่ยาวกว่าเท้าประมาณ 1 เซนติเมตร
    และไม่บีบนิ้วเท้าเกินไป เพราะโดยปกติขณะเราเดิน
    เท้าจะเคลื่อนไปด้านหน้าประมาณ 7 มิลลิเมตร
    ดังนั้นคนที่ใส่รองเท้าพอดีเกินไปจึงเกิดปัญหากับเล็บและนิ้วเท้าเป็นเหตุ
    ให้เล็บเสีย นิ้วเท้างุ้มงอ และเบียดกันได้

  • เลือกรองเท้าที่มีพื้นสัมผัสนุ่ม
    หรือเสริมพื้นรองเท้าเพื่อช่วยลดแรงกระแทก
    เสริมแผ่นรองส้นหรือกันส้นเพื่อลดการเสียดสี
    ป้องกันผิวหนังด้านและเกิดตาปลา

  • ควรเลือกซื้อรองเท้าช่วงบ่ายซึ่งเป็นช่วงที่เท้าขยายเต็มที่และควรลอง
    สวมรองเท้าทั้งสองข้าง

  • รองเท้าที่ดีต้องกระชับ ไม่คับหรือหลวมเกินไป
    ส้นเท้าอาจเลื่อนขึ้นลงได้เล็กน้อยขณะเดินแต่ไม่ควรหลุดจากเท้า
    และเปลี่ยนความเชื่อที่ว่ารองเท้าคับจะยืดออกเมื่อใช้ไปสักพักเพราะกว่า
    รองเท้าจะยืดออกเท้าของคุณอาจบาดเจ็บก่อนได้

  • เมื่อมีอาการเจ็บหรือปวด ควรรีบหาสาเหตุ
    เพราะบางครั้งรองเท้าอาจหมดสภาพ หรือไม่เหมาะสมกับโครงสร้างเท้า
    และคุณอาจผ่อนคลายเท้าโดยการแช่น้ำอุ่น
    ร่วมกับการบริหารกล้ามเนื้อขาและเท้าอย่างง่าย โดยกระดกปลายเท้าขึ้นให้สุด
    จนรู้สึกตึงที่น่อง ค้างไว้ 10 วินาที  ทำซ้ำ10 ครั้ง
    จะช่วยลดอาการปวดเมื่อยเท้าได้







Free TextEditor







































































































 

Create Date : 05 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 5 พฤษภาคม 2553 21:35:00 น.
Counter : 295 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  

tongsehow
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add tongsehow's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.