♣ นี่คือเสนห์ของความแตกต่าง ♣











































เสน่ห์... ของความแตกต่าง

เรื่องของคน 2 คน
…..ที่แตกต่างกันเกือบทุกด้าน
ยกเว้น.....ความรู้สึกที่มีให้กัน

เขา
ชอบดำ.......เธอชอบขาว
เขาชอบเพลงใต้ดิน........เธอฟังเพลงสบายๆ
เขา
ตัวสูง........เธอไม่สูง

เขาเรียนไม่เก่ง........เธอท็อปเกือบทุก
วิชา
เขาเก่งกีฬา.........เธอไม่เคยวิ่งทันใครเค้า
เขาชอบเสียง
เครื่องยนตร์........เธอเกลียดความเร็ว

เขาชอบฝน......เธอกลัวเสียง
ฟ้าร้อง
เขาเป็นคนเงียบๆ
ไม่เรื่องมาก..........เธอร่าเริงและจำเป็นต้องมีคนอยู่รอบด้าน
เขาเก็บ
ความรู้สึกและระบายลงสมุดบันทึก........เธออ่อนไหว ขี้เหงา และช่างรู้สึก

เขา
น้ำตาซึมเพราะมองไม่เห็นค่าของตัวเอง........เธอร้องไห้ให้ความเดียวดายที่
เกาะกุมหัวใจ
เขาชอบเก็บตัวอยู่คนเดียวในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ.....เธอ
ชอบมิตรภาพที่ใครต่อใครมอบให้

แต่กระนั้น ……..
ผู้คนมากมายที่รายล้อมก็ไม่ได้ทำให้เธอหายว้าเหว่
ทุกครั้งที่เขา
เหงา…….. เธอจะนั่งอยู่ข้างๆโดยไม่เรียกร้องความสนใจ
ทุกครั้งที่เธอ
ร้องไห้ ……….เขาไม่มีคำปลอบโยนเพียงแค่กุมมือเธอไว้
ทุกครั้งที่เขามอง
เห็นเงาตัวเองในกระจก …..เขาจะเห็นเพียงผู้ชาย...
ที่ไร้ความสามารถและ
ไม่มีความสำคัญกับใคร
แต่เธอกลับมองเห็นผู้ชายคนนึง.....ที่สามารถปก
ป้องเธอได้
และมีค่ามากมายสำหรับเธอ

ทุกครั้งที่ฝนตก
…….เธอจะนั่งหลบอยู่ในมุมหนึ่งของห้อง
ฝนพัดพาความเหงามาให้
เสียงฟ้าร้องเรียกความกลัวมาใกล้
แต่ทุกครั้งที่ฝนตก
เขาจะโทรศัพท์หาเธอ และจะอยู่ตรงนั้น
จนกระทั่งฝนหยุดตก......แม้จะไม่
ได้พูดอะไรกันเลยสักคำ

เขาและเธอ.....อยู่ด้วยกันในความเงียบ
.....แต่ไม่เคยรู้สึกอึดอัด
เขาและเธอ.....อยู่ด้วยกันในความเงียบ
.....แต่เหมือนกับได้พูดคุยกันตลอดเวลา
เขาและเธอ.....เหงาด้วยกัน
.....แต่กลับรู้สึกอุ่นในใจ
เขาและเธอ.....เหงาด้วยกัน.....แต่กลับ
รู้สึกว่าตัวเองมีค่าขึ้น

นี่คือเสน่ห์....ของความแตกต่าง







Free TextEditor







































































































 

Create Date : 19 เมษายน 2553    
Last Update : 19 เมษายน 2553 14:36:38 น.
Counter : 323 Pageviews.  

six for success

































  
-เมื่อวานนี้เราก็ได้รู้จัก 9 วิธีทำให้สมอง ไบร์ กันไปแล้ว
วันนี้เรามารู้จัก 6 สิ่งที่เป็นตัวช่วยให้เราประสบความสำเร็จมากขึ้นด้วย

  
-EQ (Emotional Quotient) หรือความฉลาดด้านอารมณ์ ได้ถูกหยิบขึ้น
มากล่าวถึงเป็นตัวแรกๆ หลังจากปล่อยให้ IQ นำโด่งโกยคะแนนความสำคัญมานาน EQ
หมายถึงความสามารถในการตระหนักรู้อารมณ์ของตนเองและผู้อื่น
มีความเห็นใจและเข้าอกเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น
ตลอดจนสามารถสร้างมิตรกับผู้อื่นได้เป็นอย่างดี การมีแต่ IQ แต่ไม่มี EQ
นั้นอาจทำให้การทำงานร่วมกับผู้อื่นเกิดปัญหาได้ง่าย
เพราะขาดความสามารถในการบริหารจัดการอารมณ์

     -ตัวต่อมาก็คือ AQ
(Adversity Quotient
) หรือความอึด
ความอึดตัวนี้ช่วยเพิ่มพูนความสามารถของตัวเราได้อีกหลายทาง
เด็กที่เก่งอยู่แล้ว ถ้ามีความอึดเวลาเจอโจทย์ยากๆ
เขาก็อาจประสบความสำเร็จด้านการเรียนได้ดีกว่าคนที่เก่งกว่า แต่ไม่อึดเท่า
ดังนั้น AQ จะมีความสำคัญมากเวลาที่เราเผชิญปัญหา
โดยจะช่วยไม่ให้เราถอดใจง่ายๆ แต่สามารถอดทน จนข้ามผ่านสภาวะนั้นๆ
ไปได้ในที่สุด

    -นอกจาก EQ และ AQ แล้ว เราก็ยังมี MQ
(Morality Quotient)
หรือเชาวน์ด้านจริยธรรม MQ สำคัญตรงที่ว่า
จะเป็นแนวทางที่ช่วยในการดำเนินชีวิต ช่วยให้สังคมอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข
ทำให้คนรู้จักให้อภัยกันเมื่อเผลอทำผิด
และยังช่วยลดความหวาดระแวงที่คนจะพึงมีต่อกันให้ลดน้อยลงได้ด้วย
เปรียบเทียบได้กับ ถ้าทุกคนมีจริยธรรม โลกก็จะสงบสุข
และยังช่วยลดภาระให้กับสังคมได้ด้วย เพราะไม่จำเป็นต้องมีตำรวจ ศาล
หรือคุกไว้ขังคนไม่ดีอีกต่อไป













    -ถัดจากนั้นก็มาถึง HQ (Health Quotient)
ตัวนี้เกี่ยวกับสุขภาพของเด็กเอง เป็นความเข้มแข็งด้านสุขภาพกาย
ซึ่งจะทำให้เกิดความเข้มแข็งในด้านอื่นๆ ตามมาอีกมากมาย
ซึ่งแนวทางที่จะช่วยพัฒนา HQ ได้ดีก็คือ 6 อ. ประกอบด้วย อารมณ์ อาหาร
อากาศ ออกกำลังกาย อนามัย และงานอดิเรก

  
-เชาวน์ด้านสุดท้ายที่มนุษย์สามารถค้นพบได้ในช่วงเวลานี้ก็คือ  SQ (Spiritual
Quotient)
หรือเชาวน์ด้านจิตวิญญาณ
เป็นความสามารถในการพัฒนาจิตวิญญาณเพื่อเตรียมพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงใน
ชีวิต
และจะช่วยให้คนเราเข้าใจอัจฉริยภาพสูงสุดของตนเองจากการใช้สมองทุกส่วนในการ
ทำงานเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

   -อัจฉริยภาพทั้ง 6
อย่างนี้มีเท่าๆกันดูจากง่ายๆเลยว่า ถ้า เรามร IQ สูงแต่ EQ
น้อยเราก็จะเป็นคนเจ้าอารมณ์ ขาดมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี หรือมี IQ EQ
แต่ขาด AQ เราก็จะไม่มีความอึดในการแก้ปัญหา ก็จะเกิดอาการถอดใจไปง่ายๆ 
หรือเรามีทั้ง 3 อย่างข้างต้นแต่ขาด MQ คือจริยธรรม
ก็ทำให้ขาดปัญหาการอยู่ร่วมกับสังคมได้

  
-เอาหล่ะครับก็ลองกลับไปนึกดูว่าตอนนี้เราขาดตรงไหน
ก็ลองไปเพิ่มเติมดูนะครับ การเรียนรู้มันไม่สิ้นสุดจริงๆ
และสิ่งที่เสนอมานี้ ก็หวังว่าจะทำให้เด็กไทย หรือผู้ใหญ่ไทย
มีความรอบรู้มากขึ้น ใช้ตรรกะในการคิดวิเคราะห์เหตุการณ์
ดีกว่าใช้อารมณ์ในการตัดสินปัญหานะครับ









Free TextEditor






































































































 

Create Date : 19 เมษายน 2553    
Last Update : 19 เมษายน 2553 14:35:03 น.
Counter : 310 Pageviews.  

อะไรอยู่ในมือถือ













































มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือมาเล่าส
ู่กันฟัง จากคอลัมน์โลกสรรพสินค้า โดย เกศินี จิรวณิชชากร ในนิตยสาร
"สารคดี" เล่มล่าสุด


- โทรศัพท์
มือถือย่อโลกเล็กลง

ธุรกรรมบนมือถืออาจมีส่วนช่วยลดใช้พลังงานในการเดินทางลดใช้กระดาษ
และทรัพยากรอื่นๆ

- ย้อนไปเพียง 10 ปีก่อน
หากคุณเป็นเจ้าของโทรศัพท์มือถือสักเครื่อง ก็ถือได้ว่าเดิ้นเกินใคร
มาปีนี้ประชากรโลกที่ไม่มีมือถือกำลังจะ
กลายเป็นชนส่วนน้อย หลายประเทศในยุโรปจำนวนโทรศัพท์มือถือมีมากกว่าจำนวน
ประชากรเสียอีก

- เฉลี่ยคนไทยใช้งาน
มือถือเครื่องหนึ่งเพียง 2 ปี ก่อนจะโยนทิ้งแล้วซื้อเครื่องใหม่
ทั้งที่อายุการใช้งานจริงนานกว่านั้นมาก
แต่ละปีมือถือเครื่องใหม่ๆ
ถูกผลิตออกมาเกินกว่าพันล้านเครื่องทั่วโลก แต่การรีไซเคิลกลับมีไม่ถึง 1%
ฉะนั้นซากมือถือเก่าหลายร้อยล้านชิ้นจึงถูกฝังอยู่ใต้บ่อขยะ
หรือไม่ก็กระจัดกระจายอยู่ทั่วทุกมุมโลก (อาจรวมถึงในลิ้นชักโต๊ะคุณด้วย)

-
มือถือเครื่องเล็กจิ๋วในมือเรา
ประกอบด้วยสารประกอบทางเคมีถึง 200 กว่าชนิด
ซึ่งยากต่อการวิเคราะห์ผลกระทบต่อสุขภาพได้ครบถ้วน
เฉพาะตัวเด่นๆ
ก็ได้แก่ ตะกั่วทำลายประสาทส่วนกลาง มีผลต่อพัฒนาการทางสมองของเด็ก
แคดเมียมสะสมที่ไตทำลายระบบประสาท มีผลต่อพันธุกรรม ฯลฯ
ว่ากันว่าเฉพาะฤทธิ์ของแคดเมียมจากแบตเตอรี่มือถือเพ
ียงก้อนเดียวทำให้น้ำถึง 6 แสนลิตรเกิดมลพิษได้

-
ในมือถือเครื่องหนึ่งๆ 40% ประกอบไปด้วยโลหะมีค่าหลายชนิด ในปีค.ศ.2006
บริษัทไดโคะโมะในญี่ปุ่นสามารถสกัดทองแดงได้ 29,025 ก.ก.และทองคำ 124
ก.ก.จากซากโทรศัพท์มือถือและแบตเตอรี่ 8 ล้านกว่าชิ้น

-
กรีนพีซตรวจพบสารหน่วงไฟโบรมีน หรือบีเอฟอาร์ (Brominated Flame
Retardants) และพีวีซี (Polyvinyl Chloride)
ในส่วนประกอบของมือถือบางยี่ห้อ
สารทั้งสองนี้เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ขั้นต
อนการผลิตไปถึงการกำจัด หรือแม้แต่การรีไซเคิล เพราะทำให้แหล่งน้ำเป็นพิษ
และเมื่อเผาจะปล่อยสารไดออกซินซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งร ุนแรง

ข่าวดี
คือ
ขณะนี้มือถือหลายค่ายเริ่มออกผลิตภัณฑ์มือถือปลอดบีเอฟอาร์และพีวีซีกันแล้ว
ฯลฯ

ข้อควรปฏิบัติ

ช่วยกันดึงสายชาร์จออกจากปลั๊กเมื่อชาร์จไฟเสร็จแล้ว
กันดีกว่า เพราะหากเสียบทิ้งไว้ตลอดเวลาเท่ากับว่าเราใช้ไฟฟ้าใ
นการชาร์จจริงเพียง 5% เท่านั้น ส่วนอีก 95%
คือพลังงานที่เสียไปกับการเสียบทิ้งไว้ทั้งวันทั้งคืน







Free TextEditor

























 

Create Date : 19 เมษายน 2553    
Last Update : 19 เมษายน 2553 14:30:36 น.
Counter : 331 Pageviews.  

คำคมจากละคร

















































คำคมจากละคร




ชมคนด้วยวาจา ดีกว่ามอบไข่มุกให้
ทำร้ายคนด้วยวาจา
สาหัสกว่าทิ่มแทงด้วยหอกดาบ

มีดต้องหมั่นลับจึงจะแหลมคม
ความ
รักก็ต้องถูกทดสอบโดยอุปสรรคจึงจะมั่นคง


คนพาลก็เหมือนกับ
ถ่านไฟ
ตอนติดไฟจับไปก็ร้อนมือ
ตอนดับจับไป มือก็ดำ

ความรัก..มักพัฒนาจากมิตรภาพ
แต่..ความรักก็ไม่ใช่
มิตรภาพ
หากคิดว่าความรักคือ..มิตรภาพ
เราจะเป็นไม่ได้ทั้ง..เพื่อน
และคนรัก

รากเหง้าของความชั่วร้ายทั้งหลาย
ล้วนมาจาก
ความเกียจคร้าน

คุณธรรม
ความดีไม่ได้อยู่ที่ลิ้น หากแต่อยู่ในใจ

รูรั่วเล็กๆจม
เรือใหญ่ได้ฉันใด
การฟุ่มเฟือยก็ทำให้ยากจนได้ฉันนั้น

ทองหยก
ล้ำค่าใดๆก็ไม่ประเสริฐเท่ากับ...
ความรักใคร่สามัคคีระหว่างพี่น้อง

ความรักก็เหมือนผีเสื้อ
ยามเรา
ไขว่คว้าก็มักจะบินหนี
ยามเราอยู่เฉย กลับบินมาเกาะเรา

ผู้
กระทำการใหญ่ ย่อมไม่ถือสาคำตำหนิเล็กๆน้อยๆ

ผู้มีความเพียรอย่าง
แรงกล้า เท่ากับสำเร็จไปแล้วครึ่งทาง

คนเราคบกัน มีค่าตรงที่รู้จักกัน
คนเรารู้จักกัน
มีค่าตรงที่รู้ใจกัน


ผู้ที่
รู้จักคนอื่นเป็นคนฉลาด
ผู้ที่รู้จักตนเองเป็นคนมีสติ

เสียเงินทองถือว่า...เสียงเพียงหนึ่ง
เสียงชื่อเสียง
ถือว่า..เสียมากกว่าหนึ่ง
แต่หากสูญเสียกำลังใจถือว่า...เสียทุกอย่าง



ขอบคุณข้อมูลจาก:
เว็ปไซต์พันทิพย์ดอทคอม








Free TextEditor







































































































 

Create Date : 19 เมษายน 2553    
Last Update : 19 เมษายน 2553 12:20:39 น.
Counter : 327 Pageviews.  

♣ อีกมุม .. ของความหมายรัก ♣











































รัก คืออะไร
. . .? คำตอบนี้อาจไม่มีที่สิ้นสุด 
แต่การที่จะบอกรักใครบางคนนั้น . . . 
ไม่ใช่การตัดสินใจเพียงอารมณ์
ชั่ววูบ

และ
รักก็ไม่ใช่แค่คำพูด รักคือความรู้สึกที่ออกมาจากใจทุกๆ คน  "รัก" คือคำที่ใช้แทนความรู้สึก




บางคน . . .
แทนในความหมายที่มากเกินไป 
บาง
คน . . . แทนในความหมายที่ไม่ตรงประเด็น 
บางคน . . .
แทนในความหมายที่เกินความเป็นจริง 
บางคน . . . แทนในความหมายที่เหมือนคิดว่า
ตัวเองอยู่แต่ในความฝัน 




จริงๆ แล้ว คำว่า "รัก" ไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรเลย
"รัก"

ก็แค่ความรู้สึกอันหนึ่งเท่านั้นเอง 
แต่ผลของการที่คนๆ หนึ่งมีรักขึ้นมา 
มันทำให้เกิด
เรื่องราวหลากหลาย 
ขึ้น
อยู่กับจิตสำนึกและความคิดของแต่ละคน 





ที่บอกว่า "รัก" ไม่ยิ่งใหญ่  . . . 
เพราะว่า
เรื่องราวของ "ความรัก" ต่างหากที่ทำให้คุณรู้สึกขนพอง 
ที่ทำให้คุณรู้สึกซึ้ง เศร้า มันเป็นแค่เรื่องราวของชีวิต 
มันไม่ใช่ความรัก ที่คุณยิ้มน้ำตาไหล
          . . .
ไม่ใช่เพราะคุณชื่นชมคำว่า "รัก" 
แต่คุณชื่นชมเรื่องราวแห่ง
"ความรัก" ต่างหาก 




ความรัก . . . คือการให้ 
ความรัก . . .
คือการเข้าใจกัน 
ความ
รัก . . . ไม่มีที่สิ้นสุด 
เพราะมันมีความหมายมากเกิน
กว่าจะเข้าใจได้ 
และ
นี่อาจจะเป็นแค่เศษเสี้ยว ของความหมายในคำว่า รัก 





"รัก" ไม่มีคำว่าเศร้า ทุกข์ ขมขื่น
หรืออะไรที่ทำให้รู้สึกไม่ดี 
"รัก"
มีแต่สิ่งดีๆ ให้กันและกัน 
สิ่งไม่ดีที่เกิดขึ้นไม่ได้
เกิดจาก "รัก"
แต่เกิดจากการคาดหวัง 
ที่
แต่ละคนคิดว่าหากรักกันแล้ว . . . ต้องทำให้ได้ทุกอย่าง 
ในความเป็นจริง
แล้วใช่อย่างนั้นหรือ . . . การคาดหวังเกิดขึ้นได้กับทุกคน 




แล้วจะเกิด
อะไรขึ้น เมื่อสิ่งที่คาดหวังของคนสองคนไม่ตรงกัน 
คุณคงนึกภาพออก . . . 
แล้วถ้ายิ่ง
คุณทำอะไร ให้กับคนที่คุณรัก 
. .
.แล้วแต่ไม่ตรงกับที่คนรักคุณคาดไว้ สิ่งนั้นก็หมดความหมาย





คนทำก็หมด
กำลังใจ ทำตั้งเยอะไม่ได้อะไร ตอบแทนเลย 
จึงกลายเป็น  . .
.การเรียกร้องเกิดขึ้น 
เมื่อ
คุณเป็นฝ่ายให้แล้ว ทำไมอีกฝ่ายไม่เป็นฝ่ายให้บ้าง 
โดยคุณอาจลืมไปว่า . . .
อีกฝ่ายก็ได้ให้คุณเหมือนกัน 
เพียง
แต่สิ่งนั้น . . . ไม่ได้ตรงกับที่คุณคาดไว้





และมันไม่มี
ความหมายกับคุณเลย 
เมื่อ
คนสองคนคิดไม่ตรงกัน . . .ที่ต้องการจะเป็นฝ่ายรับ 
หรือเรียกร้อง
ที่จะรับโดยบอกให้อีกฝ่ายเป็นฝ่ายให้ 
ความทุกข์ต่างๆ ก็จะตามมา 





"รัก"
ไม่ต้องคาดหวัง . . .ทำให้เมื่ออยากทำ . . .ไม่ต้องรอสิ่งตอบแทน

และ
รับในสิ่งที่อีกฝ่ายให้ เมื่อเขาอยากให้ . . .ไม่ต้องเรียกร้อง 
เป็นตัวของตัว
เองในบางครั้ง . . .โอนอ่อนในบางทีสิ่งดีๆ ก็จะเกิด  และเมื่อนั้น "รัก" ก็จะปรากฎเอง
โดยที่เราไม่ต้องเรียกร้อง หรือคาดหวัง








Free TextEditor







































































































 

Create Date : 19 เมษายน 2553    
Last Update : 19 เมษายน 2553 12:13:24 น.
Counter : 415 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  

tongsehow
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add tongsehow's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.