ผู้หญิงดื่มเหล้าจัด ระวังมะเร็งเต้านม ถามหา










































คณะนักวิจัยประเทศเดนมาร์ก เตือนว่า

สตรีที่ดื่มสุราจัด หรือเทียบได้กับดื่มไวน์ 2 ขวด
ในช่วงสุดสัปดาห์ มีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านมเพิ่มขึ้น 2 เท่า
































วารสารสาธารณสุขยุโรป
เผยแพร่ผลการศึกษาของศูนย์วิจัยแอลกอฮอล์ในเดนมาร์ก ว่า


จากการศึกษากับพยาบาล 17,647 คน อายุไม่ต่ำกว่า 44 ปี พบว่า พยาบาลที่ดื่มสุราสัปดาห์ละ 22-27 แก้ว
เฉลี่ยมีแอลกอฮอล์แก้วละ 12 กรัม เสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านม 2 เท่า



ของพยาบาลที่ดื่มสุราสัปดาห์ละ 1-3 แก้ว
ความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นสูงสุดหากดื่มจัดในช่วงเวลาสั้นๆ






























ผลการศึกษาแนะว่า


ผู้หญิงไม่ควรดื่มสุราเกินสัปดาห์ละ 14 แก้ว แต่พบว่า พยาบาล 1 ใน 4
ดื่มมากกว่าเกณฑ์ดังกล่าว

พยาบาล 1 ใน 10 ดื่มจัดในช่วงวันจันทร์-พฤหัสบดี
คือวันละไม่ต่ำกว่า 4 แก้ว พยาบาลร้อยละ 13 ดื่มจัดในช่วงวันศุกร์-อาทิตย์
รวมไม่ต่ำกว่า 10 แก้ว






























แต่ละแก้วที่ดื่มเกินเกณฑ์ที่แนะนำ


จะเพิ่มความเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านมร้อยละ 2 และจะเพิ่มเป็นร้อยละ 4
หากเป็นช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์
เพราะเป็นช่วงที่คนมักดื่มสุรามากกว่าวันทำงาน คณะนักวิจัยสันนิษฐานว่า

แอลกอฮอล์อาจไปเพิ่มปริมาณเอสโตรเจน
ฮอร์โมนเพศหญิงที่มีส่วนทำให้เป็นมะเร็งเต้านม
ไม่เพียงแต่ปริมาณแอลกอฮอล์ที่ดื่มเพิ่มความเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านมเท่านั้น
รูปแบบการดื่มก็มีผลเช่นกัน


หากดื่มในช่วงเวลาสั้นๆ แอลกอฮอล์ในกระแสเลือดจะเข้มข้นกว่าดื่มช่วงเวลานาน
ทำให้มีอันตรายมากกว่า นักวิจัยแนะนำว่า สตรีควรดื่มปานกลาง
และไม่ควรดื่มจัดในคราวเดียว




































Free TextEditor







































































































 

Create Date : 16 เมษายน 2553    
Last Update : 16 เมษายน 2553 12:52:04 น.
Counter : 493 Pageviews.  

อาหารที่ช่วยลดความอยาก...อาหาร




































ถ้าคุณรู้สึกว่าการควบคุมตัวเองไม่ให้หยิบ
ช็อกโกแลต


หรือ คุกกี้รับประทานนั้น เป็นเรื่องยากแสนยาก แล้วยังไม่รวมอาการ
อยากรับประทานโน่นนี่ (โดยเฉพาะที่แคลอรีสูง ๆ ) ไม่หยุดหย่อน .. การรับประทานอาหารที่จะแนะนำนี้รองท้อง
หรือระหว่างมื้อช่วยได้มากค่ะ































ถั่ว แบบที่เรียกกันว่า pine nuts


นั้นมีการวิจัยแสดงให้เห็นว่าช่วยระงับฮอร์โมนความอยากอาหารที่เรียกว่า
cholecystokinin (CKK) ได้


เพราะ ฉะนั้นจึงแนะนำกันว่าให้โรยถั่วชนิดนี้ในสลัด
พาสต้าโฮลวีท หรืออาหารที่รับประทานเข้าไป
แต่ถ้าหาถั่วชนิดนี้ไม่
ได้ อัลมอนด์ก็ใช้ได้ค่ะ
แถมเมล็ดอัลมอนด์จะมีปฏิกิริยาขัดขวางการดูดซึมไขมันในร่างกาย
ช่วยให้ลดน้ำหนักได้ด้วย






























อาหารร้อน ๆ ยกตัวอย่างเช่น ซุป และน้ำชา


ด้วยอุณหภูมิที่สูงทำให้ความอยากอาหาร ของเราลดต่ำลง
เพราะฉะนั้นก่อนมื้อหนักควรรับประทานซุปหรือจิบน้ำชา


เพียงแต่ต้องแน่ใจว่า ซุปนั้นจะไม่ใช่แบบครีมข้น
และน้ำชาก็ต้องไม่ใส่น้ำตาลก้อน น้ำเชื่อม ฯลฯ
ยิ่งถ้าได้จิบชา
เขียวบอกกันว ่าจะช่วยกระตุ้นกระบวนการเผาผลาญให้ดียิ่งขึ้นด้วยค่ะ






























แอปเปิ้ล

ในแอปเปิ้ลลูกหนึ่งนั้นมีไฟเบอร์มากกว่าพีช องุ่น
และส้มเสียอีก ซึ่งไฟเบอร์ช่วยทำให้เรารู้สึกอิ่ม
ป้องกันการรับประทานมากจนเกินพอดี



เพราะฉะนั้นจึงมีคำแนะนำให้รับประทานแอปเปิ้ลก่อนมื้อค่ำ
วิธีนี้จะช่วยให้มื้อค่ำของคุณไม่น่ากลัวจนเกินไป
หามาติดครัวไว้ดีกว่าค่ะ...ถ้าไม่อยากหิว และอ้วน






Free TextEditor







































































































 

Create Date : 16 เมษายน 2553    
Last Update : 16 เมษายน 2553 12:50:08 น.
Counter : 323 Pageviews.  

รู้เท่าทัน.! ต้นตอโรคภูมิแพ้-หอบหืด-ปอดบวม

































สารพัดเชื้อโรคในเครื่องปรับอากาศ
ต้นตอโรคภูมิแพ้-หอบหืด-ปอดบวม

เชื้อ!อันตรายจากเครื่องปรับอากาศและสิ่งใกล้ตัว
หากใสใจ


































นพ.ฉัตรชัย เอกปัญญาสกุล แพทย์ประจำภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกันและสังคม
โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) องครักษ์ กล่าวว่า
ประเทศไทยร้อนขึ้น หลายๆ บ้านหันมาติดตั้งเครื่องปรับอากาศ
แต่ไม่มีใครสนใจว่า

เครื่องปรับอากาศนั้นแม้จะทำให้คลายร้อนลงได้
แต่ยังแฝงไปด้วยเชื้อโรคและมลพิษที่มีผลต่อสุขภาพ
ไม่ว่าจะเป็นเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา เช่น โรคภูมิแพ้
ผื่นผิวหนังอักเสบ หืดหอบ ปอดบวม ผู้ใช้เครื่องปรับอากาศควรจะสังเกตว่า
เวลาที่เปิดเครื่องปรับอากาศถ้ามีกลิ่นอับชื้นที่มากับความเย็น
กลิ่นอับชื้นเหล่านี้มักมาจากเชื้อโรคที่ออกมาจากช่องระบายความเย็น
และแผ่นกรองอากาศของเครื่องปรับอากาศ
ความชื้นจะเป็นแหล่งสะสมเพาะพันธุ์อย่างดีของเชื้อโรค

































เมื่อสะสมมากๆ เชื้อโรคก็จะหลุดลอยออกมาปะปนกับอากาศเย็นภายในห้อง
และเมื่อตื่นนอนขึ้นมาจะมีอาการระคายคอ และหากมีอาการป่วยรุนแรงมาก
อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

"ขอแนะนำให้ผู้ที่ใช้เครื่องปรับอากาศล้างทำความ
สะอาดเครื่องปรับอากาศอย่างสม่ำเสมอ
โดยดูตามความเหมาะสมจากสภาพแวดล้อมและการใช้งาน
ด้วยวิธีการล้างแผ่นกรองอากาศอย่างน้อยเดือนละครั้ง โดยใช้น้ำฉีดแรงๆ
ที่ด้านหลัง ด้านที่ไม่ได้รับฝุ่น ให้ฝุ่นและสิ่งสกปรกหลุดออก
ในแต่ละปีควรล้างเครื่องปรับอากาศแบบเต็มระบบ จะช่วยขจัดเอาฝุ่นละออง
เชื้อโรคที่เกาะติดอยู่กับส่วนต่างๆ ของเครื่อง
และที่ล่องลอยอยู่ในอากาศภายในห้องทิ้งออกไป
ขณะเดียวกันผู้ใช้เครื่องปรับอากาศควรดูแลสุขภาพตนเองด้วย



เช่น ถ้าอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานานๆ
ควรหลีกเลี่ยงการเข้าห้องปรับอากาศอย่างฉับพลัน
หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ก่อให้เกิดมลพิษในห้องที่ใช้เครื่องปรับอากาศ
เช่น การสูบบุหรี่ การปรุงอาหาร
ที่สำคัญควรดูแลสิ่งแวดล้อมในห้องที่ใช้เครื่องปรับอากาศด้วย โดยกำจัดฝุ่น
กำจัดแหล่งที่อยู่ของแมลงสาบ ละอองเกสรพืช ไรฝุ่นในที่นอน ขนสัตว์
และแมลงอื่นๆ ที่อาจเป็นสาเหตุของโรคภูมิแพ้" นพ.ฉัตรชัยกล่าว






















ขอขอบคุณ : ข้อมูลที่เป็นประโยชน์
จาก
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ






Free TextEditor







































































































 

Create Date : 14 เมษายน 2553    
Last Update : 14 เมษายน 2553 18:15:32 น.
Counter : 455 Pageviews.  

ผิวสวยง่ายๆ ด้วย มะเขือเทศ & นม







































มะเขือเทศกับนมสูตรสวยจากธรรมชาติ

ขึ้นชื่อว่า "มะเขือเทศ"
ไม่เพียงแต่อร่อยแต่ยังเป็นแหล่งสำคัญของวิตามินเอและบี
รวมทั้งแร่ธาตุที่สำคัญต่อร่างกาย แถมยังทำให้ผิวสวยอีกด้วย
วันนี้เกร็ดความรู้มีเคล็ดลับเกี่ยวกับมะเขือเทศมาฝาก....

































กรดในมะเขือเทศ
สามารถนำมาทำโลชั่นทำความสะอาดผิวได้
เพราะมีฤทธิ์ช่วยในการขัดลอกเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน
โดยเฉพาะเมื่อนำมาผสมกับนมจะมีกรดแล็กติกช่วยในการขัดลอกเซลล์ผิว
































วิธีทำ


นำมะเขือเทศสุกมาบดให้ละเอียด
แล้วเทลงในผ้าขาวบาง และบีบน้ำออก แล้วนำน้ำมะเขือเทศผสมกับนมเท่า ๆ กัน


แล้วใช้เช็ดทำความสะอาดผิวหน้าวันละ 1 หรือ 2 ครั้ง แล้วล้างออกด้วยน้ำแร่
หรือน้ำสะอาดก็ได้ วิธีนี้เหมาะสำหรับผิวมัน และผิวผสม


ถ้าอยากมีผิวสวย ก็ลองนำวิธีที่แนะนำไปปฏิบัติกันดูได้.











ขอขอบคุณ : ข้อมูลข่าวที่มีคุณภาพ
โดย:
หนังสือพิมพ์เดลินิวส์


สนับสนุนข้อคิดนานาสาระโดย:


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เด
ลินิวส์






Free TextEditor







































































































 

Create Date : 14 เมษายน 2553    
Last Update : 14 เมษายน 2553 17:50:17 น.
Counter : 320 Pageviews.  

ข้อห้าม..! เมื่อเข้านอน

































ข้อห้ามก่อนเข้านอน


การนอนคือการพักผ่อน
หลังจากเหนื่อยล้ามาทั้งวัน แล้วนอนอย่างไรไม่ให้เสียสุขภาพ
วันนี้เกร็ดความรู้มีข้อห้ามทำก่อนนอนมาบอกกัน เพื่อสุขภาพที่ดี...

































อย่าใส่นาฬิกาข้อมือนอน
เพราะขณะที่นาฬิกาทำงานไปเรื่อย ๆ นั้น ล้วนปล่อยพลังงาน
ถ้าใส่นาฬิกาข้อมือนอน จะมีผลต่อสุขภาพระยะยาว


ไม่ควรนอนหลับไปพร้อม ๆ กับโทรศัพท์ หรือวางโทรศัพท์มือถือไว้ใกล้ ๆ
ใครที่ชอบใช้มือถือเป็นนาฬิกาปลุกยามเช้า กรุณาเก็บมือถือไว้ห่าง ๆ
เพราะหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ระบุว่า โทรศัพท์มือถือ
จะปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าออกมาขณะเปิดเครื่องไว้
และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเหล่านี้ มีผลกับระบบประสาท เพราะฉะนั้น
ตอนนอนก็ควรปิดโทรศัพท์มือถือซะดีกว่า
































- อย่าหลับไปพร้อมกับเครื่องสำอาง
ไม่ว่าจะเหนื่อยอ่อนเมื่อยล้ายังไง ต้องล้างเครื่องสำอางออกให้หมด
เพราะการหลับทั้ง ๆ ที่เครื่องสำอางยังคาอยู่ที่ผิวหน้า
จะทำให้เกิดปัญหาด้านผิวพรรณระยะยาว


- (สำหรับสาว ๆ เท่านั้น) อย่าใส่ยกทรงนอน เพราะนักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกัน
พบว่าการใส่ยกทรงนานเกิน 12 ชั่วโมง
จะเป็นการเพิ่มอัตราเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งทรวงอกได้ ฉะนั้น
ก็อย่าใส่ยกทรงนอนเลย



รู้ข้อห้ามแล้ว
ก็ลองปฏิบัติกันดู เพื่อการนอนที่ดี.











ขอขอบคุณ : ข้อมูลข่าวที่มีคุณภาพ
โดย:
หนังสือพิมพ์เดลินิวส์






Free TextEditor







































































































 

Create Date : 14 เมษายน 2553    
Last Update : 14 เมษายน 2553 15:34:38 น.
Counter : 331 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  

tongsehow
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add tongsehow's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.