การจะได้สิ่งที่ดีที่สุดต้อง "บำเพ็ญบารมี"
















































การปฏิบัติบารมีแบบนี้
เป็นแบบที่ผู้คนส่วนใหญ่มักเคยได้ยินได้ฟังมาแล้วจากนิทานชาดก
ทั้งพระโพธิ์สัตว์ พระสาวก และผู้ที่บำเพ็ญบารมีเพื่อเป็นพระอรหันต์

การบำเพ็ญบารมีแบบนี้
ตั้งจุดหมายไว้ที่สิ่งสูงสุดในพุทธศาสนาเหมือนๆกัน นั่นก็คือ
บำเพ็ญความดีอะไรก็ตามเพื่อให้ไปถึง นิพพาน
ความหมดทุกข์  การบำเพ็ญบารมีแบบนี้จึงไม่ได้กระทำกันในระดับธรรมดา

นอกจากต้องบำเพ็ญให้ครบทั้งสิบประการของบารมีแล้ว
ยังต้องบำเพ็ญให้เต็มเปี่ยมอย่างที่สุด

ตัวอย่างในพระสูตรเกี่ยวกับ
การบำเพ็ญบารมีทั้งหลาย จึงมักดูยากและหนักหนา
ไม่ว่าจะเป็นการเสียสละชีวิตเพื่อผู้อื่น การบริจาคทานจนต้องถูกขับจากเมือง
การพากเพียรอดทนทำหน้าที่แม้มองไม่เห็นโอกาสจะสมหวัง ด้วยมุมมองนี้
ทำให้วิธีปฏิบัติที่มีประโยชน์มากมาย
ต้องกลายเป็นเพียงตำนานในสายตาของปุถุชนคนทั่วไป
เพราะเราย่อมคิดว่า"ทำไม่ได้" แต่ถ้าเราลองมองบารมีว่าเป็นของดี
เป็นของกลาง ผู้ที่เห็นข้อดี มีความตั้งใจ
ทุกคนก็มีสิทธิ์ปฏิบัติได้ตามกำลังความสามารถของตนจะอำนวย

บารมีก็
ไม่ใช่เรื่องที่ตึง
และสุดโต่งเหมือนตัวอย่างที่เราคุ้นเคยในวัยเด็กอีกต่อไป

"พระ
พุทธเจ้า ทรงส่งเสริมให้เราประกอบกิจอันเป็นประโยชน์อยู่เสมอ
ดังนั้นสิ่งใดดีมีประโยชน์ ต่อให้ทำได้ไม่ครบและเต็มเปี่ยม
หรือแม้ทำได้เพียงบางส่วน บางข้อ ก็ยังเป็นประโยชน์แก่เรา
และแก่โลกนี้อย่างมากแล้ว"




























Free TextEditor







































































































Create Date : 15 พฤษภาคม 2553
Last Update : 15 พฤษภาคม 2553 17:01:06 น. 0 comments
Counter : 365 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tongsehow
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add tongsehow's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.