|
กิน นอน ทำงาน กิน นอน แล้วก็ทำงาน
คุณเคยคิดหรือเปล่าว่าทุกวันนี้คุณใช้ชีวิตให้ผ่านๆ ไปวันๆ ขับรถทางเดิมๆ ทานอาหารที่เดิมๆ มีกิจกรรมนอกบ้านเดิมๆ พบคนหน้าตาเดิมๆ แล้วงานที่ทำก็ยังเหมือนเดิม ไม่ได้แตกต่างไปจากวันที่คุณเริ่มงานใหม่ๆ หากใช่ล่ะก็
สักวันคุณต้องตกใจกับเวลาที่ผ่านไปอย่างเปล่าประโยชน์ และใบหน้าที่ดำคร่ำเครียดสักวันแน่ๆ
ลองส่องกระจกมองดูตัวเองบ้างหรือเปล่าว่าคุณดูแก่เกินอายุจริงหรือดูอ้วน ขึ้นบ้างหรือเปล่า ลองหาวิธีสร้างสุขภาพที่ดีให้กับชีวิตการทำงานบ้างดี มั้ยคะ สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณสดใส มีชีวิตชีวากับวันทำงานมากขึ้น ไม่ว่านานจะมากจะเหนื่อยแคไหน คุณก็จะรับไหวค่ะ
|
|
|
กาแฟถ้วยโปรดของคุณ
หากคุณเป็นคนที่ชอบทานกาแฟและหลงใหลรสชาติของกาแฟเป็นชีวิตจิตใจล่ะก็
คุณต้องหักห้ามบังคับใจตัวเองให้เวลาของการดื่มกาแฟ
ของคุณเหลือเพียง 2 ถ้วยต่อวัน จำไว้ว่ากาแฟมีส่วนทำให้ร่างกายของคุณขาดน้ำ
ทุกครั้งที่ดื่มกาแฟควรจะดื่มน้ำตามอีก 1 แก้วนะคะ
|
|
Rush Hours
ปกติคุณตื่นนอนกี่โมง นอนมากไปหรือนอนดึกไปหรือเปล่า
คุณควรตั้งเวลาตื่นนอนให้เร็วขึ้นจากปกติ 15-30 นาที เพื่อหลีกเลี่ยงเวลา
เช้าที่เร่งรีบ ให้ตัวคุณได้มีเวลาอาบน้ำ แต่งตัวมากกว่านี้
อย่าปล่อยให้ทุกเช้าที่คุณมาทำงานนั้นต้องแข่งขันกับเวลา แม้ว่าคุณจะทำแบบนี้มา
เป็นปีๆ ก็ขอให้เห็นใจและสงสารร่างกายของคุณบ้าง
แค่รถติดตอนเช้าก็ทำให้เราเครียดพอแล้ว หากยังต้องรีบร้อนมาทำงานทุกวัน ความรู้
สึกในวันทำงานของคุณก็จะเพิ่มความเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ
และส่งผลถึงสภาพจิตใจและโรคภัยต่างๆ ในอนาคตได้
|
|
Lunch Time
ถ้าคุณเป็นประเภทงานเยอะงานยุ่งและชอบทานอาหารเที่ยงในที่ทำงาน
หรือทานอาหารเร่งด่วนจำพวก Fast Food หรืออาหาร
จานด่วน คุณควรเปลี่ยนนิสัยของคุณตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
อย่าลืมว่าคุณต้องใช้สมองทำงาน ร่างกายต้องการสารอาหารที่ครบถ้วน หากเป็นไป
ได้คุณน่าจะหาโอกาสทานเที่ยงนอกสถานที่บ้าง ไปร้านนั้นร้านนี้
ใครว่าร้านไหนอร่อย ไปเถอะค่ะ อาหารเที่ยงของคุณจะผสมผสานไปกับ
เวลาพักผ่อน สมองของคุณจะได้พักผ่อนและพร้อมที่จะรับงานช่วงบ่ายต่อไป
ความเหนื่อยล้าจะรบกวนคุณหลังเลิกงานน้อยกว่าทุกวัน ไม่เชื่อลองทำดูสิ
|
|
ปัญหาส่วนตัว
ไม่ควรนำปัญหาส่วนตัวมาทำงานกับคุณด้วย และที่สำคัญ
ไม่มีความจำเป็นต้องบอกกล่าวเรื่องส่วนตัวของคุณกับเพื่อนร่วมงาน
หรือเจ้านายเพื่อเป็นข้อแก้ตัวเรื่องงาน
เพราะนอกจากจะทำให้คุณย้ำคิดถึงปัญหาสร้างความหงุดหงิดใจแล้ว
เจ้านายของคุณอาจจะมองเห็นว่าคุณแยก
แยะเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวไม่ได้อีกด้วย
อาจมีผลกับผลงานของคุณก็ได้นะคะ
เก็บปัญหาแก้เมื่อกลับบ้านดีกว่าค่ะ
|
|
แต่งตัวให้เป็น
เรื่องแต่งตัวไปทำงานเป็นเรื่องสนุกอย่างหนึ่งของผู้หญิงเรา
หากวันใดแต่งตัวสวยก็สร้างความมั่นใจและความอยากไปทำงานให้กับคุณได้
แต่หากแต่งตัวผิดกาละเทศะ หรือหวือหวาให้รู้สึกอึดอัดเกินเหตุ
ก็อาจทำให้วันทำงานวันนั้นเป็นวันที่หงุดหงิดใจได้ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา
ดังกล่าวคุณควรมีรองเท้าส้นเตี้ยและเสื้อหนาวเตรียมไว้ที่ทำงานเผื่อว่าวัน ใดคุณต้องใส่
รองเท้าส้นสูงปรี๊ดหรือเสื้อแขนกุดสุดเซ็กซี่ คุณจะได้ไม่ต้องทนเมื่อยทนหนาวในที่ทำงาน
|
|
พักสายตาสักนิด
คุณต้องทำงานกับคอมพิวเตอร์ทั้งวันหรือเปล่า
ถ้าใช่คุณควรสร้างนิสัยพักสายตาจากหน้าจอทุกๆ สิบนาที มองไปที่ไหนก็ได้ จะนอก
หน้าต่าง คุยโทรศัพท์กับลูกค้าแม้แต่แหงนมองเพดานหาจิ้งจกสักตัวก็ทำเถอะค่ะ
เพราะนอกจากจะช่วยให้คุณไม่ปวดศรีษะแล้ว ยังผ่อนคลาย
ความเหนื่อยล้าของดวงตาได้อีกด้วย
|
|
ยาสามัญประจำโต๊ะทำงาน
เป็นไอเดียที่ดี หากคุณคิดจะมียาสามัญติดไว้บ้าง เช่น ยาแก้ปวดศรีษะ
ปวดท้องประจำเดือน เป็นต้น คุณจะทราบได้ล่วงหน้าได้อย่าง
ไรว่าวันไหนคุณจะปวดหัวเป็นไข้ขึ้นมา
พกไว้สักนิดคงไม่ทำให้โต๊ะทำงานของคุณรกหรอกนะคะ
|
|
การเมืองในที่ทำงานาก
บริษัทใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทในประเทศไทย หรือต่างประเทศ
ก็หนีไม่พ้นเรื่องการเมืองในที่ทำงาน ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่รู้สึกว่ามีบางสิ่งผิดปกติ
ไม่ยุติธรรมหรือไม่เห็นด้วยกับเรื่องต่างๆ ในที่ทำงาน
คุณควรยกประเด็นเรื่องที่คุณสงสัยนั้นถามและพูดคุยในห้องประชุม
เพื่อความกระจ่างและหาทางแก้ไขให้สมควร
อย่าเสียเวลาเม้าท์แตกกับเพื่อนร่วมงานหรือบ่นไปทั่วออฟฟิศเลยค่ะ
มันไม่มีประโยชน์หรอกด
|
|
ออกกำลังกายๆ
ยาที่สามารถทำให้สุขภาพของคุณดีที่สุดก็คือการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอนั่น เอง
หาโอกาสเป็นสมาชิกสปอร์ตคลับใกล้ที่ทำงานสักแห่งและกำหนดวันออกกำลังกายให้ ได้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้งจะเป็นการเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายประเภทไหนก็ได้ ขอให้ทำอย่างสม่ำเสมอ
จนเป็นนิสัยหากทำได้คุณจะค้นความมหัศจรรย์
ที่เกิดขึ้นกับร่างกายและจิตใจของคุณทันที
พอถึงตอนนั้นถ้าไม่ได้ออกกำลังกายคุณจะรู้สึกเนือยๆ
ไม่กระปรี้เปร่าหรือถึงกับหงุดหงิดได้เลยล่ะค่ะ |
|