นั่งรถเที่ยวเพลินกรุงเทพฯ - เสียมเรียบ - โฮจิมินห์

เส้นทางนี้จะเรียกว่าใหม่ก็คงไม่ใช่
นัก
เพราะเป็นเส้นทางการเดินทางที่นักท่องเที่ยวนั่งรถยนต์จากกรุงเทพไป
อรัญประเทศเข้าปอตเปตไปถึงเสียมเรียบเพื่อไปเที่ยวนครวัด นครธม
หลังจากนั้นก็นั่งรถต่อไปถึงพนมเปญ จากพนมเปญไปโฮจิมินห์ระยะทางประมาณ 190
ก.ม.
การเดินทางนั้นก็ไม่ลำบากมีรถประจำทางติดแอร์อย่างดีของเวียดนามออกจาก
พนมเปญไปโฮจิมินห์ทุกวัน เมื่อปลายเดือนธันวาคมปีที่แล้ว
สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ และสถานกงศุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์
ร่วมกับการท่องเที่ยวของกัมพูชาและเวียดนามได้จัดโครงการคาราวานกรุงเทพ -
เสียมเรียบ - พนมเปญ - โฮจิมินห์  นำสื่อมวลชน ผู้แทนธุรกิจท่องเที่ยว
ประชาชนที่สนใจของทั้งสามประเทศร่วมเดินทางไปกับคาราวานนี้

เสียมเรียบ นครวัด นครธม
  
เสียมเรียบในอดีตจะเป็นอย่างไรนั้นดูแทบจะไม่ออก
เพราะพอผ่านเข้าตัวเมืองดูเหมือนหลุดมาสู่เมืองใหม่ แสงสีสว่างไสวทั้งๆ
ที่ไม่ถึงชั่วโมงยังเห็นบางบ้านจุดตะเกียง
หรือไม่ยืนออกันที่กองไฟผิงไฟไล่ลมหนาวกันอยู่ บนถนนสองข้างทางนั้นเห็นแต่
โรงแรม บ้านชาวบ้านนั้นคงหลบอยู่ด้านหลัง
นักท่องเที่ยวฝรั่งทุกระดับเดินกันอย่างคึกคัก
ไกด์เล่าให้ฟังว่าปัจจุบันเสียมเรียบมีโรงแรม 54 แห่ง
และเกสต์เฮ้าส์อีกนับไม่ถ้วน

   ถ้าอยากจะพบคนกัมพูชาจริงๆ
ในโรงแรมก็พอมีบ้าง แต่อาหารกัมพูชานั้นแทบจะไม่มีเลย
ของแท้ทั้งหมดนี้ถ้าอยากสัมผัสด้วยเวลาอันน้อยนิดของนักท่องเที่ยวนั้นก็
ต้องไปที่ตลาด และควรเป็นตลาดเช้าเพราะถ้าสายตลาดวาย ร้านขายของที่ระลึก
ร้านอาหารก็เป็นเหมือนเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ ที่ฝรั่งชอบไปขายแซนวิช พิซซ่า

 
 แต่เท่าที่ได้พูดคุยกับคนไทยในกัมพูชาและคนกัมพูชา
เมนูยอดฮิตที่ใช้รับแขกและนิยมทำในงานบุญ คือ "อมกปลา"
ซึ่งก็คือห่อหมกนั่นเอง สีไม่แดงเท่าบ้านเรา ชิมแล้ว
ชิมอีกก็ได้ข้อสรุปว่าไม่เค็ม ไม่เผ็ด ไม่หวานกะทิ
ซึ่งคนที่นั่นยืนยันว่ารสชาติถูกต้องตามมาตรฐานแน่นอน
และไม่ใช่เฉพาะห่อหมกรวมทั้งแกงเผ็ดชนิดต่างๆ รสชาติก็เป็นเช่นนี้

 
 ...จุดมุ่งหมายของทุกคนที่มาเสียมเรียบก็คือ นครวัด นครธม...

 
 คนที่ไปครั้งแรกอาจสับสนได้ระหว่างปราสาทหินทั้งสองแห่งนี้
แต่ถ้าสรุปได้ง่าย ๆ คือ "นครวัด"
ไม่ใช่เมืองแต่คือปราสาทที่เป็นศูนย์กลางของเมือง"ยโสธรปุระ"หรือ
"เมืองพระนคร"เป็นศาสนสถาน ส่วน"นครธม"เป็นเมืองหลวงบางครั้งเรียก
"เมืองพระนครหลวง" และมี "ปราสาทบายน"
เป็นศูนย์กลางของเมือง ฉะนั้นจึงไม่มีปราสาทอย่างที่หลายคนเข้าใจ นครธมนั้น
สร้างเลียนแบบจักรวาลโดยมีปราสาทบายนเป็นศูนย์กลางจักรวาล
สัญลักษณ์ของการเชื่อมระหว่างโลกมนุษย์กับสวรรค์
กำแพงพระนครเปรียบเหมือนภูเขาที่ล้อมเขาพระสุเมรุ
และคูน้ำล้อมรอบก็เปรียบเหมือนมหาสมุทร

 
 สิ่งที่สร้างความอัศจรรย์ใจและตกตะลึงในความยิ่งใหญ่สำหรับทุกคนที่ไปจน
ต้องเหลียวหลังหรือหยุดเพ่งพินิจมองก็คือ ราวสะพานจำหลักเป็นรูปพญานาค
มีอสูรฉุดอยู่ข้างละ 54 ตน
เป็นภาพเรื่องราวการกวนเกษียณสมุทรเพื่อได้น้ำอมฤตมาดื่มกินเพื่อความเป็น
อมตะ อสูรนั้นตัวใหญ่มากตาโปน และปราสาทบายน ทุกปรางค์มียอดพรมพักตร์ใหญ่ๆ
ทั้ง 4 ทิศ ไม่ว่าจะเหลียวแลไปทางไหนก็พบแต่หน้าทำด้วยศิลาขนาดใหญ่เท่าตึก
หลังจากตะลึงไปสักพักถ้ามองดีๆ
ก็จะเห็นว่าทุกใบหน้ามีรอยยิ้มอย่างสงบมีเมตตา 
หลายคนเห็นว่าน่าจะอัศจรรย์ไปยิ่งกว่านครวัด

  
หลังจากเที่ยวชมนครธมคณะคาราวานก็ไปเที่ยวนครวัดซึ่งอยู่ไม่ไกลกันในตอนบ่าย
แก่ ซึ่งเป็นเวลาที่ถูกต้องเพราะนครวัดหันทางทิศตะวันตก ทำให้ไม่ร้อนเกินไป
ความเพลิดเพลินที่ได้เที่ยวชมนั้นส่วนหนึ่งคือภาพสลักนางอัปสร
มีผู้บอกว่าถ้าดูให้ดีๆ
ใบหน้าจะไม่ซ้ำกันเลย มีทั้งเก่าและใหม่ที่เพิ่งบูรณะ

 
 หลังจากนั้นขบวนคาราวานก็ขับรถเข้าสู่พนมเปญ

นครโฮจิ
มินห์

   คนไทยเรียกว่ารู้จักเวียดนามอย่างดีโดยผ่านอาหาร
ดูจากความนิยมร้านอาหารเวียดนามในกรุงเทพฯ
โดยเฉพาะคนที่รักสวยรักงามเพราะมีผักมากกินแล้วไม่อ้วน
โฮจิมินห์นั้นเรียกได้ว่าอุดมสมบูรณ์เพราะอยู่ใกล้ดินแดนสามเหลี่ยมปากแม่
น้ำโขง ตลาดสดที่นี่จึงมีของสดให้เลือกซื้อกันอย่างละลานตา

  
สำหรับนักท่องเที่ยวที่มีเวลาจำกัดและอยากเลือกชิมอาหารเวียดนามทั่วทุกภาค
ขอแนะนำว่าต้องไปร้าน quan an ngon (อ่านว่า กวั่นงอน) แปลว่า ร้านอร่อย
ร้านนี้รวบรวมอาหารอร่อยจากทั่วทุกภาคลักษณะร้านจัดเหมือนระเบียงอาหารใน
บ้านหลังใหญ่
ขอแนะนำวิธีการสั่งอาหารว่าควรแทรกตัวไปเดินดูให้ทั่วเพราะคนจะแน่นมาก
พร้อมกระดาษ ดินสอ
ชอบจานไหนก็ให้คนขายหรือพนักงานออกเสียงแล้วจดให้หรือไม่ก็จดเป็นภาษาไทย
แล้วมาสั่งที่โต๊ะ ดูจะเป็นวิธีเดียวที่จะได้ทดลองกินจานที่ชอบ
มีอาหารทั้งหมดกว่า 100 ชนิด ทั้งก๋วยเตี๋ยว ขนมจีน ยำ อาหารย่าง ของหวาน
อร่อยและไม่ผิดหวัง
แต่ควรจองก่อนหรือรีบไปก่อนเที่ยงเพราะคนจะแน่นออกมาหน้าร้าน

 
 ตลาดที่น่าช้อปปิ้งที่สุด คือ ตลาดเบ็นถั่น คล้ายๆ
กับตลาดอ.ต.ก.บ้านเรา ไปที่นี่แห่งเดียวช็อปปิ้งได้ครบทุกอย่างทั้งของสดของ
แห้ง ของที่น่าซื้อนั้นมีหลากหลายมาก
เริ่มต้นจากของกินที่นิยมซื้อฝากกันมากที่สุด คือ ถั่วพิตาชิโอ
มะม่วงหิมพานต์ กาแฟมีหลายรสหลากหลายให้เลือก ราคาไม่แพง
อาหารทะเลแห้งอย่างเช่น เห็ดหอมแห้ง เปาฮื้อกระป๋องบ้านเราขายประมาณ 2400
บาท ที่นี่ขาย 1200 บาทถูกกว่าครึ่ง เอ็นหอยนางรม ฯลฯ
ถ้าคนชอบผ้าปักที่นี่จะมีถุงผ้าเล็กๆ ไว้ใส่ของกระจุกกระจิกปักลวดลายสวยงาม
รวมไปถึงกระเป๋าถือผ้าฝ้าย ผ้าไหม ปักลวดลายด้วยเลื่อม ลูกปัด สไตล์เก๋ไก๋
ที่เราเห็นอยู่ในบ้านเราล้วนแล้วแต่สั่งตรงมาจากที่นี่ทั้งนั้น
ขายกันอย่างเป็นล่ำเป็นสันทั้งในร้านขายส่งและตามตลาด
ใครที่ชอบห้ามพลาดเพราะราคาถูกจริงๆ

  
ใครที่เคยคิดว่าโฮจิมินห์นั้นไกล
อาจจะต้องเปลี่ยนใจในยุคปัจจุบันที่การเดินทางไปได้หลากหลายเส้นทาง โดย
เฉพาะเดินทางด้วยรถและกลับเครื่องบิน ที่เพียงพริบตาก็ลัดฟ้าถึงกันแล้ว 





Free TextEditor







































































































Create Date : 05 พฤษภาคม 2553
Last Update : 5 พฤษภาคม 2553 20:26:07 น. 0 comments
Counter : 428 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tongsehow
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add tongsehow's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.