กรรมทันตา อนณ 093-149-9564 tobeteam@yahoo.com Line : anon.nisarut
Group Blog
 
All Blogs
 

กรรมทันตา มุมมอง

มุมมอง

สมัยก่อนโน้น เวลาที่ผมจิตตก ห่อเหี่ยวกลุ้มอกกลุ้มใจ
ผมชอบหนีไปดอนเมือง...ไปดูเครื่องบิน
ดูมันบินขึ้น บินลง พยายามไปดูให้ใกล้ที่สุด
ดูมันมีพลัง มีแรง มีความทันสมัยก้าวหน้า
ดูไปนึกไป...นึกถึงพี่น้องตระกูลไรท์
เป็นแค่ช่างซ่อมจักรยานแท้...แท้.
แต่เขามีความฝัน มีความคิดที่จะทำให้ให้ได้...บินให้ได้
พยายามคิด พยายามทำ ...ทั้งๆ ที่ใครๆ ก็หัวเราะเยาะ
แต่พวกเขาไม่สนใจ...เรื่องของกรู
แล้วเป็นไง สุดท้ายสำเร็จจนได้...
นอกจากนั้น ก็ดูบรรยากาศสนามบิน ดูคน...มันคึกคักดี

เวลาที่ไปสำเพ็ง หรือ ตลาดไท อะไรพวกนี้...ผมชอบนะ
มองไปรอบๆ ตัว...มีแต่คนขยัน มีแต่คนกระตือรือล้น สู้ชีวิต...สู้ทุกวัน
ถึงแม้หลายคนเป็นแค่ลูกจ้าง...แต่เชื่อเหอะ คนที่เอาจริงเอาจังน่ะ
ไม่กี่ปี คนนั้นก็กลายเป็นเถ้าแก่ ถึงแม้จะไม่ได้ค้าขายที่นี่
แต่ก็ไปเป็นเถ้าแก่ที่อื่น
หรือลองดูพวกที่รถเข็นมาขายผลไม้ ขายข้าวไข่เจียว...
อย่าดูแคลนคนพวกนี้นะ...จะบอกให้
รายได้ไม่เลวทีเดียว จบปริญญาตรียังหาเงินสู้พวกเขาไม่ได้หร๊อก..ก....
เคยเห็นพวกแขกที่มาขายโรตีมั๊ย...โคตรขยัน
ขายมันทู๊ก..ก...วัน...ทุกวัน
แถมยังรู้จักประหยัด อดออม แต่ละเดือนส่งเงินกลับบ้านเป็นหมื่น...เป็นหมื่น

สมัยเป็นผู้จัดการ ที่นิสสัน สำนักงานใหญ่
ผมมีลูกค้าคนหนึ่ง ชื่อ คุณอาภรณ์
ขายไก่ทอดหาดใหญ่ แถว ๆ ตลาดสามย่าน...เป็นรถเข็น
ตอนเจอกันครั้งแรก ผมก็แวะไปซื้อกินตอนหิว...อู๊ย...อร่อยมาก
เลยเดินไปชมเค้าตรง ๆ ว่าทำไมอร่อยอย่างนี้...อร่อยจริง จริ๊ง
เชื่อมั๊ย เค้าทำหน้าหยิ่ง ๆ แกมภูมิใจ แบบว่า...มันแน่อยู่แล้ว
พอสนิทกัน ก็ถามไปเรื่อยถึงได้รู้...
ตัวสามีเป็นเจ้าหน้าที่ในจุฬา แต่จะมาช่วยตอนเที่ยง กับเย็นหลังเลิกงาน
ภรรยาก็มาขายทั้งวัน อาทิตย์ละ 6 วัน
สองคนผัวเมีย ช่วยกันมาเกือบ 10 ปีแล้ว
พอซื้อกันบ่อย ๆ เข้า เค้าก็ถามว่า...เซฟิโร่ตัวท๊อป...เท่าไหร่
ผมก็ หือ...ตัวท๊อปเลยเหรอ...ล้านกว่านะ
สรุป ซื้อให้เป็นกำลังใจสามีซะ 1 คัน ดาวน์แค่ 500,000 เอง
แถมยังบอกซื้อสดก็ได้ แต่กลัวสามีรู้ว่าเม้มเงินไว้เยอะ
ไปดูบ้านเค้านะ...บ้านเดี่ยว 100 ตรว. ด้วยแหละ
แต่ก็น่ารวยหรอกนะ...ตื่นแต่เช้ามืด ช่วยกันทำไก่
พอสายก็ไปตั้งร้าน...แล้วขายไปจนค่ำทุกวัน...ทุกวัน...ผลัดกัน

ผมว่าเราต้อง...จดจ่อ...ให้ถูกเรื่องนะ
อย่ามัวแต่โทษตัวเอง หรือน้อยใจในโชคชะตา...เสียเวลาเปล่า
ถ้าคุณยัง...มีมือ...มีเท้า...มีสติสัมปชัญญะ...ครบถ้วน
ถึงแม้จะมีหนี้สิน มีปัญหาใหญ่แค่ไหน
ผมแนะนำให้ไป ตรงข้ามวัดชลประทาน ปากเกร็ด
จะมีบ้านเด็กพิการซ้ำซ้อน...พิการซ้ำซ้อน...นะ
ลองไปดู แล้วจะรู้ว่า...เรานี่โคตรโชคดีเลย
พวกเขาเกิดมา ก็พิการปัญญาอ่อนแล้ว...เลือกไม่ได้
พิการอย่างเดียวยังไม่พอ บางคนพิการถึง 2 -3 อย่าง ในคนเดียวกัน
ไปดู ไปสัมผัส แล้วทำบุญบริจาคซักหน่อยด้วย
ที่สำคัญ อยากให้ช่วยกันให้กำลังใจ...เจ้าหน้าที่...ที่นั่นด้วย
พวกเขาไม่ได้อยู่เพราะเงินอย่างเดียว...แต่เสียสละอย่างสูง
เกิดมาชีวิตหนึ่ง ต้องไปดูให้ได้นะ...แล้วจะเข้าใจ
ผมไหว้ละ...ไปดูให้ได้นะ

ปัญหาที่เจออยู่ และยังแก้ไม่ตก...
อาจเป็นเพราะตั้งสติไม่อยู่ หลายสิบ หลายร้อยเรื่อง มันวิ่งวุ่นอยู่ในหัว
ก็ต้องให้ไป...ปฏิบัติฯ กรรมฐาน...ให้ได้ซัก 7 วัน
หรืออย่างน้อย 3 วัน...หาครูบาอาจารย์ที่ดี..ดี
บางคนบอก อ่านหนังสือ แล้วหัดเองก็ได้...
ผมขอถามหน่อยนะ
ตอนคุณหัดว่ายน้ำ...หัดขี่จักรยาน...หัดขับรถ...ครั้งแรกน่ะ
มีครูสอน หรืออ่านแล้ว หัดเองเหรอ...

คุณต้องเปลี่ยนที่ยืน เปลี่ยนมุมมองซะใหม่...ไม่งั้นไม่รอดแน่
ทำกรรมฐาน อยู่กับบ้านน่ะ...ไม่มีทาง
เพราะมันวุ่น มันยุ่งไปหมด...
ต้องหนีไปหาที่สงบ ตัดทิ้งทุกอย่าง แค่ 3 วัน 7 วันเท่านั้น
ตั้งสติ...แล้ว เริ่มต้นใหม่

เมื่อตะกี้พูดถึง ขายข้าวไข่เจียว...
ผมชอบเพลง...นายไข่เจียว ของวงเฉลียง ม๊าก...มาก
ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ยิน ดูเหมือนหลายสิบปีแล้ว
ความหมายดีมาก ผมน่ะรู้ซึ้งก็อีตอนไปขายข้าว ที่ตลาดนัดสวนจตุจักร
ไปหาอ่านได้จาก...กรรมทันตา จตุจักร...นะครับ
คนเราถ้าตั้งอกตั้งใจทำอะไรซักอย่างแล้ว ก็เอาดีได้
เป็นเครื่องมือทำมาหากินได้ เลี้ยงครอบครัวได้แน่...อย่าท้อ


วันนี้เอาเนื้อเพลง มาให้พิจารณากันนะครับ...ดีมาก...มาก
หาฟังกันนะ...

เพลง : นายไข่เจียว
ศิลปิน : เฉลียง
เนื้อเพลง : คำร้อง - ประภาส ชลศรานนท์ ต้นตอจาก สรวิศ ณ นคร
ทำนองและเรียบเรียง - ทรงวุฒิ เจริญเรืองฤทธิ์

เขาหิวครั้งใด ฉันเดินเข้าครัว
เขาหิวเขาทำ ฉันนั้นทำเอง
เขาหิวเขาทำ ทำเป็นอย่างเดียวไข่เจียวนั้นง่ายทำบ่อย
แค่เพียงน้ำมันวางลงบนเตา รอไฟให้ร้อน
เหลืองไข่เหลืองและหอมกรุ่น ฟูฟูดูหน้ากิน
อาหารแสนโปรด ฉันทำไข่เจียว
เขาทำกินเอง ฉันนั้นทำเอง
แล้วชักแล้วชวน ใครชิมใครชม ใครดมก็ชมกันทั่ว
แค่เพียงน้ำมันวางลงบนเตา รอไฟให้ร้อน
ถึงกระนั้นก็ทุกคนทำเป็นนะ ไข่เจียว
* ขอถาม ขอถาม ขอถามเขาเขาเติมอะไรใส่
ฉันเติมอะไรลงไปในไข่
เขาตอบ เขาตอบ ใส่ความตั้งใจนั้น
และแสนสำคัญจริงใจกับไข่
ชีวิตเขานั้น ฉันทำอย่างเดียว
เขาฝนเขาฝึก ฉันฝนทุกวัน
ร้านเล็กนิดเดียว ทำเพียงไข่เจียวอย่างเดียวก็มีคนสั่ง
แค่เพียงน้ำมันวางลงบนเตา รอไฟให้ร้อน
ทุกที่ทุกแห่งรู้จัก คนดัง...นายไข่เจียว
(ซ้ำ * )
ร้านเขาร้านใหญ่ ขายเพียงไข่เจียว
รับทรัพย์ทุกวัน และรับรางวัล
เขาสอนนักเรียน เปิดเป็นโรงเรียน โรงเรียนสอนการเจียวไข่
แค่เพียงน้ำมันวางลงบนเตา รอไฟให้ร้อน
ฉันต้องรับต้องรับมา ปริญญาทางไข่เจียว
วางลงบนเตา รอไฟให้ร้อน
แม้สิ่งนั้นจะนิดเดียว เดียว เดียว เดียว เดียววววว


อนณ 089-995-9377
จากคุณ : tobeteam
เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 53 18:01:37




 

Create Date : 04 มกราคม 2554    
Last Update : 4 มกราคม 2554 23:24:51 น.
Counter : 948 Pageviews.  

กรรมทันตา ชัยชนะ

ชัยชนะ

ระยะนี้มีแต่เรื่องกีฬา ทำให้นึกถึงนักกีฬายกน้ำหนัก มาก...มาก
ไม่รู้เป็นอะไร...ผมนับถือพวกเค้าจริงๆ
ไม่ว่าจะเป็นชีวิตจริง แนวคิด การฝึกซ้อม ยิ่งศึกษายิ่งเคารพรัก
แต่ก่อนชอบ ปวีณา ทองสุข...น้องแบ๊น วันดี คำเอี่ยม...
โดยเฉพาะ...อุดม พร พลศักดิ์ หรือน้องอร สู้โว้ย
ผมเนี่ยได้ดูตอนที่ น้องอร ร้อง...สู้โว้ย แล้วมันแปล๊บเข้าไปในดวงจิต
ฟังแล้ว ฮึกเฮิม มีกำลังใจสู้ความยากลำบากอีกเยอะเลย..ย....

แต่พอปีต่อมา ได้ฟังเรื่องของ...น้องเก๋ ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล
นักยกน้ำหนักหญิง อีกคนยิ่งทึ่ง
เธอหัดเล่นกีฬายกน้ำหนัก ตั้งแต่ปี 2537
และฝึกหัดอย่างหนัก...ทุกวัน...ทุกวัน
กว่าจะติดทีมชาติไทย ก็ปี 2544
ก็ยิ่งฝึกฝนอย่างหนัก เก็บเกี่ยวการแข่งขัน รางวัลเล็ก รางวัลน้อย มาเรื่อย
ก็ได้เงินมาจุนเจือครอบครัว และพยายามต่อไป...ต่อไป ทุกวัน...ทุกวัน

จนเมื่อปี 2550 หรือ 4 ปีก่อน เกิดอุบัติเหตุจากการแข่ง...ข้อศอกขวาหลุด
เธอเล่าให้ฟังว่า
"ตอนนั้นเหมือนโลกมืดไปหมด แทบเสียคน ทุกอย่างเสียศูนย์ไปหมด
ถึงขั้นตัดสินใจเลยว่าจะเลิกเล่น
แต่พอนึกถึงพ่อแม่ ทำให้รู้ว่าเรามีหน้าที่ที่ต้องทำ"

การบาดเจ็บ มันทรมานเจ็บปวดแสนสาหัส ถ้าเป็นเราคงเลิกไปแล้ว
แต่เธอกลับลุกขึ้นสู้อีก...สู้อีก...สู้อีก ไม่ย่อท้อ
และยังฝึกซ้อมทั้งๆ ที่ใส่เฝือก
ออกกำลังแขนยังไม่ได้...ก็ออกกำลังขาไปก่อน.......สุดยอด
ทั้งรักษาตัว ทั้งฝึกซ้อมไม่เคยหยุด ทุกวัน ทุกวัน
เส้นทางสู่ความสำเร็จไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
ไม่ยอมพ่ายแพ้...ยังมุมานะ บากบั่น ด้วยจิตใจที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเหล็กที่เธอยกซะอีก

แล้วผลของความทรหด อีก 1 ปี 2551 ต่อมาเธอคว้า...เหรียญทองโอลิมปิก ครั้งที่ 29
ในรุ่น 53 กิโล แต่ยกได้ ร่วม 100 กิโล...2 เท่าของน้ำหนักตัว เลยนะ
ล่าสุด...ได้เหรียญทองแดง ในเอเชื่ยนเกมส์
แต โอ้โฮ..เธอยกได้ถึง 123 กิโล เชียวนะ...

เป็นไงบ้างครับ เธอคนนี้ถ้าผมเจอจังๆ ...อยากจะยกมือไหว้ซะที
ใครที่ท้อใจ หมดกำลังใจก็ลองหาเรื่องแบบนี้มาศึกษาให้สำนึก
หลายเรื่องที่เราว่าแย่ ว่าจนหนทาง ไม่รอดแล้ว...
ที่จริง มันอาจจะแค่เรื่องขี้หมาก็ได้
ขอให้หันมาสู้กับมัน...อย่างจริงจัง และ มีสติ
คนเรา ท้อ ได้แต่ ถอยไม่ได้
พักได้ แต่ แพ้ไม่ได้

ลองกลับมาหาแรงบันดาลใจดูซิ...ทุกวันนี้เราทำเพื่อใคร
อย่างผม บอกตรง ๆ ตอนที่ท้อ พอหันไปเห็นภรรยา เห็นลูก...ก็ลุกขึ้นสู้ อีกครั้ง...อีกครั้ง
เหนื่อยอ่อนนัก ก็หันไปกอดภรรยา กอดลูก...แล้วสู้กันใหม่
ไม่มีใครช่วยเราได้หรอก...นอกจากตัวเราเอง
อัตตาหิ อัตตาโน นาโถ...ตนเท่านั้น ที่เป็นที่พึ่งแห่งตน
โลกนี้มันมีกฏธรรมชาติอยู่นะ...ถ้าไม่สู้...ก็ตาย

ผมยังจำได้ดี ตอนที่มีหนี้เยอะ ๆ ผมก็ทู๊ก.ก..ทุกข์...
พยายามคิดว่า ทำยังไงให้หายทุกข์…สุดท้ายได้มาคำหนึ่ง
...คนเราล่วงทุกข์ได้ เพราะ...ความเพียร...
ผมจำแค่นั้น แล้วลุยเลย...ลุยแหลก
ก็เอาตัวรอดมาได้
อยากจะฝากอีกคำให้จำไว้นะครับ...
...จดจ่อกับอะไร สิ่งนั้นก็ขยายผล...
ที่สำคัญต้องจดจ่อให้ถูกเรื่อง มีทุกข์เพราะหนี้ อย่าจดจ่อกับหนี้
ให้จดจ่อกับวิธีสู้หนี้ ความขยัน...แล้วจะเห็นผล

ผมชอบฟังเพลง...แต่ไม่ค่อยได้ฟังเท่าไหร่
แถมเครื่องเสียงที่บ้านก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่
แต่บางเพลงได้ยินแล้วมันติดอยู่ที่หัวใจ...
ยิ่งหลังๆ นี่ มักจะโดนใจมากก็เพลงของ...คุณบอย โกสิยพงษ์
อย่างเพลง...ชัยชนะ...
ยิ่งท่อนฮุค ที่คุณสันติ ลุนเผ่ ร้องมันได้อารมณ์ยิ่ง
ผมถึงกับใ้ห้ลูกช่วยตัดเอาทำเป็น...เสียงเรียกเข้า ของโทร.มือถือ
ฟังแล้วคึกทุกครั้ง

เพื่อเป็นกำลังใจ อยากฝากเพลงนี้ให้ลองไปพิจารณาดูนะครับ

เพลง ชัยชนะ
ร้องโดย ป๊อด โมเดิร์นด็อก
ร่วมด้วย สันติ ลุนเผ่

เส้นทางที่เธอเดินอยู่นั้น ฉันรู้ว่ามันไม่ได้ง่าย
ไม่รู้ต้องล้มต้องเหนื่อยล้า ต้องพบปัญหาอีกเท่าไร
จนกว่าจะเจอจุดหมาย ที่อาจจะไกลแสนไกล
และไม่รู้เมื่อไรถึงจะสุดทาง

วันที่เริ่มต้นจนวันนี้ทุ่มเทชีวิตมาเท่าไร
ต้องเสียใจและต้องผิดหวังมีสักกี่ครั้งที่เริ่มใหม่
กว่าจะเจอจุดหมาย ที่อาจดูไกลแสนไกล
ไม่รู้อีกนานแค่ไหนถึงจะสุดทาง

จึงอยากจะขอส่งเพลงนี้แทนพลัง
ว่าอย่ากลับหลังขอให้เดินต่อไป
สักวันต้องถึงจุดหมายที่เธอตั้งใจเอาไว้
เพื่อให้รู้ว่า เราจะชนะตัวเองได้ไหม

กว่าเธอจะเดินถึงจุดนี้ต่อสู้มาแล้วนานเท่าไร
และทุกๆ ครั้งที่ผ่านพ้นก็เพราะอดทนใช่หรือไม่
กว่าจะเจอจุดหมาย ที่อาจดูไกลแสนไกล
และไม่รู้เมื่อไรถึงจะสุดทาง

จึงอยากจะขอส่งเพลงนี้แทนพลัง
ว่าอย่ากลับหลังขอให้เดินต่อไป
สักวันต้องถึงจุดหมายที่เธอตั้งใจเอาไว้
เพื่อให้รู้ว่า เราจะชนะตัวเองได้ไหม

อย่ากลัวแม้ว่าต้องเจอกับทางที่ดูมืดมน
สักวันเธอจะผ่านพ้น
หนทางที่แสนไกลจะยากเย็นสักเท่าไร

จึงอยากจะขอส่งเพลงนี้แทนพลัง
ว่าอย่ากลับหลังขอให้เดินต่อไป
สักวันต้องถึงจุดหมายที่เธอตั้งใจเอาไว้
เพื่อให้รู้ว่า เราจะชนะตัวเองได้ไหม

และเพื่อให้รู้ว่า ชัยชนะนั้นคืออะไร


อนณ 089-995-9377
จากคุณ : tobeteam
เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 18:27:04




 

Create Date : 04 มกราคม 2554    
Last Update : 4 มกราคม 2554 23:22:37 น.
Counter : 1140 Pageviews.  

กรรมทันตา สู้หนี้

สู้หนี้

ตอนนี้ต้องบอกก่อนนะว่า...ความคิดเห็นของ กระผม แต่ผู้เดียว...นะ

ไม่รู้ผมทำอะไรลงไป...มีคนที่ทุกข์เพราะเป็นหนี้โทร.หาผมหลายคน
ส่วนใหญ่ถามว่าจะหักดิบ หนีความทุกข์จาก หนี้สิน ยังไงดี...
และอยากได้แบบ...เร่งด่วน...ซะด้วย แน่ะ
เลยเอางี้นะ เรามาคุยเรื่อง...สู้กับหนี้...กันดีกว่า
ส่วนใหญ่มันทุกข์เพราะหาใช้เขาไม่ทัน

ผมมองว่าคนที่กำลังอยู่ในความทุกข์จาก หนี้ ก็เหมือนตกในบ่อทรายดูด
ยิ่งดิ้น ยิ่งแย่ ต้องตั้งสติหาทางรอด หาคนช่วย
หรืออย่างน้อยก็อย่าเพิ่งให้มันดูดจมลงไปเร็วกว่าเดิม...
คงต้องอาศัย บุญกรรม แล้วละครับ
ขอแนะนำ...บุญฉุกเฉิน

สิ่งแรกที่ต้องทำ...หาต้นทุนบุญกุศล ซะก่อน มากน้อยอย่างไร ก็ดีกว่าไม่มีเลย
แต่คนที่กำลังมีหนี้สินล้นพ้นตัว...คงไม่มีเงินไปทำบุญ ทำสังฆทาน หรือปล่อยนกปล่อยปลา แน่ๆ
คนที่ต้องการบุญอย่างฉุกเฉิน...ผมขอแนะนำดังนี้
รีบไปบริจาคเลือดซะก่อนเลย อันนี้ คุณลุงสำเนียง หมอดูที่ผมเคารพยิ่งสอนไว้
ถ้าดวงตก ให้ไปบริจาคเลือด เพราะเป็นการทำบุญด้วย เลือด เนื้อ ของเรา ถือเป็นบุญที่ให้ผลรุนแรงอย่างที่สุด
ยิ่งคนที่กลัวเข็ม ยิ่งดียิ่งได้บุญมาก
แต่หากมีเหตุให้บริจาคไม่ได้...ก็หาคนไปบริจาคแทนซะ
ด้วยการชักชวน อำนวยความสะดวก พาไปรับไปส่ง...ก็ยังได้บุญโขอยู่
ไม่ต้อง สภากาชาด ก็ได้
โรงพยาบาลใกล้ๆ บ้านก็น่าจะรับบริจาคทั้งนั้น

มีบางคน กรรมมาขวางบริจาคเลือดไม่ได้จริงๆ ก็ต้องหาทางอื่นละ
อธิษฐานมังสวิรัติ ทุกวันพระ หรือติดต่อกัน 3 วัน 7 วัน ก็ได้บุญโข
ลองไปอ่านเรื่องเก่าๆ...กรรมทันตา มังสวิรัติ
หลบไปตั้งสติที่วัด ไปล้างส้วม ล้างห้องน้ำ กวาดวัด ช่วยทำกับข้าวก็ดีนะ
ขออย่างเดียว...ให้ตั้งจิตเป็นกุศล ตั้งใจทำจริงๆ ถึงจะได้ผล
โดยเฉพาะ วัดที่มีผู้ปฏิบัติธรรม ยิ่งได้อานิสงส์มาก
ผมเอง ถ้าว่างก็ชอบไปถวาย...ไวตามิ้ลค์...กับผู้ปฏิบัติกรรมฐาน โดยเฉพาะที่วัดอัมพวัน
ผมจะเอาเงินไปฝากไว้กับ คุณแม่ค้าที่ขายเครื่องดื่มในโรงอาหารน่ะครับ
มากน้อยแล้วแต่ 100 – 1,000 เขารวมๆ ไว้พอได้เยอะก็ถวายซักที
หรือซื้อน้ำหวาน เฮลบลูบอย รากบัว ไปถวายเป็นน้ำปานะที่วัด สังฆทาน
ได้บุญแรงนะครับ เพราะผู้ตั้งใจปฏิบัติกรรมฐานจะสวดสัพพีฯ แผ่กุศลให้เจ้าภาพทุกวัน

เมื่อได้บุญมาหนึ่งก้อนแล้ว...ให้อธิษฐาน
ขอบุญกุศลที่เราได้กระทำด้วย เลือด เนื้อ ในครั้งนี้ส่งผลให้ได้ไปปฏิบัติฯ กรรมฐาน 7 วัน
แล้วรีบหาทางไปถือศีล ปฏิบัติฯ ในวัดที่ดี..ดี หน่อย เคร่งๆ นะ
แนะนำ...วัดอัมพวัน สิงห์บุรี...วัดบุญญาวาส ชลบุรี รับรองบุญกุศล...แรง..ง...ทันตาเห็น
จากนั้นก็ต้องถือศีลห้าให้เคร่งครัด แล้วเทวดาฟ้าดินจะมาช่วยเองแหละ
อย่าดูถูก...ศีลห้า...นะครับ เรื่องง่าย...ง่าย นี่แหละ
ขอให้จริงจัง เคร่งครัด...
เคยได้ยินมาว่า ได้บุญมากกว่า สร้างวัดถวายทั้งวัด...ไม่รู้จำมาจากไหน
ศีลห้า เป็นทั้งบุญกุศล เป็นทั้ง...เกราะเพชร...ป้องกันเคราะห์กรรมสารพัด

พูดถึง เจ้ากรรมนายเวร
ไม่ต้องไปทำพิธี แก้กรรม ล้างกรรม ถอดกรรม สแกนกรรม ให้วุ่นวายไป...ดีไม่ดีจะโดนหลอกเอา
เจ้ากรรมนายเวร ถ้ามี เขาก็เดินตามคุณ หรือขี่คอคุณเหมือนในเรื่องชัตเตอร์น่ะแหละ
แค่คุณตั้งจิตอธิษฐาน หรือลงทุนพูดออกมาดังๆ ก็ได้ ว่า
ต่อไปนี้ จะเคร่งครัดในศีลห้า...จะตั้งใจสวดมนต์...จะปฏิบัติธรรม ทำกรรมฐาน...
เพื่ออุทิศส่วนกุศลชดใช้ให้ ขอได้โปรดให้โอกาสเราด้วย...
แค่นี้ทั้งเจ้ากรรมนายเวร ทั้งเทวดา ก็เปิดทางให้เราทำความดี แถมยังหาช่องทางทำมาหากินให้ด้วย
ที่สำคัญ...พูดแล้ว อธิษฐานแล้วต้องทำ ถ้าขืนไม่ทำโดนแน่...คราวนี้หนักแน่

เดินเรือยังต้องมีเข็มทิศ...เดินชีวิตก็ต้องมีจุดหมาย
เราต้องรักษาศีลห้า เพื่อปรับพื้นฐานชีวิตให้ถูกต้อง ถูกทาง เข้มแข็ง มั่นคง
ต้องสวดมนต์ทุกวัน เพื่อให้ระลึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดี
และเป็นการปรับจิตให้เข้มแข็งขึ้น สงบเย็น...มี สติ ขึ้นมา
จากนั้นก็ต้องปฏิบัติฯ กรรมฐาน เพื่อให้จิตสงบ นิ่ง มีพลัง
...ละ ลด ปลด วาง...
ที่สำคัญ เราจะได้สติ ได้ปัญญา ได้เห็นทางแก้ปัญหา

เมื่อปฏิบัติฯ จนจิตใจสงบ มีพลังแล้ว...ค่อยหยิบเอาปัญหาที่มีอยู่ออกมา
เอามาตีแผ่ แบมันออกมาตรงหน้า...แยกแยะ ชำแหละมัน
หนทางแก้ปัญหา ก็จะผุดโผล่ออกมา
แต่อย่าไปคาดหวังว่า มันจะหมดสิ้นในทันทีทันใจหรอกนะ...เป็นไปไม่ได้
สร้างหนี้สะสมมาตั้งนาน กว่าจะล้างมันหมด...นานกว่า
แต่ก็ต้องทำ ต้องใช้เขาให้หมด

สิ่งแรก พระพุทธเจ้าท่านบอก...ทุกอย่างมันต้องมีเหตุ แล้วดับที่เหตุ
เอามันมาตีแผ่ก่อน
มันเป็นหนี้จากอะไร ทำไม...ถ้ามันเป็นหนี้เพราะจำเป็น เช่นลูกป่วย อุบัติเหตุ…ถ้าแบบนี้ก็เห็นใจ เข้าใจได้
แต่ถ้าเป็นหนี้เพราะ การพนัน ติดผู้หญิง ฟุ่มเฟือย โง่ใช้เงินเกินตัวอย่างผม...ก็สมน้ำหน้า
แต่เมื่อรู้แล้วก็สาบานว่าไม่ทำอีก ก็แล้วกัน
อย่างที่ผมบอกในตอนที่แล้ว...เอาทุกอย่างลงกระดาษ
เขียนมันออกมาให้ชัดเจน
ฝั่งซ้าย รายการหนี้...เท่าไหร่ ต้องจ่ายวันที่เท่าไหร่ กี่งวด ดอกเบี้ยเท่าไหร่ เป็นหนี้ใคร
เขียนให้หมดอย่ากั๊ก ถ้าไม่เขียนมัวแต่นึก...ไม่สำเร็จ
ฝั่งขวา รายได้...มีกี่ทาง เท่าไหร่
เมื่อหักค่ากินอยู่ แบบไม่ฟุ่มเฟือยแล้ว...เหลือเท่าไหร่
เช่น รวมหนี้ได้ 300,000
รายได้ 12,000 หักค่ากินอยู่โดยไม่ฟุ่มเฟือย 7,000 ...เหลือ 5,000
ถ้าคิดง่ายๆ ต้องจ่าย 60 เดือน หรือ 5 ปี ถึงหมด
อีทีนี้...ก็เดินไปบอกเจ้าหนี้ให้เข้าใจต้องตรงกัน...ว่าเป็นดังนี้
รับรองได้ เจ้าหนี้เต้นเป็นเจ้าเข้า

อ.สุวรรณ วลัยสเถียร บอกว่าให้รีบจ่ายหนี้ที่ดอกแพงที่สุดก่อน
ด้วยวิธีการ ไปหาเงินก้อนที่ดอกถูกกว่ามาจ่าย
อาจจะต้องกู้ธนาคาร ขายทรัพย์สิน หรืออย่างไรก็แล้วแต่
มีทรัพย์สินอะไรบ้าง...รถ บ้าน ขายเอาเงินใช้หนี้ซะ
หรือไม่ก็เอาไปหักหนี้ซะเลย...
แล้วเราก็เริ่มต้นใหม่...มีชีวิตใหม่ที่เรียบง่าย ไม่หรูแต่ไม่มีหนี้

สังคมที่เราอยู่ ถ้าไม่ไหวอับอายเขา...ก็ออกมาซะ หาที่ใหม่
ถ้ายังคิดเหมือนเดิม...ทำเหมือนเดิม...ชีวิตก็ติดลบ เหมือนเดิม
ต้องเปลี่ยนวิธีคิด...วิธีทำซะใหม่ แล้วลองดู...ไม่ดีก็ลองใหม่อีก
ถ้าไม่ใช่ ก็คิดใหม่ ทำใหม่อีก...ไม่เห็นเป็นไร
แต่ถ้านิ่งอยู่อย่างนี้...เอาแต่พร่ำเพ้อ ตัดพ้อต่อว่า แล้วจะดีขึ้นมั๊ย

วิธีที่แน่นอน แต่ได้ผล คือ
ลดรายจ่าย...เพิ่มรายได้
อย่าไปบ้าซื้อหวย เพราะหวยที่จริงมันมาจาก
ห. หายนะ...ว. วอดวาย…ย. ย่อยยับ
รวมแล้วแปลว่า...ย่อยยับวอดวายหายนะ ไม่มีเหลือหลอ

คุณต้อง ละ...ลด...ปลด...วาง กินน้อยใช้น้อย เลิกเรื่องเหลวไหลทุกอย่าง
เคยเล่าให้ฟังแล้ว ตอนที่ยังมีหนี้ ผมยังเอาข้าวไปกินที่ทำงานเลย
ขนาดเป็นถึงผู้จัดการแล้ว ใครจะว่ายังไง ไม่สนใจ...เรื่องของกรู
เคยกินก๋วยเตี๋ยว 2 ชาม ก็เหลือชามเดียว กินน้ำแกงให้อิ่มแทน
ผมงี้รู้บุญคุณน้ำก๋วยเตี๋ยวเลย

จากนั้นก็ต้อง หาทางเพิ่มรายได้...อย่างถูกทางนะ ไม่งั้นคุก...คุก แน่นอน
ต้องทำอาชีพเสริม อาจจะค้าขาย หรือรับจ้างหลังเลิกงาน วันหยุด
หรือไม่ก็เปลี่ยนงานไปซะเลย...แต่ดูให้ดีก่อนนะ
ประเภทขายประกัน หรือ เครือข่ายเอ็มแอลเอ็ม...มันเหมาะกับแค่บางคนเท่านั้น และต้องใช้เวลาเรียนรู้อีกนาน
ถ้าขายอย่างเร่งด่วน...ไม่มีทาง อย่าไปเชื่อใคร หายนะมาเยอะแล้ว
ผมยังนับถือ พวกที่ไปขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง หรือขับแท๊กซี่หลังเลิกงานเลย
พวกรีไซเคิ้ล ก็ดีนะ...ผมเคยรู้จักคนที่เก็บถุงพลาสติกมาล้าง ตาก แล้วรวมชั่งกิโล ทำอย่างจริงจังนะ
เขาหยิบฉโนดที่ดินต่างจังหวัด ที่ค่อยๆ ซื้อไว้ให้ดู...10 กว่าฉโนด เห็นกับตา

คงพอเป็นแนวทาง เป็นอุทาหรณ์ได้บ้างนะครับ
มีหนี้ ก็ต้องใช้เขาให้หมด...แต่ต้องตั้งสติหาวิธี หนีก็ไม่พ้นหรอก
ตายไปชาติหน้าก็ต้องใช้อยู่ดีแหละ...จัดการมันซะชาตินี้ดีกว่า
ผมเองก็เคยมีหนี้ มีเยอะด้วย...สู้กันเหนื่อย
แต่ก็รอดมาได้ ลองไปหาอ่านเรื่องเก่า ๆ ดูนะครับ
เอาใจช่วย...สู้โว้ย...สู้...สู้...

อนณ 089-995-9377
จากคุณ : tobeteam
เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 53 22:07:45




 

Create Date : 04 มกราคม 2554    
Last Update : 4 มกราคม 2554 23:21:16 น.
Counter : 3428 Pageviews.  

กรรมทันตา โทร.นาทีละสามหมื่น

โทร.นาทีละสามหมื่น

ผมเป็นโรคไม่ค่อยถูกกับรถ บีเอ็มดับบริว
สมัยทำเต็นท์รถ ซื้อมาขายทีไรขาดทุนป่นปี้ทุกที
ดูเหมือนจะ 4 – 5 คันได้มั๊ง...ขาดทุนทุกที
ไอ้คันสุดท้ายจำแม่นมาก 316 รุ่นล่าสุด สีแดงแปร๊ด.ด...
ชุดแต่งของแท้ ตั้งแต่ไฟหน้ายันไฟท้าย ทั้งแม๊กซ์ ทั้งเครื่องเสียง
ทำสี ตกแต่งเสร็จหมาด ๆ ก็ขับออกจากอู่...บรึ้ม...บรึ้ม...บรึ้ม...
เสียงมันช่างเร้าใจดีแท้

จำได้ว่าอยู่บนน ถนนบรมราชชนนี แถวตลิ่งชัน
แต่อยู่ในเลนช่องคู่ขนาน ด้านใน
ลองวิ่ง ลองเครื่องเสียง...อู๊ย..ย.. เท่ซะไม่มี...หนุ่มรูปหล่อ รถเยอรมันสุดซิ่ง
เสียแต่รถเยอะไปหน่อย แล่นกันช้า...น่าเบื่อ สำหรับเสี่ยหนุ่มอย่างเรา
วิ่งช่องในไม่ค่อยสนุก ลองออกไปช่องทางด่วนดีกว่า...สะใจกว่า
พอถึงช่องทางออก รถก็ยังติดนิดหน่อย ต้องคลานกันไป

แต่อ้าว...นึกได้ว่าลืมสั่งงานลูกน้องบางเรื่อง
รีบจัดแจงหยิบโทรศัพท์...โมโตโรล่า ฝาพับ ราคาสามหมื่นห้า ขึ้นมา
รถก็ยังพอแล่นกันช้าๆ รอออกทางด่วน...คันข้างหน้าเป็นรถกระบะ มีหลังคา
ไอ้หลังคานี่แหละ มันบังทางทำให้มองไม่ค่อยเห็นว่าข้างหน้านู้นว่างหรือเปล่า
มือนึงจับพวงมาลัย อีกมือก็จับโทร.โมโตโรล่า ฝาพับ
กว่าจะนึกเบอร์ กว่าจะมัวกดเลข สมัยนั้นแค่ 7 ตัว ก็ยุ่งไปหมด
อ้าว...คันข้างหน้าเขาไปกันแล้ว...รถซิ่งอย่างเรา มัวมะงุมมะงาหราอยู่ได้
รู้สึกอับอายเล็กน้อย เสี่ยอย่างเรารีบเร่งเครื่องทันที...บรึ้ม..ม...ม....ม
อีกมือก็ถือโทรศัพท์ ตาข้างหนึ่งมองทางข้างหน้า
ตาอีกข้างก็มองตัวเลข หาปุ่มกด...อ้อ เจอแล้ว...กด.

ทันใดนั้น ตาอีกข้างก็เห็น รถกระบะคันข้างหน้า...เขาเบรค อ่ะ...เบรคทำไม...
มัวแต่ งง...มันเบรคทำไม
บีเอ็มดับบิว แดงแปร๊ด..ด...ก็ซัดท้ายเขา...โครม...เข้าให้
...เวรละซิ อีทีนี้...ประกันอะไรก็ไม่มี

รีบดับเครื่องลงไปดู...หมดกันไฟหน้า ฝากระโปรง หม้อน้ำ ชุดแต่ง...ยับเยิน
เงยหน้ามา...โอ้ แม่เจ้า...เสียงเด็กผู้หญิงร้องโหยหวน มาจากหลังรถกระบะ
เจ้าของรถกระบะเจ้ากรรม รีบประคองเด็กผู้หญิงวัยรุ่นออกมาอย่างทุลักทุเล
พอปีนกันลงมาจากหลังรถ ถึงได้เห็น เด็กคนนั้นนุ่งกางเกงขาสั้น
แต่ขาเธอยาว...คงจะอวบขาวแหละ แต่ตอนนั้นแดงเป็นปื้นเลย
มองเข้าไปในรถกระบะ...โอ๊ย.กรู..จะเป็นลม
หม้อแกง...ถาดแกง...ผัดผัก...หมูทอด...พะโล้....ต้มยำ...แกงจืด...โอ๊ย...สารพัดกับข้าว ร้อนๆ
โธ่ กรู...ชนใครไม่ชน ดันชนรถบรรทุกกับข้าวเต็มท้ายรถ
เด็กสาวคนนั้น แกนั่งคุมหม้อต้มยำร้อนๆ อยู่
พอผมชนท้ายเขา...ไอ้หม้อต้ม หม้อแกง ร้อนๆ ก็พลิกมาราดขาเธอ
แถมกับข้าวสารพัดที่วางซ้อนกันมา ระเนระนาด ถาด หม้อ ที่ยังร้อนก็ทับเอาเธออีกด้วย

หลังจากพากันไปโรงพยาบาล...สำรวจความเสียหายเสร็จสรรพ
ทั้งรถผม ทั้งรถกระบะ ทั้งกับข้าวทั้งหมด...สามหมื่น.
เจ้าของรถบอกว่า ขายอาหารที่ฟู๊ดคอร์ท เซ็นทรัล...ถ้าว่างให้แวะไปซิ จะให้กินฟรี

อีกไม่กี่วันถัดมา ไปเปลี่ยนยางร้านขาประจำ
เสี่ยเจ้าของร้านเดินมาถาม...ได้ข่าวว่า โทร.นาทีละสามหมื่นเหรอ...
ผมก็มองหน้า...ทำไมต้องเยาะเย้ยกันด้วย
เขาก็บอก ไม่ได้มาสมน้ำหน้า
แต่จะบอกว่า ยังน้อยกว่าลูกชายเขา...ไอ้ตี๋ มันขับรถซิ่ง แถมยังทะลึ่งแกะลูกอมฮอลล์ รสเย็นชื่นใจไปด้วย
ทว่า...ห่อมันเหนียว แกะยาก เงยหน้ามาก็ชนท้ายรถคันหน้า โดยไม่ได้เบรคเหมือนกัน
ไอ้ตี๋...เกือบตาย
ไอ้ ฮอลล์เม็ดนั้น...เกือบ ห้าหมื่น.

ตั้งแต่นั้นมา ผมไม่ซื้อรถ บีเอ็มฯ มาขายอีกเลย...กลัวมัน
จะข้ามถนน ยังไม่กล้าตัดหน้ามันเลย...เลือกยี่ห้ออื่นดีกว่า
อ้อ...แล้วไม่ อมฮอลล์ ด้วยเหมือนกัน...กลัว...มันแพง เม็ดละตั้ง ห้าหมื่น

อนณ 089-995-9377
จากคุณ : tobeteam
เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 53 21:03:50




 

Create Date : 04 มกราคม 2554    
Last Update : 4 มกราคม 2554 23:20:02 น.
Counter : 1126 Pageviews.  

กรรมทันตา ผึ้ง

ผึ้ง

ผม...จิตตก...ครับ

เมื่อต้นเดือน พ.ย.นี้เอง
คุณป้าของภรรยาผม เคยเป็นเจ้าของร้านอาหาร ประสพสุข ถนนเพชรบุรี
บ้านอยู่ติดกัน หลังบ้านชนกัน
ท่านมีบุญคุณกับผม และคุณหม่อง ภรรยาของผมมาก
ตอนผมแต่งงาน ท่านก็ช่วยจัดการเรื่องอาหารในงานทั้งหมดให้
อีกทั้งบ้านที่อยู่มาเกือบ 30 ปี ก็เป็นบ้านของท่าน
คือ อยู่ดีๆ ก็มีคนปลูกทาวน์เฮ้าส์ขาย หลังบ้านชนกับบ้านคุณป้า
ท่านกลัวว่า คนที่มาซื้อไปจะเป็นคนไม่ค่อยดี
เลยตัดสินใจซื้อซะเอง แล้วไปเรียกแกมบังคับให้ครอบครัวคุณหม่องมาอยู่
คุณหม่อง แกเคารพรักคุณป้าคนนี้ค่อนข้างมาก ปัจจุบันก็ดูแลกันอย่างดี

อีทีนี้ อยู่ดี..ดี..มีผึ้งมาทำรังที่ต้นมะม่วง สูงจากพื้นดินประมาณ 4 เมตร
แต่กิ่งที่พวก ผึ้ง ทำรังมันอยู่เหนือทางเดิน ที่คุณป้า และคนในบ้านใช้ประจำ
ไม่รู้มาทำตั้งแต่เมื่อไหร่...เห็นอีกทีก็เป็นรังสมบูรณ์แล้ว ขนาดเท่ากระดาษ เอ 4 ได้
น่าจะมีซักห้าร้อยตัวละมั๊ง...เกาะกันดำปื๊ด
คุณป้าก็มาเรียกให้ผมไปจัดการไล่ให้หน่อย...
คุณหม่องเอง ก็กลัวผึ้งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เลยยุให้ผมหาวิธี
ผมก็มานึก...เอ...ไล่ยังไงวะ
ไปถามใครๆ ก็บอกให้สุมไฟไล่ แต่ต้องใส่ยาเส้น ยาฉุนด้วย...

โดยใจจริง ผมไม่อยากไล่ ผึ้ง พวกนี้เลยซักนิดเดียว...เลยทำเฉยๆ คิดว่าเดี๋ยวก็คงลืมไปเอง
แต่คุณป้าท่านมาสำทับกับคุณหม่องหลายครั้ง...
เอ้า...สุดท้ายผมก็ไปหากาบมะพร้าว กับยาฉุนมาห่อหนึ่ง
จัดแจงสุมควันไฟ โดยมียาฉุนโรยลงไปด้วย
ทีแรกคว้นก็ขโมงดี...แต่แป๊ปเดียวเอง ไม่ได้เรื่อง
เลยเอาใหม่ หาวิธีสุมควันไฟให้ใกล้รังอีกหน่อย...
ทีนี้ได้ผล...พอควันมันโชยหวนไปที่รังผึ้ง พวกผึ้งก็จะแตกฮือบินหนีไป
จนสามารถมองเห็นรังที่เป็นสีขาวได้...ภายในคงมีตัวอ่อนอยู่ด้วย
พอควันหวนไป ผมก็บอกเสียงดังๆ ...ย้ายไปที่อื่นเถอะนะจ๊ะ ที่นี่เจ้าของเค้ากลัว
แต่...พอควันไปหวนทางอื่น ก็กลับมาเกาะที่รังอย่างเดิม...ไม่มีตัวไหนตาย ปรกติดีทุกตัว
สุมควันอยู่สัก 20 นาที ไม่ค่อยได้เรื่อง...แต่ผมดีใจ เสร็จซะที
ผึ้ง...ก็กลับมาเกาะที่รังกันแน่นเหมือนเดิม
ผมก็คิดว่าอีกวัน สองวันมันคงหนีไปเองแหละ

ผ่านไปซัก 7 วัน ผึ้ง รังนั้นก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ยังเกาะกันแน่นเหมือนเดิมไม่มีผิด
คุณหม่อง ก็มารบเร้าให้ผมไปไล่อีกที...
ผมก็อิด ๆ ออด ๆ ไม่อยากทำ...แต่ ผมเป็นพวกกลัวเมีย
สุดท้าย ตัดสินใจสุมควันกันอีกรอบ แต่เที่ยวนี้ ผมต่อปล่องควันให้พุ่งตรงไปใกล้รังมากหน่อย
พอเริ่มก็ใส่ยาฉุนเหมือนเดิม เท่าเดิม
พอควันมันพุ่งตรงไปยังรังผึ้ง...ผึ้ง ก็แตกฮือหนีไปเหมือนเดิม
แต่ที่ไม่เหมือนเดิม...คราวนี้มี ผึ้ง ตกลงมาที่พื้นซัก 10 กว่าตัว...ลงมาดิ้นพล่านอยู่ที่พื้น
ผมก็คิดว่า...คงเมายาฉุน เดี๋ยวก็คงหายเองแหละ
คราวก่อนยังไม่ตายซักกะตัว

วันรุ่งขึ้น เดินไปดูตอนเช้า...ใจเสียเลย
ไอ้ตัวที่เมายา 10 กว่าตัวน่ะ...ตายสนิท
เงยหน้ามองไปที่รัง ก็ยังปรกติดี แต่อย่างที่บอกมีตายหลายตัว
ผมเสียใจมาก ยืนเศร้าอยู่นาน...ใจก็คิดไปเรื่อย
สัตว์โลกทุกตัว ไม่ว่าเขา ว่าเรา ก็รักชีวิตด้วยกันทั้งนั้น
ผึ้ง มันเป็นสัตว์สะอาด กินแต่เกสรดอกไม้...ไม่ได้เบียดเบียนใคร
แต่เราก็ยังไปรังแกมัน ไปรมควันมันอีก...
ถ้าวันหนึ่งมีคนมาทำกับเราอย่างงี้บ้าง เราก็คงแย่...คิดไปเรื่อย
จิตตก...เสียอก เสียใจ อยู่หลายวัน
ไม่อยากพูดอยากจา ไม่อยากทำอะไร ภรรยาก็มาเซ้าซี้ถาม
สุดท้ายก็เล่าความในใจให้ฟัง...เค้าก็รู้สึกเสียใจด้วยเหมือนกัน

อีกหลายวันต่อมา ผึ้ง ทั้งหมดก็หายไป...หายไปหมด
ทิ้งไว้แต่รังที่ว่างเปล่า เหมือนคอนโดร้าง ไม่มีแม้แต่เฟอร์นิเจอร์
อีก 2 วันรังก็ร่วงลงมา...
เรื่องแปลกอีกอย่าง
ตั้งแต่วันที่ ผึ้ง เมายาตายนั้น ทั้งผมและภรรยาก็มีแต่เรื่องวุ่นวาย เรื่องไม่สบายใจเข้ามา
ไอ้ผมน่ะเศร้าเสียใจ แต่คุณหม่อง มีอาการหงุดหงิด ร้อนอกร้อนใจไปหมด
เรื่องงานก็ติดขัด วุ่นวายไปทุกเรื่อง เรื่องที่เคยง่าย ก็กลายเป็นยุ่งยาก
เรื่องเล็กเรื่องน้อย ก็กลายเป็นเรื่องใหญ่...ทะเลาะกันแรงๆ หลายครั้ง
มัน...เหมือนกับ เกราะคุ้มกันจิตใจเรา มันชำรุดเสียหาย
ผมเริ่มได้คิด และเข้าใจ...ศีล...อันเป็นเกราะวิเศษ ของผมชำรุดซะแล้ว
เลยตัดสินใจคุยกับภรรยา เรื่องที่จะไปไหว้พระที่วัด บุญญาวาส ว่ายังไงก็จะไปให้ได้
พอตัดสินใจเด็ดเดี่ยวแล้วว่า เราจะไปไหว้พระที่วัดนี้กันแน่นอน
เรื่องร้อนใจก็เบาบางลง...ก็ยังมีบ้างแต่พอรับไหว
แต่เกิดมีเหตุการณ์บางอย่าง มารผจญ พยายามมาขัดขวางอย่างที่เล่าไปในตอนก่อน...
จนในที่สุด เราก็ได้ทนทรหดไปกราบพระ กราบพระเจดีย์ที่กำลังสร้าง
ที่สำคัญ...ได้กราบหลวงพ่อ พระอาจารย์ตั๋น ได้สัมผัสความเมตตาจากท่าน
และท่านยังเน้น เรื่อง...ศีลห้า...อีกด้วย เออ..แปลก
พอกลับมาถึงบ้าน ก็ให้รู้สึกโล่งอกโล่งใจ มีพลังในการต่อสู้ต่อไป

นี่ตั้งใจว่า อีกไม่กี่วันผมจะไปบริจาคเลือด เพราะครบกำหนดทุก 3 เดือนมาแล้ว...ครอบครัวผมบริจาคเป็นประจำ
ผมเชื่อตามที่ คุณลุงสำเนียง ที่ผมเคารพท่านเคยบอก
การบริจาคเลือด เป็นกุศลที่ให้ผลเร็ว และรุนแรง เพราะทำบุญด้วยเลือดเนื้อของเราเลยทีเดียว
ใครดวงตก มีเคราะห์ร้าย หนักหนาแค่ไหน...ให้รีบไปบริจาคเลือด เอาบุญไว้ก่อน
รับรองช่วยได้เยอะ

เรื่องที่ไปไล่ ผึ้ง นี่ผมเข็ดแล้ว...ไม่เอาอีกแล้ว...กลัว
ทำเอาจิตตก ไปหลายวัน ทำให้อดคิดไม่ได้นะว่า
เดี๋ยวนี้พอทำบุญ หรือปฏิบัติฯ มาก...มาก..แล้ว
กรรมมันส่งผลกับครอบครัวผมเร็วมาก...เห็นได้ภายในไม่กี่วัน หรือ ทันที
ถ้าทำกรรมชั่ว จะได้รับผลร้ายรวดเร็วมาก
แต่เมื่อไหร่ที่ทำกรรมดี...ผลก็เห็นทันตา ค้าขายรุ่งเรือง มีความสุขขึ้นมาทันทีเหมือนกัน...เฮ้อ.

เพียงแค่นี้...แค่นี้...ยังแค่นั้น
เพียงแค่นั้น...แค่นั้น...จะแค่ไหน
เพียงแค่นี้...แค่นี้...แทบขาดใจ
เพียงแค่นั้น...แค่นั้น...แล้วไซร้...
ขาดใจ เลย.

อนณ 089-995-9377
จากคุณ : tobeteam
เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 53 10:02:59




 

Create Date : 04 มกราคม 2554    
Last Update : 4 มกราคม 2554 23:18:54 น.
Counter : 1342 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  

tobeteam
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add tobeteam's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.