อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
space
space
space
space

หมากับเงา
หมากับเงา

นานๆ จะได้อ่านนิทานซักที วันนี้ผมเข้าไปในเวปไซต์เด็กดีดอทคอมแล้วได้อ่านนิทานเรื่อง หมากับเงา ก็ได้ข้อเตือนใจที่ดีเกี่ยวกับความโลภ รู้สึกว่าเป็นเวอร์ชั่นใหม่ครับ เพราะหมาตัวนี้ไม่ได้ไปลักเนื้อจากแม่ค้าในตลาดสด แต่ไปแย่งเนื้อจากหมาที่ตัวเล็กกว่า… (แย่กว่าเดิม) ลองอ่านดูครับยาวหน่อยแต่คุ้มค่า…!
วันหนึ่งมีหมาหิวโซและโลภมากตัวหนึ่งเดินดมกลิ่นเพื่อหาของกินมาตามทางเดิน มันก้มหน้าก้มตา ดมหากลิ่นที่มันสามารถที่จะกินเข้าไปให้ได้อย่างขะมักขะเม้น แล้วพลันมันก็ได้สัมผัสเอาเข้ากับกลิ่นที่หอมหวนชวนกินยิ่งนักลอยมาตามลมอยู่ที่ตรงใกล้ ๆ กันนั้น และเมื่อมันเงยหน้าขึ้นมามองมันก็ได้แลเห็นหมา น้อยตัวเล็ก ๆ ตัวหนึ่งกำลังคาบชิ้นเนื้อชิ้นใหญ่อยู่ที่ตรงข้างหน้าของมัน...และด้วยความที่มันเป็นหมา เกเรและโลภมากเป็นอย่างมากมันจึงเห่ากรรโชกขึ้นด้วยเสียงอันดังก่อนอื่นใดเลยหละ " โฮ่ง ๆๆๆๆ " ก่อนที่จะแยกเขี้ยวแล้วย่างสามขุมเดินตรงเข้าไป หมายจะแย่งเอาชิ้นเนื้อชิ้นนั้นมาเป็นเจ้าของ และด้วยหมา น้อยตัวนั้นเป็นหมาตัวที่เล็กมากอย่างที่ว่านั่นเอง มันจึงปล่อยชิ้นเนื้อชิ้นใหญ่ชิ้นนั้นให้หลุดออกจากปาก อย่างช่วยอะไรไม่ได้ด้วยความกลัวอย่างที่สุด แล้วออกวิ่งโกยอ้าวจนสุดฝีเท้าหนีไปจากที่ตรงนั้นใน ทันทีทันใด.
“หุ หุ ๆๆๆช่างเป็นชิ้นเนื้อที่แสนที่จะน่ากินเสียเหลือเกิน” มันตรงเข้าไปหมายจะงับชิ้นเนื้อชิ้นนั้นกินให้หายหิวเพื่อแก้กระหายทันที แต่ขณะที่กำลังงับชิ้นเนื้อชิ้นนั้นอยู่ในปากมันก็กลับคิดขึ้นมาได้ว่า “เมื่อตะกี้อ้ายหมาตัวนั้นมันตัวเล็กแค่นิดเดียวข้าถึงได้แย่งชิ้นเนื้อมาจากมันได้นี่ แต่ถ้าเกิดมีหมาตัวอื่นที่ตัวใหญ่กว่าข้าผ่านมาทางนี้แล้วละก็... บางทีข้าก็อาจที่จะโดนมันแย่งเอาเนื้อชิ้นนี้ไปได้อยู่เหมือนกัน...ก็ไม่แน่นะ!!” และเมื่อมันคิดได้ดังนั้นแล้ว มันจึงเปลี่ยนใจที่จะกินเสียที่ตรงนั้น แล้วมันก็คาบเอาชิ้นเนื้อชิ้นนั้นออกวิ่งอย่างสุดฝีเท้าก่อนที่จะมีหมาตัวอื่นทันมาเห็นมันเข้า มันหมายที่จะไปหาที่เงียบ ๆ สงบ ๆ และกินให้สมใจอยากนั่นเอง เมื่อมันเดินคาบชิ้นเนื้อมาถึงที่ริมธารน้ำแห่งหนึ่ง ขณะที่เดินอยู่บนสะพานข้ามธารน้ำสายนั้น มันได้เหลือบมองลงไปในน้ำ แล้วแลเห็นสุนัขอีกตัวหนึ่งกำลังคาบเนื้ออยู่ในปากเหมือนกันกับมันเข้า แต่มันหารู้และไม่ทันนึกว่าสุนัขตัวนั้นตัวที่มันได้เห็นอยู่ในน้ำนั้นก็คือเงาสะท้อนของมันนั่นเอง....
“เจ้าสุนัขตัวนั้นมันคาบชิ้นเนื้อชิ้นใหญ่ มันใหญ่กว่าของข้ามากเลยเสียด้วยสิ” มันรำพึง ด้วย เกิดความโลภขึ้นมาอย่างมากจนสุดที่จะทานทนไหวเสียแล้ว “ข้าจะกระโดดลงไปในน้ำ แล้วแย่งชิ้นเนื้อ ชิ้นใหญ่ ชิ้นนั้นมาให้ได้” และตามนิสัยเลว ๆ เกเรของมัน ก่อนที่มันจะกระโดดลงไปแย่งชิ้นเนื้อกับเงาของมันเองในน้ำอย่างที่มันคิดโลภไว้นั้น มันก็ได้เห่ากรรโชกออกมาเป็นการขู่ก่อนอื่นใดเลยตามนิสัยของมันนั่นแหละ “โฮ่ง ๆๆๆๆ แห่ ๆๆๆ” แล้วจะเป็นยังไงล่ะ! แน่นอนมันย่อมหมดหวังที่จะได้ชิ้นเนื้อชิ้นใหญ่ชิ้นนั้น และซ้ำร้ายชิ้นเนื้อที่มันคาบมาด้วยนั้นก็ยังตกลงไปในน้ำและจมลงสู่ก้นธารน้ำอย่างน่าเสียดายเสียแล้ว.... มันตกใจมากตอนที่ชิ้นเนื้อของมันมีอันต้องหลุดออกจากปากและตกลงไป แล้วตอนนั้นเมื่อมันรีบมองลงไปในน้ำมันก็ได้เห็นหมาหน้าโง่ตัวเดิมตัวเก่ามองมันอยู่ แต่หมาตัวนั้นไม่ได้มีชิ้นเนื้อชิ้นใหญ่อยู่ในปากเหมือนกันกับมันเสียแล้ว มันต้องสูญเสียชิ้นเนื้อที่มันคาบมาอย่างน่าเสียดายเป็นอย่างมาก นี่ก็เป็นเพราะความละโลภหรือความตะกละไม่เข้าท่าของมันนั่นเอง มันจึงไม่เหลืออะไรเลย.ในที่สุด
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ความโลภอยากได้ทุกสิ่งจะทำให้สูญเสียทุกสิ่ง ความตะกละจะทำให้พลาดจากสิ่งที่หวังและผู้ที่อยากได้ในสิ่งที่ไม่เหมาะสมกับตนสมควรจะสูญเสียสิ่งที่ตนมีอยู่ ถ้าจะพูดแบบไทยๆก็คือ “โลภนักมักลาภหาย”

แต่ผมก็รู้สึกใจหายทุกทีเมื่อนึกถึงคำพูดของท่านมหาตมะ คานธี ซึ่งท่านกล่าวไว้ว่า…
“…ทรัพยากรของโลกมีเพียงพอสำหรับคนทุกคนทั้งโลก แต่มีไม่เพียงพอสำหรับคนโลภเพียงคนเดียว…”
สวัสดีครับ…



Create Date : 19 มีนาคม 2551
Last Update : 19 มีนาคม 2551 9:49:04 น. 1 comments
Counter : 638 Pageviews.

 
ด.ญ.ภทรพร เทิมเเพงพันธ์ โรงเรียนเเก้งคร้อวิทยา
ชั้นม.1


โดย: ด.ญ.ภทรพร เทิมเเพงพันธ์ IP: 124.157.150.17 วันที่: 23 เมษายน 2551 เวลา:17:11:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
space

camornrut
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]






ยินดีต้อนรับสู่ อมรรัตน์บล๊อค บล๊อคที่มีแต่เพื่อนสว. (สูงวัย) แต่ใจยังขบเผาะ...... ..................................................... ความจริงที่ผ่านเลยมา...กาลเวลาที่เปลี่ยนเวียนไป อยู่คนเดียวเปลี่ยวเหงาใจ...เฝ้าน้อยใจอยู่ทุกคืนวัน ตัวเราเฝ้าแต่คอยฝัน...ว่าสักวันนั้นคงเป็นจริง พากเพียรทำไปทุกสิ่ง...สุดประวิงหวั่นในหัวใจ ใครเขาเข้าใจเราบ้าง...สุดอ้างว้างในดวงฤดี ขอเปลี่ยนเป็นเสียงดนตรี...เพื่อกล่อมชีวีของชีวิตเรา เราจึงร้อยแก้วเสกสรร...สร้างความฝันให้เป็นเสียงเพลง ถึงทุกข์หรือจะครื้นเครง...เราจะบรรเลงด้วยเพลงของเรา ....................................คำร้อง ทำนอง ดร.แมว
space
space
space
space
[Add camornrut's blog to your web]
space
space
space
space
space