Group Blog
All Blog
รายงานผลครั้งที่ 2 หลังการใช้ Kiehl's Powerful-Strength Line-Reducing Concentrate

สวัสดีครับทุกท่าน

 

วันหยุดสบายๆ แบบนี้ ผมเลยขอมารายงานผลหลังการใช้Powerful-Strength Line-Reducing Concentrate หรือที่ผมเรียกสั้นๆ ว่าวิตซีของKIEHL’S นั่นเองครับ  ยังไงใครที่ยังไม่ทราบสรรพคุณวิตซีของKIEHL’S สามารถ"คลิกที่นี่"

เพื่อเข้าไปชมการรีวิววิตซีของKIEHL’S ได้เลยครับ








กล่าวเกลิ่นก่อนชม……


        ท้าวความไปเมื่อสมัยบรรพบุรุษไทย ที่ได้กอบกู้เอกราชเมื่อเมื่อรัชสมัยที่…….แว้กกกกก! ไม่ใช่แล้ว จะท้าวความไปไหนซะไกล =_=a  ท้าวความไปที่ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมานี่แหละครับ หลังจากที่ผมไม่ได้กลับบ้านที่ลำปางนานมากๆ  ปีนี่เป็นปีพิเศษที่ผมได้กลับไปเล่นน้ำที่บ้าน เรียกว่าเล่นทั้งวัน จนไข้ขึ้นเลยครับ  แล้วไข้ขึ้นยังไม่พอ สิวยังขึ้นมาร่วมฉลองเทศกาลสงกรานต์บนหน้าผมตรึมอีกด้วย ผมสันนิฐานว่า อาจจะมาจากน้ำที่ผมเล่นสงกรานต์ และน้ำที่ผมใช้อาบ เพราะชาวบ้านแถวนั้น ยังใช้น้ำบ่อกันอยู่เลยครับ  ผมเลยคิดว่ามันน่าจะมาจากสาเหตุนี้ล่ะมั้งครับ-_-‘  สิวเลยขึ้นตรึม ผมก็เลยต้องกลับคืนสู่สามัญด้วยวิธีการรักษาสิวเหมือนตอนที่ผมยังเป็นสิวหนักๆ น่ะครับ



และนี่แหละครับ คือตัวช่วยในการรักษาสิวของผม เชื่อว่าใครหลายๆ คนก็ต้องรู้จกกันดีนะครับ (ปล. แพกเกจเป็น Cetaphil แต่ข้างในเป็น Physiogel นะครับ อิอิ)



เพราะฉะนั้น ช่วงนี้ผมจึงไม่ได้ใช้วิตซีของKIEHL’Sกับหน้าผมเลยครับ ดีนะที่ก่อนหน้านี้ผมใช้วิตซีของKIEHL’Sมา 4 เดือนเศษแล้ว  ช่วงนี้ผมก็เลยต้องหยุดตัวบำรุงทั้งหลาย เพื่อขอรักษาสิวอุดตันให้หายก่อน ผมจึงขอใช้วิตซีของKIEHL’Sทดสอบกับแขนข้างซ้ายของผม ซึ่งก็ได้บอกรายละเอียดไปแล้วใน

"รีวิวการใช้วิตซีของKiehl'sครั้งแรก คลิกที่นี่เลย"


ข้อควรจำ  การรักษาสิวที่มีประสิทธิภาพ ควรงดการบำรุงผิวในขั้นตอนที่ไม่จำเป็นออกไป เพราะถึงแม้วิตามินซีความเข้นข้นที่ 10% ขึ้นไปจะมีประสิทธิภาพในการลดการอักเสบของผิวหนัง แต่การรักษาสิวที่ดีก็ต้องใช้ “ยา” ในการรักษาครับ



โอเคครับ พล่ามมายาวละ เดี๋ยวจะเบื่อกันซะก่อน ตอนนี้เรามาดูผลหลังการใช้วิตซีของKIEHL’Sกับ “แขน” กันเลยค๊าบบบบ……  (หลายคนบ่นเสียดายมาใช้กับแขนทำม๊าย! ยังไงเข้าใจผมด้วยนะ T_T แงแง)





มาดูความแตกต่างเทียบกันจะจะเลยครับ


ภาพซ้าย คือ ก่อนใช้      ส่วนภาพขวา คือ หลังใช้ 2 สัปดาห์ครับ



เพื่อนๆ สามารถคลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขนาดแบบเต็มตาได้เลยนะครับ


เห็นความแตกต่างไหมครับ ว่าจุดด่างดำมันหายไปเกือบสังเกตไม่เห็นแล้ว


ส่วนเรื่องความขาวนั้น ก็รู้สึกว่าผิวขาวขึ้นนิดหน่อย แต่ที่เห็นชัดๆ คือ ผิวดูอมชมพูขึ้นประมาณว่ามีเลือดฝาด SmileySmileySmileySmileySmileySmileySmileySmileySmileySmileySmileySmileySmileySmileySmiley









อีกภาพนึงครับ  รอยดำตรงหลังมือ อันนี้หายเกลี้ยงจนสังเกตไม่เห็นเลย


แถมที่ชอบคือ มืออมชมพูนี่แหละ  ห้าห้าห้า SmileySmileySmileySmiley





คลิกที่รูปเพื่อดูขนาดเต็มได้เลยนะครับ




จบแล้วครับ สำหรับการรีวิวผลหลังการใช้ในครั้งนี้


และก่อนจาก ผมมี trip เล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับวิธีการใช้วิตซีของKIEHL’Sแบบเต็มประสิทธิภาพครับ 


        เราทราบกันดีแล้วนะครับว่า ส่วนผสมของวิตามินซีในเครื่องสำอาง จะทำงานได้ดีเมื่อมีค่า PH เป็นกรดอ่อนๆ เพราะฉะนั้นเราจึงควรให้เวลากับการใช้วิตามินซีในการออกฤทธิ์ ด้วยการทาทิ้งไว้ในบริเวณที่ต้องการแล้วทิ้งไว้ 15 – 20 นาที


        เพียงเท่านี้ วิตามินซีที่รักของคุณก็จะสามารถแสดงแสนยานุภาพได้จริงครับ ไตเติ้ล confirm!


สุดท้ายจริงๆ อย่าลืมนะครับ สำหรับใครที่อยากได้วิตซีของKIEHL’S ไปใช้กันฟรีๆ โดยทุกท่านสามารถร่วมสนุกกับไตเติ้ลและ KIEHL’S ได้ ด้วยการ เข้ามาร่วม comment ผ่านทางหน้าบล็อกนี้(จะคอมเม้นอะไรก็ได้นะครับ) หรือถ้าใครเป็น Kiehl’s Fan page member อยู่ ก็สามารถโหวตจาก Facebook หน้า Kiehl’s Fan Page โดยกด Like ได้เลย  และถ้าหากไตเติ้ลในฐานะ 1 ใน 10 Bloggerที่เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ ได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ชนะ  ผู้ร่วมโหวตผ่านทางบล็อก 2 ท่าน และ Kiehl’s Fan Page 2 ท่าน ก็จะมีโอกาสได้ร่วมลุ้นรับPowerful-Strength Line-Reducing Concentrate มูลค่า 2,900 บาท ไปทดลองใช้กันฟรีๆ เลยนะครับ กิจกรรมดีดีแบบนี้ สามารถร่วมคอมเม้นและโหวตได้ถึงวันจันทร์ที่ 31 พฤษภาคม 2553 นี้เท่านั้น


ยังไงก็อย่าลืมเข้ามาโหวตและคอมเม้นให้กับไตเติ้ลเยอะๆ เพื่อลุ้นรับของฟรีๆ กันนะครับ


วันนี้ไตเติ้ลต้องลาไปก่อนแล้ว แล้วพบกันใหม่ครั้งหน้า สวัสดีคร๊าบบบบ…….



ขอบพระคุณจากใจ


ร้าน KIEHL’S สาขาดิเอ็มโพเรี่ยม


ที่ให้ความอนุเคราะห์ผลิตภัณฑ์ สำหรับการรีวิวในครั้งนี้




คุณ pupe_so_sweet และทีมงาน KIEHL’S ทุกท่าน


ที่ให้ผมเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ครับ



last update 03/05/53

 





Create Date : 03 พฤษภาคม 2553
Last Update : 3 พฤษภาคม 2553 12:56:42 น.
Counter : 14106 Pageviews.

20 comment
รีวิวเครื่องสำอางส่วนผสมดี ราคาประหยัด แบบสบายกระเป๋า แถมเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ สำหรับหนุ่มๆ สาวๆ

สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้ไตเติ้ลขอมารายงานตัว พร้อมกับการรีวิวเครื่องสำอางราคาประหยัด แบบสบายกระเป๋า แถมเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ โดยใช้เกณฑ์จาก ส่วนผสม  ,ราคา , ปริมาณ  และ แพกเกจ  ตาม concept ของผมค๊าบบบบบ



โดยปกติแล้ว ผมจะเป็นคนที่ไม่ชอบซื้อเครื่องสำอางมาเก็บตุนไว้มากๆ (ยกเว้นถ้าส่วนผสมดี ราคาถูก หรือมีช่วง sales) เนื่องจากผมมีรายจ่ายต่อเดือนสูงอยู่แล้ว  การใช้เงินทุกบาททุกสตางค์เพื่อให้หมดไปกับเครื่องสำอาง จึงต้องมีการวางแผนและคำนวณตามเกณฑ์ทั้ง 4 ข้อ อย่างที่ผมบอกไปครับ และแน่นอนว่า เครื่องสำอางที่รีวิวทุกตัว ผมล้วนมีประสบการณ์ในการใช้มาทั้งหมดเช่นกัน ยังไงตอนนี้เราไปชมพร้อมๆ กันเลยค๊าบบบบ……………





ตัวแรก ผมภูมิใจนำเลยเสนอ กับ Vitamins Enriched Serum by OP


มาดูส่วนผสมกับแพกเกจกันก่อนครับ



Vitamins Enriched Serum มีส่วนผสมที่อุดมไปด้วยเนื้อซิลิโคน ที่ให้สัมผัสเนียน นุ่ม ลื่น ทันทีเมื่อทา ให้ผลทาง cosmetic ที่น่าประทับใจคือ สามารถอำพราง ร่องรูขุมขนได้  ใครที่อยากหน้าเนียนเด้ง ให้ทา Vitamins Enriched Serum จากนั้นตามด้วยกันแดดที่ชื่นชอบ  และก็แต่งหน้าตบแป้งตามปกติ  รับรองหน้าใส เนียนเด้งเป๊ะๆ ครับ


เกร็ดน่ารู้  ครีมบำรุงแพงๆ ตามเค้าท์เตอร์เครื่องสำอางส่วนใหญ่ จะมีส่วนผสมของเนื้อซิลิโคนที่มีปริมาณมากกว่าครีมในตลาดทั่วไป เพราะเมื่อเวลาที่ทาลงไป เราก็จะรู้สึกว่ามันนุ่ม ลื่น เนียนเด้ง ดั่งมีเวทมนต์มาเนรมิตรให้ชวนหลงใหลและตัดสินใจซื้ออย่างรวดเร็ว ยังไงก็อย่ามัวหลงใหลกับผลทาง cosmetics อย่างเดียว จนลืมที่จะดูส่วนผสมอื่นๆ ให้ตรงกับความต้องการของผิวเรานะครับ


Vitamins Enriched Serum มีส่วนผสมของตัวบำรุงที่เข้มข้นที่สุดใน line วิตซีของ OP  ไล่มาตั้งแต่ Ascorbyl tetraisopalmitate  จนถึง Retinol  รวมกันแล้วมีส่วนผสมที่ให้การบำรุงกับผิวเราถึง 17 รายการ O_o! โดยเฉพาะส่วนผสมวิตามินซีที่มีมากเป็นอันดับ 4  ทำหน้าที่หลักๆ เป็นสารแอนตี้อ๊อกซิแดนซ์ แต่สำหรับใครที่อยากได้คุณประโยชน์จากวิตามินซี จริงๆ แนะนำให้หาตัวที่มีความเข้มข้นตั้งแต่ 10% ขึ้นไป และค่า PH แบบกรดอ่อนๆ เพราะจะสามารถแสดงศักยภาพได้มากกว่านี้ เช่น การเป็นสาร whitening, เสริมความแข็งแรงให้กับผิว, healing ผิวจากแสงแดด และอื่นๆ บลา บลา อีกมากมาย   เพื่อน สามารถเข้าไปดูรายละเอียดคุณประโยชน์ของวิตามินซีได้ที่ //www.bloggang.com/mainblog.php?id=titlehappy&month=18-04-2010&group=2&gblog=7  ในนี้บอกรายละเอียดไว้เยอะเลยครับ  


ราคา 655 บาท จำนวน 4 หลอด  ปริมาณหลอดละ 10 กรัม ราคานี้ถือว่ารับได้  ยิ่งถ้าหากซื้อกับโปรโมชั่นซื้อชิ้นแรกลด 15% ชิ้นที่ 2 ลด 50% อีก  รับรองหวานหมูกว่านี้แน่นอน  อิอิ


อ้อ!  เวลาซื้อพนักงานจะบอกว่า ควรใช้ให้หมด 1 หลอดต่อ  1 สัปดาห์ แต่จากประสบการณ์ที่ผมใช้จริง 1 หลอด สามารถใช้ได้ประมาณ 2 สัปดาห์ (ใช้เฉพาะตอนเช้า)


นอกจากนี้แพกเกจเป็นแบบหลอดปลายแหลม  ทึบแสง  ช่วยคงประสิทธิภาพของตัวบำรุงได้เป็นอย่างดี


ดังนั้น Vitamins Enriched Serum จึงตรงกับ concept ผมเด๊ะ! เลย  คือ ส่วนผสม  ราคา  ปริมาณ  และแพกเกจแบบนี้  รับรองคุ้มกับเงินที่ต้องจ่ายไปอย่างแน่นอนค๊าบบบบบบ.…………………






Olay total white


        ตัวนี้ผมใช้สำหรับทาคอครับ  ผมเชื่อว่าใครหลายๆ คงเป็นแบบเดียวกับผม คือ ไม่อยากเอาครีมบำรุงแพงๆ มาทาคอ แต่พอไม่ทาคอแล้ว  หน้าดันขาวกว่าคออีก  เหอๆๆ  (ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่างนะครับ อิอิ) จนผมได้มาพบ Olay total white ตัวนี้ ที่มีส่วนผสมของวิตามินบี3 หรือ niacinamide ในปริมาณเข้มข้นถึง 3.5% ซึ่งนอกจากจะช่วยในเรื่องของ whitening แล้ว ยังทำหน้าที่เป็นเป็นสาร Antioxidant ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ , Cell-Signaling Substance ช่วยสื่อสารกับเซลล์ผิวให้ทำงานได้เป็นปกติ และยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิวอีกด้วย


ราคาซองละ 10 บาท ต่อปริมาณ 10 กรัม  แต่ผมชอบซื้อแบบยกกล่อง กล่องละ 55 บาท มี 6 ซอง จะคุ้มกว่าครับ(เท่ากับเราซื้อครีมปริมาณ 60 กรัม ในราคาแค่ 55 บาท O_o! คุ้มไม่รู้จะคุ้มยังไงแล้วค๊าบบบบ)


ปล.ถึงใน ingredients list จะบอกส่วนผสมไม่หมด  แต่ก็ยังดีที่บอกส่วนผสมของวิตามินบี3 มาให้ 3.5% ครับ






ตัวต่อมา เป็นครีมกันแดดครับ


เดือนเมษายน เดือนแห่งความร้อนขั้นเทพของเมืองไทย  ร้อนทั้งกาย ร้อนทั้งใจ ร้อนทั้งสถานการณ์บ้านเมือง  อุ๊บ!  ครีมกันแดดจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยครับ ยิ่งตอนนี้เมืองไทยมีความเข้มข้นของรังสี UV หรือศัพท์ทางวิชาการเรียกว่า UV Index มากกว่าปกติถึงขั้น Extreme กันเลยทีเดียว  ยังไงลองมาดูภาพนี้เพื่อความเข้าใจกันมากขึ้นครับ



มาดูความเข้มข้นของรังสี UV ณ เวลา 12:00 . ระหว่างวันที่ 24 – 26 เมษายน กันดูครับ


Thailand    Area        UV Index       Level


24-04-2010


        Chiangmai         11.4          Extreme


        Ubon                 12.2         Extreme


        Bangkok            11.2          Extreme


        Songkhla           13.8          Extreme


25-04-2010


        Chiangmai         11.4          Extreme


        Ubon                 12.2          Extreme


        Bangkok            11.2          Extreme


        Songkhla           13.8          Extreme


26-04-2010


        Chiangmai         11.5          Extreme


        Ubon                12.2          Extreme


        Bangkok            11.2          Extreme


        Songkhla           13.7          Extreme


เป็นอย่างไรบ้างล่ะครับ ว่า ความเข้มข้นของรังสี UV ถึงขั้นระดับ Extreme แบบนี้ เป็นอันตรายกับผิวยิ่งนัก จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ครีมกันแดด จึงมีความสำคัญอย่างมากครับ  (สงขลา มีค่า UV index สูงถึง 13.8 เลยหรอนี่!!! แม่เจ้า)


ขอบคุณข้อมูลจาก //ozone.tmd.go.th/UV_index.htm




ตอนนี้มาดูครีมกันแดดที่ผมใช้อยู่ครับ


        ความจริงก่อนหน้านี้ผมเคยรีวิวครีมกันแดดไปแล้ว  แต่วันนี้ผมจะขอมาอัพเดทล่าสุดที่ผมใช้อยู่ นั่นก็คือ


L’OREAL UV Perfect  SPF 50 PA+++ และแบบ SPF 30 PA+++


ประสิทธิภาพครีมกันแดดของลอริอัลส่วนใหญ่จะอยู่ในขั้นที่ “ดี ถึง ดีมาก”อยู่แล้ว ด้วยส่วนผสมของ Mexoryl® SX กับ Mexoryl® XL ที่สามารถปกป้องผิวจากรังสี UVA –I , UVA –II และ UVB ได้จริง แถมยังเสถียรอีกด้วย  จึงสบายใจหายห่วงไปได้เลยครับ



L’OREAL UV Perfect  SPF 50 PA+++ และแบบ SPF 30 PA+++


ราคาเพียงหลอดละ 200 บาท ต่อปริมาณ 30 มล. ผมเลยขอซื้อมาเก็บไว้อีก 2 หลอด (ตอนนี้ใช้อยู่แล้ว 1 หลอด รวมเป็น 3 หลอดพอดี)


อีกทั้งแพกเกจยังเป็นแบบทึบแสง  จึงไม่มีเหตุผลอะไรอีกแล้วที่ไม่รีบซื้อมาเก็บไว้ใช้เพื่อปกป้องผิวที่คุณรักจากแสงแดด  ชิมิ ชิมิ!!!!


ครีมกันแดดแพงๆ ราคาหลายพัน เจอลอลิอัลตัวนี้แล้วต้องต้องสลบไปเลย  อิอิ


ปล.1  มีส่วนผสมของสี และน้ำหอม


ปล.2 ไม่เหมาะสำหรับคนผิวมัน เนื่องจากค่อนข้างเหนอะหนะ  ยิ่งเวลาเหงื่อออกแล้วเป็นคราบเลยครับ  เหอๆ






มาดูที่ครีมกันแดดสำหรับผิวกายกันบ้างครับ



กันแดดสำหรับผิวกายที่ผมเลือกใช้นั่นก็คือ Banana boat นั่นเอง ที่เลือกใช้เพราะ ราคามาเป็นอันดับ 1 (ก็ตอนนี้มีโปรโมชั่นลดครึ่งราคาอยู่นี่) แถมยังเป็นกระแสฮิตของโต๊ะแป้งอยู่ด้วย ผมเลยรีบหยิบมาใช้อย่างทันใดครับ



ครีมกันแดดตามท้องตลาดทั่วไป จะเน้นประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากรังสี UVBเป็นซะส่วนใหญ่ เช่นเดียวกับของ banana boat ที่มีประสิทธิภาพการกันแดด โดยเฉพาะรังสี UVB ได้ดีมาก (แต่ UVA คนละเรื่องเลย) โดยรังสี UVB จะเน้นทำความเสียหายที่ผิวชั้นนอก ผิวจึงไหม้จากแสงแดดส่งผลให้มีอาการแสบแดง และค่อยๆ คล้ำลงนั่นเอง  ในขณะที่ UVA จะทำร้ายผิวได้ลึกกว่า ส่งผลให้คอลาเจนและอีลาสตินถูกทำลายจนเกิดริ้วรอยก่อนวัย 


ผมเคยได้ยินหลายๆ คนบอกว่า ใช้ ครีมกันแดดยี่ห้อ xxx อยู่ก็ไม่เห็นจะดำลงเลย  แต่หารู้ไม่ว่าผิวชั้นใน อาจจะได้รับความเสียหายจาก UVA ก็ได้นะครับ


ตั้งแต่ผมศึกษา skin care มาจนถึงปัจจุบัน นอกจาก กันแดดลอลีอัล SPF 40 PA+++ (สำหรับทาตัว) ที่เลิกนำเข้าไทยแล้ว ผมยังไม่เคยเจอกันแดดสำหรับทาตัวที่มีประสิทธิภาพกันแดดได้เสถียร และ ครบทั้ง UVB , UVA-I และ UVA-II เลยครับ  ยังไงใครที่เจอกันแดดที่มีคุณสมบัติตามนี้ ช่วยแนะนำผมหน่อย จักเป็นพระคุณอย่างสูงเลยค๊าบบบบ…..






รีวิวเครื่องประทินผิวเยอะแล้ว ไตเติ้ลขอรีวิวเครื่องประทินผม บ้างดีกว่า

 


เนื่องจากไปเจอทั้งแชมพู และ คอนดิชันเนอร์  ที่ตรงตาม concept ผมเป๊ะ! นั่นก็คือ Boots expert sensitive unfragrance Shampoo & conditioner

 




สำหรับคนที่ไม่ได้มีเป็นหาเรื่องผมแป็นพิเศษ เช่น รังแค, ผมเสีย, เป็นเหา (อันนี้ไม่ใช่ละ -*-) Boots expert sensitive unfragrance Shampoo ถือเป็น basic shampoo ที่สามารถสระได้ทุกวัน  เพราะมีส่วนผสมของสารทำความสะอาดที่อ่อนโยน ปราศจากส่วนผสมของน้ำหอม  ให้ความรู้สึกนุ่ม ลื่น หลังจากการใช้  แถมยังมีส่วนผสมของ Panthenol มาในปริมาณที่น่าประทับใจอีกด้วย  และถ้าหากใครต้องการการบำรุงเป็นพิเศษ ก็สามารถตามด้วย Conditionerอีกก็ได้ครับ



ปริมาณ 200 มล. กับราคาแค่ 59 บาท (ราคาปกติ 120 บาท)  จึงตรงตาม concept ของผมเลยครับ






จบแล้วครับ สำหรับการรีวิวเครื่องสำอางของผม  (รีวิวแค่ 5 ตัวเอง แต่ย๊าว ยาว เนอะ อิอิ)

 

หวังว่าการรีวิวครั้งนี้จะเป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆ ที่ชอบของดีดี ราคาประหยัด ทิ้งท้ายอีกนิด สำหรับใครที่อยากได้วิตซีของKIEHL’S ไปใช้กันฟรีๆ โดยทุกท่านสามารถร่วมสนุกกับไตเติ้ลและ KIEHL’S ได้ ด้วยการ เข้ามาร่วม comment ผ่านทางหน้าบล็อกนี้ หรือถ้าใครเป็น Kiehl’s Fan page member อยู่ ก็สามารถโหวตจาก Facebook หน้า Kiehl’s Fan Page โดยกด Like ได้เลย  และถ้าหากไตเติ้ลในฐานะ 1 ใน 10 Bloggerที่เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ ได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ชนะ  ผู้ร่วมโหวตผ่านทางบล็อก 2 ท่าน และ Kiehl’s Fan Page 2 ท่าน ก็จะมีโอกาสได้ร่วมลุ้นรับPowerful-Strength Line-Reducing Concentrate มูลค่า 2,900 บาท ไปทดลองใช้กันฟรีๆ เลยนะครับ กิจกรรมดีดีแบบนี้ สามารถร่วมคอมเม้นและโหวตได้ถึงวันจันทร์ที่ 31 พฤษภาคม 2553 นี้เท่านั้น



"คลิกที่นี่ เพื่อเข้าร่วมคอมเม้น"

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามค๊าบบบบ…………….

 



Last update 25/04/53





Create Date : 25 เมษายน 2553
Last Update : 25 เมษายน 2553 14:23:26 น.
Counter : 14455 Pageviews.

19 comment
สังเกตความเปลี่ยนแปลง วันจันทร์ที่ 19 เมษายน

ต้องออกตัวก่อนนะครับว่า โดยปกติแล้วผมได้ใช้วิตซีของKIEHL’Sเป็นประจำมาประมาณ 3 เดือนแล้ว หากจะทำการรีวิวในสภาพผิวหน้าในตอนนี้ เกรงงว่าผลอาจจะออกมาไม่เห็นเด่นชัด (เพราะผิวหน้าผมขาวมากอยู่แล้วครับ) ผมจึงขออนุญาตทดสอบโดยการทาวิตซีที่แขน ซึ่งเผอิญมีจุดด่างดำอยู่ 2 จุดพอดี โดยการทดสอบของผมมีเงื่อนไขดังนี้


1.    Smileyใช้วิตซีของKIEHL’S วันละ 2 ครั้ง คือ เช้า กับ เย็น


2.    Smileyใช้วิตซีของKIEHL’Sทาแขนซ้ายทั้งแขน เพื่อเปรียบเทียบกับแขนข้างขวาที่ไม่ได้ใช้


3.   Smiley เพื่อผลที่ออกมาอย่างเป็นธรรม ผมจะพยายามถ่ายภาพทุกภาพในสภาพแวดล้อมให้ใกล้เคียงกันมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น เวลา สถานที่ แสงไฟ และปัจจัยอื่นๆ  ที่อาจมีผลกระทบ


4.    Smileyภาพทุกภาพ จะไม่มีการตกแต่งให้บิดเบือนไปจากความเป็นจริงอย่างเด็ดขาด (ยกเว้นการย่อขนาดภาพเพื่อให้เหมาะสมกับการดูใน blog)


ยังไงตอนนี้เราไปชมพร้อมๆ กันเลยครับ



ภาพแรกครับ ให้ดูแขนผมเต็มๆ ก่อนครับ  สังเกตได้เลยว่า จะมีจุดดำๆ อยู่สองจุด


ปล.ให้ดูแขนนะครับ อย่าไปสนใจขนแขนผมล่ะ  ห้าห้าห้า







ภาพที่ 2 ครับ  กำลังจะปั๊มครีมแล้ว ….. ตื่นเต้น  ตื่นเต้น








และภาพสุดท้าย ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของการใช้ครับ  ความรู้สึกที่ได้คือ สัมผัสความนุ่ม ลื่น ของเนื้อวิตซี ที่ทาไปแล้วทำให้ผิวบริเวณนั้นดูกระจ่างใสขึ้นเล็กน้อย  แต่อย่างไรก็ดี นี่เป็นเพียงการใช้ครั้งแรก  ยังไงเพื่อนๆ อย่าลืมติดตามรีวิวในครั้งต่อไป วันจันทร์ที่ 26 เมษายนนี้นะครับ


 


อย่าลืมนะครับ สำหรับใครที่อยากได้วิตซีของKIEHL’S ไปใช้กันฟรีๆ โดยทุกท่านสามารถร่วมสนุกกับไตเติ้ลและ KIEHL’S ได้ ด้วยการ เข้ามาร่วม comment ผ่านทางหน้าบล็อกนี้ หรือถ้าใครเป็น Kiehl’s Fan page member อยู่ ก็สามารถโหวตจาก Facebook หน้า Kiehl’s Fan Page โดยกด Like ได้เลย  และถ้าหากไตเติ้ลในฐานะ 1 ใน 10 Bloggerที่เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ ได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ชนะ  ผู้ร่วมโหวตผ่านทางบล็อก 2 ท่าน และ Kiehl’s Fan Page 2 ท่าน ก็จะมีโอกาสได้ร่วมลุ้นรับPowerful-Strength Line-Reducing Concentrate มูลค่า 2,900 บาท ไปทดลองใช้กันฟรีๆ เลยนะครับ กิจกรรมดีดีแบบนี้ สามารถร่วมคอมเม้นและโหวตได้ถึงวันจันทร์ที่ 31 พฤษภาคม 2553 นี้เท่านั้น




ยังไงก็อย่าลืมเข้ามาโหวตและคอมเม้นให้กับไตเติ้ลเยอะๆ เพื่อลุ้นรับของฟรีๆ กันนะครับ



ขอบคุณที่รับชมครับ






Create Date : 18 เมษายน 2553
Last Update : 19 เมษายน 2553 0:03:07 น.
Counter : 10962 Pageviews.

14 comment
รีวิวแบบเต็มสูบ > > Kiehl's Powerful-Strength Line-Reducing Concentrate

 สวัสดีครับทุกท่าน หลังจากที่ผมได้โพสข้อความโปรยไว้ว่า


"พบกับการรีวิวครีม xxx??? แบบเจาะลึกอย่างละเอียดขั้นเทพได้ที่นี่ เร็วๆ นี้......"


และวันนี้ก็ถือว่าได้ฤกษ์งามยามดีที่ผมจะทำการ รีวิวสุดยอดเครื่องสำอางยอดฮิตจากKIEHL’Sให้ทุกท่านได้รับชมกันแล้ว นั่นก็คือ  


POWERFUL-STRENGTH LINE-REDUCING CONCENTRATE




ผมขอเรียกตัวนี้สั้นๆ ว่า วิตซีของKIEHL’S แทนแล้วกันนะครับ เนื่องจากชื่อย๊าว ยาวววววว……. อิอิ






วิตซีของKIEHL’S เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ KIEHL’S DERMATOLOGIST SOLUTIONS ถูกผลิตขึ้นโดยใช้concept ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในแบรนด์ โดยใช้ส่วนประกอบที่ได้รับการทดสอบจากคลินิคและยืนยันประสิทธิภาพว่าสามารถหวังผลได้จริง ทั้งยังปราศจากส่วนผสมของสีและน้ำหอมจึงเหมาะกับผิว Sensitive อีกด้วยครับ



วิตซีของ kiehl’s ได้รับความนิยมและโด่งดังจากห้องโต๊ะเครื่องแป้ง ในเว็ป pantip.com เนื่องจากสามารถตอบโจทย์ค่านิยมของคนไทยที่ “อยากขาว” ได้เป็นอย่างดี และหากลองไปค้นดูเรื่อง “อยากขาว” ใน google จะพบว่ามีคนสนใจเรื่องนี้อยู่มากมายเลยครับ



เหตุใดวิตซีของKIEHL’S จึงเป็นที่พูดถึง และนิยมเป็นอย่างมาก วันนี้ผมเลยมีคำตอบมาให้ทุกท่านได้รับทราบกัน แต่ก่อนที่เราจะไปดูกันนั้น ผมว่าเรามาดูคุณสมบัติของวิตามินซีกันก่อนดีกว่าครับ

 



 


ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เหล่าการตลาดของเครื่องสำอางยี่ห้อต่างๆ ได้มีการเอ่ยถึงคุณประโยชน์ของวิตามินซีว่ามีความสามารถในการดูแลและปรับปรุงสภาพผิวพรรณได้อย่างน่าอัศจรรย์ โดยที่มันอาจจะเป็นการโฆษณาเกินจริงไปบ้าง แต่จากการศึกษาค้นคว้าจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ ได้กล่าวถึงคุณประโยชน์ของวิตามินซีดังนี้ครับ

 


Vitamin C สกัดเข้มข้นตั้งแต่ 10%ขึ้นไป สามารถช่วยผิวพรรณของคุณ:


Smiley ขัดขวางการผลิตเมลานินทำให้จุดด่างดำลดลง ถือเป็นสาร whitening


Smiley ปกป้องผิวจากการทำลายของรังสี UV


Smiley ช่วยเสริมประสิทธิภาพของสารกันแดด


Smiley ปรับสภาพผิวที่เกิดจากการทำลายของแสงแดดให้ดีขึ้น


Smiley ทำให้ผิวแข็งแรงและทนต่อสภาพแวดล้อมได้ดียิ่งขึ้น


Smiley ลดอาการผื่นคันและการอักเสบของผิวหนัง


Smiley ช่วยในการเสริมสร้าง Collagen


Smiley ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการผลัดเซลล์ผิวหนัง


 Smiley เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงมาก


Smiley มีอัตราเสี่ยงในการแพ้ต่ำ


  จากข้อมูลดังกล่าวจึงสามารถสรุปได้ว่า Vitmin C มีประโยชน์ในการดูแลผิวพรรณได้จริงแท้แน่นอน ฟันธง!!! 


(Sources: Archives of Dermatological Research, August 2009, pages 487–495; Brazilian Journal of Biology November 2009, pages 1,195–1,201; Journal of Cellular Biochemistry, March 2009, pages 589–598; International Journal of Cosmetic Science, February 2009, pages 41–46; Experimental Dermatology, November 2008, pages 946–952; Dermatologic Surgery, July 2005, pages 814–817; International Journal of Toxicology, Volume 24, Supplement 2, 2005, pages 51–111;. Nutrition Reviews, March 2005, pages 81-90; Skin Pharmacology and Physiology, November-December 2004, pages 298–303; and BMC Dermatology, September 2004, page 13.)



เห็นไหมครับว่า วิตามินซีไม่ได้ช่วยในเรื่อง whitening เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์อีกมากมายนานัปการ เมื่อคุณรู้อย่างนี้แล้ว ไม่อยากหาวิตามินซีมาใช้กับผิวคุณบ้างหรอครับ?


 



วิตซีของKIEHL’S



Ingredients :
Propylene Glycol, Cyclopentasiloxane,
Ascorbic Acid, Glycerin, Cetyl PEG/PPG-10/1 Dimethicone, Dimethicone Crosspolymer, Lauroyl Lysine, Acrylates Copolymer, Adenosine 


วิตซีของKIEHL’S มีส่วนผสมของวิตามินซีในรูป Ascorbic Acid สูงถึง 10.5 % จึงสามารถแสดงแสนยานุภาพได้จริง (พูดเหมือนจะออกรบเลยเนอะ อิอิ)  โดย Ascorbic Acid จะทำงานได้ดีเมื่อมีสถานะที่มีค่า PH ที่เป็นกรด (วิตซีของKIEHL’S มีค่า PH 3.5 จึงสบายใจได้เลยครับ) หลายคนอาจสงสัยกันว่า มีค่า PH เป็นกรดแบบนี้ ใช้แล้วจะไม่แสบหน้ารึ? ผมขอบอกเลยครับว่า อาจจะรู้สึกแสบบ้าง(ขึ้นอยู่กับผิวของแต่ละบุคคล) แต่ไม่ใช่กับวิตซีของKIEHL’S ครับ เพราะด้วยความที่ Ascorbic Acid ถูกบรรจุอยู่ในเนื้อซิลิโคน (Cyclopentasiloxane, Dimethicone) มันจึงค่อยๆ คายความเป็นกรดออกมา จึงช่วยลดโอกาสที่จะระคายเคืองผิวได้ เวลาใช้จึงรู้สึกอุ่นๆ แทนครับ


          ข้อดีของผลิตภัณฑ์ในรูปเนื้อซิลิโคนอีกอย่างนึงก็คือ ให้สัมผัสที่เนียนนุ่มดุจใยใหม สามารถกลบหรืออำพรางร่องรอยโดยเฉพาะรูขุมขนให้ดูเล็กลงได้อีกด้วย ถือเป็นผลทางคอสเมติกที่น่าวิเศษมากเลยครับ


          นอกจากนี้ วิตซีของKIEHL’S ยังปราศจากน้ำ สารกันเสียและน้ำหอม ซึ่งคุณสมบัตินี้หายากในผลิตภัณฑ์ตามท้องตลาดทั่วไป จึงเหมาะกับผิวที่ sensitive จนสามารถทาได้แม้แต่กระทั่งใต้ตา และริมฝีปาก


          และที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ บรรจุภัณฑ์แบบขวดสีชา ที่ช่วยลดการสัมผัสกับแสง ทำให้สามารถเก็บไว้ได้นานมากๆ เลยครับ


ครีมบำรุงที่ผสมวิตามินซีในตลาดทั่วไปส่วนใหญ่จะใส่ส่วนผสมของสีลงไปเพื่อกลบเกลื่อน (ผงวิตามินซีบริสุทธิ์จะมีสีขาว) เพราะฉะนั้นเราจึงไม่รู้เลยว่า ครีมบำรุงนั้นเสื่อมหรือไม่  ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ผลิตไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะหากเราไปใช้วิตซีที่เสื่อมแล้วล่ะก็ แทนที่จะขาวใส  อาจจะกลายเป็นเละเฟะ ไปเลยก็ได้ครับ


อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว คงไม่สงสัยแล้วใช่ไหมครับ ว่าทำไมวิตซีของ Kiehl’s ถึงได้ฮิตติดลมบนขนาดนี้






สังเกตความเปลี่ยนแปลง วันจันทร์ที่ 19 เมษายน

"คลิกที่นี่โล้ดดดดดดดด"




และข่าวดีแบบสุดๆ สำหรับใครที่อยากได้วิตซีของKIEHL’S ไปใช้กันฟรีๆ โดยทุกท่านสามารถร่วมสนุกกับไตเติ้ลและ KIEHL’S ได้ ด้วยการ เข้ามาร่วม comment ผ่านทางหน้าบล็อกนี้ หรือถ้าใครเป็น Kiehl’s Fan page member อยู่ ก็สามารถโหวตจาก Facebook หน้า Kiehl’s Fan Page โดยกด Like ได้เลย  และถ้าหากไตเติ้ลในฐานะ 1 ใน 10 Bloggerที่เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ ได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ชนะ    ผู้ร่วมโหวตผ่านทางบล็อก 2 ท่าน และ Kiehl’s Fan Page 2 ท่าน ก็จะมีโอกาสได้ร่วมลุ้นรับPowerful-Strength Line-Reducing Concentrate มูลค่า 2,900 บาท ไปทดลองใช้กันฟรีๆ เลยนะครับ


กิจกรรมดีดีแบบนี้ สามารถร่วมคอมเม้นและโหวตได้ถึงวันจันทร์ที่ 31 พฤษภาคม 2553 นี้เท่านั้น


ยังไงก็อย่าลืมเข้ามาโหวตและคอมเม้นให้กับไตเติ้ลเยอะๆ เพื่อลุ้นรับของฟรีๆ กันนะครับ



ขอบพระคุณ


ร้าน KIEHL’S สาขาดิเอ็มโพเรี่ยม


ที่ให้ความอนุเคราะห์ผลิตภัณฑ์ สำหรับการรีวิวในครั้งนี้


คุณ pupe_so_sweet และทีมงาน KIEHL’S ทุกท่าน


ที่ให้ผมเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ครับ







Create Date : 18 เมษายน 2553
Last Update : 19 เมษายน 2553 8:41:24 น.
Counter : 24443 Pageviews.

38 comment
> > > รีวิวภาคต่อ ตัวช่วยที่ลดอาการหน้าแห้ง, ลอก จากการรักษาสิว ครับ < < <






SmileySmileySmileySmileySmileySmileySmileySmileySmiley


สวัสดีครับทุกท่าน ...........................


ก่อนอื่นต้องไตเติ้ลขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาอุดหนุนในกระทู้เกี่ยวกับกับการรีวิวรักษาสิวของผม จากกระทู้นี้ //www.pantip.com/cafe/woman/topic/Q8909118/Q8909118.html และช่วยกันโหวตจนติดกระทู้แนะนำตลอดสัปดาห์  ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่ากระทู้ของผมจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ในการเป็นแนวทางเพื่อต่อสู้กับสิวต่อไปนะครับ  ต้องขอขอบพระคุณจริงๆ ครับ (อ้อ! เจอผมที่ไหนทักได้เลยนะครับ ผมอยู่แถวสยามประจำครับ)


วันนี้ผมเลยขอตอบแทนเพื่อนๆ สมาชิกทุกท่านด้วยการรีวิวตัวช่วยดีดีที่ช่วยลดอาการหน้าแห้ง หรือ ลอก จากการรักษาสิว  เชื่อว่าใครหลายๆ คนที่กำลังรักษาสิวอยู่ ก็เคยประสบปัญหาเช่นนี้เหมือนกับผมครับ เพราะในระหว่างการรักษาสิว ผิวของเราต้องโดนการ peeling ซ้ำแล้วซ้ำอีก อย่าง BHA, Benzac , differin,Retin A ฯลฯ   หน้าก็ต้องแห้ง ลอก เป็นธรรมดา  ครั้นจะหาครีมบำรุงที่เนื้อข้นๆ หนาๆ มาใช้  ก็อาจจะเสี่ยงต่อการอุดตันอีก แล้วเราจะใช้อะไรดีล่ะ?


 ยังไงไปชมวิธีการแก้ไขปัญหาของผมพร้อมๆ กันเลยครับ ^_^


หมายเหตุ


1.การรีวิวผลิตภัณฑ์ของผม ไม่ได้จัดทำขึ้นเพื่อการโฆษณา แต่เป็นการรีวิวจากประสบการณ์ส่วนตัว โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชมนะครับ


2. ผมเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ในการแก้ไขปัญหาผิวในรูปแบบต่างๆ จาก “ส่วนผสม, ราคา, ปริมาณ และ แพกเกจ” เป็นหลัก




 



มาเริ่มกันที่ตัวล้างหน้ากันก่อนครับ


ตัวนี้ผมก็เคยรีวิวไปในกระทู้ก่อนหน้านี้แล้ว นั่นคือ One Step Face Cleanser  Normal to Oily/Combination Skin นั่นเองครับ  เพราะในยามที่ผิวเราถูก peeling ออกไปมาก  เราก็ควรหาคลีนเซอร์ที่ไม่พรากความชุ่มชื่นไปจากผิว ในขณะเดียวกันก็ควรเติมความชุ่มชื่นให้กับผิวด้วยครับ


คลีนเซอร์ตัวนี้มีส่วนผสมของสารที่ให้ความชุ่มชื่นกับผิวมากมาย ที่เป็นสารให้ความชุ่มชื่นในรูปแบบ water-binding agent อย่าง Glycerin , Sodium PCA , Sodium Lactate, Glycine, Fructose, Urea, Niacinamide, Inositol Lactic Acid และ Sodium Hyaluronate   หลังล้างหน้าจึงรู้สึกไม่แห้งตึงเลยครับ


ปล. สำหรับคนที่มีผิวแห้งเป็นพิเศษจริงๆ อาจจะไม่เหมาะกับตัวนี้ เพราะอาจจะแรงไปครับ  แนะนำเป็น One Step Face Cleanser
Normal to Dry Skin แทนครับ






ขั้นตอนการมาส์คหน้า


ความจริงแล้วขั้นตอนการมาส์คหน้า ไม่ได้เป็นสิ่งที่จำเป็นเลย หากเราบำรุงผิวทุกวัน แต่สำหรับคนที่มีการ peeling ผิวบ่อยๆ ก็คงต้องหาอะไรทีชุ่มชื่นเป็นพิเศษมาเสริมกันบ้าง  สำหรับมาร์คที่ผมใช้ในการแก้ไขปัญหานี้มันมีชื่อว่า


Dermar Moisture Facial Essence Mask –for men (จะเพศไหนก็ใช้ได้เหมือนกันแหละครับ) เพราะจะผู้หญิงหรือผู้ชายก็เป็น “ผิวของคน” เหมือนกัน


หลายๆ คนอาจจะไม่คุ้นกับมาส์คตัวนี้ในตลาดสักเท่าไหร่ จะบอกว่าก่อนหน้านี้ผมก็ไม่คุ้นเหมือนกัน  ต้องบอกว่าโชคดีจริงๆ ที่แถวบ้านผมมีคาร์ฟูร์อยู่ใกล้ๆ เลยได้อานิสงนี้ทำให้ผมไปเดินบ่อยๆ และทำให้เจอมาส์คตัวนี้เข้านั่นเอง  ยังไงไปดูหน้าตาของเจ้าตัวนี้กันก่อนครับ




ที่ผมชอบมาส์คตัวนี้ ก็ด้วยเหตุผลที่ผมได้บอกไปแล้วในข้างต้น นั่นก็คือ เลือกจาก “ส่วนผสม, ราคา, ปริมาณ และ แพกเกจ” มาส์คตัวนี้มีส่วนผสมที่น่าประทับใจมาก เรามาชำแหละส่วนผสมอย่างละเอียดกัน โดยเรียงจากส่วนผสมที่มาก ไปหา น้อย ดังนี้ครับ


Water  น้ำ


Glycerin ให้ความชุ่มชื่น


BUTYLENE GLYCOL ให้ความชุ่มชื่น


HYDROLYZED COLLAGEN ให้ความชุ่มชื่น


ALOE BARBADENSIS leaf JUICE ให้ความชุ่มชื่น


portulaca oleracea extract ให้ความชุ่มชื่น


camellia sinensis leaf extract เป็นสารแอนตี้อ๊อกซิแดนท์ที่ช่วยเสริมคุณสมบัติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเติมเต็มช่องว่างของผิวที่เกิดขึ้นจากแห้งลอกทำให้ผิวนุ่ม ลื่น ขึ้นทันที, ให้ความชุ่มชื่น , เสริมประสิทธิภาพของครีมกันแดด  ฯลฯ


morus alba bark extract  ให้ความชุ่มชื่น


ARBUTIN เป็นแอนตี้อ๊อกซิแดนท์ และสาร whitening


Beta-glucan เสริมความแข็งแรงให้กับผิว


Panthenol ให้ความชุ่มชื่น


tocopheryl acetate วิตามิน E


POLYSORBATE 80  ตัวทำละลาย ทำให้ส่วนผสมไม่แยกตัว


Disodium EDTA สารปรับความเสถียร


XANTHANGUM สารเติมแต่ง ทำให้ส่วนผสมข้นขึ้น


perfume น้ำหอม


methylparaben  สารกันเสีย


อ้างอิงข้อมูลส่วนผสมจาก //www.cosmeticdatabase.com/  และ //ec.europa.eu/enterprise/cosmetics/cosing/index.cfm?fuseaction=search.simple



จะเห็นได้ว่า มาส์คตัวนี้เต็มไปด้วยส่วนผสมที่ช่วยเติมความชุ่มชื่นให้กับผิวอย่างอลังการงานสร้างมาก  เมื่อเทียบจากเกณฑ์ที่ผมบอกมาคือ


ส่วนผสม  ส่วนผสมเน้นเรื่องความชุ่มชื่นให้กับผิว ช่วยลดปัญหาผิวแห้ง ลอก จากการรักษาสิวได้อย่างดี ถึงแม้จะมีส่วนผสมของน้ำหอมที่อาจระคายเคือง แต่มันใส่มาหลังสารปรับความเสถียร (Disodium EDTA) ที่ในเครื่องสำอางส่วนใหญ่จะใส่มาไม่เกิน 1% อยู่แล้ว   เพราะฉะนั้น น้ำหอมมันจึงมีน้อยมากเช่นกัน จึงสบายใจได้  แต่อย่างไรก็ตาม การแพ้นั้นขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน ยังไงควรทดสอบอาการแพ้ด้วยนะครับ


ราคา มาส์คหน้าทั่วไปที่ขายตามท้องตลาด เฉลี่ยแล้ว 1 แผ่น ราคาประมาณ 100 บาทขึ้นไป แต่ Dermar Moisture Facial Essence Mask –for men นี้ราคาแค่ 59.75 บาท ต่างกับมาส์คทั่วไปครึ่งต่อครึ่งแบบนี้ จะไม่ให้ถอยมาใช้ได้ไงล่ะคร๊าบบบบ……….


ปริมาณ  ต่อ 1 ซอง ถือว่าคุ้มมากแล้วครับ


แพกเกจ     บรรจุอยู่ในซองทึบแสง ปิดไว้อย่างสนิท  ถือเป็นแพกเกจที่ดีมากแล้วครับ


สรุปความพึงพอใจ ตามเกณฑ์ที่ผมบอกมาข้างต้น จึงไม่มีเหตุผลอะไรอีกแล้วที่ผมจะต้องกังวลใจ เลยรีบคว้าหมับมาใช้ในทันใดครับ ^_^



ข้อมูลเพิ่มเติม สารช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นที่ใส่มาหลายรายการ จะช่วยปกป้องผิวจากการสูญเสียน้ำ นอกจากนี้สารบางตัวยังอุ้มน้ำและดึงน้ำจาชั้นหนังแท้ ขึ้นไปสู่ชั้นผิวชั้นนอก ผลที่ได้ก็คือผิวชั้นนอกของเรามีความชุ่มชื้นมากขึ้น นอกจากนี้เมื่อความชื้นในอากาศมากกว่า 70% ขึ้นไป สารเหล่านี้ ยังจะทำการดึงความชื้นในอากาศเข้ามาสู่ผิวของเราอีกด้วย  มันยอดเยี่ยมใช่ไหมล่ะ O_o!

แต่ตัวนี้ก็มีข้อเสียอยู่เหมือนกันนะ คือ ความยาวของแผ่นมาค์สมันปิดหน้าผากไม่หมดอ่า…..ผมเลยต้องเกลี่ยเนื้อเจลใสๆ มาทาส่วนหน้าผากบ่อยๆ  และพอมาส์คเล้ว หน้าของคุณจะออกมาเป็นเยี่ยงนี้ครับ





ผ่างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง






มาดูที่มาส์คตัวที่ 2 ที่ผมใช้เป็นตัวช่วย นั่นก็คือ


Skin Balancing Carbon Mask Normal to Oily/Combination Skin


ของป้าพอลล่าอีกแล้วครับ  อย่าเพิ่งเบื่อป้าแกนะ อิอิ


ส่วนผสม Water, Glycerin (water-binding/slip agent), Bentonite (white clay/absorbent), Magnesium Aluminum Silicate (mineral-based absorbent) Decyl Oleate (emollient) Sorbitan Stearate (emulsifier), Xanthan Gum, Glyceryl Stearate (thickeners), Sea Whip Extract (anti-inflammatory and anti-bacterial agent), Silt (Sea Mud) (absorbent), Fucus Vesiculosus (Bladderwrack) Extract (antioxidant), Camellia Sinensis (Green Tea) Extract (antioxidant/anti-irritant), Carbon Black (charcoal/absorbent), Salix Alba (Willow Bark) Extract (anti-inflammatory), Phenoxyethanol, Methylparaben, Ethylparaben, Butylparaben, Propylparaben, Isobutylparaben (all preservatives).


ไม่ผิดหวัง สมกับที่เป็นของป้าแกแหละครับ เพราะส่วนผสมก็ยังอัดแน่นไปด้วยสารที่ให้ความชุ่มชื่น  แอนตี้อ๊อกซิแดนท์  สารต้านการระคายเคือง เนื้อจะเหมือนโคลนเลย สีดำๆ 


วิธีใช้  ใช้หลังจากล้างหน้าครับ  เวลาทาไปแรกๆ จะรู้สึกเหมือนอยู่ในนรก เพราะมันแสบบบบบบ ทรวงงงงง สุดๆ (เป็นเรื่องปกติของผลิตภัณฑ์ที่เติมความชุ่มชื่นให้กับผิวอย่างรวดเร็ว) แต่พอทิ้งไปสักพัก จะรู้สึกเหมือนขึ้นสวรรค์ คือ เย็น สบาย  ผ่อนคลาย ครับ  (สรุปวันนี้ผมพาไปทัวร์นรกกับสวรรค์ -_-‘)


ทาทิ้งไว้ 15 – 20 นาที แล้วก็ล้างออกด้วยน้ำอุ่น  จากนั้นก็เข้าสู่ขั้นตอนการบำรุงผิวตามปกติครับ


มาร์สตัวนี้ราคาประมาณ 600 บาท ต่อ ปริมาณ 118 ml ถือว่าไม่แพงเลยครับ ราคา ส่วนผสม ปริมาณ  และแพกเกจ ที่น่าคบหาแบบนี้  ไม่ใช้ไม่ได้แล้ว……


ปล.ถ้าเทียบประสิทธิภาพ ของมาร์สทั้ง 2 ตัวนี้ ผมชอบ Dermar Moisture Facial Essence Mask –for men มากกว่าครับ เพราะมันช่วยลดอาการผิวแห้ง ลอก ได้ดีกว่าของป้า  แต่ถ้าจะใช้บ่อยๆ ก็ไม่ไหว จนพอดี  เพราะใช้มาค์ส 10 แผ่น ก็เท่ากับราคาของป้าแล้ว






จบแล้วครับ สำหรับ 3 ตัวช่วย ที่ผมใช้เพื่อลดอาการผิวแห้ง และลอก จากการรักษาสิว


ยังไงถ้าใครมีวิธีดีดีแนะนำ ก็สามารถมาเล่าสู่กันฟังได้ในกระทู้นี้นะครับ


อ้อ! สำหรับใครที่อยากสอบถามปัญหาเรื่องสิว สามารถทิ้งคำถามไว้ในกระทู้นี้ได้เลยนะครับ  ถ้าผมช่วยเหลือได้ จะช่วยเต็มที่เลยครับ


ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม


have a good day ครับ ^_^


a>


Create Date : 06 มีนาคม 2553
Last Update : 16 เมษายน 2553 21:17:40 น.
Counter : 12713 Pageviews.

43 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  

wisdom of social
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 70 คน [?]



Title Wisdom OfSocial

เข้ามา follow FB คลิก
ที่นี่ได้เลยครับ















images by uppicweb.com