thank you for flying with the wing of HANG~
Group Blog
 
All blogs
 

ซ้ำแผลที่เกาหลี

Delhi รอบ 2 ไม่ผิดหวังจริงๆ เต็มไปด้วยเพื่อนรุ่นเดียวกัน

ทำงานอย่างคึกคักและหนุกหนาน

แต่ที่ไม่หนุกหนานก็คือ...ดันไปลืมแผ่น Grey's Anatomy Season 1 ไว้ที่โรงแรม มานึกได้ก็ 2 วันให้หลังที่กลับมาถึง

ฝากเพื่อนรัก พีน่า ไปตาม ก็ไม่พบ คาดว่าแขกเอาไปดูแล้ว...แต่...มันจะดูรู้เรื่องมะ มีแค่นั้นนะ เอามาคืนเหอะ กูขี้เกียจไปซื้อ...เห้อ...

เลยขาดตอนเลย จะไปซื้อที่สีลม ก็ขี้เกียจสุดพลัง...ไม่ไหวๆ

เดือนนี้สาระแขกจริงๆ กลับมาจาก เดลลีก็ต่อด้วย ดักการ์ เรื่อยๆ ปลิวๆ ผู้โดยไม่มากเท่าไหร่ แต่ก็หนักเอาเรื่อง ตอนแรกใช้เครื่อง A330-300 สุดท้ายมาเปลี่ยนเป็น A300-600 ความหวังที่จะได้เป็น "แอร์" นั้นดับลงทันที

แต่ก็พอทน ทีมเลิศ ผู้โดยไม่มากเท่าไหร่ พอถากไถ่...

โดนตัดไฟล์ทภูเก๊ต Quick Turn ใส่เป็น SB3 (0600 - 1800) เพราะเปลี่ยนเครื่องเป็น Jumbo บินไม่ได้...OD โทรฯมาเสือกกวนตีนกูอีก

แม่ม...โทรฯมาตอนอยุ๋ที่ Gym กำลังอาบน้ำอยุ๋ มาดูอีกที มีเบอร์ OD โทรฯมาเลยโทรฯกลับ บอกมันว่า...เมื่อกี้ OD โทรฯมา ไม่ได้รับ แล้วก็กำลังจะบอกชื่อ อีนัง OD ทะลึ่งพรวดมา...แล้วชื่ออะไรละ ไม่บอกชื่อ จะรู้ได้ยังไง...คิดในใจ อีห่า...กูกำลังจะพูดอยุ๋ไง...เบื่อ

สุดท้ายไม่โดนเรียก เสียเส้นมาก เพราะวางแผนชวิตไว้อย่างดี ตอนแรกกะว่ากลับมาจากบิน จะไปทำฟัน แล้วก็ไป Gym แต่นี่ผิดแผน ทั้งๆที่รู้ว่าไม่น่าจะโดนเรียก แต่ก็ยังไม่กล้าจะไปทำฟันอยู๋ดี กลัวว่าทำๆอยุ่ เสือกเรียกกูซะงั้น จะลำบาก เลยนอนพุงกองรอไป จนได้เวลา ไป Gym อย่างเดียว

เกาหลีไฟล์ทนี้เป็น ไฟล์ท After Shock เล่นเอาเซเหมือนกัน พยายามร่าเริงและไม่คิดถึงเรื่องเก่าๆ เดิมๆ แต่มันก็แอบเป็นห้วงๆนะ

บินกับ 2008 โลกกลมและเหมือนฟ้าประทาน น้อง 2008 นี่ดันเป็นเพื่อนสนิทกับคนที่แอบชอบ...อิอิอิอิ บอกเลย "น้อง...ชงด้วย สำเร็จเลี้ยงข้าวมื้อยักษ์" เซ็นต์สนธิสัญญาเบาว์ริ่ง กันเป็นที่เรียบร้อย

ถึงเวลาอยุ๋คนเดียวที่โรงแรม แอบเคว้งอยุ๋เหมือนกัน เบาๆ หวิวๆ ยังไงไม่รุ เหมือนนกรุ้ เพื่อนที่นู้นมารับแต่เช้า พาไปทานข้าวแล้วก็คุยกับเพื่อนๆอีก 2 - 3 คน ที่พร้อมใจกันหยุด เพื่อนมาปลอดใจกู ขอบคุณแล้วกัน ไม่มาก ไม่มาย แต่ได้ใจจริงๆ ขากลับจากเมือง มันจะมาส่ง ไอ้เราก็เกรงใจ บอกไม่เป็นไร จะขับรถไป ขับรถมาทำไม เดียวกลับเอง
เลยนั่ Airport Bus กลับมา นั่งคนเดียว ฟังเพลง แล้วก้น้ำตาไหล...เฮ้อ...ไม่นึกเลยว่ากูจะอ่อนแอขนาดนี้

เป็นอย่างนี้ เห้นทีต้องหยุดบินเกาหลีสักพักใหญ่ๆ ไม่งันจิตใจแย่...

แต่ด้วยฟ้าประทาน หรือ Destiny หรือกรรมเก่าก็ไม่รุ้ จะแลกไฟล์ทถัดไปซึ่งไป Bangalore ออก แลกยังไงก็แลกไม่ได้ สุดท้ายมาลงเอาที่เกาหลี แวะฮ่องกงขาไป อีกแล้ว...เอาวะ...ต้องทำให้ได้...

แต่ในเรื่องนี้คงเป็น Destiny จริงๆ ได้บังเอิญบินกับ 2008 ที่แอบชอบอยู่...

ซ้ำไม่พอ เพอร์เซอร์ พี่ยุ้ย ได้ใจมาก Assign ให้ประกบทั้งไปและกลับ ขอบคุณครับ

ตะวเป็นๆ น่ารักและดูดีกว่าในรูปเยอะมากกกกกกกกก

มานั่งคิดเมื่อก้ ก่อนลงมือ Up Blog กูเอามาแทนที่รึเปล่า

ตอบตัวเองกลับ...ก็ไม่นะ ไม่มีใครแทนที่ใครได้หรอก แล้วก็ไม่ได้เอามารักษา เยียวยาด้วย เพราะไม่ได้คิดถึงตรงนั้น แต่...มันบังเอิญเข้ามาช่วงนี้ต่างหาก

หวังว่าสิ่งที่หวัง จะเป็นจริง รอดูต่อไป

next station OSAKA via Manila




 

Create Date : 20 พฤษภาคม 2551    
Last Update : 20 พฤษภาคม 2551 16:08:55 น.
Counter : 882 Pageviews.  

Hurrr...ชีวิต และสงครามเดลลี

เดินจับมือกัน ทุกข์สุขด้วยกัน
หัวเราะร้องไห้ด้วยกันมานานเท่าไหร่ ฉันไม่เคยลืมจากใจ
วันที่เรายิ้ม วันที่ทะเลาะ
ภาพวันและคืนเหล่านั้น จะยังงดงามไม่เคยเปลี่ยนไป

ยังคงเป็นดั่งเหมือนกับเมื่อวาน
อยู่ในส่วนลึกความทรงจำ
แต่ต่างกันแค่เพียง ในตอนนี้

ฉันนั้นไม่ได้มีเธออยู่ข้างๆ เหมือนวันที่เราเคยเดินข้ามผ่าน
ทุกๆสิ่ง ทุกๆอย่างมาด้วยกัน
นับเป็นช่วงชีวิตที่ดีที่สุด แม้เป็นแค่เพียงเวลาสั้นๆ
ที่เคยเกิดขึ้นกับฉัน...เพราะเธอ

เพลงและของขวัญ ตัวจากตรงนั้น
จดหมายที่ส่งให้กันในวันที่ห่าง ฉันนั้นยังคงเก็บไว้
วันที่เหนื่อยล้า ถ้อยคำที่ปลอบใจ
ภาพวันและคืนเหล่านั้น จะยังงดงามไม่เคยเปลี่ยนไป

ยังคงเป็นดั่งเหมือนกับเมื่อวาน
อยู่ในส่วนลึกความทรงจำ
แต่ต่างกันแค่เพียง ในตอนนี้

ฉันนั้นไม่ได้มีเธออยู่ข้างๆ เหมือนวันที่เราเคยเดินข้ามผ่าน
ทุกๆสิ่ง ทุกๆอย่างมาด้วยกัน
นับเป็นช่วงชีวิตที่ดีที่สุด แม้เป็นแค่เพียงเวลาสั้นๆ
แต่ก็เคยเกิดขึ้นกับฉัน...เพราะเธอ

ไม่รู้ว่าเธอ ไม่รู้ว่าจะได้ยินเพลงนี้รึยัง
อยากจะให้เธอช่วยมารับฟังว่าฉันนั้น คิดถึง...



ไม่มีอะไรมาก...เพลงนี้โดนสุดๆ โดนแรงขนาดที่ว่าหงายเงิบไปเลย...เพราะอะไรหรอ? ก็เพราะว่า...เพิ่งโดนทิ้ง...นั้นเอง เจ็บชนชา เจ็บจนไม่ร้องไห้ แค่แอบนั่งซึม นั่งนิ่งลอย ไม่รับรู้เรื่องราวใดๆเป็นห้วงๆ

ไม่รั้ง ไม่อ้อนวอน ไม่ขอให้เขากลับมาด้วย คิดอยู่อย่างนึงตลอดเวลาว่า “ถ้าคนมันจะไป ทำยังไงก็ไป ไม่ไปครั้งนี้ มันก็ไปครั้งหน้าอยู่ดี” เลยเป็นเหตุผลให้ ไม่รั้ง ไม่พูดอะไรกับเขาอีกเลย นอกจากคำว่า...Bye…Forever, we won’t see again even in the word of friend…I’ll keep the nice thing you done and absolutely I’ll forget who you are…

พูดแล้วก็เจ็บ...ไม่ได้แรง ไม่ได้หยิ่ง ไม่ได้เหนือใคร แต่นั้นดีกว่าที่จะต้องมาเห็นเขาอีก แต่เห็นในสถานะที่จับต้องเหมือนเดิม...ไม่ได้แล้ว

เปิดศักราชเดือนแห่งแรงงานโลกด้วย การขายแรงงานไป Delhi., India แม้เจ้า นั่งทำใจอยุ่นานทีเดียว แถมไม่พอ เดือนนี้โน 2 Delhi ติดกัน (ของตัวเองอันแรก ของเพื่อนเอามาฝากบินอันที่ 2)

ปรากฎว่าโลกแห่งความจริงของไฟล์ทนี้ เปลี่ยนไปอย่างคาดไม่ถึง ผู้โดยสารยังน้อยเหมือนเดิม (เพราะตัวเหี้ยมากกว่า...) เปี่ยมไปด้วยคุณภาพที่แสดงอานุภาพตั้งแต่เหยียบเท้าเข้าเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น Waterrrr….Playing Card…Kid Gift…อีกสาระตะ แม่เจ้า ชินชา แต่ไม่อยากชินใจยังไงไม่รู้

ปัญหาโลกแตก สั่ง Veg จะไม่กิน ไม่สั่งจะกิน มีไก่จะกินปลา ไม่มีปลาก็จะกินปลา ปัญหาพวกนี้พวก Junior มาบินแรกๆอาจจะพาสติแตก น๊อตหลุดได้ (อย่าว่าแต่ Junior เลย แบบกูเองนี่โดนเน้นๆ ย้ำๆ ก็มีแอบไขน๊อตตัวเองทิ้งแล้วปี๊ดบ้างเลยเหอะ) สุดท้ายบอกไปนิ่มๆ เงียบๆ และจ้องด้วยสายตาพิฆาต Kindly eat what we’ve, I know you can, all for you and your friend. แค่นั้น ก็หยุดพูดและก้มหน้าก้มตากินโดยสดุดีแล้ว อัดเข้าไปด้วยของกิน โค้ก 2 กระป๋องหรอ เอาไปเลย แต่เปิดให้นะ เบียร์ 2 หรอ...เอาไปเลย แต่เปิดให้นะ แถมถ้ากินไม่หมด ไม่เก็บกระป๋องอีกต่างหาก ขนมปังหรอ เอาไปเลย 3 ลูก 5 ลูก เต็มที่เพื่อน

นี่แหละวิธีปราบ และบริการลูกค้าที่ดีที่สุดของบริษัทให้อยู่หมัด และรัก...การบินไทย ตราบสิ้นลมหายใจ

ไฟล์ทเลข 3 (ประเทศด้านทิศตะวันตกของราชอาณาจักรไทย นับตั้งแต่ พม่า ไปจนสิ้นสุดที่อินเดีย ส่วนปากีสถาน เป็นไฟล์ทเลข 5) จะง่ายก็ว่าง่าย จะยาก และหนักใจก็ใช่ ขึ้นอยุ่กับวิธีมอง และวิธีคุย สำหรับกูเองนั้น ไฟล์ทเลข 0 – 2 นั้นยาก และหนักใจที่สุด

ไปเดลลี จะโหลดอาหารเต็มพิกัดจาก กทม. ไปเลย เพราะว่าเราไม่เชื่อใจในความเป็นมืออาชีพของ Catering ที่โน้นก็ตาม หน้าที่ที่หนักที่สุดจะเป็นของ 5R ซึ่งจะเป็น Steward Junior ที่สุดของไฟล์ท (ซึ่งในไฟล์ทนี้ “เบิ้ม หรือ หมวย” รับหน้าที่อันทรงเกรียตินี้ไป) เช็คอาหารเบาะก็แค่ มื้อที่ตัวเองจะต้องเสิร์ฟ ถ้าเต็มก็ 108 ที่ และ ของขากลับอีกแค่ 339 x 2 = 678 ที่ (อาหารร้อน 339 ที่ ถาดอีก 339 ที่ เบ็ดเสร็จเลยเป็น 678 ที่) ตาม Service Manual แล้ว เป็นหน้าที่ของ 5R อย่างเต็มเหนี่ยว แต่ในชีวิตจริงแล้ว Steward คนอื่นจะยิ่นมือเข้ามาช่วยด้วย โดยครั้งนี้กูเอง ช่วยหมวยเช็ค อาหารร้อนของขากลับไป 216 ที่ (มันช่วยได้แค่นี้ เพราะว่าส่วนที่เหลือทั้งหมดนั้น มันอยุ่ในครัวของหมวย ถ้าเข้าไปช่วย อาจทำให้หมวยสติแตกได้ เพราะเข้าไปเกะกะนาง)

หน้าที่ที่ดหลือก็คือ เช็คอาหารตัวเอง เอารถอาหารร้อนของขากลับ 4 คัน ไปเก็บข้างหลัง แล้วแลกเอารถน้ำเปล่า, น้ำส้ม และน้ำมะเขือฯ มาแทนที่ สิริรวมเวลาที่ใช้กับพวกนี้ก็หมดเวลาเตรียมงานไปแล้ว เริ่ม Boarding จน Board เสร็จ Steward ทั้งหลายยังง่วนเชียง หน้าเลื่อมเตรียมงานไม่เสร็จ เรียกได้ง่ายๆ ถ้าไม่ชินเครื่อง (Boeing 777-300) อาจมีสลบ เพราะไม่รุ้จะเอาอะไรไปเก็บที่ไหนดี (ที่เก็บของมันเยอะจนเลือกไม่ถูก ผิดกับ B6) ที่อันนั้นแทบจะไม่มีที่เก็บของเหอะ

เมื่อก่อน ไฟล์ทนี้จะมีอาหารพเศษขั้นเริ่มต้นอยุ๋ที่ 100 กว่าๆ แต่พอเปลี่ยน Loading Formular เลยทำให้อาหารพิเศษเหลือไม่เกิน 20 ที่ เพราะได้รวมอาหารประเภท Veg เข้าไปอยู่ใน Choice แล้ว โดน Choice อาหารจะเป็น Veg กับ Non Veg นั้นก็เป็น ไก่ นั้นเอง แต่ก็นะ ปัญหาโลกแตก อย่างที่บอก สั่งจะไม่กิน ไม่สั่งจะกิน เฮ้อ...ก็เข้าอีหรอบเดิม Choice ไม่พอ จะแก้ปัญหานี่ได้ก็โดยการ โหลด อาหารเกินมาประมาณ 10 ที่ เพื่อกันปัญหานี้เกิดขึ้น แต่...บริษํทไม่เคยคิดที่จะทำเหอะ ก็คนทำงานหนังหน้าแขกอย่างเรา ก็ก้มหน้าก้มตารับกรรมกันไป เอาอาหารลูกเรือมาเสิร์ฟก็แล้ว เล่นละครเศร้าซึม เห็นใจผู้โดยฯที่ไม่ได้แดกอย่างที่หวังก็แล้ว แต่ก็นะ...มันก็ผ่านไปได้เหอะ...

ไฟล์ทนี้ทีมเลิศ ด้วยว่า Steward Y ทั้งสิ้นเป็น 2006 หมด แล้วก็คุยกันเข้าคอ และรู้จักกันมาก่อนเลยทีเดียว อย่างมัน ทำงานไปด่ากันไป กัดกันไป จนถึง

ยังไม่เคยเจอ Airport ที่เน่าได้เท่านี้ จริงๆมันกำลัง Renovate อยู่ แต่แบบว่าเน่ามาก ฝุ่นเป็นหมอก เน่าสนิท เน่าจนไม่อยากจะหายใจเลยทีเดียว เดินก็ไกล ซับซ้อนเหลือเกินกว่าจะได้ออกไปขึ้นรถ หน้า Airport ก็อยางกับจลาจล ฝุ่น ร้อน เยอะแยะไปหมด แถมไปรอรถอีกนานแสนกว่าจะมา เฮ้อ...กูเหี่ยว

จาก Airport ไป โรงแรม กินเวลากว่าชั่วโมง ลองคิดสภาพดู นั่งบนรถที่ล้อเหลี่ยม แอร์ไม่เย็น แล้วก็มีความรู้สึกว่าฝุ่นนอกรถมันรั่วเข้ามาในรถ หายใจมากไม่ได้ กลัวสำลักฝุ่นตาย

นางแอร์ในไฟล์ท นัดกันไปเดินตลาด สโรชะนี ชวนกูกันใหญ่ ไม่ไปหละ ขอบคุณไม่อยากกลับมาซ่อมหนังหน้าเหอะ ขอบคุณ ขึ้นห้องหมดพลัง อาบน้ำนอนดีกว่า...

ตอนแรกกะว่าจะตื่นมาแล้วก็ออกไปซื้อ Subway กิน แต่ด้วยกระติ๊บข้าวเหนียว คอหมูทอด และกระดูกหมู 8 รสที่พกมา เพียงพอ และเหลือบาน เลยทำให้นอนอบผิวอยู่ในห้องอย่างเดียว กับ Grey’s Anatomy ไม่ออกไปไหนเลย ข้าวเหนียวนี่...มันกินแล้วนอนมันจริงๆ

ออกรบต่อ นั่งรถมาราธอน 1 ชั่วโมงเต็มๆ จากโรงแรมสู่ Airport มาถึง สภาพจลาจลยิ่งกว่า คนนับร้อนพัน หมื่นแสน ประมาณการ์ณจากสายตาแล้วว่า ถ้าผู้โดยฯจะมาเช็คอินที่นี่ ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง ถึงจะได้รับ Boarding Pass และไปนั่งรอขึ้นเครื่องใน Boarding Lounge อย่าสบายใจ ไม่สงสัย ทำไมขึ้นเครื่องมา มันกินกันทุกคน กินกันอย่างหิวกระหายด้วยเหอะ (เครื่องออกจาก Delhi ~23:30)

ปัญหาเดิมบังเกิด ขามา Veg ไม่พอ ส่วนขากลับ Non Veg ไม่พอ มีผู้โดยฯนางนึง บีบน้ำตา นั่งหน้าเศร้าเล่าความจริง ว่านางขึ้นมา 3 ครั้งแล้ว นางไม่เคยได้แดกสิ่งที่นางปรารถนาเลย ทำไม๊ ทำไม นางเป็น Gold Member นะ (อยากจะบอกางว่า Gold Member ไม่ใช่บัตรวิเศษ ที่เสกทุกอย่างได้ตามใจ แต่จะเสกได้ตามที่นางขอก่อนขึ้นเครื่อง...เท่านั้น) ที่สำคัญนางรู้ทุกอย่าง นางรู้ว่านางสั่งอาหารพิเศษที่เป็นอะไรก็ได้ที่นางอยากจะแดก, นางรู้ว่าการที่นางนั่งแถวหน้าสุด นางจะได้รับอาหารสุดท้าย และปัญหา Choice จะเกิดกับนาง นางรู้ทั้งหมด แต่นางไม่ทำ...มันน่าเห็นใจไม๊ละนั้น

เฮ้อ...ผ่านไปอีกไฟล์ท แต่มีอะไรดีๆอยู่ เลยทำให้ไฟล์ทที่จะต้องบินมา Delhi อีกคั้งไม่ติดลบ




 

Create Date : 11 พฤษภาคม 2551    
Last Update : 11 พฤษภาคม 2551 20:47:51 น.
Counter : 517 Pageviews.  

ชีวิตหมูบิน และวันคลุกโคลน

ฝนแม่มตกได้ทุกวัน น่ารำคาญจริงๆ ตกเป็น Schedule เลยนะนั้น 4 – 5 โมงเย็นปุ๊บ ตกปั๊บ เป็นอะไรมากเปล่าครับ มันยังไม่เข้าหน้าฝนดีไม่ใช่รึ น่าปวดใจจริงๆ

เฉอะแฉะไม่พอ เวลาทำงาน เครื่องก็สบัด อย่างกับหมาสบัดขน เข็นรถ Drink ออกไป เดียวก็ต้องเข็นกลับอีกแล้ว ถ้าจะ Seat Belt Sign On ก็ On ไปยันลงเลยแล้วกัน น่าเบื่อ...เซ็งจิต จิตเสื่อมหมด

ตั้งแต่หลังสงกรานต์มานี่สุขภาพย่ำแย่ ทำไมไม่รู้ เริ่มด้วยเป็นไข้อย่างแรง เฉิมสงกรานต์ เสียตังค์ โดนหมอจิ้มก้นไป 2 ที ดีขึ้นเหลือโดนยาสั่ง (จริงๆ หายเพราะเห็นบิลค่ารักษา...จะเป็นลม) สรุป สงกรานต์ไม่ได้ไปเล่นน้ำที่ไหนเลย ให้ตายดิ...เซ็งที่ 2

หลังจากนั้นไม่นาน เจ็บข้อเท้า และเข่าบ่อยๆ ตัดสินใจไปหาหมอ ปรากฎว่าอาการเด่นชัด “เกาต์ เบื้องต้น” แม่เจ้า...กูว่าแล้ว

นี่ก็สดๆร้อนๆ ก่อนไปบิน 630 / 631 (BKK HKG TPE HKG BKK) ก่อนนอน ก็คันตายิบๆ ไม่สาระอะไร เพราะเป็นปกติ ตื่นเช้ามาเท่านั้นแหละ แดงแป๊ดเลย รู้ตัวทันที ไม่ใช่เป็นตาแดงแน่ เพราะว่าตาขาวที่แดงนั้น มันแดงแค่ตรงกลาง ไม่ได้แดงทั้งหมด ซ้ำไม่มีขี้ตาต่างหาก เสียตังค์แน่ ถ้าเป็นตาแดงธรรมดา ซื้อยา Neosporin มาหลอด ไม่เกิน 4 ชั่วโมงหาย ของเขาดีจริง แต่แพงจริงๆ เข้าเรื่อง แจ๊นไปหาหมอ...ชัดเลย เป็นภูมิแพ้ที่ตา เมื่อก่อนเป็นภูมิแพ้แค่ไหน ก็มีปัญหาแค่จมูก เดียวนี้อะไรไม่รู้ เลอะเทอะมาที่ตา ไม่พอ เป็น 2 ตา ด้วยนะ ไม่ใช่ตาเดียว เอากับเขาซิ...หมอเท่ห์มาก สูสัก 180 ซ.ม. เห็นจะได้ ไม่อ้วนด้วย เป็นคนแก่ที่ดูดีทีเดียว คุยไปคุยมา ภรรยาหมอเป็น Purser แต่ตอนี้ Early Retire แล้ว เลยคุยกันรู้เรื่อง และง่ายหน่อย
หมอถาม...จะ Sick กี่วัน
กรูบอก...คงไม่ Sick อะครับหมอ ไม่อยาก Stand By แต่ว่า...ผมไปบินได้เปล่าอะครับ
หมอบอก...ไปได้ ถ้าไหวก็ไปได้
กรูบอก...ไปครับไป
หมอบอก...OK เอายาไปหยอดกับกิน แล้วกัน
เคสนี้ โดนไปอีกหลาย

สรุป เดือนนี้โดนค่าทำนุบำรุงตัวเองไปเบ็ดเสร็จ เกือบ 15,000 บาท แม่เจ้า...อะไรจะปานนั้น

เพื่อนรัก เห็นหยุดยาวหน่อยไม่ได้ (เพื่อนมาขอแลก Sched เลยทำให้ได้วันหยุดต่อกัน 4 วัน) ร่ำ ยิกๆ ชวนไปเที่ยว ได้เพื่อนได้ จัดให้ อยากไป สวนผึ้งมานานแล้ว จัดไป

Online หาที่พัก น่าสนใจ 2 ที่ คือ บ้านอ้อมกอดขุนเขา (www.baanaomkodkunkao.com) กับ The Scenery (www.sceneryresort.com) อันหลังนี้เป็นต้นตำรับแห่ง สวนผึ้ง สร้างคู่กับการเกิดของสวนผึ้ง แรกๆราคาถูกมาก เดียวนี้แอ๊บแร๊ง...

แรกเริ่ม ตัดสินใจกันได้ว่าจะนอน The Scenery แต่บ้าน 3 คน เต็ม มีแต่บ้าน 4 คนว่าง ซึ่งราคานั้น แพงกว่าบ้าน 3 คน อยู๋ 1,000 บาทเลยทีเดียว เลยเปลี่ยนใจไป บ้านอ้อมกอดขุนเขาแทน (อยากนอนบ้านไข่ดาวอะ บันไดมันสวยดี)
สุดท้าย นางตุ๊กตา ร่อนทอง เฉือกอยากเล่นแกะ เลยต้องกลับไปนอน The Scenery เหมือนเดิม โดยนางยอมจ่ายค่าบ้านมากกว่าคนอื่น แลกกับการเล่นแกะ...

ขับรถไปขำๆ ท้วมๆ อีตุ๊ก พูดไม่หยุดตลอดทางจาก นนท์ ถึง สวนผึ้ง

แม่เจ้า ดูดีกว่าท่คาดไว้เยอะทีเดียว อากาศไม่ค่อนร้อนเท่าไหร่หนัก บ้านก็งดงาม (ตกลงนอนบ้าน Rusy) ห้องมี 2 ห้องนอน

ด้วยความติ๊งต๊องบังเกิด กำลังหยิบกระเป๋าเพื่อที่จะเข้าไปบ้านพัก ดันเอากุญแจรถไปไหนก็ไม่รู้ หาตาเหลือก หลังรถก็เต็มไปด้วยเบียร์ เหล้า ก็ไม่อยากให้ พนักงานมาเห็น นางก็พยายามจะเข้ามาช่วยหาอยู่นั้น อีตุ๊กตา ร่อนทองต้องพยายามดึงออกไป...พี่...ไม่ต้องช่วยมัน มันหาเองได้...แต่นางก็พยามยามจะเดินเข้ามาอยุ๋นั้น
หาไป รื้อไป เสียงขวดเหล้า ขวดเบียร์ก็กระทบกันไป แก๋งๆ อยุ่นั้น อายชิบ สุดท้ายเจอละ...มันก็อยุ๋แค่ตรงนั้นแหละ
นึกว่าจะมาได้ กลับไม่ได้ซะแล้ว...

ลืมบอก...กรูก็แอบถ่ายเหล้ามาใส่ขวดน้ำพลาสติกไว้ใช่มะ แล้วบังเอิญว่าขวดพลาสติกนั้นก็ดันมีฉลากภาษาจีน อีตุ๊กตา ร่อนทอง เห็นก็พูดเลยว่า นี่มันชาจีน ร้านเจ๊เล้งใช่มะ พูดไม่พอ เปิดขวดกระดก ซํดไปเต็มปากเลย ไม่บ้วนทิ้งด้วยนะ กลืนเอื้อกลงไปเลย หันมาด่ากรูอีก...

อีตุ๊กตา ร่อนทอง...อีห่า ชาบ้านมึงดิ...
กรู...ก็มึงโง่เอง...อีหอย

เซ็งใจเพื่อนจริงๆ

เข้าบ้านเสร็จ อีฟี่ซวยไป เดินตามถ่ายรูปให้อีตุ๊ก เปรียบประดุดอีตุ๊กเป็นนางแบบ เดินอยุ๋นานเชียว จนอีฟี่ไม่ไหว บอกอีตุ๊ก..พอเหอะ กูเหนื่อย พูดไปพูดเปล่า โยนกล้องใส่อีตุ๊ก แล้วก็เดินหายไปอาบน้ำ

Minibar ที่นี่ถูกเชียว ตอนแรกเอาออกมาทั้งตู้เย็น แล้วเอาเหล้ายาปลาปิ้งใส่แทน พอรุ้ราคาเท่านั้นแหละ ใส่คืน สอยกันเป็นว่าเล่น

แดดร่ม ลมตก ไปเล่นกันที่หลังรีสอร์ท มีลำน้ำแอบขำกันอยุ๋ ขำกันอยุ่นั้น คิดในใจ คนอื่นเขาคงคิดว่าเรามาผิดทีอะ โดยมากเขามากันแบบสงบๆ โรแมนติกกันอย่างงี้ แต่นี่ 3 หมู มาขำอย่างเดียว

สั่งอาหารให้มาเสิร์ฟตอน 2000 ที่ดาดฟ้าบ้าน ปรากฎว่าหลังจากเล่นน้ำ และขำกันมาอย่างสุดพลังแล้ว หิวตาเหลือก อาหารก็ยังไม่มา พอใกล้เวลา นางพยาบาลยก BBQ มาเสิร์ฟให้ก่อน อีตุ๊กตา ร่อนทอง ดีใจออกนอกหน้ามาก ขำจริงๆกู พักเดียวเท่านั้น อาหารมาครบ ดูจากรูปการ์ณแล้ว กินได้ 8 คนแบบสบายๆ แต่สุดท้าย 4 คน ก็ไม่เหลือ อิ่มอร่อย...เมามาย ไม่ได้สติ

รุ่งเช้า...
อีตุ๊กตา ร่อนทองตื่เช้ามาก ไม่ไหวแล้ว เที่ยวมาปลุกชาวบ้านเขาทั้งบาง ไม่พอมุขถ่ายรูปเพื่อนตอนหลับยังไม่เลิก ฮิทถ่ายกูมา อุบาทว์ด้โล่ห์เลยทีเดียว อีฟี่ยังน่ารักหน่อย เพราะมีผ้าห่มห่อหุ้มกาย แต่กูนี่แบบว่า...เสื้อเลิกไปอยุ๋ใต้ราวนม ผ้าห่มสบัดไกล เชียว สุดท้าย...อุบาทว์จริงๆ

ทริปนี้แบบว่าบ้านไกลเวลาน้อย แต่ก็มีความสุขจริงๆ แอปปี้ มีลจริงๆ ได้ชาร์จแบตฯ ให้ตัวเอง...เฮ้อ...สบายอุรา

ล่าสุดไปบิน 4 แลนด์มา อย่างขำ ทีมดี เพอร์เซอร์ดี บ้าบอมาก ขนาดบินพอร์ทบ้านนอกอย่าง อุซเบิร์ก กับ พิซเบิร์ก นะ ยังเจอคนดังของสังคมเต็มไปหมด

ขาเข้าอุซเบิร์ก เจอ พี่บี้
ขาเข้าพิซเบิร์ก เจอ พี่บุรินท์ Groove Rider

พี่บุรินท์นี่ชอบสุดๆ ทำไมไม่ร็ แต่แบบว่าหน้าแอบแป๊ะมากๆ ทำไมถึงเท่ห์ขนาดนี้ก็ไม่รู้ดิ...ไม่เข้าใจจริงๆ เห็นผอมๆอย่างบุรินท์ แต่แอบมีพุงนะฮะ ถ้าอย่างนั้น...กรูมีพุง...ไม่ผิด...ฮาฮาฮา

เดือน May บิน Delhi 2 รอบติด...แล้วจะว่าเห่าให้ฟัง




 

Create Date : 01 พฤษภาคม 2551    
Last Update : 1 พฤษภาคม 2551 12:25:27 น.
Counter : 483 Pageviews.  

บินกับเพื่อนรอบ 2 แต่ขำไม่ค่อยออก

เพิ่งกลับมาจากโซล เมื่อบ่ายนี้เอง

ไปบินกับเพื่อนมาอีกแล้ว สนุกสนานบนความระทมจากอาการโดนจิก จริงๆจะว่าไปก็ไม่ได้โดนจิกโดยตรง อาจจะนอยด์เองมากกว่า...มั้ง

แพทเทิร์นนี้แสนสบาย แต่ไม่ค่อยได้บิน เพราะว่ามันจะแลกออกไปเป็นไฟล์ท กรุงเทพฯ – ฮ่องกง – โซล (ไป 2 แลนด์ กลับแลนด์เดียว) หรือไม่ก็ กรุงเทพฯ – ไทเป –โซล (ไป แลนด์ 2 กลับอีก / แลนด์) มากกว่า แอบโรคจิตนิดๆ แต่ก็มีเหตุผล คือ ไฟล์ทนี้ direct ไปกลับ ไม่แวะใดๆทั้งสิ้น สบายแต่ตื่นเช้าวันกลับ นั้นหมายความว่าจะต้องรีบนอน เพราะต้องตื่นแต่เช้า (ประมาณ 7 – 8 โมง บ้านเกาหลี ก็ประมาณ 5 – 6 โมงบ้านไทย) ไทม์มิ่งไม่เหมาะกับการกินหมู แกล้มเบียร์เลยจริงๆ

อยากจะแลกออกเหมือนกัน แต่ก็นะ ไปกับเพื่อนเลิฟ ID ติดกัน เลยเอาวะ ไปก็ไป

ออกจากอพาร์ทเม้นท์ ไป OPC พร้อมกัน น่ารักสุดพลัง เหมือนผัว – เมีย ไปทำงานพร้อมกันยังไงไม่รู้ จอดรถเสร็จเดินไปลงลิฟท์เพื่อจะไปเช็คอินพร้อมกัน เจอะ IM คนนึง ถามไถ่สาระทุกข์สุขดิบกันตามประสา ปรากฎว่า...ไปด้วยกัน ไอ้กูนะเหรอก็เดินนำหน้าไป เพราะว่าจะต้องรีบเอา ซูอากร้าไปฝากไว้ที่ The Emporium สาขาศูนย์ปฏิบัติการฯ ให้ครูสุดที่รัก แล้วยังจะต้องไปกินข้าว, โอนเงิน อีกสารพัด รีบๆ ปรากฎว่าเดินไปยังไม่ทันถึงลิฟท์ดี เพิ่งนึกได้ว่าลืม ID Card ไว้ในรถ เลยฝากให้ พีน่า (เพื่อนสุดเลิฟ) ลากกระเป๋าลงไปให้ แล้วค่อยตามลงไป ระหว่างนั้นกูไม่ได้รุ้เรื่องเลยว่าโดนเม้าทืเผาขนซะ

พีน่ามาเล่าให้ฟังว่า IM พูดกับนางว่า “ผมเปรี้ยวเนอะ”

ก่อนอื่นต้องกล่าวก่อนว่า เพิ่งจะไปตัดผมมาเมื่อบ่าย ก่อนไปบินเองนะนั้น ได้เรื่องเลย ก็ฝีมือ พี่สา แห่ง Moga Zen อะดิ เปรี้ยวได้ใจกู และได้เรื่องเลยนะนั้น

พ่อได้ยินดังนั้นจาก พีน่า ก็เลยเข้าห้องน้ำ จัดแต่งทรงผมให้มันดูเรียบร้อยขึ้นมาอีกหน่อย ลูบลง ลูบลง จนดูเข้าที่เข้าทาง ถึงเวลาเข้าห้องบริฟ ก็ไปนั่งกลางๆผู้คนหน่อย ทำหน้าเจียมเจี๋ยมข้างชาวบ้านเขา แต่ยังไม่วายโดนจิกเล็กๆ

ไฟล์ทนี้ป่วยทั้ง IM ทั้ง Purser เฮ้อ...

เจ๊เพอร์ก็อะไรไม่รู้ให้เติมชื่อ แก้ชื่อในเอกสารอะไรไม่รู้มากมาย เว้นเวอ วึนวือมากมาย กว่าจะได้บริฟ ล่อเข้าไปแล้ว 10 นาที ยังดีท่ IM บอกไม่ดู Hand in Hand ไม่งั้น บริฟเสร็จคงต้องเหาะขึ้นรถแน่ๆ

Assign ได้ใจมากๆ อยุ่เคียงข้าง IM พร้อมโดนจิดสุดพลัง 3L เข้าให้ ส่วนพีน่าเป็นแอร์สาวสวย 3R เข้าครอง

ตอนเตรียมงาน IM ทำมาพูดเล่นด้วย “พี่ให้อยุ๋ด้วยกัน อย่างทะเลาะกันนะ” ไอ้เราก็ไม่วายปากดี และปากไว “ออ...พี่...ไม่ทะเลาะหรอกครับ ก็แค่ข่วนกันเท่านั้น” พอพูดเสร็จ สมองเพิ่งจะทำงาน...ไม่น่าเลยกู...พูดอะไรออกไป...แต่เอาน่าพ่นไปแล้วหนิ ทำอะไรไม่ได้หละ ก็ไม่ใส่ใจอะไรมาก ทำงานไปเรื่อยๆจนเตรียม Boarding ไอ้ฝั่งเราก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรมากมาย แต่พีน่ามาเล่าให้ฟังทีหลังว่า เห็นเขายืนจิกหล่อนด้วยสายตาจากประตู 2 มากลางเคบินจลอดเวลา...อำมหิตยังไงไม่รู้

ไม่สบายตัวเลยไฟล์ทนี้ ก็ทำงานไป เกร็งไป ไม่กล้าขยับอะไรมากมาย เล่นก็ไม่ได้มาก

แอบเม้าท์กัน...IM เป็นสาวเปล่ามึง จิกขนาดนั้น
กูก็แบบเออหวะ...อยากได้กู หรืออยากได้อีนะรึเปล่า แล้วไม่ได้ เพราะคิดว่าเป็นผัว-เมียกัน เลยพาลเปล่าวะ
ก็ไม่น่าใช่เพราะว่าเขาก็คุยกันว่ามีลูก มีเมียนี่หน่า...ตัดประเด็นไป

รอดโล่งปลอดภัย ถึงซะที...ไฟล์ทง่ายๆ สบายๆไม่มีอะไรมากมาย เหมือนไก่อะ เปิดไฟ ปลุกให้กิน กินเสร็จนอน เปิดไฟอีกทีให้กิน Breakfast แล้วก็ไล่ลง

เข้าโรงแรมวันนี้เป็น การบินไทยที่ลงไฟล์ทแรก เลยไม่ต้องรอห้อง ได้กุญแจเลย แต่ก็นะเขาให้ Breakfast ฟรีจะเมินเฉยก็กระไรอยุ๋ มาบ่อยเชียว แต่ไม่ค่อยได้กินเลย ท้องอิ่มๆ หลับสบายๆดีกว่า ไปกิน ไปเสวนากับเพื่อนนานาไฟล์ทที่กำลังจะทำเครื่องกลับ และเพื่อนที่เพิ่งมาถึง ต้องเข้าใจนิดนึงนะครับ วันที่ไปถึงเนี้ยะ การบินไทยมีไฟล์ทไปถึง โซลเช้า 3 ไฟล์ท ตอนเย็นอีกไฟล์ท แล้วก็ตอนค่ำๆอีกไฟล์ทนึง เบ็ดเสร็จแล้ว 5 ไฟล์ท นั้นเลยเป็นผลให้บริเวณ Line Buffet นั้นจะเต็มไปด้วยลูกเรือไทย แลดูแล้วคล้ายๆ Canteen ที่ OPC ยังไงไม่รู้

กินนะแป๊บเดียว แต่นั่งเม้าท์นี่ล่อไปซะ...

ขึ้นห้องอาบน้ำนอน...นอนรอเพื่อนที่บอกว่าจะมาหา

นอนไปตอน เก้าโมง (บ้านเกาหลี) ได้มั้ง เพื่อนโล่มาตอน 11 โมงได้ งัวเงียสุดพลัง ลุกมาเปิดประตูให้มัน บอกมันตามสบายกูไม่ไหวละ ขอนอนหน่อย มึงจะทำอะไรก็ทำไป อุตส่าห์หอบแล็ปท๊อปไปให้มันเล่น พร้อมหนังือพิมพ์และนิตยสานนิดหน่อย บอกมันอีกว่า...ถ้าจะลักหลับกู...ให้ทำเบาๆ เดียวกูตื่น!!

มันก็พยายามให้กูตื่นอยุ่นั้น ชวนคุยอยู่นั้น แต่สุดท้าย มันก็ฝ่ายความล้าของผม หลับแบบสนิทปิดก๊อกตั้งแต่เที่ยง ถึงเกือบๆ 4 โมง ตื่นก็ได้วะ

มันแอบบ่นหิวเล็กๆ ผมก็แอบหิวเล็กๆเช่นกัน ประจวบกับนางพีน่า โทรมาพอดี...กูหิว...เออ...อีก 15 นาที เจอกัน Lobby กินอะไรดีวะ?? ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก ไม่ตอบทั้งนั้น ชิบหายละมึง ปล่อยให้กูคิดอีกแล้ว เอางี้ละกัน หาอะไรรองท้องไปก่อน แล้วทุ่มนึงลงมากินหมูให้เป็นเรื่องเป็นราวดีมะ...ทุกคนเห็นด้วย งั้น...เราไป E-Mart

E-Mart เหมือนเป็น Check Point ของลูกเรือ คล้ายๆกับ Jusco ที่ Osaka คือ...ยังไงก็ต้องไป ไม่ซื้ออะไรก็ต้องโผล่หน้าไป กินไรดี กินไรดี สุดท้ายยืนคุยกับพีน่า สตอฯน่ากินเนอะ กินสตอฯกันดีกว่า...สวนเพื่อนผม บอกไม่อยากกินอะไรมาก กำลังพยายามลดความอ้วน แต่ว่า...เฮียล่อ มาม่าคัพ เบ้อเริ่มเลยฮะ เดินวนไป วนมา เจอดรัมเบลสีฟ้า น่ารักมาก ถูกอีกต่างหาก ขำๆ ซื้อกลับมาดีกว่า (ซื้อมาทำไมวะกู บ้ามากๆ)

กลับมาโรงแรม รวมตัวกันที่ห้องผม นั่งเห่าเม้าท์เรื่อยเปื่อย สักพักพีน่าขอตัวไปตกลูก เจอกัน ทุ่มนึงแล้วกัน OK เลยเพื่อน มีเวลาว่างๆ ชั่วโมงเศษๆ เห็นเตียง เริ่มง่วง พยายามโหนไว้ก่อน เกือบหลับไปประมาณ 3 ที สุดท้ายได้เวลา

ตอนแรกฟังเหมือนจะมีเพื่อนร่วมขบวนการเยอะ ปรากฎ ไม่มีใครโผล่มาสักตัว ลุกกันเหอะ 3 ก็ 3

กินกันแค่พอตัว ไม่มากไม่มาย เบาะๆ 6 set

ยืนส่งเพื่อนขึ้นรถเมล์กลับโรงแรม แรกๆเย็นสบายๆ ยืนสักพัก...ห่าทำไมรถรอนานจังวะ กูหนาว...ไม่พอปวดขี้ชิบ...

ง่วง ชิบ แต่กว่าจะนอนได้เกือบเที่ยงคืน ทุกทีเลยกู

ตื่นมา ไม่อยากออกจากผ้าห่มเลยกู มันหนาว สุดท้ายต้องสบัดขน แปรงฟัน (ไม่อาบน้ำนะ มันหนาว) ลงมา Breakfast แท่เจ้า สภาพเดิมสุดพลัง ลูกเรือไทย นั่งตัวม่วงเต็มไปม่วง แทรมด้วยลูกเรือเขียว (Malaysia Airlines) นิดหน่อย นั่งแบบชนกลุ่มน้อย

ที่แอร์พอร์ทเคืองมาก ตอนผ่าน X-Ray ก่อนขึ้นเครื่อง มันไม่ยิมให้เอาดรัมเบลขึ้นอะ มันไม่ยอม ทำไมวะ กลัวกูเอาไปทุ่มผู้โดยสารหรือไง ขี้เกียจเถียง มึงอยากเอาไปยกเองก็ไปเหอะ เรื่องของมึง ไม่ให้ก็ไม่เอา อีนะขำใหญ่ เดี๋ยวกูตบ

เป็น Air ขากลับ...สบายไป

นิ่มๆ ผู้โดยสารเต็ม...ไฟล์ทไทม์ 5 ชั่วโมงเศษๆ นิ่มจริงๆ แต่ตัวกูนะ นิ่มเพราะเหื่อยชิบหาย อีครัวหน้าเป็นห่าอะไรไม่รู้ครับ รีบชิบหาย ทำอย่างกับไฟล์ทไทม์ ครึ่งชั่วโมง รีบจนกูเหนื่อยตัวเปียกไปหมด เสร็จเสิร์ฟ กูนี่หอบแห่กอย่างกับวิ่ง 4 x 100

วันนี้เกิดขยัน เดินทำห้องน้ำ เขาไปให้ห้องน้ำจะเป็นลม เยี่ยวจะล้นโถชักโครกอยุ่แล้ว แล้วเป็นทุกห้องด้วยนะ เยี่ยวไปกด...เป็นไรมากเปล่านั้น...

แวะเดินไปคุยครัวหน้านิดหน่อย ขำๆ หยอดๆ ไปเรื่อย เจอ IM เหมือนตามกยังไงไม่รู้ กูอยุ๋ครัวกลางก็มายืนดูกู กูกลับบ้านครัวหลัง ก็เดินไปคุยอยู่ครัวหลัง กูหนีมาหาของแดกครัวหน้า ก็ตามมาครัวหน้า เรื่อยเปื่อยจริงๆ

อยากได้กูยอกมาตรงๆดีกว่า...จัดให้

สุดท้ายโดน Evaluate ยังนึกว่าได้ 2 แน่ๆ ปรากฎไม่ 3, 4, 5 ไปเรื่อย ทั้งๆที่คิดในใจ ไม่มี 5 แน่ๆกู แต่ในที่สุด...ไม่น่าเชื่อจริงๆ

กลับมาถึง OPC แม่ง...โทรฯเสืกโดนตัด อารมณ์เสียมากๆ ก็สั่งตัดบัตรทุกเดือน แล้วทำไมยังโดนวะ โทรฯไปวีนๆ วีนไม่ลง พนักงานขอโทษตั้งแต่ยังไม่ได้อ้าปากพูดอะไร Serenade มันดีจริงๆ

กลับมาถึงอพาร์ทเม้นท์ อาบน้ำ เพื่อนมานั่งเล่นที่ห้องก่อนจะออกไปกินข้าวกัน ขำขันกันมากๆ พูดจนเจ็บคอไปหมด...ใครอย่ามาเดินผ่านหน้านะ โดนหมด โหดกัดเละ...เขาเกิดมาไม่ผิด เขาผิดที่มาเดินผ่านหน้า

วันนี้เรื่องอาจจะไม่ประติด ประต่อ นอนพิมพ์ตอนนอนไม่หลับ แล้วอีกอย่างพยายามจะกระชับเรื่อง ไม่อยากให้เย้นเย่อ

Thank you for flying with the wing of HANG~
120308





 

Create Date : 13 มีนาคม 2551    
Last Update : 13 มีนาคม 2551 3:21:13 น.
Counter : 476 Pageviews.  

บินกับเพื่อน ไฟล์ทเน่าก็กลายเป็นสด...

เดือนนี้จริงๆต้องมี Standby ยิบย่ย หอยหลอด แต่ด้วยความใจดี หรือบังเอิญยังไงไม่รู้ โดนยัดไฟล์ทดีงานมาให้อย่างสาสม

แต่จริงๆเรื่องยัดไฟล์ทมาให้นั้นเป็นเรื่องเกินความคาดหมาย แต่สิ่งที่คาดหมายคือ ตัดไป TG329 Hyderabad ออกไป ไฟล์ทนี้เป็นไฟล์ท Quick Turn ข้ามคือ...กล่าวคือ ออกจาก กทม. ช้วงหัวค่ำ และจะไปถึงที่ปลายทางดึก แล้วก็บินกลับเลย โดยจะมากลับมาถึง กทม. อีกครั้งตอนเช้าตรู่ เหนื่อยบริสุทธิ์ไฟล์ทพวกนี้ เป็นไฟล์ทที่ไม่ชอบที่สุด ไม่ใช่เพราะเป็นไฟล์ทแขก แต่เป็นเพราะมันเป้น "ไฟล์ทข้ามคืน" กลับมาจากไฟล์ทพวกนี้ทีไร วงจรชีวิตเลอะเทอะ เละเทะ ทุกที นอนไม่ได้ทั้งๆที่เพลีย สารพัด

เลยหาทางออกให้กับตัวเอง โดยการแล้กออกดีกว่า

ถ้าเป็นคนอื่นก็อาจจะ Sick หนีไป...แต่บังเอิญว่าเป็นคนดี ไม่ทำอย่างนั้น

หาไฟล์ทไว้มากมาย สารพัด ที่จะแลกเข้า โดยดูไฟล์ท นอนเชียงราย หัว-ท้าย Inter (BKK-HAN-BKK-CEI x CEI-BKK-SGN-BKK) เป็นทางเลือกที่เกือบๆจะสุดท้าย

แต่แล้วในที่สุดก็ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ที่จะแลกเข้าไปบินไฟล์ทนี้ ด้วยเหตุสิ้นคิดสุดๆคือ...มีเพื่อนในห้องเดียวกันอยุ่ในไฟล์ทนี้ 2 คน ด้วยกัน...เอาขำ เอามันอย่างเดียว

แต่ด้วยความโง่ ลืมดูรายชื่อลูกเรือไฟล์ทเข้าเชียงราย และหลังจากดู เป็นดังคาดเพื่อน 1 นาง เป็นแค่ตัวเสียบ (ทำแค่ไฟล์ท ฮานอย) แต่ก็น๊า...

วันนี้ 2006 ครอง EY หลังจากไม่มีปรากฎการ์ณนี้มานานตั้งแต่ 2007 เริ่มเข้ามาบิน รู้สึกสุขใจเล็กๆยังไงไม่รู้

เข้าห้องบริฟด้วยอารมณืมึนงง ไม่ได้นอน นอนไปตอนสักเกือบๆ เที่ยงคืนได้ ดันสะดุ้งตื่นมาตอนตีหนึ่งครึ่ง เป็นเรื่องเลยกู นอนต่อไม่ได้แล้ว พลิกไป พลิกมาจนตีสาม ไม่นอนก็ได้วะกู ตื่นมานั่งดูทีวี กินกาแฟ และขี้ ไปเรื่อย จนได้เวลา อาบน้ำแต่งตัว

พอขึ้นรถขับไปเท่านั้นแหละ เกิดรุ้สึกมึนๆอยากนอนขึ้นมาถนัดใจ รู้งี้กูใส่ยูนิฟอร์มนอนก็หมดเรื่อง

คราวนี้ด้วยความที่พยายามทำเฮฮา กลบเกลื่อนความง่วง ได้เรื่องเลย เพอร์เซอร์ไม่พอใจ โดนถามเมนู ดันตอนได้ซะงั้น ฮาฮาฮา แต่น้านะซิ โดนถามเมนูไฟล์ทเข้าเชียงราย ซึ่งไม่ได้จดมานะซิ เป็นเรื่องเลย...อิอิอิอิ

ไฟล์ทไทม์ไปฮานอย 1.30 ชั่วโมงโดนประมาณ เกิดมายังไม่มีใครเคยสั่ง ชา กาแฟ น้ำส้ม น้ำเปล่า 2 รอบเลย...ให้ตายซิ นี่โดนซะ เอาวะ ชั่วโมงครึ่งทำได้อยุ๋ แต่ล่อซะเหนื่อยหอบอยู่เหมือนกัน

ทำงานด้วยความมึนงง และง่วงไปด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น เข้าเชียงรายผู้โดยสารเต็ม ดังหวัง เสิรืฟด้วยพลังเฮือกสุดท้าย ในที่สุด Sign On ลงซะที...เฮ้

อยากเข้าโรงแรม อาบน้ำ นอนนิ่งๆจริงๆ แต่ปรากฎว่าทั้งไฟล์ทจะไปกินก๋วยเตี๋ยวกันก่อน จะไม่ไปก็ไม่ได้ เอาวะ ไปก็ไป

ถึงร้านก๋วยเตี๋ยวปลา สั่งเลย เล็กยำแห้ง ไม่ถั่ว ได้มาเป็นเล้กน้ำแทน ไปบอกเขาเอาเล็กยำแห้ง ไม่ใช่เล็กน้ำ เจ้าของร้านบอกไม่มี...ห่า...ไม่มีก็ทำแห้งมาให้กูซิวะ ไม่ใช่ทำน้ำมาให้กู...ดุชิบหาย...ดุกูอีกละ



จากนั้นก็กลับมาโรงแรม เตี๊ยมกับน้าไว้ว่า ออกไปแดกเบียร์ชุ่มฉ่ำใจกันแค่ 2 คนดีกว่า ไม่อยากไปกับคนอื่นเกรงใจเขา ส่วนคนในทีมเขานัดกันทุ่มนึง กูกับน้าก็ต้องแอบออกไปกันก่อน นัดกัน 1845

ถึงห้องอาบน้ำเสร็จ กะว่าจะไม่นอน แต่ปรากฎนอนดู TV ได้วั๊บเดียวเท่านั้น เตียงดูดวิญญาณสุดพลัง ตื่นมาเกือบได้เวลาแล้ว

อียุ้ยโทรฯมาชวนไปเที่ยว..เที่ยวห่าอะไรละมึง กูอยุ่เชียงราย มึงทำตั๋วตามาหากูที่นี่ดิ แม่งไปเที่ยวกันแต่ละที ได้ฤกษ์มากๆ ครั้งที่แล้วกูก็อยุ๋อยุธยา คราวนี้กูอยุ่เชียงราย ถ้าอย่างนี้ วันหลังไม่ต้องชวนกูดีกว่า

ได้เวลาแล้ว เดินอกไปปากทางเข้าโรงแรม จะว่าจะเรียกตุ๊กๆออกไปร้านข้าวกัน แต่บังเอญดันมี 3 ล้มถีบผ่านมา น้าถามว่าไปมะ กูบอกไปได้ แต่มันไกลนะ พอถามลุงคนขับ (จริงๆควรจะเรียกตามากกว่า เพราะผมไม่มีสีดำเลย แม้แต่นิดเดียว) ลุงบอกได้ คิด 100 บาท แอบสงสารลุงในใจ เพราะแค่ไกลไม่เท่าไหร่ แต่ด้วยน้ำหนักของ 2 คนนั้น ไม่ใช่น้อยเลย สิริรวมแล้ว กว่า 150 ก.ก.

ระหว่างทางไป มีแอบขึ้นเนินน้อยๆ ช่วงนั้นลุงคนขับออกแรงสุดพลัง น่องเกร็เป็นไต ใส่พลังสุดท้ายที่แกมี ในที่สุดก็ถึงซะที แอบเห็นลุงหอ...ขอโทษนะครับลุง เลยให้ลุงไป 120 บาท สงสารแก

ถึงร้าน สั่งเลย เบียร์และอาหาร ตอนแรกคุยกันว่ากินกันคนละ 2 ขวดแล้วกลับไปนอนดีกว่า ไปๆมา จาก 2 ขวด กลายเป็น 6 เหยือกได้ไงไม่รู้ ชิบหายละมึง นั่งกันตั้งแต่ ทุ่มเศษๆ จนนู้น เที่ยงคืนครึ่ง นั่งจนขนาดที่ว่าเด็กเสิร์ฟในร้านสะพายกระเป๋าตังค์รอแล้วอะ เดินยังไม่ทันพ้นประตูร้านเลย เขาปิดไปทั้งร้านแล้ว

เดินออกมาจากร้าน ยังไม่รุ้อนาคตเลย จะเรียกรถกลับโรงแรมตรงไหน ยังไงดี เดินไปเรื่อยๆจนเจอถนนใหญ่ เอาวะ ไปเรื่อยๆ อย่างดีก็เดินกลับโรงแรม โชคเข้าข้าง เจอรถประป๋อจอดอยุ๋หน้า 7-11 เข้าทาง เรียกกลับโรงแรม คิด 100 บาทเท่ากับลุง 3 ล้อถีบ

น้าเกิดอาการแอลกอฮอล์ลงไข่ ถามคนขับรถ ลุงๆมีผู้หญิงไม๊...ลุงแอบอึ้ง แต่สักพักเดินมาบอก คนนี้อย่างนี้ๆ กูเลยแกล้งลุง ถามกลับไป ลุงๆ แล้วมีผู้ชายไม๊? เท่านั้นแหละ จากที่ลุงพูดๆอยุ๋ เดินกลับไปขับรถเลย...

วันรุ่งขึ้น นัดกับน้าลงไปกิน ติ๋มซัม ที่ร้านอาหารจีนของโรงแรม กะว่าวันเสาร์เที่ยง คนแม่งต้องเยอะแน่ๆ ปรากฎว่าดังคาด มีทั้งหมด 2 โต๊ะ ดูเมนูติ๋มซัม มองไปมองมา เอาทั้งเมนูละกัน ไม่เอาแค่ของทอด ดูในเมนูมันก็มีประมาณแค่ 12 อย่างเท่านั้น แต่พอเอามาวางจริง แม่ม...ล่อไปทั้งสิ้น 15 เข่ง ไม่รวมซาลาเปาที่สั่งต่างหากอีก

กินด้วยความทรมาน เกี่ยงกับสุดพลัง...ไม่น่าเลยกู

กินเสร็จ แม่งอิ่มจุกมาถึงคอหอย ก้มไม่ได้ จะอ้วก

ทำไฟล์ทกลับเข้า กทม. ตามไสตล์เต็มสนิทศิษย์ส่ายหน้า



มาถึง กทม. กำลังทำไฟล์ทต่อมีข่าวดี ลูกเรือไม่ครบ ขาด 1 คน OD เรียกให้ไม่ได้ แล้วโชคเข้าข้างกูมากๆ เสือกมาขาดที่ข้างกูนะซิ สรุป ฝั่งกูมีคนทำงาน 2 คน เฮ้อ...คิดก็เหนื่อยแล้ว

แล้วก็เป็นความจริง แม่งผู้โดยฯแดกกับเยอะมาก สาระพัด เปิดไวน์ทั้งสิ้น 18 ขวด กินอยู๋นั้น ขาไปท้วมๆ เก็บเสร็จ Sign on พอดี แต่ขากลับนี่ซิ เก็บไปได้แค่ ครึ่งเคบิน Sign on ซะงั้น กูแบบว่ายัดอย่างเดียวแล้ว ไม่เงยหน้ามาดูอะไรทั้งสิ้น

เสร็จงานถึง กทม. เหนื่อยใจแทบขาด กำลังคิดว่าเฮ้ย...กูกับน้าทำงานไม่ไดหรอวะ มันถึงขลุกขลัก แล้วล่อซะขาดนี้ แล้วก็คิดไปต่อว่า ถ้ากูไม่แลกเข้า คนที่ทำงานแทนกูก็จะเป็นน้อง 2007 แล้วสภาพน้า กับแอร์ที่ทำงานข้างเดียวกับกูจะเป็นยังไง

ส่วนเฮียเพอร์นะหรอ...ช่วยเดินน้ำ กับกาแฟแค่นั้น จบ...ไม่ม่วยเก็บเลย

ไม่พอเสือกทะลึ่งประกาศขาย Duty Free อีกต่างหาก ในประกาศบอกว่า "จะปิดการขาย 40 นาทีก่อนเครื่องลงที่ กทม" อยากจะบอกจริงๆว่า ไอ้เวลาที่พี่ประกาศนะ มันเหลืออีกแค่ ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงจะแลนด์แล้ว

เฮ้อ...กูเหนื่อยจริงๆ

Thank you for flying with the wing of HANG~
090308




 

Create Date : 09 มีนาคม 2551    
Last Update : 10 มีนาคม 2551 11:29:25 น.
Counter : 478 Pageviews.  

1  2  3  4  

Sold-ouT
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Sold-ouT's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.